ท่านผู้อาวุโสปรารภกับผมว่า ช่วงนี้ของแพงขึ้นหลายอย่าง ไปเดินตลาดซื้อของได้ไม่เท่าไร
หมดเงินไปหลายร้อยบาท เห็นทีจะต้องปลูกผักกินเอง เพื่อลดรายจ่ายในบ้านลง
ท่านว่า บรรพบุรุษของท่านปลูกผักเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่เลี้ยงเป็ดทำนา
ทำกับข้าวสักมื้อก็แทบไม่ต้องเสียเงินค่ากับข้าว จึงมีเงินเก็บไปทำอย่างอื่น
ว่าแล้วท่านก็นึกขึ้นได้ว่า ท่านมีเงินเหรียญเงินพดด้วงเก็บสะสมไว้กล่องหนึ่ง
ท่านจึงหยิบให้ผมดูแล้วก็ถามหยั่งเชิงความรู้ว่า
เงินพดด้วงที่ผลิตในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ มีลักษณะแตกต่างกัน แบ่งได้เป็นกี่รุ่น
แต่ละรุ่นมีลักษณะเด่นอะไรบ้าง
ใครรู้เรื่องเงินพดด้วงช่วยอธิบายให้หน่อย
เงินพดด้วงสมัยกรุงศรีอยุธยาไม่เหมือนกับพดด้วงสมัยรัตนโกสินทร์
๑. รูปร่างสัณฐานต่างกัน คือ พดด้วงอยุธยาจะมีขาสูงกว่าสมัยรัตนโกสินทร์
๒. ตราประทับประจำรัชกาลที่แตกต่างกัน
ตราบัวยันต์
ตราอุทุมพร
ตราพระนารายณ์
ตราราชวัตร
ตราครุฑ
ตรา ๕ จุด
ตราสมาธิ
ตราก้านบัว
ตราพระซ่อมดอกไม้บากเล็ก
ตราพระซ่อมดอกไม้ไม่มีบาก
ตราช้าง (พบในขนาดสลึงและเฟื้อง)
ตราสังข์ (พบในขนาดสลึงและเฟื้อง)
๓. รอยเมล็ดงา (เมล็ดข้าวสาร) ที่ตีไว้ในพดด้วงอยุธยา ซึ่งไม่มีในในสมัยรัตนโกสินทร์
ว่าด้วยเรื่องตราประทับจะประทับตราไว้ ๒ ดวง มักทำเป็นรูปจักร (หมายถึงกรุงศรีอยุธยาอันเป็นที่สถิตของสมเด็จพระรามาธิบดี) และอีกดวงหนึ่งเป็นตราประจำรัชกาล เป็นรูปแปลก ๆ เช่น สังข์ ครุฑ ตรี ดอกไม้ ลายจุด ลายจุดเครือเถา ซึ่งกรมพระยาดำรงราชานุภาพนั้นแนะว่า “จะไม่ใครเปลี่ยนตราประจำรัชกาลทุกรัชกาล จะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อมีการปลอมแปลงระบาดก็จะเปลี่ยนกันเสียคราวหนึ่ง”
ขนาดของเงินตราในอยุธยามีใช้กัน มี ขนาด ๑ บาท, ๒ สลึง, ๑ สลึง, เฟื้อง และหอยเบี้ย
ต่อมามีการศึกษาเรื่องตราประทับของแต่ละรัชกาลออกมาได้ดังนี้
• สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เป็นรูปสังข์ทักขิณาวัฏ
• สมเด็จพระราเมศวร ไม่มีหลักฐาน
• สมเด็จพระบรมราชาธิที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) เป็นรูปรัศมีเจ็ดแฉก มีอุณาโลมอยู่ด้านบน
• สมเด็จพระเจ้ารามราชาธิราช เป็นรูปทรงข้าวบิณฑ์ ลักษณะคล้ายใบโพธิ
• สมเด็จพระอินทราชาที่ 1 ลักษณะคล้ายดอกไม้เรียงกันสามดอก ดอกที่สี่อยู่ข้างบน ใต้ดอกไม้มีจุดกลม สำหรับดอกบนมีจุดซ้ายขวาด้วย
• สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ มีลักษณะคล้ายอักษร ต.เต่าห้าตัว ซ้อนกันสามแถว
• สมเด็จพระอินทราชาที่ 2 มีลักษณะรูปจุดใหญ่อยู่กลาง ด้านบนมีจุดกลมอยู่ในกรอบ ด้านล่างมีจุดเล็กหนึ่งจุดทั้งสองข้างเป็นมีรูปคล้ายกลีบดอกไม้ข้างละกลีบ
• สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เป็นรูปจุดสิบจุดไม่มีกรอบ
• สมเด็จพระบรมราชามหาพุทธางกูร เป็นรูปกลมมีรัศมีด้านบนสามแฉก ด้านล่างตัวละสองแฉก
• สมเด็จพระชัยราชาธิราช เป็นรูปจุดกลมใหญ่สามจุด มีแฉกขึ้นไปด้านบนจุดละแฉก และมีเส้นสองเส้นจากจุดบนทอดลงล่างสองข้าง เส้นคู่นี้ มีจุดเล็กอยู่ข้างละจุด
• สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ เป็นรูปช้างยืนหันหน้าไปทางซ้าย
• สมเด็จพระมหินทราธิราช ไม่ปรากฎหลักฐาน
• สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เป็นรูปคล้ายช่อดอกไม้
• สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นจุดคล้ายพระแสงดาบสองเล่มไขว้กัน และมีรูปอุณาโลม อยู่ระหว่างมุมทั้งสี่ของดาบไขว้ทั้งสอง
• สมเด็จพระเอกาทศรถ เป็นเส้นขีดตามแนวนอนห้าเส้น ด้านบนเป็นรูปคล้ายใบโพธิ
• สมเด็จพระเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ เป็นรูปจุดสี่จุด วางเป็นรูปทรงของชฎา
• สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เป็นรูปคล้ายดวงไฟมีเปลวเพลิงลอยอยู่โดยรอบ มีกรอบล้อม
• สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เป็นรูปจุดเจ็ดจุด เรียงกันแถวละสามจุดสองแถว บนสุดมีหนึ่งจุดอยู่ภายในกรอบ
• สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นจุดหกจุดมีกรอบล้อมรอบ ลักษณะเหมือนดอกบัวหรือพุ่มข้าวบิณฑ์ นอกจากนั้นยังมีตราครุฑอีกตราหนึ่ง
• สมเด็จพระเพทราชา เป็นรูปคล้ายดอกจันทน์อยู่ในกรอบกนก
• สมเด็จพระเจ้าเสือ รูปร่างคล้ายสังข์มีกนก
• สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เป็นรูปคล้ายดอกไม้สามกลีบ บนกลีบกลางมีอีกหนึ่งกลีบ ใต้กลีบกลางมีจุดกลม
• สมเด็จพระบรมโกษฐ เป็นรูปคล้ายกล่องสี่เหลี่ยม มียอด ข้างกล่องมีจุดข้างละสองจุด
• สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร เป็นจุดสี่จุดอยู่ในกรอบกนกเปิดล่าง
• สมเด็จพระที่นั่งสุริยาอมรินทร์ เป็นรูปจุดเก้าจุดอยู่ในกรอบทรงสามเหลี่ยมมุมมน