เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: boonrod ที่ 11 พ.ค. 11, 16:18



กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: boonrod ที่ 11 พ.ค. 11, 16:18
ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด  –  11 พ.ค.54
   
   วันอังคารที่ ๑๗ พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ตรงกับวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เป็น ‘วันวิสาขบูชา’  นอกจากจะเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนแล้ว องค์การสหประชาชาติได้ยกย่องเป็นวันสำคัญของโลก/International Recognition of The Day of Vesak  ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  มีสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติตอนประสูติและปรินิพพาน คือ ต้นสาละ 
พุทธศาสนิกชาวไทยสับสนและเข้าใจผิดเกี่ยวกับต้นสาละ และโบราณาจารย์สำคัญผิดว่าเป็นต้นรัง เพราะมีลักษณะทั่วไปคล้ายกัน  โดยเฉพาะคนในปัจจุบันก็ไม่ศึกษาให้ถ่องแท้จึงเชื่อและเรียกต้นลูกปืนใหญ่ว่าต้นสาละตามๆ กัน  เพื่อให้เข้าใจถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ขอเสนอรายละเอียดให้เห็นความเหมือนและต่างของต้นสาละ ต้นรังและต้นลูกปืนใหญ่
   ขณะค้นคว้าก็ได้พบว่า นักวิชาการไทยส่วนใหญ่และราชบัณฑิตยสถานให้ชื่อพฤกษศาสตร์ต้นสาละผิดว่า Shorea robusta Roxb. (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2524 หน้า 1184)  ความจริงต้องชื่อ Shorea robusta C.F. Gaertn. จึงได้ทักท้วงและนำหลักฐานอนุกรมวิธานพืช/Plant taxonomy ไปชี้แจงราชบัณฑิตยสถาน และก็ยอมรับตามที่ได้เสนอไป - ดูจม.ท้ายบทความ
   นอกจากนี้ พุทธศาสนาเริ่มสูญไปจากอินเดียตั้งแต่มุสลิมครอบครองอินเดีย และบุกนาลันทาได้เผาและฆ่าพระเณรนับหมื่นรูป ที่หลบหลีกได้ก็หนีไปยังที่ต่างๆ พุทธศาสนสถานถูกทิ้งร้างมานาน  ต่อมา พ.ศ.๒๑๓๓ นักบวชมหันต์ (Saivite Mahant นิกายหนึ่งในศาสนาฮินดู นับถือพระศิวะเป็นใหญ่) มาครอบครองพุทธคยาและสร้างอาศรม/วัดอยู่ข้างๆ และเก็บผลประโยชน์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลกที่ไปสักการบูชา แต่ไม่ดูแล-บำรุงรักษาจึงชำรุดทรุดโทรม  จน ‘อนาคาริกธรรมปาละ’ ชาวศรีลังกาได้ใช้ความเป็นชาวพุทธ ในนาม ‘มหาโพธิสมาคม’ เรียกร้องสิทธิการดูแล และผลประโยชน์ของเจดีย์มหาโพธิ์พุทธคยาจากผู้ครอบครองตามกฎหมายมานานกว่า ๔๐๐ ปี  โดยได้เขียน จม.ถึงผู้นำประเทศที่นับถือพุทธศาสนา ขณะเดียวกันก็เขียนบทความและส่ง จม.ถึงนักคิด นักเขียนและนักการเมืองอินเดีย  แม้จะโดนกลั่นแกล้งและถูกทำร้ายก็ยังเรียกร้องด้วยอหิงสาไม่ย่อท้อ จนชาวอินเดียก็เริ่มเข้าใจและให้ความเห็นใจชาวพุทธ แต่รัฐบาลอินเดียก็ลำบากใจที่จะยกเลิกกรรมสิทธิ์การครอบครองพุทธคยา  เวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี จน ‘อนาคาริกธรรมปาละ’ ได้บวชเป็นพระภิกษุและผลงานเกิดหลังมรณะภาพแล้ว - รัฐบาลอินเดียได้แก้ปัญหา โดยตั้งคณะกรรมการฯ และให้ชาวพุทธร่วมเป็นกรรมการดูแลพุทธคยามาจนปัจจุบันนี้
   จากการค้นคว้า ได้เก็บข้อมูลต้นสาละและเรื่องที่เกี่ยวข้องมาตลอดหลายปี ดู ‘ต้นสาล: ไม้สำคัญในพระพุทธศาสนา’ ในนิตยสาร ’ศิลปวัฒนธรรม’ ปีที่ ๓๒ ฉบับที่ ๗/พฤษภาคม ๒๕๕๔

   พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีเมตตาต่อมนุษยชาติไม่มีประมาณ ควรที่พวกเราจะน้อมรำลึกถึงพระพุทธองค์ ใน ‘วันวิสาขบูชา’ ด้วยการไปทำบุญ-เวียนเทียนตามพุทธศาสนสถาน  แต่อย่าไปสักการบูชา หรือเวียนเทียนรอบต้นลูกปืนใหญ่นะ! ! !



กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 พ.ค. 11, 16:33
มีต้นไม้ดอกสีชมพูอยู่พันธุ์หนึ่ง มักปลูกอยู่ตามวัด ด้วยเข้าใจผิดว่าเป็นต้นไม้ในพุทธประวัติ

คุณเทาชมพูคงเคยเห็นต้นไม้นี้

สาละลังกา


(http://www.dhammajak.net/gallery/albums/userpics/normal_%B4%CD%A1%CA%D2%C5%D0%204.jpg)

คุณวิกกี้ภาคภาษาไทยยังเข้าใจผิด http://th.wikipedia.org/wiki/สาละลังกา (http://th.wikipedia.org/wiki/สาละลังกา)
 
สาละลังกา หรือ ลูกปืนใหญ่(Cannonball Tree) เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรงทั้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน

เรื่องนี้คุณวิกกี้ภาคภาษาอังกฤษ http://en.wikipedia.org/wiki/Couroupita_guianensis (http://en.wikipedia.org/wiki/Couroupita_guianensis) อธิบายไว้ว่า


In Sri Lanka, Thailand and other Buddhist countries the tree is often planted at Buddhist temples. It is here mistaken as the Sala tree, Shorea robusta, the tree under which the Buddha passed away and under which the previous Buddha Vessabhu attained enlightement.

Sala tree, Shorea robusta ที่คุณวิกกี้ภาคภาษาอังกฤษพูดถึงก็คือ ต้นสาละอินเดีย ต้นไม้ในพุทธประวัติตัวจริงเสียงจริงนั่นเอง  ;) http://en.wikipedia.org/wiki/Shorea_robusta (http://en.wikipedia.org/wiki/Shorea_robusta)


(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/a/a2/Sal_(Shorea_robusta)-_new_leaves_with_flower_buds_at_Jayanti,_Duars_W_Picture_120.jpg)

เรื่องความสับสนของต้นไม้ ๒ ชนิดนี้ รศ.ดร. นริศ ภูมิภาคพันธ์ ได้ให้ข้อมูลไว้ในเว็บของวัดไทร http://www.watsai.net/sal_tree.php


เรื่องนี้ชาวพุทธไทยเข้าใจผิดอยู่มาก

ทราบแล้วกรุณาบอกต่อถือว่าทำบุญ


 ;D




กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 11 พ.ค. 11, 16:44
คงจะแก้ไขได้ยากสักหน่อยนะครับ ขนาดไปเที่ยวเขมร ยังมีต้นสาละลังกา กราบไหว้แทนองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ครับ  เมืองไทยก็ลบล้างความเชื่อเดิมได้ยาก


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: LOFT ที่ 13 พ.ค. 11, 21:44
เห็นด้วยครับ ว่าแก้ไขยาก  อีกต้นที่เข้าใจกันผิดก็คือ ต้นอโศก


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 13 พ.ค. 11, 22:29
ในประเทศไทย มีสาละอินเดีย ของแท้ ๆ นี้ให้ดูไหมคะ มีที่ไหนบ้าง จะไปกราบไหว้ให้หายหลงผิดค่ะ


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 13 พ.ค. 11, 22:48
"ในประเทศไทย หลวงบุเรศรบำรุงการ ได้นำเอาต้นสาละใหญ่หรือต้นซาลมาถวายสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธมฺมธโร) วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โดยปลูกไว้ที่หน้าพระอุโบสถ 2 ต้น กับได้น้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2510 อีก 2 ต้น ในจำนวนนี้ได้ทรงปลูกไว้ในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 1 ต้น กับทรงมอบให้วิทยาลัยเผยแพร่พระพุทธศาสนา ต.กระทิงลาย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีก 1 ต้น

อาจารย์เคี้ยน เอียดแก้ว และอาจารย์เฉลิม มหิทธิกุล ก็ได้นำต้นสาละใหญ่มาปลูกไว้ในบริเวณคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และที่ค่ายพักนิสิตวนศาสตร์ สวนสักแม่หวด อ.งาว จ.ลำปาง

พระพุทธทาสภิกขุ ก็ได้นำมาปลูกไว้ที่สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และนายสวัสดิ์ นิชรัตน์ ผู้อำนวยการกองบำรุง ก็ได้นำมาปลูกไว้ในสวนพฤกษศาตร์พุแค จ.สระบุรี ซึ่งต่างก็มีความเจริญงอกงามดี และคาดว่าคงจะให้ผลเพื่อขยายพันธุ์ไปตามสถานที่ต่างๆ ได้เพิ่มขึ้นในเวลาอันควร"
 ที่มา dhammajak.net


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 14 พ.ค. 11, 16:38
อ้างถึง
ทรงมอบให้วิทยาลัยเผยแพร่พระพุทธศาสนา ต.กระทิงลาย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีก 1 ต้น
หมายถึง จิตตภาวันใช่หรือไม่ค่ะ

เพิ่งจะทราบว่า คณะวนศาสตร์ ก็มีต้นสาละด้วย ศิษย์เก่า มก.แท้ ๆ ยังไม่รู้จักและไม่เคยเห็น

มีโอกาสจะไปดูที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ที่ทำให้ตาสว่างค่ะ


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 14 พ.ค. 11, 18:59
ต้นสาละที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

(http://www.watsai.net/sal_tree/sal_tree01.jpg)

(http://www.watsai.net/sal_tree/sal_tree02.jpg)

(http://www.watsai.net/sal_tree/sal_tree09.jpg)

 ;D


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 14 พ.ค. 11, 19:02
หรือคุณร่วมฤดีจะไปดูที่วัดเบญจมบพิตรก็ได้


(http://www.watsai.net/sal_tree/sal_tree10.jpg)

(http://www.watsai.net/sal_tree/sal_tree11.jpg)

 ;D


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 14 พ.ค. 11, 19:47
แต่ไม่ใช่ที่วัดสระเกศ

  ;)


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 15 พ.ค. 11, 01:23
ขอบพระคุณค่ะ คุณเพ็ญชมพูคะ วัดเบญจะใกล้ดี แต่ต้นที่เห็นยังเล็กนัก
ไม่ทราบออกดอกเดือนไหนกันบ้าง อย่างเห็นดอกสะพรั่งเต็มต้น อยากรู้ว่าหอมหรือไม่
ดูจากภาพ ใบของสาละใหญ่โตไม่ใช่น้อยนะคะ


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 11, 09:03
ป่าสาละที่อยู่ในชนบทของเมืองกุสินารา ซึ่งพระพุทธองค์เสด็จมาถึงยังร่มเงาของใต้ต้นสาละใหญ่คู่หนึ่ง จึงทรงโปรดให้พระอานนท์ปูลาดอาสนะลงและประทับสีหไสยาสน์ เพื่อจะเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น ปัจจุบันความเป็นป่าได้สูญไปหมดแล้ว ทางการของอินเดียได้สร้างอาคารขึ้นยังสถานที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน และปลูกต้นสาละขึ้นใหม่ในอุทยานแห่งนี้


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 11, 09:05
ปัจจุบันแต่ละต้นมีขนาดเท่าที่เห็น


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 11, 09:10
ผมไปในฤดูแล้ง ต้นสาละที่กล่าวว่าเหมือนต้นรังของเรากำลังผลัดใบ ถ้าเข้าฤดูฝนในหน้าวิสาขะกาลใบจะหนาทึบให้ร่มเงาเป็นอย่างดี พระพุทธองค์จึงทรงกำหนดให้เป็นสถานที่อันควรแก่การพักผ่อนในวาระสุดท้ายรอการดับซึ่งขันธ์ทั้งปวง


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 11, 09:14
ใครหนอที่เริ่มต้นความคิดว่าพระพุทธองค์จะทรงทอดพระวรกายภายใต้ต้นสาละที่มีผลไม้ใหญ่เปลือกแข็ง ขนาดเท่าๆกับลูกปืนใหญ่ห้อยอยู่เต็มต้น

คงจะไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 17 พ.ค. 11, 11:46
อ้างถึง
ใครหนอที่เริ่มต้นความคิดว่าพระพุทธองค์จะทรงทอดพระวรกายภายใต้ต้นสาละที่มีผลไม้ใหญ่เปลือกแข็ง ขนาดเท่าๆกับลูกปืนใหญ่ห้อยอยู่เต็มต้น

คงจะไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้

เข้าใจชัดเจนเลยค่ะว่า Cannon Ball Tree เป็นไปไม่ได้ที่จะใครจะไปนอนใต้ต้นนี้ และลูกที่เห็นก็เหมือนลูกปืนใหญ่จริง ๆ เสียด้วย ดิฉันก็ไม่เคยเห็นลูกผลของต้นนี้มาก่อน

ขอบคุณอาจารย์ Navarat C. ที่ทำให้กระจ่างยิ่งขึ้น


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 12:14
ไปค้นคำว่าสาละ ในกูเกิ้ล   พบว่ามีทั้งสาละอินเดีย  สาละลังกา และมหาสาละ  เต็มไปหมด ปนเปกันไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ดอกไม้สีขาวนี้ คือดอกสาละในพุทธประวัติหรือเปล่าคะ


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 12:19
หรือว่าชนิดนี้ คือดอกสาละ ที่ถูกต้อง


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 12:24
# ๑๖ คือดอกหิรัญญิการ์  Beaumontia grandiflora Wall

ดอกสาละของจริง

http://travel.webshots.com/photo/2043647970047837447xfKwZo

 ;D


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 11, 12:43
ต้นสาละหรือคนอินเดียออกเสียงว่าซาล มีรายละเอียดดังนี้ครับ

ชื่อพฤษศาสตร์ Shorea robusta C.F. Gaertn.
ชื่อสามัญ Shal, Sakhuwa, Sal Tree, Sal of India
วงศ์ Dipterocarpaceae
 
ถิ่นกำเนิด พบในประเทศเนปาล และพื้นที่ทางเหนือของประเทศอินเดีย มักขึ้นเป็นกลุ่ม ในบริเวณที่ค่อนข้างจะชุ่มชื้น เป็นไม้ที่อยู่ในวงศ์ยาง พบมากในลุ่มน้ำยมุนา แถบแคว้นเบงกอลตะวันตก และแคว้นอัสสัม ลักษณะพืช เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ ลำต้น เปลาตรง เปลือกสีเทาแตกเป็นร่อง เป็นสะเก็ดทั่วไป เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ ปลายกิ่งมักจะลู่ลง กิ่งอ่อนเกลี้ยง ใบ เดี่ยว ดกหนาทึบ รูปไข่กว้าง โคนใบเว้าเข้า ปลายใบเป็นติ่งแหลมสั้นๆ ผิวใบเป็นมันขอบใบเป็นคลื่น ดอก ออกเป็นช่อสั้นๆ ตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ กลีบดอกสีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอม ผล เป็นผลชนิดแห้ง แข็ง มีปีก 5 ปีก ปีกยาว 3 ปีก ปีกสั้น 2 ปีก บนแต่ละปีกมีเส้นตามความยาวของปีก 10-15 เส้น
สาละเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีประโยชน์มาก ชาวอินเดียนำมาสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ ทำเกวียน ทำไม้หมอนรถไฟ ทำสะพาน รวมถึงทำเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น ส่วนเมล็ดนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ และน้ำมันที่ได้จากเมล็ดนำมาทำอาหาร เช่น ทำเนย และใช้เป็นน้ำมันตะเกียง รวมทั้งใช้ทำสบู่ด้วย

สรรพคุณด้านสมุนไพรของต้นสาละ พบว่ายาง สามารถใช้เป็นยาสมานแผล ยาห้ามเลือด ใช้แก้โรคผิวหนัง ตุ่มพุพอง โรคซิฟิลิส โกโนเรีย วัณโรค โรคท้องร่วง บิด โรคหูอักเสบ เป็นต้น ผล ใช้แก้โรคท้องเสีย ท้องร่วง เป็นต้น


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 12:54
ตามแกะรอยจากที่ท่านนวรัตนเอามาให้ดู     เจอดอกสาละ  ที่เขาเรียกว่า Sal Tree, Shorea robusta   
น่าจะใช่นะคะ


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 12:58
ลูกปืนใหญ่กับดอกสีชมพูสวยงาม  แต่รู้แล้วว่าไม่ใช่สาละในพุทธประวัติ


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 13:00
ลูกสาละ?  เห็นคำบรรยายภาษาอังกฤษเรียกว่า Sal fruit


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 11, 13:21
ต้นสาละที่คนอินเดียเรียกว่าซาลนี้ มีชื่อพฤษศาสตร์ ว่าShorea robusta C.F. Gaertn.  เช่นเดียวกับต้นรัง ในป่าเต็งรังของไทย ที่มีชื่อพฤษศาสตร์ ว่าShorea siamensis Miq. คืออยู่ในวงศ์ Dipterocarpaceaeเช่นกันแต่คนละสายพันธ์ จึงไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ในทางพุทธศาสนาของไทยแล้ว ถือว่าเป็นต้นเดียวกันกับต้นที่พระพุทธเจ้าอาศัยร่มไม้นั้น ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน

ต้นรังมีรายละเอียดดังนี้

ชื่อพฤษศาสตร์  Shorea siamensis Miq
ชื่อสามัญ        Burmese sal, Ingyin
ชื่ออื่น           เปา เปาดอกแดง (ภาคเหนือ), รัง (ภาคกลาง), เรียง เรียงพนม (เขมร-สุรินทร์), ลักป้าว (ละว้า-เชียงใหม่), แลบอง เหล้ท้อ เหล่บอง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ฮัง (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
วงศ์              Dipterocarpaceae
   
ลักษณะทั่วไป   ไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 15-25 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มค่อนข้างโปร่ง ลำต้นเปลาตรง แตกร่องลึก ตกชันสีเหลืองขุ่น เปลือกในสีน้ำตาลแดงใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบรูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง 7-12 ซม. ยาว 10-20 ซม. ปลายใบ มนหรือเว้าเล็กน้อย โคนใบเว้า ผิวใบเกลี้ยงถึงมีขนนุ่ม เส้นแขนงใบ 14-18 คู่ ก้านใบยาว 3-4 ซม. ใบแก่สีแดง ถึงแดงส้มดอกสีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อตามกิ่งและปลายกิ่ง ผลรูปไข่ ปลายเป็นติ่งแหลม กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 1.5-2 ซม. มีปีกยาว 3 ปีก และปีกสั้น 2 ปีก

ขยายพันธุ เพาะเมล็ด

สภาพที่เหมาะสม ดินร่วนปนกรวดและดินทราย เป็นไม้กลางแจ้ง ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง

ถิ่นกำเนิด ป่าเบญจพรรณแล้ง ป่าแดงทั่วไป ทนแล้ง ทนไฟป่าได้ดีมาก
 
การใช้ประโยชน์  จัดเป็นไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลอมเหลือง ใช้ก่อสร้างทั่วไปเช่นเสา พื้น รอด ตง และไม้หมอนรถไฟ เป็นต้น ชันใช้ผสมน้ำมันทาไม้และยาแนวเรือ




กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 13:37
         ในหนังสือ กามนิต  ตอนที่ ๔๓ มหาปรินิพพาน  เสฐียรโกเศศและนาคะประทีป  แปลต้นสาละว่า ต้นรัง ตามความเชื่อของโบราณาจารย์แต่เดิมมา 
       
           อันที่จริง เมืองกุสินาราก็ไม่ใหญ่โตยิ่งไปกว่าหมู่บ้านของพวกมัลละ มีบ้านและกำแพงเมือง ใช้ไม้สานเอาดินทา เห็นครั้งแรก ก็เข้าใจว่าคงจะมีโรคระบาดอะไรอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแก่เมืองน้อย ๆ นี้ จนผู้คนเบาบางไป ตามประตูบ้านมีคนชราและคนเจ็บนั่งร้องให้กันอยู่เซ็งแซ่
          เราเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น
          พวกนั้นบิดไม้บิดมือตอบว่า "พระศาสดาจะด่วนเสด็จเข้าปรินิพพานเสียแล้ว ในเวลานี้เอง ดวงประทีปของโลกจะดับแสงไป พวกมัลละพากันไปที่ป่ารัง เพื่อไปเฝ้าถวายบูชาแด่พระองค์ผู้ทรงพระภาค เพราะเมื่อก่อนหน้าจะมืดค่ำนี้เล็กน้อย พระอานนท์มาในเมืองตรงไปที่ตลาด ซึ่งเป็นที่ชุมนุม พวกมัลละกำลังประชุมโต้เถียงกันด้วยเรื่องการเมืองเมื่อพระอานนท์ไปถึง ได้บอกว่า
         "ดูก่อนพวกมัลละ ในวันนี้ก่อนเวลาเที่ยงคืน พระพุทธเจ้าจะเข้าเสด็จปรินิพพาน ท่านจงรีบพากันไปเฝ้า เพราะพระพุทธองค์จะได้เสด็จเข้าพระปรินิพพานในเมืองท่าน เป็นโอกาสที่พวกท่านจะได้เฝ้าเป็นครั้งสุดท้าย"
         เมื่อพวกมัลละได้ทราบดั่งนี้ ก็ปริเทวนาการด้วยความเสียใจ พาบุตรภริยารีบไปที่ป่ารัง ส่วนพวกข้าพเจ้าที่เหลือเป็นคนชราและพิการเดินเหินไม่ไหว จึ่งจำต้องแกร่วอยู่กับที่ ไม่สามารถไปบูชาพระศาสดาในครั้งสุดท้ายได้"

          เมื่อได้ความดั่งนี้ เราก็รีบออกประตูเมืองไปยังป่ารัง  ทันทีซึ่งชาวบ้านเหล่านั้นชี้ทางให้ ไปตามทางเห็นพวกมัลละกลับมาเป็นหมู่ อารามที่อยากจะให้ถึงทันใจ เรารีบสาวก้าวตัดข้ามทุ่ง ตรงไปทางมุมป่าน้อย
         
          *************************
           พระองค์เผยพระโอษฐ์อีกครั้งหนึ่ง เป็นพระปัจฉิมวาจา ที่จารึกไว้แก่สังสารโลกเป็นพระสัจธรรมอันล้ำเลิศว่า

          "ภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตขอเตือนท่าน อันสังขารทั้งหลายมีแต่เสื่อมไปเป็นธรรมดา ขอท่านทั้งหลายจงบำเพ็ญกุศลให้เต็มที่ด้วยความไม่ประมาทเถิด"

          นี้คือ พระโอวาทแห่งพระศาสดาเป็นมรดกครั้งสุดท้าย

          ครั้นแล้ว สิ้นพระดำรัส สิ้นพระสุรเสียง หับพระโอษฐ์หลับพระเนตร พระอัสสาสะปัสสาสะซึ่งเคยระบายตามธรรมดาค่อย แผ่วเบาลง ๆ ทุกที แล้วก็สิ้นกระแสลม โดยพระอาการสงบ พระภิกษุองค์หนึ่งประกาศว่า พระบรมศาสดาเสด็จปรินิพพานแล้ว

          อนิจจา! แสงเดือนเพ็ญผ่องกระจ่างจับพระพักตร์อยู่เมื่อกี้ ก็จางซีดขมุกขมัวลง ท้องฟ้าสลัวมัวพยับครึ้ม อากาศเย็นเฉียบจับหัวใจน้ำค้างหยดเผาะ ๆ เป็นหยาดน้ำตาแห่งสวรรค์ เกสรดอกรังร่วงพรูเป็นสายสหัสธาราสรงพระพุทธสรีระ จั๊กจั่นเรไรสงัดเงียบดูไม่มีแก่ใจจะทำเสียง ธรรมชาติรอบข้างต่างสลดหมดความคะนองทุกสิ่งทุกอย่าง

          แล้วจึ่งมีเสียงกระซิกๆ สะอื้นไห้แห่งพระภิกษุสงฆ์ ฝ่ายพวกมัลละก็ร้องไห้โฮแทบสิ้นสมฤดี         

         


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 14:31
สรุปว่า ความเข้าใจผิดเรื่องต้นสาละของชาวพุทธไทยมีอยู่ ๒ เรื่อง

๑. ต้นสาละ = ต้นรัง

๒. ต้นสาละ = ต้นลูกปืนใหญ่

ทราบแล้วช่วยบอกต่อ

ถือเป็นการทำบุญในวันวิสาขบูชา

 ;D


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 17:40
ภาพวาดพุทธประวัติ โดย เหม เวชกร

๑๕ ค่ำ เดือน ๖ - วันวิสาขบูชา - วันต้นไม้แห่งชาติ

ประสูติ - ใต้ต้นสาละ

(http://gallery.palungjit.com/data/582/medium/p03.jpg)

ตรัสรู้ -ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

(http://gallery.palungjit.com/data/582/medium/p27.jpg)

ปรินิพพาน - ใต้ต้นสาละคู่

(http://gallery.palungjit.com/data/582/p76.jpg)

 ;D


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 18:02
ในพุทธประวัติ กล่าวว่าพระนางสิริมหามายา ทรงครรภ์ใกล้ครบกำหนดพระสูติการ จึงเสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อไปมีพระสูติการ ณ กรุงเทวทหะ   เมื่อขบวนเสด็จมาถึงครึ่งทางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ณ ที่ตรงนั้นเป็นสวนมีชื่อว่า “สวนลุมพินีวัน” เป็นสวนป่าไม้ “สาละใหญ่”

พระนางได้ทรงหยุดพักอิริยาบท พระนางประทับยืนชูพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละใหญ่ และขณะนั้นเองก็รู้สึกประชวรพระครรภ์ และได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร

สงสัยว่าพระนางสิริมหามายา ประทับอยู่ใต้ต้นสาละชนิดไหน   การเหนี่ยวกิ่งสาละขณะเจ็บพระครรภ์นั้นไม่ใช่บังเอิญ แต่เป็นท่าของการเตรียมคลอด   ต้องยึดอะไรไว้สักอย่างเหนือศีรษะ    ผู้หญิงไทยสมัยโบราณยึดผ้าขาวม้าที่ผูกลงมาจากขื่อ
แต่ต้นสาละอินเดียนั้นลำต้นเรียวชลูดมาก  กิ่งขึ้นไปชูอยู่ข้างบน    ถ้าเป็นต้นเตี้ยๆ กิ่งจะอ่อน เหนี่ยวลำบาก


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 18:13
ต้นสาละ ปลูกไว้ตรงที่ประสูติ


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 18:16
สาละต้นเล็ก


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 18:50
ต้นสาละ ปลูกไว้ตรงที่ประสูติ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4391.0;attach=20129;image)

^
^
ต้นโพธิ์กระมัง

ต้นเดียวกับของคุณเทาชมพู

(http://www.watsai.net/sal_tree/bohd_tree02.jpg)

 ;D


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 17 พ.ค. 11, 18:57
"ต้นไม้ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ๒๙ พระองค์"

ต้นไม้ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่สามารถนำมาประมวลไว้ ณ ที่นี้ มีต้นไม้ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ๒๙ พระองค์ โดยต้นไม้ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๑ ถึงองค์ที่ ๓ พบในชินกาลมาลีปกรณ์
และต้นได้ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ ถึงองค์ที่ ๒๙ พบในพุทธวงศ์อันมีความดังต่อไปนี้

๑. พระตัณหังกร ไม้สัตตปัณณะ (ตีนเป็ดขาว)
๒. พระเมธังกร ไม้กิงสุกะ (ทองกวาว)
๓. พระสรณังกร ไม้ปาตลี (แคฝอย)
๔. พระที่ปังกร ไม้ปิปผลิ (เลียบ)
๕. พระโกณฑ์ญญะ ไม้สาลกัลยาณี (ขานาง)
๖. พระมังคละ ไม้นาคะ (กากะทิง)
๗. พระสุมนะไม้นาคะ (กากะทิง)
๘. พระเรวตะ ไม้นาคะ (กากะทิง)
๙. พระโสภิตะ ไม้นาคะ (กากะทิง)
๑๐. พระอโนมทัสสี ไม้อัชชุนะ (รกฟ้าขาว)
๑๑. พระปทุมะ ไม้มหาโสณะ (อ้อยช้าง, คำมอก)
๑๒. พระนารทะ ไม้มหาโสณะ (อ้อยช้าง, คำมอก)
๑๓. พระปทุมุทตระ ไม้สลฬะ (สน)
๑๔. พระสุเมธะ ไม้มหานิมพะ (สะเดาป่า)
๑๕. พระสุชาตะ ไม้มหาเวฬุ (ไผ่ใหญ่)
๑๖. พระปิยทัสสี ไม้กกุธะ (กุ่ม)
๑๗. พระอัตถทัสสี ไม้จัมปกะ (จำปาป่า)
๑๘. พระธัมมทัสสี ไม้พิมพชาละ หรือกุรวกะ (มะพลับ,ซ้องแมว)
๑๙. พระสิทธัตถะ ไม้กัณณิการะ (กรรณิการ์)
๒๐. พระติสสะ ไม้อสนะ (ประดู่ลาย)
๒๑. พระปุสสะ ไม้อาลมกะ (มะขามป้อม)
๒๒. พระวิปัสสี ไม้ปาตลิ (แคฝอย)
๒๓. พระสิขี ไม้ปุณฑริกะ (มะม่วงป่า)
๒๔. พระเวสสภู ไม้มหาสาละ (สาละใหญ่)
๒๕. พระกะกุสันธะ ไม้มหาสิริสะ (ซึกใหญ่)
๒๖. พระโกนาคมนะ ไม้อุทุมพระ (มะเดื่อ)
๒๗. พระกัสสปะ  ไม้นิโครธ (ไทร,กร่าง)
๒๘. พระโคตมะ คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน พระพุทธเจ้าพระบรมศาสดาของเราทั้งหลาย  ไม้อัสสตถะ (พระศรีมหาโพธิ)   
๒๙. พระเมตไตรย คือ พระพุทธเจ้าในอนาคตกาลข้างหน้า ไม้นาคะ (กากะทิง) 
 
 
 
 
ที่มา siamsouth.com


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 19:00
ตอบคุณเพ็ญชมพู

http://picasaweb.google.com/lh/photo/XvtrGoKbuE3uFO6NBS0o1w


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 11, 19:36
^
ผมตามเข้าไปดูในลิงค์แล้วครับ คิดว่าคนที่บรรยายภาพคงจะเข้าใจผิด และเพื่อจะไม่ให้พวกเราผิดตามเขาไปด้วย ผมจึงขอเอารูปที่ผมถ่ายต้นไม้นี้ด้วยตนเองมายืนยันว่าเป็นต้นโพธิ์ครับ

ต้นสาละ จะต้องยืนลำต้นชลูดสูง ชูเรือนพุ่มไว้ด้านบน รูปทรงจะผิดกับต้นโพธิ์ที่ลำต้นใหญ่ สั้น กิ่งเหยียดเป็นทรงพุ่มแจ้ อย่างไรก็ดีรูปทรงใบที่เห็น ก็ชัดเจนว่าเป็นโพธิ์ครับ


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 19:45
ดิฉันสับสนกับคำบรรยายในกูเกิ้ลจริงๆด้วย     ขอบคุณที่อธิบายให้ทราบค่ะ
ไปเข้าใจว่าสาละมีหลายชนิด


กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 พ.ค. 11, 20:30
ถ้าว่าไปแล้วสาละที่คนไทยเคยได้ยินชื่อก็มีอยู่ ๓ ชนิดนั่นแหละ ได้แก่ สาละอินเดีย สาละลังกาและสาละไทย (รัง)


คุณประวิทย์ จำปาทอง เขียนเล่าไว้ใน บทความเรื่อง "สาละ" หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ อาทิตย์ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓  (http://www.ryt9.com/s/tpd/896159)

พบพระภิกษุรูปหนึ่ง ท่านเมตตามอบหนังสือตำนานวัดบวรนิเวศวิหารให้ เป็นหนังสือจัดพิมพ์ถวาย สมเด็จพระญาณสังวร เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ในการฉลองพระชนมายุครบ ๖ รอบวันที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘

ในหนังสือหน้า ๑๒๖ เขียนว่า ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเทศกาลเข้าพรรษาศก ๒๕๑๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปลูกต้นสาละ ณ บริเวณหน้าวัด ด้านพระตำหนักเพชร ต้นสาละทรงปลูกคราวนี้ ๓ ชนิดคือ สาละอินเดีย สาละลังกาและสาละไทย (รัง)

สาละลังกา รัฐบาลประเทศศรีลังกาได้ถวายสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฎฐายี) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดมกุฏกษัตริยาราม ซึ่งเสด็จเยือนประเทศศรีลังการะหว่างวันที่ ๑๐-๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ จำนวนหลายต้น และทรงประทานแก่พระสาสนโสภณ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมในการเสด็จเยือนประเทศศรีลังกาครั้งนั้นมา ๑ ต้น ส่วนต้นสาละอินเดียและสาละไทย (ต้นรัง) ได้ติดต่อขอให้ทางกรมป่าไม้ช่วยจัดหาให้ เพื่อทูลเกล้าฯ ทรงปลูกในคราวนี้

ครั้นวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ มายังหน้าวัด ด้านตำหนักเพชร ทรงปลูกต้นสาละอินเดีย ซึ่ง ม.จ.ชัชวลิต เกษมสันต์ เป็นผู้ทูลเกล้าฯ ถวายแล้วทรงปลูกต้นสาละไทย (รัง) ซึ่งพลเอกหลวงกัมปนาทแสนยากร องคมนตรีเป็นผู้ทูลเกล้าฯ ถวาย แล้วทรงปลูกต้นสาละลังกา ซึ่งนายดุสิต พานิชพัฒน์ อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นผู้ทูลเกล้าฯ ถวายแล้วเสด็จฯ กลับ

ต้นสาละลังกา เป็นต้นไม้ขนาดกลางไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ ต้นสูงประมาณ ๑๕ เมตร โตวัดรอบ ๘๐-๑๐๐ เซนติเมตร ดอกสีชมพูขนาดใหญ่ออกเป็นกระจุกตามกิ่งแก่และลำต้น ผลกลมสีน้ำตาลโต วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๖-๘ เซนติเมตร เป็นพืชพันธุ์ประจำทวีปอเมริกาเขตร้อน จัดอยู่ในวงศ์ไม้กระโดน ภาษาอังกฤษเรียกว่า (Cannon Ball tree) แปลว่าลูกปืนใหญ่ ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมชาวพุทธในลังกาจึงเรียกว่าต้นสาละ

หลวงบุเรศรบำรุงการ ท่านกล่าวว่า สวนพฤกษศาสตร์ลังกานำไม้ต้นนี้มาจากตรินิแดด คิวบา ในปี ๑๘๘๑ แต่น่าประหลาดใจที่มาเรียกกันว่าสาละ ลังกา ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ไม้ถิ่นลังกาเลย ข้อที่ประหลาดที่สุดก็คือ ต้นสาละถิ่นเดิมเนปาล ซึ่งเป็นถิ่นภูมิลำเนาของพระพุทธเจ้า เรียกตามภาษาสันสกฤตว่า Sal ตรงกับสาละ แล้วกลับจะมานับถือต้นลูกปืนใหญ่ที่ลังกานั้นน่าจะขาดเหตุผล

ต้นสาละอินเดียหรือต้นสาละที่พระพุทธองค์ประสูติและปรินิพพานนั้น เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ประเภทผลัดใบสูง ๒๐-๒๕ เมตร โตวัดรอบ ๑๐๐-๑๘๐ เซนติเมตร พบขึ้นอยู่ทั่วไปในแคว้นอุตรประเทศ ของประเทศอินเดียและในประเทศเนปาล และตามภาคเหนือของประเทศพม่า พันธุ์ไม้ชนิดนี้จัดอยู่ในวงศ์ไม้ยาง มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Shorea robusta ชาวอินเดียเรียกกันว่า Sal หรือ Sala ใบดอกผลมีลักษณะคล้ายกันกับไม้รังมาก

ในการแปลถอดความเกี่ยวกับพุทธประวัติจากภาษาบาลี ปราชญ์ฝ่ายไทยจึงใช้ชื่อว่า "ไม้รัง" ทั้งนี้คงเนื่องจากพระสงฆ์ไทยที่ได้จาริกไปนมัสการพระพุทธเจดีย์สถานต่าง ๆ ในประเทศอินเดีย ได้เห็นไม้สาละแล้วก็เข้าใจว่าจะเป็นไม้ชนิดเดียวกันกับไม้รังของเรา

ต้นสาละหรือต้นรังนั้น มีลักษณะคล้ายคลึงกับต้นสาละอินเดียมาก จึงเกิดการเข้าใจผิดแปลพุทธประวัติขึ้น ตำราประวัติพระพุทธศาสนาเล่มเก่า ๆ จึงกล่าวว่า พระพุทธองค์ประสูติใต้ต้นรัง!

ใครอยากเห็นต้นสาละ ไปชมได้ที่วัดบวรนิเวศวิหารครับ.


 ;D







กระทู้: ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ก.พ. 12, 11:56
ที่พม่ายังคงมีความเชื่อเหมือนคนไทยว่า ต้นสาละลังกาเป็นต้นไม้สำคัญในพุทธประวัติ หลาย ๆ วัดมีต้นสาละลังกาขึ้นอยู่

ดอกสาละลังกานำมาใส่ถาดสำรับบูชาพระพุทธรูปที่ เจดีย์กาบาเอ ย่างกุ้ง (http://en.wikipedia.org/wiki/Kaba_Aye_Pagoda)

 ;D