เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 10:37



กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 10:37
    

    ผู้ที่ตอบได้ถูกต้องสมบูรณ์  เป็นคนแรก    จะได้รับ   หนังสืออนุสรณ์ "ไกรสิงห์"   ในงานพระราชทานเพลิงศพ

หม่อมเจ้าไกรสิงห์  วุฒิชัย   วันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน  ๒๕๑๙    ที่ท่านไกรสิงห์ทรงเล่าเรื่องพี่ ๆ น้อง ๆ ในลำดับราชสกุล

เป็นหนังสือหายาก    

        สันกาวเสื่อมสภาพแล้ว  แต่หนังสืออยู่ในสภาพดีมาก   เจ้าของอ่านคนเดียว

หนังสือเล่มนี้มิได้ปรากฎในวงการนานมากมาแล้ว       คิดว่าคงมีคนอยากอ่าน


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 11:20


         คำว่า "เนื้อคู่"  กับ คำว่า  "คู่สร้างกันมา"   ยังไม่เคยได้ยินใครอธิบายให้ฟังว่าต่างกันอย่างไร

แต่พ่อนึกเอาเองว่าจะแตกต่างกันดังนี้   คือ  ผู้ที่เป็นเนื้อคู่กันนั้น   คงจะต้องมีลักษณะเหมาะสมกันอย่างสำคัญ

หลายประการ   เมื่อโชคบันดาลให้ได้ประสบพบกันเข้า   ก็เกิดมีความหลุ่มหลง  รักใคร่กันขึ้นอย่างรุนแรง

จนได้เป็นสามีภรรยากัน  ที่เป็นคู่สมรสอย่างเปิดเผยก็มี     ที่เป็นคู่รักกันอย่างลับ ๆ ก็มี    แต่ต้องเป็นคุ่ครองกันอย่างสนิทจริง ๆ

ไม่ใช่หลงรักกันชั่วคราว  แล้วเลิกกันไป    ความรักที่ผ่านไปเร็วเช่นนี้  เป็น  เป็นความรักของผู้ที่ไม่เป็นเนื้อคู่กัน    ผู้ที่เป็นเนื้อคู่กันแท้

ต้องรักกันจริงและยืดยาว     แต่ถึงกระนั้นความรักอย่างนี้  ก๋ดูเหมือนจะหนักไปทางกายมากกว่าทางใจ   คำว่า "เนื้อคู่" นี้เอง  แสดง

ตวามหมายไปทางนั้น 


        ส่วนคำว่า  "คู่สร้างกันมา"    คงมีความหมายลึกกว่ามาก    ผู้ที่เป็นคู่สร้างกันมา   คงได้บำเพ็ญกรรมต่าง ๆร่วมกันมาในชาติก่อน

หรือหลายชาติ       มีใจผูกพันกันมา  ได้อธิฎฐาน  ขอให้ได้เกิดร่วมกัน  เป็นคู่ครองกันในชาติหน้า     บางรายก็อาจได้เป็นคู่ครอง

กันมาแล้วในชาติก่อน   ที่เรียกว่า บุพเพสันนิวาส   มีความรักใคร่ผูกพันห่วงใยกันอย่างแรง       ผู้ที่ได้บำเพ็ญเข้าหากันในปางก่อนนี้เอง 

เรียกว่าคู่สร้างกันมา      แม้นจะต่างกัน  ห่างกัน  อุปสรรคกีดกันสักเท่าใด   ก็ต้องได้ประสบพบกัน   และได้ร่วมชีวิตเป็นคู่ครองกันจนได้

คู่สร้างกันมาเช่นนี้  ผูกพันกันทั้งทางกายและทางใจอย่างแน่นแฟ้น         แม้จะเบื่อหน่าย  หมองหมาง  แตกร้าวกันเท่าไร

ก็แยกกันไม่ออก     ตลอดไปจนตายจากกัน


        คู่สมรสที่เป็นคู่สร้างกันมาเช่นนี้   ไม่ต้องรับพรอย่างไรเลยก็ได้            แม้พรจะดีเท่าไร    และอำนาจอธิฎฐานของผู้ให้พรจะแรงเท่าไร

ก็ไม่อาจเสริมความรักใคร่สามัคคีให้ดีขึ้นไปได้ยิ่งกว่าที่อำนาจแห่งกรรมได้บันดาลให้เป็นอยู่แล้ว


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 พ.ค. 12, 11:25
คุณวันดี วันนี้ท่านเกิดนึกครึ้มอารมณ์อะไรกันหนอ ส่งเพลงให้นั่งฮัมไปก่อน

"พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด
ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ
เออชะรอยจะเป็นเนื้อคู่ ควรอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ
แต่ครั้งแรกที่พบเธอ ใจฉันเชื่อว่าแรกเจอ ฉันและเธอเป็นคู่สร้างมา

เนื้อคู่ ถึงอยู่แสนไกลก็ไม่คลาดคลา
มุ่งหวัง สมดังอุราไม่ว่าใครๆ
หากไม่ใช่คู่ครองแท้จริง จะแอบอิงรักยิ่งปานใด
ยากนักที่จะสมใจ คงเป็นเหตุอาเพศภัย พลัดกันไปทำให้คลาดคลา

เราสองคนต่างเป็นเนื้อคู่ จึงชื่นชูรักใคร่บูชา
นี่เค้าว่าบุญหนุนพา พรหมลิขิตขีดเส้นมา ชี้ชะตามาให้ร่วมกัน
เราสองคนคงเป็นเนื้อคู่ เพียงแต่ดูรู้ชื่อโดยพลัน
ก็รู้สึกนึกรักกัน จนฝันใฝ่ใจผูกพัน แม้ไม่ทันจะเห็นรูปกาย

ฉันเชื่อ เพราะเมื่อพบเธอฉันเพ้อมากมาย
เฝ้าหลง พะวงไม่วายไม่หน่ายกมล
พรหมลิขิตบันดาลทุกอย่าง เป็นผู้วางหนุนทางมวลชน
ได้ลิขิตชีวิตคน มอบเนื้อคู่มาเปรอปรน ทั้งยังดลเธอให้คู่ฉัน"


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 11:26

        เดือนนี้  เชื่อกันว่าเป็นเดือนของมงคลหลายประการ     มีงานสมรสหลายคู่

นักอ่านหนังสือเก่า  สนับสนุนการอ่านข้อเขียนที่งดงามเยี่ยงนี้


ชอเชิญมิตรสหายทั้งปวงทดสอบความสามารถ


จะมาบอกใบ้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

            ขอเชิญตอบได้แล้วค่ะ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 พ.ค. 12, 11:31
นับเป็นบุญของข้าพเจ้าแท้ ๆ เมือเดือนก่อนอยู่ในช่วงค้นหาหนังสือเก่า ได้มาเล่มหนึ่งปกสีแดงเรื่อ ๆครับ

ได้อ่านข้อความด้วยความประทับใจ จึงจำได้แม่นยำว่า ข้อความนี้อยู่ส่วนหน้าของหนังสือ เป็นคำอวยพรของเสด็จในกรม ฯ เนื่องในโอกาสวันเสกสมรสระหว่างหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต กับ หม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี รัชนี

เสด็จในกรม ฯ ในที่นี้คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์เนื่อง สนิทวงศ์ ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการในรัชกาลที่ ๘

ถูกผิดประการใดขอทราบด้วยครับผม

ที่สะดุดตาก่อนคือ "รักกันอย่างรุนแรง" ตรงนี้เองที่ทำให้ต้องมานั่งอ่านทวนทั้งเรื่อง  :-[ :-[ เพราะอยากรู้ว่า "รักอย่างรุนแรง" ในสมัยก่อน ไม่เหมือนสมัยนี้  :-[


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 11:32


ฝ่ายเจ้าบ่าวจบปริญญาสัตว์แพทย์ศาสตร์


จะเข้ามาเล่าต่อเห็นคนโพสไว้ก่อน   ตกใจว่าคำถามง่ายไปหรืออย่างไร


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 พ.ค. 12, 11:35


ฝ่ายเจ้าบ่าวจบปริญญาสัตว์แพทย์ศาสตร์


จะเข้ามาเล่าต่อเห็นคนโพสไว้ก่อน   ตกใจว่าคำถามง่ายไปหรืออย่างไร

"รักอย่างรุนแรง" ครับ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 11:40
ว้า!!!      ถูกซีคะ   เมื่อมีหนังสือ  หนังสือจะหนีไปไหน


เนื่องในโอกาสที่ ม.จ. ปิยะรังสิต  และ ม.จ. วิภาวดี  ทรงรับพระราชทานเสกสมรส   เมื่อวันที่ ๖  พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๙

เป็นคู่วิวาห์คู่เดียวซึ่งได้รับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล  ณ พระที่นั่งบรมพิมาน


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 11:57


        ในงานวันประสูติครบห้ารอบของเสด็จในกรมฯ    ได้รับสั่งกับพระโอรสว่า  จะมีหม่อมเจ้าหญิงซึ่ง

เหมาะสมกับท่านชายเสด็จมา ๓ พระองค์   องค์หนึ่งชื่อ "วิภาวดี"  เป็นพระธิดาของพระสหาย



        คืนนั้นมีวงดุริยางค์ในงานลีลาศที่วังวิทยุ   หม่อมเจ้าปิยะรังสิตทรงเต้นรำกับท่านหญิงทั้งสามตามพระประสงค์ของเสด็จในกรมฯ

แต่แล้วก็มาสนพระทัยหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี  รัชนีเพียงพระองค์เดียว



        ท่านชายเคยรับสั่งเล่าว่า  คืนนั้นท่านหญิงวิภาวดีทรงชุดขาว    "พระเนตรมีแววใสแจ๋ว"   ดุจปริศนาในนวนิยายของท่านหญิง

ท่านได้เกิดความรู้สึก  "Love at First Sight"  ทันที



กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 14 พ.ค. 12, 13:22
เนื่องในโอกาสที่ ม.จ. ปิยะรังสิต  และ ม.จ. วิภาวดี  ทรงรับพระราชทานเสกสมรส   เมื่อวันที่ ๖  พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๙

เป็นคู่วิวาห์คู่เดียวซึ่งได้รับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล  ณ พระที่นั่งบรมพิมาน


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 พ.ค. 12, 13:44
เป็นพระราชกรณียกิจในช่วงท้าย ๆ ของพระองค์ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๘ หลังจากนัั้นพระองค์ก็เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดอ่างทองและนนทบุรี (ศาลานี้ยังอยู่ในสภาพดี เรียกว่า ศาลาทรงเสด็จ)


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 15:11


หม่อมเจ้าปิยะรังสิต   รังสิต

๒๔๕๖ -  ๒๔๓๓

ประสูติ ณ วังไม้  ถนนหลวง เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๖

ทรงเป็นโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร  กับหม่อมเอลิซาเบธ  รังสิต ณ อยุธยา

มีพระอนุชา ๑ องค์ และ พระขธิษฐา ๑ องค์  คือ หม่อมเจ้าสนิธประยูรศักดิ์  และหม่อมเจ้าจารุลักษณ์กัลยานี


ทรงเสกสมรสกับหม่อมราชวงศ์ผ่องลักษณ์  ทองใหญ่   ทรงมีธิดา ๑ คนคือ หม่อมราชวงศ์เยาวลักษณ์


ทรงรับพระราชทานเสกสมรสกับหม่อมเจ้าวิภาวดี  รัชนี (พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต)   ทรงมีพระธิดา ๒ คน  คือ

หม่อมราชวงศ์วิภานันท์  และ หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา


ทรงมีบุตร  กับ  บุญพิทักษ์  แสงฤทธิ์ (หม่อมพิทักษ์)  คือ หม่อมราชวงศ์ประทักษ์


ถึงชีพิตักษัยด้วยพระทัยวาย  ณ เชียงใหม่  เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๓      ชนมายุ ๗๖ ปี ๑ เดือน กับ ๖ วัน


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 พ.ค. 12, 15:17
เรียนคุณวันดีที่นับถือ

พูดถึงวังไม้ เลยนำหนังสือเก่ามาให้คุณวันดีครับ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 15:29


        ท่านชายค้นคว้าเรื่องวังไม้กว่า ๔ ปี   ค้นคว้าอย่างละเอียด  เพราะลูก ๆ ของท่านเล่าว่าท่านเป็นคนละเอียด

จะไม่ยอมให้มีอะไรตกหล่นเลย             ได้เดินทางไปหอสมุดแห่งชาติหลายสิบเที่ยว  เพื่อไปค้นคว้าตำรา

ได้สัมภาษณ์ทุกคนที่มีความรู้เกี่ยวกับวังนี้จนไม่มีอะไรเหลือที่เกี่ยวกับวังไม้และวังเจ้านายอื่น ๆ ที่สร้างในสมัยใกล้ ๆ กัน

น่าอ่านมาก


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 14 พ.ค. 12, 20:55
อ่านหนังสือได้รวดเร็วว่องไวดีแท้

 ;D

นับถือๆ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ค. 12, 22:33


ขออภัยท่านผู้เลี้ยงนกยักษ์          ข้าพเจ้าอ่านจบทั้ง ชุดที่ได้นั่นแล






กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 15 พ.ค. 12, 07:44


ขออภัยท่านผู้เลี้ยงนกยักษ์          ข้าพเจ้าอ่านจบทั้ง ชุดที่ได้นั่นแล







อ่าาาาาา  ;)

ตั้ง ซาว เจียวนะ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 09:02


หนังสืออนุสรณ์ ม.จ. ไกรสิงห์  วุฒิชัย     ที่เล่าเรื่องพี่ ๆ น้อง ๆ ของท่านในมหาสาขาต่าง ๆ

สนุกนัก   จึงขอคัดลอกมาเป็นตัวอย่างจนกว่าคุณหนุ่มสยามจะติดตามมาเก็บรางวัลเอง  ฮ่ะ ๆ

ถ้าจะนัดกันเป็นเดือนแล้ว    อะไร ๆ ก็เปลี่ยนแปลงได้   เพราะที่บ้านมีนักอ่านมาบุกกันประจำ

ติดใจการเล่าของท่านไกรสิงห์มาก   อ่านแล้วเรื่องราวระหว่างบรรทัดก็แจ่มกระจ่าง


       "ก่อนเสด็จพ่อทรงกรม   ทรงมีพระนามว่า  พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ 

เป็นพระราชโอรสพระองค์เล็กของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระปิยะมหาราช  และเจ้าจอมมารดาทับทิม 

พระสนมเอก                  เด็จพ่อทรงมีพี่อีกสององค์  คือเด็จลุงจอมพลพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช

และ เด็จป้า พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าประเวศวรสมัย   





        "เคยได้เฝ้าคือ พระองค์อาทิตย์ ฯ   แต่ตอนสมัยข้าพเจ้าเด็ก  ท่านใหญ่โตมาก     เป็นผู้สำเร็จราชการ

แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันท ฯ  จำได้ติดตาตอนเด็จพ่อพระชันษาครบ ๕ รอบ   ท่านเสด็จ

ตอนเลี้ยงพระเป็นทางการ     พวกญาติพี่น้องทั้งหมดนั่งกับพื้น   มีเสด็จพ่อประทับเก้าอี้  กับสองคน  คือ

พระองค์อาทิตย์และหม่อมกอบแก้ว          จึงเป็นธรรมดาที่ไม่มีวันได้รู้จักท่านแบบพี่น้อง"



กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 พ.ค. 12, 09:11
ขอบคุณคุณวันดีอย่างมากที่ให้โอกาสแก่ข้าพเจ้า อันม.จ. ไกรสิงห์  วุฒิชัย นั้นท่านเป็นดีไซน์เนอร์ของเมืองไทย ระดับโลก มีฝีมือด้านการออกแบบเสื้อผ้ารวมทั้งเครื่องประดับจิวเวอรี่มากมายและตระการตา  นับว่าท่านเป็นนักออกแบบที่ทันสมัยในยุคแรก ๆ

เคยสนทนากับบุคคลท่านหนึ่ง คลุกคลีในวังเสด็จในกรมฯ ตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ถูกเลี้ยงดูโดยชาววังขนานแท้ ตอนเสด็จในกรมท่านสิ้นไปก็ประทานทรัพย์สมบัติ (เศษ ๆสมบัติ) มาให้ไว้ตั้งตัว ซึ่งมีมูลค่ามากมายมหาศาล แถมยังเคยเห็น "ห้องทอง" ของเจ้าจอมมารดาทับทิม เล่าให้ฟังมิรู้เบื่อ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 09:40



         "ข้าพเจ้าเกิดเมื่อวันจันทร์ที่  ๒๙  เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๗๒   ที่วังสะพานขาว   ผู้ทำคลอด

ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้วและขี้เกียจไปถามแม่    แต่เป็นภรรยาพระยาศรีวิศาลวาจา

หม่อมประพันธ์  วุฒิชัย ณ อยุธยา  คือแม่ของข้าพเจ้า  เป็นชาวราชบุรี  นามสกุลเดิม  ชาตารุ่ง


        ข้าพเจ้ามีพี่ชายและพี่สาวอีก ๓ องค์คือ ม.จ. ทรงวุฒิไชย  ม.จ.อุทัยเฉลิมลาภ  และ  ม.จ. สุวภาพเพราพรรณ

ทั้งสามองค์นี้เป็นโอรสธิดาของชายาองค์แรกของเด็จพ่อซึ่งได้สิ้นชีพไปก่อนแม่มาเป็นหม่อมของเด็จพ่อ"


         


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 09:59


คุณหนุ่มสยามที่นับถือ

        กรุณาเล่าเรื่องห้องทองทีเถิดค่ะ      ดิฉันขอเล่าเรื่องเด็จพี่เด็จน้องของท่านอีกนิดหน่อย

แล้วจะเก็บเล่มไว้คอยเจ้าของ  เพราะความชำนาญในเรื่องการใช้ผ้าไหม  ผ้ามัดหมี่  ผ้าปาเต๊ะ

อ่อนด้อยกว่าคุณหนุ่มมากนัก         ชุดสายเดี่ยวบางชุดท่านใช้ผ้าไหมเกลี้ยง ๑๒ เมตร  แต่งด้วยผ้าตีนจก

กว้าง ๓๖ นิ้ว (ลายกว้าง ๗ ซม.)  ๖ เส้น    บางชุดก็ ๘ เส้นก็มี     นางแบบของท่านก็ร่างระหงทั้งสิ้น

เช่นคุณพัฒนศรี  บุนนาค   คุณภัทราวดี  ศรีไตรรัตน์  เป็นต้น


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 15 พ.ค. 12, 10:04
         "ข้าพเจ้าเกิดเมื่อวันจันทร์ที่  ๒๙  เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๗๒   ที่วังสะพานขาว   

ผู้ทำคลอดชื่ออะไรจำไม่ได้แล้วและขี้เกียจไปถามแม่    แต่เป็นภรรยาพระยาศรีวิศาลวาจา

หม่อมประพันธ์  วุฒิชัย ณ อยุธยา  คือแม่ของข้าพเจ้า  เป็นชาวราชบุรี  นามสกุลเดิม  ชาตารุ่ง..."

จำได้  คนทำคลอด  คือ คุณหญิงมากาเรต  ลิน  ศรีวิสารวาจา  เป็นธิดาของพระยาพิพัฒน์โกษา
(เซเลสติโน  เอ็ม.  ซาเวียร์)  อดีตอัครราชทูตสยามประจำประเทศอิตาลี  (ถึงแก่อนิจกรรมในตำแหน่งหน้าที่ในรัชกาลที่ ๖)

พระยาพิพัฒน์ฯ บิดาได้ส่งคุณหญิงลิน ไปเรียนที่ดรงเรียนคอนแวนต์ที่ปีนัง  เมื่อเรียนจบแล้ว
บิดาได้ส่งไปเรียนต่อวิชาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน  เมื่อสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาแล้ว
เดินทางกลับมาสยามประเทศก็ได้เข้าช่วยเหลืองานของสภากาชาดไทย และที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
โดยแบ่งเวลามาทำกิจการส่วนตัวด้วย  คุณหญิงลินเป็นแพทย์หญิงคนแรกที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ
แล้วกลับมาประกอบอาชีพแพทย์ในเมืองไทย  ว่ากันว่าคุณหญิงชำนาญการรักษาโรคอย่างกว้างขวางจนเป็นที่นิยมของคนไข้สตรีทั่วไป

คุณหญิงลิน ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อ ๒๔๗๕ ด้วยอาการมันสมองอักเสบและมีไข้หวัดใหญ่แทรกซ้อน
คุณหญิงมีบุตรธิดากับเจ้าคุณศรีวิสารวาจา ๓ คน คือ นายกิตติรัตน์  ศรีวิสารวาจา
ท่านผู้หญิงมนัสนิตย์  วณิกกุล   และคุณหญิงสาวิตรี  โอสถานุเคราะห์


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 10:47


ขอบคุณค่ะ       ทำไมคุณหลวงจำได้ล่ะคะ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 11:15


        "เจ้าพี่ทุก ๆ พระองค์  พระโอรสและพระธิดาของทูลหม่อมลุง (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมกลวงนครสวรรค์ศักดิ์พินิจ ฯ)

ทรงมีพระเมตตากับข้าพเจ้าทุก ๆ พระองค์   ตั้งต้นตั้งแต่เจ้าพี่จุมพฎ(กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิต)  ทรงพระกรุณา 

บางครั้งโทรศัพท์มาเองชวนให้ไปรับประทานข้าวกับชาวต่างประเทศบ้าง   ทรงชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด   หัดให้ล่องแก่งโดยยางรถยนต์



เมื่อมาสิ้นพระชนม์ไป   ข้าพเจ้าโศกเศร้ามาก        นึกถึงพระกรุณาของท่าน       แต่หม่อมพันทิพย์ก็เมตตามาตลอดทุกวันนี้

เรียกไปรับประทานข้าวเสมอเวลาคิดถึง 


และยังได้รับแจกกระดุมเชิร์ตเพชรกับไพลินหนึ่งคู่   กระดุมทองฝังเพชรซีกตรงกลาง

เพราะทราบว่าข้าพเจ้าชอบนุ่งผ้าโจงกระเบน"







 


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 15 พ.ค. 12, 11:16
วันนั้น  ผมไปทำราชการอยู่แถวๆ นั้น  เห็นหลังหมออยู่ไวๆ ก็เลยจำได้
ในช่วง ๒๔๖๙ ถึง ๒๔๗๕  บรรดาเจ้านายและขุนางผู้ลากมากดีทั้งหลาย
ได้เรียกคุณหญิงมาทำคลอดลูกหลานเหลนกันแทบจะทั่วทั้งพระนคร  


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 11:21


อ่า...รับประทานโทษ....    ใต้เท้าเดินผ่านกระจกมาอีกคนหรือนี่

ระวังใต้เท้าจะถูกกระจกบาด


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 พ.ค. 12, 11:24
วันนั้น  ผมไปทำราชการอยู่แถวๆ นั้น  เห็นหลังหมออยู่ไวๆ ก็เลยจำได้
ในช่วง ๒๔๖๙ ถึง ๒๔๗๕  บรรดาเจ้านายและขุนางผู้ลากมากดีทั้งหลาย
ได้เรียกคุณหญิงมาทำคลอดลูกหลานเหลนกันแทบจะทั่วทั้งพระนคร  

ไปทำราชการอะไรในเวลาดังกล่าว วานบอก  :o


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 พ.ค. 12, 11:26


คุณหนุ่มสยามที่นับถือ

        กรุณาเล่าเรื่องห้องทองทีเถิดค่ะ     


เรื่องห้องทอง ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า เป็นห้องเก็บเครื่องจิวเวอรี่ต่าง ๆ กล่องนั้นทำด้วยทองคำทึบ ไม่ตีโป่งเหมือนสมัยยุคหลัง ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติผลัดกันชมไปเรื่อย ๆ ครับคุณวันดี


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 11:34



        "เจ้าพี่องค์ห้านั้นเคยสนิทสนมกันมาก   โดยเฉพาะเวลาอยู่อังกฤษ   เคยประทานของมากมายเวลาตามเสด็จซื้อของ

เท่าที่จำได้มีเข็มกลัดเนคไทเป็นรูปหมาจิ้งจอกฝังเพชรเล็ก ๆ  ตาเป็นทับทิม        อีกอันก็เป็นรูปดอกจิก  มีทับทิม  ไพลิน  และเพชร"


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 11:44


ราชสกุลเพ็ญพัฒน์


       "ข้าพเจ้ารักพี่เพ็ญมาก    เพราะทรงเป็นเจ้านายที่มีน้ำพระทัย  กรุณากับทุกคน   เป็นที่รักกับเจ้าพี่เจ้าน้องทุกคน

ท่านทรงทราบว่าข้าพเจ้าชอบสะสมอะไรก็ตามที่เป็นของทูลกระหม่อมปู่

         เมื่อตอนอายุ ๓ รอบ   ท่านประทานกระดุมเสื้อ ๑ เม็ด  เป็นพระบรมรูปทูลกระหม่อมปู่งามมาก

มีเพชรล้อม

         นอกจากนั้นยังประทานกระดุมทองเล็ก ๆ  และมีจปร  เป็นลายลงยาน้ำเงิน ๓ เม็ดอีก

         และยังประทานแหวนจปร เป็นทับทิม  มรกต  และเพชร  กับของเล็ก ๆ น้อย ๆ อีก ๒ - ๓ ชิ้น"


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 15 พ.ค. 12, 11:50


อ่า...รับประทานโทษ....    ใต้เท้าเดินผ่านกระจกมาอีกคนหรือนี่

ระวังใต้เท้าจะถูกกระจกบาด

อ้อ  หามิได้  เดินผ่านคันฉ่องทองเหลืองขัดเงามาขอรับ
ใช้การได้ดีคือกัน


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 15 พ.ค. 12, 11:53
วันนั้น  ผมไปทำราชการอยู่แถวๆ นั้น  เห็นหลังหมออยู่ไวๆ ก็เลยจำได้
ในช่วง ๒๔๖๙ ถึง ๒๔๗๕  บรรดาเจ้านายและขุนางผู้ลากมากดีทั้งหลาย
ได้เรียกคุณหญิงมาทำคลอดลูกหลานเหลนกันแทบจะทั่วทั้งพระนคร  

ไปทำราชการอะไรในเวลาดังกล่าว วานบอก  :o

ออกขุนก็มิใช่เจ้ากรมของข้าพเจ้า  ออกขุนจะมาไล่สอบสวนเอาความกับผมด้วยเหตุผลอันใด
แลก็ไม่มีเหตุอันใดที่ข้าพเจ้าจะต้องให้การแก่ออกขุน
หรือว่าออกขุนคิดจะก้าวก่ายกิจการต่างกรมกอง  มีความผิดนะ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 พ.ค. 12, 12:19
วันนั้น  ผมไปทำราชการอยู่แถวๆ นั้น  เห็นหลังหมออยู่ไวๆ ก็เลยจำได้
ในช่วง ๒๔๖๙ ถึง ๒๔๗๕  บรรดาเจ้านายและขุนางผู้ลากมากดีทั้งหลาย
ได้เรียกคุณหญิงมาทำคลอดลูกหลานเหลนกันแทบจะทั่วทั้งพระนคร  

ไปทำราชการอะไรในเวลาดังกล่าว วานบอก  :o

ออกขุนก็มิใช่เจ้ากรมของข้าพเจ้า  ออกขุนจะมาไล่สอบสวนเอาความกับผมด้วยเหตุผลอันใด
แลก็ไม่มีเหตุอันใดที่ข้าพเจ้าจะต้องให้การแก่ออกขุน
หรือว่าออกขุนคิดจะก้าวก่ายกิจการต่างกรมกอง  มีความผิดนะ


ชะรอยตอบเยี่ยงนี้ คงหลบงานมาเดินเล่นเสียหรือเปล่าหาได้ความไม่ หามิได้ หากแต่เจอกันจักได้เปิดหมวก โชว์ตะพดทักทาย... ระวังคันฉ่อง ขึ้นคราบสนิมเขียวง่าย หมองไว ให้รีบกลับมาแต่โดยไว


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 15 พ.ค. 12, 12:40
อ้ายเรามันผู้น้อย

จะมีแรงชักดึงออกขุน หลวงท่าน กลับมาสู่ยุคปัจจุบันนี้หรือไม่ ก็หาทราบได้

หรือจักต้องปล่อยให้ท่านผู้มีชื่อทั้งปวงนั้น

ใช้ชีวิตในอดีตอย่างแม่มณี

ด้วยการทุบคันฉ่องทองเหลืองขัดเงาใบนั้นดีกระมั้ง

(การนี้ สมประสงค์หลายฝ่ายนักแล)

 ;D
 ;D
 ;D


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 15:53


        "ข้าพเจ้าจำเรื่องสมัยเด็กได้เป็นตอน ๆ  ซึ่งไม่ติดต่อกันเลย        สิ่งที่จำได้คือว่าอยู่กับคุณย่า  

และท่านคงจะรักข้าพเจ้ามาก    เพราะท่านเมตตากรุณาตามใจทุกอย่าง


        จำได้ว่าครั้งหนึ่งข้าพเจ้านุ่งผ้าโจงกระเบนสีแดง   ใส่เสื้อนอกดุม ๕ เม็ดเข้าไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

ไม่ทราบที่ไหน      แต่จำได้ว่า  ได้ท่องไปเสียหลายหนว่าถ้าไปถึงให้หมอบกราบแล้วทูลว่า  คุณย่าให้เอามาถวายทูลหม่อมอาว์

(คุณย่าท่านทำแป้งหินสำหรับผัดหน้ากับน้ำอบไทย)    ซึ่งคนไทยในสมัยนั้นใช้ผัดกันเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว  เพราะจะทำให้

เย็นชื่นใจดี)


        เมื่อไปถึงข้าพเจ้าก็ได้กราบบังคมทูลดังที่ท่องไว้สำเร็จ      ยังจำได้ว่าทูลกระหม่อมอาว์รับสั่งว่า   ไปเรียนคุณย่าด้วยว่าอาว์คมไป

ข้าพเจ้ารู้สึกรักพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเหลือเกินนับแต่นั้นมา   เพราะท่านไม่ได้น่ากลัวเลยและทรงมีพระหากรุณา  เมตตาอย่างจริง ๆ"  


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ค. 12, 22:20

สะกดผิดค่ะ   พระมหากรุณา







เรียนถามคุณหนุ่มสยาม

        การทักทายด้วยตะพด  ทำอย่างไรคะ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 พ.ค. 12, 22:38
เรียนคุณวันดี

ให้ช่วยเบรกการลงข้อความเรื่องของหม่อมเจ้าไกรสิงห์ สักหน่อย ด้วยข้าพเจ้าตั้งใจเปิดกระทู้สนทนาให้กับหม่อมฯ อย่างเป็นเรื่องเป็นราวจะดีกว่าครับ ได้ข้อมูลมามากมาย ... หากแต่งงานต้องใช้ผ้ายาวหลายเมตรเตรียมไปร้านหม่อมฯ นะจ๊ะ...


ยุคหนึ่งไม้ตะพดเป็นของเล่นของชายชาวสยามครับ คิดประดิษฐ์ออกแบบให้มีรูปร่างแปลกตา ไว้อวด โก้ เก๋ มีการเลือกไม้ การเลือกความยาวโดยการกำมือต่อมือว่ายาวเท่าไร เป็นมงคล หรือเป็นโทษ

ทักทายกันคงอวดตัวไม้ตะพดกันมากกว่าที่เลือกจะแลกกันกำครับ  ::)


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 พ.ค. 12, 00:44


ฮ่ะ ๆ  ๆ  ...มีห้ามด้วยหรือนี่   ยังไม่ได้ทำพิธีมอบเลย  ว้า.......   มีคนเข้าแถวมายืมแล้วด้วย

ตกลงจ้ะ      ย่อความจบแล้วจ้ะ  ฮ่ะ ๆ  ๆ


อ่า...เรียกท่านชาย  หรือ ท่านไกรสิงห์จะดีกว่าไหม เพราะ  คำว่าหม่อมหมายถึงหลาย ๆ อย่างที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับ หม่อมเจ้าเลย


ไม้ตะพดก็ไม้ตะพด    เคยรู้จักไม้สามเหลี่ยมไหมคะ

แหมอาวุธประจำตัวถือมา  ใครจะแลกกันกำ   ไม่ใช่อิเหนานี่ตามหาญาติจากกริช



 


 


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 16 พ.ค. 12, 17:06

ชะรอยตอบเยี่ยงนี้ คงหลบงานมาเดินเล่นเสียหรือเปล่าหาได้ความไม่ หามิได้
หากแต่เจอกันจักได้เปิดหมวก โชว์ตะพดทักทาย... ระวังคันฉ่อง ขึ้นคราบสนิมเขียวง่าย หมองไว ให้รีบกลับมาแต่โดยไว

คนรับใช้ที่บ้านยังขยันขันแข็งดี  หาได้ปล่อยปละให้สนิมขึ้นเกรอะกรังที่คันฉ่องไม่
ออกขุนไม่ควรเป็นห่วงในประเด็นนี้  ส่วนเรื่องหนีงานไปเดินเล่นนั้น  หามีไม่
งานราชการที่ทางลับและทางแจ้ง  หากว่าท่านอยากทราบเสียจนอดรนทนมิได้
ข้าพเจ้าก็ยินดีเล่าให้ฟัง  แต่พอเล่าจบเห็นจะต้องปลิดชีวิตออกขุน

อ้อ  ใส่หมวกบ่อยๆ นานๆ ระวังเกศาจะราโรยจนเห็นกลางกระหม่อมนะัท่าน
ส่วนไม้ตะพด  ก็เหน็บให้จงดี  เดี๋ยวพวกวิ่งราวมันฉกเอาไปแล้ววกกลับมาตีออกขุนเอาได้นะ

ส่วนพนายไม่ต้องเป็นห่วง  ทุบคันฉ่องนี้ ก็ไปออกคันฉ่องอื่นได้
แต่เกรงว่า  พนายจะพลอยได้ข้อหาติดตัวหลายกระทง  ทำให้เสียเวลาทำนุบำรุงสวนส้มแลนกเหล็ก ;D ;D


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: lantum ที่ 16 ก.ค. 12, 10:04
กราบสวัสดีท่านผู้รู้ทุกท่าน เป็นสมากชิกใหม่ วันแรกที่เจอเวปนี้ ตามอ่านกระทู้เพลินตั้งแต่ หัวค่ำยันตี1 สนุกและมีความสุขมากที่ได้อ่านเรื่องราวเก่าๆและประวัติศาสตร์ของไทย เพราะแต่เดิมก็ชอบหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มาอ่านอยู่เสมอ
เห็นหนังสืออนุสรณ์ หม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิชัย ที่นำมาเป็นรางวัลแล้ว ใคร่อยากอ่านเหลือเกิน อยากทราบเรื่องเล่าทั้งหมด
ทำอย่างไรจะได้อ่านหรือได้ทราบงานเขียนทั้งหมดคะ คุณเจ้าของหนังสือจะกรุณาช่วยนำมาลงให้อ่านต่อจะได้หรือไม่คะ
ถ้าได้คงจะเป็นการแบ่งปันแก่ผู้อื่นอีกมากเลยคะ ยังไงก็จักขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ......ลั่นทม คะ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ค. 12, 10:34


โอ!     กำลังนึกอยู่ว่าใครหนอนำกระทู้กลับมา    สวัสดีค่ะคุณลั่นทม  ขอให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะคะ

เข้าใจว่า คุณณลเตรียมจะขยายความแล้วค่ะ  และมีรูปมากมาย

การนำเรื่องที่คัดย่อมาเล่าก็เพราะอยากเล่าเรื่องที่น่าสนใจ  พอเป็นแนวทางให้สหายออกตามหาอ่านกันเอง

ประวัติของท่านผู้มีชื่อเสียงก็มิได้เล่าหมดค่ะ  เพราะคงพิมพ์ไม่ไหว       บางท่านขัดใจก็ช่วยเขียนต่อให้บ้าง

บางคนก็ตามลิ้งค์ไป  นำความมาขยายต่อ        เพราะหลายท่านก็อยากจะอ่านกันไปต่อสกุลวงศ์อีกสามชั้น

และอาการเจ็บป่วยโดยละเอียด             ดิฉันนั้นตั้งใจจะเล่าชีวิตของท่านที่จากไปจากมุมมองที่ดิฉันมองว่าน่าสนใจ

สง่างาม  เป็นตัวอย่างอันดี        ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของเราก็ต่อสู้รับราชการผ่านขวากหนามมา      รับราชการอยู่ต่างประเทศ 

เมียและลูกเล็ก ๆ อยู่เมืองไทย   ขอพระราชทานยืมเงินพระพันปี ๒ ชั่ง   แล้วก็ประสมประเสคืนท่านโดยครบถ้วน ใช้เวลาเป็นปี

มีเรื่องที่เตือนใจมากมาย           ไว้คุยกันไปเรื่อย ๆ นะคะ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.ค. 12, 10:37
มาต้อนรับค่ะ   สนทนากันไปนานๆนะคะ


กระทู้: คำอวยพรของใคร โปรดบอกนาม
เริ่มกระทู้โดย: lantum ที่ 16 ก.ค. 12, 16:40
ขอบคุณคะที่กรุณากับสมาชิกใหม่...จะรออ่านการขยายความนะคะ  เก็บเกี่ยวข้อมูลและความรู้ไว้เล่าให้ลูกๆทั้ง3ฟัง เพราะนับวันจะหาอ่านประวัติของบุคคลที่ทำคุณงามความดี รับราชการสนองคุณแผ่นดิน ยากเข้าไปทุกที และที่สำคัญหนังสือเกี่ยวกับประวิติศาสตร์ต่างๆ ราคาแพงมาก ทำให้ความรู้ความเข้าใจทั้งหลายเข้าไปไม่ทั่วถึงทุกผู้คน และเด็กๆรุ่นใหม่สนใจประวัติศาสตร์ของเรา รากเหง้าของเราน้อยลง ลูกสาวดิฉันอยู่ป.4เธออ่านหนังสือของดิฉันเกี่ยวกับราชวงค์จักรี เธอเอาไปเล่าให้เพื่อนฟัง เป็นว่าเพื่อนเธอไม่เข้าใจและจำสับสน  แม้แต่ตอบคำถามง่ายว่ารัชกาลที่1-9 ชื่อว่าอะไรบ้าง กลับตอบไม่ถูกไม่แน่ใจคุยกันไม่รู้เรื่อง เธอมาบ่นกับดิฉันว่าทำไมเพื่อนไม่รู้ ดิฉันดีใจที่ลูกรักการอ่าน แต่ก็ห่วงใยถึงอนาคตของชาติว่าเด็กไทยเรานี้ไม่ใคร่รักการอ่าน ความรู้รอบตัวเลยน้อย สิ่งดีๆในอดีตจะเลือนหาย ที่จริงลูกสาวก็ไม่ได้อ่านแบบเอาจริงเอาจังอะไร เธออ่านไปวันละ4-5หน้าบ้าง 2-3หน้าบ้างแล้วแต่อารมณ์ แต่เธอจะชอบถามจากดิฉัน ทำให้ดิฉันต้องหมั่นหาความรู้หาอาหารสมองไว้คอยตอบคำถามคะ
คาดว่าคงจะไม่ค่อยได้สนทนาแต่คงตามอ่านไปอีกนานแน่นอนคะ มีความสุขมากที่ได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้ เต็มตื้นในใจทุกครั้ง
รู้สึกดีใจมากที่ท่านผู้รู้ กรุณาให้การต้อนรับอันอบอุ่นคะ ขอบพระคุณจริงๆคะ ....ลั่นทม