NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 240 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 06:46
|
|
๕๓
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 241 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 06:48
|
|
๑ ตัวท่านเป็นคนถือความสัตย์จริง เชื่อเพื่อนมนุษย์ที่มีความเห็นต้องกัน ว่าพูดจริงถือจริงมีความสัตย์มั่งคงจริง และรู้จักคำที่เรียกว่าออเนอร์ และการที่ท่านได้รู้เห็นมาแล้วนั้น ท่านมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับใจตามเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ทัน มัวหลงถือตามความสัตย์จริง ก็ล้มลุกคลุกคลานไปด้วยความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง จะพูดก็ไม่ออกบอกก็ไม่ได้ ท่านเกือบสิ้นความไว้วางใจในเพื่อนฝูงทีเดียว เพราะถ้าจวนตัวเข้าแล้วเขาทิ้งสัตย์ทิ้งคำ ละความอายความกระดากได้หมด ตัวท่านทิ้งไม่ได้ ก็ไปตกหลุมอยู่คนเดียว เหมือน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 242 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 06:49
|
|
๕๔
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 243 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 06:50
|
|
เหมือนหนึ่งเรื่องผู้หญิงฝรั่ง ซึ่งตัวท่านเข้าใจว่าได้ทำความดีอันหนึ่งที่ถูกอารมณ์เต็มที ที่มีสัตย์จนตลอดเวลา ก็กลับกลายเป็นความชั่วไปถึงเสียคน ไม่เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยให้ได้ไปเป็นทูตอีกต่อไปได้ แต่เมื่อท่านได้รู้ได้เห็นความประพฤติของเสนาบดีและราชทูตที่ไปแทนตัวท่านบางคนแล้ว ท่านก็สิ้นความโทมนัสเสียใจ เพราะเป็นกุศลและอกุศลเท่านั้น หาใช่ความดีความชั่วความเท็จความจริงในเหตุนี้ไม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 244 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 06:55
|
|
มาอีกแล้วนะครับ ตรงนี้จำเอาไว้ก่อน ท่านไปรักษาความสัตย์ คำสบถสาบาน ทำความดีกับผู้หญิงอีกแล้ว
เอ..คุณแอนนาหายไปนาน ยังจุกอยู่หรือเปล่า? อาหารย่อยแล้วลองเข้ามาเม้นต์หน่อยนะครับ ปรับทัศนคติไปถึงไหนแล้ว
คุณหมอเพ็ญจะลองค้นดูได้ไหมครับว่า ผู้หญิงฝรั่งคนนั้นเป็นใคร ทำไมจึงโดนกริ้วขนาดไม่โปรดให้ท่านกลับไปเป็นทูตอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 245 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 06:57
|
|
๕๕
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 246 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 06:59
|
|
เหมือนหนึ่งเจ้าพระยาสุรศักดิ์เหมือนกัน เมื่อการที่เป็นไปนั้นเป็นการรบราฆ่าฟันกัน ไม่เป็นการที่จะให้ขุ่นเคืองใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทหรือสิ้นพระมหากรุณาแล้ว แกก็ขัดขืนถือดีโต้แย้งรบกันจนสิ้นกำลัง (อ่านไม่ออก)ถือความสัตย์ความจริงไปได้ เพราะแกหวังใจในพระมหากรุณาได้ ถ้าการนั้นจะทำลายล้างพระมหากรุณาแก่ตัวแกแล้ว แม้ว่าแกจะต้องทวนสบถสาบาน หรือทำการล้างผลาญเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างไร สุดแต่ให้ต้องพระราชประสงค์แล้ว แกก็ทำได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 247 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 07:24
|
|
เหมือนหนึ่งเรื่องผู้หญิงฝรั่ง ซึ่งตัวท่านเข้าใจว่าได้ทำความดีอันหนึ่งที่ถูกอารมณ์เต็มที ที่มีสัตย์จนตลอดเวลา ก็กลับกลายเป็นความชั่วไปถึงเสียคน ไม่เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยให้ได้ไปเป็นทูตอีกต่อไปได้
ผู้หญิงฝรั่งคนนี้ฤๅจะเป็นคนเดียวกับที่ W.S.Bristowe เล่าไว้ในหนังสือเล่มเดียวกับที่อ้างไว้ใน คคห.ที่ ๒๒๓นายไปรษณีย์สตีเว่นส์คนนี้มีเบื้องหลังความเป็นมาที่ลี้ลับสับสน เขาพูดจาสำเนียงค็อกนีย์แบบคนชั้นต่ำในสังคมอังกฤษ แต่ก็อุตส่าห์สร้างชื่อไว้ในฐานะนายไปรษณีย์คนแรกของเมืองเชียงใหม่ ในช่วงขณะนั้น พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ฯ ทรงกลับมาจากฝรั่งเศสแล้ว และได้รับพระราชทานฯแต่งตั้งให้ควบคุมกรมไปรษณีย์กลางอยู่ จึงเกิดกระแสข่าวซุบซิบกันว่าเส้นสายสำคัญของสตีเว่นส์ก็คือ น้องสาวของเขาซึ่งเคยเป็น "บ้านเล็ก" ของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ฯในลอนดอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 248 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 07:35
|
|
อึมม์...ครับ ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 249 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 08:45
|
|
หน้า ๑๕
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 250 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 08:46
|
|
๕๖
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 251 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 08:47
|
|
ทุกอย่าง ที่สุดแม้จะต้องตัดไมตรีต่อตัวท่านและพี่ศรี จนถึงกลับเป็นศัตรูคอยล้างผลาญกัน แกก็ทำได้ แกจึงรักษาตัวได้ ฝ่ายท่านทำไม่ได้จึงต้องกราบถวายบังคมลาตาย เว้นแต่ไม่ยอมตายด้วยมีผู้เอาเครื่องโสโครกมาพอกกายให้ตายด้วยความเน่าเปื่อย และช้ำใจเท่านั้น
เมื่อท่านสิ้นเพื่อนที่รักและนับถือแล้ว และแลไม่เห็นผู้ใดที่จะเป็นที่พึ่งได้ หรือที่สุดเมื่อได้ความทุกข์ยากแล้ว ไม่เห็นใครที่จะมาพุดโท ช่วยปรับทุกข์ หรือพูดจาด้วยความกรุณาจนคำหนึ่ง แต่อยู่ดีๆก็ยังด่ากันเล่นได้ง่ายๆ ที่ไหนจะมีน้ำใจดำรงต่อกายอยู่ได้ ต้องกราบถวายบังคมลาอยู่เอง อย่างหนึ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 252 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 08:52
|
|
แหม …ว่าจะไปว่าทีเดียวตอนท้าย แต่ถึงตรงนี้อดไม่ได้ ผมต้องขอวิพากษ์สักหน่อยหนึ่ง
พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ท่านทรงพูดเหมือนว่าในโลกนี้ท่านมีเพื่อนอยู่คนเดียว คือเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี พอเจ้าพระยาสุรศักดิ์เลิกคบท่านกระทั่งกลายเป็นศัตรู ท่านก็จะขอลาตาย นี่แสดงว่าท่านไม่มีเพื่อนที่จะยืนเคียงท่านอื่นๆเลยในชีวิต นี่ท่านเป็นคนยังไงละนั่น จึงไม่มีใครคบนอกจากพี่ศรี ซึ่งไม่ทราบว่าไปสบถอะไรกันไว้ ด้วยถ้อยความว่ากระไร
เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ เดี๋ยวจะยาว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 253 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 08:56
|
|
๕๗
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 254 เมื่อ 30 ก.ค. 15, 08:58
|
|
๒ เมื่อตัวท่านทรงรู้สึกใจอยู่ว่า ไม่ได้ตั้งใจจะทำความสิ่งใดที่จะให้ขุ่นเคืองใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท แล้วก็ไม่ทรงทราบว่าท่านจะประพฤติตนอย่างไร ที่เขาพูดกันว่า ๙ ประโยชน์จึงจะต้องด้วยพระราชอัชฌาสัย ครั้นต้องเรียกกลับจากราชทูต ท่านต้องไปอาศัยโรงทหารเป็นที่อยู่ เมียไปอาศัยบ้านเจ้าพระยาสุรศักดิ์ และในหมู่นั้นเอง มารดาป่วย ท่านต้องไปยืมเรือปิกนิคของนาย(อ่านไม่ออก) ไปลอยเรืออยู่รักษามารดา จนมารดาถึงแก่กรรม แล้วก็อยู่เรือจนสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมพระจักรพรรดิพงศ์ทรงให้ยืมแพอยู่ จึงได้อยู่มาจนทุกวันนี้ เป็นที่คับแคบเยียดยัดกันลำบากอย่างไรสมเด็จเจ้าฟ้าก็คงจะทรงทราบอยู่แล้ว และการต่อไป ก็ไม่มีที่หวังใจได้เลยว่าจะได้ที่ๆไหนอยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|