เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 10:09



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 10:09
ย้อนกลับมาที่อเมริกา   ศึกระหว่างสีผิวยังไม่จาง
http://www.naewna.com/inter/292703

ประท้วงใหญ่ หลังอดีตตำรวจเซนต์หลุยส์พ้นผิด
วันจันทร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560, 09.50 น.

ชาวเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรีของสหรัฐ ออกมารวมตัวประท้วงเป็นวันที่สอง เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ผู้พิพากษารัฐมิสซูรีตัดสินให้อดีตตำรวจผิวขาวเมืองเซนต์หลุยส์พ้นผิดในคดียิงชายผิวดำเสียชีวิตเมื่อปี 2554

ก่อนหน้านี้มีตำรวจสหรัฐพ้นผิดมาแล้วหลายคนในคดีทำให้ประชาชนเสียชีวิต เช่น คดีตำรวจยิงนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวดำวัย 18 ปี เมื่อปี 2557 ที่เป็นชนวนเหตุประท้วงรุนแรงหลายวันในเมืองเฟอร์กูสัน คดีตำรวจรัดคอนายเอริก การ์เนอร์ วัย 43 ปี จนขาดอากาศหายใจที่นครนิวยอร์กในปีเดียวกัน คดีนายเฟรดดี เกรย์ วัย 25 ปี คอหักในรถตำรวจในปีถัดมา


ความคับแค้นครั้งนี้ จึงแปรเปลี่ยนเป็นพลัง ที่กล้าแกร่งดุจดังพายุโหม  :o

เหตุจลาจลรุนแรงในสหรัฐอเมริกากำลังลุกลามอย่างน้อย 30 เมืองทั่วประเทศ หลังชาวอเมริกันในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ลุกฮือก่อจลาจลเผาสถานที่ต่างๆ ด้วยความโกรธแค้น ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุขณะจับกุม จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีวัย 46 ปี เป็นเหตุให้เขาเสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม2563

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=7079.0;attach=73575;image)


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 10:12
ลืมกระทู้นี้ไปได้ยังไง
ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูค่ะ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 10:12
ความคับแค้นของคนผิวสีในอเมริกา

ดร.วรภัทร โตธนะเกษม เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ของคนสีคนหนึ่ง LZ  Grandeerson เป็นนักเขียนอาวุโสของ ESPN Magazine ได้สะท้อนความรู้สึกของเขา ลงใน  LA Times เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคมนี้

เขาบอกว่า สมัยเด็ก อายุเพียง ๑๒ ปี ออกไปซื้อนมกล่อง ถูกตำรวจเอาปืนจ่อหลัง จับใส่กุญแจมือ แล้วบอกว่าเขามีลักษณะ "คล้ายผู้ต้องสงสัยลักทรัพย์"

พออายุ ๒๐ กว่า จบปริญญาโท เดินอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่ง ก็ถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือ ถามว่ามาทำอะไร  เขาตอบว่าก็บ้านเขาอยู่แถวนี้ ตำรวจถามว่า ทำงานอะไรจึงมีเงินซื้อบ้านที่นี่ แล้วบอกว่าที่จับก็เพราะ เขามีลักษณะ "คล้ายผู้ต้องสงสัย"

พออายุ ๔๐ กว่า ๆ ทำงาน CNN เขาก็ถูกจับใส่กุญแจมืออีก ด้วยเหตุผลเดียวกัน

เขาบอกว่าถูกจับแบบนี้มาตลอดชีวิต ทั้ง ๆ ที่มีการศึกษาและมีอาชีพ เขาจึงสรุปว่า ทั้งหมดมาจากสาเหตุเดียว คือ "สีผิว" ของเขา

Grandeerson บอกว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยการ "ทำใจไม่ให้รู้สึกอะไร เพราะนี่คือชีวิตคนผิวดำในอเมริกา” พร้อมสะอื้นและกลั้นน้ำตา ขณะให้สัมภาษณ์สด CNN

https://www.facebook.com/106519891019858/posts/133417988330048/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 10:30
 จอร์จ ฟลอยด์วัย 46 ปี ถูกตำรวจจับกุม เพราะมีผู้แจ้งว่าเขาใช้ธนบัตร 20 ดอลล่าร์ปลอมในการซื้อของ    จอร์จถูกจับใส่กุญแจมือนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างรถตำรวจ    ยังไม่ได้ไปถึงสถานีตำรวจด้วยซ้ำ
ดีเรค โชแวน (Derek Chauvin) ตำรวจหนึ่งในจำนวน 4 คนที่จับกุม ใช้เข่ากดคอเขา ตรึงให้อยู่นิ่ง   ทั้งๆฟลอยด์ก็ถูกใส่กุญแจมือ ให้นอนคว่ำ กระดิกกระเดี้ยลุกขึ้นไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่จะวิ่งหนีหรือหยิบอาวุธมาต่อสู้เลย
ทั้งๆฟลอยด์ร้องว่าเขาหายใจไม่ออก  ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จนคำสุดท้ายคือร้องเรียกแม่ ผมหายใจไม่ออก  ตำรวจก็ยังกดแน่นอยู่เกือบ 10 นาที  จนเขาหมดสติไป  แล้วตายก่อนถึงโรงพยาบาล
ท่ามกลางเสียงร้องประท้วงจากประชาชนให้หยุดกดคอ  และการบันทึกวิดีโอจากคนมุงดูรอบๆ  ตำรวจทุกคนก็ไม่สะทกสะท้าน และไม่หยุดการทำร้ายแต่อย่างใด

คลิปต่างๆที่บันทึกไว้กลายเป็นพยานหลักฐานชั้นเยี่ยม ส่งกระจายผ่านโซเขียลมิเดียไปทั่วประเทศในพริบตา   ก่อความโกรธแค้นในหมู่ประชาชนผิวสีให้ลุกฮือขึ้นทั่วรัฐมินเนโซต้า  แพร่ไปถึงรัฐอื่นๆในวันต่อมา
เรื่องนี้กินเวลา 4 วันกว่าตำรวจทั้ง 4 คนจะถูกไล่ออก   ดีเรคถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา  ซึ่งประชาชนจำนวนมากเห็นว่าเป็นข้อหาที่เบาเกินไป 

ป.ล. ชื่อ Chauvin น่าจะอ่านว่า โชวิน  แต่ไปเปิดเว็บออกเสียงภาษาอังกฤษดู   กลับออกเสียงว่า โชแวน ค่ะ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 10:32
https://thestandard.co/george-floyd-the-man-who-stand-against-racism/?fbclid=IwAR36vWylb5dHeclk1xUivDiVGE30wH46NKdH0X7jJfFfh_Vm2ZyYgXfzErA

เป็นการฆ่าคนตายต่อหน้าฝูงชน อย่างเลือดเย็น 
เหยื่อร้องขอความช่วยเหลือจนขาดใจตาย


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 10:34
https://www.youtube.com/watch?v=FMGUAHBFmjk


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 01 มิ.ย. 20, 10:47
เน็ทป่วย,

         Chauvin เป็น common French name ครับ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 14:22
ขอบคุณค่ะคุณหมอ SILA
 
มีคนตาไวจับภาพถ่ายนายตำรวจโชแวนนี้ได้ว่าอยู่ในกลุ่มสนับสนุนลุงทรัมเปตค่ะ
หนังสือพิมพ์เริ่มลงภาพตำรวจอื่นๆ ที่เห็นใจฝ่ายประท้วง  แสดงความเสียใจกับชะตากรรมของจอร์จ ฟลอยด์ และไม่เข้าข้างตำรวจด้วยกัน
สัญลักษณ์คือการคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ภาพล่างนี้เป็นตำรวจในเมืองพอร์ตแลนด์   รัฐออเรกอนค่ะ 
ที่ดูแล้วใจคอไม่ค่อยดี  คือชุมนุมกันหนาแน่นแต่ใส่หน้ากากน้อยมาก   เดี๋ยวไวรัสก็ได้ทีหรอก


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 14:26
ตำรวจเมือง Coral Gables, รัฐฟลอริดา คุกเข่าแสดงความเสียใจต่อมรณกรรมของจอร์จ ฟลอยด์
แสดงในตัวว่าเขาไม่ใช่พวกเดียวกับตำรวจที่ทำร้ายฟลอยด์จนถึงแก่ชีวิต


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 20, 14:34
ทรัมป์กับโชแวน


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 มิ.ย. 20, 07:31
เสียงของผู้ประท้วง

Born men are we all            and one,
Brown, black by the sun      cultured.
Knowledge can be won        alike.
Only the heart differs          from man to man.

https://youtu.be/alXVRpl4N20


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 20, 10:59
;D

๏ ฝูงชนกำเนิดคล้าย                 คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ               แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน                   กันหมด
เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง                    ห่อนแก้ฤาไหว ๚ะ๛

Born men are we all            and one,
Brown, black by the sun      cultured.
Knowledge can be won        alike.
Only the heart differs          from man to man.


พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕ แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 20, 12:16
ผ่านมา 6 วันนับแต่ฟลอยด์เสียชีวิต    การประท้วงยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติ

https://www.youtube.com/watch?v=y2P64nRK_pc



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 20, 14:21
ผลข้างเคียงจากจลาจล  คือปล้นสะดมร้านรวงต่างๆ กลางวันแสกๆ  ต่อหน้าวิดีโอและผู้คน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ซานตามอนิก้า ในคาลิฟอร์เนีย

https://www.facebook.com/CBSLA/videos/261679038579643/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 20, 14:27
คลิปนี้แสดงถึงเหตุการณ์ที่ฟลอยด์ถูกจับกุม  โดยเขาไม่มีท่าทีขัดขืน   ไปจนถึงวาระสุดท้ายที่ขาดใจใต้เข่าของตำรวจ
ผลที่ตามมาจากนั้นคือการประท้วงครั้งใหญ่
https://www.facebook.com/NowThisDaily/videos/687364815178466/?v=261679038579643


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 มิ.ย. 20, 13:40
อเมริกาจลาจลในสายตานักข่าวสาวชาวไทย

https://youtu.be/5-5iHT6AM3s


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 20, 14:50
ฟลอยด์ติดเชื้อโควิดมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 เดือน แต่ไม่แสดงอาการ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 มิ.ย. 20, 15:53
อเมริกาจลาจลในสายตานักข่าวสาวชาวไทย

ทดแทนโดยคลิปที่มีเนื้อหาเดียวกัน โดยนักข่าวสาวคนเดิม  ;)

https://youtu.be/b9yIag0urMM


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 20, 16:06
THE STANDARD

UPDATE: ทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นาย คดี จอร์จ ฟลอยด์ แล้ว อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี
.
วานนี้ (3 มิถุนายน) ทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหากับอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นาย ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ในฐานให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนให้เกิดการฆาตกรรม ขณะที่ Derek Chauvin อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำเกินกว่าเหตุ ใช้เข่ากดต้นคอของฟลอยด์จนเขาเสียชีวิต ถูกปรับเพิ่มโทษ มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน หรืออาจเป็นเพราะสิ่งเร้าจึงลงมือฆ่า
.
ทั้ง Derek Chauvin, Thomas Kiernan Lane, Alexander Kueng และ Tou Nmn Thao คืออดีตนายตำรวจทั้ง 4 นาย ที่มีส่วนปลุกกระแสต่อต้านการเหยียดสีผิวในสังคมอเมริกันในช่วงเวลานี้ โดยทั้ง 4 นาย ถูกปลดออกจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา หรือ 1 วัน หลังจากที่ฟลอยด์เสียชีวิตแล้ว
.
ทางการเคาน์ตี Hennepin ผู้ดูแลคดีความในครั้งนี้ ระบุว่า อดีตนายตำรวจทั้ง 3 นาย ที่ถูกตั้งข้อหานี้ได้รับการตั้งเงินประกันตัว 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31.6 ล้านบาท) โดยทั้ง 4 นาย อาจต้องโทษจำคุกสูงสุดนานถึง 40 ปี
.
เบื้องต้น Keith Ellison อัยการรัฐมินนิโซตา เรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสันติ พร้อมระบุว่า คดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกต้ังข้อหาเป็นงานที่ค่อนข้างยากและต้องใช้ความรอบคอบสูงมาก โดยยืนยันว่า แรงกดดันจากกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงไม่ได้เป็นปัจจัยที่ทำให้ทางการปรับเพิ่มโทษหรือตั้งข้อกล่าวหาอดีตนายตำรวจทั้ง 4 นายแต่อย่างใด
.
Ellison เผยว่า “ถึงครอบครัวฟลอยด์ ถึงชุมชนอันเป็นที่รัก และถึงทุกคนที่กำลังเฝ้าติดตามประเด็นนี้อยู่ ผมจะบอกว่า จอร์จ ฟลอยด์ สำคัญ เขาเป็นที่รัก ครอบครัวของเขาเองก็สำคัญ ชีวิตของเขามีคุณค่า และเราจะนำความยุติธรรมคืนให้แก่เขาและคุณทุกคน เราจะหาสิ่งนั้นให้พบ”
.
ขณะที่ Tim Walz ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา ระบุว่า “การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ เป็นเสมือนกับอาการของโรคร้าย ที่ต่อให้คุณตื่นขึ้นมา โรคของการเหยียดนี้ก็จะไม่หายไป นี่เป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันแก้ไข และเรายังมีงานหนักอีกมากมายรออยู่เบื้องหน้า”



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 มิ.ย. 20, 16:16
เหตุการณ์นี้น่าจะยาว และเป็นตำนานที่จะถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันของมนุษยชาติ

หากแยกเป็นกระทู้ใหม่ "๒๐๒๐ อเมริกาจลาจล" น่าจะเหมาะสม
 :D


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 20, 16:58
แยกแล้วค่ะ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 มิ.ย. 20, 17:01
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=7125.0;attach=73582;image)


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 20, 17:54
https://www.youtube.com/watch?v=lHnMVerAsM4


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มิ.ย. 20, 07:42
น้องเนย เล่าที่มาที่ไปของอเมริกาจลาจล   รวมทั้งประวัติการเหยียดผิว  ฟังเข้าใจง่าย

https://www.youtube.com/watch?v=Y4LKpVGwtvo


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 มิ.ย. 20, 19:30
ปฏิกิริยาจากเพื่อนบ้าน

นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา วัย ๔๘ ปี ออกมาแสดงจุดยืนและไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา

โดยนายทรูโด ร่วมชุมนุมต่อต้านการเหยียดสีผิว ที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงออตตาวา เมืองหลวงของแคนาดา เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ด้วยการสวมหน้ากากสีดำนั่งคุกเข่าข้างเดียวกับพื้น ตามรายงานระบุว่าเขาได้นั่งในท่าดังกล่าวเป็นเวลา ๘ นาที ๔๖ วินาที เป็นเวลาเท่ากับช่วงที่นายจอร์จ ฟลอยด์ ถูกตำรวจใช้เข่ากดที่คอจนขาดหายใจ

จากนั้น นายกฯทรูโด ได้เดินทักทายผู้ชุมนุม แต่ไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เขาถูกบางฝ่ายวิจารณ์การร่วมชุมนุม แต่กลับนิ่งเฉยต่อการเร่งรัดการกระทำความรุนแรงจากตำรวจในแคนาดา ซึ่งไม่ต่างจากที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ อาทิ คดีแชนเทล มัวร์ หญิงชาวแคนาดา วัย ๒๖ ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

https://www.facebook.com/153951094974177/posts/1310404499328825/

https://youtu.be/gu_nJtG1VZs


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 20, 09:36
ยังไม่มีท่าทีว่าการประท้วงจะสงบลงง่ายๆ  อย่างในภาพข้างล่างนี้ ผู้ชุมนุมก็ยังประท้วงกันอย่างสงบอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ขณะที่ทรัมป์เองส่งทหารเข้ามาคุมสถานการณ์   เพื่อตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรงยิ่งกว่า
ถ้าลุงแกเคยอ่านนิทานอีสป คงจะรู้จักเรื่องน่ำผึ้งหยดเดียว 

ความจริง ถ้าแยกระหว่างการชุมนุมประท้วงโดยสงบ กับการแทรกแซงของพวกโจรผู้ร้ายที่ฉวยโอกาสปล้นสะดมออกจากกัน   เหตุการณ์อาจจะไม่บานปลาย
แต่นี่เห็นทีจะไปไกลออกทะเลไปทั่วโลกแล้ว


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 มิ.ย. 20, 10:34
หลังจากจอร์จ ฟลอยด์ ชายอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน เสียชีวิตขณะถูกตำรวจเมืองมินนีแอโปลิสจับกุมรุนแรงเมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม โดยมีวิดีโอบันทึกเหตุการณ์แสดงภาพเขาโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดทับลำคอเขาลงกับพื้นถนน การประท้วงในสหรัฐฯ รุนแรงจนกลายเป็นการก่อจลาจลในหลายเมือง เกิดเป็นกระแสเคลื่อนไหวรณรงค์เพื่อคนผิวดำ 'Black Lives Matter' ไปทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ที่ออสเตรเลีย มีคนนับหมื่นออกชุมนุมประท้วงที่นครซิดนีย์ บริสเบน เมลเบิร์น โฮบาร์ต แอดิเลด และเมืองอื่น ๆ แม้ว่าจะมีคำเตือนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่สถานีรถไฟกลางที่นครซิดนีย์ เกิดการปะทะรุนแรงเล็กน้อยในช่วงค่ำ โดยตำรวจใช้สเปรย์พริกไทยในการควบคุมฝูงชน แต่ตำรวจบอกว่ามีการจับกุมผู้ประท้วงแค่ ๓ รายเท่านั้น จากผู้ประท้วงทั้งหมด ๒๐,๐๐๐ คน ตอนแรกศาลตัดสินว่าการประท้วงที่นครซิดนีย์ผิดกฎหมาย ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะกลับคำตัดสิน ๑๕ นาทีก่อนการประท้วงมีกำหนดเริ่มต้น โดยอนุญาตให้คนรวมตัวกันได้ ๕,๐๐๐ คน

ที่จัตุรัสรัฐสภาบริเวณใจกลางกรุงลอนดอนมีผู้ประท้วงไปรวมตัวกันหลายพันคนแล้ว โดยส่วนใหญ่ใส่ผ้าคลุมหน้า และมีหลายคนที่ใส่ถุงมือด้วย ป้ายประท้วงหลายชิ้นเป็นการสื่อไปถึงสถานการณ์โควิด-๑๙ อาทิ "มันมีไวรัสที่อันตรายกว่าโควิด-๑๙ เรียกว่าการเหยียดเชื้อชาติ"

เมื่อคืนวันศุกร์ผู้จัดการประท้วง 'Black Lives Matter' ในเบลฟาสต์และลอนดอนเดอร์รีในไอร์แลนด์เหนือบอกว่าจะจัดการชุมนุมแบบเว้นระยะห่างทางสังคม และในขณะนี้ ตำรวจไอร์แลนด์เหนือบอกว่าพวกเขาได้ตั้งด่านเพื่อหยุดรถผู้ที่จะเดินทางไปประท้วง และเตือนให้กลับบ้าน หรือไม่ก็จะโดนโทษปรับ

https://www.bbc.com/thai/international-52950702


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 20, 18:55
ประท้วงที่อังกฤษ

https://youtu.be/uK_sHdtgdwI


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มิ.ย. 20, 08:55
กิจกรรมการประท้วงหนึ่งที่มีทั้งในสหรัฐ และยุโรป คือการโค่นรูปปั้นที่เป็นอนุสรณ์สถานบุคคลที่เคยเหยียดสีผิวและเชื้อชาติมาก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่เรียกว่า ชีวิตคนดำก็มีค่า หรือ Black Lives Matter

ที่เมืองบริสทอล ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ฝูงชนช่วยกันใช้เชือกผูกรูปปั้น เอ็ดเวิร์ด โคลสตัน นักค้าทาสคนสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ ยุคคริสต์ศตวรรษที่ ๑๗ ก่อนออกแรงดึงให้โค่นลงมา ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่โห่ร้องยินดี

จากนั้นผู้ประท้วงทำท่าเอาเข่ากดลงที่คอของรูปปั้นนาน ๘ นาที เหมือนกับที่จอร์จ ฟลอยด์ ถูกตำรวจกระทำจนขาดอากาศหายใจตาย แล้วแบกลากเอารูปปั้นไปโยนทิ้งน้ำ ใกล้อ่าวบริสทอล ท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงปรบมือเกรียวกราว

เอ็ดเวิร์ด โคลสตัน เป็นลูกหลานตระกูลพ่อค้าที่มั่งคั่ง ดำเนินกิจการบริษัทผูกขาดค้าทาส ในชื่อ รอยัล แอฟริกัน คอมพานี ขนส่งทาสจากแอฟริกาข้ามมหาสมุทร เข้ามาอังกฤษ และส่งทาสบางส่วนไปทำไร่อ้อยในแถบทะเลแคริบเบียน และทำไร่ยาสูบที่รัฐเวอร์จิเนียในอเมริกา

รูปปั้นโคลสตันเป็นประเด็นถกเถียงของชาวเมืองมานานแล้ว เนื่องจากเป็นบุคคลที่ค้าทาส แต่นำเงินมามอบให้การกุศลและพัฒนาจำนวนมาก กระทั่งเกิดกระแสจอร์จ ฟลอยด์ ทำให้รูปปั้นถูกโค่นในที่สุด

https://youtu.be/uX9G5Lk3Rnk


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มิ.ย. 20, 08:59
ที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงเบลเยียม อนุสาวรีย์กษัตริย์ ลีโอโพลด์ที่ ๒ ถูกพ่นสีที่ฐานว่า "shame" หรือ "น่าละอาย" เป็นสัญลักษณ์ต่อต้าน ว่ากษัตริย์พระองค์นี้เคยล่าอาณานิคมและปกครองคองโก เมื่อ ค.ศ. ๑๘๘๕ - ๑๙๐๘ สังหารผู้ต่อต้านและเรียกร้องเอกราช ทำให้ชาวคองโกในแอฟริกาล้มตายเป็นจำนวนมาก บ้างว่าถึง ๑๐ ล้านคน


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มิ.ย. 20, 09:01
ที่สหรัฐอเมริกา รูปปั้นนายพล วิลเลียมส์ คาร์เตอร์ วิกแฮม ผู้มีบทบาทในสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ซึ่งติดตั้งมานานตั้งแต่ ค.ศ. ๑๘๙๑ กลางเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย ถูกดึงโค่นลงมากองกับพื้น ซ้ำถูกพ่นสีที่ใบหน้า เป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการรังแกคนผิวดำ

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_4273584


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มิ.ย. 20, 14:01
พิธีศพของจอร์จ ฟลอยด์ ในรัฐนอร์ธ คาโรไลน่า
https://www.youtube.com/watch?v=Ye14Wnw9S_I


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มิ.ย. 20, 16:08
THE STANDARD

สภาเมืองมินนีแอโปลิส มีมติเตรียมยุบหน่วยงานตำรวจประจำเมือง หลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์
.
เมื่อวานนี้ (8 มิถุนายน) สภาเมืองมินนีแอโปลิส รัฐมินนิโซตาของสหรัฐฯ มีมติ 9 จาก 12 เสียง เตรียมยุบหน่วยงานตำรวจประจำเมือง พร้อมส่งเสริมระบบความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะใหม่ หลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ พลเมืองอเมริกันผู้ตกเป็นเหยื่อของการเลือกปฏิบัติและการกระทำเกินกว่าเหตุของผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นเหตุทำให้เกิดกระแสประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
.
โดย Jeremiah Ellison หนึ่งในสมาชิกสภาเมืองระบุว่า “สภากำลังจะเตรียมยุบหน่วยงานตำรวจนี้” ขณะที่ Lisa Bender ประธานสภาเมืองกล่าวยืนยันอีกเสียงว่า “เราอยู่ตรงนี้เพราะเราได้ยินเสียงของคุณ เราเดินมาถึงจุดนี้เพราะ จอร์จ ฟลอยด์ ถูกพรากชีวิตไปเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรามาถึงจุดนี้เพราะในเมืองมินนีแอโปลิสและเมืองอื่นๆ ทั่วสหรัฐฯ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะไม่สามารถทำให้ชุมชนของเราปลอดภัยได้อีกต่อไป”
.
ทางการเตรียมยุบหน่วยงานดังกล่าว พร้อมลงทุนในระบบที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะเพิ่มมากขึ้น นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมอเมริกัน หลังมีพลเมืองแอฟริกัน-อเมริกัน รวมถึงคนผิวสีอื่นๆ จำนวนมากตกเป็นเหยื่อความรุนแรงและอคติของเจ้าหน้าที่รัฐ จนกลายเป็นหนึ่งในปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมอเมริกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
.
อ้างอิง:
- https://www.theguardian.com/…/george-floyd-protests-anti-ra…
- https://www.aljazeera.com/…/protests-police-brutality-conti…
- https://globalnews.ca/…/george-floyd-minneapolis-police-co…/
.
ภาพ: Jim Vondruska / NurPhoto via Getty Images
.
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#BlackLivesMatter #GeorgeFloyd #News #TheStandardCo


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 มิ.ย. 20, 09:03
8 มิถุนายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุชายขับรถพุ่งชนกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านการเหยียดผิว จากกรณีที่จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่เสียชีวิตหลังจากตำรวจใช้เข่ากดคอเขาไว้กับพื้นนานเกือบ 9 นาที ในเมืองซีแอตเทิล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
https://www.naewna.com/inter/497991


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 10 มิ.ย. 20, 21:09
เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจจริงๆค่ะ ไทยเองก็มักจะมีเรื่องการเยียดแบบนี้ก็ไม่รุนแรงอะไรเท่าเมืองนอก


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 มิ.ย. 20, 08:53
ทหารกับการเมือง ตัวอย่างที่ดีจากสหรัฐอเมริกา  ;D

พลเอก มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมของสหรัฐฯ กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ตนทำผิดที่เดินร่วมคณะไปกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากทำเนียบขาวไปยังโบสถ์ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสวนลาฟาเยตต์ ระหว่างที่กำลังเกิดการประท้วงบริเวณหน้าทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

พลเอกมิลลีย์ กล่าวในพิธีจบการศึกษาของมหาวิทยาลัย National Defense ว่า การที่ตนไปปรากฏอยู่ที่นั่น ทำให้เกิดภาพว่ากองทัพกำลังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายในประเทศ พลเอกมิลลีย์ กล่าวว่า กองทัพไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และในฐานะที่เป็นบุคคลในเครื่องแบบ ตนถือว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และเป็นบทเรียนสำหรับตนซึ่งหวังว่าทุกคนจะได้เรียนรู้จากเรื่องนี้

ประธานาธิบดีทรัมป์ และคณะเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เดินเท้าจากทำเนียบขาวไปยังโบสถ์ เซนต์ จอห์นส เมือวันที่ ๑ มิถุนายน ไม่นานหลังจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมในบริเวณสวนลาฟาเยตต์เพื่อเปิดทางให้ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งจบลงด้วยการถ่ายรูปหน้าโบสถ์แห่งนั้น โดยประธานาธิบดีทรัมป์ได้ถือคัมภีร์ไบเบิ้ลไว้ขณะตั้งท่าให้สื่อมวลชนถ่ายรูปด้วย

ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มาร์ค เอสเปอร์ ออกมากล่าวเช่นกันว่า ไม่สนับสนุนการใช้กำลังทหารเพื่อสลายการชุมนุมทั่วประเทศ ซึ่งเป็นแนวคิดของผู้นำสหรัฐฯ และว่าวิธีดังกล่าวควรจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะเลือกมาใช้หากสถานการณ์เลวร้ายเกินกว่าควบคุม แต่ในขณะนี้ยังไม่เป็นเช่นนั้น

https://www.voathai.com/a/mike-miley-apologizes-on-trump-companion/5459115.html


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 มิ.ย. 20, 19:36
รูปปั้น คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส หลายแห่งทั่วสหรัฐฯ ถูกทำลาย เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับชนพื้นเมือง
.
วันนี้ (11 มิถุนายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าหลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ที่ปลุกกระแสต่อต้านการเหยียดสีผิว #BlackLivesMatter ขึ้นอีกครั้งในสังคมอเมริกัน กลายเป็นเเรงขับเคลื่อนให้พลเมืองจำนวนมากต่างออกมาต่อต้านความอยุติธรรมในมิติอื่นๆ ของสังคม โดยบรรดารูปปั้นและอนุสรณ์สถานที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของการกดขี่ การค้าทาส การเหยียดเชื้อชาติ ต่างทยอยถูกทำลาย
.
รูปปั้น คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส คือหนึ่งในนั้น มีรายงานว่ารูปปั้นโคลัมบัสหลายแห่งทั่วประเทศถูกทำลายลงเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับชนพื้นเมืองที่เสียชีวิต กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่าเขาก็ไม่ต่างอะไรกับฆาตกรที่เข่นฆ่าชาวอินเดียนแดงไปเป็นจำนวนมาก รูปปั้นของเขาบางแห่งบ้างก็ถูกตัดหัว บ้างก็ถูกโยนลงทะเลสาบ บ้างก็ถูกลากไปตามพื้นถนน
.
ทางด้าน มาร์ติน วอล์ช นายกเทศมนตรีเมืองบอสตัน หนึ่งในเมืองที่รูปปั้นของโคลัมบัสถูกทำลาย ระบุว่ารูปปั้นดังกล่าวถูกตั้งเป็นครั้งแรกในเมืองนี้เมื่อปี 1979 ก่อนที่จะถูกทำลายด้วยการพ่นสีสเปรย์เมื่อปี 2015 รูปปั้นที่เพิ่งจะถูกตัดหัวนี้เป็นรูปปั้นใหม่ที่ถูกนำมาตั้งแทนรูปปั้นเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งในเมืองบอสตันรวมถึงอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศสะท้อนให้เราเห็นว่าอาจถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์อีกครั้งเพื่อทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
.
อ้างอิง:
- https://www.cbsnews.com/…/christopher-columbus-statue-bost…/
- https://www.theguardian.com/…/christopher-columbus-statue-t…
- https://edition.cnn.com/…/christopher-columbus-s…/index.html
.
ภาพ: Tim Bradbury / Getty Images
.
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#ChristopherColumbus #News #TheStandardCo


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 มิ.ย. 20, 20:19
คุณกรกิจ ดิษฐาน เล่าถึงด้านมืดของโคลัมบัสไว้ดังนี้

วีรบุรุษที่ถูกโค่นล้ม


ถ้าใครเคยอ่านหนังสือ A People's History of the United States จะทราบว่าบทแรกคือการลบล้างภาพลักษณ์ที่เราเคยเข้าใจเกี่ยวกับคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

ในสายตาคนคนทั่วไป โคลัมบัสคือผู้คนพบทวีปอเมริกา แต่แม้สถานะนี้ของเขาก็ยังถูกคัดค้าน เพราะอเมริกามีผู้ตั้งถิ่นฐานอยู่แล้ว (มิพักจะเอ่ยถึงชาวไวกิ้งที่น่าจะเป็นชาวยุโรปที่เดินทางไปถึงก่อนโคลัมบัสเสียอีก)  

A People's History เป็นหนังสือแนวประวัติศาสตร์แมส ๆ ที่ขายดิบขายดีที่สุดในสหรัฐ และเปลี่ยนมุมมองของผู้คนเกี่ยวกับฮีโร่ในประวัติศาสตร์  

ถ้าเรามองจากแนวคิดยุโรปเป็นศูนย์กลางโลก โคลัมบัสคือฮีโร่ที่ "ค้นพบ" และนำอารยธรรมาสู่ดินแดนป่าดอยอย่างอมเริกา แต่ในศตวรรษที่ ๒๐ ที่เราเน้นความหลากหลายทางวัฒนธรรม เราจะเห็นว่าโคลัมบัสเป็นผู้ทำลายมากกว่าสร้างอารยธรรม

โคลัมบัสถูกตั้งข้อหาว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวพื้นเมืองอเมริกา จับพวกเขามาเป็นทาส ทำลายวัฒนธรรม ยัดเยียดศาสนาใหม่ แต่ยังนำโรคภัยจากโลกเก่าที่โลกใหม่ไม่รู้จักมาระบาด ทำให้คนพื้นเมืองบางเผ่าถึงกับสูญพันธุ์ไป

ตอนแรกที่โคลัมบัสพบกับคนพื้นเมืองอเมริกัน (เผ่าตาอิโน) เขาเล่าว่า

"พวกเขาแลกเปลี่ยนกับเราและมอบทุกสิ่งที่พวกเขามีด้วยความปรารถนาดี ... พวกเขายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้เราพอใจ ... พวกเขาอ่อนโยนมากและไม่รู้ว่าสิ่งใดเป็นความชั่ว พวกเขาไม่ฆ่าหรือขโมย ... ทั้งโลกโลกไม่มีคนที่ดีกว่านี้ ... พวกเขารักเพื่อนบ้านเหมือนตัวเอง และพวกเขาก็พูดจาไพเราะที่สุดในโลก อ่อนโยนและหัวเราะอยู่เสมอ"

โคลัมบัสเขียนไปถึงพระเจ้ากรุงสเปนเสียหยาดเยิ้ม แต่ในทางปฏิบัติเขากลับบอกว่า "คนพวกนี้จะเป็นข้ารับใช้ได้ดียิ่ง ใช้คนสัก ๕๐ คน ก็ปราบอยู่แล้ว แล้วบังคับให้ทำอะไรก็ได้ตามที่เราต้องการ"
 
ในการพบกันครั้งที่ ๒โคลัมบัสเริ่มถามหาบรรณาการ เกณฑ์ให้ชาวเผ่าต้องหาของมา "ถวาย" แก่เขาหากไม่ได้ตามต้องการจะถูกตัดมือ ชนเผ่าที่โคลัมบัสชมว่าอ่อนโยนและไม่ฆ่า ถูกเขากดขี่จนต้องลุกขึ้นมาจับอาวุธต่อต้าน

เฉพาะตอนที่โคลัมบัสเป็นข้าหลวงเฮตินั้น มีคนพื้นเมืองเผ่าอาราวักตายไปถึง ๑๒๕,๐๐๐ คนจากประชากร ๒๕๐,๐๐๐ - ๓๐๐,๐๐๐ คน ส่วนใหญ่ตายเพราะถูกเกณฑ์แรงงานไปทำเหมืองทองที่ไม่มีอยู่จริง เพราะโคลัมบัสไปคุยฟุ้งว่าจะหา "เมืองทอง" มาถวายพระเจ้ากรุงสเปน

เพราะความฝันเฟื่องเรื่องอินเดียและเมืองทองของโคลัมบัสทำให้คนตายเป็นเบือ เราจะเห็นได้ว่าความฝันที่อิงกับความละโมบนั้นอันตรายเพียงใด ความฝันเรื่องเมืองทองนี้ยังผลักดันให้นักล่าชาวสเปนรุ่นหลังอย่าง กอร์เตส และปิซาร์โร ทำลายอาณาจักรแอซเท็กและอินคาจนพินาศไป

ว่าโดยคร่าว ๆ ในช่วงเวลาระหว่างปี ๑๔๙๔ ที่โคลัมบัส "พบอเมริกา" จนถึงปี ๑๕๐๘  ชาวตาอิโน ๓ ล้านคนตายสิ้นจากสงคราม การเกณฑ์แรงงาน และการจับลงเป็นทาส บาทหลวงชาวสเปน บาร์โตโลเมโอ เด ลาส กาซัส (Bartolomé de las Casas) ที่เห็นใจคนพื้นเมืองบันทึกด้วยความหดหู่ใจว่า "ใครเล่าในอนาคตจะเชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้น?"

แน่นอนว่าตอนนี้มีหลายคนเชื่อ และเริ่มขบวนการต่อต้านวันรำลึกโคลัมบัส ในช่วงนี้เริ่มจะเห็นการทำลายอนุสรณ์โคลัมบัส บทความเปิดโปงทางสื่อมากมาย

นักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่จึงไม่มองโคลัมบัสเป็นฮีโร่ แต่มองว่าเขาคืออาชญากรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และมีเสียงเรียกร้องให้ยุติการเฉลิมฉลองวันโคลัมบัส ๑๔ ตุลาคม โดยเปลี่ยนเป็นวันรำลึกการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

แน่นอนว่า มีผู้โต้แย้งแทนโคลัมบัสเช่นกัน และมีผู้บอกว่าในสิ่งที่โคลัมบัสทำถือว่าชอบแล้วด้วยมาตรฐานคนยุคเดียวกัน อย่าใช้ค่านิยมของคนในศตวรรษเราไปวัดเขา

แล้วเราเห็นว่าเราควรมองอดีตด้วยค่านิยมปัจจุบันหรือไม่?

https://www.facebook.com/719626953/posts/10156490619651954/

https://youtu.be/GCir-NX0zdQ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 มิ.ย. 20, 10:15
ม็อบสหรัฐฯ บุกทำลายศูนย์ตรวจโควิดกว่า 70 แห่ง หวั่นระบาดเกินควบคุม

ผู้ประท้วงเหยียดผิวในสหรัฐอเมริกา บุกทำลายศูนย์ตรวจโควิด-19 ไปมากกว่า 70 แห่ง จนกระทั่งทำเนียบขาวต้องออกมาแสดงความกังวล ว่าอาจจะทำให้ศักยภาพในการตรวจหายเชื้อลดลงอย่างหนัก และการยับยั้งควบคุมการแพร่ระบาดก็ยากเกิดควบคุมมากยิ่งขึ้นไปอีก

ล่าสุดทางการต้องสั่งให้สถานพยาบาล ต้องเก็บเครื่องมือบางอย่างออกมา และกระจายออกไปยังพื้นที่ชนบทหลีกเสี่ยงความเสียหายและเพิ่มความทั่วถึงในการให้บริการทางการแพทย์

https://ch3plus.com/news/category/192856?fbclid=IwAR0dhb_y8grTUAQz1dYskyWYKDgkmkeGAPGR7S8f674JtjpU9ybWK0ZD7OM


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 มิ.ย. 20, 19:32
ชุมนุมประท้วงกรณีจอร์จ ฟลอยด์ยังไม่มีท่าทีว่าสงบ   คดีตำรวจผิวขาวยิงคนดำตายก็เป็นโรคแทรกซ้อนขึ้นมาอีกแล้ว
เชิญอ่านในลิ้งค์ค่ะ

https://mgronline.com/around/detail/9630000061540


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 มิ.ย. 20, 09:08
https://www.youtube.com/watch?v=KT01znN_PiU


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 มิ.ย. 20, 09:12
การประท้วงในอเมริกายังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด    ตรงกันข้ามกับกระจายแพร่หลายไปเรื่อยๆ   แม้แต่ในท้องถิ่นชุมชนของคนขาวเอง  อย่างภาพข้างล่างนี้  เกิดขึ้นในคาลิฟอร์เนีย 
คนผิวขาวออกมาร่วมประท้วงเข้าข้างคนดำ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 มิ.ย. 20, 08:37
ทรัมป์ไม่ปลื้ม สถานทูตที่เกาหลีใต้ยอมปลดป้าย Black Lives Matter
สถานทูตสหรัฐฯ นำป้ายข้อความ Black Lives Matter ลงจากอาคาร ท่ามกลางรายงานระบุว่า การขึ้นป้ายข้อความต่อต้านความรุนแรงต่อคนผิวดำสร้างความไม่พอใจให้กับผู้นำสหรัฐฯ

เว็บไซต์ฟอร์จูน รายงานวันที่ 15 มิ.ย. อ้างแหล่งข่าวระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่พอใจต่อกรณีสถานทูตสหรัฐฯ ประจำเกาหลีใต้ ขึ้นป้ายข้อความ Black Lives Matter เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผู้ประท้วงที่ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนผิวดำ จนทางสถานทูตต้องปลดป้ายดังกล่าวลง

https://www.thairath.co.th/news/foreign/1869701

ลุงแกก็ช่างสร้างข่าวลดคะแนนเลือกตั้งให้ตัวเองได้บ่อยจริงๆ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 20, 10:46
จาก Facebook ของคุณปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์

อเมริกาจบแล้วครับ:

รูปปั้นหรืออนุสาวรีย์อดีต ๒ ประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งก่อตั้งอเมริกามาคือจอร์จ วอชิงตัน ผู้เป็นที่มาของกรุง *วอชิงตัน* เมืองหลวงของอเมริกาและโทมัส เจฟเฟอร์สัน ผู้ร่างแถลงการณ์ประกาศอิสรภาพของอเมริกาเจอนักประท้วงเรียกร้องสิทธิคนผิวดำทำลายเสียแล้ว

สรุปว่าอดีตประธานาธิบดีอเมริกา ๒ คนนี้แม้จะมีนักรัฐศาสตร์ชาวไทยนับถือมาก อ้างถึงมาก   ก็อยู่ในกลุ่มเหยียดผิวเช่นเดียวกัน กล่าวได้ว่าการเหยียดผิวมีมาตั้งแต่เริ่มตั้งสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว

ทั้งประธานาธิบดีที่เหลือแต่รูปปั้น ทั้งประธานาธิบดีที่ยังมีชีวิตอยู่ของอเมริกาล้วนแต่ถูกกล่าวหาว่าเหยียดผิวแทบทั้งนั้นครับ ปัจจุบัน ประธานาธิบดีเป็นๆ ของอเมริกาก็ยังถูกกล่าวหาว่าส่งเสริมการเหยียดคนผิวดำ คนอินเดียนแดงและคนเอเซียเหมือนเดิม แถมชอบส่งทหารไปทำสงครามบั่นทอนเสถียรภาพทั่วโลกอีกต่างหาก

ถ้ารูปปั้นหรืออนุสาวรีย์ประธานาธิบดีผู้ก่อตั้งอเมริกาโดนทำลายแบบนี้ จะมีใครเป็นต้นแบบประชาธิปไตยดีๆ ของอเมริกาหลงเหลืออยู่อีกครับ?

รายละเอียดโปรดดูครับ https://www.blockdit.com/articles/5eee1f6f031a4e0cb26f815d


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 20, 10:56
โทมัส เจฟเฟอร์สัน เป็น ประธานาธิบดีคนที่ 3  ของอเมริกา  ผู้ร่างคำประกาศอิสรภาพที่คนอเมริกันภูมิใจกันมาทุกวันนี้
ตอนหนึ่งในประกาศคือ มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน
สิ่งที่อเมริกากวาดไปเก็บไว้ใต้พรมมานานคือเขาเป็นนักค้าทาส   เป็นคนเหยียดผิว   เอาทาสผิวดำเป็นเมียเก็บ  จนมีลูกครึ่ง นอกกฎหมายด้วยกันหลายคน   โดยไม่เคยเปิดเผยต่อสังคม
ในพอร์ตแลนด์  อนุสาวรีย์ของเจฟเฟอร์สันโดนโค่นลงมาแล้ว


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 20, 12:44
     ในยุค 200 ปีก่อน   อเมริกาค้าทาสกันอย่างเสรี เหมือนค้าขายสัตว์เลี้ยง  คำนี้อาจจะแรงไปหน่อยแต่ก็ให้ภาพที่ตรงที่สุด   เพราะคนดำในสายตาคนขาวไม่ได้มีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับพวกเขา   อย่าว่าแต่คนดำ คนผิวสีอื่นๆเช่นอินเดียนแดงก็ถูกมองว่าเป็นคนป่าเถื่อน  ครอบครองดินแดนอุดมสมบูรณ์ที่ควรจะเป็นคนของคนขาว
     ทั้งๆถูกมองว่าไม่ได้เป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน    สัญชาตญาณมืดของผู้ชายก็ทำให้เจ้าของทาสจำนวนมากเอาผู้หญิงผิวดำเป็นนางบำเรอ    แต่ไม่ได้ยกขึ้นมาเป็นเมียออกหน้า   คงเก็บสตรีเหล่านี้ไว้ในฐานะทาสในบ้าน แม้ว่าเธอมีลูกให้เขา  ลูกครึ่งเหล่านั้นก็ถูกเลี้ยงอย่างทาส  ไม่ได้รับการศึกษา   แต่ถูกฝึกงานต่างๆเช่นเป็นช่างฝีมือ หรือคนงานในไร่ เพื่อจะได้มีแรงงานรองรับความมั่งมีของนาย
    แซลลี่ เฮมิ่งส์เป็นสตรีผิวดำในประวัติศาสตร์ที่ถูกเก็บใต้พรมมานานนับร้อยปี   แม่ของเธอชื่อเบตตี้ เป็นทาสหญิงในบ้านเศรษฐีผิวขาวชื่อจอห์น เวลส์   คลอดลูกออกมา 6 คนกับนาย  สุดท้องคือแซลลี่     แซลลี่กลายเป็นสมบัติตกทอดไปสู่มาร์ธา ลูกสาวคนโตของเวลส์ซึ่งเกิดจากภรรยาผิวขาว   จะว่าไปมาร์ธา ก็คือพี่สาวต่างแม่ของเธอเอง  
   ต่อมามาร์ธาแต่งงานกับโทมัส เจฟเฟอร์สัน   เธอก็หอบนางทาสในฐานะสมบัติส่วนตัว มาอยู่บ้านของสามี  แซลลี่ต่อมาก็ได้เป็นนางบำเรอของนายผู้ชาย เมื่อมาร์ธาถึงแก่กรรม   มีความเป็นอยู่อย่างสาวใช้ในบ้านมาตลอดชีวิต
   ลูกๆของแซลลี่ที่เกิดจากเจฟเฟอร์สันไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลูก  แต่ก็มีความเป็นอยู่ดีกว่าทาสคนอื่นๆนิดหน่อย  คือได้ฝึกงานช่างและทำหน้าที่คนรับใช้ในบ้าน  ไม่ต้องทำไร่ไถนาซึ่งเป็นงานหนักมาก
    เมื่อเจฟเฟอร์สันถึงแก่กรรม ลูกสาวคนโตที่เกิดจากมาร์ธาก็ปลดปล่อยแซลลี่เป็นอิสระ  เธอจึงออกจากบ้านไปอยู่กับลูกชาย จนถึงแก่กรรมในฐานะนางทาสที่ได้ถูกปลดปล่อย   ไม่ใช่ในฐานะภรรยาของประธานาธิบดี


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 มิ.ย. 20, 14:37
โทมัส เจฟเฟอร์สัน เป็น ประธานาธิบดีคนที่ 3  ของอเมริกา  ผู้ร่างคำประกาศอิสรภาพที่คนอเมริกันภูมิใจกันมาทุกวันนี้ทตอนหนึ่งในประกาศคือ มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน

ปากอย่าง : เราถือว่าความจริงต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ประจักษ์แจ้งอยู่ในตัวเอง นั่นคือ มนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน และพระผู้สร้างได้มอบสิทธิบางประการที่จะเพิกถอนมิได้ไว้ให้แก่มนุษย์ ในบรรดาสิทธิเหล่านั้นได้แก่ ชีวิต เสรีภาพและการเสาะแสวงหาความสุข

ใจอย่าง : มนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน ยกเว้นคนผิวดำและคนพื้นเมืองอเมริกัน


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 20, 16:49
ทำให้นึกถึงนิยายเสียดสีสังคมการเมือง เรื่อง Animal Farm ของ George Orwell
" สัคว์ทั้งปวงเกิดมาเท่าเทียมกัน   แต่สัตว์บางตัวก็มีความเท่าเทียมมากกว่าตัวอื่นๆ"


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 20, 17:24
มาถึงขยะใต้พรมของจอร์จ วอชิงตันบ้าง

จอร์จเป็นลูกชายคหบดี  เมื่ออายุ 11 เขาก็ได้รับมรดกส่วนหนึ่งจากพ่อคือทาสผิวดำจำนวน 10 คน    พอโตเป็นหนุ่ม แต่งงานกับแม่ม่ายทรงเครื่องชื่อมาร์ธา  เธอมีมรดกคือทาสจำนวนกว่า 80 คนจากทรัพย์สินของสามีคนแรก   บวกกันเข้าไปแล้ว ทั้งสองก็อยู่ในฐานะมั่งคั่งทีเดียว ในฐานะเจ้าของไร่ผืนใหญ่ ณ เมาท์เวอร์นอน

ทั้งๆจอร์จทำหน้าที่แม่ทัพทำศึกประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ จนได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา  ดินแดนแห่งเสรีภาพ    แต่ในด้านส่วนตัวแล้ว เขาก็หาได้ให้เสรีภาพใดๆแก่ทาสผิวดำของเขาไม่      คนผิวนำนับร้อยกว่าคนยังต้องทำงานเป็นทาสแรงงานไร่นาของเขาไปตลอดชีวิต

หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นหญิงผิวดำชื่อโอน่า จัดจ์   พ่อเธอเป็นชาวบ้านผิวขาวอพยพมาจากอังกฤษ  มาได้แม่ซึ่งเป็นทาสหญิงผิวดำ   ตามกฎหมายสมัยนั้นกำหนดให้ลูกทาสต้องเป็นทาส  ไม่ว่าพ่อจะเป็นอิสรชนหรือไม่ก็ตาม    ดังนั้นโอน่าจึงตกเป็นทรัพย์สินของนายของแม่   และตกทอดมาเป็นทรัพย์สินของมาร์ธา วอชิงตัน ลูกสาวนายอีกทอดหนึ่ง

เมื่อโตเป็นสาว  โอน่าตัดสินใจหนีออกจากบ้านของนาย ลงเรือหนีข้ามรัฐไปอยู่ที่นิวแฮมป์เชียร์   ณ ที่นั้นมีครอบครัวคนผิวดำที่เป็นไทแก่ตัวอาศัยอยู่มากพอจะเป็นที่พึ่งพิงของเธอได้   
เมื่อรู้ว่าทาสหนีไป   ประธานาธิบดีผู้ประกาศอิสรภาพแก่คนผิวขาวก็ส่งคนมาไล่ล่าเอาตัวเธอกลับไปบ้านด้วยกลอุบายต่างๆ   แต่โชคดีทำไม่สำเร็จ   โอน่าจึงมีชีวิตอิสระอยู่จนกระทั่งแก่ชราถึงแก่กรรม  แม้ยากจนค่นแค้นสาหัส เธอก็ไม่เคยอยากจะกลับไปเป็นทาส  ทั้งที่ชีวิตในบ้านนายอย่างน้อยทาสก็ไม่อดอยาก
  เธอขอเลือกอยู่เป็นไทแก่ตัวดีกว่า

ประวัติของวอชิงตันให้ข้อมูลทำนองอะลุ้มอล่วยกับเขาว่า จอร์จเองก็ไม่สบายใจนักที่ต้องมีทาส   แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อไร่นาสาโทอันกว้างใหญ่ของเขาต้องอาศัยแรงงานจำนวนมาก เพื่อให้สร้างผลผลิตต่อไปได้    มีแต่คนผิวดำจำนวนนับร้อยเท่านั้นที่จะทำเช่นนี้ได้

สรุปว่าตลอดชีวิตของจอร์จ วอชิงตัน ยังใช้แรงงานทาสมาตลอด     เขาเพิ่งปลดปล่อยทาสทั้งหมดเป็นอิสระในพินัยกรรม เมื่อเขาสิ้นชีวิตไปแล้ว


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 21 มิ.ย. 20, 22:17

จะมีใครปีนไปพ่นสีเมาท์รัชมอร์ไหมครับ​ :-)​


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 20, 22:19
เทพีเสรีภาพอาจจะกำลังหนาวๆร้อนๆ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 20, 19:22
คิวของประธานาธิบดีคนต่อไป  คือแอนดรูว์ แจ๊คสัน
ผู้ประท้วงพยายามโค่นอนุสาวรีย์ประธานาธิบดีคนที่ 7 ของสหรัฐอเมริกา   ซึ่งตั้งอยู่ที่จตุรัสลาฟาแย็ตต์ ใกล้ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 20, 07:50
สาเหตุที่ท่านทวดแจ๊คสันโดนล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่เข้าไปด้วย เพราะสมัยท่านมีชีวิตอยู่ เป็นเศรษฐีด้านการเกษตร เจ้าของไร่เกษตรกรรมมหึมา อยู่ในรัฐมิสซิสซิปปี้ 
ตอนท่านถึงแก่อนิจกรรม  บ้านท่านมีทาสอาศัยอยู่ถึง 51 คน  ว่ากันว่าตลอดชีวิตท่าน มีทาสในปกครองไม่ต่ำกว่า 300 คน


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 24 มิ.ย. 20, 10:43
         มหกรรมโค่นล้มอนุสาวรีย์ในอเมริกาที่ระบาดตามหลังโควิดนี้ มีอนุสวารีย์เด่นๆ ที่ตกลงจากแท่นมากมาย
(วิกี้มีรวบรวมรายการ List of monuments and memorials removed during the George Floyd protests)
 
เช่น
         อดีตปธน. Ulysses Grant ผู้ยุติสงครามกลางเมือง - มีทาสในครอบครอง
         
         Francis Scott Key ผู้ประพันธ์เพลงชาติ Star Spangled Banner - มีทาสในครอบครอง

และ เป็นข่าวล่าสุดคือ  Equestrian statue of Theodore Roosevelt ที่ the American Museum of Natural History, New York
         
         ตั้งตระหง่านมาแต่ปี 1940 ถึงวันนี้ทางการนิว ยอร์คจะดำเนินการย้ายออกไปเอง
         หลังจากทราบข่าวปธน. ทรัมป์ทวิตว่า  "Ridiculous, don't do it!"

ให้ภาพบอกเล่าเหตุให้ต้องย้าย


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 20, 17:08
ขอแตกกระทู้ไปที่กระทู้ใหม่ค่ะ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=7132.new#new


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 มิ.ย. 20, 07:53
จลาจลในอเมริกายังไม่มีท่าทีว่าจะจบลง    ทางการบ้านเมืองก็ดูเหมือนจะอ่อนแรง ราข้อลงไปเรื่อยๆ  กลายเป็นว่า ใครใคร่ทำ ทำ    อนุสาวรีย์จึงถูกโค่นลงมาเป็นว่าเล่น    แต่ข่าวก็เหมือนจะถูกกรองอย่างเข้มงวด  เราจึงไม่ค่อยจะได้ข่าวว่าคนดำลุกฮิอทำอะไรกันอีกบ้างในช่วงนี้

แต่ข่าวที่แทรกขึ้นมาคือ คะแนนเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ตกต่ำลง  อาจจะไม่รอดการเลือกตั้งปลายปีนี้ แปลว่าโอกาสจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี ริบหรี่ลงทุกที
 ก่อนหน้านี้  ทรัมป์ได้คะแนนท่วมท้นจากชนผิวขาวชั้นแรงงานของอเมริกา  เรียกว่าแกเป็นพ่อค้าขวัญใจชาวบ้าน  พวกนี้ก็จะไปลากจูงลูกเมียมาลงคะแนนให้
แต่ตอนนี้  บรรดาป้าๆน้าๆชาวบ้านทั้งหลายไม่เอาลุงแกแล้ว  เพราะเห็นฝีมือและฝีปากแกหลายอย่างในการแก้ปัญหาของประเทศ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 20, 09:44
จลาจลในอเมริกายังไม่มีท่าทีว่าจะจบลง    ทางการบ้านเมืองก็ดูเหมือนจะอ่อนแรง ราข้อลงไปเรื่อยๆ  กลายเป็นว่า ใครใคร่ทำ ทำ    อนุสาวรีย์จึงถูกโค่นลงมาเป็นว่าเล่น

การรื้อทำลายอนุสาวรีย์ของบุคคลในประวัติศาสตร์ซึ่งถูกระบุว่าเกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาส การล่าอาณานิคม และการออกนโยบายแบ่งแยกเชื้อชาติ ยังมีกรณีหนึ่งซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ “ไปไกลเกินไป” คือ การโค่นทำลายอนุสาวรีย์ของยูลีสซีส เอส แกรนต์ อดีตประธานาธิบดีคนที่ ๑๘  ในนครซานฟรานซิสโกเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ แม้ว่านักประวัติศาสตร์จะชี้ว่า แกรนต์เคยมีทาสในครอบครองหนึ่งคนและแต่งงานกับหญิงจากครอบครัวนักค้าทาส แต่เขาก็ปล่อยทาสคนนั้นเป็นอิสระ และเป็นผู้นำกองทัพสหรัฐฯ นำชัยในช่วงสงครามกลางเมืองอันนำมาซึ่งการเลิกทาสในเวลาต่อมา

https://youtu.be/wQWfUeBJsOA

ภาพและรายละเอียดจาก
https://www.facebook.com/105929502780726/posts/4270636169643351/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 มิ.ย. 20, 11:17
ะการออกนโยบายแบ่งแยกเชื้อชาติ ยังมีกรณีหนึ่งซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ “ไปไกลเกินไป” คือ การโค่นทำลายอนุสาวรีย์ของยูลีสซีส เอส แกรนต์ อดีตประธานาธิบดีคนที่ ๑๘  ในนครซานฟรานซิสโกเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ แม้ว่านักประวัติศาสตร์จะชี้ว่า แกรนต์เคยมีทาสในครอบครองหนึ่งคนและแต่งงานกับหญิงจากครอบครัวนักค้าทาส แต่เขาก็ปล่อยทาสคนนั้นเป็นอิสระ และเป็นผู้นำกองทัพสหรัฐฯ นำชัยในช่วงสงครามกลางเมืองอันนำมาซึ่งการเลิกทาสในเวลาต่อมา[/size]
จะเก็บเรื่องนี้ไปเล่าในกระทู้ ขยะสีดำใต้พรมทำเนียบขาว   เพราะมีรายละเอียดอีกหลายอย่าง   แล้วชาวเรือนไทยค่อยตัดสินประธานาธิบดีแกรนท์ว่าพวกเดินขบวนทำกับแกมากไปหรือไม่ นะคะ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 29 มิ.ย. 20, 12:58
อ้างถึง
ใจอย่าง : มนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน

จริงๆ จะมีวรรคสองครับ
"มนุษย์" หมายความว่า ...............

แนวคิดนี้ สืบทอดมาตั้งแต่สมัยกรีก - โรมันแล้วแหละครับ เอเธนส์ ที่ว่ากันว่าเป็นประชาธิปไตยหนักหนะ ไม่นับผู้หญิงเป็นพลเมือง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทาส เวลาพูดถึงสิทธิเสรีภาพอะไรต่อมิอะไร เขาหมายถึง ชายชาวกรีกเท่านั้น สมัยโรมัน กฎหมายที่ใช้กับชาวโรมคือ Jus Civile ส่วนพลเมืองชาติอื่นใช่ Jus Gentium (บางท่านมองว่า สิ่งนี้เหมือนหลักกฎหมายภายใน กับกฎหมายระหว่างประเทศมากกว่า) แต่ผมมองว่า หลักกฎหมายที่ต่างกัน ทำให้เวลาพูดคำว่าสิทธิ มันหมายถึงสิทธิของชาวโรมซึ่งเป็นเสรีชนเท่านั้น

เมื่ออาณาจักรเหล่านี้ล่มสลายลง แนวความคิดนี้ก็ไม่ได้หายไปไหน ยังคงสืบต่อไปตามหลักกฎหมายของชนชาติยุโรปต่างๆ เวลาที่ชาวฝรั่งเศส พูดถึงสิทธิ เสรีภาพ ภารดรภาพ เขาก็ไม่นับชาวอาณานิคมเป็นภารดา กับเขาด้วย อเมริกาก็เช่นกันครับ     


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 20, 10:28
ต้องถามว่า เสรีภาพของชนกลุ่มไหน และเสมอภาคของคนกลุ่มไหน ในประเทศเดียวกัน ค่ะ

อเมริกายังจลาจลไม่เลิก   ถ้าสุนทรภู่อยู่อเมริกาคงรำพึง "เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น  ไม่เล็งเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา"
เชิญอ่าน แก้ผ้าลุงแซม
โดย...เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
วันอังคาร ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 09.43

ขอพักเบรคกับสถานการณ์น่าปวดหัวในอเมริกาสักครั้ง  ในฐานะคนที่อาศัยในอเมริการู้สึกถึงความน่าหวาดหวั่นและไม่ปลอดภัย  ท่ามกลางความประมาทของอเมริกันทั้งประเทศขณะที่โควิด 19 ระบาดจัดหนักรอบสองทั้งที่รอบแรกก็ยังหนักหนาสาหัสอยู่
การระบาดรอบแรกมีศูนย์กลางที่นิวยอร์ก แต่รอบสองนี่ย้ายที่ลงมารัฐทางใต้แทน ทั้งหมดนี้เพราะผลของการเปิดเมืองเมืองรัฐ และทัศนคติของอเมริกันที่ไม่ยอมใส่หน้ากาก ทั้งยังเหยียดคนที่ใส่หน้ากากว่าขี้ขลาด หากกลัวติดเชื้อก็อยู่บ้าน ไม่ต้องออกมา  สถานที่สาธารณะบางแห่ง อย่างซุปเปอร์มาร์เก็ตมีมาตรการให้ใส่หน้ากากเข้าร้าน แต่ยังมีพวกมีหัวไว้ให้แค่ผมงอก ออกมาเอะอะอาละวาดด่าทอ ไม่ยอมใส่หน้ากาก อ้างหมอประจำตัว อ้างสิทธิส่วนบุคคล อ้างเสรีภาพโน่นนี่ไปเรื่อย

ยอดผู้ป่วยทั้งหมดล่อไปสองล้านเจ็ดแสน ตายไปเกือบแสนสามหมื่นราย  ช่วงก่อนวันที่ 15 เมษายนที่ว่าเป็นช่วงพีค ยอดป่วยรายวันประมาณสองหมื่นห้า แต่ตอนนี้ยอดป่วยรายวันพุ่งไปสี่หมื่นกว่า เล่นเอาคนตามข่าวหัวใจจะวาย  โดยเฉพาะฟลอริด้านี่ยอดติดเชื้อเพิ่มเกือบหมื่นทุกวัน

สถานการณ์การประท้วงการเหยียดผิวยังคงดำเนินไปคู่ขนานกับโควิด ตาลุงผมเป๋ยังออกเดินสายหาเสียงแบบไม่แคร์สื่อ แถมประกาศว่า ใครติดโควิดเพราะมาฟังแกพูด จะฟ้องร้องไม่ได้เสียด้วย

ล่าสุดเกิดรัฐซ้อนรัฐชังชาติสาขาสอง เกิดเขตปกครองตัวเองในวอชิงตันดีซี ผู้ประท้วงปิดกั้นพื้นที่บริเวณหนึ่ง แล้วตั้งชื่อเรียกว่า “เขตปกครองตนเองทำเนียบดำ” (Black House Autonomous Zone) หรือ BHAZ ใกล้ทำเนียบขาว เอาเข้าไป..มีทำเนียยบขาวแล้วต้องมีทำเนียบดำสินะ จากนั้นก็พยายามโค่นรูปปั้นของแอนดรูว์ แจ็กสัน ประธานาธิบดีคนที่ 7 ภายในสวนสาธารณะลาฟาแยตต์

อ่านต่อได้ที่นี่ค่ะ
https://www.naewna.com/columnonline/44488


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 20, 10:44
 ปัญหาที่คนอเมริกันจำนวนมากออกมาต่อต้านหน้ากากอนามัย  เป็นเรื่องที่ไม่สามารถหาคำอธิบายอื่นได้นอกจาก "เมื่อถึงกาลวิบัติ สติปัญญาก็วิบัติ"
  เหตุผลหนึ่งอาจเป็นว่า แต่เดิมมาการสวมหน้ากากอนามัยใช้กับคนป่วยเช่นเป็นหวัด  เมื่อจำเป็นต้องออกนอกบ้านเช่นไปทำงานก็สวมหน้ากาก เผื่อหายใจ ไอ จาม จะได้ไม่รดหน้าคนอื่นให้ติดหวัดไปด้วย    แต่ถ้าสุขภาพดีแล้วไม่มีใครสวมด้วยความคิดว่า สวมเถอะ เผื่อเดินไปเจอคนเป็นหวัดที่ไม่สวมหน้ากาก       
  พูดมากกว่านี้เดี๋ยวงง   เอาเป็นว่า หน้ากากอยู่คู่คนป่วย คนไม่ป่วยไม่สวมหน้ากาก   
  ด้วยตรรกะอันนี้จึงถูกแปลเป็นตรรกะวิบัติว่า  ก็ฉันสบายดีแล้ว  แกจะสั่งให้ฉันครอบหน้าให้ลำบากลำบนทำไม   
  จากนั้นเหตุผลต่างๆล้วนแต่นำมาเข้าข้างการไม่สวมหน้ากากจึงตามมาอีกยาวเหยียด  ในหมู่คนอเมริกันที่ไม่ยอมเข้าใจจนแล้วจนรอดว่า โควิด-19 นี้มันอยู่ได้ทุกหนทุกแห่ง รวมทั้งในหมู่คนที่รับเชื้อแต่ไม่แสดงอาการด้วย   เมื่อคุณไม่สวมหน้ากาก คุณไปเบียดเสียด ใกล้ชิด  จับต้องของที่ผู้ป่วยจับมาหยกๆ  คุณก็มีสิทธิ์ติดเอาง่ายๆ
  พูดอย่างไม่เกรงใจสาธารณสุขของอเมริกาเลยว่า ทำงานไม่ได้ผลเท่าที่ควร คือไม่สามารถทำให้สาธารณชนเข้าใจผลดีของหน้ากากอนามัยได้     สู้คุณหมอทวีศิลป์และทีมงานสาธารณสุขไทยไม่ได้ แบบทิ้งกันไม่เห็นฝุ่น   อิอิ

  คลิปนี้ดูแล้ว อย่าหงุดหงิดนะคะ
 https://www.youtube.com/watch?v=EeQEzIXT8cE


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ค. 20, 11:22
เรื่องนี้ยังไม่จบ
https://www.youtube.com/watch?v=8YLnlZN2nOk


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ค. 20, 14:22

จากเพจ  SiamTownUS
 
อีกหนึ่งเหตุการณ์ หลังลูกค้าในตลาดปฏิเสธใส่หน้ากาก!!

คลิปนี้เกิดขึ้นที่ตลาด Fiesta Mart ในรัฐเท็กซัส โดยนายโอมานคนที่ถ่ายคลิปเล่าเหตุการณ์ว่า หญิงรายนี้ได้ใส่หน้ากากขณะทำการเลือกหยิบของ แต่ได้ถอดออกตอนกำลังจะจ่ายเงิน (สังเกตที่มือว่ายังมีหน้ากากถืออยู่)

นายโอมานเล่าต่อว่า ผู้จัดการตลาดได้เข้าไปบอกกับเธอเรื่องของระเบียบการใส่หน้ากาก แต่เธอไม่ยอม จนเป็นเหตุที่เห็นในคลิป โดยเธอโยนของออกจากรถเข็นลงพื้น สุดท้ายตำรวจมาถึงแต่เธอก็ได้ออกไปจากตลาดแล้ว ก็เป็นภาระของพนักงานต่อไป....

https://www.facebook.com/SiamTownUS/videos/582743582678841/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 02 ก.ค. 20, 15:29
เรื่องคนต่างชาติต้องรอให้ป่วยก่อนค่อยใส่หน้ากาก ดิฉันดูตามตามสื่อต่างๆก็ไม่ค่อยเห็นนะคะหลายคนป่วยก็ไม่ยักจะใส่กันไม่รู้ว่าต้องป่วยระดับไหนถึงจะใส่


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ค. 20, 16:16
คนอเมริกันสวมหน้ากากตอนออกจากบ้านไปไหนมาไหนก็มีเยอะค่ะ  พวกนี้ตระหนักถึงภัยของโควิด  แต่พวกไม่เข้าใจก็มาก
ที่สวมแน่ๆไม่ว่าจะอยากหรือไม่ คือระดับเข้าโรงพยาบาล ออกมาไม่ไหวแล้วค่ะ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ค. 20, 09:03
ตัวอย่างล่าสุดของการเร่งให้สหรัฐอเมริกาเดินไปสู่จุดจบ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สาธารณสุขและชีวิตประชาชน

ปาร์ตี้สยองโลก! โจ๋สหรัฐเล่นพิเรนทร์ จัดงานเลี้ยงโควิด ติดเชื้อรับเงินรางวัล
วันพฤหัสบดี ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 21.16 น.

"อลาบามา"เครียดทั้งรัฐ พบข้อมูลโจ๋แห่เล่นพิเรนทร์ ชวนผู้ติดโควิด-19 ร่วมปาร์ตี้ ใครรับเชื้อต่อได้เงินรางวัล เผยยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 39,000 คน  เสียชีวิตรวมเกือบ 1,000 ราย

2 ก.ค.63 สำนักข่าว CNN สหรัฐอเมริกา เสนอข่าว "Young people are throwing coronavirus parties with a payout when one gets infected, official says" อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทางการรัฐอลาบามา ว่ามีคนหนุ่ม-สาวบางกลุ่มจัดงานเลี้ยงโดยตั้งเงื่อนไขใครที่ติดเชื้อโควิด-19 จะได้รับเงินรางวัล

ซอนยา แมคคินสตรี (Sonya McKinstry) สมาชิกสภาเมืองทัสคาลูซา ระบุว่า มีการชักชวนให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าร่วมงานเลี้ยงโดยหวังว่าจะมีการแพร่เชื้อไปถึงผู้อื่น ในตอนแรกๆ ตนได้ยินเรื่องนี้จากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และคิดว่าเป็นเพียงข่าวลือ เรากำลังค้นคว้าบางอย่าง และไม่ใช่เฉพาะหน่วยงานด้านการแพทย์ที่พูดถึงเรื่องนี้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับรัฐก็ยังมีข้อมูลอย่างเดียวกัน

ทั้งนี้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีงานเลี้ยงเกิดขึ้นทั้งในเมืองและชานเมือง และอาจมีมากกว่านั้นโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ เรื่องนี้ทำให้ตนโกรธมาก เพราะบางเรื่องที่ควรจริงจังและเป็นเรื่องคอขาดบาดตายกำลังได้รับการยอมรับ ไม่เพียงแต่เป็นการไร้ความรับผิดชอบเท่านั้น แต่คนเหล่านี้ยังสามารถติดเชื้อและนำเชื้อไปแพร่ยังพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ที่บ้านได้ด้วย ซึ่งทางเมืองกำลังเรียกร้องให้เลิกงานเลี้ยงสุดอันตรายดังกล่าว รวมถึงเพิ่งผ่านกฎหมายการสวมหน้ากากปิดปาก-จมูก ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 ก.ค. 2563

แมคคินสตรี ย้ำว่า นี่ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องสาธารณสุข ผู้คนกำลังจะตายและไม่มีทางรักษา ดังนั้นจึงต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุด ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานอนามัยแห่งรัฐอลาบามา ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในรัฐอลาบามาอยู่ที่ 39,000 คน และเสียชีวิตรวมเกือบ 1,000 ราย

https://www.naewna.com/inter/503043


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ค. 20, 16:38
ล่าสุด ผลจากการแห่ไปตากอากาศรับลมร้อน  ไม่สวมหน้ากากและไม่รักษาระยะห่าง   ฟลอริดามีคนติดเชื้อทะลุ 10,000 รายใน 1 วัน


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 05 ก.ค. 20, 20:41
มีหลายท่านสวมหน้ากากกันอยู่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีค่ะ ส่วนเรื่องจำนวนคนเป็นเพราะต่างชาติมีคนที่มากกว่าเราด้วยหรือเปล่าคะพอมาเทียบกับไทยเลยเหมือนสูง


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 20, 08:44
มันก็สูงจริงๆค่ะ  ไทยมีผู้เสียชีวิต 58 คน  ส่วนอเมริกา 132,318 คน (นับถึง 5 กค. 2020)


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ค. 20, 12:26
รอยเตอร์ – ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐอเมริกาพุ่งทะลุ 3 ล้านคนแล้วเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.) โดยหลายรัฐมีผู้ป่วยรายวันทุบสถิติใหม่ ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงยืนกรานให้ผู้ว่าการรัฐต่างๆ สั่งเปิดโรงเรียนในฤดูใบไม้ร่วง

https://mgronline.com/around/detail/9630000069795


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ค. 20, 16:24
  ข่าวการศึกษาของอเมริกา ที่เป็นผลกระทบจากโควิด ทำให้ส่งผลกระทบต่อนักเรียนไทยด้วย


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ค. 20, 16:29
    เป็นที่เข้าใจได้  ถ้าการเรียนการสอนใช้ออนไลน์หมด ก็ไม่จำเป็นที่ผู้เรียนจะต้องมาเข้าชั้นเรียนให้ครูเห็น  อย่างการศึกษาที่เป็นมาโดยตลอด    ทุกอย่างเป็นวิดีโอคอลล์   ผ่านหน้าจอ    ทั้งผู้สอนและผู้เรียนนั่งกันอยู่ในบ้านของตัวเองคนละซีกโลกก็เรียนกันได้เหมือนอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน
    มหาวิทยาลัยไทยหลายแห่งก็เริ่มเรียนสอนกันออนไลน์แล้ว   อาจจะเว้นแต่การเรียนบางวิชาที่ต้องอาศัยปฏิบัติการเป็นหลัก     ถ้าเป็นการเรียนแบบเลคเชอร์ ถาม-ตอบกันในห้องเรียน  ใช้ออนไลน์ได้เลย
    เรื่องนี้หากมีผลกระทบก็คือกระทบเรื่องการเงินของมหาวิทยาลัยในอเมริกานั่นละค่ะ   เพราะมหาวิทยาลัยจำนวนมากตั้งอยู่ได้เพราะอาศัยเงินจากนักเรียนต่างชาติ     ค่าเล่าเรียนของนศ.ต่างชาติแพงกว่านักศึกษาอเมริกันหลายเท่าตัว 


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ค. 20, 08:49
ในยุคที่สังคมอเมริกาเผชิญศึกหนักจากโควิด   อะไรๆที่ไม่คิดว่าจะเกิด ก็เกิดขึ้นได้

“เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้” โพสต์ตำหนิเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ในอเมริกา ขโมยแม้กระทั่งทิชชูเปียก ซึ่งกลายเป็นของหายากในยุคโควิด โดยเอาไป 4 กระป๋อง ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า 1 กระป๋อง ในสภาพยับเยิน

วันที่ 8 ก.ค. 63 เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ นักเขียนชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ... เตือนภัยคนไทยในอเมริกา เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐเป็นขโมย

อยู่อเมริกามา 20 ปี ส่งของทางไปรษณีย์ตลอด แม้อเมริกาจะมีอะไรเพี้ยนๆ บ้าง แต่ระบบไปรษณีย์นี่ไว้ใจได้ ข้าวของไม่เคยหาย

ช่วงโควิด 19 นี่แหละ.. คนอเมริกันแสดงสันดานดิบออกมาเต็มที่ ไม่เว้นแม้ไปรษณีย์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000070164


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ก.ค. 20, 15:36
China Report ASEAN - Thailand

“เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่คิดว่าไวรัสจะรุนแรงขนาดนี้” ชายชาวอเมริกันกล่าว ก่อนสิ้นใจ
.

1 / ชาวอเมริกันรายหนึ่ง ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ก็จัด ‘ปาร์ตี้โควิด-19’ และเชิญเพื่อนเข้าร่วมสังสรรค์เฮฮา
2 / คนจัดงานบอกว่า จัดปาร์ตี้เพื่อดูว่าใครจะสามารถเอาชนะเจ้าไวรัสตัวนี้ได้บ้าง 3 / ส่วนคนเข้าร่วมงานก็บอกว่า ยังหนุ่มยังแน่น ยังแข็งแรง ไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร ทำอะไรไม่ได้หรอก ข่าวครึกโครมจนทำให้ประชาชนตื่นกลัวจนเกินจริงไปเท่านั้น
 4 / หนึ่งในผู้เข้าร่วมงานคือ ชายวัย 30 ปีจากรัฐเท็กซัส หลังปาร์ตี้จบไปไม่นาน ชายคนนี้ก็ป่วย ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเสียชีวิตในที่สุด
5 / ชายคนนี้ได้พูดคุยกับพยาบาลก่อนสิ้นใจว่า “เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่คิดว่าไวรัสโควิด-19 จะรุนแรงขนาดนี้”
6 / การเสียชีวิตของชายรายนี้ ได้รับการยืนยันโดยแพทย์หญิงเจน แอปเปิ้ลบี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ โรงพยาบาลเมธัดดิสท์ เมืองซานแอนโตนิโอ รัฐเท็กซัส
7 / หมอเจนบอกว่า อย่าล้อเล่นกับไวรัสโควิด-19 โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะหนุ่มสาว เพราะนี่คือเชื้อโรคอันตรายของจริง
 8 / สถิติล่าสุด สหรัฐฯยังคงวิกฤตอันดับ 1 ของโลก มีผู้ติดเชื้อ 3.43 ล้านคน รักษาหายประมาณ 1 ล้านคน เสียชีวิตแล้ว 138,000 คน
.
ที่มา: The New York Times: www.nytimes.com/…/…/12/us/30-year-old-covid-party-death.html

https://www.facebook.com/ChinaReportAseanThailand/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.ค. 20, 15:06
ห้างในอเมริกาเริ่มกำหนด และขอร้อง ให้ประชาชนสวมหน้ากากแล้ว
วัวหายล้อมคอก   หวังว่ายังเหลือวัวอยู่ในคอกบ้างค่ะ

เอเจนซีส์ – ห้างยักษ์ใหญในสหรัฐฯเป็นต้นว่า วอลมาร์ท โครเกอร์ ทาร์เก็ต ร้านขายยาCVSและวอลกรีนส์ ล่าสุดออกกฎให้ลูกค้าต้องสวมหน้ากากภายในร้าน มีผลบังคับใช้เร็วสุดสัปดาห์หน้า มีบางห้างถึงขั้นหากลูกค้าไม่มีหน้ากากติดมือมาทางห้างเตรียมแจกให้บริเวณทางเข้ากันพนักงานในร้านถูกลูกค้ายิง เกิดขึ้นหลัง 39 รัฐทั่วอเมริกามียอดเคสไวรัสโคโรนาพุ่ง

https://mgronline.com/around/detail/9630000073350


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ค. 20, 08:13
จาก FB คุณเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ค. 20, 08:16
จาก FB คุณเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ เช่นกัน


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ค. 20, 08:42
โควิดเป็นเหตุให้รัฐจอร์เจียเกิดศึกฟาดหมัดกันระหว่างนายไบรอัน เคมป์ ผู้ว่าการรัฐสังกัดพรรครีพับลิกัน (ของทรัมป์) กับนางคีชา แลนซ์ บ็อตตอมส์  นายกเทศมนตรีเมืองแอตแลนต้า เมืองหลวงของรัฐ

นายกเทศมนตรีออกกฎให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน    ไม่ทันไร  ผู้ว่าการรัฐสวนหมัดกลับมา  ออกคำสั่งให้ยกเลิกกฎของเทศบาลที่กำหนดให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ
โดยอ้างว่าไม่มีความจำเป็น  เข้มงวดเกินไป   พร้อมทั้งห้ามนายกเทศมนตรีไม่ว่าเมืองไหน ออกกฎให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลชนิดอื่นๆ

ทั้งๆประชาชนชาวรัฐนี้ตายไปกว่า 3000 คนเพราะโควิด   นายเคมป์ก็ยังไม่เห็นความจำเป็นจะต้องออกกฎให้สวมหน้ากากอนามัยอยู่นั่นเอง
ลองผู้ว่าการรัฐไม่รู้ร้อนรู้หนาวขนาดนี้   สถิติผู้ติดเชื้อคงจะถึง 4 ล้านคนในอีกไม่กี่วัน

https://edition.cnn.com/2020/07/17/politics/keisha-lance-bottoms-brian-kemp-mask-lawsuit-cnntv/index.html


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.ค. 20, 09:52
แก้ผ้าลุงแซม
โดย...เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
วันอังคาร ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 07.52 น.

สถานการณ์ในอเมริกาเต็มไปด้วยความกังวลและตึงเครียด อาทิตย์ที่ผ่านมายอดผู้ป่วยใหม่พุ่งสูงถึงวันละเจ็ดหมื่นเจ็ดพันคนติดต่อกันสองวัน ขณะที่เขียนคอลัมน์นี้ ยอดผู้ป่วยสะสมแตะสี่ล้านคนและเสียชีวิตไปแล้วหนึ่งแสนสี่หมื่นกว่าราย หากยังจำกันได้ ช่วงสามเดือนที่ผ่านมา รัฐนิวยอร์กคือจุดระบาดมีคนป่วยคนตายมากมายจนต้องใช้รถคอนวอยติดแอร์เป็นสถานที่เก็บศพ เพราะศพล้นโรงพยาบาล ตอนนี้สถานการณ์แบบเดียวกันกำลังเกิดขึ้นในรัฐทางใต้อย่างเท็กซัส

สรุปสถานการณ์โควิดคร่าวๆ ห้าอันดับรัฐที่มีการแพร่ระบาดและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเรียงตามลำดับคือ รัฐนิวยอร์ก ซึ่งตอนนี้สถานการณ์ผ่อนคลายลงเพราะยอดติดเชื้อใหม่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด คาดว่านโยบายของผู้ว่าการรัฐเรื่องการบังคับให้ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย รวมทั้งเสียค่าปรับหากไม่ใส่และการกักตัวผู้ที่มาจากรัฐอื่นที่เข้ามาในรัฐนิวยอร์ก ทำให้จำนวนคนติดเชื้อรายวันลดลงอันดับสองคือรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งยืนหนึ่งมาตลอดทั้งการระบาดรอบแรกและรอบสอง

โดยย่านที่ระบาดหนักสุดคือแอลเอ ที่เราคนไทยรู้จักกันดีนั่นเอง อันดับสามคือฟลอริด้าจุดระบาดหนักสุดคือไมอามี่ คาดว่าเพราะการออกมาหลั่นล๊าร่าเริงตามหาดและกินดื่ม สัมผัสเนื้อตัวกันไม่มีการเว้นระยะห่าง หรือสวมหน้ากากเลยทำให้ฟลอริด้ากลายเป็นดงระบาดในตอนนี้ อันดับสี่คือ รัฐเท็กซัส นี่ก็หนักหนาสาหัสไม่แพ้ฟลอริด้าแต่ละวันต้องคอยส่องว่า วันนี้ยอดผู้ป่วยใหม่เท่าไหร่เพราะแต่ละวันเหยียบหลักหมื่น ใช่แล้ว..อ่านไม่ผิดหรอกป่วยกันวันละเป็นหมื่นรายทั้งฟลอริด้าและเท็กซัส รถคอนวอยติดแอร์จึงหลั่งไหลเดินทางมุ่งหน้าสู่เท็กซัส เพราะที่เก็บศพในโรงพยาบาลเต็มจนล้น

อันดับห้าคือรัฐนิวเจอร์ซี่ ซึ่งจะว่าไปแล้วโดนหางเลขจากรัฐนิวยอร์กเพราะเป็นรัฐเพื่อนบ้าน คนจากรัฐนี้ไปทำงานนิวยอร์กกันทั้งนั้นแต่ดูเหมือนสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย เพราะยอดป่วยรายวันลดน้อยลง ที่น่าห่วงมากคือรัฐทางใต้ทุกรัฐเพราะยอดผู้ป่วยรายวันสูงขึ้นอย่างฉับพลันทันใดทุกวันและดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นๆ เรื่อยๆด้วยจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ที่ทะยานสูงทุกรัฐอย่างน่าใจหายเลยทำให้มีการประมาณการกันใหม่ มหาวิทยาลัยวอชิงตันเผยแพร่รายงานฉบับทบทวนล่าสุด ประมาณการว่ายอดผู้เสียชีวิตจะมากกว่า 224,000 คน ในวันที่ 1 พฤศจิกายนปรับเพิ่มจากการประเมินคราวก่อน 16,000 คน สถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน

(IHME) ประมาณการว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจลดลง 40,000 คน หากว่าพลเมืองอเมริกาเกือบทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ถ้า 95% ของอเมริกันชน สวมหน้ากากทุกครั้งตอนที่ออกนอกบ้านอัตราการติดเชื้อจะลดลง จำนวนผู้เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลจะลดลงและคาดหมายว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะลดลงตามไปเช่นกันขนาดตัวเลขพุ่งสูงขนาดนี้แต่พลเมืองอเมริกันยังชี้หน้าด่าทอตีกันไม่จบเรื่องหน้ากาก ทั้งที่เห็นชัดๆว่าการใส่หน้ากากสามารถป้องกันตัวจากการติดและแพร่โควิดได้

ล่าสุดพ่อเมืองหรือผู้ว่าการรัฐโอกลาโฮม่า ซึ่งเป็นลูกหม้อตาลุงผมเป๋ติดโควิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าท่านผู้ว่าการรัฐรายนี้ติดจากเวทีหาเสียงของประธานาธิบดีที่เมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมานั่นแหละ เพราะตอนนั้นมีข่าวออกมาว่าสมาชิกทีมหาเสียงตลอดจนถึงเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาผู้นำหลายคนติดโควิด แล้วท่านผู้ว่าการรัฐจะเหลือเหรอ สุดท้ายก็ติดไปตามระเบียบตัวเลขคนป่วยคนตายที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้มหาวิทยาลัยและโรงเรียนตั้งแต่แคลิฟอร์เนีย ไปจนถึงวิสคอนซินใช้วิธีสอนออนไลน์แทนการเปิดเทอม ทำให้ตาลุงผมเป๋ไม่ค่อยพอใจนักเพราะถ้าเด็กๆ อยู่บ้าน พ่อแม่ก็ออกมาทำงานนอกบ้านไม่ได้ เท่ากับแผนจะเปิดธุรกิจโน่นนี่ในอเมริกาต้องพับไปก่อน แกเลยขู่ฟ่อๆว่าจะตัดเงินสนับสนุน แต่โถ..ลุงโรงเรียนในแต่ละรัฐไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางเท่าไหร่หรอก แต่ได้จากเงินสนับสนุนในรัฐต่างหาก

ห้างร้านหลักๆเริ่มออกกฎให้ลูกค้าต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยไม่งั้นห้ามเข้าร้าน เอาแค่นี้ยังกลายเป็นเรื่องเพราะอเมริกันพกปืนได้อย่างเสรี เลยเกิดเคสเมื่อสองเดือนก่อนคือพนักงานร้าน “ทุกอย่างดอลลาร์เดียว” ขอร้องให้ลูกค้าใส่หน้ากากเข้าร้านเท่านั้นแหละ คุณลูกค้างัดปืนมายิงพนักงานดับคาร้าน แม้จะมีกฎแต่เราก็ได้เห็นบรรดา “คาเรน” ออกมาแผดเสียงด่าทอโวยวายอยู่ทุกวี่วันตามห้างต่างๆท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายลงทุกวัน ทรัมป์ยักไหล่ไม่แคร์มุ่งหน้าเปิดประเทศต่อไปท่ามกลางกองศพพลเมืองตนเอง แถมยืนกรานว่าจะไม่ออกคำสั่งให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างเด็ดขาด

โดยโยนภาระนี้ให้ผู้ว่าการรัฐตัดสินใจแทนเรื่องราวมหาสนุกเลยเกิดขึ้น อย่างในรัฐจอร์เจียเกิดทะเลาะด่าทอกัน ระหว่างผู้ว่าการรัฐซึ่งมาจากพรรคเดียวกับทรัมป์กับนายกเทศมนตรีที่มาจากพรรคเดโมแครต ไม่ลงรอยกันเรื่องการใส่หน้ากากนี่แหละ อีกคนจะให้บังคับอีกคนบอกไม่บังคับ ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าจะยังไงกันต่อไม่ต้องดูอื่นดูไกล รัฐที่ผู้เขียนอยู่ก็เหมือนกันผู้ว่าการรัฐดูไม่ค่อยแยแสพลเมือง นั่นก็มาจากพรรครีพับริกัน ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองที่ผู้เขียนอยู่มาจากเดโมแครตเลยออกกฎให้ใส่หน้ากากที่นั่นที่นี่ แทนที่ชาวเมืองจะรู้สึกดีกลับรุมด่าแล้วแห่ไปซื้อของจากห้างในเมืองข้างๆ แทนเพราะนายกเทศมนตรีเมืองข้างๆ เป็นรีพับลิกัน ไม่ออกกฎห้ามใดๆเรื่องหน้ากาก สุดท้ายยอดคนป่วยเมืองข้างๆ ก็พุ่งสูงลิ่วมากกว่าเมืองที่ผู้เขียนอยู่เสียอีก

CDC ออกคำแนะนำตั้งแต่เดือนเมษายนให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากเพื่อชะลอการระบาด หลังมีหลักฐานยืนยันว่าผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการสามารถแพร่เชื้อไวรัสสู่ผู้อื่นได้ แต่อเมริกันแทบจะไม่สนใจทำตามเท่าไหร่นัก สินค้าสำหรับทำความสะอาดที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ยังคงขาดตลาดทุกเมืองทุกรัฐ อีกสองเดือนก็จะย่างเข้าสู่หน้าหนาว ซึ่งถือเป็นฤดูการระบาดของไข้หวัดทุกสายพันธุ์อยู่แล้ว หน้าหนาวปีนี้คงเป็นฤดูหนาวอันยาวนานสำหรับอเมริกันทุกคนอย่างแน่นอน


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ค. 20, 09:19
ระหว่างหาข้อมูลเรื่องโควิดที่อเมริกาไปเรื่อยๆ ก็มาเจอค.ห.ข้างล่างนี้   อ่านแล้วงงๆ กับหลายประเด็น 
ตรงที่พิมพ์สีแดงไว้

นึกได้ว่าเรือนไทยมีนายแพทย์หลายท่าน เลยนำมาลง เผื่อจะมีท่านใดช่วยอธิบายให้ได้

Boonood Raksongdham ตั้งสติค่ะติดเชื้อกับป่วยคนละเรื่องกันนะ

ติดเชื้อแล้วมีอาการป่วยน้อยกว่า 5 % ป่วยแล้วตายไม่ถึง 1%

ห้องแล็บโดนทำลายไปเกือบร้อย สปีดตรวจหาเชื้อยังไม่ตกเหรอคะ?

อยากให้ไปดูสถิติการตายว่าตาย YTD ปีนี้กับปีที่แล้วในช่วง Jan-June ว่าตัวเลขการตายระเบิดเถิดเทิงหรือเปล่า? เพราะถ้าตัวเลขการตายคือตายด้วยโควิดจริงตามที่ออกข่าวกันจัง ตัวเลขการตายต้องระเบิดเถิดเทิงนะ ถ้าตัวเลขไม่ระเบิดเถิดเทิง แปลว่าอะไร? แปลว่าไม่ว่าจะตายด้วยอะไรก็ใส่ว่าตายด้วยโควิดใช่หรือไม่? ได้ตัวเลขแยกแยะรายเดือนรายโรคเลยยิ่งดีค่ะ จะเห็นชัดมาก

ตัวเลขติดเชื้อก็อย่าไปเชื่อมากค่ะ มีการทำ Pre-possitive ชุดตรวจ ขนาดเอาไปทดลองกับผลไม้ สัตว์ต่างๆก็เป็นบวก คิดว่าผลที่ได้ไม่ได้ทำอย่างเมืองไทยที่ส่ง 3 แล็บ ยืนยันบวก 2 แล็บจึงถือว่าติดเชื้อ คงส่งแล็บเดียวแล้วตัดสินว่าติดเชื้อเลย เท่าที่รู้ชุดตรวจมีค่า Error at around 3.5% แปลว่ายิ่งตรวจเยอะยิ่งเจอติดเชื้อเยอะ ประมวลหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ผลที่ได้ไม่น่าเชื่อถือ น่าจะเป็นโฆษณาชวนเชื่อของแก๊งขายวัคซีนมากกว่า เพราะเค้าอยากให้คนกลัวกันมากๆ เวลาเอาวัคซีนออกขายจะได้รับฉีดกัน ขอบอกว่าไม่ฉีดปลอดภัยกว่าฉีด

ฟังพูดแล้วเหมือนคนขวางโลกเนาะ แต่ไม่อยากให้คนกลัวโรคที่รักษาได้จนไม่เป็นอันทำมาหากินค่ะ
ขออณุญาตแนะนำดู X22 Report on Youtube ค่ะ รับข้อมูลข่าวสารหลายแหล่ง จะได้ไม่เครียดค่ะ สื่อกระแสหลักน่ะโดนซื้อไปหมดแล้ว


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ค. 20, 09:26
ข้อเขียนนี้หมายความว่า
"ติดเชื้อกับป่วยคนละเรื่องกันนะ"
= บางคนติดเชื้อแต่ไม่ป่วย  ร่างกายปกติดี      บางคนติดเชื้อแล้วป่วย  ต้องหาหมอ เข้ารพ.

ติดเชื้อแล้วมีอาการป่วยน้อยกว่า 5 % ป่วยแล้วตายไม่ถึง 1%
= 100 คนที้ติดเชื้อ แล้วแสดงอาการเป็นไข้ คอเจ็บ  เพียง 5 คน  อีก 95 ไม่มีอาการอะไร
100 คนที่ป่วยแสดงอาการ  หาย 95 คน

"ยิ่งตรวจเยอะยิ่งเจอติดเชื้อเยอะ ประมวลหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ผลที่ได้ไม่น่าเชื่อถือ น่าจะเป็นโฆษณาชวนเชื่อของแก๊งขายวัคซีนมากกว่า"
= วัคซีนมีแล้วหรือคะ  ที่ทั้งโลกป่วนกันอยู่นี่เพราะยังผลิตวัคซีนไม่ได้ ไม่ใช่หรือ?
 


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 ก.ค. 20, 14:36
การจลาจลในอเมริกายังไม่จบสิ้น แต่กลับรุนแรงขึ้นด้วยนโยบายปราบปรามผู้ประท้วงอันแข็งกร้าวของทรัมป์  :o

https://youtu.be/0R5nGwzd-zA


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 20, 18:02
แก้ผ้าลุงแซม
แก้ผ้าลุงแซม
โดย...เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
วันอังคาร ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 08.12 น

สมัยที่ผู้เขียนยังเด็ก ใครๆ ก็อยากมาเรียนต่อและใช้ชีวิตในอเมริกา  หลายคนลุ่มหลงวาทกรรม “เสรีภาพทุกตารางนิ้ว” และ “ดินแดนแห่งโอกาสและความเท่าเทียม”  ซึ่งวาทกรรมนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงในยุคก่อน  หากไม่นับการปล้นชิงแผ่นดินจากอินเดียนแดงเจ้าของแผ่นดินดั้งเดิม ที่นี่เปิดโอกาสให้คนทุกชาติทุกภาษาทุกเผ่าพันธุ์เข้ามาก่อร่างสร้างตัวทั้งสิ้น แต่ใครจะคิดว่าอเมริกาปีพ.ศ.นี้คือนรกบนดิน และกลายเป็นฝันร้ายในวันนี้

สถานการณ์โควิดนับวันยิ่งหนักหนาสาหัส อาทิตย์นี้มีการทุบสถิติใหม่ แต่เดิมรัฐนิวยอร์กยืนหนึ่งมาตลอดด้านคนป่วยคนตาย แต่อาทิตย์นี้ รัฐแคลิฟอร์เนียพุ่งแซงมาเป็นอันดับหนึ่ง   สถานการณ์โควิดใยรัฐฝั่งตะวันออก อย่าง นิวยอร์ก นิวเจอร์ซี่ และคอนเนกติคัตดีขึ้น เพราะมาตรการเข้มงวดเรื่องการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง และห้ามคนจากรัฐอื่นค่อนประเทศเดินทางเข้ารัฐเหล่านี้ หากจะเข้ามาต้องกักตัว  เรื่องนี้กลายเป็นจุดแข็ง ทำให้จำนวนผู้ป่วยใหม่ลดน้อยลง

ที่หนักหนาสาหัสคือรัฐทางใต้ ที่ติดเชื้อกันหลักพันถึงหลักหมื่นต่อวัน อย่างที่บอกคือนาทีนี้อันดับหนึ่งคือรัฐแคลิฟอร์เนีย อันดับสอง รัฐนิวยอร์ก อันดับสาม รัฐฟลอริด้า อันดับสี่ เท็กซัส และอันดับห้า นิวเจอร์ซี่ ที่หลอนสุดเห็นจะเป็นฟลอริด้ากับเท็กซํส แข่งกันป่วยแข่งกันตายเป็นใบไม้ร่วง จนขบวนรถคอนวอยติดแอร์บรรจุศะมุ่งหน้าไปยังสองรัฐนี้ ที่ลาสเวกัส หลายพื้นที่มีคนไทยติดโควิด  แล้วไปวัดไทย ทำให้พระในวัดไทยที่ลาสเวกัสอาพาธโควิดไปด้วย

โควิด19 ใช้เวลา 98 วันสำหรับแพร่เชื้อสู่อเมริกัน 1 ล้านคนแรก  แต่ใช้เวลาเพียงแค่ 16 วันในการไต่ระดับจาก 3 ล้านคนเป็น 4 ล้านคน โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโดยเฉลี่ยในเวลานี้ในอเมริกา เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 2,600 คนในทุกๆ ชั่วโมง ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดในโลก

อาทิตย์ก่อน ท่านผู้นำผมเป๋พล่ามออกสื่อฟอกซ์นิวส์    ที่หนุนอวยทรัมป์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูว่า อเมริกาเป็นชาติที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำที่สุดในโลก   ตื่นๆ ลุง ดูกราฟที่พุ่งสูงชันอย่างน่าใจหายบ้างนะ อย่าเอาแต่จ้องโผคะแนนนิยมที่กำลังตกต่ำของตัวเอง  อเมริกานี่แหละที่ป่วยสี่ล้านห้าแสน ตายไปแสนห้าหมื่นกว่าๆ แล้วยังมั่นหน้ามั่นโหนกไปพล่ามอีกว่า อเมริกามีอัตราการตายต่ำสุดในโลก

ยังไงก็ต้องให้เครดิตลุงแกหน่อย เพราะแม้จะเพ้อเจ้อขนาดไหน ระยะหลังนี่แกก็ยอมใส่หน้ากากผ้า แล้วบอกพลเมืองให้ใส่หน้ากากซะ  ตามประสาลุงทรัมป์นั่นแหละ สุดท้ายก็วกเข้าหาตัวเอง ทำนองว่า การใส่หน้ากากผ้าคือความรักชาติ อันนี้ลุงพูดดีต้องชม แต่ประโยคถัดมานี่ฟังแล้วขนลุกขนพอง เพราะลุงผมเป๋บอกว่า

 “ไม่มีใครรักชาติมากกว่าผม ประธานาธิบดีที่คุณชื่นชอบ”

จ้ะ..เอาที่ลุงสบายใจเลย  บรรดาผู้ไม่ชอบขี้หน้าทรัมป์ระดมด่าลุงกันยกใหญ่ เพราะแต่ก่อนลุงแกยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่า ยังไงก็ไม่ใส่หน้ากากโว้ย เพราะการใส่หน้ากากหมายถึงความอ่อนแอ  แต่ผู้เขียนว่ายังดีที่กลับลำ  หันมากระตุ้นให้อเมริกันใส่หน้ากาก ทั้งหมดทั้งมวลไม่ได้ห่วงใยพลเมืองหรอก  แต่เพราะผลโพลออกมาว่าคะแนนลุงแกต่ำเตี้ยเรี่ยดิน  เป็นรองโจ ไบเดนหลายขุม  เอาเถอะ อะไรก็ตามที่ทำให้อเมริกันใส่หน้ากากได้ย่อมดีที่สุดในเวลานี้

ไม่แน่ใจว่าเพราะผลโพลหรือเพราะคนใกล้ตัวคิดโควิด ล่าสุด โรเบิร์ต โอไบรเอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ติดโควิดแบบไม่แสดงอาการ  วันก่อนก็มีข่าวว่าพนักงานในโรงอาหารของทำเนียบขาวติดโควิด   ลุงแกคงหนาวๆ ร้อนๆ มั่งแหละน่า

จนป่านนี้แล้ว อเมริกันยังทุ่มเถียงด่าทอกัน   ด้วยประเด็นการสวมหรือไม่สวมหน้ากาก ห้างแทบทุกแห่งออกกฎให้ลูกค้าต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า  แต่ก็ยังมีประเด็นที่มีคนไม่ยอมทำตามกฎเกิดขึ้นทุกวันจนน่าระอาใจ   กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล ล่าสุดชายคนหนึ่งไม่ยอมสวมหน้ากากในห้างวอลมาร์ท  จนทะเลาะกับพนักงานและคนในห้าง เลยชักปืนขึ้นมาขู่  โดนรวบตัวไปตามระเบียบ เหตุเกิดที่ฟลอริด้า ซึ่งเป็นรัฐที่กำลังวิกฤติสุดๆ ตอนนี้

บางคนใส่หน้ากากก็จริง แต่หนักไปทางกวนตีน เหตุเกิดที่วอลมาร์ทอีกแล้ว  คนสองคนสวมหน้ากากผ้า     แต่เป็นโลโก้เครื่องหมายนาซี จึงเกิดการโต้เถียงกันในห้าง  ลูกค้าหลายคนอยากให้ห้างเชิญทั้งคู่ออกไป แต่คู่นี้อ้างเสรีภาพ  เดี๋ยวนะ..เสรีภาพทุกเรื่องย่อมมีขอบเขตจะมาอ้างเอาตามใจชอบแบบนี้ไม่ได้ เช่นเดียวกับชายที่ชักปืนขู่ในฟลอริด้า นั่นก็อ้างสิทธิเหมือนกัน

ไม่ต้องดูอื่นดูไกล เขียนจากประสบการณ์ตรงเลยดีกว่า แม้สถานการณ์โควิดจะหนักหน่วงรุนแรงขึ้น  แต่ข้าวของในการป้องกันตัวเองยังขาดตลาดเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค แผ่นเปียกฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งเจลล้างมือ แถมดันมีของปลอมออกมาวางขายในห้างเสียด้วย เนื่องจากแปะป้ายว่าทำจากเอทิลแอลกฮอล์ แต่ดันใช้เมทิลแอลกฮอล์แทน ผู้เขียนยังพลาดซื้อมาตั้งสองขวด เสียดายเงินจริงๆ แม้จะมีการเรียกคืน แต่ไม่อยากจะออกไปติดต่อนอกบ้านเท่าไหร่นัก
 
ปัญหาที่ทุกคนกังวลคือช่วงหน้าหนาว  ผู้เขียนไม่เคยสะสมกักตุนอาหารมาก่อน จึงต้องเริ่มหาซื้อฟรีซเซอร์ขนาดใหญ่ไว้แช่อาหารกักตุนให้มีพอตลอดหน้าหนาวอันยาวนาน กลายเป็นว่าฟรีซเซอร์กลายเป็นสินค้าหายาก ต้องแย่งกันหาแย่งกันซื้อ สุดท้ายลงทุนนั่งเฝ้าจอรอกดสั่งซื้อตอนตีห้าจนได้มาหนึ่งเครื่อง พอซื้อปุ๊บ ของหมดทันที

วันที่ออกไปรับของ เห็นกับตาตัวเองว่า อเมริกันไม่ใส่หน้ากากกันหรอก แม้จะมีกฎใหม่หมาดให้ใส่หน้ากาก แต่ทุกคนก็แขวนหน้ากากอนามัยไว้หน้ารถ พอจะเข้าห้างก็ดึงออกมาใส่อย่างเสียไม่ได้ ออกจากห้างก็ถอด แขวนไว้หน้ารถตามเดิม ใช้อันเดียวซ้ำไปซ้ำมา ความสะอาดไม่ต้องพูดถึง ชิ้นหนึ่งใช้เป็นเดือนล่ะมั้ง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมโควิดถึงระบาดไม่หยุด

ขนาดโควิดระบาดอย่างน่าหวาดกลัว อเมริกายังมีแก่ใจทำเรื่องให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งทหารส่วนกลางลงไปปราบม็อบจอร์จ ฟลอยด์ ตามเมืองต่างๆ คือเริ่มหนักหนาสาหัสมากขึ้นทุกวันตามเมืองใหญ่ อย่าง ชิคาโก พอร์ตแลนด์ หรือออสติน

ล่าสุดเกิดการยิงกันจนชายคนหนึ่งเสียชีวิตที่เมืองออสติน เท็กซัส  แต่หนักสุดคือที่พอร์ตแลนด์ โอเรกอน ซึ่งดูอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยรายวันโควิดช่วงแรกนับว่าควบคุมสถานการณ์ได้ดีมาก แต่หลังจากม็อบนี่ ไม่แน่ใจว่าจะจะยังคุมการระบาดได้ดีขนาดไหน เพราะดูทรงแล้วอาจเซก็งานนี้

ตีกันเองยังไม่หนำใจ ตาลุงผมเป๋เหไปจัดหนักจีน หนนี้ชี้นิ้วว่าจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลส่วนตัวของคนอเมริกัน กร้าวใส่ให้ปิดกงศุลจีนในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ภายใน 72 ชั่วโมง    เพราะสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีการเผาเอกสารที่สนามหญ้านอกสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน และก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน   อเมริกากล่าวหาชาวจีน 2 คนพยายามขโมยงานวิจัยวัคซีนต่อต้านโควิด   ส่วนจีนตอบโต้ว่าเป็นการใส่ร้าย เลยปิดสถานทูตอเมริกาในเฉิงตูมั่งเป็นการตอบโต้

ในฐานะคนไทยในอเมริกา ได้แต่มองความวุ่นวายรายวันในบ้านลุงแซมอย่างหนักใจ  ได้แต่ผ่านวันต่อวันไปอย่างอกสั่นขวัญแขวน เพิ่งตระหนักชัดเจนถึงสำนวนคุ้นชินขึ้นมาทันทีว่า “อยู่ที่ไหนไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา” คนไทยในเมืองไทยขอให้รู้ไว้เถอะว่า โชคดีกว่าคนไทยในอเมริกาหลายเท่านัก  อย่างน้อยตอนนี้ก็ได้ไปเที่ยวสบายใจ ในขณะที่คนไทยในอเมริกาเต็มไปด้วยความหวั่นวิตก ไม่รู้ว่าจะติดโควิดเมื่อไหร่


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ก.ค. 20, 09:59
รอยเตอร์ - ฟลอริดารายงานพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายวัน สูงสุดนับตั้งแต่ระบาดในวันอังคาร (28 ก.ค.) ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในเทกซัสพุ่งผ่าน 400,000 คน โหมกระพือความกังวลว่าสหรัฐฯกำลังหมดหนทางในการควบคุมการแพร่ระบาด

ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นในฟลอริดา, เท็กซัส, แอริโซนา และ แคลิฟอร์เนีย ในเดือนนี้ ทำให้แต่ละรัฐประสบปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาล และต้องพันแผนเปิดเศรษฐกิจ หลังยุติมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมีนาคมและเมษายน เพื่อชะลอการแพร่ระบาด

ฟลอริดา รัฐที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบทะเลและบรรดาผู้เกษียณอายุ รายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 191 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สูงสุดในวันเดียวนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด จากคำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขแห่งรัฐ

ส่วน เทกซัส รัฐซึ่งมีประชากรมากสุดอันดับ 3 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกกว่า 6,000 คน ในวันจันทร์ (27 ก.ค.) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 401,477 คน จากการนับของรอยเตอร์ โดยมีเพียงรัฐอื่นๆ อีก 3 รัฐ ได้แก่แคลิฟอร์เนีย, ฟลอริดา และนิวยอร์ก เท่านั้นมีผู้เชื้อเกินกว่า 400,000 คน ดังเช่นเทกซัส

การแพร่ระบาดที่กำลังลุกลามหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 ทั่วสหรัฐฯ ขยับเข้าใกล้ 150,000 คน ในขณะที่เหลือเวลาเพียงแค่ 3 เดือน ก่อนถึงศึกเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายน ศึกเลือกตั้งที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หวังได้รับชัยชนะ กลับมานั่งเก้าอี้ประมุขแห่งทำเนียบขาวเป็นสมัย 2

จากการนับของรอยเตอร์ จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 ทั่วสหรัฐฯ อยู่ที่ 148,446 คน ในวันจันทร์ (27 ก.ค.) และมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 4.3 ล้านคน

ยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นในฟลอริดา กระตุ้นให้ทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยกเลิกการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในแจ็คสันวิลล์ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตาม ยังพอมีความหวังบ้างเล็กน้อยในข้อมูลจากเทกซัส หลังกระทรวงสาธารณสุขของรัฐรายงานว่า ตัวเลขคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ในปัจจุบัน มีจำนวนลดลงในวันจันทร์ (27 ก.ค.)

https://mgronline.com/around/detail/9630000077243


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 20, 20:05
แพทย์มะกันชี้โควิด-19 ในสหรัฐฯ เข้าสู่ ‘เฟสใหม่’ จะอยู่ใน 'ชนบท-เมือง' ก็เสี่ยงติดเชื้อ
เผยแพร่: 3 ส.ค. 2563 16:01   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รอยเตอร์ – ดร.เดบอราห์ เบิร์กซ์ แพทย์ผู้ประสานงานในคณะทำงานรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาว เอ่ยเตือนวานนี้ (2 ส.ค.) ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ ‘ระยะใหม่’ โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชนบทมีความเสี่ยงติดเชื้อมากพอๆ กับคนในเมือง

ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ยังคงพุ่งสูงในบางพื้นที่ของสหรัฐฯ ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องประสานกับผู้ว่าการรัฐต่างๆ เพื่อกำหนดมาตรการควบคุมโรคที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่

“เราเริ่มเข้าสู่ระยะใหม่... สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้แตกต่างจากเมื่อเดือน มี.ค. และ เม.ย. เพราะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่กว้างขวางทั้งในชนบทและเขตเมือง”

“สำหรับทุกท่านที่อยู่ในชนบท ท่านไม่ได้มีภูมิคุ้มกันหรือได้รับการปกป้องให้พ้นจากไวรัส” พญ.เบิร์กซ์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ State of the Union ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น

แพทย์หญิงผู้นี้ย้ำเตือนให้ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวหลากหลายช่วงวัย และอาศัยอยู่ในชุมชนที่โควิด-19 ระบาด ต้องสวมใส่หน้ากากแม้จะอยู่ภายในบ้านตัวเอง เพื่อปกป้องผู้สูงอายุซึ่งอาจจะมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว

เบิร์กซ์ ยอมรับว่า สิ่งที่ได้พบเห็นจากการไปเยือน 14 รัฐในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกกังวลอย่างยิ่ง

ดิฉันได้เดินทางไปทั่วประเทศ และเห็นผู้คนทั่วอเมริกากำลังออกเดินทาง” เธอกล่าว “ถ้าคุณเลือกที่จะไปท่องเที่ยวพักผ่อนในพื้นที่สีแดง คุณจำเป็นต้องกลับมาและขอให้คิดไว้เลยว่าคุณอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อแล้ว”

จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์บ่ายวันนี้ (3) จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งแตะหลัก 18 ล้านคน โดยสหรัฐฯ ซึ่งเป็นชาติที่โดนไวรัสโคโรนาเล่นงานหนักหน่วงที่สุดมีผู้ป่วยสะสม 4.66 ล้านคน เสียชีวิตแล้วเกือบ 155,000 คน ส่วนประเทศอื่นๆ ที่มีผู้ติดเชื้อหลักล้านเช่นกันได้แก่ บราซิล (2.73 ล้านคน) และอินเดีย (1.8 ล้านคน)
https://mgronline.com/around/detail/9630000079269


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ส.ค. 20, 10:30
การจลาจลอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ตำรวจอเมริกันทำร้ายคนผิวสี กลับมาอีกครั้ง  :o

สถานการณ์ประท้วงตำรวจในรัฐวิสคอนซินบานปลายมากขึ้นหลังกลุ่มผู้ชุมนุมเผารถยนต์ ขว้างปาก้อนหิน ไม่พอใจตำรวจทำเกินกว่าเหตุ รัวยิงนายจาคอบ เบลก ชายผิวสีวัย ๒๙ ปี ถึง ๗ นัดต่อหน้าลูกที่นั่งอยู่ในรถยนต์ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๓)

https://youtu.be/l1uv7DU8Q2Y

เหตุการณ์นี้ทำให้ทางการต้องประกาศเคอร์ฟิวพร้อมเคลื่อนทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำจุดต่าง ๆ เพื่อรับมือกับการประท้วงที่ขยายวงกว้างมากขึ้น หลังจากก่อนหน้าเคยเกิดเหตุการณ์ประท้วงทั่วสหรัฐฯ กรณีนายจอร์จ ฟลอยด์ถูกตำรวจจับกุมและใช้ความรุนแรงจนเสียชีวิต

https://youtu.be/VdhO8u6v0FU


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 26 ส.ค. 20, 13:17
ตำรวจอเมริกันได้รับการฝึกให้ยิงทันทีที่ผู้ถูกจับกุมมีท่าทางไม่ให้ความร่วมมือครับ ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็ดี เป็นการปกป้องชีวิตเจ้าหน้าที่ แต่ในอีกแง่หนึ่ง กลายเป็นว่า จนท. อเมริกาใช้อำนาจนี้ได้โดยเสรีจนหนักไปในทางกลั่นแกล้ง และเหยี่อของการกลั่นแกล้งก็หนีไม่พ้นคนผิวสี

Youtuber ชาวอเมริกันผิวสีท่านหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย พูดผ่านรายการของเขาว่า พอเห็นว่าเป็นคนดำ ตำรวจก็จะเริ่มหาเรื่องยัดข้อหาแล้ว คือ ตอนจบเอ็งต้องผิดอะไรสักข้อหานึงจนได้ คนดำเลยระแวงตำรวจ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเรามักเห็นภาพคนดำเอะอะโวยวาย เหตุผลจริงๆไม่ใช่ว่าเขาก้าวร้าว แต่เขาทำอย่างนั้นเพื่อให้เป็นจุดสนใจ ให้คนรอบข้างหันมามอง ตำรวจจะได้เล่นงานเขาได้ยากขึ้น

จริงเท็จอย่างไร ผมก็ไม่รู้เพราะชีวิตนี้ไม่เคยไปอเมริกา แต่จากหลักฐานที่เห็นผ่านข่าวสารต่างๆ ก็ดูจะชี้ไปในทางว่า จริงตามนั้นแหละครับ   


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ส.ค. 20, 16:42
ใครอยากอ่านเรื่องของนายจาค็อบ เบลค อ่านได้ตามนี้ค่ะ

https://www.catdumb.tv/jacob-incident-another-view-290/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ส.ค. 20, 09:27
วันพุธที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๓ รถยนต์หลายคันในเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน ถูกเผาทำลายจนเหลือแต่โครง ระหว่างการประท้วงเหตุการณ์ตำรวจยิง เจคอบ เบลก ชายชาวแอฟริกันอเมริกันวัย ๒๙ ปี จนบาดเจ็บสาหัส และนำมาซึ่งการชุมนุมในวันอาทิตย์ ก่อนจะยกระดับการประท้วงเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา มีการจุดไฟเผาย่านธุรกิจและเขตที่อยู่อาศัยในเมืองไปอย่างน้อย ๓๐ จุด ตามรายงานของหน่วยงานดับเพลิงท้องที่


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 20, 10:19
เกิดขึ้นอีกจนได้  ตำรวจยิงชายผิวสีเสียชีวิต

แอลเอประท้วงเจ้าหน้าที่ยิงหนุ่มผิวสีเสียชีวิต

โดย PPTV Online

เผยแพร่ 2 ก.ย. 2563,07:49น.

การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่จากสำนักงานนายอำเภอเซาธ์ลอสแองเจลิส วิสามัญฆาตกรรม ดิฌง คิซซี่   (Dijon Kizzee ) ชายหนุ่มผิวสีวัย 29 ปี  โดยผู้ชุมนุมหลายร้อยคนได้เดินขบวนไปยังสำนักงานนายอำเภอดังกล่าว  พร้อมเรียกร้องขอคำอธิบายต่อสิ่งที่เกิดขึ้น   ส่วนเจ้าหน้าที่ระบุว่า คิซซี่ พยายามวิ่งหลบหนีหลังจากถูกสั่งให้หยุดรถจักรยาน เนื่องจากละเมิดกฎการใช้ยานพาหนะ

ระหว่างถูกจับกุม คิซซี่ ได้ชกเข้าไปที่หน้าของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง พร้อมทั้งทำปืนพกกึ่งอัตโนมัติที่ซ่อนไว้ในเสื้อผ้าตกลงพื้น เจ้าหน้าที่จึงยิงเข้าที่กลางหลังถึง 20 นัด แม้ คิซซี่ จะไม่มีอาวุธอยู่ในมือแล้ว 

เหตุการณ์ดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการสืบสวน แต่เบื้องต้นพบว่า เจ้าหน้าที่ที่พยายามเข้าจับกุมไม่ได้ติดตั้งกล้องไว้ที่ตัว จึงไม่มีภาพเหตุการณ์ขณะคิซซี่ถูกยิง

ขณะที่ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการจับกุมและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุก่อยิงครั้งนี้

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/132476


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 20, 15:54
 :-\


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 07 ต.ค. 20, 19:34
ลุงแกกำลังเลือกตั้งต้องสร้างภาพไว้ก่อน เสรีชนคนอเมริกาจะได้ประทับใจ  8)


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ต.ค. 20, 19:39
     จลาจลยังไม่สงบลงง่ายๆ

     ตำรวจฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย รายงานเหตุประท้วงและปล้นร้านค้าหลายแห่งในเมืองติดต่อกันเป็นคืนที่ 2 เพราะผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่ตำรวจยิงชายผิวสีจนเสียชีวิต คือนายวอลเตอร์ วอลเลซ อายุ 27 ปี เมื่อบ่ายวันจันทร์ (26 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจรายงานก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งเหตุว่า มีชายถืออาวุธมีดในที่ชุมชน ชายคนนั้นคือนายวอลเลซ แต่ไม่ยอมวางอาวุธและพยายามเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ จึงถูกเจ้าหน้าที่ยิงบาดเจ็บ หลังจากนั้นตำรวจได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในระหว่างทาง
        ขณะเดียวกัน จากภาพที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคม แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ 2 คนชี้ปืนไปที่นายวอลเลซ ที่กำลังเดินเข้าไปหา แล้วเจ้าหน้าที่ถอยห่างออกมา ขณะที่ตะโกนให้นายวอลเลซวางมีด จากนั้นมีการยิงปืนและเห็นนายวอลเลซนอนอยู่บนพื้นถนน ในการแถลงข่าว ครอบครัวของนายวอลเลซระบุว่า ภรรยาของนายวอลเลซเป็นผู้ที่โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินเพื่อขอรถพยาบาล เนื่องจากสามีของเธอมีอาการคุ้มคลั่ง และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งเหตุอย่างชัดเจนว่า สามีของเธอป่วยเป็นโรคไบโพลาร์และอยู่ในภาวะวิกฤต
         นายจิม เคนนีย์ นายกเทศมนตรี จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เขารอคอยคำชี้แจงและการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและโปร่งใสเพื่อประโยชน์ของนายวอลเลซและครอบครัวและเพื่อฟิลาเดลเฟีย แต่ในเวลาเดียวกันการทำลายทรัพย์สินและปล้นไม่ใช้การแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพ
          ทางการของรัฐต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่จากกองกำลังพิทักษ์ชาติเข้ามาสนับสนุนการรักษาความสงบในเมือง หลังจากที่เหตุไม่สงบในคืนวันจันทร์ (26 ต.ค.) มีตำรวจบาดเจ็บ 30 คน ผู้และมีผู้ถูกจับกุม 91 คน
https://www.js100.com/en/site/news/view/93745


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ต.ค. 20, 19:41
https://www.youtube.com/watch?v=nRHpKRpGMQc


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ย. 20, 09:39
ร้านค้าหรูในนิวยอร์กแห่ปิดชั่วคราว หวั่นเหตุวุ่นวายในวันเลือกตั้ง

ข่าวต่างประเทศ Monday November 2, 2020 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)


ร้านค้าจำนวนมากในนิวยอร์กซิตี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านหรูใจกลางแมนฮัตตัน พร้อมใจกันปิดร้านในช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องจากใกล้ถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งมีกระแสคาดการณ์ว่าจะเกิดเหตุวุ่นวายหรือจลาจลเนื่องจากผลการเลือกตั้ง

หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก โพสต์ รายงานว่า พนักงานในร้านชื่อดัง เช่น Staples, Ann Taylor และ Bed Bath & Beyond ในย่านเชลซี ได้นำแผ่นไม้มาปิดกระจกหน้าร้านเพื่อป้องกันการขโมยของ ขณะที่ธุรกิจที่อยู่บริเวณใกล้เคียงบางส่วน เช่น Argo Tea และภัตตาคาร Rosa Mexicana ที่บรอดเวย์ ต่างปิดทำการชั่วคราวแล้ว

ทางด้านหนังสือพิมพ์เวิลด์ เจอร์นัลรายงานว่า แบรนด์ดังอย่าง Chanel, Dior และ Fendi ต่างก็นำแผ่นไม้มาปิดกระจกหน้าร้านเพื่อป้องกันการขโมยของที่หน้าร้านในห้างเมซีส์ ในเฮรัลด์สแควร์ ใจกลางแมนฮัตตันเช่นกัน

สำนักงานตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) ประกาศว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะระดมกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในช่วงการเลือกตั้งปีนี้มากกว่าเดิม เนื่องจากกังวลว่าอาจเกิดเหตุการณ์วุ่นวายที่เป็นผลมาจากการเลือกตั้ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับตาดูจุดเลือกตั้ง 1,201 แห่งทั่วเมืองในวันที่ 3 พ.ย. รวมถึงโรงเรียนรัฐ 708 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งใหม่ที่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน และลินคอล์น เซ็นเตอร์ในแมนฮัตตัน และบาร์เคลย์ส เซ็นเตอร์ในบรูคลิน

https://www.ryt9.com/s/iq37/3171680



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ย. 20, 09:51
เตรียมพร้อมรับมือจลาจลในวันเลือกตั้ง ของประเทศประชาธิปไตยที่สุดในโลก


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ย. 20, 09:54
อีกภาพหนึ่งค่ะ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ย. 20, 09:57
น่าสงสารร้านอาหาร subway  ต้องตีแผ่่นไม้ปิดกระจกหน้าร้านและประตูเสียมิดชิด ราวกับเลิกกิจการ  แต่ต้องแปะตัวหนังสือบอกว่า  ร้านยังเปิดอยู่นะค้า เชิญเข้ามาได้เลย


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 พ.ย. 20, 11:02
ระเบิดเวลาจลาจลครั้งต่อไป หาก ทรัมป์ไม่ยอมเปิดทางให้ผู้นำใหม่เข้าทำเนียบขาว

https://www.bbc.com/thai/international-54887596

บางส่วนจากบทความ,     

              สหรัฐฯ กำลังอยู่ในสภาวะกระอักกระอ่วนหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และ
นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่านี่อาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง

              ทีมหาเสียงไบเดนเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ระบุว่า "ชาวอเมริกันจะเป็นผู้ตัดสินการเลือกตั้งครั้งนี้ และรัฐบาลสหรัฐฯ มี
ความสามารถที่จะพาตัวผู้บุกรุกออกจากทำเนียบขาว"
              กระบวนการดังกล่าวอาจเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีสังกัดกระทรวงยุติธรรม (US Marshals) หรือ
หน่วยอารักขาบุคคลสำคัญ (US Secret Service) ที่ต้องพาทรัมป์ออกจากทำเนียบ

               บีบีซีถามผู้เชี่ยวชาญ ว่าเป็นไปได้ไหมที่ทรัมป์จะยืนกรานไม่ออกจากตำแหน่งแม้จะผิดกฎหมาย
               ศ.ดาโกตา รูดซิล ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายความมั่นคงและกฎหมายแห่งชาติ แห่งมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอ บอกบีบีซี
ว่า หากเกิดขึ้นจริง ๆ "...จะทำลายธรรมเนียมปฏิบัติสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้"
              "มันจะสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ ต่อหลักความสัมพันธ์ด้านพลเรือนและการทหารที่สำคัญ และก็อนาคตของ
หลักการประชาธิปไตยในระดับโลกด้วย"
               ศ.รูดซิล บอกว่า มันไม่น่าจะเกิดขึ้น "กำลังพลของกองทัพต่างสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่นักการเมือง
ที่กำลังดำรงตำแหน่งอยู่"
               ศ.รูดซิลบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะใช้คำสั่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาหรือ Executive Order หรือให้
กระทรวงยุติธรรม ซึ่งควบคุมโดยพันธมิตรทางการเมืองของเขาอยู่ ออกคำสั่งให้ฝ่ายบริหารพิจารณาว่าทรัมป์เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
แต่นี่จะเป็นสิ่งที่ "ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และเป็นที่ยอมรับไม่ได้"

               ด้าน เคชา เบลน บอกว่า การปฏิเสธไม่รับผลเลือกตั้งของทรัมป์อาจจะนำไปสู่ความวุ่นวายอย่างหนักได้ เธอบอกว่า
คำพูดของทรัมป์ "เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการประท้วงหรือแม้กระทั่งความรุนแรง" ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว
ว่าบางเมืองในสหรัฐฯ มีทั้งผู้สนับสนุนของทรัมป์พกอาวุธ และกลุ่มต่อต้านที่มีความคิดสุดโต่งออกมาเช่นกัน และบางคนก็พกอาวุธด้วย


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 พ.ย. 20, 16:19
ทรัมป์คงไม่ถึงกับนั่งอยู่ในห้องทำงานไม่ยอมลุกไปไหน จนต้องลากออกไป     เขาน่าจะเดินหน้าด้านกฎหมายคือฟ้องให้การเลือกตั้งในบางรัฐเป็นโมฆะ  เพราะมีการโกงเลือกตั้ง   ถ้าเขาหาหลักฐานมาได้  ศาลก็ต้องรับฟัง
ระหว่างลากยาวไปให้ศาลตัดสิน   กว่าศาลจะประกาศ  พี่แกก็ยังนั่งเก้าอี้ต่อไป   โจ ไบเดนก็คงไม่ถึงวันสาบานตนสักที  ระหว่างนี้   ฝ่ายเสื้อแดงกับเสื้อฟ้าก็คงก่อจลาจลกันต่อไปในรัฐต่างๆ
และโควิดก็ยังพุ่งสูงเอาๆ

หวังว่าจะไม่เป็นจริงค่ะ



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 พ.ย. 20, 10:50
ดูจากคะแนนล่าสุด   อเมริกาน่าจะไม่จลาจลแล้วนะคะ  เพราะไบเดนชนะขาดลอย


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ย. 20, 07:48
นึกอยู่แล้วว่าลุงทรัมป์ไม่ยอมลงจากเก้าอี้ง่ายๆ  ยังไงเมื่อสู้ตามกติกาไม่ได้ ก็ต้องสู้กันนอกกติกากันสักครั้ง

เพราะยังไม่ทันประกาศผลแพ้ชนะกันเด็ดขาดระหว่างทรัมป์กับไบเดน   อเมริกาก็เริ่มยกแรกของจลาจลแล้ว ระหว่างขบวนผู้สนับสนุนทรัมป์ กับผู้ไม่สนับสนุน
ผู้สนับสนุนทรัมป์เดินขบวนประท้วงว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้มีการโกงคะแนนเลือกตั้งกันทางไปรษณีย์     ตามที่ลุงทรัมป์แกอ้างลอยๆเอาไว้   เมื่อศาลไม่รับข้อหานี้   กฎหมู่ก็เลยเกิดขึ้น เป็นผลจากกฎหมายที่ไม่เข้าข้างลุงทรัมป์แก
แบบมวยแพ้  คนไม่แพ้

ขบวนการประท้วงเกิดในวอชิงตัน ดี.ซี.  เรียกตัวเองในชื่อต่างๆ เช่น Million MAGA March,' 'Stop the Steal,' และ 'March for Trump'  และวางแผนจะขยายขบวนการประท้วงนี้ไปทั่วประเทศ

แห่กันออกมาแบบนี้ หน้ากากก็ใส่มั่งไม่ใ่ส่มั่ง   น่าห่วงว่าสถิติคนติดเชื้อโควิดจะพุ่งพรวดๆขึ้นอีกค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=PlXmwDJsLsk&feature=emb_logo


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ม.ค. 21, 08:04
๒๐๒๑ อเมริกาจลาจล (ภาคต่อ)

ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (๖ มกราคม ๒๕๖๔) ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงวอชิงตัน กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ไปรวมตัวกันก่อนจะบุกเข้าไปยังอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในขณะที่สมาชิกรัฐสภากำลังประชุมเพื่อรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ จนทำให้ต้องยุติการประชุมและปิดอาคารรัฐสภา

ผู้ชุมนุมร้องตะโกน คำว่า "เราต้องการทรัมป์" กึกก้องทางเดินในอาคารรัฐสภา ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนำตัวสมาชิกรัฐสภาและสื่อมวลชนไปยังบริเวณที่ไม่มีการเปิดเผย

ในเวลาเดียวกันก็มีการเสริมกำลังจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิเพื่อควบคุมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนายทรัมป์ กล่าวต่อหน้าผู้สนับสนุนหลายพันคนที่ร่วมเดินขบวนในกรุงวอชิงตันก่อนหน้านี้ว่า "เราจะไม่ยอมแพ้" แม้คณะผู้เลือกตั้งได้ลงคะแนนเสียงยอมรับว่านายไบเดน คือผู้ชนะการเลือกตั้งแล้วก็ตาม

ไบเดนชี้ผู้ชุมนุมก่อจลาจล

ในระหว่างเกิดเหตุการณ์ นายไบเดน ได้ออกมากล่าวเรียกร้องให้นายทรัมป์ "ทำตามคำสัตย์ปฏิญาณที่ให้ไว้และปกป้องประชาธิปไตยด้วยการทำให้การชุมนุมยุติลง"

"การโจมตีอาคารรัฐสภาไม่ใช่การชุมนุมเรียกร้อง แต่เป็นการก่อจลาจล" นายไบเดน ระบุและบอกด้วยว่า "ประชาธิปไตยนั้นช่างเปราะบาง…การจะพิทักษ์มันไว้ได้จะต้องอาศัยผู้นำที่อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เพื่ออำนาจของตัวเอง"

ทรัมป์สั่งผู้ชุมนุมให้กลับบ้าน

หลังจากนั้น นายทรัมป์ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ เรียกร้องผู้ชุมนุมไม่ให้ใช้ความรุนแรง และยังโพสต์วิดีโอหลังจากนายไบเดนได้ออกมาเรียกร้องให้เขากล่าวถ้อยแถลงและยุติการประท้วงที่เกิดขึ้นทั้งในกรุงวอชิงตันและหลายพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ

"ผมรับรู้ความเจ็บปวดของพวกคุณ ผมรู้ว่าคุณเจ็บ" นายทรัมป์ กล่าวและอ้างว่ามีการขโมยชัยชนะในการเลือกตั้ง "ทุกคนรู้ดี โดยเฉพาะอีกฝ่ายหนึ่ง แต่พวกคุณต้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้" เขาบอกกับผู้ชุมนุม

อ่านข่าวต่อจาก บีบีซี (https://www.bbc.com/thai/55569424)

https://youtu.be/mnEbmPXizSs


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 21, 09:29
มีผู้หญิงถูกยิงตายไป 1 คน ในการที่ม็อบเชียร์ทรัมป์บุกรัฐสภา

Woman shot inside Capitol pronounced dead, DC police confirm
From CNN’s Christina Carrega


The woman who was shot inside US Capitol during riots Wednesday afternoon was pronounced dead at an area hospital, a spokesperson with the Metropolitan Police Department confirmed to CNN.

“Yes, the adult female that was shot inside of the Capitol was pronounced at an area hospital,” said spokesperson Dustin Sternbeck with the Metropolitan Police Department
Sternbeck said, “additional details will be forthcoming as this remains an active MPD investigation.”


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 21, 09:31
ผลจากประชาธิปไตยแบบมวยแพ้ คนไม่แพ้ ในสหรัฐอเมริกา คือประชาชนถูกยิงตายไป 1 คน
เข้าไปดูได้ในยูทูป  เสิชคำว่า
Woman shot inside US Capitol pronounced dead, DC police confirm

https://www.youtube.com/watch?v=NuJg14AsNAg


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 21, 11:58
อ่านและดูคลิปได้ที่นี่ค่ะ
https://mgronline.com/around/detail/9640000001140

ผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งถูกยิงในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในวันพุธ (6 ม.ค.) ระหว่างเหตุการณ์ความวุุ่นวายกลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้าไปภายใน หวังกดดันสภาคองเกรสไม่ให้ลงมติรับรองชัยชนะในศึกเลือกตั้งของโจ ไบเดน
ขณะเดียวกัน พบเห็นการประท้วงอีกหลายเมือง แต่ยังไม่มีรายงานความโกลาหลดังเช่นที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง

ภาพในวิดีโอพบเห็นผู้หญิงคนหนึ่งถูกยิงบริเวณหน้าอกภายในอาคารรัฐสภา ล้มลงไปนอนกับพื้น มีเลือดไหลออกจากปาก ระหว่างนั้นตำรวจพยายามปฐมพยาบาลให้กับเธอ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความโกลาหล ทั้งนี้ ต่อมาแหล่งข่าวเปิดเผยว่าเธอเสียชีวิตแล้ว ขณะที่แหล่งข่าวเข้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กโพสต์ ดูเหมือนผู้หญิงรายดังกล่าวจะถูกยิงโดยตำรวจรัฐสภา

โฆษกกรมตำรวจวอชิงตันยืนยันข่าวผู้หญิงถูกยิงเสียชีวิตระหว่างพวกผู้ประท้วงสนับสนุนทรัมป์บุกจู่โจมอาคารรัฐสภา แต่บอกว่าไม่เป็นที่ชัดเจนเป็นฝีมือใคร แม้ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าเสียงปืนดังขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสั่งให้ผู้ประท้วง “ถอยกลับไป”

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่อาคารรัฐสภา หลังพวกผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์บุกเข้าไปภายใน มีภาพตำรวจในห้องประชุมเตรียมชักปืนยิง บรรดา ส.ส.สวมหน้ากากป้องกันแก๊ส พวกผู้ประท้วงทุบกระจกหน้าต่าง ในความพยายามกดดันไม่ให้สภาคองเกรสโหวตรับรองชัยชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน

ภาพสถานการณ์ภายในอาคารรัฐสภา ดูคล้ายกับฉากแห่งการรัฐประหารยึดอำนาจ พวกผู้สนับสนุนทรัมป์โบกธงสีน้ำเงินและสวมหมวกสีแดง บุกเข้าไปภายใน มุ่งตรงไปยังห้องประชุมกำลังเปิดอภิปรายก่อนการโหวตรับรอง ไบเดน และภาพในทวิตเตอร์ที่ส่งต่ออย่างกว้างขวาง พบเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายหนึ่งเล็งปืนสั้นออกไปนอกหน้าต่างที่แตก คอยหยุดยั้งใครก็ตามที่พยายามบุกเข้ามา

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ปราศรัยกับพวกผู้ชุมนุมนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่อุทยานเนชันแนล มอลล์ ตอกย้ำคำกล่าวอ้างโกงเลือกตั้งและผุดทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ นานา ว่าทำไมเขาควรยังคงเป็นประธานาธิบดี แม้พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน จากนั้น ทรัมป์ ก็ยุให้พวกเขาเดินขบวนไปสภาคองเกรส

ไม่กี่นาที ม็อบได้ไหลบ่าไปเต็มขั้นบันไดหน้าอาคารรัฐสภา จากนั้นฝูงชนหัวรุนแรงกลุ่มเล็กๆ เกิดการกระทบกระทั่งกับตำรวจ ผลักดันเจ้าหน้าที่จนล่าถอยไป และท้ายที่สุดแล้วก็บุกเข้าไปภายในได้สำเร็จ

นอกเหนือจากในเมืองหลวงแล้ว พวกผูุ้สนับสนุนของทรัมป์ ยังรวมตัวชุมนุมกันตามอาคารรัฐสภาในหลายเมือง ไล่ตั้งแต่แอตแลนตา ไปจนถึงซาเล็ม, ออริกอน ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆกับเหตุการณ์บุกจู่โจมอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จากฝีมือพวกผู้ประท้วงเรียกร้องให้พลิกผลการเลือกตั้งที่ทรัมป์เป็นฝ่ายปราชัยแก่ไบเดน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความรุนแรงหรือสถานการณ์ความวุ่นวายร้ายแรงตามเมืองต่างๆเหล่านั้น

ในเมืองเอกของรัฐออริกอน ฝูงชนที่ออกมาสนับสนุนทรัมป์และต่อต้านข้อจำกัดสกัดโควิด-19 ของทางรัฐ ได้จุดไฟเผาหุ่นจำลองของผู้ว่าการรัฐจากเดโมแครต ส่วนตำรวจประกาศว่ามันเป็นการประท้วงที่ผิดกฎหมายและสั่งให้ผู้ประท้วงสลายการชุมนุม


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 21, 12:07
จะติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่กันละเนี่ย


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: ภศุสรร ที่ 07 ม.ค. 21, 13:26
โลกใบนี้ของเราทุกคนกำลังเป็นอะไรอยู่....ยังไงก็ต้องขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคุ้มครองให้คนทั้งโลกนี้ปลอดภัยด้วยนะครับ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 07 ม.ค. 21, 14:15
น่าเป็นห่วงเรื่องโรคจริงๆค่ะพอมารวมตัวกันแบบนี้

ส่วนเรื่องการชุมนุมเห็นมีคนบอกว่าอย่างน้อยทางนั้นทหารก็ออกมาบอกว่าจะไม่ออกมาและทุกคนสามารถวิจารณ์ทุกฝ่ายได้ คงต้องรอการตรวจสอบว่ามีการโกงไหมอย่างเดียวถ้าไม่มีก็หวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นที่มากกว่านี้


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ม.ค. 21, 14:19
สำนักข่าว CNN  (https://edition.cnn.com/2021/01/06/politics/us-capitol-lockdown/index.html)รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต ๔ คนจากเหตุผู้ประท้วงสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงชื่อว่า Ashli Babbit เป็นผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกยิงขณะเข้าไปในอาคารรัฐสภาพร้อมกับผู้ประท้วงคนอื่น  เจ้าหน้าที่พบบริเวณพื้นอาคารรัฐสภา ขณะที่ผู้เสียชีวิตอีก ๓ คน เป็นผู้ชาย ๑ คน และผู้หญิง ๒ คน เสียชีวิตหลังถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน

ขณะที่ สำนักข่าว BBC (https://www.bbc.com/news/live/election-us-2020-55558355) รายงานว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บอย่างน้อย ๑๔ คน โดยมี ๒ คนถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนฝั่งผู้ประท้วงถูกจับกุมแล้วมากกว่า ๕๒ คน ส่วนใหญ่กระทำความผิดฐานละเมิดเคอร์ฟิว โดยมีบางส่วนทำผิดฐานครอบครองอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาต

สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ สภาคองเกรสกลับมาทำหน้าที่ตามปกติแล้ว โดยอยู่ระหว่างกระบวนการรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งระบุว่า นายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป

ข่าวจาก เวิร์กพอยต์ (https://workpointtoday.com/trumpprotest-4dead/)


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 21, 20:26
https://www.facebook.com/OilTraderKP/posts/697709040782442


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 08 ม.ค. 21, 08:14
สำนักข่าว CNN  (https://edition.cnn.com/2021/01/06/politics/us-capitol-lockdown/index.html)รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต ๔ คนจากเหตุผู้ประท้วงสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงชื่อว่า Ashli Babbit เป็นผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกยิงขณะเข้าไปในอาคารรัฐสภาพร้อมกับผู้ประท้วงคนอื่น  เจ้าหน้าที่พบบริเวณพื้นอาคารรัฐสภา ขณะที่ผู้เสียชีวิตอีก ๓ คน เป็นผู้ชาย ๑ คน และผู้หญิง ๒ คน เสียชีวิตหลังถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน


"One adult female and two adult males appear to have suffered from separate medical emergencies, which resulted in their deaths. Any loss of life in the District is tragic and our thoughts are with anyone impacted by their loss," Contee said at a news conference Wednesday night.

สรุปจากCNN ผู้เสียชีวิตหลังส่งตัวเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน ผู้ชาย 2 ผู้หญิง 1 ค่า


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ม.ค. 21, 09:03
สรุปจากCNN ผู้เสียชีวิตหลังส่งตัวเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน ผู้ชาย 2 ผู้หญิง 1 ค่า

ขอขอบพระคุณ คุณนางมารน้อย ที่กรุณาตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง  ;D


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ม.ค. 21, 10:19
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน มีอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่มีใครนำมาลงให้อ่านกัน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเอกสารสำคัญที่สุดคือ ประกาศนียบัตรการรับรองคะแนนของ Electors ในแต่ละรัฐ ซึ่งเป็นเอกสารทางการที่สำคัญมาก ๆ  เพราะเป็นการยืนยันความถูกต้องแท้จริงในการรับรองคะแนนของ Electors จากรัฐนั้น ๆ  (ตัวจริงถูกส่งมาที่ Washington, DC และฉบับสำเนา จะเก็บไว้ที่ Office of the Secretary of State)

เมื่อเหตุการณ์การบุกรัฐสภาเกิดขึ้นแอย่างไม่มีใครคาดคิด ทุก ๆ คนต่างพยายามหลบออกจากสถานการณ์เพื่อความปลอดภัย แต่ยังมีกลุ่มอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นสตรีเพศทั้งหมด ซึ่งเป็นผู้ทำงานในวุฒิสภา ต่างพร้อมกันปิดหีบซึ่งประกอบไปด้วยประกาศนียบัตรรับรองการลงคะแนนของ Electors แต่ละรัฐ ตัดสินใจนำเอาหีบเหล่านี้ออกไปจากตึกรัฐสภาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีการบุกรัฐสภาเกิดขึ้น

รูปภาพที่เห็นเป็นรูปของสตรีผู้ถือหีบการลงคะแนนเสียง ซึ่งตัวหีบนั้น มีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปี  พวกเธอเดินออกไปอย่างสงบและหากไม่ได้มีการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดอย่างรวดเร็วของกลุ่มสตรีเหล่านี้เกิดขึ้น หีบการลงคะแนนเสียงของประวัติศาสตร์.ซึ่งประกอบด้วยเอกสารประกาศนียบัตรที่สำคัญของแต่ละรัฐ อาจจะถูกเผาหรือถูกขโมยออกไปโดยพลการได้

ตามประเพณี  หีบเหล่านี้จะนำเข้ามาสู่ตึกวุฒิสภาในระหว่างกระบวนการการรับรองการเลือกตั้งประธานาธิบดีในแต่ละวาระ และผู้ชนะการเลือกตั้งก็จะถูกประกาศอย่างเป็นทางการ เราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า หากหีบเหล่านี้ ตกไปอยู่ในมือของผู้บุกรุกรัฐสภาแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง  

ตามข้อความที่ลงไว้ในทวิตเตอร์ มีการกล่าวว่า ผู้บุกรุกรัฐสภาพยายามแสวงหาหีบเหล่านี้กัน เนื่องจากพวกเขาได้ถูกซักซ้อมและทำความเข้าใจกันถึงความสำคัญของมันมาก่อนหน้าแล้ว และสตรีผู้ทำงานในตึกวุฒิสภาเหล่านี้ได้ช่วยรักษาประเพณีรวมทั้งการรับรองการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้อย่างไร  

กลุ่มสตรีเหล่านี้ต้องการความแน่ใจว่า พวกเธอยังคงปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อไป ถึงแม้ว่าจะมีการบุกรุกเข้ามา และสามารถรักษากระบวนการประชาธิปไตยต่อไปได้ เพราะพวกเธอปฏิบัติหน้าที่กันอย่างสงบไม่สะทกสะท้าน และเว็บหลาย ๆ เว็บ ก็ใช้คำว่า “วีรสตรีผู้รักชาติ” กันอย่างเต็มใจ

ในช่วงค่ำ พวกเธอก็นำหีบเหล่านี้กลับเข้ามาในตึกวุฒิสภา เพื่อให้กระบวนการการนับคะแนนอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นได้ต่อไป  สุดท้าย เราก็คงจะเห็นแล้วว่า ผลเป็นอย่างไรบ้างในเวลานี้

เลยขอเขียนบทความให้เป็นความรู้กันว่า กลุ่มสตรีธรรมดา ๆ เล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งทำงานเป็นบุคลากรในวุฒิสภา (Senate Aides)  ได้ปกป้องรักษากระบวนการในรูปแบบประชาธิปไตยไว้ได้อย่างไร

อ้างอิงจากบทความ The Photos of These Women Saving the Ballot Boxes Belong in History Books (https://hellogiggles.com/news/senate-aides-saving-ballot-boxes/)

จาก เฟซบุ๊กของคุณดวงจำปา สเปนเซอร์-ไอเซนเบอร์ก (https://www.facebook.com/804632636246419/posts/3718225384887115/)


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ม.ค. 21, 14:21
จาก Facebook ของคุณ Pana Thongmeearkom

เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ทหารกว่าหกแสนนายต้องสังเวยชีวิตในสงครามกลางเมืองสหรัฐ
ธงศึกของสหพันธรัฐอเมริกา (Confederate Flag) หรือธงศึกฝ่ายใต้ผืนนี้นอกจากไม่สามารถเข้ามาโบกสบัดในอาคารรัฐสภานี้ได้แล้ว  ที่ตั้งต่าง ๆ มากมายในรัฐฝ่ายใต้ที่มีธงผืนนี้โบกสบัดกลับยับเยิน ถูกถอนและแทนที่ด้วยธงของฝ่ายสหรัฐ
ภาพธงสงครามหรือธงศึกของฝ่ายใต้ในอาคารรัฐสภาของสหรัฐจากการก่อจลาจลของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ภาพนี้จึงเป็นเรื่องขัดแย้งในความรู้สึกของคนอเมริกัน เพราะมันมาอยู่ในที่ ๆ มันไม่สามารถเข้ามาได้ในอดีต
คนไทยจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกว่าธงนี้สวยงาม  แต่เรามักตื้นเขินเกินกว่าจะรู้ว่าธงนี้เป็นสัญลักษณ์ที่โหดร้าย กดขี่
บางคนละเอียดอ่อนในจิตสัมผัส รู้สึกว่าธงนี้เป็นตัวแทนของการไม่สยบยอม การลุกขึ้นสู้ การต่อต้านปฏิวัติ..แต่นั่นก็ยังผิวเผินมากเพราะไปไม่ถึงแนวคิดที่อยู่ลึกกว่านั้น
เพราะแท้จริงแล้ว ธงนี้เป็นธงของฝ่ายกดขี่ เป็นธงศึกของสมาพันธรัฐอเมริกา ฝ่ายผู้ต้องการธำรงระบบทาสไว้
หลังการคืนดีของอเมริกันและการรวมตัว สัญญลักษณ์นี้ยังแฝงในธง และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของรัฐทางใต้อยู่ จนระยะหลังโดยเฉพาะช่วงเรียกร้องสิทธิคนดำ(Black Life Matter) สัญลักษณ์นี้ถึงถูกลบและเพิกถอนออกไป
ธงนี้มักถูกใช้เพื่อแสดงถึงความเหนือกว่าของคนขาว หรือกระบวนคิดแบบ White Supremacy มันมักถูกโบกโดยพวก KKK  มักถูกโบกโดยพวกต่อต้านการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ หรือถูกโบกโดยพวกเรียกร้องสสิทธิ์ที่จะกดขี่หรืออยู่เหนือคนอื่น
ในโลกส่วนใหญ่ ธงนี้เป็นที่น่ารังเกียจพอ ๆ กับธงนาซี เพราะแนวคิดเบื้องหลังความเท่ห์คือความโหดร้าย กดขี่ค้ำคอ ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไม่เคารพสิทธิ์ของผู้อื่น
มันเป็นแนวคิดที่น่าเกลียดในสังคมโลกยุคใหม่


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ม.ค. 21, 15:29
ผู้หญิงคนนี้ชื่อ Ashli Babbitte วัย 35 ปี  เป็นคนแรกที่เสียชีวิตจากถูกยิง เมื่อม็อบบุกรัฐสภาสหรัฐในกรุงวอชิงตัน 
เธอเป็นอดีตทหารอากาศที่รับราชการในกองทัพอากาศมา 14 ปี เคยไปประจำการอยู่ตามประเทศต่างๆ 4 ครั้ง 
อ่านประวัติได้ที่นี่ค่ะ
https://www.dailynews.co.th/foreign/817573


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ม.ค. 21, 22:04
จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลที่รัฐสภาในกรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ เพิ่มเป็นอย่างน้อย ๕ ราย โดยผู้เสียชีวิตคนล่าสุด คือตำรวจประจำรัฐสภาชื่อ Brian D. Sicknick ซึ่งเสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลาประมาณ ๒๑.๓๐ น. วันที่ ๗ มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยอาการได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่สำนักงานชันสูตรศพและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง กำลังตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตอย่างละเอียด เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุแท้จริงของการเสียชีวิตต่อไป

ข่าวจาก เดลินิวส์ (https://www.dailynews.co.th/foreign/817729)

https://youtu.be/Xrk6B3LhE9g


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ม.ค. 21, 21:12
https://www.thaipost.net/main/detail/89229
 
            จะทำยังไงกับโดนัลด์ ทรัมป์ กับ 12 วันที่เหลือก่อนโจ ไบเดนสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง?

            สภาคองเกรสมีมติรับรองไบเดนเป็นประธานาธิบดีตอนก่อนตี 4 วันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุการณ์จลาจลของม็อบที่บุกตึกรัฐสภาจากการปลุกปั่นของทรัมป์

            ทันทีทันใดก็มีข่าวจากทำเนียบขาวว่า คนรอบๆ ข้างทรัมป์หลายคนยื่นใบลาออกเพื่อคัดค้านการกระทำของทรัมป์

            ช้าไปแล้ว

            แต่ก็เป็นการตอกย้ำว่าทรัมป์กำลังจะหมดสภาพ เพราะเมื่อหมดอำนาจ ทุกคนก็กำลังจะกระโดดหนีทันที

            แม้แต่รองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์ที่เคยทำตัวเป็นผู้ซื่อสัตย์ต่อทรัมป์มาตลอด ก็แยกตัวออกมาแสดงความเป็นตัวของตัวเองหลังเหตุการณ์วุ่นวายที่ตึกรัฐสภา

            ไมก์นั่งบัลลังก์เป็นประธานวุฒิสภาในการประชุมร่วมของสองสภา

            ทันทีที่เหตุร้ายที่ตึกรัฐสภาซาลง และบรรดา ส.ส.และ  ส.ว.กลับมาประชุมรับรองคะแนนของไบเดนและทรัมป์ใหม่  ไมก์ เพนซ์ประกาศว่า

            "ความรุนแรงไม่ชนะ เสรีภาพเท่านั้นที่ชนะ ที่พวกคุณบุกเข้ามาในตึกรัฐสภาไม่ใช่ชัยชนะ..."

            เท่ากับว่าเพนซ์ฉีกตัวออกจากทรัมป์แล้วอย่างชัดเจน

            ท้ายที่สุดการนับคะแนนของสองสภาก็ดำเนินต่อและจบลงด้วยการรับรอง 306-232 ให้ไบเดนชนะทรัมป์

            หลังจากรัฐสภาสรุปการรับรองคะแนน ทรัมป์ออกแถลงการณ์ว่าแม้เขาจะไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้ง "แต่จะมีการส่งมอบตำแหน่งอย่างเรียบร้อยและสงบ  ณ วันที่ 20 มกราคมนี้"

            ไม่มีใครเชื่อว่าทรัมป์ออกแถลงการณ์ด้วยตนเอง คงมีแรงกดดันจากคนรอบข้างที่บังคับให้เขาต้องทำเช่นนั้น

            เพราะหาไม่แล้วเขาอาจจะเจอกับมาตรการหนักหน่วงและรุนแรงแน่นอน

            เพราะเริ่มมีการพูดกันหนาหูในสภาแล้วว่าจะต้องจับทรัมป์ขึ้นเขียง

            อย่างน้อยก็จะต้องมีการเสนอให้เริ่มกระบวนการ  impeachment หรือไต่สวนเพื่อถอดถอน เพราะความผิดซ้ำซากและร้ายแรง บ่อนทำลายประชาธิปไตย, ปลุกปั่นให้ประชาชนทำลายระบอบการปกครอง และจงใจขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

            แม้เหลือเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์เขาก็จะต้องหลุดจากตำแหน่งแล้ว แต่คนอเมริกันจำนวนไม่น้อยต้องการจารึกในประวัติศาสตร์ว่า จะปล่อยให้คนอย่างนี้ลอยนวลไม่ได้

            อีกด้านหนึ่ง มีการนำเสนอว่าจะต้องจัดการกับทรัมป์ด้วยบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25

            นั่นคือการปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ก่อนที่เขาจะมีโอกาสก้าวลงเอง

            เพราะคนทำผิดขนาดนี้ต้องไม่ควรให้ออกจากตำแหน่งเสมือนหนึ่งไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น

            "รัฐธรรมนูญที่ 25" ระบุว่า หากรองประธานาธิบดีและเกินครึ่งของคณะรัฐมนตรีเห็นว่า ประธานาธิบดีไม่อาจจะทำหน้าที่ของตนได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม มีสิทธิ์แจ้งให้ประธานสภาทั้งสองทราบว่ารองประธานาธิบดีจะเข้ารับตำแหน่งแทน

            ในกรณีนี้หากเพนซ์กล้าจริงก็จะสามารถปลดทรัมป์ได้  ด้วยเหตุผลคือเป็นผู้ก่อให้เกิดการจลาจลที่ตึกรัฐสภา

            รัฐธรรมนูญกำหนดให้ตัวประธานาธิบดีสามารถร้องเรียนไปที่สภาเพื่อไม่ให้ตนถูกปลดได้ แต่ทั้งสองสภาต้องลงมติด้วยเสียง 2 ใน 3 ในอันที่จะให้มีการดำเนินการไปทางใดทางหนึ่ง

            สองกรณีนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ยังเป็นเรื่องถกเถียงกันในแวดวงต่างๆ ของอเมริกา

            แต่ที่แน่ๆ คือ มีคนไม่น้อยที่เชื่อว่าต้องมีการลงโทษทรัมป์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

            ความเป็นไปได้อีกทางหนึ่งก็คือ ทรัมป์อาจจะกำลังคิดหาทางออกให้ตัวเอง

            นั่นคือลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีทันที ให้เพนซ์รักษาการตำแหน่งนี้เพื่อจะได้ออกคำสั่งนิรโทษกรรมความผิดทั้งหลายทั้งปวงทั้งในอดีตและในอนาคต

            ถ้าหากทำเช่นนั้นได้ ทรัมป์ก็ไม่ต้องไปร่วมงานสาบานตนของไบเดนอีกด้วย

            ทรัมป์รู้ว่ามีข้อหารอเขาอยู่มากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนีภาษี, ผลประโยชน์ทับซ้อน, ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม, ให้การเท็จ เป็นต้น

            แต่การให้อภัยนั้นจะทำได้ก็แต่เฉพาะความผิดระดับประเทศ ส่วนคดีต่างๆ ในระดับรัฐนั้นยังรอทรัมป์อยู่อีกหลายสิบคดี

            ยังไงๆ ทรัมป์ก็ไม่อาจจะรอดพ้นการต้องขึ้นโรงขึ้นศาลไปตลอดชีวิตหลังออกจากทำเนียบขาวเป็นแน่แท้.

          กาแฟดำ  สุทธิชัย หยุ่น


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 ม.ค. 21, 14:50
"คนเหล็ก" อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ส่งสาส์นถึงชาวอเมริกัน โดยมีธงชาติสหรัฐฯ และธงประจำรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นฉากหลัง เมื่อวานนี้ (๑๐ มกราคม ๒๕๖๓)

วันพุธที่แล้วคือ "คืนกระจกแตก" (Kristallnacht เหตุการณ์ที่พวกนาซีออกอาละวาดทุบทำลายห้างร้านของชาวยิวจนเศษกระจกแตกกระจาย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑) ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา กระจกที่แตกก็คือกระจกของอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ แต่พวกม็อบไม่แค่เพียงทุบกระจกรัฐสภาเท่านั้น พวกเขายังทำลายแนวคิดที่พวกเราเชื่อมั่นมาตลอด พวกเขาไม่เพียงพังประตูของอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของระบอบประชาธิปไตยอเมริกัน แต่ยังเหยียบย่ำหลักการอันเป็นรากฐานของประเทศชาติด้วย

ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามที่จะล้มผลการเลือกตั้ง และทำลายการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม เขาจงใจก่อรัฐประหารด้วยการใช้คำพูดโกหกปั่นหัวผู้คน ประธานาธิบดีทรัมป์ คือผู้นำที่ล้มเหลว และจะต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นประธานาธิบดีที่เลวร้ายที่สุด แต่ดีใจได้อย่างหนึ่งว่า เขากำลังจะหมดความสำคัญลงในเร็ววันนี้ ไม่ต่างอะไรจากทวีตเก่า ๆ

https://twitter.com/schwarzenegger/status/1348249481284874240?s=21

https://youtu.be/Au1PUXcH7EM


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ม.ค. 21, 10:33
    หลังจากเหตุการณ์ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรัฐสภาจบลงไป คนตายไป 4 คน  เรื่องก็ยังไม่จบง่ายๆ   วันที่ 20 มกราคม 2021 เป็นวันทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน    เหตุการณ์ทำท่าว่าจะไม่ราบรื่นนัก เพราะฝ่ายสนับสนุนทรัมป์อาจจะก่อเหตุรุนแรงขึ้นในรัฐต่างๆได้  ทำให้ต้องระวังภัยกันสูงสุด
     ทรัมป์ประกาศว่าจะไม่ไปร่วมพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่  ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ประธานาธิบดีคนเก่าจะต้องไปร่วม   แต่จะเอาอะไรกับลุงทรัมป์      แกทำอะไรที่ไม่มีใครทำมาก่อนอยู่เป็นประจำแล้ว
    และที่เด็ดกว่านี้คือผู้สนับสนุนทรัมป์จะจัดพิธี "สาบานตน" ซ้อนขึ้นมาให้ทรัมป์  โดยมีผู้แจ้งความประสงค์มากกว่า 68,000 คน ว่าจะเข้าร่วมทางออนไลน์   คือยืนกรานว่าประธานาธิบดีที่ถูกต้องจะต้องเป็นทรัมป์อยู่นั่นเอง

   https://www.bbc.com/news/world-us-canada-55419244


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ม.ค. 21, 12:50
THE STANDARD
เมื่อวานนี้ เวลา 09:42 น.  ·

UPDATE: FBI เตือน ผู้ประท้วงวางแผนชุมนุมพร้อมอาวุธที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ และที่ทำการรัฐทั่วประเทศ ก่อนวันสาบานตนไบเดน
.
CNN รายงานอ้างเอกสารภายในซึ่งระบุว่า FBI ได้รับข้อมูลที่บ่งชี้ว่า กลุ่มผู้ประท้วงพร้อมอาวุธกำลังวางแผนที่จะชุมนุมประท้วงกันที่บริเวณอาคารที่ทำการรัฐใน 50 รัฐทั่วประเทศ และที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ หรือ US Capitol ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในช่วงเวลาหลายวันก่อนที่ โจ ไบเดน จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 มกราคมนี้

ข่าวดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยก่อนหน้าพิธีสาบานตน โดยหน่วยงานบังคับกฎหมายของรัฐบาลกลาง รัฐบาลมลรัฐ และรัฐบาลท้องถิ่นกำลังเตรียมรับมือกับเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นต่อเนื่องจากเหตุจลาจลที่ก่อโดยกลุ่มผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ US Capitol เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 5 ราย รวมถึงตำรวจรัฐสภา 1 นาย

แม้ว่าทางการได้จับกุมผู้ต้องสงสัยที่ก่อจลาจลในอาคารรัฐสภาแล้วหลายคน แต่เอกสารของ FBI ได้ระบุถึงความกังวลว่า การบุกยึดรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเหตุรุนแรงที่ก่อโดยผู้สนับสนุนทรัมป์ หลังจากทรัมป์ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง และยังยืนกรานโดยปราศจากหลักฐานว่าผู้สมัครจากเดโมแครตโกงการเลือกตั้ง

เอกสารระบุว่า “มีการวางแผนประท้วงพร้อมอาวุธที่อาคารที่ทำการรัฐทั้ง 50 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 16-20 มกราคมเป็นอย่างน้อย ส่วนการประท้วงที่ US Capitol จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17-20 มกราคม”

นอกจากนี้เอกสารยังระบุด้วยว่าอาจเกิดการจลาจลขึ้นอีกระลอก หากทรัมป์ถูกถอดถอนจากตำแหน่งด้วยบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมครั้งที่ 25 (25th Amendment) ซึ่งเปิดทางให้ ไมค์ เพนซ์ เข้ารักษาการแทนทรัมป์ชั่วคราว หากรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคณะรัฐมนตรีเกินครึ่งหนึ่งส่งหนังสือแจ้งต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาว่า ประธานาธิบดีกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถที่ไม่อาจบริหารประเทศได้อีกต่อไป

“เมื่อวันที่ 8 มกราคม FBI ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเรียกร้องให้คนอื่นๆ ร่วมบุกสำนักงานศาลและอาคารที่ทำการของรัฐบาลกลาง รัฐบาลระดับรัฐ และรัฐบาลท้องถิ่น หากประธานาธิบดีถูกปลดจากตำแหน่งก่อนวันสาบานตน นอกจากนี้กลุ่มดังกล่าวยังมีแผนบุกที่ทำการรัฐบาลในทุกรัฐ รวมถึงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 20 มกราคม ไม่ว่ารัฐเหล่านั้นจะรับรองผลการเลือกตั้งของคณะผู้เลือกตั้งให้ไบเดนหรือทรัมป์ก็ตาม” เอกสารระบุ

FBI ยังตรวจสอบรายงานเกี่ยวกับการขู่ทำร้ายไบเดน รวมถึง คามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดี และแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากเดโมแครต ก่อนหน้าวันสาบานตนด้วย


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ม.ค. 21, 18:43
จาก Facebook ของ Thailand State

หลังจากมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ล่าสุดทาง National Guard (กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ) ได้รับการอนุมัติให้ส่งกำลังพลมากถึง 15,000 คน ไปยังเมืองหลวงเพื่อคุ้มกันพิธีการเข้ารับตำแหน่งของ Joe Biden หลังกลุ่มผู้สนับสนุน Donald Trump ประกาศระดมพลติดอาวุธเข้าล้อมรัฐสภาในวันที่ 20 มกราคมที่จะถึงนี้
.
การปรับกำลังพลครั้งนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากก่อนหน้านี้มีกำลังพลของ National Guard หลายพันคน มาประจำการอยู่ก่อนแล้ว หลังเกิดเหตุโจมตีเมืองหลวงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยกลุ่มผู้สนับสนุน Trump
.
กองกำลังอีก 10,000 นายจะมาถึงภายในวันเสาร์และจะอยู่ปฏิบัติภารกิจจนถึงวันที่ 20 มกราคม
.
“เราได้รับการร้องขอการสนับสนุนจากหน่วยสืบราชการลับ ตำรวจรัฐสภา และตำรวจอุทยาน” Daniel Hokanson ผู้บัญชาการ National Guard กล่าว “กองกำลังของเราได้รับการร้องขอให้สนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคง การขนส่ง การประสานงาน และการสื่อสาร”
.
ตอนนี้เรายังไม่ได้กำหนดว่ากองกำลัง National Guard จะติดอาวุธขณะอยู่บนท้องถนนเลยหรือไม่ “แต่พวกเขาจะสามารถใช้อาวุธสังหารได้ตามดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา ซึ่งเราต้องการให้คนของเรามีสิทธิ์ในการป้องกันตัวเอง”
.
โดยล่าสุดจากความเคลื่อนไหวตามแพลตฟอร์มต่างๆ กลุ่มม็อบติดอาวุธหลายพันคนมีแผนเข้าปิดล้อมอาคารรัฐสภาก่อนพิธีสาบานตนของว่าที่ประธานาธิบดี Joe Biden เพื่อขัดขวางไม่ให้มีสมาชิกพรรคเดโมแครตคนใดได้เข้าไปด้านใน
.


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ม.ค. 21, 18:49
สถานการณ์ตึงเครียดในสหรัฐ ทำท่าจะแซงหน้ารายงานผู้ติดเชื้อโควิดเสียแล้ว   ทั่วโลกกำลังจับตามองว่าทรัมป์จะนำประเทศไปสู่เป้าหมายได้ขนาดไหน
ขอคลายเครียดด้วยเพลงนี้ค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=PNotVJzdrOM



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 14 ม.ค. 21, 08:34
จากเหตุการณ์ที่รัฐสภาสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๒๔ ไม่ว่าสถานการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาจะย่ำแย่สักแค่ไหน หรือ มีการเรียกร้องให้ฝ่ายกองกำลังทหารเข้ามาแทรกแซงหรือช่วยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ตาม เราจะเห็นว่า กองทัพสหรัฐอเมริกา จะไม่เข้ามายุ่งกับทางการเมืองแต่อย่างใดทั้งสิ้น

คณะเสนาธิการร่วม (Joint Chiefs of Staff) ได้ออกแถลงการณ์ (เป็นลายลักษณ์อักษร) ให้ประชาชนชาวอเมริกัน "อุ่นใจ" และทราบถึง “จุดยืน” ของตนตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญระบุไว้ ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลพลเรือน ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอย่างเคร่งครัด

คณะเสนาธิการร่วม
กรุงวอชิงตัน ดีซี 20318

บันทึกข้อความสำหรับบุคลากรในทุกเหล่าทัพ
หัวข้อ : สาสน์ถึงบุคลากรของทุกเหล่าทัพ

ประชาชนชาวอเมริกัน ต่างให้ความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกองทัพสหรัฐอเมริกาในการปกป้องพวกเขาและรัฐธรรมนูญมานานเกือบ ๒๕๐ ปี  จากสิ่งที่ได้กระทำมาตามประวัติศาสตร์ของเรา  กองทัพของสหรัฐอเมริกาจะเชื่อฟังต่อคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งฝ่ายพลเรือนเป็นผู้นำ, สนับสนุนอำนาจจากฝ่ายพลเรือนในการปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน, สร้างความมั่นใจต่อความปลอดภัยของสาธารณะตามที่กฎหมายระบุไว้ และตั้งปณิธานอย่างเต็มที่ในการปกป้องและคุ้มครองรักษารัฐธรรมนูญของประเทศสหรัฐอเมริกา กับอริศัตรู ทั้งภายนอกและภายในประเทศ

การก่อการจลาจลอย่างรุนแรงในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๐๒๑ เป็นการทำร้ายโดยตรงต่อฝ่ายสภานิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกา, ตึกรัฐสภา และกระบวนการตามครรลองรัฐธรรมนูญ  เราขอไว้อาลัยกับการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาสองท่านและบุคคลอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหล่านี้ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มาก่อน

เราได้เห็นการกระทำภายในตึกรัฐสภาที่ไม่สอดคล้องกันกับหลักนิติธรรม  สิทธิต่าง ๆ ในเรื่องเสรีภาพของการพูดและการชุมนุม ซึ่งไม่ได้ให้สิทธิ์กับผู้หนึ่งผู้ใดในการสร้างความรุนแรง, การปลุกระดม และก่อการจลาจล

ในฐานะที่เป็นสมาชิกของกองทัพ เราต้องนำเอาคุณค่าและอุดมการณ์อันดีเลิศของประเทศชาติเข้ามารวมอยู่ด้วยกัน  เราสนับสนุนและปกป้องรัฐธรรมนูญ การกระทำใด ๆ ที่บ่อนทำลายกระบวนการตามรัฐูธรรมนูญ ไม่เป็นเพียงแต่ขัดกันกับขนบธรรมเนียมประเพณี, คุณค่า และ คำสาบานของเราเท่านั้น แต่มันยังเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอีกด้วย

ในวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๐๒๑ ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งยืนยันโดยมลรัฐต่าง ๆ และ จากกระบวนการยุติธรรม และยังได้รับรองจากสภานิติบัญญัติ  (ว่าที่) ประธานาธิบดีไบเดนผู้ได้รับการเลือกตั้ง จะทำการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และเป็นผู้บัญชาการกองทัพคนที่ ๔๖ ของสหรัฐอเมริกา

ถึงบุคลากรสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ทั้งภายนอกและภายในประเทศ  การปกป้องประเทศชาติของเราให้มีความปลอดภัย – ด้วยการเตรียมตัวอย่างพร้อมสรรพ, เฝ้าดูสถานการณ์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้า และเน้นถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมาย  เรารู้สึกเป็นเกียรติและเคารพต่อการปฏิบัติหน้าที่ของท่านอยู่อย่างต่อเนื่อง ในการปกป้องชีวิตของชาวอเมริกันทุก ๆ คน

Mark A. Milley                                              John E. Hyten                                
พลเอก, กองทัพบกสหรัฐอเมริกา                             พลเอก, กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
ประธานคณะเสนาธิการร่วม                                   รองประธานคณะเสนาธิการร่วม

James C. McConville                                     David H. Berger
พลเอก, กองทัพบกสหรัฐอเมริกา                             พลเอก, กองทัพนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา
ผู้บัญชาการกองทัพบก                                        ผู้บัญชาการกองทัพนาวิกโยธิน

Michael M. Gilday                                         Charles Q. Brown, Jr.
พลเรือเอก, กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา                        พลเอก, กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
ผู้บัญชาการกองทัพเรือ                                        ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ

John W. Raymond                                        Daniel R. Hokanson
พลเอก, กองทัพอวกาศสหรัฐอเมริกา                        พลเอก, กองทัพบกสหรัฐอเมริกา
ผู้บัญชาการกองทัพอวกาศ                                    ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ

จาก เฟซบุ๊กของคุณดวงจำปา สเปนเซอร์-ไอเซนเบอร์ก (https://www.facebook.com/804632636246419/posts/3733644906678496/)


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ม.ค. 21, 08:59
จากเหตุการณ์ที่รัฐสภาสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๒๔ ไม่ว่าสถานการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาจะย่ำแย่สักแค่ไหน หรือ มีการเรียกร้องให้ฝ่ายกองกำลังทหารเข้ามาแทรกแซงหรือช่วยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ตาม เราจะเห็นว่า กองทัพสหรัฐอเมริกา จะไม่เข้ามายุ่งกับทางการเมืองแต่อย่างใดทั้งสิ้น

จาก เฟซบุ๊กของคุณดวงจำปา สเปนเซอร์-ไอเซนเบอร์ก (https://www.facebook.com/804632636246419/posts/3733644906678496/)

เรื่องที่ว่าทหารไม่เกี่ยวไม่ยุ่งกับการเมือง   ลองอ่านนี่ดูนะคะ
ตอนเกิดจลาจลผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรัฐสภา   ทหารเข้ามาทำอะไรบ้าง

โดยตามหน้าที่แล้ว ทรัมป์ ยังคงเป็นประธานาธิบดีอยู่ จนกว่าจะมีการสาบานตนอย่างเป็นทางการของโจ ไบเดน ดังนั้นหน้าที่ของเขา คือต้องไปคุยกับเพนตากอน เพื่อส่งกองกำลังทหาร (National Guard) เข้ามาควบคุมความสงบ เพราะกำลังตำรวจที่มี ไม่เพียงพอต่อการควบคุมฝูงชน แต่ทรัมป์ไม่ยอมทำ นั่นทำให้ ไมค์ เพนซ์ ต้องต่อสายคุยกับ มาร์ค มิลลีย์ ผู้บัญชาการทหารบก ด้วยตัวเอง และสุดท้าย ทหารส่งกองกำลัง 1,100 นายเข้ามาควบคุมสถานการณ์ที่ตึกรัฐสภา

ด้วยกำลังทหาร และตำรวจที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ชุมนุมถูกดันถอยร่นออกไปนอกรัฐสภา คราวนี้พวกเขาเริ่มอารมณ์เสียหนักขึ้น และมีการทำร้ายร่างกายนักข่าว โดยโจมตีว่า สำนักข่าวเหล่านั้นพยายามป้อน “เฟคนิวส์” ให้ประชาชน เพื่อมีเป้าหมายคือการเกลียดโดนัลด์ ทรัมป์

สถานการณ์ในช่วง 18.00 น. เคลียร์ทุกอย่าง กองทัพบกส่งทหารมาอีก 3,350 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งถึงตรงนี้ ก็เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกรุกเข้ามาที่รัฐสภาได้อีก และนายกเทศมนตรีของเขตดีซี มูเรียล บาวเซอร์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้มีเคอร์ฟิวทั่วเขตดีซี จนถึงวันที่ 21 มกราคม ที่งานสาบานตนของโจ ไบเดน จะลุล่วง นี่เป็นการเบรก ไม่ให้เหตุการณ์ชุมนุมจนนำมาสู่ความรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นอีก

อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่
https://workpointtoday.com/explainer-1001/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ม.ค. 21, 09:08
ในทางทฤษฎี กองทัพของอเมริกาไม่ยุ่งกับการเมือง  แต่ในทางปฏิบัติ เป็นอย่างไร เชิญอ่านได้ที่นี่ค่ะ

ทำความรู้จัก “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” National Guard ของสหรัฐ

รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริการะบุชัดเจนว่า ห้ามทุกเหล่าทัพของกองทัพสหรัฐเคลื่อนไหวด้านความมั่นคงภายในประเทศ แต่ในยามคับขันประธานาธิบดี ก็มีอำนาจตาม กฎหมายปราบการจลาจล ซึ่งบัญญัติขึ้นในสมัยสงครามกลางเมือง สามารถสั่งให้ทหารในทุกเหล่าทัพ หรือใน กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (บ้างก็เรียก “กองกำลังพิทักษ์ชาติ” หรือ National Guard) ให้มาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบภายในประเทศแบบเดียวกับตำรวจได้ ไม่ว่าจะเป็นการจับกุม ตรวจค้น หรือควบคุมการชุมนุมทางการเมือง

กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ไม่ใช่ทหารอาชีพ พวกเขาเป็นกองกำลังหน่วยพิเศษในระบบกำลังสำรองของกองทัพสหรัฐฯ ที่ อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้ว่าการมลรัฐ และ สำนักงานกองกำลังพิทักษ์ชาติ หรือ National Guard Bureau ซึ่งเป็นหน่วยงานส่วนกลางของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
แยกออกมาเป็น 2 เหล่าคือ กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของกองทัพบกและกองทัพอากาศ แม้จะได้รับการฝึกฝนแบบเดียวกับทหารที่ขึ้นทะเบียนประจำการเต็มเวลากับกองทัพอย่างเป็นทางการ และมีระบบอาวุธเหมือนกองทัพ แต่พวกเขา “ไม่ใช่ทหารอาชีพ” แม้ว่าบางรายจะสมัครใจไปรบในอัฟกานิสถานและอิรักมาแล้วก็ตาม
กำลังพลของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ สามารถประจำการเต็มเวลาหรือประจำการชั่วคราวได้ ปัจจุบันมีกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำการใน 50 มลรัฐและเขตปกครองพิเศษของสหรัฐฯ กว่า 4.6 แสนนาย การเรียกใช้กำลังพลนี้ ผู้ว่าการมลรัฐจะเป็นผู้ออกคำสั่งผ่านผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิในมลรัฐนั้น ๆ เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่

ภารกิจส่วนใหญ่ของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ จึงเป็นการรักษาความสงบและช่วยเหลือด้านความมั่นคงภายในรัฐที่ประจำอยู่เป็นหลัก หน้าที่หลักคือ การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในมลรัฐตามคำสั่งของผู้ว่าการมลรัฐ เช่น การเข้าควบคุมสถานการณ์ในภาวะฉุกเฉิน อาทิ การจลาจล การก่อการร้าย และการบรรเทาสาธารณภัยจากภัยพิบัติต่าง ๆ ส่วนหน้าที่ในระดับชาติ ก็คือการปฏิบัติงานตามคำสั่งของรัฐบาลกลาง เช่น การรักษาความสงบเรียบร้อยหลังการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศทำความรู้จัก “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” National Guard ของสหรัฐ
ทำความรู้จัก “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” National Guard ของสหรัฐ

ที่ผ่านมา กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เคยเข้าควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศมาแล้วหลายครั้ง เช่น ในปี 2513 มีการเข้าควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนาม ที่มหาวิทยาลัยเคนท์สเตท มลรัฐโอไฮโอ ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 4 รายจากการใช้กระสุนจริงเข้าสลายการชุมนุม
จากฐานข้อมูลในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐ พบว่า เท่าที่ผ่านมาในรอบกว่า 1 ศตวรรษ เคยมีการใช้อำนาจประธานาธิบดี สั่งการเรียกพลจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เข้าควบคุมเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศสหรัฐประมาณ 12 ครั้ง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสมัยการประท้วงเรียกร้องสิทธิพลเมือง

 อาจกล่าวได้ว่า กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ  คือกองทหารของมลรัฐและเขตปกครองพิเศษของสหรัฐฯ ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและบรรเทาสาธารณะภัยภายในมลรัฐเป็นหลัก ไม่ใช่การทำสงครามกับศัตรูภายนอกประเทศโดยตรง และแม้ว่าจะถูกฝึกหรือให้รับมือกับการจลาจลและประชาชนมาโดยเฉพาะ แต่การที่พวกเขาสามารถใช้อาวุธปราบปรามผู้ชุมนุมหรือใช้อาวุธในการควบคุมสถานการณ์ ก็อาจทำให้เกิดการสูญเสียถึงชีวิตขึ้นได้

บางคนเรียกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิว่า “ทหารบ้าน” ทำหน้าที่ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในมลรัฐที่สังกัดอยู่ ส่วนหนึ่งก็เป็นประชาชนคนธรรมดาที่ไปรับการฝึกแล้วมาทำงานในค่ายเป็นบางเวลาเท่านั้น ต่างกับกำลังพลที่ทำเต็มเวลามักจะเป็นนายทหารประทวนและสัญญาบัตร
https://www.thansettakij.com/content/world/436918


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ม.ค. 21, 09:13
พูดง่ายๆว่า ทหารในกองทัพสหรัฐมีเอาไว้รบนอกประเทศ   ส่วนรบในประเทศ  คือถ้าต้องรบกับประชาชน  เขาใช้ National Guard ที่ฝึกแบบทหารนั่นแหละ แต่เรียกอีกชื่อหนึ่งเพื่อไม่ให้ผิดรัฐธรรมนูญ 


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ม.ค. 21, 17:05
อย่าเรียกว่าทหารนะคะ ประเทศเขาเรียก National Guard หรือกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ  ค่ะ
ระดมกันมา รวม 20000 คน  เพื่อพิทักษ์มิให้เกิดศึกกลางเมือง  ในวันที่ไบเดนเข้าสาบานตนเป็นประธานาธิบดี
อยากเห็นภาพและข่าวเต็มๆ  เข้าไปที่นี่
https://www.dailymail.co.uk/news/article-9142945/Hundreds-troops-sleep-Congressional-visitor-center-descend-DC-inauguration.html?fbclid=IwAR1-bgmsqcHbxnNmqWnYkfOO4TnGVQHFsDjWuyi2q9W7C3eAnXOmRpPzdnE


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ม.ค. 21, 10:50
คงมีชาวอเมริกันหลายร้อยล้านคนสวดมนตร์ภาวนาว่า อย่าให้ม็อบบุกเข้าไปก่อจลาจลในพิธีสาบานตนของโจ ไบเดนเลย   ขอให้แค่ฮึ่มฮั่มกันอยู่ข้างนอกถนน  แต่ไม่ทำอะไรมากกว่านั้น
เพราะดูการตั้งรับของหน่วยพิทักษ์มาตุภูมิแล้ว   เห็นทีจะเล่นของหนักของจริง

โจ ไบเดนมีทางเลือก 2 ทางคือ ไม่ทำอะไรกับม็อบ  แค่สะกัดไม่ให้ล้ำเขต  ต่อจากนั้นก็คอยตั้งรับเรื่อยไป ไม่รู้ว่าศึกกลางเมืองจะปะทุรายวันวันไหน หรือรัฐไหนบ้าง  ก็ต้องอดทนกันไปท่ามกลางโควิดที่ได้โอกาสระบาดหนักในม็อบและหน่วยพิทักษ์
หรือ อีกทาง คือปราบให้สิ้นเสี้ยนหนาม  บุกมาเจอกระสุน หรือไม่ก็กุญแจมือ    เกิดการเสียเลือดเนื้อบาดเจ็บล้มตายกันอีกหลายราย    แต่อาจจะสะกัดได้หนเดียวหยุดเลย

แต่ไม่ว่าจะเป็นทางไหน     สูญเสียทั้งสองทาง


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ม.ค. 21, 11:58
https://www.youtube.com/watch?v=0fxFXDM8F_Q


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ม.ค. 21, 11:58
https://www.youtube.com/watch?v=3wflvPM1ivs


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 21, 13:37
นับถอยหลังอีก 2 วันจะถึงวันสาบานตนของประธานาธิบดี โจ ไบเดน
อ่านจากเพจของคุณ  Kanok Ratwongsakul Fan Page
......................

วันที่ 20 มกราคมนี้ "โจ ไบเดน" ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 และ คามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีหญิงสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

มีหลายอย่างที่ไม่เหมือนเดิม ส่วนหนึ่งเพราะโควิด และส่วนหนึ่งเพราะคนก่อนหน้าคือ โดนัลด์ ทรัมป์ !!

ปกติ ปธน.คนที่จะพ้นตำแหน่ง จะมาร่วมงานด้วย แต่ครั้งนี้ทรัมป์ฉีกธรรมเนียมปฏิบัติในรอบ 150 ปี ไม่ยอมมา เพราะเชื่อว่าตัวเองถูกโกง!

ซึ่งทุกคนยินดีมากที่ ทรัมป์ไม่มา

มีข่าวว่า คนใกล้ชิดของทรัมป์ โกยเงินหลายแสนดอลลาร์ ในค่าธรรมเนียมจากบุคคลต่างๆที่ต้องการได้รับการอภัยโทษจากทรัมป์  เมื่อเขาลงจากตำแหน่ง

ล่าสุด พบพวกผู้ประท้วงติดอาวุธจำนวนหนึ่ง รวมตัวกันด้านนอกอาคารรัฐสภาประจำรัฐมิชิแกน ในเมืองแลนซิง
.
ไม่รู้ว่าวันที่ 20 นี้ จะราบรื่น หรือนองเลือด !!!


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 21, 13:39
 :-\


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 21, 13:43
เมืองแลนซิ่ง รัฐมิชิแกน บรรยากาศเหมือนกำลังจะเกิดสงคราม

https://www.mlive.com/politics/2021/01/heavy-police-protest-at-michigan-capitol-ahead-of-potential-protests-threats.html

https://www.youtube.com/watch?v=NSmsBpO16oQ&feature=emb_logo


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 21, 21:16
จริงๆแล้ว ผู้ประท้วงที่โผล่มาก็มากันหร็อมแหร็มราว 20 คน  แต่ทำท่าเหี้ยมหาญ แบกอาวุธมาโชว์ข่มขวัญ ให้หน่วยพิทักษ์มาตุภูมิแห่กันมาคุมสถานการณ์  ชาวบ้านตื่นตระหนักทั่วกัน
น่าสงสัยว่าใครก็ตามที่วางแผนอยู่เบื้องหลัง ไม่ทำอะไรมาก แค่สร้างกองกำลังหร็อมแหร็มแบบนี้กระจายไปทั่ว 50 รัฐ   ลงทุนด้วยคนไม่กี่ร้อย แต่เขย่าเก้าอี้ประธานาธิบดีใหม่ได้แรง   สามารถสร้างข่าวดังไปได้ทั่วโลก

https://www.youtube.com/watch?v=iu53niQfwog


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 19 ม.ค. 21, 17:49
คิดว่าถ้าทางกองทัพ ศาล รัฐไม่ตอบโต้อะไรเหตุการณ์ก็คงจะค่อยๆสงบไปมั้งคะเมื่อไม่มีใครสนใจแล้ว


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 ม.ค. 21, 12:06
พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโจ ไบเดน ผ่านไปด้วยดีไม่มีเหตุการณ์ชวนระทึก  ;D

I, Joseph Robinette Biden Jr., do solemnly swear that I will faithfully execute the Office of President of the United States, and will to the best of my Ability, preserve, protect and defend the Constitution of the United States.

ข้าพเจ้า โจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดน จูเนียร์ ขอสาบานอย่างหนักแน่นว่า จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างซื่อสัตย์ และจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปกปักรักษา คุ้มครอง และปกป้องรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐ


https://youtu.be/i7y6fpZvaok

ธงประดับบนพื้นสนามเป็นตัวแทนของประชาชนที่ไม่สามารถเข้าร่วมพิธีได้ เนื่องจาากการระบาดของโรคโควิด-๑๙

ภาพจาก นิวยอร์กไทมส์ (https://www.nytimes.com/2021/01/20/us/politics/biden-president.html)


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 21, 14:48
เจนโลขับร้องเพลง   ในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดี

https://www.youtube.com/watch?v=9QEGv7REuXw


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 ม.ค. 21, 10:08
อแมนดา กอร์แมน กวีเยาวชนแห่งชาติ ร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยอ่านบทกวีที่เธอประพันธ์ ชื่อว่า 'The Hill We Climb‘ (https://th.usembassy.gov/transcript-poet-amanda-gorman-delivers-a-poem-at-president-bidens-inauguration/) เมื่อเกิดเหตุการณ์ผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๔ เธอสามารถเขียนบทกวีนี้ได้จนจบภายในคืนเดียว

https://youtu.be/LZ055ilIiN4

A country that is bruised but whole,
benevolent but bold,
fierce and free
We will not be turned around
or interrupted by intimidation
because we know our inaction and inertia
will be the inheritance of the next generation

ประเทศชาติที่ได้รับบาดเจ็บแต่เป็นหนึ่งเดียว
มีจิตเมตตาแต่มีใจเด็ดเดี่ยว
เข้มแข็งและเป็นอิสระ
เราจะไม่หันหลังกลับ
หรือหยุดชะงักจากคำข่มขู่
เพราะเรารู้ว่าความเฉยชาและการนิ่งงัน
จะกลายเป็นมรดกตกทอดสู่รุ่นถัดไป


https://www.voicetv.co.th/read/jX-sSbShp


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ม.ค. 21, 11:13
Mr. President, Dr. Biden, Madam Vice President, Mr. Emhoff, Americans and the world.

When day comes we ask ourselves,
where can we find light in this never-ending shade?
The loss we carry,
a sea we must wade
We’ve braved the belly of the beast
We’ve learned that quiet isn’t always peace
And the norms and notions
of what just is
Isn’t always just-ice
And yet the dawn is ours
before we knew it
Somehow we do it
Somehow we’ve weathered and witnessed
a nation that isn’t broken
but simply unfinished
We the successors of a country and a time
Where a skinny Black girl
descended from slaves and raised by a single mother
can dream of becoming president
only to find herself reciting for one
And yes we are far from polished
far from pristine
but that doesn’t mean we are
striving to form a union that is perfect
We are striving to forge a union with purpose
To compose a country committed to all cultures, colors, characters and
conditions of man
And so we lift our gazes not to what stands between us
but what stands before us
We close the divide because we know, to put our future first,
we must first put our differences aside
We lay down our arms
so we can reach out our arms
to one another
We seek harm to none and harmony for all
Let the globe, if nothing else, say this is true:
That even as we grieved, we grew
That even as we hurt, we hoped
That even as we tired, we tried
That we’ll forever be tied together, victorious
Not because we will never again know defeat
but because we will never again sow division
Scripture tells us to envision
that everyone shall sit under their own vine and fig tree
And no one shall make them afraid
If we’re to live up to our own time
Then victory won’t lie in the blade
But in all the bridges we’ve made
That is the promise to glade
The hill we climb
If only we dare
It’s because being American is more than a pride we inherit,
it’s the past we step into
and how we repair it
We’ve seen a force that would shatter our nation
rather than share it
Would destroy our country if it meant delaying democracy
And this effort very nearly succeeded
But while democracy can be periodically delayed
it can never be permanently defeated
In this truth
in this faith we trust
For while we have our eyes on the future
history has its eyes on us
This is the era of just redemption
We feared at its inception
We did not feel prepared to be the heirs
of such a terrifying hour
but within it we found the power
to author a new chapter
To offer hope and laughter to ourselves
So while once we asked,
how could we possibly prevail over catastrophe?
Now we assert
How could catastrophe possibly prevail over us?
We will not march back to what was
but move to what shall be
A country that is bruised but whole,
benevolent but bold,
fierce and free
We will not be turned around
or interrupted by intimidation
because we know our inaction and inertia
will be the inheritance of the next generation
Our blunders become their burdens
But one thing is certain:
If we merge mercy with might,
and might with right,
then love becomes our legacy
and change our children’s birthright
So let us leave behind a country
better than the one we were left with
Every breath from my bronze-pounded chest,
we will raise this wounded world into a wondrous one
We will rise from the gold-limbed hills of the west,
we will rise from the windswept northeast
where our forefathers first realized revolution
We will rise from the lake-rimmed cities of the midwestern states,
we will rise from the sunbaked south
We will rebuild, reconcile and recover
and every known nook of our nation and
every corner called our country,
our people diverse and beautiful will emerge,
battered and beautiful
When day comes we step out of the shade,
aflame and unafraid
The new dawn blooms as we free it
For there is always light,
if only we’re brave enough to see it
If only we’re brave enough to be it


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ม.ค. 21, 11:26
วันสาบานตนของโจ ไบเดน ไม่สงบอย่างที่คิด   เกิดเหตุประท้วงขึ้นที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออเรกอน

https://www.youtube.com/watch?v=82JquNv0lqE&feature=emb_logo

พวกผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและต่อต้านฟาสซิสม์ ในเมืองพอร์ตแลนด์ และซีแอตเทิล สหรัฐฯ ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สินของที่ทำการพรรคเดโมแครตแห่งหนึ่ง และอาคารต่างๆ รวมถึงกระทบกระทั่งกับตำรวจเมื่อวันพุธ (20 ม.ค.) ประท้วงต่อต้านพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ภาพที่สื่อมวลชนหลายสำนักนำมาเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (21 ม.ค.)

ภาพในวิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ พบเห็นฝูงชนสวมชุดสีดำและปิดบังใบหน้า พากันทุบทำลายหน้าต่างและประตูกระจกของพรรคเดโมแครต สาขารัฐออริกอน สำนักงานธุรกิจในพอร์ตแลนด์ ฉีดพ่นสัญลักษณ์อนาธิปไตยบนป้ายพรรค

เหตุการณ์ความวุ่นวายดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันพุธ (20 ม.ค.) ระหว่างนั้นเขากล่าวสุนทรพจน์เรียกร้องฟื้นฟูความเป็นอันหนึ่งเดียวกัน หลังจากสหรัฐฯ เกิดความแตกแยกอย่างหนักในยุคสมัยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

อ่านต่อได้ที่
https://mgronline.com/around/detail/9640000006520


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ม.ค. 21, 12:17
https://www.youtube.com/watch?v=UEOfIWi6_aI&feature=emb_logo


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ม.ค. 21, 20:24
ต้องจับมาฟังบทกวีจากอาแมนดาอีกครั้ง  ;D

https://youtu.be/dOnlktku0os


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ม.ค. 21, 10:26
คำแปลภาษาไทย โดยคุณเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้

https://www.youtube.com/watch?fbclid=IwAR0uSHKHagGa10jTZL46r8m_jjUhwyFvUXjxdUyQGZVCTyaHlE5AhaDBMaU&v=9_GU9gx7eMg&feature=youtu.be


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ม.ค. 21, 15:43
https://www.youtube.com/watch?fbclid=IwAR0uSHKHagGa10jTZL46r8m_jjUhwyFvUXjxdUyQGZVCTyaHlE5AhaDBMaU&v=9_GU9gx7eMg&feature=youtu.be

คำแปลอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง  ;D
 
https://youtu.be/9_GU9gx7eMg


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 21, 13:51
ย้อนหลังไปวันม็อบบุกรัฐสภา  มีการวางระเบิดเวลาเอาไว้ใกล้สำนักงานใหญ่ของพรรคการเมือง
ตอนนี้กล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยได้   นำมาเผยแพร่เพื่อนำจับแล้ว

https://www.youtube.com/watch?v=9_DYSeiNt2A



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.พ. 21, 15:37
คดีฆาตกรรม’คุณลุงวิชา’ ทำ’ซานฟรานฯ’สะเทือน

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : คดีฆาตกรรม “วิชา รัตนภัคดี” ผู้อาวุโสชาวไทย สร้างกระแสกดดันจนผู้บริหารเมืองซานฟรานซิสโก ทั้งนายกเทศมนตรี อัยการและหัวหน้าตำรวจ ต้องออกโรงแถลงข่าว “ซานฟรานฯ จะไม่อ่อนแอกับอาชญากรรม” ยืนยันเอาผิดคนร้ายอย่างสาสม

เมื่อบ่ายวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021 ลอนดอน บรีด นายกเทศมนตรีหญิงของเมืองซาน ฟรานซิสโก ร่วมกับ บิลล์ สก็อต หัวหน้าตำรวจของเมืองซาน ฟรานซิสโก และชีซ่า โบเดน อัยการเขตของซานฟรานซิสโก เปิดแถลงข่าวด้วยระบบออนไลน์ ถึงปัญหาอาชญากรรมในซานฟรานซิสโก โดยเฉพาะคดีอาชญากรรมที่เกิดกับผู้อาวุโสถึงสองคนในช่วงสัปดาห์เดียวกัน คือนายวิชา รัตนภักดี ผู้อาวุโสชาวไทยวัย 84 ปี ที่ถูกผลักอย่างแรงจนล้มกระแทกพื้นเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 28 มกราคม ก่อนจะเสียชีวิตในอีกสองวันต่อมา และอีกรายคือ แจ็ค พัลลาดิโน่ นักสืบเอกชนวัย 76 ปี ที่เสียชีวิตเพราะล้มกระแทกพื้นอย่างแรง ขณะถูกคนร้ายแย่งกล้องถ่ายรูป โดยเหตการณ์เกิดที่หน้าบ้านของเขาเอง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นายกเทศมนตรีหญิงของซานฟรานซิสโก ซึ่งมีท่าทีที่เห็นชัดว่าโมโหอย่างมาก ได้ประกาศชัดเจนว่าผู้กระทำผิดจะต้องได้รับผิดชอบจากการกระทำของตัวเองอย่างสาสม

ลอนดอน บรีด บอกด้วยว่าเธอทราบดีว่ามีคดีรุนแรงเกิดขึ้นมากมายในซานฟรานฯ เพราะตัวเธอเองก็เติบโตขึ้นในเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ และมีประสบการณ์ “อยู่อย่างหวาดกลัว” มาก่อน

ในส่วนของคดีฆาตกรรมผู้อาวุโสชาวไทยนั้น นายกเทศมนตรีของซานฟรานฯ บอกว่าเธอรู้สึก “ช็อค” อย่างมากเมื่อเห็นภาพวิดีโอเหตุการณ์ฆาตกรรม ที่เกิดขึ้นตอนกลางวันแสกๆ โดยได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของนายวิชา รัตนภักดี ด้วย

“ความจริงที่ว่ามนุษย์คนหนึ่งกระทำแบบนั้นกับผู้อาวุโสในชุมชนของเรา เป็นสิ่งน่ารังเกียจที่สุดที่ฉันเคยเห็น” ลอนดอน บรีด ระบุ

ทั้งนี้ นายวิชา รัตนภักดี เสียชีวิตเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่โรงพยาบาลซานฟรานซิสโก เจนเนอรัล จากอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับเพราะถูกผู้ต้องหา คือนายแอนตวน วัทสัน วัย 19 ปี ผลักจนล้มกระแทกพื้นอย่างแรง

“คุณจะต้องชดใช้ ทั้งโดยตำรวจและสำนักงานอัยการเขต มันจะต้องมีผลกรรม ขอให้ลบล้างความเชื่อผิดๆ ไปเลย ความเชื่อที่ว่าจะไม่มีชดใช้หากก่อคดีอาญาในซานฟรานซิสโก “ นายกเทศมนตรีหญิงของซานฟรานฯ ประกาศอย่างฉุนเฉียว

ขณะที่ทั้งหัวหน้าตำรวจและอัยการของเมืองซานฟรานซิสโก ต่างพูดย้ำเหมือนนายกเทศมนตรี ว่าจะเอาผิดผู้ต้องหาในคดีนี้ให้ถึงที่สุด

“เป็นการทำร้ายร่างกายโดยไม่มีเหตุยั่วยุใดๆ ในเวลากลางวัน เหตุรุนแรงอันน่ากลัวแบบนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นในชุมชนของเรา” บิลล์ สก็อต หัวหน้าตำรวจของเมืองซาน ฟรานซิสโก ระบุ และว่าตนขอให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิต และประชาชนชาวซานฟรานซิสโก นิ่งนอนใจได้ว่า เจ้าหน้าของเทศบาล เริ่มตั้งแต่นายกเทศมนตรี และทุกคนในสำนักงานตำรวจเมืองซานฟรานฯ สำนักงานอัยการเขต และทุกๆ คนในกระบวนการยุติธรรม จะยืนหยัดร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้แน่ใจว่าความยุติธรรมจะบังเกิดขึ้นกับคดีนี้

“สำหรับใครก็ตามที่คิดว่าสามารถทำร้ายผู้สูงอายุในเมืองของเราได้ คุณจำเป็นต้องคิดใหม่” หัวหน้าตำรวจของเมืองซานฟรานฯ ประกาศ “เราจะใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่เรามีเพื่อเอาตัวคุณมารับผิด และเราจะไม่หยุดพักจนกว่าทุกอย่างจะจบลง” หัวหน้าตำรวจเมืองซานฟรานฯ ประกาศ

หัวหน้าตำรวจของเมืองซานฟรานฯ บอกด้วยว่าคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม และขอความร่วมมือกับประชาชนที่อาจจะมีเบาะแสเพิ่มเติม ให้ติดต่อตำรวจได้ที่หมายเลข 415-575-4444 หรือแจ้งเบาะแสโดยไม่เปิดเผยตัวโดยการส่งข้อความไปที่ TIP411 โดยพิมพ์คำว่า SFPD ก่อนเริ่มต้นข้อความ

ด้าน ชีซ่า โบเดน อัยการเขตของซานฟรานซิสโก บอกว่าเหตุการณ์อันน่าสลดที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้อาวุโสในซานฟรานซิสโก รู้สึกไม่ปลอดภัย

“พวกเราทุกคนมาร่วมกันแถลงข่าววันนี้ เพื่อบอกทุกคนว่า เราจะนำตัวผู้รับผิดชอบในคดีอันน่าหวาดกลัวเหล่านี้มาลงโทษให้ได้” และย้ำว่าคดีอาญชากรรมรุนแรงนี้ คือคดีที่ตน และสำนักงานอัยการให้ความสำคัญเร่งด่วนเป็นอันดับแรกเสมอ

อัยการของเมืองซานฟรานฯ พูดถึงคนร้ายในคดีฆาตกรรมนายวิชา รัตนภักดี ด้วยว่าตนได้ยื่นฟ้องเอาผิดข้อหาอาญากับ แอนตวน วัตสัน สามข้อหา คือฆาตกรรม, ทำร้ายผู้สูงอายุจนบาดเจ็บ และใช้อาวุธร้ายแรงทำร้ายร่างกาย โดยผู้ต้องหาวัย 19 ปี มีกำหนดขึ้นศาลเพื่อรับทราบข้อหาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์

อัยการ ซีซ่า โบเดน แถลงด้วยว่า มีข่าวที่ผิดพลาดเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม นายวิชา รัตนภักดี ปรากฎในข่าวอย่างน้อยสองประการ อย่างแรกคือตำรวจไม่ได้ปล่อยตัวผู้ต้องหา คือนายแอนตวน วัตสัน หลังจากการจับกุมแต่อย่างใด และประการที่สองคือ คดีนี้เป็นการกระทำผิดและถูกจับกุมครั้งแรกของนายแอนตวน วัตสัน โดยก่อนหน้านั้นไม่เคยมีหลักฐานปรากฎว่าผู้ต้องหาวัย 19 ปี เคยทำผิดในเมืองซานฟรานฯ มาก่อน

จากนั้น อัยการ ซีซ่า โบเดน ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ สำนักงานอัยการ ยังไม่ได้ฟ้องผู้ต้องหา คือนายแอนตวน วัตสัน ด้วยคดีฆาตกรรมเพราะเหยียดผิว หรือ  hate crime แต่ย้ำว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปิดคดี จึงยังไม่มีการตัดประเด็นใดๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของการฆาตรกรรมครั้งนี้

ต่อมาวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส โดยนายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ฯ ได้ออกประกาศเตือนภัยประชาชนชาวไทยที่อยู่ในฝั่งตะวันตกของประเทศ โดยเฉพาะย่านเบย์แอเรียของซานฟรานซิสโก ให้ระมัดระวังตัวทั้งเรื่องการโจรกรรมทรัพย์สิน ฉกชิงวิ่งราว และทุบรถยนต์เพื่อขโมยทรัพย์สินในรถ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะผู้สูงอายุดังที่ปรากฎเป็นข่าว

“ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน สามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ Hotline 323-580-4222 หรือทางอีเมล์ protection@thaiconsulatela.org. ประกาศเตือนภัยของสถานกงสุลใหญ่ฯ ระบุ

http://siamtownus.com/2016/New-2102000008-1.aspx?fbclid=IwAR2QCqKZehazqRju5Cy7FMZP1Bq0gmm0Cxbwkg4RNBy80WBjIWoED5r1VCs
    


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.พ. 21, 15:40
ดูวิดีโอจากกล้องวงจรปิดได้ที่นี่ค่ะ
เห็นได้ว่าคนร้ายลงมืออย่างเลือดเย็นมาก


https://twitter.com/EvanSernoffsky/status/1356120488326533122


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 ก.พ. 21, 16:01
https://twitter.com/EvanSernoffsky/status/1356120488326533122

Horrific video of fatal attack Thursday on 84-year-old Vicha Ratanapakdee.

https://youtu.be/MtOSkbTP99M


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 21, 10:57
ความคืบหน้าเรื่องนี้ อ่านได้จากบทความ

แก้ผ้าลุงแซม
โดย...เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
วันอังคาร ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 07.49 น.

เมื่อคนไทยกลายเป็นเหยื่ออคติในอเมริกา

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มีข่าวเล็กๆ ที่คนอเมริกันแทบไม่ให้ความสนใจแต่เป็นข่าวที่คนไทยในอเมริการู้สึกสะเทือนขวัญและสลดใจโดยเฉพาะคนไทยในซานฟรานซิสโก มีการแพร่คลิปให้เห็นชายไทยวัย84 ปี ชื่อคุณวิชา รัตนภักดีออกมาเดินออกกำลังกายยามเช้าในละแวกบ้านตามประสาคนสูงวัยก็ค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ แต่ฉับพลันทันใดมีวัยรุ่นผิวสีอายุ 19 ปีชื่ออองตวน วัตสันวิ่งข้ามถนนพุ่งมาชนคุณวิชาสุดแรงด้วยการเอาหัวโหม่งชนอย่างแรงจนคุณวิชาล้มคว่ำ จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา   ส่วนอองตวนวิ่งหนีไปขึ้นรถเพื่อนหญิงวัย 20 ปีชื่อเมย์เลเซีย
หากเรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองที่ค่อนไปทางเหยียดผิวจะไม่น่าตกใจเท่าเกิดขึ้นในซานฟรานซิสโกเพราะพลเมืองที่นี่เต็มไปด้วยพลเมืองเอเซียมีไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา ชุมชนชาวญี่ปุ่นและชุมชนคนเอเซียเชื้อชาติอื่นเป็นจำนวนมาก เคยมีคนเปรียบว่าพลเมืองซานฟรานซิสโก 10 คน จะมีคนเอเซียอยู่ 6 คนเมื่อเกิดคดีเช่นนี้ขึ้นในซานฟรานซิสโก จึงถือเป็นเรื่องน่ากังวลเพราะนี่เป็นคดีการฆ่าคนตายที่เกิดจากความเกลียดชังและอคติตำรวจจับวัตสันและเพื่อนหญิงได้ แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับยืนกรานปฎิเสธตลอดข้อหา

แถมเกิดดราม่าเล็กๆเมื่อย่าของอังตวนให้สัมภาษณ์ว่าอยากให้หลานชายเป็นอิสระ  แต่คุณย่าคงลืมไปแล้วมั้งว่าหลานชายคุณย่าฆ่าคนไทยวัยเดียวกับคุณย่า  และเป็นคุณปู่ที่น่ารักของครอบครัวหนึ่งเช่นกัน   นี่ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น หากแต่เกิดขึ้นซ้ำๆ และถี่ขึ้นทุกทีในอเมริกาเมื่อเดือนก่อน สำนักข่าว เอบีซี นิวส์เบย์แอเรียเผยคลิปวีดีโอแสดงให้เห็นว่าชายชราชาวเอเชียวัย 91 ปีถูกผู้ต้องสงสัยผลักล้มลงบริเวณฟุตบาทที่ไชน่าทาวน์ เมืองโอ๊คแลนด์เขตเบย์แอเรีย ซึ่งอยู่ละแวกซานฟรานซิสโกนั่นเองรัฐแคลิฟอร์เนียอีกเช่นกันนอกเหนือจากชายชรารายนี้ที่เป็นเหยื่อแล้ววันเดียวกันผู้ต้องสงสัยยังลงมือผลักชายเอเซียวัย 60 และหญิงเอเซียวัย 55 ปีจนหมดสติในอาทิตย์เดียวกับที่อองตวนชนคุณวิชาเสียชีวิตมีการรายงานข่าวว่าหญิงเอเซียวัย 70 ปีถูกปล้น หลังกลับจากธนาคารและคนลงมือเป็นวัยรุ่นอเมริกันสองคนที่ใช้วิธีเดียวกันกับการทำร้ายชาวเอเซียสูงวัยคนอื่นๆ คือวิ่งพุ่งชนแล้วแย่งกระเป๋าถือไป เหตุการณ์นี้เกิดในเมือง Oakland แคลิฟอร์เนีย
คดีเหล่านี้เกิดขึ้นจากความเกลียดชังและการต้องการชิงทรัพย์   บางคนลงมือเพราะต้องการปล้น เป็นที่รับรู้กันในหมู่อเมริกันว่าคนเม็กซิกันกับคนเอเซียมักถือเงินสดส่วนหนึ่ง   อาจจะเป็นเจ้าของกิจการที่ต้องการใช้เงินสดมาทอนเงินให้ลูกค้า   แต่กรณีคุณวิชาเป็นเคสที่เห็นชัดว่าเกิดจากความเกลียดชังล้วนๆ   เพราะไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทกันมาก่อน   และทั้งอองตวนและคุณวิชาก็ไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำ

อ่านต่อได้ที่
https://www.naewna.com/columnonline/46777


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 21, 16:59
เรื่องคุณตาวิชายังไม่ทันจางหาย   สาวไทยที่นิวยอร์คก็โดนเข้าอีกคน

สาวไทยในนิวยอร์กโพสต์คลิปถูกวัยรุ่นอเมริกาปรี่เข้ามาทำร้ายจนตกรถสกูตเตอร์ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่ชายไทยวัย 84 ปี ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตที่เมืองซานฟรานซิสโก เป็นการตอกย้ำถึงทัศนคติการเหยียดเชื้อชาติของคนอเมริกัน

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000013444


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 10 ก.พ. 21, 18:14
ข่าวเรื่องเหยีดคนในอเมริกาที่น่าเศร้าคือคนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องนี้เท่าไร คนไทยที่มีเชื่อเสียงก็ไม่ค่อยออกมาพูดกัน ทางคนขาว คนดำที่นั่นเองก็ไม่รู้จะสนใจที่จะช่วยเหลือไทยชาติเล็กๆไหม


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 มี.ค. 21, 17:37
จอร์จ ฟลอยด์วัย 46 ปี ถูกตำรวจจับกุม เพราะมีผู้แจ้งว่าเขาใช้ธนบัตร 20 ดอลล่าร์ปลอมในการซื้อของ    จอร์จถูกจับใส่กุญแจมือนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างรถตำรวจ    ยังไม่ได้ไปถึงสถานีตำรวจด้วยซ้ำ

ดีเรค โชแวน (Derek Chauvin) ตำรวจหนึ่งในจำนวน 4 คนที่จับกุม ใช้เข่ากดคอเขา ตรึงให้อยู่นิ่ง ทั้งๆฟลอยด์ก็ถูกใส่กุญแจมือ ให้นอนคว่ำ กระดิกกระเดี้ยลุกขึ้นไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่จะวิ่งหนีหรือหยิบอาวุธมาต่อสู้เลย  ทั้งๆฟลอยด์ร้องว่าเขาหายใจไม่ออก  ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จนคำสุดท้ายคือร้องเรียกแม่ ผมหายใจไม่ออก  ตำรวจก็ยังกดแน่นอยู่เกือบ 10 นาที  จนเขาหมดสติไป  แล้วตายก่อนถึงโรงพยาบาล ท่ามกลางเสียงร้องประท้วงจากประชาชนให้หยุดกดคอ  และการบันทึกวิดีโอจากคนมุงดูรอบๆ  ตำรวจทุกคนก็ไม่สะทกสะท้าน และไม่หยุดการทำร้ายแต่อย่างใด

คลิปต่างๆที่บันทึกไว้กลายเป็นพยานหลักฐานชั้นเยี่ยม ส่งกระจายผ่านโซเขียลมิเดียไปทั่วประเทศในพริบตา   ก่อความโกรธแค้นในหมู่ประชาชนผิวสีให้ลุกฮือขึ้นทั่วรัฐมินเนโซต้า  แพร่ไปถึงรัฐอื่นๆในวันต่อมา

บทสรุปของคดีจอร์จ ฟลอยด์

ทางการเมืองมินนิอาโปลิส (Minniapolis) ในรัฐมินนิโซตาของสหรัฐฯ ยอมจ่ายเงินชดเชยจำนวน ๒๗ ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ ๘๓๐ ล้านบาท ให้แก่ครอบครัวของ ‘จอร์จ ฟลอยด์’ หนุ่มผิวสีซึ่งถูกนายตำรวจใช้เข่ากดคอจนเสียชีวิตระหว่างการจับกุม ซึ่งได้กลายเป็นคดีดังที่จุดกระแสประท้วงต้านความอยุติธรรมทางสีผิวทั่วสหรัฐอเมริกา

เบนจามิน ครัมป์ ทนายของครอบครัวฟลอยด์ ระบุว่า วงเงินจำนวนนี้ถือเป็นค่าสินไหมชดเชยก่อนการพิจารณาคดีก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน สำหรับคดีที่บุคคลคนหนึ่งต้องเสียชีวิตลงจากการกระทำอันมิชอบของผู้อื่น

ค่าชดเชยมหาศาลนี้สะท้อนให้เห็นว่า การที่ตำรวจฆ่าคนผิวสี “จะไม่ถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่สำคัญ และไม่มีผลกระทบใด ๆ ตามมาอีกต่อไป” ครัมป์ ระบุ

ครอบครัวของฟลอยด์ ได้ประกาศแบ่งเงินชดเชยจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์เพื่อมอบให้แก่ชุมชนในที่เกิดเหตุ ซึ่งจนถึงขณะนี้ชาวบ้านยังไม่ยอมให้ตำรวจย่างกรายเข้าไป และมีคนนำช่อดอกไม้รวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ไปวางเพื่อรำลึกถึง ฟลอยด์

ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์ (https://mgronline.com/around/detail/9640000024350)

การที่ตำรวจฆ่าหรือทำร้ายประชาชนโดยไม่สมเหตุสมผล ไม่ควรถือเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างที่ทนายของครอบครัวของฟลอยด์ว่า  ไม่ว่าจะเป็นที่ใดในโลก


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 มี.ค. 21, 11:43
          เหตุกราดยิงร้านสปาที่ แอตแลนตา จอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในคืนวันที่ 16 มี.ค. ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 8 ราย
เพิ่มอุณหภูมิความรุนแรงจากความชังต่างชาติ ที่นั่นให้ร้อนระอุขึ้น
         ข่าว(trtworld) ว่าชาวเอเชียน-อเมริกันหลายคนพากันหาซื้อปืนมาพกไว้เพื่อป้องกันตัว


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 มี.ค. 21, 11:46
            จากคนผิวดำ ลามมาที่คนผิวเหลือง มีคดีถูกทำร้ายเป็นรายวัน-สัปดาห์
            ข่าวหนึ่งซึ่งน่าสังเวชระคนสะใจ คือ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มีนาคมนี้ อาม่าวัย 76 ปี ตกเป็นเหยื่อ
การโจมตีชาวเอเชียที่มาร์เก็ตเซนต์ ซานฟรานซิสโก โดยชายวัยประมาณ 30 ปี
            แต่ในคลิปข่าวที่เผยแพร่คือ ภาพชายหนุ่มคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่บนแปล และ หญิงชรายืนถือไม้
ใบหน้ามีปูดบวม มือถือถุงน้ำแข็งประคบ เจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่าในเช้าวันเดียวกันนั้น มีเหยื่ออีกรายเป็นชายชาวเอเชียวัย 83 ปี


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 21, 13:40
ทีแรกตั้งใจจะไปหารายละเอียดในข่าวมาลง  ขอบคุณคุณหมอค่ะ นำมาลงก่อนเลยไม่ต้องเปลืองแรง

สถานการณ์ชังชาติ(เอเชีย)ในอเมริกา เริ่มรุนแรงแซงหน้าการแบ่งแยกผิวสี    น่าเป็นห่วงมาก สำหรับคนจีน ไทย และชาติอื่นๆที่หน้าตาคล้ายจีนในสายตาฝรั่ง   บัดนี้ แม้แต่ก้าวออกจากบ้านก็ไม่รู้จะรอดกลับมาได้ไหม    
ฝรั่งมักจู่โจมทำร้ายคนแก่   จะได้ไม่มีทางโต้ตอบ     สมน้ำหน้าไอ้หนุ่มที่ถูกใส่เปลหามกลับไป   หารู้ไม่ว่าอาม่ามีสายเลือดแม่ชีมิกจ้อ เจ้าสำนักง้อไบ๊เต็มตัว


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 21, 16:49
https://www.youtube.com/watch?v=A2eoGivhJ0s


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 21, 16:50
https://www.youtube.com/watch?v=NcrXOyRncIM


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 มี.ค. 21, 07:57
คุณยาย Xiao Zhen Xie  เชื้อสายเจ้าสำนักง้อไบ๊ ในกระทู้ที่ 155  ได้รับการปลอบขวัญจากคนทั้งอเมริกา บริจาคเงินช่วยเหลือเธอจนแตะ 1 ล้านดอลล่าร์ หรือราวๆ 31 ล้านบาทแล้วในตอนนี้
แต่คุณยายก็น่ารักมาก  ไม่เอาเงินเข้ากระเป๋าเสียคนเดียว แต่จะบริจาคต่อไปเป็นทุนรณรงค์ต่อต้านการเหยียดผิว  ซึ่งอาชญากรรมชนิดนี้กระจายไปหลายรัฐในอเมริกาแล้ว   

(ชื่อของคุณยาย เห็นจะต้องฝากถามคุณม้า ว่าออกเสียงว่าอะไร   ดิฉันถอดชื่อจีนไม่ถูกค่ะ)

https://www.cbsnews.com/news/xiao-zhen-xie-san-francisco-elderly-asian-woman-donations-gofundme/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 มี.ค. 21, 08:03
 :'(


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 มี.ค. 21, 19:39
คุณยาย Xiao Zhen Xie  เชื้อสายเจ้าสำนักง้อไบ๊ ในกระทู้ที่ 155... (ชื่อของคุณยาย เห็นจะต้องฝากถามคุณม้า ว่าออกเสียงว่าอะไร   ดิฉันถอดชื่อจีนไม่ถูกค่ะ)

ระหว่างรอคุณม้า ขออนุญาตวิสัชนาดังนี้

ชื่อจีนของอาม่าเรียกตามธรรมเนียมจีน (แซ่ตามด้วยชื่อ) คือ เซี่ยเสี่ยวเจิ้น เขียนด้วยอักษรจีนตัวย่อคือ 谢萧珍  谢 = Xie เซี่ย เป็นแซ่, และ 萧珍 = Xiao Zhen เสี่ยวเจิ้น เป็นชื่อ หากเขียนชื่อแบบตัวเต็มคือ 謝蕭珍


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มี.ค. 21, 21:15
ขอบคุณค่ะคุณหมอเพ็ญ
อยากทราบว่าชื่อและแซ่ของอาม่า ถ้าเป็นแต้จิ๋วจะออกเสียงว่าอะไร   ดิฉันคุ้นกับชื่อแต้จิ๋วมากกว่าจีนกลางค่ะ

ตอนนี้กระแสชังชาติ(เอเชีย)กำลังระบาดอยู่ในอเมริกา    ต้นเหตุว่ากันว่ามาจากความเชื่อผิดๆว่า ไวรัสโควิด 19  ที่ทำเอาคนอเมริกันตายไปหลายล้าน มาจากประเทศจีน   คือเมืองอู่ฮั่น
คนเอเชียทั้งหลาย ไม่ว่าเชื้อสายจีนหรือไม่ก็ตาม โดนเหมารวมให้เป็นตัวการ ทั้งๆพวกนี้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วยสักนิด   บางคนก็เกิดในอเมริกา ไม่เคยไปประเทศจีนด้วยซ้ำไป
ข่าวเล็กๆที่สะท้อนอารมณ์พาลอย่างบ้าคลั่งของคนอเมริกันบางคน ต่อคนเอเชีย มีผุดขึ้นทีรัฐโน้นรัฐนี้ทุกวัน
ตัวอย่างข่าวเล็กๆที่ทำลิ้งค์ให้ข้างล่างนี้
คุณยายวัย 82  พักอยู่ในบ้านพักคนชราใน Orange County   รัฐคาลิฟอร์เนีย  เพิ่งกลับจากงานศพสามี ก็เจอจดหมายด่าทอ ขู้คุกคามส่งมาให้  สมน้ำหน้าที่สามีเชื้อสายเกาหลีถึงแก่กรรมไป   พร้อมกับขับไล่ไสส่งให้กลับไปประเทศตัวเอง

https://nypost.com/2021/03/24/asian-american-widow-gets-racist-letter-lauding-spouses-death/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 มี.ค. 21, 09:05
อยากทราบว่าชื่อและแซ่ของอาม่า ถ้าเป็นแต้จิ๋วจะออกเสียงว่าอะไร   ดิฉันคุ้นกับชื่อแต้จิ๋วมากกว่าจีนกลางค่ะ

谢萧珍 แต้จิ๋วออกเสียงว่า เจี่ยเซียวเตียง อาม่าแซ่เดียวกับอภิมหาเศรษฐีของไทย คือคุณธนินท์ เจียรวนนท์ (谢国民 - เจี่ยก๊กมิ้ง) เชียว  ;D


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 มี.ค. 21, 10:07
 :D
ขอบคุณมากค่ะ


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 มี.ค. 21, 19:25
กระแสชังชาติเอเชียที่แผ่ขยายไปตามรัฐต่างๆในช่วงนี้ ทำให้คนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ทนไม่ไหวถึงกับลุกขึ้นประท้วง ว่าเขาเองก็ได้รับใช้ชาติมาไม่น้อย - หรือมากกว่าฝรั่งอเมริกันบางคน-เสียอีก    ยังไม่ถือว่าเป็นอเมริกันพออีกหรือ

ล่าสุด นาย Lee Wong  เทศมนตรีของ West Chester รัฐโอไฮโอ ผู้เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ลุกขึ้นถอดเสื้อโชว์รอยแผลเป็นจากการที่เป็นทหารรับใช้ชาติอยู่ถึง 20 ปี   พร้อมกับเล่าประสบการณ์ที่เขาเคยถูกทำร้าย ถูกเหยียดหยามว่าไม่ใช่คนอเมริกันมาหลายครั้ง 
พร้อมกับตั้งคำถามว่า เขายังรับใช้ชาติในฐานะพลเมืองอเมริกันไม่พออีกหรือ

https://www.youtube.com/watch?v=zTJa_SwHcTE


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 มี.ค. 21, 08:17
กระแสชังชาติเอเชียยังคงร้อนแรงในอเมริกา  ล่าสุดhttps://mgronline.com/around/detail/9640000030547  ผู้หญิงอเมริกันเชื้อสายเอเชียวัย 65 ปี  เดินๆอยู่ริมถนนดีๆ   ถูกชายคนหนึ่งปรี่เข้ามาเตะ มากระทืบครั้งแล้วครั้งเล่า จนล้มลุกคลุกคลาน   ที่ร้ายขึ้นไปอีก  คือกล้องวงจรปิดจับภาพให้เห็นว่า รปภ.แถวนั้นเห็นเหตุการณ์แต่ก็อำมหิตพอกัน   ไม่ช่วยเหลือ แถมยังปิดประตูห้างไม่ให้เข้ามาขอความช่วยเหลือ

https://www.youtube.com/watch?v=Ly7xGEsnHOw&t=2s


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 มี.ค. 21, 09:05
ผู้หญิงอเมริกันเชื้อสายเอเชียเล่าประสบการณ์ถูกเลือกปฏิบัติจากสังคม

จาก บีบีซีไทย (https://www.bbc.com/thai/international-56527581)

https://youtu.be/NTTbo1OdTcY


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 เม.ย. 21, 10:49
คนร้ายที่ก่อเหตุทำร้ายหญิงเชื้อสายเอเชียวัย 65 ปีที่ไทม์สแควร์ นิวยอร์ค ถูกตำรวจจับแล้ว   ชื่อนายแบรนดอน  เอลเลียต  วัย  38 ปี  ตำรวจนิวยอร์คตั้ง 2  ข้อหา  คือทั้งประกอบ "อาชญากรรมทางอคติ "( hate crime) ด้วยการทำร้ายร่างกายเหยื่อ   และข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วย   คือโดนหนักว่าข้อหาทำร้ายร่างกายธรรมดาๆ
ประวัตินายคนนี้ ไม่ธรรมดาเอามากๆ  เมื่อปี 2000 ถูกจับข้อหาปล้น   ถัดมาอีก 2 ปีคือปี 2002 ถูกจับข้อหาฆาตกรรมแม่เขาเองเมื่ออายุแค่ 19 ปี  ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวมาเมื่อปี 2019 นี้เอง  

ส่วนเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ชื่อ  Vilma Kari   เป็นชาวฟิลิปปินส์  อพยพมาอยู่ในอเมริกาหลายสิบปีแล้ว

https://www.npr.org/2021/03/31/983002295/suspect-arrested-on-hate-crime-charges-over-attack-on-asian-woman-in-manhattan


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 เม.ย. 21, 11:26
นอกจากกระแสชังชาติ(เอเชีย)  กระแสชังเพศสภาพก็ชัดเจน

จากข้อเขียนของคุณเจริญขวัญ  แพรกทอง  บลาฮาสสกี้

สิทธิมนุษยชนแบบลุงแซม..จริงใจหรือไก่กา
.
อาวุธประเภทหนึ่งที่อเมริกาใช้ตลอดเวลา คือการใช้วาทกรรมหรูๆ   เวลาจะผิวปากเรียกลูกหาบลิ่วล้อขาประจำอย่างอังกฤษกับแคนาดาไปช่วยรุมกระทืบชาติไหน ที่บังอาจขวางผลประโยชน์ของอเมริกา   อเมพี่แกมักต้องอ้างอิงถ้อยคำเหล่านั้นมาประกอบการกระทืบและประณาม  คำหลักที่มักนำมาใช้คือ “สิทธิมนุษยชน”
.
เห็นชอบอ้างกันนัก  งั้นมาดูกันหน่อยว่าอะไรคือสิทธิมนุษยชน นิยามของคำนี้หมายถึงการปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในศักดิ์ศรี และคุณค่าของมนุษย์  รวมถึงในสิทธิอันเท่าเทียมกันของบุรุษและสตรี สำหรับมนุษย์ทุกคน โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา ฟังดูหรูหราหมาเห่ามากเลยใช่มั้ยล่ะ
.
ภาพ “อเมริกา” ที่เห็นในฮอลลีวู้ดและซีรีย์ฝรั่งต่างๆ ไม่ได้ฉายภาพความเป็นไปในอเมริกาอย่างแท้จริง แต่เชื่อเถอะว่าบรรดาหนูน้อยลิเบอรัลกรีดร้องว่า “ไม่จริ๊ง” ดูหนังฮอลลีวู้ดมาเป็นพันๆ เรื่อง มันต้องเป็นอย่างในหนังสิน่ะ เพราะฉะนั้นอเมริกาในสายตาลิเบอรัลไทยที่เสพหนังฮอลลีวู้ดและซีรีย์ต่างๆ จึงกลายเป็นดินแดนแห่งความเท่าเทียม
.
และแน่นอน..ดีงามสามโลกในเรื่องสิทธิมนุษย์ชน เสมือนว่าที่นี่คือยูโทเปีย เต็มไปด้วยความเท่าเทียมและสิทธิเสรีภาพทุกตารางนิ้ว จะว่าไปนี่คือความสำเร็จอย่างยิ่งของวงการมายาฮอลลีวู้ดโดยแท้
.
  อาทิตย์นี้เองมีข่าวล่ามาไว เล่นเอาบรรดาลิเบอรัลไทยตกใจไปทั้งสามโลก เพราะคิดไม่ถึงว่าดินแดนแห่งเสรีภาพและความเท่าเทียมอย่างอเมริกา มีการประกาศข่าวว่า ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้หมอ พยาบาล และสถานพยาบาลปฎิเสธไม่ให้การรักษาแก่บรรดากลุ่มรักร่วมเพศที่เรียกว่า LGBTG ได้โดยไม่ผิดกม. หากว่าขัดกับความเชื่อของตน
.    
ไม่นานมานี้ เคยมีการผ่านกฎหมายในรัฐอินเดียน่าที่อนุญาตให้ร้านอาหารในรัฐอินเดียน่ามีสิทธิในการปฎิเสธการจำหน่ายอาหารหรืออนุญาตให้นั่งรับประทานในร้านอาหารแก่กลุ่ม LGBTG คนที่ผ่านกฎหมายนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อดีตรองประธานาธิบดีอเมริกาไมค์ เพนซ์ ในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนส้มหล่นที่ทรัมป์จะเลือกไปเป็นรองประธานาธิบดี
.
สุดยอดไปเลยจ้า ยูโทเปียของชาวลิเบอรัลไทย  ย้อนแย้งไหมกับนิยามสิทธิมนุษยชน ที่กำหนดไว้ว่าสิทธิมนุษยชนมีไว้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานด้านศักดิ์ศรีและคุณค่าของมนุษย์ ในสิทธิอันเท่าเทียมกันของบุรุษและสตรี สำหรับมนุษย์ทุกคน โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา
.
แล้วประเทศที่ร่ำลือกันนักหนาว่าเคารพในเรื่องสิทธิมนุษยชนทำไมทำแบบนี้ล่ะ  สะสางปัดกวาดเรื่องในบ้านก่อนดีไหม ก่อนจะชี้นิ้วเล่นงานใครด้วยคำว่า “สิทธิมนุษยชน”
.
เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 21, 10:05
ย้อนกลับมาถึงคดีจอร์จ ฟลอยด์ ที่ทำให้คนผิวสีทั่วอเมริกาลุกฮือขึ้นประท้วงตำรวจผิวขาวที่กดคอเขาจนขาดใจ
บัดนี้   ดีเรค ชอวิน ตำรวจนายนั้นก็ถูกตัดสินเป็นเอกฉันท์โดยคณะลูกขุน เมืองมินนีอาโปลิส ว่ามีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ทั้ง ๓ ประการที่ถูกกล่าวหา คือ
ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน   (second-degree unintentional murder)  ฆ่าโดยไม่ได้มีเจตนา  แต่กระทำไปโดยไม่ให้ความสำคัญชีวิตของผู้อื่น (third-degree murder)  และ  กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย(second-degree manslaughter)
โทษที่ชอวินได้รับอาจจะสูงสุดถึง ๔๐ ปี 

https://www.dw.com/en/george-floyd-trial-derek-chauvin-found-guilty-of-murder/a-57270745



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ค. 21, 09:45
ในสหรัฐอเมริกา  ชาวเอเชียยังคงถูกทำร้ายไม่หยุด   เหยื่อมักจะเป็นผู้หญิง และคนชรา ซึ่งต่อสู้ป้องกันตัวได้ยาก
ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 4 พ.ค. 2021  เหตุร้ายเกิดที่บัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์    คุณป้าสองคนวัย  66 และ ุึ
 67 ปี  พนักงานในร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำงานอยู่ในร้านดีๆ ก็มีผู้ชายผิวสีคนหนึ่ง รู้ทีหลังว่าชื่อ ดารีล โดลส์ อายุ 50 ปีบุกเข้ามา ชกพนักงานล้มลงไป ใช้อิฐบล็อคที่ถือมาด้วยทุบศีรษะอย่างเหี้ยมโหด
ทั้งสองพยายามต่อสู้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส   ส่วนลูกค้าชายอีกคนที่อยู่ในร้านกลับยืนดูเฉยๆ แล้วเดินเลี่ยงออกไป ไม่ช่วยเหลือแต่อย่างใด

ตำรวจตามจับตัวได้  ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัส แต่ยังไม่ชัดเจนว่าโดนข้อหา hate crime พ่วงเข้าไปด้วยหรือไม่

เหยื่อรายหนึ่งต้องเย็บบริเวณศีรษะถึง 25 เข็ม

https://www.youtube.com/watch?v=M1C9Hl15cAU


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 มิ.ย. 21, 19:57
กระแสชังชาติเอเชียยังไม่หยุด  ล่าสุด  ชายเอเชียคนหนึ่งถูกผลักตกลงไปในรางรถไฟฟ้าในนิวยอร์ค   เพื่อให้รถไฟทับตาย    ชะตายังไม่ขาด  พนักงานขับรถไฟ เชื้อสายอินเดียชื่อ   Tobin Madathil วัย 29 ปี เบรคทันในระยะห่างแค่ 30 ฟุต

อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ

https://indianexpress.com/article/trending/trending-globally/indian-origin-train-operator-hailed-as-hero-for-saving-man-pushed-onto-subway-tracks/


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 04 มิ.ย. 21, 08:51
อย่าว่าแต่ Asian American ทั่วไปเลยครับ  แม้แต่เหล่าดาราก็โดนหางเลขด้วย  ตอนนี้กำลังรณรงค์กันใหญ่

https://www.youtube.com/watch?v=Hnkl7Ax1m2c

ตอนนี้กำลังจะลามไปฝั่งยุโรป

กลุ่มฝรั่งอเมริกันที่มาเกษียณที่เมืองไทยบอกว่า  อายแทน  และไม่มีความคิดที่จะกลับบ้านเกิด

ส่วนเพื่อนสนิทที่พอจบจาก ม.ปลาย แล้วตามครอบครัวไปอยู่ที่อเมริกา  จนตอนนี้เป็นชาวอเมริกันก็บอกว่า  กลัวหัวหด  ตั้งแต่ย้ายมาไม่เคยกลัวขนาดนี้  เวลาออกไปไหนก็ต้องหันซ้ายหันขวา  ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนไม่เคยเลย  โหดร้ายและไม่มีขื่อมีแป  Covid ซาเมื่อไรจะย้ายถิ่นกลับมาตายบ้านเรา

อยู่เมืองไทยดีที่สุดเลย



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 04 มิ.ย. 21, 09:14
มีความรู้สึกว่า  ต้องมี 'บางสิ่ง' หนุนหลังอยู่

ส่ง clip มาให้ชม  ติดมาในสารคดีเกี่ยวกับโฉมหน้าวงการเพลงในปี 1971

ดูแล้วซะใจดี  ตบหน้ารัฐบาลฉาดเบ้อเริ่ม 

เป็นควันหลงจากกรณี หนุ่มผิวดำถูกผู้คุมฆ่าในเรือนจำเมื่อ 1971

การเหยียดผิวที่อเมริกามีมานมนานก่อนหน้าแล้ว

https://www.youtube.com/watch?v=XPbWQUPiS8g



กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มิ.ย. 21, 16:11
อเมริกายังดุไม่เลิก
เหตุร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมืองเคคาล์บ รัฐจอร์เจีย  หนุ่มวัย 30 ชื่อนายวิคเตอร์ ทัคเคอร์ จูเนียร์  เดินเข้าไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตบิ๊กแบร์  โดยไม่สวมหน้ากาก  พนักงานแคชเชียร์หญิงของห้างก็เลยเตือนให้สวม
 แต่นายคนนี้ปฏิเสธ แถมยังโต้เถียงทะเลาะไม่ยอมจบง่ายๆ  
ต่อมาพี่แกก็เดินออกจากห้างฯ โดยไม่ได้ซื้ออะไร  แต่แทนที่จะไปแล้วไปเลยกลับย้อนกลับเข้ามาแล้วควักปืนพกออกมายิงเข้าที่ศีรษะพนักงานหญิง  กับดวลปืนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างที่เข้าไประงับเหตุ
พนักงานหญิงไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเกรดี เมโมเรียล  นายทัคเกอร์กับเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ถึงตาย   และมีแคชเชียร์อีกคนโดนลูกหลง เฉี่ยวไปได้รับบาดเจ็บ
นายทัคเกอร์ถูกตำรวจจับได้ขณะพยายามหนีออกจากห้าง

https://www.youtube.com/watch?v=fqGi5kD8jqg


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 21 มิ.ย. 21, 10:51
เสรีภาพในการพกพาอาวุธในอเมริกามากกว่าบ้านเราเยอะเลยครับ ไม่กี่วันก่อน ผมเพึ่งเห็นข่าวนี้ครับ

Texas GOP governor signs permit-free gun carrying legislation
ที่มา : https://edition.cnn.com/2021/06/16/politics/texas-permitless-gun-bill-abbott/index.html

Washington (CNN)Texans will soon be able to carry handguns in public without obtaining licenses or training after the state's Republican governor on Wednesday signed a permitless carry gun bill into law.

The measure approved by Gov. Greg Abbott allows individuals 21 and older who can legally possess firearms in the state to carry handguns in public places without permits. The legislation is set to go into effect in September.

In signing HB 1927 into law, Texas joins a handful of other conservative-led states that have passed measures this year allowing some form of permitless carry and expanded gun rights at the state level. Democrats and some law enforcement officials in the state say the bill eliminates mandatory firearms training that helps protect the public and also makes it more difficult to determine who is unlawfully carrying a weapon.
CNN has reached out to the governor's office for comment on the legislation.

Abbott had indicated earlier this year that he would sign the bill, telling WBAP in April: "I support it and I believe it should reach my desk and we should have 'constitutional carry' in Texas."

Republican supporters of the permitless carry bill, who often refer to it as "constitutional carry," argue that by removing the licensing requirement, they are removing an artificial barrier to residents' right to bear arms and ensuring more Texans have access to personal protection in public.
Texas already allows citizens to carry rifles openly without licenses. Under current Texas law, residents must have licenses to carry open or concealed handguns. As part of the licensing process, residents must submit a fingerprint, undergo a background check, participate in a training course and pass a shooting proficiency test.

CNN previously reported that five other states -- Iowa, Tennessee, Montana, Utah and Wyoming -- have passed legislation allowing some form of permitless carry this year.


กระทู้: 2020 อเมริกาจลาจล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 21, 12:44
ในที่สุด  ตำรวจผิวขาวที่ฆ่าจอร์จ ฟลอยด์ ก็ถูกลงโทษแล้ว
ดีเรค ชอวิน ถูกศาลพิพากษาลงโทษเป็นเวลา 22 ปีครึ่ง ในความผิดฐานฆาตกรรมจอร์จ ฟลอยด์’  เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2020 จนกลายเป็นเหตุจลาจลลุกลามไปทั่วอเมริกา

ชอวินโดนเข้าหลายกระทง   คือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน (untentional second-degree murder)  ฆ่าโดยไม่ให้ความสำคัญชีวิตของผู้อื่น (third-degree murder) และการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  (second-degree manslaughter)

ชอวิน ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำที่ Oak Park Heights  แต่ยังไม่มีการแถลงว่าเขาจะถูกส่งตัวไปรับโทษจำคุก 22 ปีที่ไหน

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-57618356