เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 270 เมื่อ 12 มี.ค. 17, 12:30
|
|
ในบรรดาหนังเก่าของTMC ปีสองปีก่อน ช่องนี้เคยนำหนังเพลงไพเราะระบำงามตาของฮอลลีวู้ดมาฉายหลายเรื่อง เป็นหนังเพลงยุคก่อนและหลังสงครามโลกเล็กน้อย หนึ่งในดาราประจำชื่อ June Allyson ทีแรกคิดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ เพิ่งรู้ว่าดับแสงไป 10 ปีก่อนเมื่อค.ศ. 2006 ค้นชื่อในเรือนไทย ไม่เจอ ก็เลยคิดว่ายังไม่ได้นำมาลงค่ะ เดี๋ยวคุณหมอ SILA คงจะมาบอกเองว่าเคยนำเธอมาพบหรือยัง
คลิปข้างล่างนี้มาจากหนัง Little Women ทำจากวรรณกรรมสำหรับเด็กระดับคลาสสิคของอเมริกา จูนเล่นเป็นสาวน้อย โจ ตัวเอกของเรื่อง คู่กับปีเตอร์ ลอร์ฟอร์ดที่ยุคนั้นหล่อมาก แต่ไม่ยักใช่พระเอก พระเอกคือรอสซาโน บราสซี่ โผล่ออกมาตอนครึ่งหลังของเรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 271 เมื่อ 12 มี.ค. 17, 12:33
|
|
เพลงไพเราะ ระบำงามตา ขาดแต่ไม่ได้แอบหลังต้นไม้กับวิ่งข้ามภูเขาเท่านั้นค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 272 เมื่อ 12 มี.ค. 17, 12:52
|
|
ระลึก(ชาติ) แลัวไม่คุ้นว่าเคยเห็นมาก่อนในกระทู้ ครับ
หมายเหตุ เวลาของเรือนไทยเร็วไป ๑ ช.ม. (ขณะพิมพ์เป็น ๑๒.๕๒ แต่ขึ้นเวลาเป็น ๑๓.๕๒) ตามเมืองนอก ปรับเวลาออมแสงกระมัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 273 เมื่อ 12 มี.ค. 17, 17:01
|
|
จากหนังเรื่อง Words and Music ปี 1948
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 274 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:01
|
|
สัปดาห์ก่อนโน้น มีบทความเล่าถึงหนังไทยเรื่องแรกแห่งสยาม "นางสาวสุวรรณ" อันอุดมด้วยข้อมูล มากกว่าเคย แปลกแต่จริง! หนังไทยเรื่องแรกสร้างโดยบริษัทยูนิเวอร์แซล! เข้าใจผิดจะมาถ่ายป่า เจอสิ่งดีกว่า เลยเขียนสคริปท์สด!
โรม บุนนาคจากเว็บ http://www.manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9600000019209 ขอนำเนื้อหาบางส่วนมาตัดต่อเรียบเรียงเสนอดังนี้ ( ก่อนที่จะเข้าเรื่องที่เกี่ยวเนื่องต่อไป) “นางสาวสุวรรณ” ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกสร้างขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๖๖ สมัยร.๖ โดยทีมงานยูนิเวอร์แซล แห่งฮอลลีวูด นำโดยนายเฮนรี่ เอ แมคเร ยกกองถ่ายมาด้วยข้อมูลว่า สยามเป็นบ้านป่าเหมือนอาฟริกา หมายมา ถ่ายสารคดี แต่เมื่อมาถึงจึงได้รู้ว่าเข้าใจผิดและเปลี่ยนแผนเป็นถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องยาว โดยได้รับพระบรมราชา นุญาต ทั้งยังโปรดให้กรมรถไฟหลวงซึ่งมีแผนกภาพยนตร์และกรมมหรสพหลวงร่วมงานกับนายแมคเรด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 275 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:04
|
|
นางเอกนั้น,นายแมคเรเล็งไปที่นักแสดงของกรมมหรสพหลวง คือนางสาวเสงี่ยม นาวีเสถียร วัย ๑๘ ปี ส่วนพระเอกได้ ขุนรามภรตศาสตร์ ตัวโขนพระรามของกรมมหรสพหลวง ใช้เวลาถ่ายทำ ๓ เดือน ในระบบ ๓๕ มม.ขาว-ดำ เป็นหนังเงียบ ล้างฟิล์ม ตัดต่อ พิมพ์ฟิล์ม ทำคำบรรยาย ไทยที่กองภาพยนตร์ของกรมรถไฟหลวง ยูนิเวอร์แซลมอบลิขสิทธิ์ในสยามให้กรมรถไฟหลวงนำออกฉายเป็นครั้งแรก ที่โรงภาพยนตร์พัฒนากร โรงภาพยนตร์บางลำพู และโรงภาพยนตร์ฮ่องกง(อยู่ไหน?) ในวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๔๖๖ เก็บเงินบำรุงกาชาดสยาม นายเฮนรี เอ แมคเร ได้นำ“นางสาวสุวรรณ” ไปเผยแพร่ในนาม “Kingdom of Heaven” ซึ่งรู้จักกันทั่วไปใน นาม “Suvarna of Siam” ได้รับความสำเร็จอย่างสูงในอเมริกา ฟิล์มภาพยนตร์หายสาบสูญสิ้นไม่มีเหลือ คงแต่เพียงบางภาพถ่ายเท่านั้น
วิกกี้มีข้อมูลระบุว่า โรงภาพยนตร์ ฮ่องกง / 2460 (ประวัติระบุว่า ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงหนัง สาธร)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 276 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:08
|
|
เข้าเรื่องที่เกี่ยวเนื่อง จากเนื้อเรื่องของ "นางสาวสุวรรณ" นั้นมีอยู่ว่า
แมคเรพล็อตเรื่องสดๆ ให้พระเอกเป็นข้าราชการเล็กๆ ไปเจอนางเอกลูกคนมีเงินตกน้ำเลยโดด ลงไปช่วย แทนที่พ่อนางเอกจะขอบใจกลับไม่พอใจที่เห็นพระเอกกอดลูกสาวไว้แนบอก จากนั้น พระเอกก็เฝ้าแต่คิดถึงนางเอกจนได้พบกันอีกในงานวัดพระแก้ว แต่ผู้ร้ายกับพ่อนางเอกกีด กันทั้งยังดูถูก พ่อบุญธรรมของพระเอกเลยเปิดเผยความจริงว่า พระเอกนั้นเป็นลูกผู้ดีมีตระกูลของเมืองเหนือ พ่อแม่พามาเที่ยวกรุงเทพฯ ตอนเป็นเด็กแต่เกิดตายกะทันหันตนจึงเก็บมาเลี้ยง ผู้ร้ายวางแผนให้คนชวนพระเอกกับพ่อบุญธรรมไปทำงานที่เชียงใหม่ แล้วให้ลูกน้องฆ่าเสีย แต่ฆ่าผิดตัว เลยโยนความผิดให้พระเอกจนถูกจับ พ่อบุญธรรมนำข่าวนี้มาบอกนางเอกๆ เลยรีบบินไปช่วย พร้อมพ่อบุญธรรม มอบเสมาทองคำที่พระเอกห้อยคอตั้งแต่เด็กไปด้วย เศรษฐีเชียงใหม่คนหนึ่งเห็นเสมาทองคำก็รู้ว่าพระเอกคือหลานชายของตัว ทั้งฆาตกรตัวจริงก็รับสารภาพ ผู้ร้ายผู้วางแผนเลยโดนจับ พ่อนางเอกตามขึ้นไปรู้ความจริง ก็เลยยอมยกลูกสาวให้พระเอก เรื่องเลยแฮปปี้เอนดิ้ง ดูเนื้อเรื่องแล้วจะเห็นว่า นายแมคเร ศึกษาวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมของคนไทยได้รวดเร็วมาก และ
ไม่เพียงแต่สร้างประวัติศาสตร์ทำหนังเรื่องแรกของไทยไว้เท่านั้น ยังสร้างแบบฉบับ“หนังน้ำเน่า” ให้ หนังไทยในยุคต่อมาด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 277 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:10
|
|
เมื่อมองย้อนกลับไปดูหนังไทยเก่าๆ จะเห็นได้ว่า พล็อต ลูกท่านหลานเธอพลัดพรากมาตกยากนี้ เป็นที่นิยมอย่างมากในหนังไทย ตัวลูกท่านหลานเธอนั้นอาจจะเป็นพระเอก(จำได้ว่าเรื่องหนึ่งนั้นพระเอกชื่อ บุญทิ้ง) ไม่ก็นางเอก โดยมีเครื่องหมายให้ระลึกชาติกำเนิดติดตัวมาเป็นสิ่งของ เช่น สร้อยคอห้อยล็อคเก็ท, พระ หรือปานบนร่างกาย เรื่องหนึ่งที่ทำให้ถึงกับทึ่งปนอึ้งในตอนจบก็คือ พระเอก(มิตร ชัยบัญชา ซึ่งประวัติเดิมเริ่มแรกเรียกกัน ว่า บุญทิ้ง เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน) ที่เป็นลูกบุญธรรมตกยากสามารถเอาชนะใจบิดานางเอกเพราะเสี่ยงชีวิต ช่วยนางเอกพ้นมือผู้ร้ายมาได้ เรื่องจึงจบลงอย่างแฮปปี้ แต่ เท่านี้ยังไม่พอคนเขียนบทยังเติมเต็มความสุขสมให้คนดูด้วยการให้เพื่อนพ่อบุญธรรมพระเอกโผล่มา ก่อนจบ มาแสดงความยินดีพร้อมมอบเสื้อตัวใหม่ให้พระเอกใส่ในทันที ขณะที่พระเอกเปลี่ยนเสื้อเพื่อนพ่อก็ได้ เห็นปานบนร่างกายจึงจำได้ว่าพระเอกคือลูกของตนที่พลัดพรากไปแต่แบเบาะ.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 278 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:13
|
|
พล็อต "ลูกท่านหลานเธอพลัดพรากมาตกยาก" ที่ว่านำเข้ามาโดยฝรั่งนี้ เมื่อลองคิดย้อนไปถึงวรรณกรรม ตะวันตกแล้ว มีปรากฏในวรรณกรรมเก่าแก่มานานมาก เท่าที่นึกออกก็คือ Oliver Twist ของ Charles Dickens ออกตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในช่วงปี 1837–39(พ.ศ. ๒๓๘๐ - ๒๓๘๒) เล่าเรื่องหนูน้อยโอลิเวอร์ที่เป็นกำพร้ามารดา คลอดแล้วเสียชีวิต เติบโตเป็นเด็กชายน่ารักในสถานสงเคราะห์ ต่อมาได้หนีออกมาเผชิญโชค(ร้ายปลายดี) ใน มหานครลอนดอน ได้พบกับคุณตา(ลุงของมารดา) ที่รับอุปการะโอลิเวอร์ไว้โดยที่ยังไม่ทราบว่าเป็นหลาน
คุณตาพินิจหน้าโอลิเวอร์ที่แลละม้ายหลานสาวซึ่งหนีออกจากเคหาสน์ไปหลังจากที่ถูกคนรักได้แล้วเท(ทิ้ง)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 279 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:15
|
|
ความจริงแห่งชาติกำเนิดของโอลิเวอร์ได้รับการเปิดเผยเมื่อผู้ดูแลสถานสงเคราะห์นำสร้อยล็อคเก็ท ของมารดาโอลิเวอร์มาสำแดงต่อคุณตาด้วยหวังรางวัลก้อนโต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 280 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:17
|
|
ภาพทั้งสองจากหนังเพลงระดับออสการ์สร้างจากละครเพลงออกฉายในปี 1968 - Oliver! รับบทโดย ดาราเด็กหน้าตาน่ารักน่าสงสาร Mark Lester ที่แจ้งเกิดเป็นดาราเด็กโด่งดัง ฉากประทับใจนี้ที่หลายคนคงชื่นชอบด้วยบรรยากาศสดชื่นยามเช้าเคล้าเสียงเพลงไพเราะ "Who Will Buy?" เมื่อหนูน้อยได้กินอิ่มหลับสบายแล้วตื่นขึ้นมาอย่างมีความสุขในเคหาสน์อบอุ่นไอรัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 281 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:18
|
|
ดาราเด็กโดดเด่นอีกคนจากโอลิเวอร์เวอร์ชั่นนี้คือ Jack Wild รับบทยอดนักล้วง(กระเป๋า) รุ่นเยาว์ แสดงดีจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลทั้งฝั่งอังกฤษและเมกา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 282 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:22
|
|
มาร์คและแจ็คยังได้ร่วมแสดงนำในหนังดังในบ้านเราและญี่ปุ่น(แต่ล้มเหลวในอังกฤษและอเมริกา) เรื่อง Melody (1971) เฉกเช่นดาราเด็กที่มีพรสวรรค์พ่วงคำสาป แจ็คติดเหล้าและเป็นป่วยเป็นเบาหวานด้วยวัยเพียง 21 ปี ผลจากการติดเหล้าทำร้ายสุขภาพและงานการตลอดจนชีวิตครอบครัว แจ็คเข้ารับการบำบัดแล้วเริ่มกลับมาทำงาน บันเทิงในละครเวทีและหนังบางเรื่อง ด้วยวัย 48 ปี หลังจากการสูบและดื่มอย่างหนัก แจ็คป่วยด้วยมะเร็งในช่องปากในปี 2000 และเสียชีวิต ในปี 2006
ได้เห็นหน้าคนเดียวและได้ขึ้นชื่อเป็นคนแรกบนใบปิด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 283 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 10:27
|
|
วรรณกรรมอังกฤษอีกเรื่องหนึ่งที่มีพล็อตแบบนี้ที่นึกได้คือ บทละครเรื่อง The Importance of Being Earnest ของนักเขียน Oscar Wilde จัดแสดงเป็นครั้งแรกในปี 1895(พ.ศ. ๒๔๓๘)
พล็อตแนวลูกท่านหลานเธอถูกพรากแต่เรื่องนี้ไม่ตกยาก เพราะพระเอกได้รับการอุปการะในครอบครัวที่ มีฐานะดี แต่ก็ยังไม่พอสำหรับการยอมรับจากสังคมผู้ดีอังกฤษ ทว่าในที่สุดเรื่องราวอุปสรรคของความรักก็สามารถจบลงอย่างสมหวัง เมื่อพระเอกมีหลักฐานชาติกำเนิด เป็นกระเป๋าใส่ตัวเขาในวัยทารกนำมาแสดงต่อพยาบาลเลี้ยงเด็กของครอบครัวที่ได้นำไปลืมทิ้งไว้ในสถานีรถไฟ เลดี้ว่าที่แม่ยายจึงจำได้ว่าเขาคือลูกชายคนโตของน้องสาวที่ตายจากไปและยอมให้หมั้นหมายกับลูกสาวได้
เช่นเดียวกับโอลิเวอร์ วรรณกรรมเรื่องนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังหลายครั้ง ภาพนี้จากเวอร์ชันที่น่าสนใจ ปี 2002 นำแสดงโดยนักแสดงโดดเด่นมากมายทั้ง Colin Firth, Reese Witherspoon และ Dame Judi Dench
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 284 เมื่อ 20 มี.ค. 17, 11:32
|
|
มาร์คและแจ็คยังได้ร่วมแสดงนำในหนังดังในบ้านเราและญี่ปุ่น(แต่ล้มเหลวในอังกฤษและอเมริกา) เรื่อง Melody (1971) เมโลดี้ที่รัก หนังโรงในดวงใจเมื่อวัยรุ่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|