หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่ความงามอลังการแบบแกะสลักให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ได้เริ่มต้นขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง(จากราชวงศ์ฮั่นมาราชวงศ์ถังนี้นานพอดูอยู่นะ เป็นร้อยๆปีเชียว) กล่าวคือ เริ่มมีการแกะสลักลายกลีบบัวคว่ำบัว(莲瓣:lian ban) ลายเทวดาแบก(力神: shen li)แกะสลักฐานให้มีเสาคั้นเป็นห้องๆจนถึงทำเป็นซุ้มเล็กๆ (壶门:hu men) เป็นอาทิ (นึกภาพไม่ออกให้นึกถึงเจดีย์ช้างล้อม หรือแบบมียักษ์แบกกระบี่แบกบ้านเรา) และการใช้งานกับเหล่าอาคารจะใช้เฉพาะอาคารในราชสำนัก ศาสนาสถาน หรือซุ้มประตูใหญ่ๆ เป็นอาทิ
ทั้งนี้แต่การสร้างจะเริ่มเป็นหลักการบังคับตายตัวเมื่อเข้าสู่ราชวงศ์ซ่ง กล่าวคือ บนล่างของฐานจะยื่นออกเป็นขั้นออกมาเรียกกว่า “เตี๊ยเซ่อ” (叠涩:die se) ส่วนตรงกลางจะเว้าเข้ามาเรียกว่า “ซู่เยา” (束腰:shu yao) ตอนบนกับตอนล่างของส่วนที่เว้าเข้ามาจะมีลายสลักกลีบบัว ทั้งนี้ตอนบนของกลีบบัวหงายมักสลักเป็นซุ้มเล็กๆที่เรียกกว่า “หูเมิน” ส่วนตอนล่างสุดให้พึงสังเกตว่าจะมีการแกะสลักรูปแบบคล้ายๆฐานสิงห์ของไทยเรียกกว่า “ยาเจียว” (牙脚: ya jiao) แปลว่า “ฟัน (ของ) เท้า” รูปลักษณะเป็นอย่างไร โปรดดูจากตัวอย่างในภาพต่อไปนี้
ภาพที่ ๔ ฐานแบบสุเมรุอาสน์ในสมัยราชวงศซ่ง
http://zhangjingchanga.blog.163.com/blog/static/12258368200922021731542/?hasChannelAdminPriv=true