SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1185 เมื่อ 10 เม.ย. 14, 09:32
|
|
แท่นข้าง 4 แท่นทั้งซ้ายและขวาเป็นที่บูชา นักบุญ Xavier, Joseph, Presentation of Our Lady in the temple - การถวายตัวพระแม่แด่พระผู้เป็นเจ้า(เมื่อครั้งยังเยาว์วัยเป็น เด็กหญิง จากนั้นได้อาศัยอยู่ในโบสถ์จนกระทั่งถึงเวลาออกเรือนกับ Joseph) และ นักบุญ Augustine
วิกกี้ไทยบันทึกว่า
นักบุญออกัสตินแห่งฮิปโป (Augustine of Hippo) เกิดเมื่อปี 354 ที่เมืองทากาส ประเทศแอลจีเรีย เป็นนักเทววิทยาศาสนาคริสต์ยุคแรก งานเขียนของท่านมีอิทธิพลอย่างมากต่อ ศาสนาคริสต์ตะวันตกและปรัชญาตะวันตก ท่านได้เป็นบิชอปแห่งฮิปโปในปี 396 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของมณฑลแอฟริกาของจักรวรรดิโรมัน ออกัสตินถือเป็นปิตาจารย์*ที่สำคัญที่สุดของคริสตจักร
*Church Fathers คือนักเทววิทยาที่มีบทบาทสำคัญในศาสนาคริสต์ยุคแรก ปิตาจารย์เหล่านี้มักเป็นอาจารย์หรือมุขนายก - Bishop ที่มีบทบาทสำคัญ งานเขียนของปิตาจารย์ ถือเป็นบรรทัดฐานความเชื่อของคริสต์ศาสนิกชนในศตวรรษต่อ ๆ มา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1186 เมื่อ 10 เม.ย. 14, 09:34
|
|
กลับออกมานอกโบสถ์ ทางขวามือคือ
อาคารวิทยาลัยเยซูอิต Collegium Ragusinum ซึ่งตระหง่านตั้งฉากกับตัวโบสถ์ อาคารนี้สร้างขึ้นเป็นสถานศึกษาสำหรับชนชั้นนำของดูบรอฟนิค หลังเหตุวิกฤตแผ่นดินไหว ปี 1667 ทางการตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาที่มีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจบ้านเมือง และสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพเป็นเลิศก็คือคณะเยซูอิตนี่เอง
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1187 เมื่อ 10 เม.ย. 14, 09:36
|
|
ต่อมาในภายหลังจากที่คณะเยซูอิตได้ถูกยกเลิกในปี 1773 วิทยาลัยได้ตกเป็นของสังฆมณฑล แรกูซา เมื่อกองทัพนโปเลียนมาถึงในปี 1806 อาคารนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลทหารจนกระทั่ง ปี 1941 ท่านบิชอปที่นี่จึงได้จัดตั้งให้เป็นโรงเรียนและโรงเรียนสอนศาสนา นักเรียนที่นี่จะได้รับการสอน ภาษาละตินและกรีกคลาสสิคเป็นเวลาสี่ปี ปัจจุบันที่นี่คือโรงเรียนมัธยม Ruder Boskovic
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1188 เมื่อ 10 เม.ย. 14, 09:37
|
|
เส้นสายตรงแน่วของอาคารเรียนขับด้านหน้าโบสถ์สไตล์บารอคให้โดดเด่นชัด และขานรับ กับขั้นบันไดกว้างเบื้องหน้า ที่ออกแบบโดยสถาปนิกโรมัน Pietro Passalacqua ในปี 1738 สะท้อนภาพบันไดซึ่งเป็นที่รู้จักมักคุ้นในโรม
ภาพจากอดีตมักจะงดงามกว่าปัจจุบัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1189 เมื่อ 10 เม.ย. 14, 09:43
|
|
ลงจากบันไดสวยสู่ลานกว้างด้านล่าง
บันไดยามย่ำสนธยา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1190 เมื่อ 10 เม.ย. 14, 09:45
|
|
ริมถนนระหว่างทางจากจตุรัสกวีศรีเมืองกลับไปลานน้ำพุใหญ่เป็นที่ตั้งของ โบสถ์ Serbian Orthodox Church of the Holy Annunciation
ในตำแหน่งที่กล่าวได้ว่าอยู่ตรงใจกลางเมือง(A)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1191 เมื่อ 10 เม.ย. 14, 09:49
|
|
อาคารโบสถ์สไตล์ neo-byzantine ตั้งอยู่บนพื้นยกระดับโดดเด่นต่างจากอาคารใกล้เคียง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1192 เมื่อ 10 เม.ย. 14, 09:52
|
|
โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1871 และงานสร้างขั้นตอนสุดท้ายสำเร็จในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1193 เมื่อ 10 เม.ย. 14, 09:54
|
|
ทางการดูบรอฟนิคเพิ่งจะยอมรับสถานะออร์โธดอกซ์เทียบเท่าแคธอลิคเมื่อปี 1848 ในเวลานั้นมีผู้อพยพที่นับถือออร์โธดอกซ์เป็นเซิร์บจากเฮอร์เซโกวินามาอาศัยอยู่ที่นี่หลายร้อยคน พวกเขาอยู่ในเครือเดียวกับ Serb Orthodox Church ที่เป็นโบสถ์ตามประเพณีของเซอร์เบีย กับบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา (และโดยทางการแล้วถูกจัดว่าเป็น "ชาวเตอร์ค") สงครามผ่านพ้นไปยังไม่นานพอ(ยี่สิบกว่าปีแล้ว) ความขัดแย้งทางเชื้อชาติศาสนายังไม่ จางหาย เมื่อปีที่แล้วมีรายงานข่าว
Hate graffiti on Orthodox church in Dubrovnik Srbe na vrbe - Hang the Serbs
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1194 เมื่อ 11 เม.ย. 14, 09:56
|
|
กลับมายังลานน้ำพุแล้วเข้าชมอาคารถัดไปจากโบสถ์ติดกำแพง นั่นคือ
อาราม Franciscan Monastery
หนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ปักหมุดเขตตะวันตกของเมือง ด้านในประตู Pile
ตอนที่มาถึงในโบสถ์มีคริสต์ศาสนิกชนมาชุมนุมมากมาย ไม่สะดวกที่จะถ่ายภาพ จึงต้องค้นหานำมาจากเน็ทเช่นเคย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1195 เมื่อ 11 เม.ย. 14, 09:59
|
|
คณะฟรานซิสกันเป็นหนึ่งในสามนิกายที่ลงหลักปักฐานที่สามมุมเมือง ได้แก่ เยซูอิตทางใต้ ดอมินิกันทางตะวันออก และ ฟรานซิสกันทางตะวันตก(สองคณะหลังนี้ที่ตั้งอยู่สองฟากตรงข้าม ต่างก็ มีท่าทีประชันขันแข่งกัน) แรกมาถึงดูบรอฟนิคเมื่อปี 1234 (ตัวเลขสวยมาก) คณะได้สร้างอาคารหลังแรกที่นอกกำแพง แถบประตู Pile ก่อนที่จะถูกรื้อทำลายลงด้วยภัยคุกคามจากสงคราม แล้วย้ายเข้ามาสร้างอารามหลังใหม่ ภายในกำแพงเมื่อปี 1317 ในแบบโรมาเนสค์ - กอธิค ใช้เวลาในการสร้างข้ามศตวรรษ ทำให้ได้เป็น หนึ่งในอารามที่รุ่มรวยด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สุดของดูบรอฟนิค
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1196 เมื่อ 11 เม.ย. 14, 10:01
|
|
แต่แล้วเหตุการณ์ธรณีพิบัติครั้งร้ายแรงในปี 1667 ได้ทำลายอารามลงคงเหลือส่วนที่ เป็นระเบียง cloister และสวนกลางระเบียงซึ่งเป็นสวนที่เก่าแก่ที่สุดในดูบรอฟนิค(ที่ได้เข้าชมไปแล้ว) อารามถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างเรียบง่ายไม่หรูในแบบบารอค แต่งานแบบกอธิคคงหลงเหลืออยู่ ที่ประตูเดิมซึ่งกู้มาได้จากอาคารหลังเกิดแผ่นดินไหว ประตูนี้เป็นผลงานประณีตล้ำเลิศสรรค์สร้างใน ปี 1498 โดยสองพี่น้อง Leonard และ Petar Petrovic ที่มีโรงงานช่างที่ดีที่สุดในเมือง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1197 เมื่อ 12 เม.ย. 14, 09:41
|
|
งานประติมากรรมด้านบนสุดเหนือประตูคือพระบิดาพระผู้เป็นเจ้า เป็นองค์ประธาน ด้านล่างเป็นรูปแม่พระระทมทุกข์ - Pieta ซึ่งอยู่ในโค้งแบบกอธิค ทางซ้ายมือคือนักบุญ Jerome ในมือถือรูปจำลองโบสถ์(ที่พบได้บ่อยในรูปแบบงานกอธิค) และด้านขวาคือ นักบุญ John the Baptist ลักษณะรูปปั้นสลักออกแนวแข็งแบบกอธิคแต่รอยพับของผ้า เป็นแนวเรเนซอง งานสลักใบไม้สลับซ้อนอาจเป็นผลงานของหนึ่งในทีมช่างในโรงงานที่ชำนาญงานนี้ แต่ส่วนของใบหน้ามักจะยกให้เป็นฝีมือของนายช่าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1198 เมื่อ 12 เม.ย. 14, 09:44
|
|
หมู่รูปสลักเหนือประตูแห่งนี้กล่าวว่าสื่อนัยทางการเมืองในช่วงนั้น St John the Baptist เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่นคงจงรักภักดีของคริสเตียน ในยามเผชิญกับการคุกคามจากเตอร์ค, St Jerome สื่อถึงความเป็นเอกภาพของจิต วิญญาณแห่งแดลเมเชีย, พระแม่ระทมทุกข์ หมายถึงความเมตตาต่อชาวเมืองผู้ยากไร้ ที่มาแสวงหาที่พึ่งพิงทางใจจากคณะฟรานซิสกัน และ พระเป็นเจ้าพระผู้สร้าง คือ สัญลักษณ์แห่งการต้านแนวคิดมนุษยนิยมในช่วงเวลานั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1199 เมื่อ 12 เม.ย. 14, 09:45
|
|
อาคารหอระฆังตั้งอยู่ข้างโบสถ์ด้วยความสูงกว่า 40 เมตร เป็นแบบโรมาเนสค์ และกอธิค
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|