SILA
|
ความคิดเห็นที่ 840 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 09:24
|
|
และ อีกหนึ่งประตู(ย่อย)คือ ประตู Buza
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 841 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 09:28
|
|
แปลว่า hole อยู่ในส่วนของกำแพงทิศเหนือด้านแผ่นดิน ระหว่างประตู Pile กับประตู Ploce
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 842 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 09:34
|
|
เป็นประตูสร้างใหม่ในตอนต้นศตวรรษที่ 20 (1908) โดยทางการออสเตรีย เพื่อเพิ่มทางเข้าออกเมืองให้สะดวกมากขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 843 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 09:37
|
|
นอกจากนี้ยังมีอีก buza(hole) ที่กำแพงทางด้านทะเลเป็น(ทางออกไปสู่)บาร์ Buza ที่อยู่บนโขดหินผานอกกำแพง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 844 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 09:40
|
|
เมื่อออกจากประตู Ploce และป้อมเดี่ยว Revelin
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 845 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 09:43
|
|
ก็ได้เวลามื้อเย็น หลังอาหารแล้วรสบัสมุ่งกลับที่พักซึ่งอยู่นอกเขตเมืองเก่าไปไกล ต้องข้ามสะพานขึงย้อนกลับทางที่ผ่านมาเมื่อเช้า
บ้านเรือนบริเวณท่าเรือใหม่ Port of Gruz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 846 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 10:05
|
|
สะพานขึง Franjo Tudman ทอดข้าม Rijeka Dubrovacka ซึ่งเป็น 'ria' - ปากน้ำชายฝั่งที่เกิดจากการจมตัวของหุบเขาแม่น้ำ กลายเป็นหุบเขาจมน้ำที่มีทางเปิด ออกท้องทะเล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 847 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 10:08
|
|
โรงแรมตั้งอยู่ที่ Slano
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 848 เมื่อ 15 ม.ค. 14, 10:10
|
|
ซึ่งเป็นหมู่บ้านริมอ่าวอยู่ทางตอนเหนือ/ตะวันตก ของดูบรอฟนิคไปราว 37.5 กม.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 849 เมื่อ 16 ม.ค. 14, 11:03
|
|
ตะวันรอนที่ทะเลเอดริแอติค
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 850 เมื่อ 16 ม.ค. 14, 11:04
|
|
ตะวันลับเหลี่ยมเขาที่อ่าวสลาโน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 851 เมื่อ 16 ม.ค. 14, 11:11
|
|
เช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นเช้าวันที่เจ็ดคือวันสำคัญของทริปนี้ที่จะได้ไปเดินบน กำแพงรอบเมืองแล้วลงมาเดินดูย่านเมืองเก่าภายในกำแพงซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยม อันดับหนึ่งระดับห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนโครเอเชีย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 852 เมื่อ 16 ม.ค. 14, 11:14
|
|
กำแพงหินแกร่งกร้าวกว้างยาวใหญ่โตโอฬารตระการตาที่โอบล้อมและปกป้อง ประชากรเมืองดูบรอฟนิคนี้ได้ผ่านการสร้างเสริมเติมแต่งในห้วงกาลเวลาหลายศตวรรษ จนกลายเป็นป้อมปราการอลังการแห่งยุคกลางได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใน ปี 1979
บัสแล่นเฉียดป้อมปราการขนาดมหึมาจนดูเหมือนว่าใกล้แค่เอื้อม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 853 เมื่อ 16 ม.ค. 14, 11:16
|
|
ระบบป้อมปราการของเดิมแต่เก่าก่อนสร้างด้วยไม้ ส่วนกำแพงที่ยังคงทน คงสภาพเช่นที่ปรากฏในวันนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 - 17 โดยที่ตัวกำแพงและป้อมส่วนใหญ่สร้างในศตวรรษที่ 14 - 15 แล้วได้รับ การสร้างเพิ่มเสริมความแข็งแรงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงศตวรรษที่ 17 จนกลายเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างไม่ธรรมดาด้วยขนาดเขื่องและครบเครื่องที่สุด ในยุโรป ทำหน้าที่พิทักษ์รักษ์ความสงบสุขรุ่งเรืองของสาธารณรัฐศิวิไลซ์เป็นเวลานาน ถึง5 ศตวรรษ
ฟ้าสว่างท่าทางจะร้อนไร้ฝน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 854 เมื่อ 16 ม.ค. 14, 11:21
|
|
กำแพงแน่นหนาเหยียดยาวต่อเนื่องโอบล้อมเมืองเก่ารวมความยาวเกือบ 2 กม. (1940 ม.) ส่วนที่สูงที่สุดนั้นมีความสูงถึงประมาณ 25 เมตร ตัวกำแพงหนา 1.5 - 6 เมตร ถูกต่อเติมสร้างเสริมเพื่อเพิ่มการปกป้องด้วย หอกลม, หอสี่เหลี่ยม, ป้อม และป้อมแยก
ที่หมายอยู่ไม่ไกลแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|