เรือนไทย

เรียนอาจารย์เทาชมพูและเพ็ญชมพู
    มูลนิธิราชสกุลอาภากรกำลังจัดสร้างอาคารการเรียนรู้แพทยบูรณาการเป็นห้องสมุด
จัดนิทรรศการเกี่ยวกับเสด็จเตี่ย ณ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า  จึงของเชิญท่านผู้มีความรู้
และมีภาพของเสด็จฯ (ที่นอกเหนือจากที่เราเคยเห็น) หนังสือที่มีเนื้อหาสมบูรณ์ที่สุดคือ
ที่ทางกองทัพเรือทำร่วมกับราชสกุลอาภากร  ในอาคารแพทย์บูรณาการหลังใหม่นี้ทาง
มูลนิธิอยากบรรจุเนื้อหาอ่านๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับท่าน และเป็นแหล่งรวมความรู้เรื่องแพทย์แผนไทย
และแผนตะวันตกในสมัยรัชการที่ 5 ช่วงที่มีฝรั่งเข้ามาช่วยก่อโครงสร้างรพ.ต่างๆ เช่น รพ.ศิริราช
รพ.มิชชันนารีต่างๆ เช่น รพ.แม็คคอมิค  รพ.เซ็นหลุยส์ รพ.เลิดสิน  เป็นต้น  ท่านผู้ใดมีภาพหมอมิชชันนารี
เครื่องมือแพทย์สมัยเก่า อยากจะแบ่งปัน ยินดีมากค่ะ  อาคารแพทยบูรณาการนี้จะอยู่ติดกับอาศรมหมอพร
ที่มีหุ่นขี้ผึ่งเท่าองค์จริงเป็นรูปท่านกำลังค้นคว้าวิชาแพทย์  จะเสร็จและเปิดให้สักการะและเ้ข้าชมกำหนด
วันที่ 19 พค. 2556 (มูลนิธิหวังว่าจะไม่ delay) คือถ้าจะช้าก็คงเรื่องข้อมูลในอาคาร
ดังนั้นจึงขอเชิญรวมพลังความรู้ท่านสมาชิก  ช่วยดิฉันด้วยค่ะ  อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม
อ้อ..รูปสำเพ็งในอดีตด้วย (ได้บ้างแล้วจากเว็ปนี้)
ขอบคุฯค่ะ

ขออนุญาตเรียบเรียงข้อความของคุณเสียใหม่นะคะ   เพราะดิฉันยังไม่เข้าใจว่าคุณอยากจะขอให้ช่วยเรื่องไหนบ้าง

1   ขอพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรฯ นอกเหนือจากที่เคยเห็นกันบ่อยๆ
    ขอบอกว่าข้อนี้ยากที่จะเดาได้ว่า พระรูปไหนที่ "เราเคยเห็น" และ "เราไม่เคยเห็น" เพราะแต่ละคนเคยเห็นไม่เท่ากัน   เอาเป็นว่าคุณคงหมายถึงพระรูปที่หายาก  ไม่ใช่พระรูปทางการเห็นกันจนชินที่ลงตามสื่อต่างๆเวลาจัดงานที่เกี่ยวกับท่าน   แต่ก็ต้องเดาต่อไปอีกว่า รูปที่สมาชิกเรือนไทยช่วยกันหามาให้คุณ   "เราเคยเห็น" หรือยัง

2  หนังสือที่มีเนื้อหาสมบูรณ์ที่สุดคือที่ทางกองทัพเรือทำร่วมกับราชสกุลอาภากร... ตรงนี้ไม่จบประโยค เป็นแค่ประธานของประโยคพร้อมด้วยคำขยาย   เลยไม่รู้ว่าหนังสือที่มีเนื้อหาสมบูรณ์ที่สุดนี้ ทำเสร็จหรือยัง  ถ้าทำเสร็จแล้วมาบอกเพื่อจะขายหรือแจกหรือกำลังทำอยู่ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์   ถ้าหากว่ายังไม่เสร็จก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสมบูรณ์ที่สุด   ต้องเรียกว่าหนังสือที่ตั้งใจจะให้มีเนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์เกี่ยวกับกรมหลวงชุมพรฯ    แต่ยังทำไม่เสร็จ

3   มูลนิธิอยากบรรจุเนื้อหาอ่านๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับท่าน
    ตรงนี้่ขอแปลว่า สืบเนื่องจากหนังสือ"ที่มีเนื้อหาสมบูรณ์ที่สุด" นั้น   ยังทำไม่จบ     ในฐานะหนึ่งในกรรมการผู้จัดทำ  คุณอยากได้เนื้อหาที่เกี่ยวกับท่าน เลยมาขอจากคนในเว็บเรือนไทยเผื่อใครจะมี    แต่ "เนื้อหาอ่านๆ" แปลว่าอะไรก็จนปัญญา  เพราะเนื้อหาในหนังสือก็มีเอาไว้อ่านกันทั้งนั้น     กรุณาขยายความมาอีกสักครั้งก็จะดีค่ะ

4   และเป็นแหล่งรวมความรู้เรื่องแพทย์แผนไทยและแผนตะวันตกในสมัยรัชการที่ 5 ช่วงที่มีฝรั่งเข้ามาช่วยก่อโครงสร้างรพ.ต่างๆ เช่น รพ.ศิริราช  รพ.มิชชันนารีต่างๆ เช่น รพ.แม็คคอมิค  รพ.เซ็นหลุยส์ รพ.เลิดสิน  เป็นต้น  ท่านผู้ใดมีภาพหมอมิชชันนารี
เครื่องมือแพทย์สมัยเก่า อยากจะแบ่งปัน ยินดีมากค่ะ  
     มาถึงข้อนี้เห็นทีจะไม่ค่อยเกี่ยวกับกรมหลวงชุมพรแล้วละมังคะ     กลายเป็นเรื่องมิชชันนารีหมอฝรั่งไปแล้ว    ถ้าใช่ก็กรุณาขึ้นย่อหน้าใหม่ด้วย

5   อ้อ..รูปสำเพ็งในอดีตด้วย (ได้บ้างแล้วจากเว็ปนี้)
    ข้อนี้ไม่เกี่ยวกับกรมหลวงชุมพรฯ และหมอมิชชันนารีแล้วใช่ไหมคะ  เป็นอีกประเด็นหนึ่ง

     ขออนุญาตเรียนว่า ถ้าคุณโพสต์ข้อความขอความร่วมมือจากใคร  กรุณาเรียบเรียงถ้อยคำและแบ่งความให้ชัดเจนกว่านี้ ก็จะทำให้คนอื่นร่วมมือได้ง่ายขึ้นค่ะ  
    นอกจากนี้ ถ้าคุณเป็นกรรมการจัดทำหนังสือเล่มนี้  การมาขอให้ใครช่วยหาข้อมูลให้  น่าจะบอกว่ามีการจัดทำส่วนไหนไปแล้วบ้าง   เผอิญติดขัดตรงไหน เลยขอถามเฉพาะส่วนนั้นเพื่อจะได้คำตอบที่ถูกต้องจากผู้รู้   จะดีกว่ามาบอกว่า ให้คนอื่น "ระดมหลักฐาน" ส่งให้คุณฝ่ายเดียวนะคะ

จะเสร็จและเปิดให้สักการะและเ้ข้าชมกำหนดวันที่ 19 พค. 2556 (มูลนิธิหวังว่าจะไม่ delay)

งั้นก็เปิดแล้วน่ะซีคะ    คงรู้แล้วว่าดีเลย์หรือไม่ดีเลย์

ลองเข้าไปที่ facebook คนรักเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ  (https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AF/229980450348706) คงจะช่วยท่านได้

แต่งานเสร็จไปแล้วนิ  :o

ขอบคุณคุณ siamese นะคะเว็ปนั้นลอกจากหนังสือที่กองทัพเรือทำร่วมกับราชสกุลอาภากร (ที่ไม่จบประโยตน่ะค่ะ)
คุณ siamese ช่วยบอกชื่อจริง นามสกุลจริงให้ดิฉันด้วย (หลังไมค์ เดี๋ยวจะบอกวิฑี)เพื่อเราจะได้รวบรวมรายชื่อ
ผู้รักเตี่ย ใส่ไว้ในหอนิทรรศการว่าได้จากคนที่รักท่านในงานเปิดรับเสด็จวันที่ 19 พค. 2557
การที่บอกในเว็ป เพื่อให้คนรักๆ ท่านมีส่วนร่วม ไม่ใช่ดิฉันจะไปเอาหน้า เพราะการที่หลานท่านให้ดิฉันทำ
ตรงนี่ก็ถือว่าท่านให้เกียรติ พวกเราทำงานให้เสด็จเตี่ยแบบไม่หวังคน
ไม่ต้องการเกียรติหรือเครดิต. อยากให้หอนอทรรศการดีที่สุด ประโยชน์ไม่ได้คก
ที่กรรมการคนใด. ประโยชน์ตกอยู่กับประชาชนทั้งนั้น. คนที่มากราบไหว้
ของให้ท่านช่วยตอนสิ้นหวังตอนญาติตัวเองจะตาย. ดิฉันเห็นเยอะมาร้องห่มร้องไห้
ที่รพ.ปิ่นเกล้า
    ตอนแรกว่าจะแจ้งลยกระทู้ คิดไปคิดมาคาเอาไว้อย่างนี้ให้คนเห็นลักษณะการตอบ
ของผู้เข้าชมดีกว่า. คนไหนรักเตี่ยหรือเตี่ยท่านเรียกเดี๋ยวเขาก้อเข้ามาเอง
คนไหนพูดไม่เหมาะสม อวดดี เสด็จฯ ท่านจะจัดการเอง. พวกเราทำงานของท่าน
ด้วยตวามเคารพและศรัทธา  ผิดหวังค่ะเมื่อได้อ่านคำตอบของเพ็ญชมพู. สงสัยคงคิดว่า
ดิฉันอยากได้หน้า ไม่อยากได้ค่ะ ไม่ต้องการมีตัวตน อยากนิพพาน เบื่อคนทะเลาะ
คนชอบประชดประชัน ทำงานเพราะอยากทำความดีให้หลุดพ้น จะได้ไม่ต้องเกิดอีก
พญฺฺ ธนพร รัตนสุวรรณ
 
แบบเขียนผิดเขียนถูก โง่ค่ะ สติปัญญาไม่ดีค่ะ
คิดแล้วไม่ควรจะเข้ามาให้ถูกด่่า ใช้กรรมไปหทดๆปอีกหนึ่งกรรม

เรียนคุณธนพร ไม่ต้องไปประชดประชันเสียดสี ในเวปเรือนไทย เป็นเวปวิชาการซึ่งเปิดกว้าง มีผู้สมัครเข้าหาหาข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ กัน
ทั้งนี้ การที่สมาชิกใหม่เข้ามา ใช้ประโยคที่อ่านแล้วซึ่งผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องในบางอย่างที่ต้องการ ซึ่งท่านเจ้าเรือนก็ตีกันไว้ก่อนเนื่องจาก
จะป้องกันบุคคลมาป่วนเวปดังกล่าว จึงขอให้เข้าใจด้วย ซึ่งไม่ควรยกเรื่องเวรกรรมอันใดขึ้นมาอ้างเลย

ขอให้เข้าใจนะครับว่า การเรียบเรียงภาษาของคุณธนพรยังอ่านแล้วงง ครับ  ;D ;D ผมว่าเจ้าเรือนก็พูดถูกแล้วว่า ขอให้ยื่นข้อมูล
ที่จัดงานมาดูกันก่อน ขาดเหลืออะไรค่อยหยิมยืมถามไถ่ แบบนี้คงมีคนช่วยเยอะเลยครับ

ถ้าเป็นไปได้ ลองถ่ายภาพงานนิทรรศกาล ขอนำชมเป็นบุญตาจักได้ไหม แล้วมาค่อยสนทนาสิ่งที่ยังพร่องอยู่ดีกว่า

ถ้าหากว่าใครอยากจะช่วยคุณหมอธนพรเรื่องข้อมูลกรมหลวงชุมพร ก็เชิญในกระทู้นี้ได้เลยนะคะ

ส่วนคนที่ตอบคุณหมอไป ไม่ใช่คุณเพ็ญชมพูค่ะ เป็นดิฉันเอง  เดี๋ยวคุณเพ็ญชมพูจะสำลักอยู่หน้าคอม  เพราะไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย  คุณหมอกรุณาอ่านชื่ออีกครั้งนะคะ

คนเราต่างจิตต่างใจกันนะคะ  ขอให้รับฟังความเห็นของคนอื่นบ้าง  อย่าใช้อารมณ์  มันจะไม่ดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจค่ะ   ยิ่งแสวงหาการหลุดพ้นสู่นิพพาน อย่างแรกคือระงับอารมณ์ให้ได้ก่อน  อย่าเพิ่งไปกล่าวหาว่าคนนั้นด่าคนนี้ด่า  เพราะคนที่ขุ่นมัวคือคุณหมอเอง ไม่ใช่ดิฉัน
เชิญอ่านข้อเขียนของท่านไพศาล วิสาโล ดูนะคะ

การคิดแบบเอาตัวตนออกรับนั้น ทำให้เราสนใจแค่ว่า ถูกใจหรือไม่ถูกใจฉัน ถ้าถูกใจก็เป็นสุข ถ้าไม่ถูกใจก็เป็นทุกข์ แต่เมื่อคิดแบบนี้เป็นนิสัยก็รังแต่จะทำให้ทุกข์ง่าย เพราะเรื่องที่ไม่ถูกใจนั้นมีเยอะ ส่วนเรื่องที่ถูกใจนั้นก็มักสนองกิเลสหรืออัตตาของเราจนเสียคนได้ง่าย เด็กที่กินแต่อาหารที่ถูกลิ้น อนามัยย่อมบกพร่องฉันใด ผู้ใหญ่ที่ชอบฟังแต่ถ้อยคำที่ถูกหู ก็กลายเป็นคนหูเบาฉันนั้น

จะไม่ดีกว่าหรือหากเรามาให้ความสนใจกับความถูกต้องมากกว่าความถูกใจ เมื่อได้ยินได้ฟังอะไร ก็ใช้ปัญญาไตร่ตรองว่ามีความถูกต้องเพียงใด มีประโยชน์หรือไม่ จะถูกใจหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

พระไพศาล วิสาโล

นอกจากกรมหลวงชุมพรฯ จะปฏิบัติตนเป็นหมอรักษาแล้ว ในด้านศาสนานั้น ท่านชอบวิชาคาถาอาคม ซึ่งพระเกจิแห่งลุ่มน้ำคลองมะขามเฒ่าที่มีความผูกพันธ์กันในเรื่องการถ่ายถอดวิชาคือ หลวงปู่ศุข

มีประวัติว่า หลวงปู่ศุข เข้ามาหล่อพระที่วังนางเลิ้ง ในการฉลองวันเกิดให้กับกรมหลวงชุมพร และหล่อพระปิดตาไว้เป็นที่ระลึกในการนี้

เห็นด้วยกับคุณหนุ่ม ขอชมเป็นขวัญตาหน่อย

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5650.0;attach=41455;image)

นิทรรศการจะอยู่ในเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้า  เสด็จจะอยู่ในเรือนแปดเหลี่ยม
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนก่อนสร้าง  ฝ่ายจัดแสดงทำงานไปพร้อมกัน  เราเดินทางไป
อังกฤษเพื่อตามรอยท่านเมื่อเดือนมิถุนายน  ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์แผนไทย
ดืฉันหาซื้อจากเว็ปต่างๆ ผู้ขายขายไปแถมไป ยกให้ฟรีก็มี  ดิฉันจดชื่อผู้อุปการะคุณ
แหล่งที่มาไว้หมด  นำเสนอคุณหญิงและเจ้ากรมการแพทย์อนุมัติ  ในภาพ
คุณภากร ศุภชลาศรัยกำลังตรวจรายละเอียดหุ่นขี้ผึ้งท่านตา เราจะสร้างท่านในห้อง
ทดลองแบบในภาพที่คุณpost มาค่ะ  เรามีเรื่องจริงที่มีคนมาเล่าให้หลานๆ ของท่านฟังว่าท่าน
ช่วยผู้ป่วยอย่างไร  หนึ่งในนั้นคือน้องป้อที่ท่านช่วยไว้เมื่อ 20 กว่าปีก่อนที่รพ.รามาฯ
น้องป้ออายุ 25 ปีแล้วแข็งแรงดี  มาช่วยงานนี้ด้วยค่ะ
ธนพร

ตรงนี้น่าสนใจ อยากฟังคุณธนพรเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าพบข้อมูลอะไรบ้าง อยากเห็นรูปประกอบด้วย (ถ้ามี)

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3276.0;attach=9565;image)

ดิฉันกับคุณภากร ศุภชลาศัยรู้จักกันดี     พี่ภากรสามารถติดต่อขอข้อมูลจากดิฉันโดยตรงได้   
และถ้ามีข้อมูลเกี่ยวกับเสด็จตาของท่านที่คิดว่าเป็นประโยชน์ในงานนี้    ดิฉันจะส่งให้พี่ภากรโดยตรงนะคะ

พระรูปที่คุณเพ็ญเชิญมาแสดงในความเห็นที่ ๑๑ นั้น  ทรงเครื่องเต็มยศนายเรือโทผู้ช่วย (ต่อมาในรัชกาลที่ ๖ เปลี่ยนเป็นนายเรือเอก) เมื่อแรกเสด็จกลับมารับราชการกองทัพเรือสยามในตอนปลายรัชสมัยรัชกาลที่ ๕ ครับ

แสดงว่าข้อมูลใน เว็บกองทัพเรือ  (http://www.navy.mi.th/royal/Abhakara/abhakaras_resume.htm#Navy) ผิดพลาด หรือไม่อย่างนั้นก็สลับกัน :o

ขอถามคุณวีหมี

ผมจำได้ว่า สมัยเด็กๆเคยอ่านพระนิพนธ์ ครั้งทรงนำนายทหารเรือเดินทางไปรับเรือหลวงพระร่วงจากอังกฤษ นำข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่สยามอย่างทุลักทุเล กว่าจะมาถึง

เดี๋ยวนี้หนังสือดังกล่าวยังพอหาอ่านได้ไหมครับ ที่หอสมุดวชิราวุธานุสรณ์เคยไปค้นแล้ว หาไม่เจอ

เอารูปเครื่องแบบนายทหารเรืออังกฤษสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๑ มาเปรียบเทียบกันดูนะคะ

ข้างใต้พระรูปนี้ มีชื่อร้านถ่ายรูปทางซ้ายมือ  ทางขวาภายในวงสีแดง เป็นสถานที่ตั้งของร้าน มีคำว่า Queen's Gate
พระรูปนี้ทรงฉายที่ลอนดอนแน่นอน   ดังนั้นเครื่องแบบที่ทรงสวม คือเครื่องแบบนายทหารราชนาวีอังกฤษ ไม่ใช่ทหารราชนาวีสยาม

อาภากร ถ่ายโดย Francis Chit and Son

น่าเสียดายที่ว่า ยังไม่มีองค์กรใดเลย ให้ความสนใจค้นคว้าในศาสตร์ด้านมวยไทยและกระบี่กระบอง ที่เสด็จฯพระองค์ท่านชำนาญ ถึงกับมีการสร้างค่ายมวยไว้ในวังเปรมประชากรเลยนะครับ 

เพราะนักมวยในสังกัดวังเปรมประชากร ก็ได้สร้างชื่อเสียงไว้ไม่น้อย ตั้งแต่ นาย ยัง หาญทะเล  ,นาย ทับ จำเกาะ(จอมเกาะ)


น่าเสียดายจริง ๆ

ในที่สุดจะเป็นแบบนี้  ร่มรืน งาม

ขอบคุณลูกเตี่ยทุกๆ คนค่ะ คุณภากรกำลังบัญชาการการทำเขื่อนอยู่ค่ะ
ก็ได้เรียนรู้จากท่านเยอะ  แบบปัญหาที่ไม่คิดว่าจะเกิด ก้อสามารถเกิดได้
เช่นการตัดต้นไม่บริเวณรอบสระน้ำ  ไม่ได้ตัดก่อน อ้าวกิ่งไม้หักแบบไม่มี
ศิลปะ อ้าวสายไฟทำไมเกะกะ รูปฝรั่งสวยดีค่ะ
ความตั้งใจของดิฉันนะคะ คืออยากให้เด็กๆ หรือนักศึกษาที่เข้ามาดูได้เห็น
เรื่องการแพทย์แผนไทย  เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ แม้จะไม่ใช่ของเสด็จ จริงๆ
(คือของจริงก็มีให้่ผู้ใหญ่ดำเนินการ) ส่วนพวกหินบดยา สมุดข่อยอะไรแบบนี้ถ้าราคาไม่แพง
ดิฉันจะซื้อถวายเลย  ก็เจอจากในเว็ปต่างๆเท่าที่หาได้  หอนิทรรศการที่ดี
คือของรพ.อภัยภูเบศ แต่ใครจะไปได้ไกลขนาดนั้น  เราทำให้คนที่มารพ.ดู
ในกรุงเทพในบรรยากาศร่มรื่นจะมีประโยชน์มาก ดิฉันคิดอย่างนั้นนะคะ
กรรมการแต่ละคนทำด้วยใจ  ไม่มีเบี้ยอะไร  สถาปนิกเขียนแบบให้ฟรีน่ะค่ะ
คิดดู
เรื่องกระบี่กระบองที่จริงน่าสนใจ เป็นการออกกำลังกายที่ดี  เป็นแพทย์ทางเลือกได้
ที่จริงมีประโยชน์
ธนพร

ตอบท่าน Navarat C. เรื่องเสด็จในกรมทรงบัญชาการนำเรือรบหลวงพระร่วงกลับจากอังกฤษน่าจะมีบันทึกในสมุทสารครับ  ที่หอวชิราวุธานุสรณ์มีสมุทสารอยู่หลายเล่มตรับ  แต่ไม่แน่ใจว่าเล่มที่กล่าวถึงจะมีหรือไม่ครับ

ตอบคุณเพ็ญครับ  พระรูปทรงเครื่องทหารเรือที่ทรงหมวกแก๊ปนั้นทรงเครื่องปกติครับ  ส่วนพระรูปที่มีพระมาลาแบบอุศเรนวางอยู่บนโต๊ะข้างนั้นเป็นเครื่องแบบเต็มยศใหญ่ราชนาวีสยามครับ

ตอบท่านอาจารย์ใหญ่ครับ  ถึงแม้พระรูปจะทรงฉายที่อังกฤษก็ตาม  แต่ดูเหมือนว่าอังกฤษจะมีธรรมเนียมไม่ให้ยศทางทหารแก่ชาวต่างประเทศไม่เหมือนเยอรมันหรือรัสเซียครับ  เพราะเมื่อล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สต์ก็มิได้ทรงรับยศนายทหารอังกฤษ  คงฉายพระฉายาลักษณ์ทรงเครื่องนายร้อยโททหารมหาดเล็กทุกครั้ง  ฉะนั้นพระรูปเสด็จในกรมฯ ที่ทรงฉายที่ลอนดอนนั้นจึงน่าจะทรงฉายเป็นที่ระลึกเมื่อได้รับพระราชทานพระยศราชนาวรสยามในระหว่างที่ประทับที่อังกฤษ  เหมือนพระรูปทรงเครื่องนายพลเรือโททรงพระมาลาแก๊ปสีขาวที่เห็นกันอยู่โดยทั่วไปนั้น  ก็ทรงฉายที่อังกฤษคราวเสด็จไปเลือกซื้อเรือรบหลวงพระร่วงครับ

ขอบคุณครับ แต่ เอ ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นเล่มเดี่ยวๆโดยเฉพาะนะ เพราะเป็นบันทึกในแต่ละวันที่ยาวพอสมควรทีเดียว

แต่คุณวีหมีก็คงไม่ผิดเหมือนกัน สมุทสารอาจนำลงเป็นตอนๆก็ได้

ขอถามคุณ V-Mee ด้วยความสงสัยในเรื่องอังกฤษไม่ให้ยศชาวต่างประเทศค่ะ      ตามพระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยทรงปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นนายทหารสังกัดในกรมทหารราบเบาเดอรัมรักษาพระองค์ (Durham Light Infantry Regiment) ก่อนที่จะเสด็จกลับสยาม       ถ้าหากว่ามิได้มียศทางทหาร  พระองค์ท่านทรงสังกัดอยู่ในกรมทหารราบเบาเดอรัม ในฐานะอะไรคะ

มาไม่ทันดราม่าแฮะ ฮิฮิ

สงสัยเหมือนท่านอจารย์เทาฯ เหมือนกัน เรื่องยศทหาร  เพราะเหมือนคลับคล้ายคลับคลาว่าเสรีไทยสายอังกฤษก็มียศเป็นนายทหารเหมือนกันนี่ครับ หรือเพราะเป็นช่วงสงครามเลยยกเว้น

ตามคุณประกอบเข้าซอยเสรีไทย

เสรีไทยได้เป็นเพียง "พลทหาร" ในกองทัพอังกฤษเท่านั้น  :(

เดือน มิถุนายน ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ นายมณี สาณะเสน เปิดสำนักงานเสรีไทยขึ้นโรงแรมบราวน์ บนถนนโดเวอร์ ย่านพิคคาดิลลี่ เซอร์คัส

นายมณีได้รับมอบหมายจาก หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หัวหน้ากลุ่มเสรีไทยในสหรัฐอเมริกา ให้เดินทางมาเป็นผู้นำจัดตั้งเสรีไทยในอังกฤษ ตามที่กลุ่มคนไทยในอังกฤษขอไป

เนื่องจากเอกอัครราชทูตไทยที่กรุงลอนดอน ขณะนั้นไม่ประสงค์จะขัดคำสั่งรัฐบาล เข้าร่วมกับขบวนการใต้ดินต่อต้านญี่ปุ่น

นายมณี ประสานงานกับกลุ่มแกนนำในอังกฤษ เปิดรับอาสาสมัครเข้าร่วมขบวนการเสรีไทย

คุณวิวรรธน์ ณ ป้อมเพชร บรรณาธิการ คนไทยคนแรกของ บีบีซีภาคภาษาไทย ร่วมก่อตั้งเสรีไทยในอังกฤษ ในตอนนั้นด้วย

"ขณะนั้น ผมก็นึกว่าเป็นหน้าที่ที่เราคนไทยที่ยังหนุ่มแน่น แต่ผมไม่หนุ่มนะ ผมเกือบ ๔๐ แล้ว ที่มีความจูงใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ด็อกเตอร์ ป๋วยเป็นหัวหน้า มีคนที่สนิทกับผม คือ เสนาะ ตันบุญยืน มาอังกฤษรุ่นเดียวกัน ปี ๑๙๓๗ พวกนี้ เขาเป็นหัวหน้ากลุ่ม ผมก็เลยไปสมทบกับเขา"

มีคนไทยมาสมัครเป็นเสรี ไทยอย่างเป็นทางการ ๕๐ กว่าคน

มีทั้งกลุ่มเจ้า นำโดย สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่เจ็ด ซึ่งประทับอยู่ที่อังกฤษ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติ หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัฒน์ พระเชษฐา ผู้มีบทบาทสำคัญในการประสานงานกับทางการอังกฤษ เพราะทรงเป็นทหารในกองทัพอังกฤษด้วย

นอกจากนั้น ก็มีกลุ่มข้าราชการสถานทูต และกลุ่มนักเรียนไทยในอังกฤษหลายคน

อังกฤษไม่ไว้ใจ

ในตอน นั้น รัฐบาลไทย ประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างเป็นทางการแล้ว และอังกฤษก็ประกาศสงครามกับไทย เป็นการตอบโต้ รัฐบาลอังกฤษจัดเรือแลกเปลี่ยนเชลย เพื่อส่งคนไทยในอังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นชนชาติศัตรูกลับบ้านไป

การก่อตัวของ เสรีไทยในอังกฤษ ไม่ได้รับการสนับสนุนเต็มที่ อย่างในสหรัฐอเมริกาเพราะรัฐบาลอังกฤษ ยังแคลงใจคนไทยอยู่มาก

คุณวิวรรธน์เล่าถึงสถานการณ์ให้ฟังว่า

"ตอนนั้นอังกฤษเค้าก็ มองเราอย่างไม่ไว้ใจนัก เพราะว่าเราทำการที่คล้ายๆ กับหักหลังเขา คือ สัญญิงสัญญาว่าจะไม่ให้ข้าศึกมาเหยียบแผ่นดิน จะสู้จนหน้าที่สุดท้าย แต่ก็สู้ไม่กี่ชั่วโมง ก็ยอมแพ้ เราก็ต้องทำอะไรว่าคนไทยไม่ได้คิดอย่างนั้นทั้งหมด คนไทยที่มีใจจะสู้ก็มีอยู่"

แต่ใน ที่สุด อังกฤษก็ยอมรับเสรีไทยในอังกฤษ ๓๖ คน เข้ารับราชการเป็นพลทหารในกองทัพอังกฤษ ในวันที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๕

จาก เว็บป๋วย อึ้งภากรณ์ (http://www.puey.in.th/index.php/component/content/article/1-%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/14-%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ผมเคยอ่านผ่านๆ ตาว่า รัชกาลที่ 6 ทรงดำรงพระยศเป็นนายพลเอกของอังกฤษ แต่จำไม่ได้ว่าอ่านมาจากไหน ต้องรอท่านผู้รู้มาเติมครับ

เมื่อล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เสด็จไปประจำการในกรมทหารราบเบาเดอรัม  รวมทั้งเสด็จไปทรงศึกษาวิชาทหารปืนใหญ่ที่โอ๊คแฮมตันนั้น  ทรงเครื่องแบบนายร้อยโททหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์โดยตลอดครับ  ดังภาพข้างล่างทรงเครื่องเต็มยศนายร้อยโททหารมหาดเล็กประทับฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับนายทหารในกรมทหารราบเบาเดอรัม มีนายร้อยเอก หลวงสรสิทธยานุการ (พลเอก เจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน - อุ่ม  อินทรโยธิน) แต่งเครื่องแบบเต็มยศนายทหารมหาดเล็ก ยืนขวาที่ประทับ  กับอีกภาพทรงฉายร่วมกับนายทหารที่ค่ายฝึกทหารปืนใหญ่ที่โอ๊คแฮมตัน  มีนายร้อยเอก หลวงสรสิทธยานุการ แต่งเครื่องแบบนายทหารสยามนั่งซ้ายที่ประทับ  กับนายร้อยโท ม.ร.ว.สิทธิ์  สุทัศน์ (นายพลโท พระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร) นั่งแถวหน้ากับพื้นร่วมกับนายทหารอังกฤษ

ส่วนที่ทรงได้รับยศนายพลเอกกองทัพอังกฤษนั้น  คงจะเป็นเพราะพระปรีชาญาณทางการทหารซึ่งทรงแสดงไว้เมื่อครั้งเสด็จประพาสเบลเยี่ยมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔ ในขณะที่พระชนมายุเพียง ๒๐ พรรษาเศษ  ซึ่งทรงพระราชวิจารณ์พระราชทาน พลเอก พระยาเทพหัสดิน (ผาด  เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ไว้ว่า ถ้าเยอรมันคิดจะบุกฝรั่งเศส  จะต้องยกทัพผ่านเบลเยี่ยมทางเมืองลิเอซ  ซึ่งมีป้อมรายล้อมรอบตัวเมืองกว่า ๑๐ ป้อม และนักการทหารในยุคนั้นต่างก็เชื่อกันว่า ไม่มีทางที่ข้าศึกจะตีหักเอาเมืองลิเอซเพื่อเดินทัพผ่านไปได้  ต่อมาเมื่อเยอรมันเปิดฉากทำสงครามกับฝรั่งเศสในอีก ๑๓ ปีต่อมา  เยอรมันได้ยกกำลังเข้าตีลิเอซและเคลื่อนทัพเข้าประชิดฝรั่งเศสได้ใน ๗ วัน  ทั้งยังมีบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ว่า จุดที่จะประทะกันรุนแรงและทหารจะบาดเจ็บล้มตายมากที่สุด คือ บริเวณสะพานข้ามลำน้ำลิเอซ  ซึ่งก็ตรงกับที่ทรงพระราชวิจารณ์ไว้  และภายหลังจากที่โปรดพระราชทานเงินส่วนพระองค์ไปช่วยครอบครัวทหารในกรมทหารราบเบาเดอรัมที่บาดเจ็บล้มตายในสงครามโลกครั้งที่ ๑ แล้ว  พระเจ้ายอร์ชที่ ๕ จึงได้มีพระราชโทรเลขมาอัญเชิญให้ทรงรับยศเป็นนายพลเอกพิเศษในกองทัพบกอังกฤษ  จึงทรงเป็นคนเอเซียพระองค์แรกที่ได้รับยศทางทหารของกองทัพอังกฤษ  ก่อนที่จักรพรรดิญี่ปุ่นจะได้รับยศจอมพลของกองทัพอังกฤษถึง ๒๐ ปี  ซึ่งการที่พระจักรพรรดิญี่ปุ่ได้รับยศคราวนั้นก็เพราะกองทัพญี่ปุ่นรบชนะกองทัพเรือรัสเซียและบุกเข้ายึดครองประเทศจีนแล้ว

เยี่ยม^
ไม่เคยผิดหวังกับคุณวีหมี

พระบรมราชะประทรรศนีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องแบบพลเอก นายทหารบกอังกฤษ

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ The Straits Times, 25 August 1915, Page 10

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ The Straits Times, 5 October 1915, Page 7