เรียนคุณหลวง
คนไทยสมัยโน้นอ่านภาษาอังกฤษได้มีถมไป แต่ตำราจัดการบ้านช่องของแม่เรือน จะมีอยู่สักกี่เล่ม
คุณถัดท่านซื้อให้ ม.ล. เติบตอนหม่อมหลวงเติบอายุ ๘ ขวบ ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ก็เล่าไว้ว่าเคยเห็นตำราเล่มนี้
นายนิลจะไปหาหนังสือมาจากไหน
ขืนไปหาชื่อ คน หนึ่ง ที่ไม่มีสังกัดจากสารบาญชี ก็คงลำบากกรากกรำจำทน
เจอสองคนที่อยู่บ้านราชทูต และอีกสองคนที่เช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆวัด ซอยแถวนั้นมีโรงสุราหลายโรงทีเดียว
เรียน คุณวันดี
ท่านเจ้าคุณภาสกรวงศ์จะใจดีให้นายนิลยืมอ่านไม่ได้เชียวหรือ
ลำพังนายนิลคงจะไม่คิดซื้อตำรากับข้าวมาให้เมียทำให้รับประทานหรอก
ถ้านายนิลยืมไปแล้วทำหายทำขาดแหว่งหรือเมียฉีกเอาทำเชื้อไฟหุงข้าวเช็ดก้นลูก
ท่านเจ้าคุณก็ไล่ออก หรือสถานเบาก็ไม่จ่ายค่าจ้าง ตำราทำอาหารในขระนั้นจะมีกี่เล่ม
ก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะถึงหายหรือชำรุด เจ้าคุณก็หาซื้อได้ไม่ยาก ห้างในพระนครก็มีหลายห้าง
เรือเมล์จากกรุงเทพไปสิงคโปร์ก็มีสัปดาห์ละหลายเที่ยว สั่งซื้ออย่างนานก็ไม่น่าเกินข้ามปีเดี๋ยวก็ได้
เจ้าคุณท่านภาสฯ ท่านเป็นยอดนักซื้อมาแต่ไหนแต่ไร ครั้งหนึ่ง ท่านเขียนหนังสือไปหอพระสมุด
ถามว่าหอพระสมุดมีหนังสืออะไรบ้าง ท่านจะขอซื้ออย่างละหลายเล่ม
สงสัย ท่านเจ้าคุณจะจัดบ้านใหม่ เห็นตู้โชว์หนังสือขนาดยาวใหญ่ แบบหรูหรา ว่างเปล่า คงขัดใจ
เลยอยากได้หนังสือมาใส่ให้เต็ม แขกไปใครมาจะได้ชี้ชวนให้ชมหนังสือ (ปกสวยอาจจะมีเหมือนกัน)
ท่านก็ทุ่มไม่อั้น อันนี้พูดได้เพราะได้เห็นเอกสาร
กรณีคุณถัดนั้น คงจะไปเทียบเคียงไม่ได้ทั้งหมด เพราะฐานะ โอกาส ความจำเป็นของแต่ละคนไม่เท่ากัน
นายนิลได้อ่านหนังสือตำรากับข้าว ก็คงเพราะเจ้าคุณบังคับ (แกมเอื้อเฟื้อ)ให้อ่าน ลูกจ้างท่านนี่ จะให้ทำอะไรก็ต้องทำ
ไม่เช่นนั้นจะจ้างไว้ทำพระแสงของ้าวเพื่อใดกัน
อีกประการหนึ่ง แม้นายนิลจะเป็นเอดิเตอร์ แต่ใช่ว่านายนิลจะมีอำนาจจะอนุมัติได้ว่า
จะเอาเรื่องอะไรมาลงหนังสือประติทินบัตรได้ตามใจชอบ อย่างไรก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากเจ้าคุณก่อน
เอดิเตอร์สมัยก่อน ไม่เหมือนสมัยนี้ เอดิเตอร์สมัยก่อน อาจจะเป็นคล้ายๆ ผู้จัดการโรงพิมพื ดูแลเรื่องการพิมพ์อย่างเดียว
การหาข้อมูลนั้น อาศัยอิทธิบาท ๔ เป็นปัจจัยให้ไปถึงข้อมูล ผู้มีวิริยะน้อยย่อมเดินทางไปถึงที่หมายได้ช้านัก
ข้อมูลบางอย่างตามหากันครึ่งค่อนชีวิตกว่าจะเจอ ถ้าถอดใจเสียแต่ต้นมือแล้ว ความสำเร็จสมหวังก็คงเดินห่างไปไกล