เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 14, 14:47



กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 14, 14:47
กระทู้นี้เป็นภาคพิเศษต่อจากกระทู้
พัสตราภรณ์สตรีไทย รัชกาลที่ ๑ ถึงปัจจุบัน
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6002.0 (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6002.0)

ได้ภาพงามๆมาจากหอจดหมายเหตุด้วยความอนุเคราะห์ของคุณ NAVARAT.C  เป็นภาพสาวไฮโซในอดีตสมัยรัชกาลที่ ๖  ต้องขอขอบคุณอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ไม่อยากเก็บเอาไว้ดูคนเดียว จึงขอนำมาลงในกระทู้ให้ดูด้วยกันค่ะ

เริ่มต้นด้วยคนที่ดิฉันสะดุดตาที่สุด ก่อน
แหม่มสาวผู้สวยสง่าคนนี้เป็นภรรยาของเจ้านายหรือขุนนางหนุ่มคนไหนกันหนอ    นุ่งโจงกระเบนกับเสื้อลูกไม้แฟชั่นควีนอเลกซานดราได้งามไม่มีที่ติ   โพสท่าก็งาม โดยไม่จำเป็นต้องยืดตัวตรงวางท่าเป็นนางแบบฝรั่ง
ดูจากเสื้อผ้าซ้อนสองชั้น ตัวในคอตั้งมีเสื้อตัวนอกคล้ายเสื้อคลุมญี่ปุ่นทับอีกที  และถุงน่องดำ  น่าจะอยู่ในต้นรัชกาลที่ ๖ มากกว่า
ตอนนั้นนักเรียนไทยทยอยกันกลับจากยุโรปกันเยอะแล้ว   พาภรรยาสาวชาวอังกฤษบ้าง เยอรมันบ้าง กลับมาด้วย


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 14, 15:21
ภาพต่อไป เป็นหนุ่มสาวในอิริยาบถอิงแอบกันอยู่อย่างไม่สะทกสะท้านขัดเขิน     เข้าใจว่าเป็นคู่สมรสใหม่ เพราะถ้ายังไม่ได้แต่งงานกัน จะยืนซบถูกเนื้อต้องตัวกันแบบนี้ไม่ได้ค่ะ เสียหายหลายล้าน

แม้ว่าเจ้าหนุ่มแต่งกายคล้ายนักเรียนโอวี แต่มีเข็มมีแถบประดับเสื้อ แสดงว่าเป็นข้าราชการแล้ว     คงจะต้องขอนักเรียนเก่าอย่างคุณ V_Mee มาช่วยเฉลยว่าชายหนุ่มรายนี้ทำงานหน้าที่อะไร เหตุใดนุ่งกางเกงขาสั้นแทนขายาวหรือโจงกระเบนคะ
หรือว่าเป็นมหาดเล็ก?


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 23 ก.ย. 14, 16:36
อุ๊ย คุณผู้ชายหล่อจริงๆค่ะ  :-[ :-[

เข้ามาติดตามเพราะชอบแฟชั่นยุคนี้เป็นพิเศษ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 14, 17:37
มาโชว์อีกคู่ค่ะ   โพสท่าเก๋ เท่ไม่แพ้ยุคนี้


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 23 ก.ย. 14, 17:51
ภาพต่อไป เป็นหนุ่มสาวในอิริยาบถอิงแอบกันอยู่อย่างไม่สะทกสะท้านขัดเขิน     เข้าใจว่าเป็นคู่สมรสใหม่ เพราะถ้ายังไม่ได้แต่งงานกัน จะยืนซบถูกเนื้อต้องตัวกันแบบนี้ไม่ได้ค่ะ เสียหายหลายล้าน

แม้ว่าเจ้าหนุ่มแต่งกายคล้ายนักเรียนโอวี แต่มีเข็มมีแถบประดับเสื้อ แสดงว่าเป็นข้าราชการแล้ว     คงจะต้องขอนักเรียนเก่าอย่างคุณ V_Mee มาช่วยเฉลยว่าชายหนุ่มรายนี้ทำงานหน้าที่อะไร เหตุใดนุ่งกางเกงขาสั้นแทนขายาวหรือโจงกระเบนคะ
หรือว่าเป็นมหาดเล็ก?

ดักหน้าน้องวีหมีก่อน ผมสะดุดตาภาพนี้จริงๆ เป็นนักเรียนโรงเรียนมหาดเล็กหลวง เชษฐบุรุษของนักเรียนวชิราวุธในปัจจุบันแน่ เหรียญที่หน้าอก เป็นเข็มวชิรมงกุฏอันเป็นเครืองหมายของโรงเรียน๑ และอีก๑นั้น คือเข็มหัวหน้าคณะ หรือ Prefect ปีหนึ่งๆจะมีไม่กี่คนที่ได้ประดับ

ดังนั้นรูปนี้จึงไม่ใช่บ่าวสาว แต่เป็นพี่น้อง ที่ตัวน้องดูจะอ้อนพี่อยู่สักหน่อย คงหวงว่าพี่หล่อ
รูปคู่บ่าวสาวมีหลายรูป แต่ผมไม่เห็นเจ้าสาวจะโหนเจ้าบ่าวขนาดนี้ สังคมสมัยก่อนยังยอมรับการแสดงออกทางความรักของหนุ่มสาวขนาดจะมากอดกันถ่ายรูปไม่ได้ แม่ย่าเขม่นแย่


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 14, 18:28
เพล้ง! พี่น้องหรอกรึคะ

ถ้าหากว่าคุณหนุ่มยังเป็นนักเรียนมหาดเล็กหลวง   ก็แน่ว่ายังไม่ออกเรือน     แต่ไม่ค่อยเชื่อว่าสาวที่โหนอยู่เป็นน้อง อาจจะพี่สาวก็ได้
ดูหน้าเธอแก่กว่าคุณหนุ่มนะคะ 
หรือว่าจะเป็นแม่กับลูกชาย  เพราะผู้หญิงสมัยก่อน โกนจุกไม่นานก็ออกเรือน     ลูกชายอายุ 15-16  แม่อาจจะเฉียดๆ ยังไม่เต็ม  30
การแต่งกายสวมเสื้อสะพายแพรเต็มที่แบบนี้น่าจะเป็นหญิงสาวเต็มตัว ไม่ใช่เด็กรุ่นสาว   สังเกตว่าบนเรือนผมมีเข็มเพชรรูปตัวอักษรยาวๆซึ่งน่าจะเป็นพระนามเจ้านายประทานมา   
เธอเป็นสาวไฮโซแน่นอน  นำแฟชั่นด้วย สวมสร้อยข้อมือและยังมีนาฬิกาซึ่งสวมไว้บนแขน ไม่ใช่ข้อมือ   แฟชั่นสวมนาฬิกาที่แขนนี้ยังมีให้เห็นต่อเนื่องมาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 

ถ้าท่าน NAVARAT.C  บอกว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวโหนกันถ่ายรูปไม่ได้   แม่ย่าเขม่น แล้วในรูปที่ 3 จะเป็นพี่น้องกันอีกคู่หรือบ่าวสาว
ดิฉันว่าบ่าวสาวนะคะ ผู้ชายดูเป็นหนุ่มใหญ่เต็มตัวแล้ว
 


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 23 ก.ย. 14, 19:22
แหม ท่ามันไม่เหมือนกันนะ ผมว่า
อีกอย่างหนึ่ง คู่หลังนี่ก็ดูอายุมากแล้ว ไม่ใช่วัยรุ่นเหมือนคู่โน้น



แต่ท่านอาจารย์ว่า ผู้หญิงอาจจะเป็นแม่เชียวหรือครับนั่น


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 23 ก.ย. 14, 19:27
หนุ่มรูปงามท่านนั้นไม่ทราบชื่อเหมือนกันครับ  แต่เป็นนักเรียนมหาดเล็กหลวงดังที่ท่านนวรัตนกล่าวไว้ครับ  สำหรับเข็มประดับแพรแถบที่อกเสื้อนั้นเป็นเข็มราชานาวีสโมสร  รูปช้างชูหม้อน้ำบนแพรแถบสีธงไตรรงค์  อีกเข็มนน่าจะเป็นเข็มกาชาดที่นักเรียนมหาดเล็กหลวงมักจะเป็นสมาชิกสภากาชาดสยามกัน

ส่วนสุภาพสตรีในภาพน่าจะเป็นมารดาของหนุ่มน้อยรายนั้นดังที่ท่านอาจารย์ใหญ่ตั้งข้อสังเกตครับ  เพราะสังเกตที่บนศีรษะของท่านนั้นประดับเข็มอักษรพระบรมนามาภิไธย วชิราวุธ ป.ร. ประดับเพชร  ปกติเข็มนี้จะพระราชทานแต่เฉพาะเจ้านายและภรรยาข้าราชการผู้ใหญ่เท่านั้น


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 14, 19:51
เรื่องเข็มเพชรบนเรือนผมคุณแม่ยังสาว   คุณ V_Mee แม่นจริงๆ  สายตายิ่งกว่าเลนซ์ขยายภาพเสียอีกค่ะ
ป.ล. ซูมภาพเข้าไปใกล้ๆ    น่าจะแม่นะคะ   สามสิบกว่าแล้ว  แต่เป็นผู้หญิงร่างเล็ก  เลยดูเหมือนสาวน้อย
อิริยาบถที่ถ่ายกับลูกชายรูปหล่อ  แสดงความรัก สนิทชิดเชื้อและหวงแหน      ใครได้มาเป็นลูกสะใภ้คุณหญิงน่ากลัวจะต้องเล่นบทสะใภ้อาภัพเอาง่ายๆ หากคุณหญิงไม่ถูกใจขึ้นมา


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 14, 20:22
กลุ่มนี้สาวๆแน่นอน   ดูหน้าตาเหมือนยังไม่ได้เป็นคุณนาย  ยังเป็นนางสาวอยู่  เว้นแต่สองคนทางขวานั้นไม่แน่  เพราะเป็นสาวเต็มตัวแล้ว

พวกเธอคงเป็นพี่น้อง หรืออย่างน้อยก็เครือญาติลูกพี่ลูกน้องกัน  ถึงได้มาถ่ายรวมกันเนื่องในโอกาสพิเศษอะไรสักอย่าง   เช่นในงานฉลองในหมู่เครือญาติ งานแสดงละครหรือจินตลีลา  เพราะดูเสื้อผ้าไม่ใช่ในโอกาสไปเที่ยวอย่างธรรมดา
สาวรุ่นสองคนบนเก้าอี้ยาวแต่งตัวเหมือนกันเปี๊ยบ  น่าจะแต่งเพื่อแสดงบนเวที

ส่วนเด็กหญิงที่เล็กกว่าเพื่อนแต่งตัวเหมือนกลาสีเรือหญิง   ดิฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเครื่องแบบโรงเรียนสตรี หรือว่าพ่อแม่ผู้ดีนิยมให้ลูกๆแต่งแบบนี้ เคยเห็นเด็กผู้ชายแต่งชุดกลาสีแบบนี้  เป็นแฟชั่นที่มาจากอังกฤษ

สาวๆพวกนี้น่าจะเป็นลูกสาวขุนนางใหญ่ฐานะดี สวมจี้ สร้อยและแหวนกันละลานตา ถุงน่องรองเท้าครบชุดอย่างสวยงาม   แต่งตัวทันสมัยมีสายสร้อยคาดและแถบคาดหน้าผากตามแฟชั่นที่พระวรกัญญาทรงนำไว้   แต่ว่ารูปนี้น่าจะถ่ายหลังจากยุคพระวรกัญญา  เป็นยุคพระนางเจ้าสุวัทนา เพราะว่าท่อนล่างเป็นกระโปรงคลุมน่องกันหมดแล้ว
คือยุคปลายรัชกาลที่ 6 ต่อกับต้นรัชกาลที่ 7

ผมเป็นทรงบ๊อบ ดัดเป็นคลื่นด้วยคีมร้อน   ไม่ได้เกล้ามวย
พวกเธอน่าจะมีความเป็นอยู่แบบฝรั่งเวลาอยู่บ้าน เช่นนั่งโต๊ะนั่งเก้าอี้จนชิน ไม่ได้นั่งกับพื้น  จึงรู้จักโพสท่านั่งไขว้ข้อเท้าอย่างเก๋เหมือนนางแบบฝรั่ง 

เห็นชุดนี้แล้วนึกถึงตัวละครใน "ความผิดครั้งแรก "ของ "ดอกไม้สด" ค่ะ



กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 23 ก.ย. 14, 20:49
อ้างถึง
สำหรับเข็มประดับแพรแถบที่อกเสื้อนั้นเป็นเข็มราชานาวีสโมสร  รูปช้างชูหม้อน้ำบนแพรแถบสีธงไตรรงค์

โอโห ตาดีจริง เห็นช้างชูหม้อด้วยเหรอ :o


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 23 ก.ย. 14, 20:53
เรื่องเข็มเพชรบนเรือนผมคุณแม่ยังสาว   คุณ V_Mee แม่นจริงๆ  สายตายิ่งกว่าเลนซ์ขยายภาพเสียอีกค่ะ
ป.ล. ซูมภาพเข้าไปใกล้ๆ    น่าจะแม่นะคะ   สามสิบกว่าแล้ว  แต่เป็นผู้หญิงร่างเล็ก  เลยดูเหมือนสาวน้อย
อิริยาบถที่ถ่ายกับลูกชายรูปหล่อ  แสดงความรัก สนิทชิดเชื้อและหวงแหน      ใครได้มาเป็นลูกสะใภ้คุณหญิงน่ากลัวจะต้องเล่นบทสะใภ้อาภัพเอาง่ายๆ หากคุณหญิงไม่ถูกใจขึ้นมา


เดี๋ยวนี้สงสัยผมจะแก่จริง เห็นผู้หญิงอายุสามสี่สิบเป็นคุณหนูไปหมด


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 14, 21:01
ยอมต่อรองลดราคาให้หน่อยนึง     อาจจะเป็นพี่สาวคนโตของคุณนักเรียนหนุ่มรูปหล่อก็ได้..เอ้า..


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 ก.ย. 14, 07:26
ถ้าออกไปนอกเมือง ไปปิกนิคต้องแต่งตัวให้กระชับหน่อย สวมหมวกสวยทีเดียว


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 24 ก.ย. 14, 08:37
ยอมต่อรองลดราคาให้หน่อยนึง     อาจจะเป็นพี่สาวคนโตของคุณนักเรียนหนุ่มรูปหล่อก็ได้..เอ้า..

เอ้า หยวน ๆ ๆ ตกลงๆครับ ใส่ห่อมาเลย


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 09:27
ถ้าออกไปนอกเมือง ไปปิกนิคต้องแต่งตัวให้กระชับหน่อย สวมหมวกสวยทีเดียว
โอ้  ชุดเท่มาก  พวกเธอขี่ม้าหรือเปล่าเนี่ย เห็นสวมหมวกกันแดด

ถ้าหากว่าไปนอกเมือง  นั่งเกวียน  ไม่ได้ขี่ม้า เธอนุ่งซิ่นหรือโจงกระเบนน่าจะถนัดกว่าเวลา 'ไปทุ่ง'

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6084.0;attach=51192;image)


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 24 ก.ย. 14, 10:07
ภาพในคห.9ของท่านอาจารย์เทาชมพูเก๋มากๆเลยค่ะ

เพิ่งเคยเห็นการคาดหน้าผากแบบนี้ คือจับริบบิ้น(น่าจะเป็นผ้ากำมะหยี่)ผูกเป็นโบว์แล้วปล่อยชายยาวลงมายาวๆแบบนี้


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 11:19
หมวกสาวๆในรูปข้างล่างนี้ แบบเดียวกันเลย
เป็นหมวกแฟชั่นยุค 1920s ค่ะ ตรงกับปลายรัชกาลที่ 6


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 11:21
ภาพในคห.9ของท่านอาจารย์เทาชมพูเก๋มากๆเลยค่ะ

เพิ่งเคยเห็นการคาดหน้าผากแบบนี้ คือจับริบบิ้น(น่าจะเป็นผ้ากำมะหยี่)ผูกเป็นโบว์แล้วปล่อยชายยาวลงมายาวๆแบบนี้
แฟชั่นอย่างหนึ่งของสาวยุค 1920s  คือมีแถบหรือสร้อยคาดเหนือหน้าผากค่ะ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 11:24
สาวสยามในยุครัชกาลที่ ๖ ก็ทันสมัยไม่น้อยหน้านางแบบฝรั่ง
แฟชั่นสามารถข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงกรุงรัตนโกสินทร์ได้


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 11:28
รองเท้าสาวสยามก็แฟชั่นนางแบบฝรั่งเปี๊ยบเลยค่ะ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 ก.ย. 14, 11:49
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 11:58
สร้อยหรือแถบคาดหน้าผาก เรียกว่า frontlet  เป็นแฟชั่นยุค 1920s   ดิฉันยังหารูปนางแบบคาดสร้อยแบบพระวรกัญญาไม่ได้ค่ะ
แต่ไปเจอสร้อยคาดหน้าผากที่นำมาขายใน ebay
บรรยายว่า  1920s Flapper Gatsby Dazzle Crystal Headband Frontlet Wedding Tiara Headpiece


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 12:06
หาเจอแฟชั่น   1920s  ที่มีแถบคาดผมได้รูปหนึ่ง แต่อลังการงานสร้างมาก


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 24 ก.ย. 14, 15:35
เคยเห็นแฟชั่นการคาดหน้าผากส่วนมากจะคล้ายๆแบบพระวรกัญญาฯทรงคาด แต่แบบที่สาวๆในคห.9คาด โดยผูกเป็นโบว์ปล่อยชายยาวนี่เพิ่งเคยเห็นค่ะ



กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 15:40
รูปนี้เห็นไม่ถนัด แต่นางแบบยุค 1920s น่าจะคาดแถบผ้า  ทิ้งชายลงข้างๆ ทางด้านซ้ายค่ะ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 15:44
ถ้าคุณนางมารน้อยนึกสนุกอยากคาดบ้าง ลองตามนี้ไหมคะ เอาหางนกยูงออกบ้างก็ได้


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 24 ก.ย. 14, 15:49
อยากส่งรูปให้อาจารย์ดูจังค่ะ แต่งเป็นแม่เนื้อทอง ใน ราตรีประดับดาว  :-[


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 24 ก.ย. 14, 16:00
แม่เนื้อทอง พอไหวไหมคะอาจารย์ พลีชีพแบบสุดๆ คุณหนุ่มณลกับคุณลุงไก่อาจจะรู้เคยเห็นในเฟสแล้ว :-[ :-[ :-[

นี่รักอาจารย์เทาชมพูมากหรอกนะคะนี่


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 16:10
โอ้โฮ  น่าจะเป็นแม่เกดนะคะ  สวยจริงๆ
เอ๊ะ  หรือจะเป็นคุณหญิงลอออรดีกว่า


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 16:13
แถมชุดนี้ให้คุณนางเอกข้างบนนี้แต่งค่ะ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 16:57
ต้องรบกวนคุณ V_Mee อีกครั้งค่ะ   ว่านายทหารหนุ่มท่านนี้ มียศใด จะได้วาดภาพต่อไปว่าควรเป็นคุณหลวง คุณพระหรือพระยา
แต่ดูหน้าตายังหนุ่มอยู่ น่าจะเป็นหลวง    ส่วนคุณนายก็ยังสาวพริ้ง  คงยังไม่มีลูกกัน  ไม่งั้นคงอุ้มมาเข้าฉากด้วย
เดาว่าอายุคงระหว่าง 25-30
ภาพนี้น่าจะถ่ายก่อน 2463  เพราะคุณนายแต่งตัวสวยสุดขีดมาถ่ายรูป  โดยยังนุ่งโจงกระเบนอยู่ ไม่ได้นุ่งซิ่น    หลัง 2463 สาวไฮโซในเมืองหลวงนุ่งซิ่นตามพระราชนิยมกันแล้ว
คุณนายไม่ได้ไว้ผมสั้น แต่ว่าไว้ผมยาวเป็นคลื่นด้วยคีมเย็น  รวบไปขมวดไว้ด้านหลัง มองจากด้านหน้าจึงเหมือนผมสั้นแค่หู มีสร้อยคาดผมทันสมัยเจี๊ยบ
เธอสวมสร้อยคอแบบแหม่ม เป็นโช้คเกอร์ห้อยจี้ และมีสร้อยยาวสวมซ้อนอีกที ห้อยล็อกเก็ต  สะพายแพรหย่อนหลวมๆ ทับบนเสื้อประดับลูกไม้  มีสร้อยแหวนนาฬิกาสวมแพรวพราวไปทั้งตัว  แสดงว่าไฮโซจริง


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 24 ก.ย. 14, 18:38
บุรุษหนุ่มในภาพข้างบนเป็นข้าราชการกรมพระตำรวจหลวงรักษาพระองค์ครับ ดูจากเสื้อและดาราหมายยศที่ข้อมือเสื้อแล้วพอจะระบุได้ว่า ท่านผู้นี้มียศเป็น นายตำรวจตรี (เทียบเท่านายร้อยตรีทหารบก)  ชั้นยศนี้คงจะยังมิได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์  แต่ที่อกเสื้อท่านแขวนเข็มรูปแผ่นคอซีกเดียว (เหรียญที่ ๒ จากคอเสื้อ)  แสดงให้ทราบว่าท่าผู้นี้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมหาดเล็กหลวง

บรรดาศักดิ์กรมพระตำรวจนั้น ก็ยอกจากจะเป็น ขุน หลวง พระ พระยา เช่นเดียวกับข้าราชการทั่วไปแล้ว  ยังมีบรรดาศักดิ์พิเศษเป็น จ่า ซึ่งเทียบเท่าขุน เช่น จ่าแผลงฤทธิ์ราญรอน  จ่าห้าวยุทธการ  จำชำนิทั่วด้าว  จ่าชำนาญทั่วด้าน  และบรรดาศักดิ์ จมื่น ที่เทียบเท่าขุน 

ยศพระตำรวจเรียงลำดับดังนี้
พระตำรวจ ตรี โท เอก เทียบ นายพล ตรี โท เอก
ขุนตำรวจ ตรี โท เอก  เทียบ นายพัน ตรี โท เอก
นายตำรวจ ตรี โท เอก  เทียบ  นายร้อย ตรี โท เอก
นายหมู่ตำรวจใหญ่  เทียบ  จ่านายสิบ
นายหมู่ตำรวจ ตรี โท เอก  เทียบ  นายสิบ ตรี โท เอก
พลพระตำรวจหลวง  เทียบ  พลทหาร

นายตำรวจโท โดยมากจะมีบรรดาศักดิ์เป็น จ่า หรือขุน
นายตำรวจเอก หรือขุนตำรวจตรี  โดยมากจะมีบรรดาศักดิ์เป็น จมื่น หรือหลวง  มีบางคนเป็นพระ
ขุนตำรวจโท  โดยมากจะมีบรรดาศักดิ์เป็น พระ
ขุนตำรวจเอก พระตำรวจตรี โท  มีบรรดาศักดิ์เป็น พระยา
พระตำรวจเอก มีบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยา  ซึ่งมีคนเดียว คือ พระตำรวจเอก เจ้าพระยาราชศุภมิตร (อ๊อด  ศุภมิตร) สมุหพระตำรวจหลวงรักษาพระองค์

กรมพระตำรวจหลวงรักษาพระองค์ถูกยุบเลิกไปเมื่อวันที่  ๑  สิงหาคม  พ.ศ. ๒๔๗๕  หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเพียงเดือนเศษ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 18:51
ขอบคุณมากค่ะ  ไม่เคยผิดหวังเลยกับคุณ V_Mee   
ขอคะเนอายุใหม่ว่าฝ่ายชายซึ่งยังไม่มีบรรดาศักดิ์ น่าจะอายุไม่เกิน 25 ปี   คุณนายก็คงอ่อนกว่าไม่มาก
เมื่อดูการแต่งกายของคุณนาย และเข็มประวัติของคุณตำรวจหนุ่ม ว่าเป็นนักเรียนมหาดเล็กหลวงมาก่อน หนุ่มสาวคู่นี้คงเป็นไฮโซเมืองหลวงกันทั้งคู่  สมรสกันแบบกิ่งทองใบหยก


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 24 ก.ย. 14, 19:09
แถมชุดนี้ให้คุณนางเอกข้างบนนี้แต่งค่ะ

ชอบมากเลยค่ะแบบนี้ แต่คงต้องสั่งตัด อยากลองแต่งสักครั้ง ดูแล้วเปิ๊ดสะก๊าดมากเจ้าค่ะ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 19:35
อย่าลืมสร้อยคาดผมด้วยค่ะ เก๋ตรงนี้ละ  มีให้เลือกเยอะแยะ
แต่ถ้าไม่ชอบ   คุณหนูขอสร้อยเพชรทิฟฟานีของคุณหญิงแม่มาคาดแทนก็จะเริ่ดมากขึ้นนะคะ

http://fashionand.clothing/apparel/flapper-headband-silver (http://fashionand.clothing/apparel/flapper-headband-silver)


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 24 ก.ย. 14, 20:11
แหม ดูแล้ว อยากส่งรูปมาร่วมด้วย แต่กลัวผิดคอนเซ็ป เพราะนักเรียนไทยในหนานจิงถ่ายรูปหมู่ย้อนยุคช่วง ๑๙๒๐ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๖ พอดีแต่งชุดกี้เพ้าเต็มยศ

แต่บังเอิญหารูปสตรีจีนในไทยในชุดกี่เพ้ามิได้ เลยไม่รู้จะเอาอะไรมาเทียบ แต่เคยเห็นรูปของคุณทองพูล หวั่งหลีในหนังสือ ดุจนาวากลางมหาสมุทร ของคุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์ และญาติพี่น้องแต่งชุดกี่เพ้าเต็มยศ แต่ก็ไม่รู้จะหาโหลดจากที่ใด

ขอนั่งติดตามชมไปเรื่อยๆ
 
ปล. han bing ก็แต่งกับเขานะ ฮาๆ แต่ผูกหูกระต่ายแบบเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้แทน


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 20:21
ขอดูหน่อยซีคะ  อยากเห็น


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 24 ก.ย. 14, 20:38
จริงๆเสื้อผ้าชาวจีนในยุคนั้น หากเป็นชายนิยมใส่ชุดแบบจีนที่เป็นเสื้อคลุมยาวกรอมเท้า เว้นเสียแต่จะเป็นนักเรียนหัวนอกจริงๆ

ส่วนสุภาพสตรียังคงใส่กี้เพ้า แต่ว่าเริ่มดันแปลงให้กี้เพ้าเข้ารูป

เด็กหนานกิงตอนนั้นถ่ายรูปก่อนเรียนจบปริญญาโท

ปัจจุบัน han bing ยังเรียนปริญญาเอกที่เดิมอยู่ ไว้มีคนกล้าถ่ายด้วยแล้วจะถ่ายอีกรอบ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 24 ก.ย. 14, 20:40
เสื้อผ้าผู้ชายเป็นแบบสูท ส่วนผู้หญิงยุคนั้นเป็นกี่เพ้าเข้ารูปตามรูปดั้งเดิมต่อไปนี้



กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 24 ก.ย. 14, 20:43
ชุดผู้ชายจะเห็นว่าคล้ายๆกับชาวจีนในภูเก็ตนิยมใส่เวลามีงาน

ภาพนี้เป็นภาพการแต่งงาน เจ้าสาวแต่งชุดแบบยุโรป ช่วงเวลา ๑๙๒๐ - ๑๙๓๐ โดยประมาณ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 20:52
จริงๆเสื้อผ้าชาวจีนในยุคนั้น หากเป็นชายนิยมใส่ชุดแบบจีนที่เป็นเสื้อคลุมยาวกรอมเท้า เว้นเสียแต่จะเป็นนักเรียนหัวนอกจริงๆ

ส่วนสุภาพสตรียังคงใส่กี้เพ้า แต่ว่าเริ่มดันแปลงให้กี้เพ้าเข้ารูป
เขาคงแต่งตัวกันแบบนี้ละมังคะ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 24 ก.ย. 14, 20:54
สองคนนี้ น่าจะเป็นพี่น้องกัน


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 24 ก.ย. 14, 20:55
ใช่แล้วครับ นิยมใส่ชุดยาวกรอมเท้า

แต่คนในรูปที่คุณ Navarat.c นำมาเทียบผมไม่แน่ใจว่าใคร แต่ไม่น่าจะใช่พี่น้องกัน คนที่ผมนำรูปมาคือ เหมย หลาน ฟาง (梅兰芳) นักแสดงงิ้วชื่อดังของจีนยุค ๑๙๒๐ โดยจะโดดเด่นมากในบทของสตรี

อันนี้ผมลงรูปชายงามของจีนในยุคสาธารณรัฐ จากรูปบนสุดเริ่มจากด้านซ้ายไปด้านขวา

๑. เจียงไคเช็ค ประธานาธิบดีจีน
๒. หวางจิงเวย นักการเมืองชื่อดังของจีน
๓. เหมยหลานฟาง นักแสดงงิ้วชื่อดัง
๔.โจวเอินหลาย รัฐบุรุษ นายกรัฐมนตรีในดวงใจตลอดกาลของจีน
๕. จางเฉว่เหลียง แม่ทัพคนสำคัญในการต่อต้านญี่ปุ่น
๖. ซุนยัดเซ็น บิดาประเทศจีนสมัยใหม่

ทั้งนี้ ปรกติแล้ว หมายเลข ๒ - ๕ คนจีนถือว่าเป็นหนุ่มรูปงามสุดๆแห่งยุคสาธารณรัฐ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 14, 22:01
ดิฉันให้คะแนนหมายเลข 1-2-5 ค่ะ
หนุ่มคนดังเหล่านี้ ตาโต จมูกโด่งกันทุกคนเลย   


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 25 ก.ย. 14, 12:30
ฉายาดังกล่าวเป็นฉายาที่ตั้งในช่วงปลายทศวรรษที่ ๑๙๒๐ นักวิชาการชื่อดังไต้ลี่เถาได้ยกชื่อของสี่หนุ่มอันได้แก่หวาง โจว เหมย และจางขึ้นมา ว่าหล่อทั้งรูปเก่งทั้งความสามารถ
ต่อมาช่วงการเปลี่ยนนโยบายที่ซีอาน (ตอนที่เจียงไคเช๊กเปลี่ยนนโยบายไล่ญี่ปุ่นเป็นหลัก) โจวเอินไหลไปพบกับนายพลจางเฉว่เหลียง ต่างฝ่ายต่างยกย่องอีกฝ่ายทั้งด้านหน้าตา และความสามารถ พูดไปพูดมานายพลท่านหนึ่งที่เป็นผู้นำการปฏิวัติในสมัยหลังคงคันปาก เลยบอกไปว่า "โอ๊ย ทั่วแผ่นดินนี้ใครจะไม่รู้จักชายงามทั้งสี่อย่างพวกท่านเล่า"
หลังๆมีคนเติมเจียงไคเช็คกับซุนยัดเซ็นเข้าไปด้วย แต่ว่าถือว่าไม่ใช่ของดั้งเดิมที่เขายกย่องกันมา


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 14, 13:04
อ้างถึง
โอ๊ย ทั่วแผ่นดินนี้ใครจะไม่รู้จักชายงามทั้งสี่อย่างพวกท่านเล่า

ชายงามทั้งสี่   มีนัยยะเป็นที่เชิดชู เหมือน "หญิงงามทั้งสี่" ในประวัติศาสตร์หรือเปล่า หนอ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 25 ก.ย. 14, 13:34
ท่านเจียงไคเช็คสมัยหนุ่มๆหล่อมากๆ เคยเห็นรูปลูกชายสองคน หล่อไม่แพ้พ่อ เล่นเอาดิฉันเพ้อไปเลยทีเดียว

แต่ชอบชุดกี่เพ้าของคุณหานบิงนำมาจริงๆค่ะ ยุคเซี่ยงไฮ้เฟื่องฟู สตรีจีนดัดผมลอนสวมกี่เพ้าเข้ารูป ถือว่าเก๋มากๆ


กระทู้: พัสตราภรณ์สตรีไทย สมัยรัชกาลที่ ๖
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 ก.ย. 14, 08:09
ท่านผู้หญิงแผ้ว


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 14, 09:32
ขอเปลี่ยนชื่อกระทู้นะคะ เผื่อมีรูปในรัชกาลอื่นๆเข้ามาให้ดูด้วย 

อย่างรูปนี้ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถกับหม่อมคัทริน น่าจะฉายในรัชกาลที่ ๕ หรือต้นรัชกาลที่ ๖
หม่อมคัทรินแต่งกายงามมาก  เสื้อลูกไม้สไตล์นิยมของควีนอเลกซานดราแห่งอังกฤษ นุ่งกับโจงกระเบน แบบเดียวกับสมเด็จพระพันปีทรงในตอนปลายๆรัชกาลที่ ๕  เกล้าผมให้ดูคล้ายกับทรงผมแบบญี่ปุ่นของสาวสยาม




กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 14, 11:02
       สาวน้อยคนนี้ เป็นคุณหนูลูกสาวขุนนาง   พอพ้นโกนจุกเธอก็ไม่ตัดผมสั้นเสยด้วยขึ้ผึ้ง อย่างยุคคุณหญิงแม่  แต่ไว้ยาวเลยบ่า รวบได้  ตามที่นิยมในต้นและกลางรัชกาลที่ ๖  เส้นผมนั้นถ้าหากว่าเป็นคลื่นก็อาจจะดัดด้วยคีมร้อน  รวบถักเป็นเปียเดี่ยวไว้ด้านหลัง
       คุณหนูมาถ่ายรูปซึ่งถือว่าเป็นโอกาสพิเศษ จึงแต่งตัวสวย เสื้อประดับลูกไม้เป็นของโก้เอาไว้สวมออกงาน ประดับอาภรณ์เพียบ สมัยนั้นถือว่าถ้าไม่มีเครื่องประดับ เนื้อตัวเกลี้ยงๆถือว่าไม่สวย      สร้อยคอห้อยเสมาหรือเหรียญเป็นของประทานจากเจ้านายที่คุณหนูเป็นนางข้าหลวง    มีตุ้มหู สร้อยข้อมือ นาฬิกา แหวนสวมนิ้วชี้เสียด้วย ครบครัน  คุณหนูยังนุ่งโจงกระเบนมาถ่ายรูปแสดงว่าแฟชั่นซิ่นยังมาไม่ถึง รูปนี้จึงน่าจะถ่ายก่อนปี 2463
      คุณหนูน่าจะถ่ายไว้หลายรูป  ไหนๆมาถึงห้องภาพทั้งที   ต้องถ่ายให้คุ้ม   คงมีทั้งอิริยาบถหน้าตรง หน้าเอียงข้าง ท่านั่งกับคุณพ่อคุณแม่และท่ายืนเอียงซ้ายเอียงขวา   ภาพนี้คุณหนูโพสท่าตามแบบช่างภาพจัดให้  เหมือนภาพแหม่มในโปสการ์ด  ถือดอกกุหลาบประกอบฉากเสียด้วย


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 14, 12:12
ถ้าใครจะคัดตัวแสดงให้คุณหนูข้างบนนี้เป็นนางเอก    รูปข้างล่างนี้คัดเลือกเป็นคุณแม่ของเธอได้เลย    มาดภรรยาขุนนางถ้าไม่ใช่ชั้นคุณพระก็ต้องพระยา   ผมสั้นมีเค้าทรงดอกกระทุ่มแบบยุคคุณยาย  หวียกสูงแต่งด้วยขี้ผึ้งจนเรียบกริบ  สูงขนาดนี้อาจจะมีช้องรูปหมอนเล็กๆซ่อนอยู่ข้างในแล้วหวีเสยกลบให้ดูสูงเหนือหน้าผาก
เสื้อลูกไม้สะพายแพร นุ่งโจงกระเบน  บนแพรสะพายติดเข็มยาวๆมีพระนามเจ้านาย และเข็มกลัดห้อยพระนามเจ้านายอีกอันหนึ่ง  แสดงว่าคุณแม่เป็นนางข้าหลวงในวังมาก่อน
มีเข็มกลัดนาฬิกาพกอย่างเก๋ไก๋ด้วย
สวมถุงน่องรองเท้าขาวประดับโบอย่างสวยงาม เข้าชุดกัน แสดงว่าเป็นไฮโซ ออกงานบ่อย ยืนโพสท่าเป็นด้วย
คุณแม่แต่งเครื่องประดับเพียบ ทั้งสร้อยยาวถึงเอว เข็มกลัด ตุ้มหู  กำไลทองฝังเพชรสวมข้อมือทั้งซ้ายขวา และแหวนวงเบ้อเริ่มบนนิ้วซ้ายขวาอีกต่างหาก
ตามประสาไฺฮโซโบราณค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 14, 13:05
มาถึงรูปนี้ จนปัญญา อธิบายไม่ถูก
ใครจะช่วยได้บ้างคะ

ราวกับชุดนอนมีเสื้อคลุมทับงั้นละค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 14, 13:34
สังเกตว่าฉากในรูปข้างบนนี้ไม่ได้จัดในห้องภาพเหมือนรูปก่อนหน้านี้  เป็นผนังว่างๆกับพื้นที่ปูพรมเต็มห้องทำให้คิดว่าไม่ใช่สยาม
ทรงผมของสาวในรูปก็ทันสมัยมาก น่าจะยุค 1940-50 ด้วยซ้ำ
เธอสวมชุด pyjamas พร้อมเสื้อคลุม


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 27 ก.ย. 14, 14:51
มาถึงรูปนี้ จนปัญญา อธิบายไม่ถูก
ใครจะช่วยได้บ้างคะ

ราวกับชุดนอนมีเสื้อคลุมทับงั้นละค่ะ
น่าจะเป็นเครื่องแต่งกายของผู้หญิงมุสลิมนะครับ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 14, 15:42
ไม่ได้นึกข้อนี้เลยค่ะ เพราะหน้าเธอเป็นสาวแหม่มมาก
ไม่ต้องมีฮิญาบด้วยรึคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Kunlamata ที่ 27 ก.ย. 14, 21:10
มีข้อมูลคุณหนูไฮโซโบราณคนนี้เพิ่มมั้ยคะ เช่น ชื่อ สกุล เป็นธิดาขุนนางท่านใด
ชอบเธอค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 14, 21:19
เสียใจจริงๆค่ะ  ภาพคุณหนูมาจากตู้เอกสารที่มีชื่อเขียนไว้ที่ลิ้นชักว่า"ภาพบุคคลไม่ทราบนาม"  คุณ NAVARAT.C เป็นคนพาคุณหนูออกจากตู้มาให้พวกเราได้ชมกัน
ส่วนคำอธิบายเชิงนั่งทางใน ดิฉันเป็นคนเขียนเอง
ดิฉันก็อยากรู้จักท่านทั้งหลายในอดีตนี้จริงๆ  คงมีเรื่องประวัติชีวิตให้เราได้เรียนรู้อีกไม่น้อย  น่าเสียดายที่มีลายแทงแค่รูป จากนั้นต้องเดาต่อกันเอง


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Kunlamata ที่ 27 ก.ย. 14, 21:34
ขอบพระคุณค่ะอาจารย์เทาชมพู น่าเสียดายจริงๆนะคะที่ไม่มีข้อมูลข้างหลังภาพ

ดิฉันวางแผนจะพาลูกชายไปดูภาพจริง ให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยที่หอสมุดแห่งชาติและไปขอใบนามสกุลพระราชทานด้วย


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 14, 21:42
นับเป็นโชคดีของคุณลูกที่มีคุณแม่เอาใจใส่ ปลูกฝังให้รู้จักคุณค่าของมรดกของชาติค่ะ
ขอเชียร์เต็มที่


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ก.ย. 14, 09:50
มาส่งให้ดูอีกรูป
คุณแม่ยังสาวแต่งกายตามแฟชั่นควีนอเลกซานดรา แสดงความเป็นแหม่มเต็มตัว เสื้อลูกไม้ขาวและกระโปรงยาว มีสร้อยคอที่เป็นสายนาฬิกาพกอย่างเก๋ไก๋   บวกสร้อยข้อมือ และแหวน  แสดงว่าฐานะเธอเป็นคุณนายเหนือชาวบ้านทั่วไป
เหตุใดหนอเธอจึงไม่นุ่งโจงกระเบน   อย่างเศรษฐินีในรูปก่อนๆในกระทู้นี้  
ยุคของเธอคือยุคก่อนผ้าซิ่นมาถึงแน่นอน เพราะแฟชั่นควีนอเลกซานดราอยู่ในช่วงปลายรัชกาลที่ ๕ ต่อกับต้นรัชกาลที่ ๖

คำตอบมีอยู่ ๒ จุดในภาพ

จุดแรกคือลูกสาวตัวน้อยที่มายืนถ่ายรูปกับคุณแม่     หนูน้อยแต่งตัวอย่างเด็กน้อยฝรั่งเต็มตัวตั้งแต่หัวจดเท้า  ผมยาวประบ่า บอกบ่งว่าเกิดมาไม่เคยไว้จุก แต่อยู่อย่างเด็กตะวันตก    ถึงกระนั้นหน้าตาเธอก็คมเข้มคล้ายชาวเอเชีย มีเค้าคุณแม่ซึ่งคมขำเอาการทีเดียว

จุดที่สองคือรูปถ่ายบนโต๊ะ เป็นชายหนุ่มใหญ่ไว้หนวด ในกรอบแบบฝรั่งสวยงาม

คุณแม่คนนี้คือสาวไทยเชื้อมอญ จะมอญปากลัดหรือมอญพระประแดงไม่ทราบ  เธอเป็นภรรยาฝรั่งที่มาอยู่ในสยาม  มีลูกน้อยเชื้อสายยูเรเชี่ยนเป็นพยานรัก    ดังนั้นจึงแต่งกายแสดงถึงวิถีชีวิตแบบสามีเต็มตัว   ทำไมฝรั่งถึงไม่มาถ่ายด้วยก็ไม่ทราบ  อาจจะถึงแก่กรรม หรือว่าไม่สะดวกจะมาถ่ายภาพคู่กัน เหลือแต่รูปถ่ายเป็นพยาน
สมัยนั้นสาวไทยไม่แต่งกับฝรั่ง    มีแต่สาวมอญเท่านั้นได้เป็นมิสซิสกันเป็นแถว    


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 29 ก.ย. 14, 10:07
^
^
ถ่ายที่สตูดิโอห้างโรเบิรต์ เลนซ์ ครับ  ;D ;D

ส่งให้ดูไฮโซ อีกภาพนะครับ ลักษณะการแต่งกายนั้นดูออกเลยว่าเป็นรัชสมัยรัชกาลที่ ๖


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ก.ย. 14, 10:42
หลังพ.ศ. 2463 แล้ว  เข้าใจว่าจะใกล้ๆ 2468 ด้วยซ้ำไป หรือไม่ก็ช่วงต่อกับต้นรัชกาลที่ 7 เพราะคุณแม่วัย 40+   ละทิ้งทรงผมโป่งแบบญี่ปุ่นมาไว้มวยรวบไปด้านหลัง มองด้านหน้าเหมือนผมบ๊อบ   นุ่งซิ่นสวมถุงน่องรองเท้าแบบฝรั่ง  คอสวมริบบิ้นห้อยล็อกเก็ตราวกับสาวรุ่นลูก
เธอนั่งอย่างคนรู้จักนั่งเก้าอี้  คือหลังตรง วางเท้าได้เหมาะเจาะตามช่างภาพกำหนด

คุณลูกสาวนุ่งซิ่นลายขวางแบบทางเหนือ ซึ่งนิยมกันในสมัยรัชกาลที่ 7 ดัดผม   สังเกตอีกอย่างว่าในการถ่ายรูป คนไทยสมัยรัชกาลที่ 6 ไม่ถือสาเรื่องนั่งสูงนั่งต่ำ  ภรรยานั่งบนเท้าแขนเก้าอี้สูงกว่าสามี   ลูกสาวก็นั่งสูงกว่าแม่ได้   


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Kunlamata ที่ 29 ก.ย. 14, 17:31
ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 27 ก.ย. 14, 21:42
อ้างถึง
นับเป็นโชคดีของคุณลูกที่มีคุณแม่เอาใจใส่ ปลูกฝังให้รู้จักคุณค่าของมรดกของชาติค่ะ
ขอเชียร์เต็มที่
________________________________
ขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูอย่างสูงค่ะ

เพิ่งมารู้เรื่องของตระกูลตอนโตค่ะ และก็ละเลยมาจนแก่ด้วย
ลูกชายเป็นลูกครึ่งอเมริกัน แต่เกิดในไทยยังไม่เคยไปอเมริกาเพราะคุณพ่อเสียเร็วมาก
เขาควรทราบเรื่องตระกูลทั้งทางพ่อและแม่ ทางพ่อนั้นสะดวกมาก หากูเกิ้ลก็เจอประวัตินามสกุล
แต่ทางแม่ต้องค้นกันมากเลยค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 30 ก.ย. 14, 11:03
สวัสดีค่ะอาจารย์ พอดีมีข้อมูลภาพจากความคิดเห็นที่ 9 คือภาพนี้ จึงอยากเรียนให้ทราบรายละเอียด

ภาพนี้ถ่ายประมาณปลายปี พ.ศ. 2465 ทุกท่านในภาพนี้ เป็นข้าหลวงสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา (ซึ่งพระยศในขณะนั้น คือพระบรมราชินี) ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
ในภาพ จากซ้ายไปขวา
ยืน คุณมาละตี กาญจนาคม คุณเชื่อม อจลบุญ คุณสมบุญ ชินะโชติ
นั่ง คุณสุคนธ์ สุจริตกุล คุณกมะลา สุทธะสินธุ์ คุณปลอบ สุจริตกุล

ดิฉันเป็นธิดาของคุณกมะลา สุทธะสินธุ์ ซึ่งต่อมาได้สมรสกับนายกวดหุ้มแพร (โต สุจริตกุล) น้องชายของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ ซึ่งในภาพนี้ คุณกมะลาอายุประมาณ 12 ปี เพิ่งถวายตัวเป็นข้าหลวงสมเด็จอินทร์ฯ ชุดกลาสีไม่ใช่เครื่องแบบ แต่เป็นชุดแฟชั่นโก้ที่แต่งถ่ายรูปหลายครั้ง
ส่วนคุณสุคนธ์ สุจริตกุล (ต่อมาสมรสเปลี่ยนเป็นสุวรรณวารี) เป็นพี่คุณปลอบ สุจริตกุล ทั้งคู่เป็นธิดาของพระยาศิริรัตนมนตรี (สงบ สุจริตกุล) และเกิดที่ลอนดอน ระหว่างที่บิดาปฏิบัติหน้าที่อัครราชทูตประจำราชสำนักเซนต์เจมส์ และต่อมาได้ไปประจำที่สหรัฐอเมริกาและรัสเซียด้วย ทั้งสองท่านเชียวชาญหลายภาษา และได้เป็นนักหนังสือพิมพ์และล่ามแปลสดรุ่นแรกๆของประเทศไทย ทั้งสองได้มาประเทศไทยครั้งแรกเมื่อคุณสุคนธ์อายุ 18 ปี และคุณปลอบอายุ 17 ปีและเป็นพระญาติที่ได้ถวายตัวเป็นข้าหลวงสมเด็อินทร์ฯ ด้วย (อาจารย์ทายถูกที่ว่าคุ้นเคยกับความเป็นอยู่แบบฝรั่งค่ะ)
คุณมาละตี คุณเชื่อม และคุณสมบุญ เป็นข้าหลวงรุ่นใหญ่ ต่อมาคุณสมบุญสมรสกับพระประสิทธิ์บรรณาการ (แฉล้ม กฤษณามระ)

ขอต่อท้ายอีกนิดคือคุณแม่ นางกวดหุ้มแพร (กมะลา สุจริตกุล) มีชื่อเสียงทางด้านกีฬาเทนนิส เริ่มเล่นเมื่ออายุ 20 ปี พ.ศ. 2473 โดยสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ ทรงสร้างสนามเทนนิสที่ตำหนัก ได้หัดเล่นและฝึกฝนที่นั่น เคยเป็นตัวแทนประเทศไทยแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย คุณกมะลาเป็นผู้ครองตำแหน่งหญิงที่เป็นผู้ชนะเลิศสูงสุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันเทนนิสในประเทศไทย ได้ครองตำแหน่งชนะเลิศ 36 ครั้ง ระหว่างปี พ.ศ. 2474-2506

ดิฉันดีใจมากที่เห็นรูปนี้ เพราะไม่มีอยู่ในครอบครอง ปีนี้ ทางสุจริตกุลเพิ่งรวบรวมข้อมูลและ ภาพทำหนังสือที่ระลึก 101 ปี ที่ได้รับพระราชทานนามสกุล มีภาพโปราณน่าสนใจ แต่ไม่เชิงภาพเครื่องแต่งกาย หากอาจารย์สนใจ จะลงในกระทู้ให้ดูได้ค่ะ กรุณาแจ้งด้วย



กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 30 ก.ย. 14, 11:07

ดิฉันดีใจมากที่เห็นรูปนี้ เพราะไม่มีอยู่ในครอบครอง ปีนี้ ทางสุจริตกุลเพิ่งรวบรวมข้อมูลและ ภาพทำหนังสือที่ระลึก 101 ปี ที่ได้รับพระราชทานนามสกุล มีภาพโปราณน่าสนใจ แต่ไม่เชิงภาพเครื่องแต่งกาย หากอาจารย์สนใจ จะลงในกระทู้ให้ดูได้ค่ะ กรุณาแจ้งด้วย



สนใจครับ ลงภาพให้ดูเยอะๆ เลยครับ  ;D :D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 11:11
ไฮโซที่นำเสนอในรูปนี้ เป็นวีไอพีในรัชกาลที่ ๖ ยิ่งกว่าสตรีในรูปก่อนๆทุกรูป    เห็นได้เครื่องราชจุลจอมเกล้าเด่นอยู่บนเสื้อ   รวมกับเครื่องราชอื่นซ้ายขวาและตรงกลาง ระยับตาไปหมด
นอกจากนี้เครื่องเพชรของท่านยัง..เอ้อเฮอ..เม็ดเป้งๆ  ไม่ว่าสร้อยคอสร้อยข้อมือ  สร้อยประคำเพชรที่คอนั้นดิฉันว่าถอดออก  ไปซื้อบ้านงามๆแถวสาทรได้หลังหนึ่ง พร้อมที่ดินอีกอย่างน้อยหนึ่งไร่
คงต้องขอแรงสารานุกรมเคลื่อนที่นามว่าคุณ V_Mee มาช่วยเฉลยว่าท่านผู้นี้เป็นสตรีบรรดาศักดิ์ระดับใด  ยังสาวยังสวยพริ้งเพราอยู่มาก แต่ยศศักดิ์ฐานะอลังการเหลือเกิน
การแต่งกาย ระบุว่าประมาณพ.ศ. ๒๔๖๓ หรือใกล้เคียง  แฟชั่นเดียวกับพระคู่หมั้นพระวรกัญญาปทานค่ะ

ทีแรกนึกว่าเป็นคุณหญิงอนิรุทธเทวา  แต่เคยดูรูปแล้วไม่ใช่   เสียดายมากที่ไม่มีคำบรรยายที่หอจดหมายเหตุว่าเป็นใคร ถ้าใครค้นหาเจอ เราคงเคยได้ยินชื่อท่านมาบ้างละน่า


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 11:17

ดิฉันดีใจมากที่เห็นรูปนี้ เพราะไม่มีอยู่ในครอบครอง ปีนี้ ทางสุจริตกุลเพิ่งรวบรวมข้อมูลและ ภาพทำหนังสือที่ระลึก 101 ปี ที่ได้รับพระราชทานนามสกุล มีภาพโปราณน่าสนใจ แต่ไม่เชิงภาพเครื่องแต่งกาย หากอาจารย์สนใจ จะลงในกระทู้ให้ดูได้ค่ะ กรุณาแจ้งด้วย

ดีใจมากค่ะ  คุณปิยะธิดา   ขอบคุณอย่างยิ่งที่เข้ามาทักทายและบอกเล่าให้ฟังนะคะ
ดิฉันเคยอ่านสัมภาษณ์คุณปลอบและคุณสุคนธ์ในนิตยสารลลนาเมื่อหลายสิบปีมาแล้วค่ะ    ทึ่งในความรู้ทางภาษาของท่านมาก  ดีใจมากที่ลูกหลานของท่านรวบรวมข้อมูลและภาพของสกุลสุจริตกุลไว้  เป็นอนุสรณ์
ขอเชิญให้นำภาพมาลงได้เลยค่ะ จะกี่ภาพก็ได้ ยิ่งเยอะยิ่งดี เพราะว่าในเรือนไทยมีผู้สนใจภาพถ่ายโบราณอยู่หลายท่าน คุณ siamese ก็คนหนึ่งละค่ะ

ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ



กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 30 ก.ย. 14, 12:08
เรียนอาจารย์เทาชมพูและคุณ Siamese

ภาพนี้มีอยู่ที่บ้านค่ะ ประมาณปี พ.ศ. 2465 มีทั้งคุณพ่อ (อายุ 18 ปี) และคุณแม่ (12 ปี) อยู่ในภาพ

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินในการซ้อมรบเสือป่า
พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ (ประทับรถยนต์พระที่นั่ง) โดยมีผู้ตามเสด็จ ได้แก่ : เจ้าพระยารามราฆพ, พระยาอนิรุทธเทวา,
(ยืนด้านหลัง) พระประสิทธิ์บรรณาการ (แฉล้ม กฤษณามระ), คุณสวาส สุจริตกุล (พระสุจริตธำรง), พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย),
(ยืนด้านหน้า) พระพิบูลย์ไอศวรรย์ (เปรียบ สุจริตกุล), คุณเพียบ สุจริตกุล,
(ยืนและนั่งที่บันไดรถ) คุณเทวมิตร กุญชร ณ อยุธยา, นายกวดหุ้มแพร (โต สุจริตกุล), คุณสุคนธ์ สุจริตกุล (ต่อมาเป็นสุวรรณวารี), คุณกมะลา สุทธะสินธุ์ (ต่อมาสมรสกับนายกวดหุ้มแพรที่นั่งด้านซ้าย และใช้นามสกุลสุจริตกุล), คุณปลอบ สุจริตกุล, คุณสมบูรณ์ ชินะโชติ (ต่อมาสมรสกับพระประสิทธิ์บรรณาการ นามสกุลกฤษณามระ ยืนด้านหลังในภาพ), คุณสุจินต์ สุจริตกุล

ภาพนี้และภาพโบราณอีกหลายภาพ รวบรวมไว้ในหนังสือ 101 ปี สุจริตกุล ซึ่งจะพิมพ์เสร็จในเดือนตุลาคมนี้ค่ะ

หวังว่าคงถูกใจนะคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 30 ก.ย. 14, 12:13
เรียนอาจารย์

พยายามจะใส่ภาพให้โตกว่านี้ แต่เด้งทุกที เลยใส่ได้แค่ขนาดนี้ เป็น png 230kb เล็กไปหน่อยค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 14:03
ภาพชนิด png หนักมากค่ะ ขนาด 200-300 ได้ภาพเล็กนิดเดียว  เปลี่ยนเป็น jpg  จะเบาลงมาก ขยายภาพได้ใหญ่โดยไม่เกินลิมิตของกระทู้ ค่ะ
ดิฉันเปลี่ยนภาพของคุณเป็น jpg  ขยายใหญ่ให้แล้วค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 30 ก.ย. 14, 14:40
ขอบคุณอาจารย์ค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 30 ก.ย. 14, 18:09
โปรดสังเกตธงไตรรงค์ที่หน้ารถพระที่นั่ง  ธงนี้ใช้ในความหมายว่าเป็น ธงสำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการสูงสุดในการซ้อมรบ คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รยนต์พระที่นั่งองค์นี้ชื่อว่าทุษยันต์  ที่ตอนหน้ารถมีรูแฟล่อท้าวหิรัญพนาสูร ติดอยู่  เป็นรถพระที่นั่งที่ทรงใช้ในระหว่างการซ้อมรบเสือป่า
พระประสิทธิ์บรรณการ (แฉม  กฤษณามระ) เป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาเพียงคนเดียวของหนังสือดุสุตสมิต
ภาพนี้ประมาณว่าน่าจะถ่ายไว้ในระหว่างการซ้อมรบเสือป่า พ.ศ. ๒๔๖๖


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 30 ก.ย. 14, 18:26
ภาพของท่านอาจารย์ใหญ่ในความเห็นที่ ๖๖ ขอสารภาพว่า ไม่สันทีดในการระบุนามฝ่ายใน
แต่ดูจากเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ประดับ คือ ตราจุลจอมเกล้าชั้นที่ ๒ เนื่องจากภาพไม่ค่อยชัดจึงไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นทุติจุลจอมเกล้าวิเศษ หรือ ทุติยจุลจุลจอมเกล้า  อีกดวงเป็นเหรียญรัตนาภรณ์ จ.ป.ร. ชั้นที่ ๒ ลงยากรอบประดับเพชร
พิจารณาจากเหรียญตรา  หากเป็นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษก็พอจะตอบได้ว่า ท่านผู้นี้น่าจะเป็นพระราชธิดาชั้นพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้า ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 

แต่ถ้าเป็นทุติยจุลจอมเกล้าก็อาจจะเป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 

ภาพนี้น่าจะฉายตอนปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก่อน พ.ศ. ๒๔๖๓ ที่เริ่มโปรดเกล้าฯ ให้ฝ่ายในเปลี่ยนมานุ่งซิ่นแบบฝรั่ง


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 18:48
ดิฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเครื่องราชชั้นตติยจุลจอมเกล้า หรือทุติยจุลจอมเกล้า  เลยขยายมาให้ดูพร้อมกับภาพเครื่องราชค่ะ
ช่วยดูกันหน่อยได้ไหมคะ ว่าเหมือนเครื่องราชชั้นไหน


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 19:05
กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าเป็นเจ้าจอมแส บุนนาค หรือเปล่า    เพราะประมาณ พ.ศ. ๒๔๖๓  ท่านน่าจะยังสาวอยู่มาก
ถ้าเป็นพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ ๕   พวกเราน่าจะจำกันได้ ว่าพระองค์ไหนนะคะ
ต้องขอแรงชาวเรือนไทยอีกแล้วว่าเป็นพระเจ้าลูกเธอหรือไม่

ค้นพบภายหลังว่า คือเจ้าจอมแส บุนนาค

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6084.0;attach=51356;image)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 19:11
คุณ NAVARAT.C  คุณหนุ่มสยาม คุณเพ็ญชมพู คุณ V_Mee ช่วยดูหน่อยได้ไหมคะว่าคนเดียวกันหรือเปล่า
เจ้าจอมแส บุนนาค


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 19:28
เจ้าจอมแสนั่นแล มิผิดเพี้ยน  ;D

ภาพเจ้าจอมแสสมัยออกมาอยู่นอกวังที่บ้านราชวัตรใหม่ ๆ  

ภาพและคำบรรยายจากหนังสือ "ย้อนรอยเจ้าจอมก๊กออในรัชกาลที่ ๕" โดย ดร.กัณฑาทิพย์ สิงหะเนติ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 30 ก.ย. 14, 19:50
มาดูไฮโซ กันต่อครับ  ;D ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 20:07
เจ้าจอมแสนั่นแล มิผิดเพี้ยน  ;D

ภาพเจ้าจอมแสสมัยออกมาอยู่นอกวังที่บ้านราชวัตรใหม่ ๆ  

ภาพและคำบรรยายจากหนังสือ "ย้อนรอยเจ้าจอมก๊กออในรัชกาลที่ ๕" โดย ดร.กัณฑาทิพย์ สิงหะเนติ

มิน่า งามอลังการหาคนเทียบยากจริงๆ
คุณหนุ่มสยาม  ขวาสุด พระวรกัญญาปทานใช่ไหมคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 30 ก.ย. 14, 20:17
เจ้าจอมแสนั่นแล มิผิดเพี้ยน  ;D

ภาพเจ้าจอมแสสมัยออกมาอยู่นอกวังที่บ้านราชวัตรใหม่ ๆ  

ภาพและคำบรรยายจากหนังสือ "ย้อนรอยเจ้าจอมก๊กออในรัชกาลที่ ๕" โดย ดร.กัณฑาทิพย์ สิงหะเนติ

มิน่า งามอลังการหาคนเทียบยากจริงๆ
คุณหนุ่มสยาม  ขวาสุด พระวรกัญญาปทานใช่ไหมคะ

ครับผม  ;D  และสุภาพสตรีท่านกลางก็ใช่ย่อยนะครับ เห็นกำไลงาช้างเผือกไหมละ  ::)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 20:47
เห็นแล้ว  ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 20:48
สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี หรือคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 14, 20:52
ไม่ใช่ซี   หม่อมเจ้าศรีสอางค์นฤมล วรวรรณต่างหาก


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 30 ก.ย. 14, 22:29
สำหรับภาพในข้อความที่ 72 ทางซ้ายคือสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ ถูกต้องแล้วค่ะ และคนขวาคือพี่สาวของท่าน พระสุจริตสุดา พระสนมเอกในรัชกาลที่ 6


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 30 ก.ย. 14, 22:31
ขอโทษ เขียนผิดค่ะ ความคิดเห็นที่ 82 ไม่ใช่ 72 ค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 30 ก.ย. 14, 22:50
ขอส่งภาพคุณพระสุจริตสุดา (เปรื่อง สุจริตกุล) มาให้ชมอีกภาพค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 30 ก.ย. 14, 22:53
มีสุภาพสตรีที่งามมากอีกท่านหนึ่งสมัยนั้น ที่เป็นสะใภ้ในสกุลสุจริตกุล คือคุณหญิงเคลื่อน ซึ่งในภาพที่แนบมานี้ถ่ายกับสามีคือพระยาสุจริตธำรง (อู๊ด สุจริตกุล)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 30 ก.ย. 14, 23:09
ในความคิดเห็นที่ 80 และ 81 ที่คุณ Siamese และคุณเพ็ญชมพูเขียนถึงกำไลงาช้างเผือก พอดีมีข้อมูลเกี่ยวกับที่คุณพระสุจริตสุดาได้รับพระราชทานกำไลจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ จากประวัติของท่านในหนังสือ 101ปี สุจริตกุลดังต่อไปนี้ค่ะ
"เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสู่ขอคุณเปรื่องจากเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (ปลื้ม สุจริตกุล) พระราชทานกำไลงาช้างเผือกลงยาพระนาม และพระธำมรงค์เพชรแก่คุณเปรื่อง และทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสที่พระราชวังพญาไท   สมเด็จพระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า (พระยศในขณะนั้น) ถวายน้ำพระมหาสังข์แด่พระเจ้าอยู่หัว และพระราชทานน้ำพระมหาสังข์แก่คุณเปรื่อง มีการจดทะเบียนสมรสและพระราชทานงานเลี้ยงที่พระราชวังพญาไท และทรงแต่งตั้งเป็นที่ พระสุจริตสุดา พระสนมเอก พร้อมทั้งพระราชทานพระธำมรงค์ทองเกลี้ยง ด้านในจารึก“วันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๔” และโปรดเกล้าฯ ให้ทำเหรียญห้อยคอเป็นรูปหัวใจ ห่วงที่ห้อยเป็นรูป   เพชราวุธ ด้านหน้าลงยาสีขาวมีพระบรมนามาภิไธยย่อ “ราม ๖” และ “สุจริตสุดา” ด้านหลังเขียนวันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ สำหรับพระราชทานแก่ผู้ที่มาร่วมในพระราชพิธี  ในวันนั้นพระสุจริตสุดาแต่งกายแบบเจ้าสาวในประเทศอังกฤษ คือสวมเสื้อกระโปรงสีขาว มีผ้าโปร่งสีขาวคลุมศีรษะประดับดอกส้ม ถือช่อดอกไม้"
ส่งภาพมาให้ดูด้วยแล้วค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ต.ค. 14, 07:16
^
เห็นเหรียญย่อส่วนที่กลัดไว้บริเวณหน้าอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ แล้วสุดยอดจริงๆ ครับ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ต.ค. 14, 09:16
ในวันนั้นพระสุจริตสุดาแต่งกายแบบเจ้าสาวในประเทศอังกฤษ คือสวมเสื้อกระโปรงสีขาว มีผ้าโปร่งสีขาวคลุมศีรษะประดับดอกส้ม ถือช่อดอกไม้"
ส่งภาพมาให้ดูด้วยแล้วค่ะ


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6084.0;attach=51393;image)

มีอีกภาพหนึ่งซึ่งฝ่ายหญิงคล้ายกันทั้งใบหน้าและชุดเจ้าสาว

พระนางเจ้าสุวันทนา พระวรราชเทวี ทรงอภิเษกสมรสกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสวมชุดเจ้าสาว ปล่อยชายด้านหลังยาว โดยมีมหาดเล็กเล็กๆ ถืออยู่ด้านหลัง ทรงถือดอกไม้พุ่มเล็กๆ ทรงสวมมงกุฎดอกส้ม

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4380.0;attach=19396;image)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ต.ค. 14, 09:24
มีมาให้ชมหนึ่งภาพค่ะ.... ;D

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5458.0;attach=37505;image)

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฉายกับ

แถวหลังจากซ้าย - คุณหญิงเฉลา อนิรุทธเทวา, เจ้าพระยารามราฆพ, พระยาอนิรุทธเทวา และคุณหญิงประจวบ สุขุม

แถวหน้าจากซ้าย - พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และพระสุจริตสุดา ในงานฤดูหนาวราว พ.ศ. ๒๔๖๗


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ต.ค. 14, 09:30
ภาพสตรีตรงกลางพอจะมีเค้าพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี บ้างไหม 


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 14, 09:32
 ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 01 ต.ค. 14, 10:29
คุณหญิงเคลื่อนในคห.87 สวยมากๆเลยค่ะ หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา

รอชมภาพงามๆอีกนะเจ้าคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 14, 10:29
ภาพสตรีตรงกลางพอจะมีเค้าพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี บ้างไหม  

น่าจะเหมือนคุณพระสุจริตสุดามากกว่าค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 14, 11:57
ส่งไฮโซโบราณมาให้ดูอีกค่ะ
หญิงสาวชาวสยามแต่แต่งกายอย่างแหม่ม ตั้งแต่ศีรษะจดเท้า    น่าจะเป็นลูกสาวขุนนางไทยที่ไปเป็นทูตประจำอยู่ในยุโรป


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ต.ค. 14, 15:15
ภาพนี้เอามาฝากคุณ han_bing
ไม่ทราบว่าเป็นข้าราชการไทยหรือเปล่า แต่ทรงผมไม่น่าจะใช่


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 14, 17:21
โห  ขุนท่องสื่อหรือนี่?
หรือลูกชายพระยาโชฎึกราชเศรษฐี?


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 14, 17:32
สาวน้อยตาคมคนนี้เป็นคุณหนูอีกคนหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๖    เมื่อโกนจุกแล้วเธอไม่ได้ตัดผมสั้นอย่างรุ่นคุณแม่ แต่ว่าไว้ยาวรวบไว้ทางด้านหลัง  มีรอยหยิกน้อยๆน่าจะจากคีมร้อน    เธอสวมเสื้อแบบฝรั่งนุ่งกับโจงกระเบนไทย มีเข็มขัดผ้ายืดเส้นใหญ่   คงเป็นแฟชั่นของสาวน้อย ที่ยังไม่สาวเต็มตัว จึงไม่สวมเสื้อลูกไม้บางแพรวพรายอย่างคุณแม่   แต่เธอก็ "ติดกีบ" คือสวมถุงน่องรองเท้าแบบฝรั่งครบครัน    เป็นสีขาวล้วนแสดงว่าพิถีพิถันในการแต่งกายให้งดงามเข้าชุด   

เครื่องบ่งบอกฐานะประดับอยู่ทั้งหู ลำคอ ที่มีสร้อยห้อยล็อกเก็ตฝรั่ง  ท่อนบนสวมสร้อยมุกหลายสายควบกันเส้นยาวมาก มีโบหรือเข็มกลัดอะไรสักอย่างที่น่าจะบอกบ่งถึงสังกัดของเธอว่าอยู่กับเจ้านายองค์ไหน กลัดสร้อยมุกไว้ไม่ให้กระจาย 
ส่วนข้อมือและนิ้วนั้น คุณแม่ไม่เว้นจะสวมให้ทั้งมือซ้ายมือขวาทีเดียว  สงสัยคุณแม่มีสร้อยมีแหวนเต็มหีบ 


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 01 ต.ค. 14, 19:25
จากรูปหนุ่มจีนเอาผมเปียรวบไว้บนศีรษะ คือ หลวงพิศาลผลพานิช ผู้สืบทอดธุรกิจการเดินเรือและโรงสีไฟของตระกูลพิศาลบุตร เป็นหลานทวดของพระยาพิศาลศุภผล (เจ๊สัวชื่น)

เจ๊สัวชื่นผู้นี้เป็นเจ้าของเรือกำปั่นกลไฟเมลล์ลำแรกของสยามที่เดินทางระหว่างกรุงเทพและฮ่องกงในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงสยาม

ทั้งนี้ เจ๊สัวชื่น เป็นหลานทวดทางสายมารดาของเจ๊สัวหลินแซ่โหงว ผู้แต่งสำเภาหลวงสมัยกรุงธนบุรี


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ปียะธิดา สุจริตกุล ที่ 01 ต.ค. 14, 21:55
ขอเสนอข้อมูลประกอบภาพจากพิธีอภิเษกสมรสพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ และสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ ในความคิดเห็นที่ 93 ของอาจารย์เทาชมพูค่ะ

"พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคุณประไพ สุจริตกุลเป็นพระอินทราณี ตำแหน่งพระสนมเอก และทรงประกอบพระราชพิธีอภิเษกสมรส เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๔ จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชินี ในวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๕"

ข้อมูลจากหนังสือ 101 ปี สุจริตกุล

สำหรับภาพพระสุจริตสุดาทั้งหมดที่ดิฉันได้นำมาลงในกระทู้นี้ และที่ได้แจ้งว่าเป็นภาพของท่าน รับรองว่าเป็นภาพของท่านจริง ไม่ใช่ภาพคนอื่น และมีอยู่ในหนังสือ 101 ปี สุจริตกุลเช่นกันค่ะ

 


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 14, 11:34
มาถึงไฮโซประจำวันพฤหัสที่ 2 ต.ค. 2557
การแต่งกายตั้งแต่ทรงผมหวีเสยแต่งด้วยขี้ผึ้ง (ซึ่งเทียบได้กับเจลแต่งผมในปัจจุบัน) และเสื้อแขนหมูแฮม บอกบ่งว่าเป็นปลายรัชกาลที่ 5  ถึงต้นรัชกาลที่ 6  
ดิฉันขยายรูปอาภรณ์บนเสื้อไว้เผื่อคุณ V_Mee  อยากทราบว่าเป็นเครื่องราชตระกูลใดตระกูลหนึ่งหรือว่าเป็นจี้เพชร กันแน่

การแต่งกายอลังการตระการตาเกินหน้าสามัญชนแบบนี้   ทำให้สงสัยว่าจะเป็นเจ้าจอมท่านใดท่านหนึ่งในตอนปลายรัชกาลที่ 5 ค่ะ

หมายเหตุ  คุณปัณณพัทธ์ คำนึงค้นพบว่าเป็นภาพของหม่อมอ่อน  รพีพัฒน์ ณ อยุธยา  หม่อมของกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 02 ต.ค. 14, 18:07
อันนี้เป็นรูปถ่ายพระองค์เจ้าหญิง (ชั้นพระธิดาท่านอ๋อง) หวาง หมิน ท่ง (王敏彤) ภาษาจีนเรียกว่า เก่อเก๋อ (格格) ภาษาไทยคงเทียบฉันพระองค์หญิง เป็นสตรีโฉมงาม พระบิดาคือเจ้าคุณทหารผู้ใหญ่แห่งราชวงศ์ชิง (完颜立贤)  พระมารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงอ้ายซินเจี่ยหวัว เฮิงฮุย (爱新觉罗·恒慧) เป็นพระธิดาองค์โตของครอบครัว ประสูติตอนปี ๑๙๑๓

ภาพนี้ถ่ายประมาณ ปี ๑๙๒๐ ปลายๆ

พระชะตาน่าสงสารมาก ข้าพเจ้าอ่านแล้วใจหาย เป็นดี น่ารัก ใจเย็น และไม่ชอบหักหาญน้ำใจใคร รักพระเจ้าปูยีอย่างลึกล้ำ แต่ว่าบังเอิญพระญาติได้รับเลือกเป็นฮ่องเฮา พระองค์หญิงเลยสงบและไม่แสดงออก ตลอดเวลาช่วงที่จีนประสบเหตุการณ์ พระองค์ดูแลทุกคน รักพระเจ้าปูยีจนวันตาย ไม่ยอมแต่งงาน รู้ว่าพระเจ้าปูยีแต่งงานกับคนอื่นก็ได้แต่กรรแสง

อย่างไรก็ตาม ตอนปฏิวัติวัฒนธรรมพระองค์ถูกไล่ออกจากวังที่ประทับ ต้องย้ายไปอยู่ในบ้าน...ขออภัย...บ้านแบบในสลัม กับพระมารดา อดอยากแร้งแค้น แถมถูกประณามทุกวันเป็นเวลา ๑๐ ปีในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม จนในที่สุดพระมารดาก็ประชวรสิ้นพระชนม์ไป เหลือพระองค์ไว้องค์เดียว

อย่างไรก็ตามพระญาติที่พอจะมีฐานะเกื้อกูลได้ก็ไม่ทอดทิ้งพยายามชวนให้พระองค์ไปประทับด้วยกันในหมู่พระญาติ แต่พระองค์ก็ไม่ยอมไป ไปเยี่ยมบ้าง แล้วก็ขอรีบกลับบ้านน้อยของตน ด้วยกลัวคนทำร้าย - เป็นผลจากการปฏิวัติวัฒนธรรม

พระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ๒๐๐๓ นี้เอง หลังจากพระญาติขอร้องให้ไปอยู่ในบ้านพักคนชรา เพราะจะได้ดูแลได้ง่ายขึ้น - ดีกว่าชุมชนแออัดและห้องเล็กๆที่พระองค์ประทับอยู่ พระองค์หญิงเสวยเกี้ยวแล้วสำลัก และสิ้นพระชนม์ลง

ทั้งนี้ สมบัติโบราณที่พระองค์เก็บไว้อาทิ แจกันพระเจ้าเฉียนหลงและอื่นๆ ที่คนขอซื้อมูลค่าเป็นล้านๆหยวน พระองค์ประทานให้พระญาติที่อยู่ และพระญาติที่หนีไปไต้หวัน

ภาพสมัยวัยเยาว์


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 14, 20:36
ภาพถ่ายสองสาว น่าจะเป็นพี่น้องกัน
คนขวาน่าจะเป็นพี่สาว สังเกตจากสะพายแพรซึ่งแต่งกันในหมู่สตรีที่เป็นผู้ใหญ่ออกเรือนแล้ว  คนซ้ายไม่ได้สะพายแพร สวมริ้บบิ้นห้อยจี้เพชร ดูทันสมัยกว่าคนขวาซึ่งสวมสร้อยเพชรสั้นๆแนบคอ
เธอทั้งสองนุ่งโจงกระเบน ทำให้คะเนว่าเป็นภาพถ่ายก่อนปี 2463  
น่าจะเป็นลูกสาวคนมีฐานะดี และทันสมัย   สังเกตจากถุงน่องที่มีลวดลายสวยงาม สีเข้มเข้ากับรองเท้าดำ   ส่วนเสื้อทั้งสองคนก็เป็นลูกไม้ปักสวยงาม   คนขวาสวมเสื้อเนื้อใสมองเข้าไปเห็นชั้นในคอกระเช้าที่มีคอเสื้อลายลูกไม้สวยกว่าคอกระเช้าสมัยนี้แยะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Kunlamata ที่ 02 ต.ค. 14, 21:17
ภาพบุรุษในชุดไทยโบราณท่านนี้ พอจะเป็นไฮโซโบราณได้มั้ยคะ พบจากเวบ2bangkok.com
ไม่มีคำอธิบายใดๆนอกจาก"Old Portrait"


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ต.ค. 14, 09:11
เป็นภาพถ่ายของนายเจียเป็งเซ็ง เจ้าของห้องภาพ Chia Peng Seng เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๖  

ภาพถ่ายนายทหารหนุ่มข้างล่าง ผลงานของนายเจียเป็งเซ็ง  ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: tikky1974 ที่ 03 ต.ค. 14, 12:24
ขอเข้ามาส่องและตอบรูปภาพที่78ด้วยคนนะคะ

ด้านซ้ายสุด คือ คุณเยื้อน ภาณุทัต ค่ะ ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 14, 18:04
รูปนี้หรือคะ คุณเยื้อน ภาณุทัต
ทำไมคุณ siamese ถึงมารวมภาพท่านไว้กับพระวรกัญญาและคุณพระสุจริตสุดาล่ะคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ต.ค. 14, 18:17

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5088.0;attach=32023;image)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 14, 10:38
ไฮโซในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม
สองศรีพี่น้อง อายุอยู่ในวัยรุ่น ยังไม่ได้ออกเรือน
ถ่ายในสตูดิโอ  มีพร็อพคือเก้าอี้ยาว ผ้าม่าน และข้างหลังเป็นภาพวิวขยายใหญ่แทนผนังเปล่าๆ 
การแต่งกายอยู่หลังปี 2463  ประมาณ 2464-68   นุ่งซ่ิน สวมเสื้อตัวยาวเป็นผ้าแพรบางเบาเหมาะกับอากาศในสยาม
ผมสยายยาว  หากว่าโตเป็นสาวใหญ่ ออกเรือนแล้วก็คงจะรวบเป็นมวย คนขวามีโบผูกผมด้วย สวมถุงน่องดำรองเท้าดำเข้าชุด แสดงความทันสมัย  ถ้าถุงน่องขาวรองเท้าดำย่อมถือว่าเชยไปหน่อย

ลักษณะเธอทั้งสองพอจะเป็นนางเอกนางรองในนิยายของดอกไม้สดได้   ความเป็นคุณหนูแสดงออกที่อาภรณ์ประดับกาย  สองคนนี้พ่อแม่คงรวย  สวมสร้อยข้อมือทั้งซ้ายขวา แถมนาฬิกาข้อมืออีกด้วย   แหวนก็พราวอยู่บนนิ้วหลายวง 
เสื้อถ่ายไม่ชัด ไม่งั้นคงเห็นสร้อยคอ จี้ เข็มกลัด เพิ่มอีกหลายชิ้นค่ะ



กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: tikky1974 ที่ 04 ต.ค. 14, 10:47
รูปนี้หรือคะ คุณเยื้อน ภาณุทัต
ทำไมคุณ siamese ถึงมารวมภาพท่านไว้กับพระวรกัญญาและคุณพระสุจริตสุดาล่ะคะ


อาจจะเป็นเพราะคุณเยื้อนอยู่ในยุคเดียวกันมั๊งคะ? ดิฉันเดาเอาเองนะคะ ;D

ท่านเป็นครูสอนการเรือน เก่งเรื่องปักผ้าเป็นพิเศษ เคยมีโรงเรียนการเรือนภาณุทัต ที่วังบูรพา
และท่านก็เป็นหลานลุงของพระยาอัพตริกามาตย์ (จ่าง ภาณุทัต) สมัยนั้นท่านก็คงไฮโซอยู่บ้าง

มีรูปคุณเยื้อนติดอยู่ที่พระราชวังมฤคทายวันด้วยนะคะ ดิฉันทราบเพราะเป็นภาณุทัตเหมือนกัน
แต่อยู่ปลายแถวโน้นเลยค่ะ...คุณทวดของดิฉันเคยลี้ภัยไปกับท่านด้วย ครอบครับเลยได้รู้เรื่อง
ราวของท่านมาบ้าง...

แต่ที่เป็นไฮไลท์จริงๆน่าจะเป็นเพราะท่านเคยเกี่ยวดองกันกับราชสกุล พึ่งบุญ :-X   ซึ่ง ณ เวลานั้นน่าจะไฮโซที่สุดแล้วนะคะ

ขอออกตัวก่อนนะคะว่านี่เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันในครอบครัวดิฉัน มิได้มีเจตนาไปในทางไม่ดี  :Dผิดพลาดประการใดขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ



กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 14, 19:05
http://ratthasil.blogspot.com/ (http://ratthasil.blogspot.com/)

ข้าพเจ้าคือเลือดหยดเดียวที่ยืนอยู่บนพื้นโลก ไม่มีญาติวงษ์พงศาอะไรที่ใหน ตัวคนเดียวจริงๆ เพราะฉะนั้นต้องช่วยตัวเอง หาเงินใช้เอง สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง สร้างความสุขให้ตัวเอง ทุกสิ่งเพราะตัวคนเดียว จะเหลียวหน้าไปหาใคร และอยู่ในสภาพเหมือนถูกเตาไฟแผดเผาให้เร่าร้อนอยู่ทุกวันคืน และขอปฏิญาณไว้ว่าถ้าใครมาทำอะไร หรือมาจุกจิก ข้าพเจ้าเป็นต้องสู้ทีเดียว เดิมตั้งใจใว้ว่าภายในอายุยี่สิบถึงสามสิบปี ข้าพเจ้าต้องมีทั้งทรัพย์และชื่อเสียงในงานประณีตศิลป์ ครั้นผ่านมาจนบัดนี้ข้าพเจ้ายังไม่มีเงิน จึงคิดได้ว่าข้าพเจ้ามีวาสนาพิเศษอะไรจึงต้องการทั้งเงินและชื่อเสียง ต่อไปนี้จึงขอตัดขาดกับเงิน ต้องการเพียงชื่อเสียงอย่างเดียว มนุษย์เราควรใช้เงินเท่าที่มี มีมากก็ใช้มาก มีน้อยก็ใช้น้อย เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าไม่อยากสอนอะไรให้ใครอีกเลย ไม่มีประโยชน์ ให้เท่าที่เขามีภาชนะรองรับ บางคนคว่ำขันมา ก็ไม่ได้ใส่อะไรไปเลย ข้าพเจ้าเห็นว่าการช่างนี้เป็นของกายสิทธิ์ ผู้รับต้องเป็นผู้มีวาสนา วิชานี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ อยู่กับเด็กๆก็น่ารัก อยู่กับสาวๆก็สวยขึ้น อยู่กับคนแก่ก็น่าเคารพ จึงไม่สมควรที่จะเอาของดีๆมาให้คนที่ไม่เห็นประโยชน์ บางคนเรียนไปแล้วเอาไปทิ้งๆขว้างๆข้าพเจ้าสงสารเพราะฉะนั้นก็ไม่ให้ไปอีก ขอเอาติดตัวตายไปเสียดีกว่า ตั้งแต่อายุยี่สิบปีมานี่ข้าพเจ้าไม่มีคู่เทียบจนกระทั่งบัดนี้ มาบัดนี้นั้นเป็นของแน่นอน มาหาใครเทียบไม่ได้ เพราะข้าพเจ้ารู้เห็นของเก่ามาเยอะ ใด้ประดิษฐ์งานมามาก ก็ช่างสังเกตุช่างจำ เป็นเครื่องเรืองปัญญา ข้าพเจ้าเป็นคนอาภัพเพราะเป็นคนหลังแข็งสักหน่อย ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ไม่ว่าใครทั้งนั้นเลย เป็นคนหยิ่งมาก เราถือว่าทำงานแลกข้าว แล้วเราก็กินข้าวของเรา จริงอยู่ข้าพเจ้าไม่มีวาสนาไม่มีเงินอย่างเขา แต่บางอย่างเขาก็ไม่มีเหมือนกับเรา เพราะฉะนั้นก็ยกย่องตัวเอง เป็นคนยกย่องไม่เหยียบตัว ถ้าเราไปก้มราบกราบงามเสียแล้ว เขาจะมาทำอะไรเรามีแต่เขาจะเหยียบเรา ที่มีคนริษยามากก็ดีเชียว สังเกตุคนเลวๆต่ำๆ ไม่มีคนริษยาเลย เพราะฉะนั้นถือว่า เขาอิจฉาดีกว่าเขาสงสาร วันนี้อยู่นี่พรุ่งนี้อาจไปอยู่ที่ใหนก็ได้ ชีวิตคนนั้นไม่แน่ ที่มีความรุ้ไว้นี่ เอาไว้หากินในทุกที่ๆจรไป มีศิลปะติดตัวไปเหมือนเป็นบารมี


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 14, 17:55
นางชัด ณ ระนอง ธิดาคนที่ 2 ของพระยาประดิพัทธภู​บาล (คอยู่เหล ณ ระนอง)กับคุณหญิงคลับ​ ประดิพัทธภูบาล​ ธิดาเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุน​นาค)

นางชัด ณ ระนองเป็นภรรยาจหมื่นรณภพพิชิต (คอยู่เตี่ยน) บุตรพระยาจรูญราชโภคากร (คอซิมเต็ก ณ ระนอง)  ภายหลังหย่าขาดกัน​ มีบุตรธิดา​  8​  คน​

1.นางจิตรา​ ตัณฑวณิช
2.นายคาร  ณ​ ระนอง3.นายกำธร  ณ​ ระนอง
4.ดญ.รชัฎ​ ณ​ ระนอง​ (วายชนม์)
5.นายอำนาจ  ณ​ ระนอง
6.นางเฉิดฉัน  ณ​ ระนอง
7.นางชยาศรี​ ภราดรชัย
8.นางสุชาดา​ ปัญยวนิช


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 14, 10:05
พามาพบอีกคนในเช้าวันจันทร์
ภาพนี้..ดูมาดแล้ว   คุณหญิงแม่ แน่ๆค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 06 ต.ค. 14, 10:29
ภาพนี้ถ่ายในตอนปลายรัชกาลที่ ๖     เสียดายไม่เห็นว่าท่อนล่างของสาวงามคนนี้เป็นผ้าซิ่นหรือโจงกระเบน   แต่ก็ดูจากเสื้อว่าเป็นสาวทันสมัย  ห้อยทับทรวงอันใหญ่ราคาไม่เบา บนเรือนผมติดเข็มเพชรยาวๆ ลักษณะเป็นเข็มพระนามเจ้านาย   เธอเป็นเจ้านายสตรีหรือภรรยาข้าราชการสำคัญกันแน่
รู้แต่ว่าเธอสวยมาก  หน้าใสแป๋วแหวว  ดูเป็นนางเอกทีเดียว   เคยเล่นละครพระราชนิพนธ์หรือเปล่าหนอ
รู้จักยิ้มหวานประสานสายตาให้กล้อง  ยืนแบบมีมาดไขว้มือไว้ข้างหลังเสียด้วย   ไม่เกร็งเลย  เหมือนชินกับสายตาคนมากๆอยู่แล้ว  

สาวน้อยท่านนี้งดงามมากๆเลยค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 14, 11:49
สวยจนอยากรู้จักชื่อค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 14, 12:33
มาให้ดูอีกรูปหนึ่งค่ะ
คุณแม่กับสาวน้อยวัยสิบขวบ แสดงความรักที่อบอุ่นต่อกันมาก  คุณแม่ท่าทางมีระเบียบแต่คงจะใจดี  เห็นได้จากลูกสาวก็ดูสนิทชิดใกล้ คลอเคลียกับแม่อย่างไม่เกร็ง
รูปนี้น่าจะถ่ายปลายรัชกาลที่ ๕ หรือต้นรัชกาลที่ ๖ ทั้งแม่และลูกแต่งกายงามมาก    เสื้อผ้าเป็นของมีราคาทั้งสองชุด   คุณแม่ยังคงหวีผมสั้น   เสยด้วยขี้ผึ้งเหมือนสมัยปลายรัชกาลที่ ๕    ลูกสาวเมื่อโกนจุกแล้วก็ไม่ตัดผม แต่ไว้ยาวเหมือนเด็กฝรั่ง ตามแฟชั่นผมทรงใหม่ในสมัยรัชกาลที่ ๖
ที่น่าสนใจคือโจงกระเบนคุณแม่ ไม่ใช่ผ้าไทยอย่างผ้าลายหรือผ้ายกซึ่งเนื้อแข็งเดินสวบสาบ   แต่เป็นผ้าฝรั่งเนื้อนุ่มลักษณะคล้ายผ้าแพรชนิดหนา  มีรอยรีดเป็นรอยพับเล็กๆลงมา  แต่ไม่มีรอยอัดก๊อปปี้อย่างผ้าไทย   โจงกระเบนของลูกสาวก็แบบเดียวกัน  น่าจะเป็นผ้าฝรั่งด้วยกันทั้งสองแบบ
ถนิมพิมพาภรณ์บนตัวคุณแม่บอกให้รู้ว่าฐานะคุณพ่อเห็นจะไม่น้อยหน้าใคร ลูกเมียจึงแต่งเครื่องประดับกันงามเพียบ  แต่บนเสื้อนั้นขาดเข็ม จี้  หรือเครื่องประดับพระราชทานและประทาน    จึงขอเดาว่าคุณแม่น่าจะเป็นคุณนายของคุณหลวงหรือคุณพระ  แต่ไม่ใช่คุณหญิงของพระยา


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: tikky1974 ที่ 06 ต.ค. 14, 13:00
http://ratthasil.blogspot.com/ (http://ratthasil.blogspot.com/)

ข้าพเจ้าคือเลือดหยดเดียวที่ยืนอยู่บนพื้นโลก ไม่มีญาติวงษ์พงศาอะไรที่ใหน ตัวคนเดียวจริงๆ เพราะฉะนั้นต้องช่วยตัวเอง หาเงินใช้เอง สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง สร้างความสุขให้ตัวเอง ทุกสิ่งเพราะตัวคนเดียว จะเหลียวหน้าไปหาใคร และอยู่ในสภาพเหมือนถูกเตาไฟแผดเผาให้เร่าร้อนอยู่ทุกวันคืน และขอปฏิญาณไว้ว่าถ้าใครมาทำอะไร หรือมาจุกจิก ข้าพเจ้าเป็นต้องสู้ทีเดียว เดิมตั้งใจใว้ว่าภายในอายุยี่สิบถึงสามสิบปี ข้าพเจ้าต้องมีทั้งทรัพย์และชื่อเสียงในงานประณีตศิลป์ ครั้นผ่านมาจนบัดนี้ข้าพเจ้ายังไม่มีเงิน จึงคิดได้ว่าข้าพเจ้ามีวาสนาพิเศษอะไรจึงต้องการทั้งเงินและชื่อเสียง ต่อไปนี้จึงขอตัดขาดกับเงิน ต้องการเพียงชื่อเสียงอย่างเดียว มนุษย์เราควรใช้เงินเท่าที่มี มีมากก็ใช้มาก มีน้อยก็ใช้น้อย เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าไม่อยากสอนอะไรให้ใครอีกเลย ไม่มีประโยชน์ ให้เท่าที่เขามีภาชนะรองรับ บางคนคว่ำขันมา ก็ไม่ได้ใส่อะไรไปเลย ข้าพเจ้าเห็นว่าการช่างนี้เป็นของกายสิทธิ์ ผู้รับต้องเป็นผู้มีวาสนา วิชานี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ อยู่กับเด็กๆก็น่ารัก อยู่กับสาวๆก็สวยขึ้น อยู่กับคนแก่ก็น่าเคารพ จึงไม่สมควรที่จะเอาของดีๆมาให้คนที่ไม่เห็นประโยชน์ บางคนเรียนไปแล้วเอาไปทิ้งๆขว้างๆข้าพเจ้าสงสารเพราะฉะนั้นก็ไม่ให้ไปอีก ขอเอาติดตัวตายไปเสียดีกว่า ตั้งแต่อายุยี่สิบปีมานี่ข้าพเจ้าไม่มีคู่เทียบจนกระทั่งบัดนี้ มาบัดนี้นั้นเป็นของแน่นอน มาหาใครเทียบไม่ได้ เพราะข้าพเจ้ารู้เห็นของเก่ามาเยอะ ใด้ประดิษฐ์งานมามาก ก็ช่างสังเกตุช่างจำ เป็นเครื่องเรืองปัญญา ข้าพเจ้าเป็นคนอาภัพเพราะเป็นคนหลังแข็งสักหน่อย ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ไม่ว่าใครทั้งนั้นเลย เป็นคนหยิ่งมาก เราถือว่าทำงานแลกข้าว แล้วเราก็กินข้าวของเรา จริงอยู่ข้าพเจ้าไม่มีวาสนาไม่มีเงินอย่างเขา แต่บางอย่างเขาก็ไม่มีเหมือนกับเรา เพราะฉะนั้นก็ยกย่องตัวเอง เป็นคนยกย่องไม่เหยียบตัว ถ้าเราไปก้มราบกราบงามเสียแล้ว เขาจะมาทำอะไรเรามีแต่เขาจะเหยียบเรา ที่มีคนริษยามากก็ดีเชียว สังเกตุคนเลวๆต่ำๆ ไม่มีคนริษยาเลย เพราะฉะนั้นถือว่า เขาอิจฉาดีกว่าเขาสงสาร วันนี้อยู่นี่พรุ่งนี้อาจไปอยู่ที่ใหนก็ได้ ชีวิตคนนั้นไม่แน่ ที่มีความรุ้ไว้นี่ เอาไว้หากินในทุกที่ๆจรไป มีศิลปะติดตัวไปเหมือนเป็นบารมี

[/quote

ได้อ่านแล้วค่ะ ถึงไม่ได้อ่านก็ทราบค่ะ และไม่แปลกใจซักนิด ว่าทำไมท่านถึงกล่าวไว้เช่นนั้น


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 14, 08:16
ดูมาดแล้วน่าจะเป็นสาวมั่น สมัยต้นรัชกาลที่ ๖  เพราะทรงผมบอกเช่นนั้น

หน้าตาคมคาย  ยืนสง่าผ่าเผย    สวมถุงน่องหนาแบบผู้ชาย รองเท้าคัทชูสีดำ โจงกระเบนผ้าไหมมีรอยอัดก๊อปปี้
ไม่มีเครื่องราช แต่ประดับกายด้วยสร้อยเพชร และสร้อยข้อมือกับแหวนพองาม  สะพายแพรตามระเบียบการแต่งกาย   ในเมื่อถ่ายคนเดียวไม่มีคู่ก็เดาว่าเป็นสาวโสด และคงจะฐานะดี

เห็นแล้วนึกถึงพระเอกละครยังไงก็ไม่รู้ค่ะ

ค้นพบภายหลัง   คุณเจริญ ศิริสัมพันธ์  สมรสกับพระศรีรัถจักร (สิน ธนะสุนทร)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ต.ค. 14, 08:57
นึกถึงนางเอก "เจ้าฮะ"  ;)

http://www.youtube.com/watch?v=405Zf68airA#ws (http://www.youtube.com/watch?v=405Zf68airA#ws)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 14, 09:12
นึกถึงนางเอก "เจ้าฮะ"  ;)

http://www.youtube.com/watch?v=405Zf68airA#ws (http://www.youtube.com/watch?v=405Zf68airA#ws)

นึกถึงคนนี้


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 14, 10:23
มาถึงภาพคู่ภาพนี้   รู้ชื่อว่าฝ่ายชายคือพระยาจินดารักษ์(จำลอง สวัสดิ์-ชูโต) และฝ่ายหญิงคือคุณหญิงเสมอ
ท่านรับราชการเป็นมหาดเล็กวิเศษในกองราชเลขานุการในรัชกาลที่ ๖   เลื่อนเป็นนายรองพลพันและหุ้มแพร ต่อมารับราชการที่กระทรวงมหาดไทย

รายละเอียดที่เหลือคุณเพ็ญชมพูน่าจะต่อเติมให้ครบได้


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ต.ค. 14, 11:05
ฝ่ายหญิงคือ คุณหญิงจินดารักษ์ (เสมอใจ สวัสดิ์-ชูโต) (http://www.digitalrarebook.com/index.php?lay=show&ac=cat_show_pro_detail&cid=16132&pid=82110) สกุลเดิม อมาตยกุล นามปากกา " ซันฟลาวเวอร์" นักแปลสตรีคนแรก เจ้าของผลงานแปลนวนิยาย ๓ เล่ม คือเรื่อง ไข่มุกซึ่งมีค่า, มรดกชั่วร้ายของตระกูล และเครื่องเพชรของแดนเวอรส์  ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 07 ต.ค. 14, 21:28
เรียนถามอาจารย์เทาชมพู  เกี่ยวกับแม่ลูกในค.ห.117ค่ะ

1.อะไรเป็นตัวบ่งชี้ว่าคนแม่ไม่ได้เป็นคุณหญิง ดูตรงจากไหนหรือคะ

2.ลูกสาวน่าจะยังอยู่ระดับม.ต้น  สมัยนั้นโรงเรียนไม่บังคับเรื่องทรงผมใช่ไหมคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 14, 21:42
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6084.0;attach=51554;image)

้้ทั้งหมดนี้คือเดาเอานะคะ แต่เดาอย่างมีเหตุผลประกอบ
๑    คุณหญิงของพระยา มักจะได้รับพระราชทานตราจุลจอมเกล้าเช่นเดียวกับสามี     ก็จะนำมาประดับเสื้อในโอกาสพิเศษอย่างในเวลาถ่ายรูป แต่งกายอลังการเต็มยศ
ถ้าหากว่าไม่ได้รับพระราชทานตรา  หรือได้รับแต่ไม่โชว์ในภาพถ่าย   ภรรยาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มักเป็นชาววังมาก่อน  ก็จะได้รับพระราชทานเข็มกลัดเสื้อพระนามย่อของเจ้านาย  ไว้กลัดบนแพรสะพาย   หรือจี้ห้อยคอมีพระนามย่อ เป็นเครื่องบ่งบอกฐานะอันสูงในสังคม
คุณแม่ในภาพไม่มีลักษณะดังกล่าว
แต่เมื่ออายุมากขึ้นท่านอาจจะได้เป็นคุณหญิง ตามบรรดาศักดิ์ของสามีก็ได้

๒   ในรัชกาลที่ ๖  ภาคบังคับคือแค่ประถม ๓  สูงกว่าน้ันจะเรียนหรือไม่เรียนในร.ร.ก็ได้  การแต่งกายและทรงผม ไม่มีข้อบังคับค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 08 ต.ค. 14, 06:23
ภาพพระยาจินดารักษ์ภาพนั้นน่าจะถ่ายไว้เมื่อแรกสมรส  ในภาพท่านเจ้าคุณแต่งเครื่องแบบปกติข้าราชการในพระาชสำนักสังกัดมหาดเล็ก ยศชั้นหุ้มแพร เทียบนายร้อยเอก

พระยาจินดารักษ์มีพี่น้องร่วมบิดามารดาที่มีชือขุึ้นต้นว่า "จำ" รวม ๓ คนคือ
พระยากรุงศรีสวัสดิการ (จำรัส  สวัสดิ์ - ชูโต)
พระยานรเทพปรีดา (จำเริญ  สวัสดิ์ - ชูโต)
พระยาจินดารักษ์ (จำลอง  สวัสดิ์ - ชูโต)
ทั้งสามท่านนี้ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในรัชกาลที่ ๖ มาแต่ก่อนเสด็จเสวยราชย์  เมื่อพระราจินดารักษ์ขอพระราชทานชื่อให้แก่บุตรชายคนหนึ่ง  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานชื่อให้ว่า "จำเรา" เป็นการสืบตระกูล "จำ"


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 08 ต.ค. 14, 08:58
อยากเห็นภาพการคล้องแพรสะพายชัดๆบ้างค่ะ ไล่ดูรูปเก่าเห็นไม่ชัดเลย(ประเด็นคืออยากแต่งตามค่ะ)

อันนี้เอารูป(แต่งเป็น)ไฮโซโบราณของสมัยนี้มาให้ดูเล่นๆค่ะ ได้มาจากเพื่อนไม่ทราบที่มา


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ต.ค. 14, 09:07
พระยาจินดารักษ์มีพี่น้องร่วมบิดามารดาที่มีชือขุึ้นต้นว่า "จำ" รวม ๓ คนคือ
พระยากรุงศรีสวัสดิการ (จำรัส  สวัสดิ์ - ชูโต)
พระยานรเทพปรีดา (จำเริญ  สวัสดิ์ - ชูโต)
พระยาจินดารักษ์ (จำลอง  สวัสดิ์ - ชูโต)


พระยาจินดารักษ์มีพี่น้องชื่อขึ้นต้นด้วย "จำ" อีกคนหนึ่งคือ หลวงราชปราการ (จำรูญ สวัสดิ์ - ชูโต)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ต.ค. 14, 09:16
เมื่อพระราจินดารักษ์ขอพระราชทานชื่อให้แก่บุตรชายคนหนึ่ง  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานชื่อให้ว่า "จำเรา" เป็นการสืบตระกูล "จำ"

คุณ "จำเรา" ปัจจุบันคือคุณดุษฎี สวัสดิ์-ชูโต


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 14, 17:58
อยากเห็นภาพการคล้องแพรสะพายชัดๆบ้างค่ะ ไล่ดูรูปเก่าเห็นไม่ชัดเลย(ประเด็นคืออยากแต่งตามค่ะ)

อันนี้เอารูป(แต่งเป็น)ไฮโซโบราณของสมัยนี้มาให้ดูเล่นๆค่ะ ได้มาจากเพื่อนไม่ทราบที่มา
ขอให้คุณนางมารน้อยย้อนไปดูรูปคุณหญิงแม่ใน #114 อีกครั้ง  ตอนแรกไม่ทันสังเกต เห็นมาดก็เชื่อว่าเป็นคุณหญิง ตอนนี้รู้ว่าสัญชาตญาณแม่นเหมือนกัน
ขอให้สังเกตแพรสะพายของท่าน    เป็นแพรสะพายค่อนข้างตึงจากบ่าซ้ายไปเอวขวา  มีลวดลายปักดอกบนนั้น   นี่คือสายสะพายแพรปัก สำหรับสตรีที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าฝ่ายใน  ส่วนใหญ่คือเอกภรรยาของพระยา
สายสะพายแพรปักนี้เรียกเป็นทางการว่า แพรห่มเครื่องยศ   คุณจุลลดา ภักดีภูมินทร์หรือม.ล.ศรีฟ้า ลดาวัลย์ เคยอธิบายไว้ตามนี้

"คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ บอกเล่ามาว่าได้เห็นภาพของ คุณหญิงสังวาล อภัยรณฤทธิ์ คุณทวดของเธอ ห่มผ้าแพรปักดอกคล้าย ๆ ปักด้วยดิ้น เมื่อแรกเข้าใจว่าเป็นผ้าห่มธรรมดาทั่วไป แต่ผู้ใหญ่บอกว่าเป็นแพรห่มเครื่องยศ จึงถามมาว่าเคยทราบเรื่องแพรห่มเครื่องยศดังกล่าวหรือไม่-
คำถามนี้ทำให้ต้องค้นเป็นการใหญ่ เพราะเรียนตรง ๆ ว่า เมื่อแรกก็ไม่ทราบเช่นกัน
ปรากฏว่ามีอยู่ในตำนานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าฝ่ายใน ซึ่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้น โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับจุลจอมเกล้าฯ ฝ่ายในไว้"


แพรห่มนี้จะห่มค่อนข้างตึง  คล้ายนางแบบที่คุณมารน้อยนำมาให้ดูค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 14, 18:11
ส่วนการคล้องแพรสะพายทั่วไป    เขาใช้แพรเนื้อนิ่มบาง หรือถ้าไหมก็ไหมบาง  สะพายจากไหล่ซ้ายไปเอวขวา  ดึงให้หย่อนๆอยู่ตรงเอวซ้าย  ไม่ดึงตึงอย่างภาพที่คุณนางมารน้อยหามาให้ดู
ถ้าผ้าเนื้อแข็งจะหย่อนลงมาไม่สวย  ดูกระด้างเกินไป
แพรพวกนี้นิยมสีขาวหรือนวล ยกดอกในตัว สีเข้มก็พอจะมีแต่ไม่นิยมมากเท่าสีอ่อนๆ  ดูเรียบร้อยเป็นผู้ดี   ถ้าเป็นสีฉูดฉาดหรือดอกดวงลายพร้อยจะไปตีกับเสื้อ ถ้าเป็นเสื้อขาวก็พอไหว  แต่ก็ไม่นิยมเท่าแพรสีอ่อนๆซึ่งกลืนกับสีเสื้อค่ะ
แพรสะพายนี้ต้องตรึงด้วยเข็มเครื่องประดับ   ไม่งั้นความบางและลื่นของเนื้อแพรจะทำให้ลื่นหลุดจากบ่า  จึงต้องตรึงเอาไว้หลายแห่ง ทั้งบ่า อกเสื้อและด้านหลังด้วย    เป็นเหตุให้สมัยนั้นนิยมเข็มกลัดเพชรกันมาก  ใครเป็นนางข้าหลวงก็จะได้รับเข็มกลัดพระนามย่อจากเจ้านายให้ตรึงบนแพรสะพาย   บางคนก็มีหลายอัน  ติดตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง แพรวพราวไปหมดบนเสื้อ  ไม่ปล่อยไว้โล่งๆ หรือมีแต่เข็มกลัดซ่อนปลาย ยังงั้นถือว่าเชย


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 08 ต.ค. 14, 19:10
(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfa1/v/t1.0-9/27725_127178630636438_6521890_n.jpg?oh=a32ea4eb43c5459995e0390e012aa2b5&oe=54B3ED24&__gda__=1421003103_f85e8523b3f5dd0a3cc4232d6f8b68e9)

ขออนุญาตเอารูปไฮโซบ้านนอกจากปัตตานีมาร่วมแสดงครับ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 14, 19:14
สมัยรัชกาลที่ ๕ ใช่ไหมคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 08 ต.ค. 14, 19:24
สมัยรัชกาลที่ ๕ ใช่ไหมคะ


ใช่ครับ ท่านถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๗ ครับ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 14, 20:31
การแต่งกายของท่าน ไม่แพ้ชาววังเลยนะคะ    ทันสมัยมากในปัตตานี
ท่านเป็นภรรยาของใครคะ  ดูจากเสื้อผ้าและฉากหลัง  คงเป็นคหปตานีของปัตตานี


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 08 ต.ค. 14, 21:01
การแต่งกายของท่าน ไม่แพ้ชาววังเลยนะคะ    ทันสมัยมากในปัตตานี
ท่านเป็นภรรยาของใครคะ  ดูจากเสื้อผ้าและฉากหลัง  คงเป็นคหปตานีของปัตตานี

บิดาท่านคือหลวงจีนคณานุรักษ์(จูล้าย แซ่ตัน) หัวหน้าชาวจีนเมืองปัตตานี เป็นผู้ที่จัดการรับเสด็จล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ที่เมืองปัตตานี
และเป็นผู้รับสนองพระราชดำริจัดสร้างศาลาการเปรียญที่วัดตานีนรสโมสร
สามีของท่านคือพระยาพิทักษ์ธรรมสุนทร (กล้าย โกไศยกานนท์) เมื่อครั้งยังเป็นที่หลวงธรรมรัฐธุราธร
นางกุ้ยฮวย ถึงแก่กรรมตั้งแต่อายุยังน้อย เลยไม่ได้เป็นคุณหญิงพระยาพานทองครับ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 14, 21:15
 :)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 09 ต.ค. 14, 10:21
ส่วนการคล้องแพรสะพายทั่วไป    เขาใช้แพรเนื้อนิ่มบาง หรือถ้าไหมก็ไหมบาง  สะพายจากไหล่ซ้ายไปเอวขวา  ดึงให้หย่อนๆอยู่ตรงเอวซ้าย  ไม่ดึงตึงอย่างภาพที่คุณนางมารน้อยหามาให้ดู
ถ้าผ้าเนื้อแข็งจะหย่อนลงมาไม่สวย  ดูกระด้างเกินไป
แพรพวกนี้นิยมสีขาวหรือนวล ยกดอกในตัว สีเข้มก็พอจะมีแต่ไม่นิยมมากเท่าสีอ่อนๆ  ดูเรียบร้อยเป็นผู้ดี   ถ้าเป็นสีฉูดฉาดหรือดอกดวงลายพร้อยจะไปตีกับเสื้อ ถ้าเป็นเสื้อขาวก็พอไหว  แต่ก็ไม่นิยมเท่าแพรสีอ่อนๆซึ่งกลืนกับสีเสื้อค่ะ
แพรสะพายนี้ต้องตรึงด้วยเข็มเครื่องประดับ   ไม่งั้นความบางและลื่นของเนื้อแพรจะทำให้ลื่นหลุดจากบ่า  จึงต้องตรึงเอาไว้หลายแห่ง ทั้งบ่า อกเสื้อและด้านหลังด้วย    เป็นเหตุให้สมัยนั้นนิยมเข็มกลัดเพชรกันมาก  ใครเป็นนางข้าหลวงก็จะได้รับเข็มกลัดพระนามย่อจากเจ้านายให้ตรึงบนแพรสะพาย   บางคนก็มีหลายอัน  ติดตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง แพรวพราวไปหมดบนเสื้อ  ไม่ปล่อยไว้โล่งๆ หรือมีแต่เข็มกลัดซ่อนปลาย ยังงั้นถือว่าเชย

ขอบพระคุณสำหรับคำอธิบายอย่างละเอียดของอาจารย์เทาชมพูค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ต.ค. 14, 11:43
สายสะพายแพรปักนี้เรียกเป็นทางการว่า แพรห่มเครื่องยศ   คุณจุลลดา ภักดีภูมินทร์หรือม.ล.ศรีฟ้า ลดาวัลย์ เคยอธิบายไว้ตามนี้

"คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ บอกเล่ามาว่าได้เห็นภาพของ คุณหญิงสังวาล อภัยรณฤทธิ์ คุณทวดของเธอ ห่มผ้าแพรปักดอกคล้าย ๆ ปักด้วยดิ้น เมื่อแรกเข้าใจว่าเป็นผ้าห่มธรรมดาทั่วไป แต่ผู้ใหญ่บอกว่าเป็นแพรห่มเครื่องยศ จึงถามมาว่าเคยทราบเรื่องแพรห่มเครื่องยศดังกล่าวหรือไม่-
คำถามนี้ทำให้ต้องค้นเป็นการใหญ่ เพราะเรียนตรง ๆ ว่า เมื่อแรกก็ไม่ทราบเช่นกัน
ปรากฏว่ามีอยู่ในตำนานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าฝ่ายใน ซึ่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้น โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับจุลจอมเกล้าฯ ฝ่ายในไว้"

พระราชบัญญัติฯ (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2436/032/346.PDF) มาตรา ๑๖ นั้นว่าดังนี้

“มาตรา ๑๖ เครื่องยศสำหรับสมาชิกฝ่ายในนั้น คือ

แพรห่มสีชมภูปักดิ้นเลื่อมลายทอง

ชั้นที่ ๑  ปักเป็นอักษร จ.๓ ตัวไขว้กันเป็นหย่อม กว้าง ๒ นิ้ว มีใบชัยพฤกษ์เป็นแหย่ง ชายผ้ามีรูปตราปฐมจุลจอมเกล้า

ชั้นที่ ๒  ปักลายอย่างเดียวกับที่ ๑ แต่หย่อมกว้างเพียงนิ้วกึ่ง ชายผ้าเป็นรูปตราวิเศษของทุติยจุลจอมเกล้า

ชั้นที่ ๓  ปักเป็นอักษร จ.๓ ตัว เป็นหย่อมกว้างนิ้วหนึ่ง ไม่มีแหย่ง ชายผ้าเป็นรูปดวงตราตติยจุลจอมเกล้า แต่กลางดวงตราเป็น จ.๓ ตัว แทนพระบรมรูป

ชั้นที่ ๔  ปักเป็นหย่อมอย่างชั้นที่ ๒ แต่หย่อมกว้างเพียงกึ่งนิ้ว เป็นดอกรายไป ชายผ้าเป็นรูปดวงตราจตุตถจุลจอมเกล้า แต่ใช้อักษร จ.๓ ตัวแทนพระบรมรูป”

แพรห่มเครื่องยศนี้ในรัชกาลที่ ๕ บางวาระโปรดฯให้ใช้สีขาวได้

เรื่องนี้พบในหนังสือที่ระลึกงานฌาปนกิจศพ นางชิด หุ้มแพร (เอื้อน ลดาวัลย์ ณ อยุธยา) ซึ่งท่านเป็นบุตรีของพระมหาราชครู พราหมณ์พิธีในราชสำนัก

เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ (ลดาวัลย์) ในรัชกาลที่ ๕ ได้เขียนเล่าประวัติของ นางชิด หุ้มแพร เกี่ยวกับพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒสัตยาฝ่ายในเอาไว้ว่า

“เมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ นั้น จะมีพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒสัตยาปีละ ๒ ครั้ง จนตลอดรัชกาล ตามพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒสัตยานี้ มีพราหมณ์อ่านตำราคำแช่งน้ำ ทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน

สำหรับฝ่ายใน ผู้อ่านโองการแช่งน้ำในพระราชพิธี คือ คุณจอมอิ่มซึ่งเป็นป้าแท้ ๆ ของคุณเอื้อนน้องสะใภ้ของข้าพเจ้า คุณจอมอิ่มขึ้นอยู่กับเจ้าคุณพระประยุรวงศ์ ท่านอยู่ในตำหนักเจ้าคุณพระประยุรวงศ์ทีเดียว คุณจอมอิ่มเวลาทำพิธีอ่านโองการ ต้องแต่งขาวทั้งตัว แม้แต่แพรปักที่สำหรับเกียรติยศของเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ก็ต้องใช้ต่วนขาวปักดิ้นเงิน แทนที่จะเป็นสีชมภูปักดิ้นทองตามปกติ”

จากกระทู้ เรื่องสายสะพาย (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1944.0)  ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 09 ต.ค. 14, 14:51
เคยเห็นของคุณท้าววรจันทร์ (เจ้าจอมมารดาวาด ในรัชกาลที่ 4) จำได้ว่าคำบรรยายใต้ภาพบอกว่านุ่งเครื่องยศ ประกอบเครื่องราชจุลจอมเกล้าครับ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ต.ค. 14, 20:39
ภาพนี้เห็นครึ่งตัวบน  ไม่เห็นผ้านุ่งของท่าน เลยไม่ทราบว่าท่านนุ่งเครื่องยศอย่างไรคะ

มีรูปไฮโซมาให้อีกรูป ประจำวันนี้

สตรีผู้นี้น่าจะเป็นชาววังมาก่อน มีเข็มพระนามเจ้านายติดบนไหล่ซ้ายตรึงแพรสะพายไว้  สวมสร้อยซ้อนกัน ๓ เส้นอย่างน้อย มีสร้อยห้อยล็อกเก็ตแสดงรูปซึ่งน่าจะเป็นพระรูปเจ้านายที่เธอสังกัดอยู่   หรือไม่ก็รูปบรรพชนของเธอเอง  สร้อยเส้นที่สามที่ยาวลงมาเกือบถึงเอวห้อยอะไรบางอย่างเหมือนอักษรย่อ อาจจะพระนามเจ้านาย
สร้อยข้อมือและแหวนแพรวพราวบอกบ่งฐานะไฮโซ
ดูจากดวงหน้า น่าจะเป็นสาวใหญ่แล้ว แต่ไม่มีภาพถ่ายคู่กับสามี   เธออาจจะเป็นสาวโสดชาววัง ก็เป็นได้
ทรงผมยาวรวบเป็นมวย บวกกับเสื้อสองชั้นตัวยาว นุ่งกับผ้าซิ่น เป็นแฟชั่นในยุคพระวรกัญญาปทานเป็นพระคู่หมั้น   จึงคิดว่ารูปนี้ถ่ายประมาณพ.ศ. 2463 หรือเลยกว่านั้นเล็กน้อย


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 14, 09:39
เป็นสตรีสูงศักดิ์ทางเหนือ  แต่จะเป็นเจ้านายองค์ใด ต้องขอท่านผู้รู้มาอธิบาย   คุณ V_Mee น่าจะจำได้ คุณเพ็ญชมพูน่าจะหาหลักฐานมาประกอบได้นะคะ
ท่อนบนเป็นเสื้อผ้าแบบสตรีทันสมัยชาวกรุง มีเข็มกลัดยาวๆบนแพรสะพายซึ่งอาจเป็นพระนามเจ้านาย  ท่อนล่างเป็นซิ่นตีนจกแบบเหนือ    ท่านไว้ผมยาว  เกล้าผมแบบญี่ปุ่นมีปิ่นเสียบอยู่    เครื่องประดับกายมีโช้คเกอร์รอบคอ  ทันสมัยแบบชาวกรุง


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 10 ต.ค. 14, 10:20
เป็นสตรีสูงศักดิ์ทางเหนือ  แต่จะเป็นเจ้านายองค์ใด ต้องขอท่านผู้รู้มาอธิบาย   คุณ V_Mee น่าจะจำได้ คุณเพ็ญชมพูน่าจะหาหลักฐานมาประกอบได้นะคะ
ท่อนบนเป็นเสื้อผ้าแบบสตรีทันสมัยชาวกรุง มีเข็มกลัดยาวๆบนแพรสะพายซึ่งอาจเป็นพระนามเจ้านาย  ท่อนล่างเป็นซิ่นตีนจกแบบเหนือ    ท่านไว้ผมยาว  เกล้าผมแบบญี่ปุ่นมีปิ่นเสียบอยู่    เครื่องประดับกายมีโช้คเกอร์รอบคอ  ทันสมัยแบบชาวกรุง


ซิ่นของท่านเป็นแบบสำนักเจ้าดารารัศมีเลยเชียวค่ะ เอาตัวซิ่นพม่า ลุนตยาอชิกมาต่อกับตีนจกทางเหนือ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 10 ต.ค. 14, 12:25
ท่านเป็นข้าหลวงพระราชชายา เจ้าดารารัศมีค่ะ เป็นมารดาคุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 14, 12:53
ไปหาประวัติคุณหญิงสุภัทรา พบดังนี้ค่ะ
คุณหญิงสุภัทรา เป็นธิดาของมหาเสวกตรี พระยาราชมนตรี (สง่า สิงหลกะ) กับคุณหญิง บุกปั่น มีพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกันคือ นายสนองราชบรรหาร ( ชุบ สิงหลกะ) ชวนเธียร ทักษ์ สิงหลกะและสุมิตรา (สิงหลกะ) สุจริตกุล

ชื่อฟังแปลกมาก ไม่ทราบว่าสะกดผิดหรือเปล่าคะ คุณกะออม


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ต.ค. 14, 13:05
หนึ่งในนางต้นห้องของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี คือ นางสาวบุญปั๋น บุตรสาวของ พญาพิทักษ์เทวี (ตำแหน่งพระพี่เลี้ยงของเจ้าดารารัศมี) พญาพิทักษ์เทวีถวายตัวบุตรสาวกับพระราชชายาฯ ตั้งแต่เด็ก ๆ  เมื่อเจริญวัยแรกรุ่น มีคำเล่าลือจากคนในวังว่านางข้าหลวง ในพระตำหนักของพระราชชายาฯ นั้นงามนัก การแต่งกายก็ดูแปลกตา คือนุ่งผ้าซิ่นและไว้ผมยาว เกล้ามวย

ต่อมานางสาวบุญปั๋นได้พบกันหลวงเทพสมบัติ (สง่า สิงหลกะ) พระราชชายา เจ้าดารารัศมี ทรงอนุญาต มิได้ขัดข้องแต่ประการใด จึงได้ออกเรือนไป มีบุตรธิดารวม ๖ คน คือ  นายสนองราชบรรหาร (ชุบ สิงหลกะ), นายชวน สิงหลกะ, นายทักษ์ สิงหลกะ, นางสุมิตรา สุจริตกุล, นายเธียร สิงหลกะ และคุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ

ต่อมาหลวงเทพสมบัติ (สง่า สิงหลกะ) ได้รับพระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์ ขึ้นเป็น มหาเสวกตรี พระยาราชมนตรี นางบุญปั๋น จึงได้เป็น คุณหญิงบุญปั๋น สิงหลกะ

ข้อมูลจาก คุณเจ้านายฝ่ายเหนือ (https://th-th.facebook.com/tipjakarathiwong/posts/596638413785985)  ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 10 ต.ค. 14, 13:09
 ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 14, 16:27
 :)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 14, 16:43
ไฮโซท่านต่อไป
น่าจะเป็นคุณนายของฝรั่งคนใดคนหนึ่งที่มาทำงานอยู่ในสยาม มากกว่าจะเป็นภรรยาแหม่มที่หนุ่มไทยพากลับมาจากยุโรป    เพราะลูกน้อยทั้งสองของเธอหน้าตาเป็นฝรั่งเต็มตัว มากกว่าจะเป็นลูกครึ่งไทย
ดูจากการแต่งกาย หนูน้อยทั้งสองน่าจะเป็นเด็กผู้หญิง  แม้เด็กผู้ชายเล็กๆสมัยก่อนนุ่งกระโปรงกัน แต่เสื้อระบายแบบนี้เป็นของเด็กหญิงมากกว่าเด็กชาย  กางเกงเป็ตติโค้ตก็เช่นกัน เป็นของผู้หญิง
หนูน้อยคนโตนั้นยืนวางท่าโก้เชียว

เสื้อผ้าของคุณนายแหม่มอยู่ในยุค early Edwardian ประมาณกลางถึงปลายรัชกาลที่ ๕   รูปนี้น่าจะถ่ายอย่างช้าก็ต้นรัชกาลที่ ๖ ค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 14, 16:43
Early Edwardian fashion


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 14, 22:05
ไฮโซคนต่อไป มาดึกหน่อยค่ะ
คู่นี้น่าจะเป็นคู่สมรส(หวังว่าคงไม่ใช่แม่กับลูก) เดาว่ามาถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึกหลังจากวิวาห์กันได้ไม่นาน     ดูจากอิริยาบถที่ตามสบาย ไม่มีการจัดท่าให้ผึ่งผายโก้หรู   ก็คิดว่าน่าจะอยู่ในฐานะที่ไม่ต้องพิถีพิถันต่อสิ่งใดมากนัก     มีชีวิตความเป็นอยู่แบบชนชั้นกลาง
การแต่งกายของฝ่ายหญิงไม่อลังการ เครื่องประดับมีน้อย  เช่นเดียวกับผู้ชายที่สวมเสื้อราชปะแตนนุ่งผ้าม่วงแบบข้าราชการ   คงจะเป็นระดับต้น รับราชการได้ไม่นาน ยังไม่มียศถาบรรดาศักดิ์
บนเสื้อของชายและหญิงมีเครื่องหมายอะไรไม่ทราบ  ลักษณะเหมือนกัน  เหมือนดวงตราอยู่บนพื้นสี่เหลี่ยม  อาจจะเป็นเข็มที่ระลึกจากการกุศลบางอย่างก็เป็นได้  ไม่ใช่เครื่องราช 


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 12 ต.ค. 14, 07:13
เข็มแพรแถบในความเห็นข้างบนเป็นเข็มช้างชูหม้อมน้ำบนแพรแถบสีแดง  เป็นเครื่องหมายราชนาวีสมาคมแห่งกรุงสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์  ที่มอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้บริจาคทรัพย์สมทบจัดซื้อเรื่อพระร่วงครับ
เข็มราชนาวีสมาคมฯ นี้ในสมัยที่ยังใช้ธงช้างเป็นธงชาติใช้สอดแพระแถบสีแดง  เมื่อเปลี่ยนมาใช้ธงไตรรงค์แล้วก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนแพรแถบเป็นสีธงไตรรงค์แทน

ภาพเข้างล่าข็มช้างชูหม้อมน้ำครับ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ต.ค. 14, 07:46
ในสมัยที่ยังใช้ธงช้างเป็นธงชาติใช้สอดแพระแถบสีแดง  เมื่อเปลี่ยนมาใช้ธงไตรรงค์แล้วก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนแพรแถบเป็นสีธงไตรรงค์แทน

http://www.thaimedals.com/web/6b_2458.php (http://www.thaimedals.com/web/6b_2458.php)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ต.ค. 14, 07:51
คู่นี้น่าจะเป็นคู่สมรส(หวังว่าคงไม่ใช่แม่กับลูก)

ดูจากหน้าตาอาจเป็นคู่แม่ลูกก็ได้  ;)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 14, 09:01
^
มาตอกย้ำทำไม เจ๊  :o

ขอบคุณค่ะคุณ V_Mee ที่เฉลยเรื่องเข็มแพรแถบ  

คู่ต่อไป  คราวนี้สามีภรรยาแน่ๆ

ดูจากทรงผมฝายหญิง น่าจะถ่ายในตอนต้นหรือกลางรัชกาลที่ ๖ ค่ะ

มาดฝ่ายชาย ชวนให้คิดว่าเป็นขุนนาง ไม่ทราบว่าคุณหลวงหรือคุณพระ   ส่วนคุณนายหน้าตาสวยคมขำ ตาคมกลมโต  รูปร่างอ้อนแอ้น   เธอสวมสร้อยระย้าเพชรแบบฝรั่ง    รับกับสร้อยเพชรลูกประคำสองสายบนข้อมือขวา  มีเครื่องเพชรแบบนี้ น่าจะเป็นลูกสาวพระยา
เธอไม่มีเข็มพระนามเจ้านายประดับเสื้อ แต่มีเข็มกลัดเพชรยาวๆ ติดอยู่  คงไม่ได้เป็นนางข้าหลวงตำหนักใหญ่ๆ หรืออาจไม่ได้เข้าวังเพราะคุณหญิงแม่เอาตัวไว้กับบ้าน   ส่วนที่บ่งบอกฐานะอีกอย่างคือเข็มขัดทองเส้นใหญ่คาดไว้นอกเสื้อ เส้นนี้ทองไม่ต่ำกว่า 20 บาท

ค้นพบภายหลัง   พระยาสุรินทราชา(นกยูง วิเศษกุล) และคุณหญิงเนื่อง สุรินทราชา


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 12 ต.ค. 14, 09:40
ผู้หญิงโบราณนี่สวยจังเลยนะคะ  แล้วก็สวยแบบของแท้แม่ให้มาจริงๆ ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 14, 20:59
ภาพถ่ายฝีมือโรเบิร์ต เลนซ์  จะเข้าไปในเว็บเพื่อดูว่าเป็นเจ้าจอมท่านไหน  ปรากฏว่า ICT ปิดเว็บภาพโรเบิร์ต เลนซ์เสียแล้ว
เลยต้องหอบรูปมาถามคุณเพ็ญชมพู ว่าจำได้ไหมคะว่าเจ้าจอมเอิบหรือเปล่า


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ต.ค. 14, 14:41
เมื่อเสด็จยุโรปก็ยังมีพระราชปรารภในพระราชหัตถเลขา ถึงเจ้าจอมเอิบว่า “ทำไมจึงเห็นหน้าเจ้ามากกว่าใคร ๆ หมด เห็นจะเปนด้วยอยู่กันมานาน ฝันก็ฝันถึงเจ้าร่ำไป”

เมื่อทรงส่งตุ้มหูไข่นกการเวกพระราชทานเจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ  ก็พระราชทานแก่เจ้าจอมเอิบด้วย ๑ คู่

“ตุ้มหูคู่หนึ่งเปนไข่นกการเวกเหมือนกัน ฉันได้ซื้อที่เมืองนีศส่งทางไปรสนีย์ให้สดับ.. ...ฉันได้ส่งไปอีกคู่ ๑ สำหรับให้เอิบจากปารีสรวมเป็นสองคู่ด้วยกัน”

จาก รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 2 (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5921.165)

ตุ้มหูไข่นกการเวก ๒ คู่ จากปารีส  ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ต.ค. 14, 18:50
ไข่นกการะเวก = turquoise
สันนิษฐานจากรูปถ่ายว่าคล้ายๆข้างล่างนี้


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ต.ค. 14, 19:10
ภาพถ่ายเจ้าจอมเอิบพร้อมลายเซ็นให้คุณข้าหลวง

ภาพและคำบรรยายจากหนังสือ "ย้อนรอยเจ้าจอมก๊กออในรัชกาลที่ ๕" โดย ดร.กัณฑาทิพย์ สิงหะเนติ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ต.ค. 14, 08:40
ค้นพบภายหลัง  หม่อมเจ้าบรรสานสนิท เทวกุล


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 14 ต.ค. 14, 10:21
ยังมาติดตามเรื่อยๆค่ะ  ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ต.ค. 14, 19:27
ไปหาเหล่าไฮโซที่หอจดหมายเหตุ  ได้มาแยะมากค่ะ  กระทู้นี้คงยังอีกนานกว่าจะจบ

รูปแหม่มกางร่มหน้าตาเหมือนร่มกระดาษเชียงใหม่ แต่งกายไม่เหมือนแหม่มแม้แต่น้อย ทำเอาแทบล่มเมื่อเห็นเข้าเพราะไม่รู้จะตีความว่าอะไร
เลยเก็บรูปนี้เอาไว้ในสต๊อคก่อนจนกว่าจะนึกออก
ตอนนี้พอนึกออกว่า ฤๅแหม่มจะมีสามีไทยอยู่ในสยาม   เธอหัดแต่งผ้าแถบและโจงกระเบนหญิงไทยว่าเป็นเสื้อผ้าน่ามหัศจรรย์ ผ้าผืนยาวผืนเดียวพันท่อนบนไว้ ไม่มีซิป ไม่มีกระดุม  ไม่มียางยืด แต่อยู่บนตัวได้ทั้งวัน    โจงกระเบนก็ไม่มีเข็มขัดไม่มีซิป พันเอาไว้ก็เดินไปเดินมาลุกนั่งได้ทั้งวัน ไม่หลุด
ข้อสำคัญ ผ้าแถบเป็นผ้าที่เซกซี่มาก   
แหม่มก็เลยลองใช้แถบผ้ามาพันท่อนบน แต่พันเฉยๆยังไงก็หลุด เธอก็เลยบิดปลายผ้าผูกทิ้งชายให้มันกระชับรัดกุมหน่อย  โจงกระเบนนั้นอาจจะลองใช้กางเกงจีบแทน มันเลยออกมาโป่งพอง  ไม่แนบเนียนเข้ากับสะโพกและขาอย่างเวลานุ่งโจงได้ถูกต้อง



กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ต.ค. 14, 08:52
นี่คือคุณหนูไฮโซสมัยรัชกาลที่ ๖ ตอนต้นหรือตอนกลาง
 
พอพ้นจากโกนจุกแล้ว  เธอก็ไม่ไว้ผมสั้นหวีเสยอย่างยุคคุณแม่ แต่ปล่อยผมสยายลงมาถึงหลังเหมือนเด็กฝรั่งในแมกกาซีน  ผูกโบประดับไว้ด้วย     เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมประจำวันของยุโรปที่เข้ามามีอิทธิพลต่อชนชั้นสูงในสยาม    
เสื้อติดลูกไม้ของเธอก็เป็นแบบฝรั่ง เช่นเดียวกับถุงเท้ายาวและรองเท้าหุ้มส้น  เหลือแต่โจงกระเบนที่เป็นของสยามมาแต่เดิม
เวลาออกจากบ้านไปไหนกับคุณพ่อคุณแม่  หรือไปโรงเรียน เธอก็แต่งตัวแบบนี้แหละค่ะ   สมัยนั้นร.ร.ยังไม่มีเครื่องแบบ

เมื่อมาถ่ายรูปอันถือเป็นโอกาสพิเศษ คุณแม่ก็ไม่ลืมจะประดับเนื้อตัวลูกสาวไม่ให้เกลี้ยงเกลาเกินไป   คุณหนูจึงมีสร้อยข้อมือและแหวน  
ถ้าแหวกผมเธอออกดูได้คงเห็นตุ้มหูด้วย   เพราะเด็กผู้หญิงต้องเจาะหูตั้งแต่เล็กๆ ใส่ห่วงทองเอาไว้ไม่ให้ตัน  โตขึ้นมาหน่อยก็สวมตุ้มหูเล็กๆ

หน้าตาคุณหนูคงเมื่อยที่ถูกจับนั่งอยู่หน้ากล้องถ่ายนานๆ  ช่างก็ทำงานชักช้าเสียเหลือเกิน   คุณหนูเลยยิ้มไม่ออก ทั้งๆหน้าตาคุณหนูสวยมาก  ถ้ายิ้มก็คงสวย   ฉายแววคนงามให้เห็นตั้งแต่เล็ก


หมายเหตุ ภาพนี้คือคุณหญิงรามราฆพ นามเดิม ประจวบ สุขุม


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 17 ต.ค. 14, 09:50
กิริยาท่าทางแหม่มในการโพสต์ดูเซ็กซี่มากเลยค่ะ

ส่วนคุณหนูหน้าตาน่ารักมากๆ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Kunlamata ที่ 19 ต.ค. 14, 23:25
พบภาพพระองค์เจ้าหญิงดาราวดี พระธิดาในสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท รัชกาลที่1
ทรงเป็นพระชายา สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ
อยากทราบว่าทรงไว้พระนขาขนาดนี้เป็นประเพณีนิยมในสมัยนั้นหรือเป็นความพอพระทัยส่วนพระองค์คะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Kunlamata ที่ 19 ต.ค. 14, 23:31
อีกสองภาพจากเวบเดียวกัน ผู้ลงภาพไม่ทราบพระนามของเจ้านายสองพระองค์นี้
นำมาเรียนถามอาจารย์และรบกวนอธิบายเครื่องแต่งกาย รายละเอียดจากภาพด้วยค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: ibelieveindream ที่ 20 ต.ค. 14, 02:13
ไปเจอมาในfacebookค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงคนนี้เป็นใครค่ะ ถ่ายในสตูดิโอแบบฝรั่งด้วย


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 09:03
อยากทราบว่าทรงไว้พระนขาขนาดนี้เป็นประเพณีนิยมในสมัยนั้นหรือเป็นความพอพระทัยส่วนพระองค์คะ
สมัยนั้นไว้เล็บยาวกันทั้งผู้ชายผู้หญิงค่ะ   แม้แต่ชายหนุ่มอย่างขุนแผนก็ไว้เล็บยาว
เห็นได้จากนางพิมตัดพ้อว่า
จะจับมือถือแขนก็แสนเจ็บ           คมเล็บเลือดเหยาะลงเผาะผอย
สารพันข่วนกันเป็นริ้วรอย            เชิญถอยไปเสียเถิดไม่ไยดี


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 20 ต.ค. 14, 09:14
ภาพนี้ผ่านการตกแต่งมาแล้วครับ เคยเห็นภาพถ่ายต้นฉบับไม่มีเล็บยาวขนาดนั้นครับ เป็นปกติยาวพอประมาณครับ อ.เพ็ญชมพูคงหามาได้ ไม่เกินความสามารถของท่านครับ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 09:16
อีกสองภาพจากเวบเดียวกัน ผู้ลงภาพไม่ทราบพระนามของเจ้านายสองพระองค์นี้
นำมาเรียนถามอาจารย์และรบกวนอธิบายเครื่องแต่งกาย รายละเอียดจากภาพด้วยค่ะ
ดิฉันเคยเห็นรูปทั้งสองนี้แต่ความจำยังไม่คืนกลับ     ต้องขอความทรงจำมาเสริมจากคุณ NAVARAT.C คุณเพ็ญชมพู หรือไม่ก็คุณหนุ่มสยาม เจ้าเก่าทั้งสามท่าน
คลับคล้ายคลับคลาว่าภาพบนคือท่านผู้หญิงกลิ่น ภรรยาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์

(http://www.bunnag.in.th/images/history/059.jpg)

ภาพบนไม่ได้ถ่ายในสตูดิโอ แต่น่าจะเป็นสถานที่จริง   ท่านแต่งกายตามแบบสตรีในปลายรัชกาลที่ ๔ ต่อกับต้นรัชกาลที่ ๕  ผมตัดสั้นทรงดอกกระทุ่ม  กันไรผม มองเห็นนิดหน่อย สวมเสื้อแขนยาวตัวกระชับเข้ารูป มีสไบอัดจีบห่มทับ เป็นชุดสุภาพของหญิงชาววังและสตรีสูงศักดิ์ในสมัยนั้น  นุ่งโจงกระเบน  เท้าเปล่าไม่มีถุงน่องรองเท้า  ถุงน่องและรองเท้าสวยๆนั้นมาทีหลังในสมัยกลางถึงปลายรัชกาลที่ ๕ ต่อมาถึงรัชกาลที่ ๖

ส่วนรูปที่สองคือพระรูปพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ ๕  พระพักตร์คุ้นมาก เพราะทรงฉายไว้หลายรูป แต่ยังจำพระนามไม่ได้ในตอนนี้    พระรูปนี้ทรงฉายหลังโสกันต์(โกนจุก)ไม่นาน พระเกศายังไม่ยาว เลยดูสั้นเหมือนเด็กผู้ชาย   ทรงฉลองพระองค์ท่อนบนแบบฝรั่งสไตล์ควีนอเลกซานดราแห่งอังกฤษ  เสื้อแบบนี้เรียกว่าแขนหมูแฮม คือพองตรงหัวไหล่แต่ลำแขนรัดรูปเรียว   สมเด็จพระศรีพัชรินทรฯ ก็ทรงแบบนี้เหมือนกัน   ท่อนล่างเป็นโจงกระเบน  แฟชั่นซิ่นยังไม่แพร่หลาย  เว้นแต่จะเป็นซิ่นยกแต่งแบบเต็มยศ  ถ้าไม่เต็มยศก็ทรงโจงกระเบน   ถุงน่องรองเท้าแบบฝรั่งย่างกรายเข้ามาแล้วในยุคนี้ รองเท้าเป็นแบบของรองเท้าเด็กฝรั่ง  


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 09:18
ไปเจอมาในfacebookค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงคนนี้เป็นใครค่ะ ถ่ายในสตูดิโอแบบฝรั่งด้วย
สองภาพนี้เป็นยุคปัจจุบันค่ะ ไม่ใช่อดีต ไม่ทราบว่าเป็นใคร
การถ่ายภาพ costume แบบนี้มีทั้งในไทยและต่างประเทศ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 09:39
ต้องขอความทรงจำมาเสริมจากคุณ NAVARAT.C คุณเพ็ญชมพู หรือไม่ก็คุณหนุ่มสยาม เจ้าเก่าทั้งสามท่าน
คลับคล้ายคลับคลาว่าภาพบนคือท่านผู้หญิงกลิ่น ภรรยาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์


(http://www.bunnag.in.th/images/history/059.jpg)

ภาพนี้บรรยายว่า

L0055546 Credit: Wellcome Library, London
Siamese lady of title, wife of Prime Minister, Bangkok, Siam [Thailand]
1866 By: J. Thomson
Published:   1866.


จาก  wellcomeimages (http://wellcomeimages.org/indexplus/image/L0055546.html)



กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 10:12
นึกออกแล้วค่ะ ภาพที่สองใน #167

สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ภาพซ้าย เมื่อทรงโสกันต์ ภาพขวา หลังจากนั้นอีกไม่นานนัก


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 20 ต.ค. 14, 10:20
งามมากครับ ขออนุญาตเปลี่ยนให้เป็นโทนสีเดียวกันหน่อย


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 10:30
ขอบคุณค่ะ งามมากจริงๆ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 17:43
ไฮโซประจำวันนี้
รูปคู่รูปนี้บอกอะไรไม่ได้มาก   นอกจากว่าเป็นคู่สามีภรรยา อาจจะควงแขนกันมาถ่ายรูปในร้านถ่ายรูปหลังจากสมรสกันไม่นาน
ฝ่ายชายเป็นข้าราชการ รูปหล่อ หุ่นดี  ภรรยาแต่งกายอย่างหญิงสาวในช่วงปลายรัชกาลที่ ๖
 


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 20 ต.ค. 14, 18:03
ภาพจาก Wellcome นั้น คือภาพท่านผู้หญิงพัน (เกิดในสกุลบุรานนท์) ท่านเป็นน้องท่านผู้หญิงกลิ่น และเป็นภรรยาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ไม่มีบุตรธิดา มีชีวิตยืนยาวกว่าผู้เป็นสามี น่าจะถึงแก่อนิจกรรมราว พ.ศ. ๒๔๔๐ ไม่เกิน ๒๔๔๕
หากสังเกตในเรือน มีเตียงเตี้ยๆ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่เคยรับสั่งเรียกเตียงแบบนี้ว่า เตียงท่านผู้หญิงพัน เล่ากันว่าท่านชอบนั่งรับแขกบนเตียงเช่นนี้ เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงสั่งเครื่องเรือนที่พระที่นั่งวิมานเมฆ มีรับสั่งให้หาเตียงแบบนี้ ดังที่เราเคยเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ทรงฉายที่พระที่นั่งวิมานเมฆ ประทับบนเตียงเตี้ยกับพระราชโอรสธิดา


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 18:20
ยายพันของรัชกาลที่ ๕ คนนี้นี่เอง  ;D

ทูลกระหม่อม (รัชกาลที่ ๕) ได้รับสั่งเล่าให้ฉัน (รัชกาลที่ ๖) ฟังว่า เมื่อพระองค์ท่านกำลังบรรทมประชวรอยูในพระฉากในพระที่นั่งอมรินทร์นั้น, คุณหญิงพันเมียสมเด็จเจ้าพระยาได้เข้าไปยืนอยู่ทางบนพระเจ้า, แล้วพูดว่า

"พ่อคู้ณ น่าสงสาร นี่พ่อจะอยู่ไปได้อีกสักเท่าไร ?"

ทูลกระหม่อมได้เล่าต่อไปว่า ครั้นเมื่อถึงเวลาทำงานศพคุณหญิงพัน ท่านได้เสด็จขึ้นไปที่บนเมรุ. ทรงเคาะโกษฐ์แล้วตรัสว่า

"ยายพัน แกได้เคยถามว่าฉันจะอยู่ไปได้อีกสักเท่าไร. วันนี้ฉันมาตอบแกว่าฉันอยูมาได้นานพอที่จะมาในงานศพแกแล้วละ, จะว่าอย่างไร ?"

จาก ประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ โดย ราม วชิราวุธ



กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 20 ต.ค. 14, 18:21
จากหนังสิอของเอนก นาวิกมูล


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 20 ต.ค. 14, 18:22
เล่มเดียวกัน


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 18:31
ซ้าย : ท่านผู้หญิงกลิ่น ส่วนทางขวา : ท่านผู้หญิงพัน


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 ต.ค. 14, 20:07
ข่าวตาย

"ท่านผู้หญิงพัน ภรรยาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุรยวงษ ท่านผู้หญิงพันเปนบุตรพระยาศรีอรรคราช ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดปีละ ๔ ชั่ง เมื่อเดือน ๓ ปีกุนนพศก ป่วยเปนโรคชรา ได้หาพระยาประเสริฐสาตรดำรงรักษา อาการทรงบ้างซุดบ้าง ภายหลังกลับซุดหนักลง รับประทานได้มื้อละถ้วยฝาขนาดน้อยบ้าง ไม่ถึงบ้าง วัน ๗ เดือน ๘ บูรพาสาธ ขึ้น ๑ ค่ำ มีอาการหอบ รับประทานอาหารได้มื้อละ ๑ ช้อนบ้าง ๒ ช้อนบ้าง เวลาย่ำค่ำครึ่งเปนลมประทะมา ถึงแก่กรรมอายุ ๖๙ ปี พระราชทานน้ำอาบศพ หีบทองทึบเปนเกียรติยศ"


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 21 ต.ค. 14, 07:22
ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูค่ะ
เพิ่งได้ทราบปีที่ท่านถึงแก่อนิจกรรม
ที่คาดเดามาจากเรื่องมรดกของท่าน ไม่ทราบว่าท่านสิ้นไปก่อนนานเลย


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 21 ต.ค. 14, 10:02
งานพระราชทานเพลิงศพท่านผู้หญิงพัน ตรงกับวันที่ ๒๕ เมษายน ร.ศ. ๑๑๖
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯออกจากพระนครเพื่อประพาสยุโรป ตั้งแต่วันที่ ๗ เมษายน ร.ศ. ๑๑๖
เหตุการณ์ที่ว่า รัชกาลที่ ๕ เสด็จฯ งานท่านผู้หญิงพัน ไม่น่าเป็นไปได้


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ต.ค. 14, 11:00
กุมารและกุมารีน้อย น่ารักน่าเอ็นดู  ในรัชกาลที่ ๖  ถ้ายังอยู่จนบัดนี้ก็เป็นคุณทวดกันแล้ว
น่าจะเป็นพี่น้องเพราะเค้าหน้าไปทางเดียวกัน   การแต่งกายสะท้อนถึงหัวเลี้ยวของยุคเก่าที่มาชนกับยุคใหม่พอดี
พี่สาวคนโตคนซ้ายสุด เป็นเด็กยุคเก่าที่ยังไว้ผมจุก รอวันโกนเพื่อประกาศตัวว่าพ้นวัยเด็กแล้ว    อยู่บ้านเธออาจสวมเสื้อคอกระเช้า  แต่เมื่อมาถ่ายรูปซึ่งเป็นโอกาสสลักสำคัญ เธอก็สวมเสื้อตัวสวยประดับโบจีบแพรวพราว  คล้องสร้อยคอ ห้อยประหล่ำหรืออะไรคล้ายๆประหล่ำ   คุณแม่ไม่ลืมสวมสร้อยข้อมือและแหวนให้ด้วย  เนื้อตัวว่างๆเกินไปมันน่าเกลียด

ส่วนน้องสาวคนขวาเมื่อเกิดมานั้น คุณแม่เปลี่ยนใจไม่ให้ไว้จุกแบบโบราณ   หนูน้อยก็เลยได้ไว้ผมยาวสยาย อาจจะม้วนให้หยิกเป็นลอน เพื่อรับกับคาดโบแบบเด็กฝรั่ง  เสื้อติดลูกไม้และโจงกระเบนผืนเล็กสั่งทอพิเศษ บอกให้รู้ถึงฐานะคุณพ่อคุณแม่ว่าไฮโซเอาการอยู่

น้องชายคนเล็กสุดน่าจะเป็นขวัญใจของพ่อแม่  เพราะมีพี่สาวแล้วสองคน มีน้องชายคลานตามมาอีกคน ก็น่ายินดี  คุณชายน้อยจึงได้แต่งชุดทหารเรืออันเป็นแฟชั่นโก้ของเด็กผู้ชายสมัยปลายรัชกาลที่ ๕ ต่อกับรัชกาลที่ ๖  จุกเจิกไม่ต้องมีกันแล้ว  ตัดผมรองทรงหวีปาดแสกข้างแบบเด็กชายฝรั่ง    สวมสร้อยห้อยเหรียญ มีเข็มหรือเสมาที่ระลึกห้อยจากกระเป๋าเสื้อ     เดาว่าคงเป็นสิ่งประทานจากเจ้านาย บอกให้รู้ว่าคุณชายน้อยโตขึ้นมีสิทธิ์เป็นมหาดเล็ก ตามแบบลูกผู้ดีเขาเป็นกัน


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 ต.ค. 14, 11:04
ขออนุญาตส่งท้ายเรื่องท่านผู้หญิงพัน

งานพระราชทานเพลิงศพท่านผู้หญิงพัน ตรงกับวันที่ ๒๕ เมษายน ร.ศ. ๑๑๖
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯออกจากพระนครเพื่อประพาสยุโรป ตั้งแต่วันที่ ๗ เมษายน ร.ศ. ๑๑๖
เหตุการณ์ที่ว่า รัชกาลที่ ๕ เสด็จฯ งานท่านผู้หญิงพัน ไม่น่าเป็นไปได้

เรื่องเล่าอีกเวอร์ชันหนึ่งเป็นของ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จาก หนังสือ "ความทรงจำ" (http://www.ebooks.in.th/ebook/409/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B3-%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/) หน้า ๑๒๐-๑๒๒

ในตอนแรกเสวยราชย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพิ่งฟื้นจากอาการประชวร  ยังปลกเปลี้ยทรงพระดำเนินไม่ได้ไกล  ต้องทรงพระราชยาน และให้ทอดสะพานบนขั้นบันไดหามพระราชยานขึ้นไปจนบนพระมหาปราสาทอยู่หลายวันจึงทรงพระราชดำเนินได้สะดวก

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยตรัสเล่าเรื่องเมื่อครั้งนั้นเรื่อง ๑ ซึ่งควรรักษาไว้มิให้ศูนย์เสีย เล่าที่ตรงนี้ก็เหมาะดี  คือวันสรงน้ำพระบรมศพ เมื่อพระองค์ทรงพระเก้าอี้ผ่านไปในห้องพระฉนวนพระอภิเนาวนิเวศน์ อันภรรยาข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยคอยเผ้าอยู่  เวลานั้นแม้ยังทรงปลกเปลี้ยมากแต่ได้พระสติแล้ว  ได้ยินท่านผู้หญิงพัน ภรรยาเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์พูดขึ้นเมื่อเสด็จผ่านพอพ้นไปว่า "พ่อคุณ นี่พ่อจะได้อยู่สักกี่วัน"  ตรัสเล่าเรื่องนี้ท่านผู้หญิงพันถึงอนิจกรรมในเวลาสิ้นบุญวาสนาแล้วช้านาน  ด้วยทรงปรารภจะเสด็จไปเผาศพท่านผู้หญิงพันเหมือนอย่างทูลกระหม่อมเสด็จไปเผาศพหม่อมเจ้าทินกร (เสนีวงศ์)  เรื่องของหม่อมเจ้าทินกรนั้นเกิดเมื่อตอนปลายรัชกาลที่ ๓ เพราะคนมักอยากรู้กันว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินหรือไม่  หม่อมเจ้าทินกรเป็นผู้รู้ตำหมอดู พยากรณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวคงไม่ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินด้วยพระชันษาจะสั้น  ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ไม่ทรงนำพา  ครั้นเสด็จเสวยราชย์ก็ทรงชุบเลี้ยงหม่อมเจ้าทินกรตลอดมาจนสิ้นชีพตักษัย  ก็การปลงศพหม่อมเจ้านั้น แต่ก่อนมาไม่มีประเพณีที่พระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จไปพระราชทานเพลิงศพ  เป็นแต่ทรงจุดเทียนให้ข้าราชการเอาเพลิงกับเครื่องขมาศพไปพระราชทาน  วันจะปลงศพหม่อมเจ้าทินกรนั้น เจ้าพนักงานเอาศิลาหน้าเพลิงกับพานเครื่องขมาศพเข้าไปตั้งถวายสำหรับทรงสับศิลาหน้าเพลิง และทรงจบเครื่องขมาตามธรรมเนียม  พอพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรเห็นกระดาษบอกนามศพหม่อมเจ้าทินกรที่พานเครื่องขมา  ก็ตรัสสั่งให้เรียกเรือพระที่นั่งในทันที  เสด็จข้ามไปยังเมรุที่วัดอมรินทร  ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลแล้วเมื่อจะพระราชทานเพลิงศพหม่อมเจ้าทินกรด้วยพระหัตถ์ ตรัสว่า "เจ้าทินกร แกตายก่อนข้านะ" ดังนี้  เมื่อพระราชทานเพลิงแล้วตรัสไต่ถามครอบครัวของหม่อมเจ้าทินกรได้ความว่าลูกหลานไม่มีที่พึ่งอยู่หลายคน  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ลูกเข้ารับราชการ  ส่วนหลานชายที่เป็นเด็กอยู่สองคน  โปรดฯให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทำนุบำรุง  คนหนึ่งชื่อ ปลื้ม ต่อมาได้เป็นนายร้อยเอกหลวงวิชิตชาญศึก แต่ถึงแก่กรรมเสียแล้ว  อีกคนหนึ่งชื่อ แปลก ได้เป็นที่พระยาสากลกิจประมวลในกรมแผนที่  ยังมีชีวิตอยู่ในเวลาเมื่อฉันแต่งหนังสือนี้  แต่การที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จไปพระราชทานเพลิงศพท่านผู้หญิงพันนั้น หาสำเร็จดังพระราชประสงค์ไม่  ด้วยปลงศพในเวลาประพาสอยู่ในยุโรปเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐


มีเหมือนกันตรงที่ท่านผู้หญิงพันพูดถึงรัชกาลที่ ๕ นี่แหละ  ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 21 ต.ค. 14, 19:12
ภาพ ๓ กุมารและกุมารีในความเห็นที่ ๑๘๖ ดูจากทรงผมของกุมารีคนขวาไว้ผมยาวตามพระราชนิยมในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สตรีเริ่มไว้ผมยาวเมื่อทรงเริ่มมีฝ่ายใน ใน พ.ศ. ๒๔๖๓ แล้ว  ในขณะที่กุมารน้อยคนกลางห้อยเสมาอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อที่คอ  แสดงว่าเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานนาม  และที่อกเสื้อแขวนเหรียญหมูที่ระลึกการฉลองพระชนมายุในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๗  จึงประมาณได้ว่าภาพนี้น่าจะฉายในตอนปลายรัชกาลที่ ๖


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ต.ค. 14, 14:57
ขอบคุณค่ะคุณ V_Mee

รูปไฮโซโบราณที่มี  จากอภินันทนาการของท่าน NAVARAT.C  ร่อยหรอหมดแล้วค่ะ   ส่วนที่ไปหามาใหม่จากหอจดหมายเหตุยังไม่มีจังหวะเวลาว่างจะไปรับ  แต่ยังไงก็ต้องไปเอามาจนได้  เพื่อจะต่อกระทู้นี้ไปอีกสักร้อยสองร้อยค.ห.

รูปที่เหลือนี้คือ ภาพซ้ายเป็นแหม่มสาวในยุค 1920s ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 6  ไม่รู้ว่าเป็นภาพนางแบบหลงมาจากเมืองนอก หรือเธอเป็นแหม่มสาวในแบงค็อก   สวยไม่แพ้ชมพู่ อารยา   
เธอสวมจี้ห้อยคอที่น่าจะเป็นทับทิมล้อมเพชร  ลักษณะเหมือนอาภรณ์ของไทย    และแหวนเพชรเดี่ยวสวมบนนิ้วก้อย   ไม่ได้สวมบนนิ้วนางซ้ายอย่างแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน    เลยคิดว่าคงยังเป็นสาวโสดไม่ได้แต่งงาน  ก็คงไม่ใช่ภรรยาของนักเรียนนอกคนใดคนหนึ่ง

แฟชั่นที่สวมตรงกับภาพด้านขวา คือแฟชั่นยุค 1920s  เสื้อแบบเรียบๆแขนสั้นหรือแค่ไหล่  ต่อเอวต่ำลงไปถึงสะโพก  กระโปรงทรงตรงเรียบๆ  ส่วนผมดัดเป็นคลื่นด้วยคีม มีทั้งคีมร้อนและคีมเย็น


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 28 ต.ค. 14, 08:57
ยังติดตามกระทู้นี้อยู่นะเจ้าคะ ชอบดูภาพเก่าๆ ดูลักษณะการแต่งกายเจ้าค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ต.ค. 14, 09:13
อดใจรอสัก 2-3 วันนะคะ  ภาพชุดใหม่ใกล้จะมาแล้วค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 28 ต.ค. 14, 11:10
ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะที่อุตส่าห์หาภาพมาให้ชม นอกจากชอบดู ยังชอบอ่านเกร็ดเสริมประกอบภาพด้วย ตั้งตารอชมชุดต่อไปค่ะ ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ต.ค. 14, 15:51
ชุดใหม่มาแล้วค่ะ  ด้วยความเอื้อเฟื้อของท่าน NAVARAT.C ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ภาพทั้งหมดนี้เลือกมาจากภาพบุคคลผู้ไม่ปรากฏชื่อในหอจดหมายเหตุค่ะ     มีความหวังนิดหน่อยว่าจะเจอลูกหลานของท่านแวะเข้ามาในเรือนไทย  จำชื่อบรรพชนของท่านได้ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ภาพหญิงสาวในชุดตะวันตกนี้เห็นจะถ่ายในสมัยปลายรัชกาลที่ ๕ หรืออย่างช้าก็ต้นรัชกาลที่ ๖    เพราะชุดกระโปรงยาวลากดินแต่ไม่ใส่สุ่มกว้างภายในนี้เป็นแฟชั่นของควีนอเลกซานดรา  แขนเสื้อพองใหญ่แบบที่เราเรียกว่าแขนหมูแฮม   ตัวเสื้อร้อยริบบิ้นติดลูกไม้งดงาม สวมหมวกปีกกว้างมีริบบิ้นผูกไว้ใต้คาง  เป็นชุดออกนอกบ้านอย่างเป็นทางการ     ลักษณะเป็นเสื้อผ้าที่น่าจะทำขึ้นในยุโรป ไม่ใช่เย็บในสยาม
เธอเป็นใครกันหนอ  ถึงเคยใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน   เมื่อกลับมาก็แต่งกายอย่างที่เคยแต่ง มาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกในสตูดิโอ   กิริยาท่าทางที่นั่งแสดงว่าเคยชินกับนั่งบนเก้าอี้และโซฟา  ไม่ขัดเขิน    เธอเป็นภรรยาหรือลูกสาวทูตไทยที่ไปประจำในต่างแดนกระมัง    ดูหน้าแล้วก็นับว่าเป็นคนงามคนหนึ่ง   นึกถึงเจ้าศรีพรหมา ณ น่าน ขึ้นมา คงจะบุคลิกคล้ายๆอย่างนี้


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 30 ต.ค. 14, 13:50
ชุดใหม่มาแล้วค่ะ  ด้วยความเอื้อเฟื้อของท่าน NAVARAT.C ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ภาพทั้งหมดนี้เลือกมาจากภาพบุคคลผู้ไม่ปรากฏชื่อในหอจดหมายเหตุค่ะ     มีความหวังนิดหน่อยว่าจะเจอลูกหลานของท่านแวะเข้ามาในเรือนไทย  จำชื่อบรรพชนของท่านได้ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ภาพหญิงสาวในชุดตะวันตกนี้เห็นจะถ่ายในสมัยปลายรัชกาลที่ ๕ หรืออย่างช้าก็ต้นรัชกาลที่ ๖    เพราะชุดกระโปรงยาวลากดินแต่ไม่ใส่สุ่มกว้างภายในนี้เป็นแฟชั่นของควีนอเลกซานดรา  แขนเสื้อพองใหญ่แบบที่เราเรียกว่าแขนหมูแฮม   ตัวเสื้อร้อยริบบิ้นติดลูกไม้งดงาม สวมหมวกปีกกว้างมีริบบิ้นผูกไว้ใต้คาง  เป็นชุดออกนอกบ้านอย่างเป็นทางการ     ลักษณะเป็นเสื้อผ้าที่น่าจะทำขึ้นในยุโรป ไม่ใช่เย็บในสยาม
เธอเป็นใครกันหนอ  ถึงเคยใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน   เมื่อกลับมาก็แต่งกายอย่างที่เคยแต่ง มาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกในสตูดิโอ   กิริยาท่าทางที่นั่งแสดงว่าเคยชินกับนั่งบนเก้าอี้และโซฟา  ไม่ขัดเขิน    เธอเป็นภรรยาหรือลูกสาวทูตไทยที่ไปประจำในต่างแดนกระมัง    ดูหน้าแล้วก็นับว่าเป็นคนงามคนหนึ่ง   นึกถึงเจ้าศรีพรหมา ณ น่าน ขึ้นมา คงจะบุคลิกคล้ายๆอย่างนี้

คุณหญิงกลิ่นแก้วของแม่การะเกดรึเปล่าคะ ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 14:05
คุณหญิงกลิ่นแก้วน่าจะท่านนี้ค่ะ   ;)

ภาพนี้ถ่ายในสตูดิโอเดียวกันกับภาพบน  เปลี่ยน prop หลายส่วนก็จริง แต่แจกันดอกไม้บนโต๊ะยังเป็นอันเดิม
ืเจ้าของภาพน่าจะไปถ่ายรูปในโอกาสเดียวกัน  แต่ว่าเปลี่ยนฉากหลังเพื่อไม่ให้ดูซ้ำ  พัดหรืออะไรที่ถืออยู่ในมือน่าจะเป็นของเดียวกัน
บางทีอาจจะเป็นแม่ลูก หรือเครือญาติกันก็ได้   เครื่องแต่งกายแสดงว่าเคยอยู่-หรืออย่างน้อยเคยไป-ในต่างแดนมาทั้งสองคน

สุภาพสตรีท่านนี้ไม่ใช่สาวๆแล้ว แต่ยังงามสง่า  นั่งตัวตรง วางท่าเป็น จัดเสื้อผ้าในการถ่ายรูปออกมาเนี้ยบไม่มีที่ติ บุคลิกราวกับเลดี้อะไรสักคนของอังกฤษ รูปทรงงามระหงอย่างน่าทึ่ง  เอวบางอ้อนแอ้นขนาดนี้แสดงว่าท่านใส่คอร์เซ็ตต์หรือเครื่องรัดทรงแบบแหม่มเอาไว้ภายในจนเคยชิน จึงนั่งได้โดยไม่มีท่าทีแข็งเกร็ง
เห็นทีจะไม่ใช่สตรีธรรมดาสามัญ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 14:09
ภาพซ้ายกับขวา  ช่วยกันดูหน่อยได้ไหมคะ
สุภาพสตรีคนเดียวกันหรือเปล่าคะ  เพียงแต่คนละกาลเวลากัน


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 14:12
ซูมเข้ามาใกล้ๆ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 14:14
คล้ายนัก คล้ายนัก  ;D

เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในสกุล ไกรฤกษ์

เจ้าจอมมารดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภา และ

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุจิตราภรณี


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 14:19
ชุดฝรั่งอีกชุดหนึ่ง  

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5919.0;attach=47869;image)

พระบรมรูปสมเด็จพระบรมราชินีนารถ กับ เจ้าจอมมารดาชุ่ม แล คุณหญิงชลยุทธโยธินทร์ ฉายที่เมืองเบตาเวีย ร.ศ. ๑๑๕

คำบรรยายในหนังสือ จดหมายเหตุเสด็จประพาสเกาะชวา ในรัชกาลที่ ๕ ทั้ง ๓ คราว (http://www.digitalrarebook.com/index.php?lay=show&ac=cat_show_pro_detail&pid=86076)  ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 14:42
สตรีทั้งสองท่านนี้เป็นคนละคน ถ่ายกันคนละยุค   แต่โปรดสังเกตหมวกและเสื้อ   เป็นชุดเดียวกันหรือเปล่าคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 19:01
เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ 5 เป็นธิดาของพระมงคลรัตน์ราชมนตรี (ช่วง ไกรฤกษ์) กับ ไข่ มงคลรัตน์ราชมนตรี เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2412  มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน 10 คน ได้แก่
    คุณสงวน ภรรยาพระราชประสิทธิ์
    คุณเสงี่ยม ภรรยาหลวงนายเสน่ห์รักษา
    คุณถนอม
    คุณชื่น
    คุณหญิงจันทร์ ภรรยาพระยาพิพิธโภไคยสวรรย์ (เชฐ หังสสูต)
    พระยาราชสัมภารากร (ชม ไกรฤกษ์)
    เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ 5
    พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์)
    คุณใย
    พระยาประเสริฐศุภกิจ (เพิ่ม ไกรฤกษ์)

ท่านเป็นเจ้าจอมมารดาของพระเจ้าลูกเธอ 2 พระองค์คือ
    พระองค์เจ้าหญิงอาทรทิพยนิภา ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 5 แรม 6 ค่ำ ปีฉลู เอกศก จุลศักราช 1251 ตรงกับวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2432
    พระองค์เจ้าหญิงสุจิตราภรณี ประสูติเมื่อวันศุกร์ เดือนยี่ แรม 13 ค่ำ ปีขาล โทศก จ.ศ. 1252 ตรงกับวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2433

      เจ้าจอมมารดาชุ่มถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2454 สิริอายุ 42 ปี

     เจ้าจอมมารดาชุ่ม เป็นเจ้าจอมที่ทรงโปรดมากคนหนึ่ง เพราะท่านสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง จึงได้รับพระกรุณาธิคุณให้ตามเสด็จประพาสชวาถึงสองครั้ง  ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2439 เจ้าจอมมารดาชุ่มได้ตามเสด็จพระราชดำเนินโดยรับหน้าที่เป็นนางสนองพระโอษฐ์ให้กับสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระอัครราชเทวี   ครั้งที่ 2 ในปีพ.ศ. 2444 เจ้าจอมมารดาชุ่มได้ตามเสด็จพระราชดำเนินอีกครั้ง โดยในครั้งนี้พระเจ้าลูกเธอของท่านโสกันต์แล้ว จึงได้ตามเสด็จพระราชดำเนินด้วยทั้งสองพระองค์ ส่วนสาเหตุที่เจ้าจอมมารดาชุ่มได้ตามเสด็จด้วยนั้นเป็นเพราะว่า "ท่านใส่ชุดฝรั่งขึ้น"
       ในการตามเสด็จประพาสชวาครั้งที่ 2 ของเจ้าจอมมารดาชุ่ม  ยังมีเจ้านายฝ่ายในอีกหลายท่านตามเสด็จด้วย ได้แก่ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ , พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี , พระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ,เจ้าจอมเอี่ยม และ เจ้าจอมเอิบ ส่วนพระราชธิดาที่ตามเสด็จด้วยนอกจากพระเจ้าลูกเธอทั้งสองของเจ้าจอมมารดาชุ่มแล้ว ยังมี สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงสุทธาทิพยรัตน์ , สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงมาลินีนพดารา และ สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงนิภานภดล


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 19:06
คุ้นๆหน้านะคะ  ใครพอนึกออกบ้าง
เจ้านายฝ่ายในองค์ไหนหรือเปล่า


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 30 ต.ค. 14, 19:15
เมืองเบตาเวีย ก็คือปัตตาเวียหรือชวาใช่มั้ยคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 19:18
Batavia  ใช่ค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ต.ค. 14, 19:51
คุ้นๆกับคนนี้ครับ

คุณหญิงชลยุทธโยธิน หรือมาดามดักมาร์ เดอ ริชลิว ภรรยาท่านนายพลริชลิว นักธุรกิจข้ามชาติในมาดของนายพลเรือสยาม ดาราเอกในกระทู้เก่าของผม

เพิ่งทราบจากการอ่านหนังสือเรื่องจดหมายถึงหญิงใหญ่ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเล่าเรื่องไปเยี่ยมพระยาชลยุทธโยธินและคุณหญิงดำที่เดนมาร์กในช่วงชรา แล้วท่านทรงอธิบายต่อว่าคนไทยเรียกคุณหญิงดำ เพราะเพี้ยนมาจากคำว่าคุณหญิงมาดาม


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 21:01
ดูสวยสง่าสมเป็นคุณหญิงแหม่มของพระยาฝรั่งในสยาม


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 14, 21:43
พาสาวงามในสมัยรัชกาลที่ ๖ มาให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ คำอธิบายเอาไว้พรุ่งนี้


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ย. 14, 13:06
กลับจากฉลองฮัลโลวีนมาแล้ว   ;)  กลับมาแนะนำไฮโซโบราณต่อ

ชอบสาวน้อยหน้าหวานคนนี้ก็เลยเลือกเธอมาจากลิ้นชักในหอจดหมายเหตุมาให้รู้จักกัน    ชอบทรงผมของเธอมาก ดูทันสมัยไม่แพ้นางแบบยุคนี้   ไม่เคยเห็นทรงผมแบบนี้จากไฮโซอื่นๆ   
เสื้อผ้าไม่ใช่ลูกไม้ขาวราคาแพงอย่างไฮโซในรูปก่อนๆนี้   เป็นเสื้อตัดด้วยผ้าเนื้อบางติดลูกไม้ขลิบริม อาจจะเย็บเองก็เป็นได้ ทำให้เดาว่าเธอน่าจะอยู่นอกวัง   ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์อย่างนางใน
แต่ดูจากอาภรณ์ประดับกาย เป็นแม่ทองเนื้อเก้าทั้งตัว น่าจะลูกสาวคหบดีเศรษฐีคนใดคนหนึ่งในยุครัชกาลที่ ๖   ที่น่าสะดุดตามากกว่าเพื่อนคือจี้หรือล็อกเก็ตห้อยอยู่กึ่งกลางทรวงอก    น่าจะเป็นของพระราชทานจากเจ้านาย   เธอถ่ายรูปเดี่ยว  เห็นทีจะยังไม่ได้สมรส  ยืนท่าเก๋ เท้าสะเอว แขนอีกข้างพาดฉาก   ดูเชื่อมั่นในตัวเองเสียด้วย  เป็นสาวเปรี้ยวทันสมัยของยุคนั้น


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ย. 14, 13:42
เชิญต่อกระทู้ ไฮโซโบราณ(2) ค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 พ.ย. 14, 14:26
เดี๋ยวจะไปไม่ถูก  ไฮโซโบราณ(2)  (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6120.0)   ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 14 พ.ย. 14, 23:43
ต้องย้อนมานั่งอ่าน เอารูปไปอวดเพื่อนๆชาวจีน :D


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Bovy ที่ 12 ธ.ค. 14, 16:43
 :Dชอบจังรูปสวย มีคุณค่าทางปวศ.


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: Puck ที่ 15 ส.ค. 16, 17:37
ภาพถ่ายในความเห็นที่ 161 น่าจะเป็น ม.จ.บรรสานสนิท เทวกุล
และความเห็นที่ 177 คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมืนนราธิปพงศ์ประพันธ์ และชายา ม.จ.พิบูลเบญจางค์ (กิติยากร)


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 15 ส.ค. 16, 17:55
 161
ค้นพบภายหลัง
หม่อมเจ้าบรรสานสนิท เทวกุล


กระทู้: ไฮโซโบราณ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 15 ส.ค. 16, 17:55
177

ค้นพบภายหลัง
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ กับ หม่อมเจ้าหญิงพิบูลเบญจางค์ กิติยากร