ถึงกลางวันสุริยันแจ่มประจักษ์ ไม่เห็นหน้านงลีกษณ์ยิ่งมืดใหญ่
ถึงราตรีมีจันทร์อันอำไพ ไม่เห็นโฉมประโลมใจก็มืดมล
อ้าดวงสุริย์ศรีของพี่เอ๋ย ขอเชิญเผยหน้าต่างนางอีกหน.
มืดมล..หรือมืดมนคะ
ต้นฉบับเขียนสะกดด้วยล.ลิงหรือคะ
ตรวจสอบจากต้นฉบับ ทั้งฉบับที่มหามกุฏราชวิทยาลัยฯ จัดพิมพ์โดยเสด็จพระกุศลในการทรงบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวายล้นเกล้าฯ มื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ และจากหนังสือ "งานละครของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้ากรุงสยาม" ของ ท่านหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล แล้วใช้คำว่า "มืดมล" ตรงกันทั้งสองฉบับครับ และเพื่อความสมบูรณ์จะขอไปตรวจสอบกับต้นฉบับลายพระราชหัตถ์ที่หอวชราวุธานุสรณ์อีกทีครับ ได้เรื่องอย่างไรจะมารายงานให้ทราบครับ
สำหรับวันนี้ขอนำเสนอตอนหนึ่งจากบทพระราชนิพนธ์ "หนามยอกเอาหนามบ่ง" ที่ ศ.คุณหญิงผอบ โปษะกฤษณะ ท่านเคยใช้ให้ค้นให้ท่าน แต่ค้นไม่พบเพราะไปค้นในสำนวนที่ ๒ เลยโดนดุแล้วจึงพบว่าบทนี้อยู่ในสำนวนที่ ๑ เลยประทับใจมาจนวันนี้
ขอบใจประชาชน ถ้วนทุกคน ณ ธานี
มีจิตตะไมตรี เราเห็นชอบจะตอบเตือน
หญิงชายทั้งหลายนั้น ควรเห็นกันว่าเปนเพื่อน
ทหารและพลเรือน จงฟังคำและจำดี
ชาติเดียวกันทุกคน รักแต่ตนจะเสียที
มัวแก่งและแย่งดี จนแตกพวกไม่ควรการ
ทหารอย่าข่มเพื่อน พลเรือนก็เท่าทหาร
พลเรือนอย่าใจพาล อย่าชิงชังซึ่งโยธา
ต่างฝ่ายต้องพึ่งกัน ทุกสิ่งสรรพ์สำเร็จนา
โบราณะสุภา ษิตะกล่าวก็ควรฟัง
เสือพีเพราะป่าปก และป่ารกเพราะเสือยัง
ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี
ร่วมชาติต้องร่วมรัก และสมัคสามัคคี
จงรักษะภักดี ต่อพระปิ่นนรากร
ทั่วกันจงกั่นกาจ รักษาชาติสโมสร
ศาสนาให้ถาวร อิศระอวสาน
ให้เกียรติขจรจบ บรรฦาลบถึงบาดาล
เทพไทในวิมาน ให้สรรเสริญทั้งโลกา ฯ
อีกบทหนึ่งจาก "หนานยอกเอาหนามบ่ง" สำนวนที่ ๑ ว่าด้วยจริตของอิสตรี
สาวน้อยคอยจำคำข้าสอน แม้บังอรหวังชายหมายเปนคู่ เมื่อแรกพบเขาจ้องอย่ามองดู ต้องล่อชู้ด้วยทีตระหนี่ตัว หญิงคนใดได้ง่ายชายเขาข้อน ว่ารีบร้อนหมดกระดากอยากมีผัว ยิ่งทำอายหดหู่ดูน่ากลัว เหมือนยิ่งยั่วเย้าชายให้หมายมอง อย่าอิดเอื้อนเชือนช้ามารยานาน เขารำคาญกลับใจไม่ใฝ่ต้อง เมื่อควรยอม ๆ เทียวลูกถูกทำนอง ได้แล้วต้องผูกไว้ไม่ละเลย เสร็จวิวาห์สารพัดมัดแน่นแล้ว ผัวไม่แคล้วมือเรานะเจ้าเอ๋ย ขู่กำราบปราบผัวหัวไม่เงย ใครจะเย้ยช่างเขาเราพอใจ ฯ