เรือนไทย

General Category => วิเสทนิยม => ข้อความที่เริ่มโดย: นกข. ที่ 15 มิ.ย. 01, 12:51



กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 15 มิ.ย. 01, 12:51
อาหารไทยก็มีหลายกระทู้แล้ว คอแห้งไหมครับ
ผมเลยจะชวนคุยเรื่องเครื่องดื่มไทยบ้าง (ไม่นับเบียร์ช้างกะเบียร์สิงห์)

ร้านอาหารไทยในเมืองฝรั่งหลายร้าน มี "ชาไทย" ขายฝรั่ง ซึ่งก็คือชาเย็นใส่นมสีส้มแช้ด หวานเจี๊ยบ มีนมข้นจืดโรยหน้ามา (เวลาชงต้องใส่ถุงชงแบบเก่าหรือเปล่าไม่รู้) คงเป็นอะไรที่ฝรั่งไม่เคยกิน เลยตื่นเต้นว่าเป็นชาไทย

แต่น้ำไทยๆ ที่เป็นของไทยจริงๆ ก็มี เช่นน้ำมะตูม ชุมเห็ดเทศ ดอกคำฝอย.... พวกนี้คงถือได้ว่าเป็นชาสมุนไพรหรืออะไรคล้ายๆ ชา แช่นำร้อนดื่ม ไปจนกระทั่งเหล้า สรถ. อุ สาโท หรือกะแช่ที่เป็นข่าวเร็วๆ นี้ว่าสรรพสามิตอาจจะยอมผ่อนผันให้ชาวบ้านทำสาโทกินเองบ้างได้แล้ว เห็นมีเวิร์กช็อปกัน (แก่เวิร์กชอปจัง รัฐบาลนี้...)

น้ำดื่มไทยๆ จริงๆ เห็นจะเป็นน้ำเปล่าหรือน้ำฝนในโอ่งดินเผา ลอยดอกมะลิ หอมเย็นชื่นใจ แต่เดี๋ยวนี้เอามะลิมาลอยน้ำดื่มไม่ค่อยดีแล้ว กลายเป็นดื่มยาฆ่าแมลงไป

ใครยังจำรสชาติน้ำยาอุทัยได้บ้างครับ เด็กๆ สมัยนี้คงไม่รู้จักแล้ว (ยังมีขายไหมนะ?)

เชิญร่วมแจมครับ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 09 มิ.ย. 01, 08:00
แถวๆ ที่ผมอยู่นี้แต่ข้ามฝั่งไปอีกด้านของชายแดน มีเมืองชื่อ Evian ของฝรั่งเศส ซึ่งดังมาก ทางน้ำแร่ น้ำแร่ยี่ห้ออีเวรที่แพงๆ ดังไปทั่วโลก มีต้นกำเนิดจากเมืองนี้แหละครับ

ฝรั่ง (เศสก่อน ต่อมาจึงขยายไปฝรั่งอื่น) นับถือกันว่าเป็นน้ำมีรสดี (น้ำเปล่าๆ นี่แหละครับ แต่มีรสของน้ำอยู่จริงๆ) ทำให้ผมนึกไปถึงน้ำเสวยพระเจ้าแผ่นดินไทยสมัยก่อน ที่ต้องตักจากแหล่งน้ำเฉพาะที่นับถือกันว่าน้ำดื่มได้มีรสดี ไม่กี่แห่งในเมืองไทย ส่งเข้าไปถวายในวังเป็นน้ำเสวย เท่าที่นึกออกตอนนี้ เช่น จากแม่น้ำเพชรบุรี เป็นต้น ดูเหมือนจนถึงอย่างน้อยรัชกาลที่ 5 ก็ยังโปรดเสวยน้ำจากแม่น้ำเพชรอยู่ ได้ยินว่าเป็นราชการอย่างหนึ่งของเจ้าเมืองเพชรบุรี ต้องมีการตักจากกลางแม่น้ำ ใส่ภาชนะมีผ้าขาวบางปิดอย่างดี (จะต้มหรือฆ่าเชื้ออย่างไรหรือไม่ ไม่ทราบ) ส่งเข้าวัง แต่น้ำแม่น้ำเพชรก็ยังไม่ดังพอจะใส่ขวดส่งขายไปทั่วโลกได้เหมือนน้ำแร่เมืองเอวิยง


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 มิ.ย. 01, 08:29
ทราบแต่ว่าในสมัยรัชกาลที่ ๕  เจ้านายในวังนิยมสั่งน้ำแร่จากฝรั่งเศส ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเสวยกันค่ะ  นัยว่าแก้โรคบางอย่างได้


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: แม่บัว ที่ 09 มิ.ย. 01, 10:12
ขำยัวร์เกรซค่ะ evain อ่านว่าอีเวรจริงๆเหรอคะ (บัวไม่ถนัดภาษาฝรั่งเศส ครุแหม่มก็สอนแต่ภาษาอังกฤษ สงสัยต้องขอถามผู้ชำนาญการแพรมนคงจะดี)
ทำงานที่เพชรบุรีก็หลายปี ทราบว่าสมัยก่อนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ท่านโปรดอากาศเมืองเพชร (เข้าใจว่าสมัยที่ยังทรงผนวช เคยมาจำพรรษาที่เมืองเพชร) ก็เลยโปรดให้สร้างพระราชวังบนยอดเขา เพื่อเป็นที่ประทับแรม ยามเสด็จฯ แปรพระราชฐาน เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ที่เรารู้จักกันในชื่อของพระนครคีรี หรือเขาวังเมืองเพชร  และเป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ที่ทรงโปรดน้ำดื่มจากแม่น้ำเพชรบุรี ต่อเนื่องไปจนถึงรัชกาลที่ 5  แต่ขออภัยนะคะที่ขณะนี้ น้ำดื่มจากแม่น้ำเพชรบุรี ไม่สามารถบรรจุขวดจำหน่ายได้ เนื่องจากหมดสภาพค่ะ  แม่น้ำสกปรก(ในช่วงที่ไหลผ่านชุมชน)  จนต้องมีการรณรงค์รักษาความสะอาด รถรงค์อนุรักษ์แม่น้ำเพชร  ได้มีการกราบบังคมทูลเขิญฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเป็นองค์ประธานในงานสืบสานแม่น้ำเพชร (จำชื่อไม่ค่อยได้ค่ะ ถ้าผิดไปก็กราบขออภัย)  เพื่อให้ผู้คนใส่ใจอย่างจริงจังกับการอนุรักษ์ลำน้ำเพชรบุรี  
แต่เท่าที่ทราบ น้ำจากต้นน้ำเพชรบุรี ก็ยังเป็นน้ำที่ใช้ประกอบพิธีสำคัญๆ  ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นน้ำจากแหล่งหนึ่งซึ่งนำไปใช้ในพิธีดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยาด้วย... (ถ้าไม่ใช่ขอท่านผู้รู้ช่วยแก้ไขให้ด้วยนะคะ)

พูดถึงน้ำดื่มไทย  ชอบน้ำใบเตยค่ะ เวลาร้อนๆ ได้ดื่มน้ำใบเตยแล้วชื่นใจจริงๆ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เมรี ที่ 09 มิ.ย. 01, 11:42
น้ำใบบัวบกก็อร่อยนะคะ แก้ช้ำในได้ดี
เห็นว่าบางคนแถวๆนี้ก็ชอบดื่มนะคะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 09 มิ.ย. 01, 13:31
ที่ชอบที่สุดคือ นำ้ลอยดอกมะลิ ใส่ข้าวแช่  มีนำ้แข็งทุบใส่ลอยหน้ามาให้จนเย็นเฉียบ   ตอนเด็กๆ จะมีแม่ค้าทำมาขายเฉพาะตอนปิดเทอมหน้าร้อนสองเดือนเท่านั้น  นอกจากรอโรงเรียนปิดเทอมแล้ว  รอข้าวแช่แม่ค้าหาบใส่กระจาดผ่านมา  ในยามบ่ายอันร้อนระอุกลางเดือนมีนานี่  ไม่รู้อย่างไหนจะทรมานมากกว่ากัน

ดิฉันมักจะกินข้าวแช่กับ ไชโป๊หวาน ที่ชอบน้อยที่สุดก่อน  แล้วก็หมูหวานฉีกเป็นเส้น  ปลาหวานฝอย  จึงค่อยหันมาเล็มกินลูกกะปิทอดของโปรด  แล้วจะควานกินข้าวจนหมดไม่ให้เหลือสักเมล็ด  เพื่อจะยกถ้วยใบน้อย  ที่ยังเหลือน้ำลอยดอกมะลิเย็นเฉียบอยู่อีกครึ่งถ้วย  ขึ้นปากซดทั้งชามอย่างช้าๆ  เพื่อให้ความเย็นสัมผัสลิ้นร้อนผ่าว  ให้กลิ่นมะลิอบรำ่ปลายจมูก  จนลืมลมร้อนไปได้ช่วงหลายชั่วจิบนั้น

นำ้ลอยดอกมะลิ  ที่เย็นจัดทั้งจากเกล็ดนำ้แข็ง   มีกลิ่นกรุ่นๆหอมเย็นของหม้อดิน  ผสมด้วยกลิ่นรำ่ดอกมะลิบ่มกลิ่นข้าวใหม่  ในท่ามกลางไอร้อนผ่าวราวดินเดือดใต้ฝ่าเท้าเปล่าเปลือยอย่างนั้น  หาที่ไหนก็ไม่เหมือนอีกแล้ว  ไม่เคยซดน้ำข้าวแช่ตีนเปล่าอย่างนั้นอีกเลยน่ะค่ะ ฮิๆๆ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ภูมิ ที่ 09 มิ.ย. 01, 13:38
เคยทํานํ้าไทยไปออกงานขายที่ญี่ปุ่นมาเหมือนกัน
ที่เคยขายก็มี นํ้าลําไย ลิ้นจี่ เก็กฮวย กระเจียบ
ลําไยกับ เก็กฮวยนี่ขายดีมาก แต่ ลิ้นจี่กับกระเจียบขายไม่ค่อยดี
โดยเฉพาะกระเจียบนี่แทบขายไม่ออกเลย

ตอนน้ีเมืองไทยมีนํ้าแปลกๆขายหลายอย่างเหมือนกัน
๒-๓อาทิตย์ที่แล้ว เพิ่งลองชิม นํ้านมข้าว (ไม่รู้จําชื่อถูกหรือเปล่า แต่อะไรทํานองนี้)
สีเขียวๆ แต่ไม่อร่อยเลย ขม ฝาด
แล้วอีกอย่างหนึ่ง เห็นในทีวี คือนํ้าข้าวกล้อง ของคุณเทพ โพธิงาม
ยังไม่เคยดื่มเหมือนกัน แต้ดูเเล้วน่าดื่มดี


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: นกเงือก ที่ 09 มิ.ย. 01, 15:19
ชอบน้ำกระเจี๊ยบค่ะ ชื่นใจดี คิดว่าที่คนญี่ปุ่นไม่ชอบเพราะเห็นสีแดงมั้งคะ เลยคิดว่าใส่สี เพราะเขาไม่ค่อยจะนิยมบริโภคอาหารที่ผสมสีจัด ๆกันอยู่แล้วนี่คะ น้ำกระเจี๊ยบเลยไม่เป็นที่นิยม ถ้าเขารู้ว่ามันแดงเพราะสีของลูกกระเจี๊ยบเองอาจจะมีคนสนใจก็ได้นะคะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: อินทนิล ที่ 09 มิ.ย. 01, 21:30
เดี๋ยวนี้ กลับมานิยมน้ำสมุนไพรต่างๆกันมากเลยค่ะ ร้านอาหารใหญ่ๆบางร้าน มี สารพัดน้ำ เช่นน้ำตระไคร้ น้ำขิง น้ำมะตูม น้ำกระเจี๊ยบ สำหรับน้ำใบหม่อน น้ำนี้ตามร้านคงไม่มี  แก้โรคทัองผูกและโรคเบาหวาน และน้ำชื่อจีนๆอีกเยอะ เช่นน้ำเก๊กฮวย น้ำจับเลี้ยง น้ำเลอะฮั้งก้วย แก้ร้อนใน น้ำใบบัวบกแก้ช้ำใน
สำหรับน้ำยาอุทัยนั้น ดิฉันชอบค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังดื่มอยู่ หอมเย็นชื่นใจดีออก สมัยดิฉันเด็กๆ จำได้ว่าเวลาแขกมาที่บ้านก็จะใช้น้ำยาอุทัยรับแขกค่ะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: นิลลา ที่ 09 มิ.ย. 01, 22:37
ชอบน้ำมะตูมที่สุดเลยค่ัะ ดื่มแล้วเย็นชื่นใจ ไม่ทราบว่ามีใครเคยชิมน้ำตะไคร้ไหมคะ  สดชื่นดีเหมือนกัน แต่บางคนอาจไม่ชอบกลิ่น ก็กลิ่นตะไคร้น่ะแหละ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 09 มิ.ย. 01, 23:08
ฝนชอบมากที่สุดค่ะ  เครื่องดื่มแบบไทยๆ
ตอนยังเด็กๆ  ที่บ้าน มีน้ำดื่มที่เหยาะน้ำยาอุทัยออกสีชมพูอ่อนๆ  หอมชื่นใจค่ะ...แต่ฝนไม่ค่อยชอบนัก ....

ที่ติดใจและชวนให้ชื่นใจทุกครั้งที่ดื่ม  คือ  น้ำลอยดอกมะลิค่ะ  ทุกวันนี้ก็ยังต้องปลูกมะลิไว้ที่บ้านสัก  2-3  ต้น  ก็ไว้ลอยน้ำดื่ม  ทุกทีที่มะลิ..ออกดอก..แหละค่ะ
รับรองปลอดสารพิษค่ะ....

น้ำสมุนไพรอื่นๆ  ที่ต้มไว้ประจำบ้าน ขาดไม่ได้  ก็น้ำตะไคร้  อีกอย่างค่ะ  วันนี้ก็เพิ่งไปต่างจังหวัดมา  แวะซื้อมาตั้ง 10 ถุงใหญ่  แบ่งกับเพื่อน ถุงละ  20  บาทเองค่ะ

เวลาร้อนใน  หรือกินทุเรียน เข้าไปมากเกินงาม  ....
ก็ต้องอาศัย ชงยาเขียว  ดื่มค่ะ...ขมค่ะ แต่ก็หอมดี
หวานเป็นลม ขมเป็นยานะคะ....

บางทีเจ็บคอ  คุณพ่อ ก็ให้เอา  หล่ออั้งก้วย  มาต้มกะ ดอกเก๊กฮวย ค่ะ ใส่น้ำตาล นิดหน่อย  แต่ที่บ้านฝนไม่ใส่เลยค่ะ  หล่ออั้งก้วย นี่พวกเราเรียก ลูกระเบิด ค่ะ

ชาใบหม่อน  หรือ ชาเขียว  ชงใส่น้ำผึ้ง  บีบมะนาวหน่อย  ใส่น้ำแข็ง..  ดื่มชื่นใจ  กว่าชาเย็นทั่วไปอีกนะคะ.....

 น้ำเต้าหู้ หรือ..น้ำนมถั่วเหลือง ฝนก็ ชอบทำเองนะคะ  แช่ถั่ว  ไว้สักครึ่งวัน  แล้วใช้โม่ถั่วด้วยโม่ไฟฟ้าค่ะ  ..เวลาต้ม  ใส่ใบเตยลงไปต้มด้วย  ใส่น้ำตาลทรายแดง ตามใจชอบ  อร่อยอีกแล้วค่ะ  ...อิ อิ

ใครอยากดื่มน้ำอะไร  สั่งได้นะคะ....


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 10 มิ.ย. 01, 18:30
ชอบน้ำกระเจียบเหมือนกันครับ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำของไทยแท้หรือเปล่า
หรือว่ารับเอามาจากจีน ... แต่สรุปแล้วอร่อยดีครับ
ส่วนน้ำมะพร้าวก็อร่อยดี(น่าจะมีทุกชาตินะครับอันนี้) สมัยนี้มีน้ำฝรั่งด้วย

สงสัยว่าคนสมัยก่อนขังน้ำไว้กินตามโอ่งดิน พวกนี้ไม่มีเชื้อโรคหรือครับ?
หรือว่ารองน้ำฝนเลยไม่มีเชื้อโรค?

เคยได้ยินแต่ว่าพวกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ เช่น ไวน์ สะอาดกว่าน้ำ
เพราะมีแอลกอฮอร์ช่วยฆ่าเชื้อโรค พวกโรมันเลยชอบกินไวน์มากกว่า (อันนี้ข้ออ้าง)


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: นนทิรา ที่ 10 มิ.ย. 01, 20:23
ชอบน้ำมะขามค่ะ ดื่มแล้วชื่นใจมาก มะขามนี่เป็นผลไม้(??- ควรจะเรียกว่าผลไม้หรือเปล่าคะ)ที่มีรสชาติดี มีประโยชน์ใช้ได้หลายอย่าง เอามาปรุงอาหารก็รสกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวแหลมขนาดมะนาว มะขามทานเปล่าๆดิฉันก็ชอบมาก สรุปแล้ว น้ำมะขามเป็นน้ำไทยๆที่ดิฉันชอบมากค่ะ

น้ำระกำนี่มีหรือเปล่าคะ เหมือนกับว่าเคยได้ยิน


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ด.เด็ก ที่ 11 มิ.ย. 01, 09:27
เอารูปมาฝากครับ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ด.เด็ก ที่ 11 มิ.ย. 01, 09:30
น้ำเก๊กฮวย


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ด.เด็ก ที่ 11 มิ.ย. 01, 09:33
น้ำเงาะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ด.เด็ก ที่ 11 มิ.ย. 01, 09:40
รูปน้ำเก๊กฮวยนี่ผิดครับ ที่ถูกคือ น้ำขิง. แล้วจะเอารูปมาอีก ถ้าชอบเรื่องสมุนไพร เข้าไปดูเว็บไซต์ที่ผมทำเพื่อศึกษาได้นะครับ มีข่าวสารสมุนไพรทั่วโลกทุกวันแต่เป็นภาษาอังกฤษครับที่

http://www.geocities.com/dordek1/Thai_herb.htm

   ขอบคุณครับ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 11 มิ.ย. 01, 14:29
ขอบคุณยี่ชิ้วครับ เพิ่งทราบว่านอกจากเป็นพ่อครัวทำอาหารเก่งแล้วยังทำเครื่องดื่มได้ด้วย ...


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ภูมิ ที่ 11 มิ.ย. 01, 18:08
นํ้ากระเจี๊ยบที่คนญี่ปุ่นบอกไม่ชอบเห็นว่า
เพราะ มันหวานปะแล่มๆแปลกเลยไม่ค่อยชอบ
(ไม่ใช่เพราะขี้มือผมแน่ เพราะแค่ผสมอย่างเดียว)


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: แจ้ง ใบตอง ที่ 11 มิ.ย. 01, 18:50
ในสมัยก่อน แทบทุกบ้านจะมีตุ่มใส่น้ำใบเล็กๆ วางไว้หน้าบ้านหรือตามริมทางคนผ่านไปผ่านมา
นี่เป็นการแสดงออกว่าคนไทยเรามีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ได้ดีทีเดียวครับ คนที่เดินทางไกลรู้สึก
กระหายน้ำก็ตักดื่มได้ เมื่อสมัยผมอยู่ชั้นประถมก็ยังพอเห็นอยู่บ้าง  สมัยนี้คงไม่มีแล้ว ถ้ามีก็คง
จะไม่มีใครกล้าดื่มเพราะคุณแน่ใจได้อย่างไรว่า น้ำนั้นจะไม่มีใครแอบบ้วนน้ำลายทิ้งไว้ หรือพวกโรค
จิตแอบเอาอะไรมาใส่ หรือ ฯลฯ ...

ในกรุงเทพก็มีก๊อกน้ำประปาสาธารณะบริการประชาชนเหมือนกัน แต่ส่วนมากใช้การไม่
ค่อยได้ และไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการ (พูดถึงเมื่อก่อนตอนนี้เป็นยังไงก็ไม่รู้)  คงเป็นเพราะขาด
ไม่มีความมั่นใจว่าน้ำประปามีความสะอาดพอที่จะดื่มได้หรือไม่ (ถึงจะบอกว่าสะอาดก็เถอะ)
วันดีคืนดี ก็มีข่าวพบศพลอยขึ้นอืดในคลองประปา (น้ำในคลองประปา เอามาทำน้ำประปาหรือเปล่า?)
ไหนจะสนิมตามท่ออีก มีเงินก็ซื้อน้ำอัดลมหรือน้ำบรรจุขวดมาดื่มสบายใจกว่า ...

พูดถึงเรื่องน้ำฝน ตามต่างจังหวัดส่วนใหญ่ก็ยังดื่มน้ำฝนอยู่ครับ (ในกรุงเทพแถวชานเมืองก็ยังมี)
น้ำฝนที่รองจากหลังคามุงจากจะมีรสหนึ่ง รองจากหลังคาสังกะสีก็จะมีอีกรสหนึ่ง คนที่ดื่มประจำ
จะสามารถแยกแยะได้ (เหมือนกันดื่มไวน์แล้วสามารถบอกยี่ห้อ บอกปีได้)  เวลานำน้ำฝนไปรับ
แขก จะนำขันลงหินใบใหญ่ๆ ไปตักจากโอ่ง เอาไปให้แขก ถ้าแขกมาหลายคนก็เวียนกันดื่ม คนไหน
ปากหวานหน่อยก็จะพูดว่า "แหม น้ำฝนบ้านนี้เย็นชื่นใจดีจัง"  ชมกระทบไปถึงสาวๆ เจ้าของบ้านด้วย
(ถ้าผมเจอใครที่ชื่อน้ำฝน ผมจะเดาไว้ก่อนว่าเธอน่าจะเย็นๆ อาจจะเป็นเนื้อเย็น ใจเย็น หรืออะไรที่มัน
เย็นๆ เหมือนน้ำฝน ส่วนน้ำฝนเย็นขนาดไหนก็ต้องให้คุณ นกข. มายืนยัน เพราะเห็นแกชอบ
เดินตากฝนบ่อยๆ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร)

ส่วนเครื่องดื่มแบบไทย ๆ ผมชอบน้ำมะพร้าว กับน้ำตาลสด ถ้าใครจะซื้อน้ำตาลสดที่บรรจุ
ขวดมาดื่มก็ระวังพวกที่เอาน้ำตาลปี๊บมาละลายน้ำขายด้วยนะครับ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: แพรมน ที่ 11 มิ.ย. 01, 23:47
ส่วนแพร ชอบ น้ำ ginger ale เจ้า่คะ หายร้อนดีเจ้าคะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ก.แก้ว ที่ 11 มิ.ย. 01, 23:50
น้ำระกำที่คุณนนทิราพูดถึงนั้น มีค่ะก็ทำ
จากระะกำนี่แหละค่ะ  มีทั้งที่เป็นน้ำระกำสำเร็จรูปบรรจุขวดขายและถ้าหากจะต้มเองก็ได้นะคะ
 ตอนนี้น่าทำค่ะ เพราะถึงหน้าระกำพอดี
ใช้ระกำที่มีรสเปรี้ยว ลอกเปลือกออก  ระวังตำมือ จะใช้ทั้งเม็ดโดยใช้ปลายมีดกรีดตามยาวไปรอบ ๆ  หรือฝานเอาแต่เนื้อก็ได้ค่ะ  ต้มน้ำให้เดือด  ใส่ระกำลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย  และเกลือ ชิมรสตามชอบ ทิ้งให้เดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา ทิ้งให้เย็น จะใส่น่ำแข็งทุบ หรือแช่เย็นไว้ดื่มก็ได้แล้วอต่ความเข้มข้น
น้ำระกำจะหอม หวาน อมเปรี้ยว เค็มปะแล่ม
ชวนติดใจค่ะ
ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าถึงการทำระกำลอยแก้ว
สนใจไหมคะ  ตอนนี้ดิฉันทำกระท้อนลอยแก้วไว้อ่าง(เล็ก ๆ )ในตู้เย็นค่ะ อยากชวนให้มาชิมจัง


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: แววพลอย ที่ 12 มิ.ย. 01, 00:40
แวว...สนใจนะคะคุณ ก.แก้ว

ของโปรด แววเลยค่ะ  แต่ทำไม่เป็นค่ะ
วันนี้ขออนุญาตชิมนะคะ กระท้อนลอยแก้ว.. เคยลองทำนะคะ    แต่ยังมีรสฝาดค่ะ  ขอคุณ ก.แก้วช่วยแนะนำเคล็ดลับด้วยค่ะ

ถ้าได้สูตรระกำลอยแก้ว..... ก็ไม่เกี่ยงที่จะทดลองฝีมือค่ะ  แววไม่ถือนะคะ  อะไรที่เกี่ยวกับลอยแก้วนี่  แม้จะเป็นระกำ....นี่ก็สู้ค่ะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 12 มิ.ย. 01, 00:57
มีใครสนใจสูตรน้ำลูกพรุนของคุณแม่ผมบ้างครับ
ไม่ใช้น้ำผลไม้ไทย ... แต่แก้ท้องผูกดีนะครับ... (ดื่มแล้วพรุนจริงๆ)

ทำง่ายมากๆ

เอาลูกพรุน 6-7 ลูก ใส่หม้อต้มน้ำพอเละๆ
ใส่น้ำตาลปรุงรุสตามชอบใจ
สีสัน และ รสชาติ คล้ายน้ำลำใย

แต่ถ้าท้องเสียอย่าโทษกันนะครับผม


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: แววพลอย ที่ 12 มิ.ย. 01, 01:04
คุณ Jor คะ ....
ไม่ทราบหรือคะ ว่า น้ำลูกพรุนนี่ ของโปรด สาวๆนะคะ  
สาวคนใดที่ต้องการลดความอ้วน  จำสูตรไปใช้ได้เลยค่ะ.....
เพราะน้ำลูกพรุน เป็นยาระบายอ่อนๆค่ะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: อ้อมเพชร(กล้า) ศิษย์ บขส. ที่ 12 มิ.ย. 01, 13:25
ที่บ้านก็ยังกินน้ำฝนอยู่ค่ะ  เย็นชื่นใจและรู้สึกว่ามันหวานนิดๆ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า  น้ำฝนเวลาอยู่ในโองจะเย็น  เอามือสัมผัสโองจะรู้สึกเลยค่ะ  ตอนเด็กๆถ้าร้อนก็ไปนั่งพิงโองน้ำฝนเย็นสบายดีค่ะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: อ้อยขวั้น ที่ 12 มิ.ย. 01, 14:38
คุณแววปอกเปลือกกระท้อนบางไปหรือเปล่าคะ  เลยติดฝาด  ห้ามเสียดายค่ะ  ฝานเปลือกทิ้งไปหนาๆ เลยดีกว่า  มะยงชิดลอยแก้วก็อร่อยชื่นใจดีนะคะ  ไม่ดีแต่ตรงที่เวลาทำมากๆ แล้ว  สีเหลืองติดมือติดมีดอ๋อยไปหมดเลย

ถ้าคุณแจ้งมีโอกาสผ่านถนนบางนา-ตราด  จะเห็นแผงลอยขายวุ้นในลูกมะพร้าว  3 ลูก 50 บาท  ทราบไหมคะว่าคืออะไร  พรุ่งนี้จะมาเฉลยค่า...


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 12 มิ.ย. 01, 16:02
ที่น้ำฝนมีรสพิเศษหวานชื่นใจนั้น ฟังมาว่าอธิบายได้ด้วยวิชาการทางเคมี คือ เมื่อหยาดฝนตกผ่านชั้นบรรยากาศลงมานั้น ได้ผ่านคาร์บอนไดออกไซด์มาด้วย และละลายคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปบ้าง ไม่ใช่เป็นน้ำบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงมีรสเฉพาะที่เรารู้สึกว่าอร่อย

น้ำแท้ๆ คือน้ำกลั่นบริสุทธิ์ ไม่มีอะไรเจือปนนั้น ลิ้นคนเรากินแล้วไม่อร่อยเลยครับ

น้ำฝน+คาร์บอนไดออกไซด์ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ แต่ไม่มีอันตรายอะไร แต่ถ้าหยดลงหินทุกวันหินมันก็ยังกร่อนได้เหมือนกัน


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 12 มิ.ย. 01, 16:15
พูดถึงน้ำฝนรองจากหลังคาจาก
มีนิทานไทยเก่า (อยู่ในกฏแห่งกรรมของคุณ ท. เลียงพิบูลย์ ?) เล่าเรื่องที่มีชายเศรษฐีคนหนึ่งจากกรุงเทพฯ ไปรถเสียหรืออะไรสักอย่างอยู่กลางทุ่งในหัวเมือง ต้องเดินตัดทุ่งนามาไกล ทั้งร้อนทั้งเหนื่อยทั้งหิวน้ำ จนไปเจอกระท่อม หรือขนำนาหลังคามุงจากแห่งหนึ่ง มีเด็กอยู่แค่สองคน พ่อแม่ไปทำนาหมด ชายชาวกรุงกำลังจะเป็นลมก็ขอพัก ขอกินน้ำ เด็กหญิงเจ้าของกระท่อมก็ต้อนรับตามมีตามเกิด รีบเอาขันตักน้ำฝนในโอ่งส่งให้ แต่ก่อนจะให้กินก็รูดเอาเศษใบจากมุงหลังคาลงไปลอยในขันเสียหน่อยก่อน ชายคนนั้นกำลังหิวน้ำจัด กำลังนึกดีใจว่าจะได้กินน้ำให้เต็มรักเสียที เห็นดังนั้นก็ไม่พอใจ แต่ก็ต้องรับขันมา ค่อยๆ เป่าเศษใบจากออกไปแล้วจึงดื่ม พอได้น้ำ ได้พักแล้วก็ค่อยสบายขึ้น จึงขอบอกขอบใจเด็กหญิงบ้านนาคนนั้น แต่ขอถามว่า ทำไมต้องเอาเศษใบจากดรยในน้ำสะอาดๆ ให้กินด้วย เด็กคนั้นก็ตอบว่า แม่สอนมาว่าถ้าเจอคนเดินทาง หิวน้ำจัด เหนื่อยจัดอย่างน้านี่ให้ทำอย่างนั้น เพราะถ้าไม่มีเศษใบจากเสียเลย อารามกำลังหิวกำลังเหนื่อย น้าก็จะกินน้ำฮวบเอาๆ เข้าไปจนจุก จะเป็นอันตรายได้ ต้องทำอุบายให้ค่อยๆ กินอย่างนี้แหละ (สมัยนี้คงเรียกว่าภูมิปัญญาชาวบ้าน)
ชายชาวกรุงได้ฟังก็ยิ่งขอบอกขอบใจเด็กหญิงคนนั้น แล้วในที่สุดเมื่อกลับไปกรุงเทพฯ ได้ก็กลับมาตามหาอีก ปรากฏว่า ชายผู้นั้นเป็นเศรษฐีชาวกรุง ได้รับอุปถัมภ์ครอบครัวนั้น และส่งเสียให้เด็กทั้งสองได้เรียนจนมีความสุขตลอดชีวิต


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: แจ้ง ใบตอง ที่ 12 มิ.ย. 01, 18:24
วุ้นในลูกมะพร้าวที่คุณอ้อยขวั้นพูดถึงคือมะพร้าวกะทิหรือเปล่าครับ...

ถ้าเป็นมะพร้าวกะทิ ตอนเด็กๆ ผมกินบ่อยเหมือนกันแต่เดี๋ยวนี้หากินไม่ค่อยได้แล้ว
ขออธิบายให้เพื่อนๆ ฟังหน่อยครับว่ามะพร้าวกะทิ คืออะไร (สงสัยจะเป็นเอามะพร้าวกะทิ
มาขายสวนแน่ๆ) มะพร้าวกะทิ คือมะพร้าวที่เนื้อมันนิ่มมากๆ นิ่มจนเป็นวุ้น เอามากินกับ
น้ำตาลทรายอร่อยมาก (แต่ถ้าเป็นมะพร้าวทึนทึก ต้องกินกับน้ำตาบปี๊บ อย่างในเรื่องแม่เบี้ย)

ตามปกติมะพร้าวจะไม่เป็นมะพร้าวกะทิกันทุกต้น และต้นที่เป็นมะพร้าวกะทิก็ไม่ได้เป็นกัน
ทุกลูก ส่วนเหตุที่เป็นมะพร้าวกะทิ ผมเข้าใจว่าคงเป็นลักษณะเด่นอะไรสักอย่าง
ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพืชมาอธิบาย

พรุ่งนี้จะมาฟังคุณอ้อยขวั้นเฉลยครับ ว่ามะพร้าวอะไร ๓ ลูก ๕๐


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เรไร ที่ 12 มิ.ย. 01, 18:56
ฝนตกฝนหากตก..... แก้วกับอกอย่าโกรธฝน
ลมพัดรับขวัญบน....แก้วโกมลมานอนเนา
ฝนตกไม่ทั่วฟ้า........เย็นแหล่งหล้าในภูเขา
ไม่เย็นในอกเรา........เพราะเพื่อนเคล้าเจ้าอยู่ไกล


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เรไร ที่ 12 มิ.ย. 01, 19:59
ขออนุญาตย้ายความเห็นที่ 30 ไปไว้ที่กระทู้เกี่ยวกับฝน ข้างบนนะคะ   http://vcharkarn.com/snippets/board/show_message.php?dtn=dtn5&ID=RW653



ชอบกินมะพร้าวกะทิกับน้ำตาลทรายค่ะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 13 มิ.ย. 01, 00:16
คุณ นกข.  คงไม่ได้หมายถึง..ฝนกรด หรอกนะคะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: อ้อยขวั้น ที่ 13 มิ.ย. 01, 07:41
มาเฉลยเรื่องวุ้นในลูกมะพร้าวค่ะ  ก็เห็นตั้งแผงขายกันเรียงรายพอๆ กับโรตีสายไหมตามทางไปอยุธยาหรือส้มโอนครชัยศรีนั่นแหละค่ะ  ทำให้อิฉันอยากรู้เป็นหนักหนา  ถามคนข้างตัวก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าวุ้นในลูกน่ะมันเป็นยังไง  อาจจะเอาไซลิงค์ดูดน้ำมะพร้าวออกมาแล้วฉีดน้ำวุ้นเข้าไปแทน  (ประมาณวิธีทำไข่ปิ้งของทางอีสาน)  หรือไม่ก็เป็นมะพร้าวกะทิที่นุ่มๆ จนเป็นวุ้น  หรืออีกทีก็มีเทคนิคใหม่ที่ทำให้วุ้นมะพร้าว (ที่เนื้อเด้งหนึบๆ สีขุ่นๆ) เกิดในลูกได้เลย



จนวันนึงอดกลั้นความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่ไหว  เลยต้องจอดรถซื้อซะหน่อย  พอเทียบรถหน้าแผงปุ๊บ  คนขายก็โฉบมาหาปั๊บ  อิฉันก็ถามหมับเข้าให้ทันทีด้วยความที่อยากรู้มานานว่า 'วุ้นมันเข้าไปอยู่ในลูกมะพร้าวได้ยังไงอ้ะ'  คนขายก็ตอบว่า...'เก๊าะเฉาะฝามันแล้วก็เอาใส่ลงไปอ้ะดิ' พลางทำหน้างงๆ แบบ 'เอ๊อ ยัยนี่ถามอะไรประหลาด'



เพล้ง! หน้าแตกแบบศัลยแพทย์ส่ายหัวเลยล่ะค่ะ  เจ้าวุ้นในลูกมะพร้าวที่ว่าเนี่ย  ก็คือเปิดฝามะพร้าวแล้วก็เอาวุ้นใส่เนื้อมะพร้าวที่ขูดจากในลูกนั่นแหละใส่กลับเข้าไปเท่านั้นเอ๊ง!   อุตส่าห์คิดๆๆๆ ไปซะไกล  555


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: อ้อมเพชร(กล้า) ศิษย์ บขส. ที่ 13 มิ.ย. 01, 13:30
เรื่องที่คุณ นกข.เล่าคล้ายตอนหนึ่งในเรื่องอิกคิวซังเลยค่ะ แต่เปลี่ยนจากเศรษฐีเป็นท่านโชกุน


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ใกล้รุ่ง ที่ 14 มิ.ย. 01, 15:19
คุณแม่ชอบต้มน้ำมะตูมให้ดื่มค่ะ เป็นเครื่องดื่มที่มีรสหวานเพราะเวลาต้มใส่น้ำตาล แล้วก็หอมมะตูมด้วย ลองดื่มกันนะคะ หวานดีจริงๆ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 14 มิ.ย. 01, 16:55
เอ้า นักเคมีมีไหมแถวนี้ ขอเชิญช่วยผมตอบหน่อยครับ
ที่เรียกกันว่าฝนกรดนั้น ไม่ใช่ฝนที่ผสมกับคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศธรรมชาติครับ อันนั้นเป็นกรดอ่อนๆ แต่นานๆ เข้าก็สามารถกัดเซาะหินปูนจนกลายเป็นหินงอกหินย้อยได้

ฝนกรดนั้นเป็นผลจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษที่เกิดจากมือมนุษย์ ที่ปล่อยก๊าซต่างๆ อย่างเช่นคาร์บอนมอนอกไซด์ และอะไรอีกไม่รู้ ขึ้นไปในบรรยากาศ เช่นสารประกอบกำมะถันที่เป็นผลจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ในควันไอเสีย อะไรต่างๆ เหล่านี้ เมื่อเจอน้ำฝนเข้าละลายก๊าซพวกนี้ลงมาก็มีฤทธิ์เป็นกรดรุนแรง เรียกว่าฝนกรดครับ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: แววพลอย ที่ 14 มิ.ย. 01, 20:41
ไม่ใช่นักเคมีค่ะ..... ..

 แต่พอทราบว่า  "  ฝนกรด "  นี่มีฤทธิ์ร้ายกาจนะคะ  แถวๆ  ที่มีการใช้ถ่านหิน บางชนิดเป็นเชื้อเพลิง....จะเกิดก๊าซ ซัลไฟท์ SO2     ไปละลายละอองน้ำ (ฝน)  ในชั้นบรรยากาศ  กลายเป็นกรด ซัลฟุริก H2SO4 ค่ะ ตกลงมาเป็นฝนกรด  มีฤทธิ์ร้ายมากค่ะ  
เช่นแถว โรงไฟฟ้าแม่เมาะ สมัยก่อนนะคะ..แต่เดี๋ยวนี้แก้ไขแล้วค่ะ

ขอบคุณ.. คุณอ้อยนะคะ...ที่มาบอก เคล็ดลับการทำกระท้อนลอยแก้ว....เย็นชื่นใจจังค่ะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ก.แก้ว ที่ 14 มิ.ย. 01, 22:07
ต้องขอโทษคุณแววพลอยนะคะ เพิ่งเข้ามาอ่าน  ถ้าทำกระท้อนลอยแก้วเป็นแล้ว ระกำลอยแก้วก็ง่ายค่ะ โดยวิธีเดียวกัน คือคว้านเม็ดระกำออก หรือฝานเนื้อระกำแช่ในน้ำเกลือสัก 1 ชั่วโมงแล้วค่อย ๆ เอาขึ้นพอให้สะเด็ดน้ำเกลือใส่ลงในน้ำเชื่อมที่ทิ้งให้เย็นแล้ว  นำเข้าตู้เย็น ประมาณครึ่งวันก็รับประทานได้โดยใส่
น้ำแข็งทุบละเอียด หวาน หอม เย็นชื่นใจค่ะ
ขอนำสูตรน้ำลูกพรุนของคุณ jor ไปลองทำดูบ้างนะคะ  ขอบคุณค่ะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: แววพลอย ที่ 15 มิ.ย. 01, 18:51
ขอบคุณค่ะ  ...คุณ  ก.แก้ว สำหรับสุตร ระกำลอยแก้ว...
อะไรๆ  ก็ง่ายนะคะ  แต่ตอนคว้านเม็ด ระกำนี่มีเคล็ดลับ อีกไหมคะ....ชาวบ้าน  ที่ไม่ใช่ชาววัง อย่างแวว จะใช้วิธี ปาด แล้วเฉือนได้ไหมคะ...


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ก.แก้ว ที่ 16 มิ.ย. 01, 00:51
เคล็ดลับการคว้านเม็ดระกำคือต้องนั่งพับเพียบคว้านค่ะ แฮ่ะ แฮ่ะ พูดเล่นอ้ะ
ใช้มีดคว้านค่อย ๆ เซาะไปรอบ ๆ เม็ดทีละด้าน ทั้งด้านหัวด้านท้ายของเม็ดและใช้ปลายมีดดุนให้เม็ดหลุดออกมา  จะปาดและเฉือนก็ง่ายดี  ง่ายที่สุดคือลอกเปลือกแล้วใส่ปากค่ะ
อุ อุ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 06 ก.ค. 11, 10:42
คุณแม่ชอบต้มน้ำมะตูมให้ดื่มค่ะ เป็นเครื่องดื่มที่มีรสหวานเพราะเวลาต้มใส่น้ำตาล แล้วก็หอมมะตูมด้วย ลองดื่มกันนะคะ หวานดีจริงๆ


แม้จะเป็นกระทู้เก่า แต่กระแสการดื่มน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพก็กำลังมาแรง

เพิ่งทราบจากปากเพื่อนเล่าให้ฟังว่า น้ำมะตูมนี่ ช่วยบรรเทาอาการ "โรคกรดไหลย้อน" ได้ชะงัดนัก เพราะผู้เล่าเป็นผู้ทดลองด้วยตัวเอง

วิธีการง่ายๆ ก็คือใช้มะตูมแห้ง มาผิงไฟอ่อนๆ ให้เกรียมเล็กน้อย สังเกตว่าเปลือกจะดำนิดหน่อย อาจจะมีฟองปุดขึ้นมาจากชิ้นมะตูมแห้ง และมีกลิ่นหอมโชยมแตะจมูก
ถ้าไม่ผิงไฟก่อน เวลาต้มแล้วน้ำจะไม่หอม
จากนั้นก็นำไปต้ม ปริมาณมะตูมกับน้ำที่ต้ม กะเอาเอง ต้มประมาณ ๒๐ นาทีถึงครึ่งชั่วโมง ด้วยไฟกลาง ดูว่าสีของน้ำเข้มพอสมควร (สีน้ำตาลอ่อนอกสีเริ่มเข้ม)
กรองเอากากทิ้งไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลแดง รสหวานตามใจชอบ ปล่อยไว้ให้เย็น เก็บเข้าตู้เย็น ทานให้หมดในสองวัน



กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 11, 20:36
น้ำทับทิมเป็นกล่องเป็นขวดมีขาย แต่ถ้าจะทำเองก็ได้ค่ะ

    ทับทิมแกะเอาแต่เนื้อ  1 ถ้วยตวง
    น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง
    น้ำเชื่อม ตามชอบ
    เกลือป่นเล็กน้อย
วิธีทำ
   ขยำทับทิมกับน้ำต้ม ให้เนื้อหลุดจากเมล็ดมากที่สุด  กรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่ลงหม้อ ตั้งไฟ 5 นาที ยกลง ใส่น้ำเชื่อมและ
เกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน และเกลือละลาย ชิมรสให้พอดี    
  คุณค่าทางสมุนไพร
  ในผลทับทิมมีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียมและแคลเซี่ยม ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบฟอกโลหิต และ ระบบการหมุนเวียนในร่างกาย ในตำราแพทย์โบราณของเปอร์เซีย ระบุว่าทับทิมมี ประโยชน์ดังต่อไปนี้

    บำรุงหัวใจและตับ
    ฟอกไตและท่อปัสสาวะ
    ช่วยย่อย
    ละลายไขมันส่วนเกิน
    เป็นยาบำรุงกำลัง
    ช่วยลดอาการแพ้ท้อง
    ช่วยปรับฮอร์โมนในวัยหมดประจำเดือน
    ช่วยฟอกและหมุนเวียนโลหิต
    บรรเทาโรคเบาหวาน
    ละลายเสมหะ
    ชะลอการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มพลัง
    ชะลออาการสมองเสื่อม
    ทำให้ผิวพรรณดี    


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ค. 11, 16:38
น้ำตะไคร้

วิธีทำ
ล้างตะไคร้สด ทั้งต้นและใบ ให้สะอาด ตัดเป็นท่อนสั้นๆ นำไปต้มกับน้ำเปล่า 4 ลิตร ประมาณ 5-10 นาที แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 2-3 ชั้น เพื่อกันไม่ให้มีเศษตะกอนของใบตะไคร้
ผสมน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลายหมด ถ้าชอบรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย ให้เติมกรดมะนาว เพื่อความชุ่มคอชื่นใจ แล้วกรองอีกครั้ง ตั้งให้เดือด 1-2 นาที ยกลงกรอกใส่ขวดแก้วที่ล้างสะอาด คว่ำให้แห้ง ขณะร้อนอุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส ถ้ากรอกลงขวดพลาสติก ต้องลดให้อุณหภูมิ 68 องศาเซลเซียส กรอกให้เต็มขวด ปิดฝาให้สนิท แล้วแช่น้ำเย็นทันที
เมื่อขวดเย็น ให้รีบนำเข้าตู้เย็น สามารถเก็บไว้ได้ถึง 14 วัน


คุณค่า
วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา
แคลเซียม และฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหาร

คุณค่าทางสมุนไพร 
แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ  ลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกาย รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิตสูง



กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: werachaisubhong ที่ 09 ก.ค. 11, 12:31
น้ำมะตูม
มะตูมเป็นไม้ยืนต้น โดยมีชื่อพื้นเมืองหลายอย่างและใช้เรียกกันแตกต่างไป เช่น ตูม  ตุ่มตัง  กะทันตาเถร (ปัตตานี)  มะปิน (เหนือ) บักตูม หมากตูม (อีสาน)
ลักษณะของมะตูม ผล มีผิวเกลี้ยง เปลือก หนาและแข็ง ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเหลือง ในผลมะตูมมีเมล็ดตรงกลางเป็นพู มียางเหนียวใส นำมาใช้เป็นกาวจากธรรมชาติได้ เนื้อมะตูมมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เวลานำมาต้มเป็นชาจะมีกลิ่นหอมมาก เวลาสุกเนื้อจะนิ่มเป็นสีเหลืองหอมและมีรสหวานด้วย
มะตูมที่เราพบเห็นกันในปัจจุบัน ส่วนมากจะอยู่ในรูปของมะตูมแห้งเป็นแว่นที่มีขายตามร้านยาแผนโบราณ, ร้านขายสมุนไพรเพื่อสุขภาพ สำหรับผู้ที่รักและห่วงใยสุขภาพเท่านั้น ซึ่งนิยมนำมะตูมแว่นมาต้มเป็นน้ำมะตูมที่มีกลิ่นหอม สำหรับดื่มให้ชื่นใจ แก้กระหายน้ำ แถมยังให้คุณค่าอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมายด้วย เช่น
•เปลือกของรากและลำต้นของมะตูม สามารถลดไข้ และใช้เป็นยารักษาไข้มาลาเรียในสมัยก่อน ขับลมในลำไส้
•ราก แก้พิษฝี พิษไข้ รักษาน้ำดี       
•ใบสด แก้ไอ ขับเสมหะ หากมีอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ให้เอาใบมะตูมดิบๆ มาคั้นเอาน้ำเพื่อดื่ม ช่วยบรรเทาอาการไอและเสมหะเรื้อรังลงได้มี     
•ผลมะตูม ผลอ่อนที่มีสีเขียว ใช้เป็นยาเจริญอาหาร ขับลมในท้อง ผลแก่แก้เสมหะ ช่วยย่อยอาหาร และยังสามารถเอาผลสุกมาชงดื่มเป็นยาแก้ร้อนใน หรือ เอามะตูมตากแห้งมาต้มเป็นชาสมุนไพรก็จะได้ผล็อย่างเดียวกัน นอกจากนี้ ผลดิบแห้งยังใช้แก้บิด และแก้ท้องเสียในเด็กได้ด้วย ส่วนผลสุกนั้นกลับเป็นยาระบาย ช่วยย่อยอาหารได้ดีโดยเฉพาะในเด็ก


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.ค. 11, 09:15
น้ำอัญชัน
อัญชันเป็นไม้เลื้อยดอกสีน้ำเงินสด ตรงกลางมีสีเหลือง หรือสีขาว หรือสีม่วงอ่อน  มีสาร แอนโทรไซยานิน เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหลอดเล็กๆ ทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผม และนัยน์ตามากขึ้น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ  มีคุณค่าทางสมุนไพรช่วยปลูกผม ราก บำรุงตาแก้ตาฟาง ตาแฉะ ปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ รากใช้ถูฟันแก้ปวดฟัน

วิธีทำน้ำอัญชัน  
นำดอกอัญชันมาล้างจนสะอาด เด็ดก้านทิ้ง ต้มน้ำเดือดเทผ่านดอก ให้สีฟ้าออกมา คั้นเอาแต่น้ำ  จะเติมน้ำผึ้ง น้ำตาลชนิดใดก็ได้ พอให้ออกหวาน
ถ้าบีบมะนาวลงไป น้ำอัญชันจะเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นม่วงแดง

 
 


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.ค. 11, 20:10
น้ำเตยหอม

วิธีทำ    นำใบเตยหอมสด มาล้างให้สะอาด ทุบบุบๆ หั่นเป็นท่อนๆ ใส่หม้อต้มกับน้ำสะอาด จนเดือด
ลดไฟลง เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนมีน้ำสีเขียว
ตักใบเตยหอมขึ้นจากน้ำ แล้วใส่เกลือป่น และน้ำตาลทรายลงไปกวนให้ละลาย  ต้มต่อไปอีกประมาณ 5 นาที จึงปิดไฟ

ลดอาการกระหายน้ำ แก้อ่อนเพลีย บำรุงหัวใจทำให้ชุ่มชื่น


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: wayu ที่ 14 ก.ค. 11, 22:33
เวลาหุงข้าว ใ่ส่ดอกอัญชัญไปสักหยิบมือ ข้าวสวยหุงสุกมีสีสวยดีเเท้


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ค. 11, 22:20
น้ำข้าวโพด

วิธีทำ
1.นำข้าวโพดสดมาลอกเปลือก   ล้างให้สะอาด  ต้มให้สุก 15 นาที
2.แกะเมล็ดให้ได้ประมาณ 1 ถ้วยตวง
3.นำไปใส่เครื่องปั่น  เติมน้ำสุก  น้ำเชื่อม เกลือ นมสด
4.ปั่นจนข้าวโพดละเอียด 

สารอาหาร
แคลเซียม  แมกนีเซียม  ฟอสฟอรัสสูง โปรตีน  คาร์โบไฮเดรต และวิตามินเอ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 19 ก.ค. 11, 15:44
ไปทำน้ำอัญชันที่จีน ผลคือไม่มีคนกล้ากิน...เขาว่าไม่เคยเห็นน้ำสีฟ้า

โธ่


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ค. 11, 09:26
เป๊ปซี่สีฟ้ามีแล้วนะคะ   เพื่อนที่เมืองจีนคงจะชินกับน้ำดื่มสีฟ้าแล้วละ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ค. 11, 09:34
น้ำพุทรา

พุทราไทยสุกงอม  3  ถ้วย
น้ำสะอาด           2  ถ้วย
น้ำตาลทราย      1 /2 ถ้วย
เกลือป่น           1/6ช้อนชา

1  ล้างพุทราให้สะอาด  ต้มกับน้ำจนเปื่อย ยีให้เนื้อหลุดจากเมล็ด
2  เติมน้ำ กรองด้วยกระชอนเอาเมล็ดและเปลือกออก
3  เติมน้ำตาล เกลือ ชิมรสดู ตามชอบ
4  ตั้งไฟให้เดือด
5  กรองใส่ขวด  ตั้งไว้ให้เย็น แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม

น้ำพุทรา รักษาอาการท้องร่วง เป็นยาบำรุงประสาทอ่อนๆ รักษาอาการหวัดคัดจมูก


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: yanang ที่ 20 ก.ค. 11, 14:28
เคยอ่านในหนังสือ พูดถึงน้ำข้าวตัง แต่ยังไม่เคยได้ชิมที่ไหนเลย แต่คาดว่าน่าจะหอม ๆ หวาน ๆ อาจารย์พอจะมีสูตรหรือวิธีทำมั้ยคะ  :)


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.ค. 11, 17:06
ส่วนประกอบน้ำข้าวตัง
1  ข้าวตังก้นหม้อ 100 กรัม
2  น้ำเปล่า 4 ถ้วย
3  น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย หรือน้ำตาลกรวดก็ได้
วิธีทำ
1  ย่างข้าวตังจนเหลืองเกรียมเกือบไหม้  เพื่อจะเอากลิ่นหอม
2  ตั้งน้ำให้เดือด  ใส่ข้าวตังที่ย่างแล้ว ลงในน้ำเดือด
3  เคี่ยวสักครู่พอน้ำออกสีเหลือง กลิ่นหอม ตักข้าวตังออก ใส่น้ำตาลลงไป คนให้ละลาย
ก็จะได้น้ำข้าวตัง ร้อนๆ ค่ะ หอมกลิ่นข้าวตังเกรียมๆ และออกรสหวาน


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ค. 11, 13:32
น้ำใบบัวบก  โบราณบอกว่าแก้ช้ำใน   ยุคนี้มีสรรพคุณเพิ่มคือลบตีนกาบนใบหน้าได้ ไม่ต้องฉีดโบท็อกซ์ 
ทำด้วยการคั้นเอาแต่น้ำ ใช้สำลีชุบน้ำใบบัวบก ทาให้ทั่วใบหน้า ทาทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออก ทาทุกวันก่อนนอน หรือจะทาทิ้งไว้ก็ได้   มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ซึ่งจะช่วยลบรอยตีนกา  เขาบอกว่าทำสม่ำเสมอจะเห็นผล

วิธีทำน้ำใบบัวบก
ส่วนผสม
- ใบบัวบก 
- น้ำเชื่อม 
- น้ำเปล่าต้มสุก
วิธีทำ
นำใบบัวบกล้างให้สะอาด นำไปใส่เครื่องปั่น ใส่น้ำครึ่งส่วน ปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ ใส่น้ำที่เหลือ คั้นน้ำให้แห้ง นำน้ำที่ใด้ใส่น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ

สรรพคุณ
มีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา   มีสารแคลเซี่ยม วิตามินบี 1 สูงกว่าผักหลายๆชนิด
แก้ช้ำใน ทำให้หายฟกช้ำใด้ดี แก้ร้อนในกระหายน้ำ ลดอาการปวดศรีษะข้างเดียว บำรุงสมองบำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย เมื่อล้าใด้ดี แก้ความดันโลหิตสูง ถ้าดื่มทุกวันเพียง 1 สัปดาห์ ความดันโลหิตที่สูงจะลดลง นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ทำลายเซลมะเร็ง ลดการอักเสบและรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำใส้ ช่วยการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว ช่วยขับปัสสาวะ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 11, 08:41
น้ำแมงลัก
มีวิธีทำหลายแบบ  อย่างง่ายที่สุดคือเอาเม็ดแมงลักมาเลือกเอาสิ่งสกปรกออก ล้างให้สะอาด   ใส่ลงในน้ำร้อน  ให้เม็ดแมงลักพองตัว   ถ้าอยากให้หวานก็เติมน้ำหวานหรือน้ำเชื่อม    แต่ถ้าไม่อยากอ้วนก็ชงกินกับน้ำร้อนเฉยๆ ดื่มก่อนอาหารช่วยให้อิ่มเร็ว
หรือจะทิ้งไว้ให้เย็น ใส่น้ำแข็งดื่มก็ได้

สรรพคุณทางยา
เป็นยาระบาย บรรเทาอาการริดสีดวงทวาร และแก้อาการ กระหายน้ำ ถ้าไม่ใส่น้ำตาลใช้เป็นอาหารสำหรับการลดความอ้วนได้


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ส.ค. 11, 11:09
น้ำมะระใบเตย
    • เนื้อมะระขี้นก                  30 กรัม (3 ลูก)
    • ใบเตยหอมตากแห้ง         15 กรัม (1 ช้อนคาว)
    • น้ำเปล่าสะอาด              200 กรัม (14 ช้อนคาว)
    • เกลือป่นเสริมไอโอดีน        1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
    • น้ำมะนาว                         15 กรัม (ครึ่งลูก - ประมาณ 1 ช้อนคาว)

    วิธีทำ วิธีที่ 1

        นำมะระขี้นก ล้างให้สะอาด ผ่าซีก แกะเอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นยาวๆ บางๆ ตามขวางของมะระ
        นำใบเตย หั่นเป็นท่อนสั้นๆ ตากแห้ง แล้วคั่วให้เหลืองกรอบ เก็บไว้ในขวดปากกว้าง
        นำมะระขี้นก จาก ข้อ 1 และใบเตยหอม จากข้อ 2 และน้ำ ใส่หม้อต้มให้เดือด
        ยกลงจากเตา กรองกากออก เทลงแก้ว
        เติมน้ำมะนาวตามชอบ

    วิธีทำ วิธีที่ 2

        นำมะระขี้นก และใบเตยหอม ตามวิธีที่ 1 เทลงแก้ว เติมน้ำ วางทิ้งไว้ 5-10 นาที
        กรองกากออก เทน้ำลงแก้ว
        เติมมะนาวตามชอบ

    ทั้ง 2 วิธี จะได้กลื่นหอมของใบเตยและรสชาติของมะระขี้นก ไม่ต้องห่วงว่าจะขมเวลาดื่ม เพราะมีการเติมใบเตยและมะนาวกลบความขมแล้ว แต่ยังคงประโยชน์ของมะระขี้นก

คุณค่าทางอาหาร
      คุณค่าทางอาหาร    มีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา เป็นผักตามฤดูกาล ยอดอ่อน ใบอ่อน และผลอ่อน ใช้รับประทานเป็นผักออกยอดในฤดูฝน การปรุงอาหาร คนไทยทุกภาครับประทานมะระเป็นผัก ไม่นิยมรับประทานสด เพราะมีรสขม โดยเฉพาะผล จะขมมาก วิธีปรุงอาหาร โดยการนึ่ง หรือลวกให้สุกก่อน และรับประทานเป็นผักจิ้ม ร่วมกับน้ำพริก หรือป่นปลาของชาวอีสาน หรืออาจนำไปผัด หรือแกงร่วมกับผักอื่นก็ได้ การนำผลมะระไปปรุงเป็นอาหารอื่น เช่น ผัดกับไข่ เป็นต้น นิยมต้มน้ำ และเทน้ำทิ้ง 1 ครั้ง ก่อน หรืออาจใช้วิธีคั้นกับน้ำเกลือ เพื่อลดรสขมก่อนก็ได้ รสชาติยอดอ่อน ใบ และผลอ่อน มีรสขมเย็น สรรพคุณเป็นยาเจริญอาหาร ระบาย แก้ไข้ บำรุงร่างกาย

คุณค่าทางยา

    ใช้น้ำคั้นจากมะระ ดื่มช่วยลดการเกิดต้อกระจกซึ่งเป็นอาการจากเบาหวาน
    ช่วยเจริญอาหาร ใช้เนื้อของผลที่ยังไม่สุกใช้เป็นอาหาร ผักจิ้ม ต้ม แกง
    รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด ใช้ผลโตเต็มที่ หั่นเนื้อมะระตากแห้ง ชงน้ำ รับประทานต่างน้ำชา
    ลดไข้ ใช้ผลต้มรับประทานแต่น้ำเป็นยาแก้ไข้ หรือ ดื่มน้ำคั้นจากผล
    แผล ฝี ใช้ผลตำพอกฝี แก้บวม แก้ ปวด
    ในตำรายาไทย บันทึกว่า มะระเป็นยาเจริญอาหาร ระบาย แก้โรคลมเข้าข้อ หัวเข่าบวม เป็นยาบำรุงน้ำดี แก้โรคของม้าม โรคตับ เป็นยาขับพยาธิในท้อง ส่วนน้ำต้มของใบมะระ มีสรรพคุณระบายอ่อนๆ น้ำต้มของผลมะระ สรรพคุณแก้ปากเปื่อย ปากเป็นขุย
    ในต่างประเทศ มีการใช้มะระเป็นยาเช่นกัน ในประเทศฟิลิปปินส์ โปโตริโก และศรีลังกา มีการใช้มะระรักษาโรคเบาหวาน แพทย์จีนเชื่อว่า มะระมีพลังของความเย็น สรรพคุณขับพิษ ผลมะระช่วยฟอกเลือด บำรุงตับ มีผลดีต่อสายตา และผิวหนัง สารกลุ่มอนุพันธ์ของไอโซพรีนอยด์มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง



กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: unalum2019 ที่ 07 ส.ค. 11, 18:07
น้ำดื่มแบบไทยนี่น่ากินมากๆเลย


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: lalulalalulalala ที่ 09 ส.ค. 11, 18:12
น้ำข้าวโพดน่าดื่มมากๆ เลยค่ะ ท่าทางจะหวานหอมกลิ่นข้าวโพด ต้องอร่อยแน่ๆ เลย ;D


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: werachaisubhong ที่ 11 ส.ค. 11, 13:38
อากาศร้อนๆแบบนี้ น้ำลำใยสักแก้วมั๊ยจ๊ะ

น้ำลำใย

ส่วนผสม
ลำใยแห้ง
น้ำตาลทราย
น้ำลอยดอกมะลิ

วิธีทำ
ต้มจนเดือด ใส่น้ำตาลหวานตามชอบ
พอน้ำเดือดใส่เนื้อลำใย 2 นาที รีบปิดเตา (ต้มนานจะทำให้เนื้อลำใยไม่กรอบ)

สรรพคุณ
ใช้บำรุงเลือด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของโลหิต บำรุงร่างกาย
ลำไยสามารถป้องกันเชื้อโรคบางชนิดได้ เป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงกำลัง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยบำรุงกำลังของสตรี ภายหลังการคลอด
ช่วยบำรุงประสาท ในคนที่เป็นโรคประสาทอ่อน ๆ นอนไมหลับ ใจสั่น จะช่วยให้หลับสบาย ช่วยระงับประสาทที่อ่อนเพลียจากการตรากตรำทำงานหนัก ขี้ลืม


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: werachaisubhong ที่ 11 ส.ค. 11, 13:39
น้ำฟักทอง

ส่วนผสม น้ำฟักทอง
ฟักทองนึ่งสุก 1 ถ้วย
.น้ำสะอาด 3 ถ้วย
.น้ำตาลทราย 100 กรัม หรือน้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น

วิธีทำ น้ำฟักทอง
1. ปอกเปลือกฟักทอง นึ่งให้สุก ใส่เครื่องปั่นเติมน้ำ ปั่นให้ละเอียด เทใส่ภาชนะ
2. นำฟักทองที่ปั่นแล้วไปตั้งไฟ เติมน้ำตาลทราย เกลือป่น ชิมรสตามใจชอบ กรองด้วยผ้าขาวบางใส่หม้อตั้งไฟพอเดือด ยกลง จะได้น้ำฟักทองสีเหลือง มีรสหวานมัน
3. นำไปแช่เย็น เพื่อเพิ่มความอร่อย

สรรพคุณทางยาของฟักทอง
เมล็ด ขับพยาธิตัวตืด ขับปัสสาวะ และบำรุงร่างกาย
ราก บำรุงร่างกาย แก้ไอ ถ่อนพิษของฝิ่น
น้ำมันจากเมล็ด บำรุงประสาท
เยื่อกลางผล พอกแก้ฟกช้ำ แก้ปวดอักเสบ


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 11, 20:12
ดื่มน้ำสมุนไพรตามราศีเกิด  (http://horoscope.thaiza.com/detail_78414.html)


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 11, 09:51
น้ำมะดัน
    มะดัน 6-7 ผล
    น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วยตวง
    น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง
    เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ
    ล้างมะดันให้สะอาด ผ่าครึ่ง เอาเมล็ดออก   ต้มน้ำใส่เนื้อมะดันลงไป พอน้ำเดือด เติมน้ำเชื่อมให้ออกรสหวาน ต้มต่อจนเนื้อมะดันเปื่อยนิ่ม กรองเอากากออก เติมเกลือป่นเล็กน้อย ให้ได้รสตามใจชอบ
    เวลาดื่ม เติมน้ำแข็งลงไป
คุณค่า
- แก้เสมหะ ขับเสมหะ ระบายท้อง และบำรุงประจำเดือน


กระทู้: เครื่องดื่มไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ส.ค. 11, 20:11
น้ำดอกคำฝอย

ชงดอกคำฝอยกับน้ำเดือด   กรองเอากากออก  ดื่มร้อนๆ 
หรือว่าผสมกับดอกเก๊กฮวย  เติมน้ำตาลทราย  กรองเอากากออก  ดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น