พงศาวดารเรื่องอิเหนา (ทรงสอบจากระเด่นอธิปติมนุนยาหยาที่เมืองบันดง)
เมืองกุเรปันนั้น คือกุราวัน อยู่ในแขวงเมดวน เมืองดาหาอยู่ในแขวงกดีรี เมืองกาหลังคือซิ่งกาลา เมืองสิงหัดส่าหรี คือสิงคัดสารี ฟังเล่าเรื่องราวดูเป็นอิเหนาใหญ่มาก
สนทนากันด้วยเรื่องอิเหนา เป็นความลำบากที่จะให้รู้ตรงคำกันได้ ด้วยเหตุหลายประการ
ข้อ ๑ นั้นล่ามไม่ตั้งใจ พูดภาษากันไม่ค่อยได้
ข้อ ๒ ชื่อที่เรียกในเรื่องอิเหนาดังแกว่ง เป็นสำเนียงไทยบ้าง มลายูบ้าง
ข้อ ๓ เสียงพวกชวาเองข้างฝ่ายตะวันตกตะวันออกก็ไม่เหมือนกัน
ข้อ ๔ ชื่อตำบลก็ดี ชื่อคนก็ดีมักเรียกหลาย ๆ ชื่อ เรารู้แต่ชื่อเดียว เขาสอบถามถึงชื่ออื่นเราจน คงได้ความรัว ๆ ว่า กุเรปันนั้น เป็นตำบลกุราวันแน่แล้ว ดาหากดีรีโดโฮ กาหลังชื่อโกโลหรือจังโกโลสิงหัดส่าหรี สิงคัดสารี ยังเมืองอื่น ๆ ที่ได้แน่นั้นแต่เมืองล่าสำ นอกนั้นดูแกเดาพุ่ง ๆ เช่นหมันหยาว่าโมโป ปะตารำแกว่ามัดตารำคือที่ยกไป เช่นเมืองเกิดทีหลัง เป็นจะเอาแน่ไม่ได้
(ทรงสอบจากสุลต่านเมืองยกยา)
กุเรปันเรียกนครวัน หรือเรียกสั้น ๆ ว่ากุราวัน (ควรจะสันนิษฐานได้ว่าเหมือนเมืองนครสวรรค์ เรียกสั้น ๆ ว่าครสวรรค์ ) อยู่ในแขวงมุกตรัน มณฑลมัธยูน หรือมัธยม ซึ่งเราจะผ่านไป ดาหาหรือโดโฮคำเดียวกัน อยู่ในมณฑลกดิรี กาหลัง จังโกโล หรือชังโกโลเรียกไม่สู้ชัด อีกนัยหนึ่ง จิงกาลา หรือชิงกาลา ว่าเป็นคำสังสกฤต แปลว่า หมาป่า ก็เป็นอันเข้าใจได้ว่าเป็นสิงคาละอยู่ในแขวงสิทรัชโชมณฑลสุรบายา ที่เรารู้ไปว่ากาหลังบางทีจะเป็นท้ายคาละขาดสิง เห็นจะพอเชื่อได้ว่าเป็นเมืองนั้น ถ้าจะว่าโดยภูมิประเทศ การที่ไปเล่นทะเลทรายคราวหลัง จะไปเล่นอย่างเก็บหอยเก็บปูก็ใกล้ทะเลมาก หรือถ้าจะไปทะเลทรายโบรโมก็พอไปได้แต่อยู่ข้างจะลำบาก เมืองสิงหัดส่าหรีนั้นเดี๋ยวนี้เรียกว่า สิงโดสารี แต่ชื่อที่แท้ว่า สิงหคิรี แปลว่าเมืองราชสีห์ หรือ สิงโต อยู่ในมณฑลปัสรวน พิเคราะห์ดูก็เห็นจริง เมือง ๔ เมืองนี้ อยู่ข้างท่อนท้ายเกาะชวาข้างตะวันออก ระยะทางไม่สู้ห่างกัน เมืองกุเรปันอยู่ข้างตะวันตกห่างจากทะเลทุกด้าน นับว่าเป็นอยู่กลางเกาะชวาข้างตะวันออก รถไฟเดินเลียบหมู่เขาซึ่งเรียกว่าวิลิศมาหรา ไปจนหมดเขตเขาแล้วเลยไปอีกจนถึงกาโตโสโน เลี้ยวลงมาข้างใต้จึงถึงกดีรี ซึ่งอยู่ใกล้กันกับดาหา ทางรถไฟอยู่ใน ๓ ชั่วโมง ถ้าจะไปจากดาหาถึงเมืองกาหลังทางก็อยู่ใน ๓ ชั่วโมง ๔ ชั่วโมง ตั้งแต่กาหลังไปถึงสิงหัดส่าหรีก็ราวกัน ถ้าเป็นทางเดินอย่างด่วน ๆ อยู่ใน ๗ วัน ๘ วัน ถ้าเดินสบาย ๆ คงอยู่ใน ๑๒ วันขึ้นไปหา ๑๕ วัน ดูยุติด้วยเรื่องราว แต่จะต้องสอบสวนต่อไป สุลต่านรับว่าหนังสือมีอยู่จะช่วยหาให้ เรารับจะจดเรื่องราวเป็นภาษามลายูไปให้ แต่เสียทีที่จำอิเหนาใหญ่ไม่ได้ หาไม่จะได้เค้าดีขึ้นมาก แต่ข้อที่จะตัดสินว่าอิเหนาใหญ่ผิด หรืออิเหนาเล็กผิดเป็นว่าไม่ได้ เพราะเรื่องที่แต่งเล่นวายังวองมีมากหลายฉบับ เนื้อความไม่ใคร่ต้องกัน เพราะเป็นเรื่องเก่าเหมือนพงศาวดารเหนือ รู้ว่าพระร่วงมีจริงแน่ แต่เป็น ๒ เรื่อง อิทธิปาฏิหาริย์ต่าง ๆ กัน อิเหนามีจริงเป็นแน่แต่เรื่องต่าง ๆ กันไป
จาก
ประชุมพงศาวดารเล่ม ๓๑ พงศาวดารและโบราณวัตถุสถานในเกาะชวา พระบรมราชาธิบายในพระบาทสมเด็จ ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คราวเสด็จประพาสชวาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๙ หน้า ๔๗-๕๐