เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: vun ที่ 10 มิ.ย. 05, 12:32



กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 10 มิ.ย. 05, 12:32
 "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 มิ.ย. 05, 19:10

ตึกพระยาบุรุษรัตนราชพัลลพ หลังใหญ่  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 มิ.ย. 05, 19:13

ตึกพระยาบุรุษรัตนราชพัลลพ หลังที่๒  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 09 ก.ค. 05, 18:53

ต่อไปเป็นรูปของบ้านหลังที่1ครับ ทั้งภายใน และภายนอก  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 09 ก.ค. 05, 18:55

ภาพประตูโถงทางเดินที่หน้าห้องรับแขก และห้องทานอาหาร ดูสิครับแค่ประตูก็ยุโรปแล้ว  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 09 ก.ค. 05, 18:57

โคมไฟที่โถงทางเข้าหน้าบันได  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 09 ก.ค. 05, 18:58

ที่มุข และระเบียงทางรถเข้าของตึกครับ  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 09 ก.ค. 05, 18:59

ที่ห้องทานอาหาร ปัจุบันบำรุงใหม่ทาสีบานเย็น เดิมมีสีขาวไม่ค่อยสวยงาม  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 09 ก.ค. 05, 19:00

บานหน้าต่างห้องใหญ่บนชั้น2  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 09 ก.ค. 05, 19:01

ตึกขณะถ่ายทำละคร เปิดหน้าต่าง(ส่วนมากจะไม่เปิด)  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 09 ก.ค. 05, 19:05

รายละเอียดหน้าต่าง  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 09 ก.ค. 05, 19:14

บานประตู และที่กรุผนังสวยงามมากคล้ายปราสาทนอยเชอร์วานสไตล์ ในเยอรมนี  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 10 ก.ค. 05, 14:20
 เราดูรูปกันมามากแล้ว คราวนี้มาฟังประวัติอันน่าสนใจของพระยาบุรุษต่อพระราชวงศ์ และสถาปัตยกรรมยุโรป ในประเทศไทย
พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภท่านมีชื่อว่า นพ ไกรฤกษ์เป็นบุตรชายของพระมงคลฯกับท่านขรัวยายไข่ ท่านดำรงยศครั้งแรกในสมัยพระจุลจอมเกล้าเป็นมหาดเล็กประจำห้องพระบรรทม และท่านนี่แหละคือผู้จดบันทึกเหตุการณ์ในห้องพระบรรทมก่อนจะเสด็จสวรรคต และท่านยังดำรงศเป็น อธิบดีกรมเจ้าที่ ท่านเป็นทายาศซึ่งสืบสกุลมาจากพระยาไกรโกษา (ฤกษ์) ท่านมีน้องและพี่ร่วมบิดามารดาเดียวกันคือ พระยาประเสริฐศุภกิจ แต่ได้รับพระราชทานนามสกุลเป็นประเสริฐศุภกิจ  ไม่ใช่ไกรฤกษ์  และพระยามหิธร แล้วก็มียศใหญ่โตกันหมดทุกคนท่านได้ถึงแกอนิจกรรมในปี2501ถือว่าท่านเป็นผู้ที่อายุยืนยาวมากตั้ง5รัชกาล
ที่อพาร์ทเมนต์ดุสิตเอเวนนิวเป็นดุสิตสโมสรนะครับ" บ้านนี้เป็นบ้านประยาเสิรฐศุภกิจครับ ท่านผู้นี้เป็นน้องชายของพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ
บ้านที่ "ที่อยู่ใกล้ๆสถานทูตสหรัฐไงครับ" นั้น เป็นอาคารที่รัชกาลที่ ๖ โปรดให้พระยาบุรุษฯ เป็นแม่กองจัดสร้างขึ้นรวม ๘ หลังในที่ดินที่ได้พระราชทานให้แก่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง (ปัจจุบันคือ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย) เพื่อจัดหาประโยชน์บำรุงโรงเรียนนั้น ต่อมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ สงบ รัฐบาลสหรัญอเมริกาได้ติดต่อผ่านรัฐบาลไทยขอซื้อบ้าน ๓ หลังที่อยู่ติดกับ AUA ที่สถานทูตเคยเช่าอยู่ไปเป็นกรรมสิทธิ์ บ้าน ๓ หลังนั้นจึงยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนอีก ๕ หลังนั้นกลายเป็นตึกสูงและโรงแรมไปหมดแล้วครับ



เรื่องบ้านสี่หลังเชิงสะพานซังฮี้นี้ ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าเป็นบ้านใครบ้าง ทราบแต่ว่า ที่ดินผืนนี้ ตั้งแต่ริมถนนสามเสนเลียบถนนราชวิถี ถนนขาว(คั่นกลางระหว่างวัดราชผาติการาม) และถนนที่คั่นระหว่างวชิรพยาบาลนี้ เป็นที่ดินที่พระราชทานแก่พระยาบุรูษรัตนราชพัลลภ และพี่น้องในสกุลไกรฤกษ์ ฝั่งตรงข้ามทางถนนราชวิถีนั้นพระราชทานเจ้าพระยามหิธร (ลออ ไกรฤกษ์) ผู้เป็นลูกผู้พี่
เคยได้ยินทายาทของพระยาบุรุษัตนราชพัลลภและผู้ใหญ่อีกหลายท่านเล่าไว้ว่า พระยาบุรุษฯ นั้นท่านมีใจรักเรื่องการก่อสร้างอาคาร ในการก่อสร้างอาคารแต่ละหลังของท่านนั้นท่านใช้วิธีสั่งอาคารจำลองด้วยพอร์ซเลนจากยุโรปเข้ามา แล้วแกะรูปแบบอาคารเหล่านั้นไปสร้างเป็นอาคารจริงๆ ฉะนั้นอาคารที่ท่านสร้างจึงเป็นทรงยุโรปที่ไม่เหมือนกันแม้แต่หลังเดียว
บ้านท่านมีประวัติดังนี้ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่6โปรดเกล้าฯสร้างให้กับพระยาบุรุษ โดยที่โปรดให้พระยาบุรุษฯ เป็นแม่กองจัดสร้างขึ้นรวม ๘ หลังในที่ดินที่ได้พระราชทานให้แก่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง (ปัจจุบันคือ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย) เพื่อจัดหาประโยชน์บำรุงโรงเรียนนั้น ต่อมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ สงบ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ติดต่อผ่านรัฐบาลไทยขอซื้อบ้าน ๓ หลังที่อยู่ติดกับ AUA ที่สถานทูตเคยเช่าอยู่ไปเป็นกรรมสิทธิ์ ส่วนบ้าน ๓หลังนั้นจึงยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันกรรมสิทธ์ก็ตกเป็นของทางกองทัพบก โดยเป็นที่ทำการของสำนักงานตรวจบัญชีกองทัพบก ส่วนอีก ๕ หลัง ปัจจุบันรื้อไปแล้ว ที่ดินตรงบริเวณนั้น ตั้งแต่ริมถนนสามเสนเลียบถนนราชวิถี ถนนขาว(คั่นกลางระหว่างวัดราชผาติการาม) และถนนที่คั่นระหว่างวชิรพยาบาลนี้ เป็นที่ดินที่พระราชทานแก่พระยาบุรูษรัตนราชพัลลภ และพี่น้องในสกุลไกรฤกษ์ ฝั่งตรงข้ามทางถนนราชวิถีนั้นพระราชทานเจ้าพระยามหิธร (ลออ ไกรฤกษ์) ผู้เป็นลูกผู้พี่
พระยาบุรุษฯ นั้นท่านมีใจรักเรื่องการก่อสร้างอาคาร ในการก่อสร้างอาคารแต่ละหลังของท่านนั้นท่านใช้วิธีสั่งอาคารจำลองด้วยพอร์ซเลนจากยุโรปเข้ามา แล้วแกะรูปแบบอาคารเหล่านั้นไปสร้างเป็นอาคารจริงๆ ฉะนั้นอาคารที่ท่านสร้างจึงเป็นทรงยุโรปที่ไม่เหมือนกันแม้แต่หลังเดียว แต่ก็ไม่ได้เหมือนเปี๊ยบเลยท่านนำมาประยุคให้ทันสมัยเข้ากับเมืองไทย  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 10 ก.ค. 05, 14:32
 มาดูลักษณะบ้านหลังที่1ดีกว่า
ภายนอก:มีแปลนเป็นรูปตัวL ภายนอกมีสถาปัตยกรรมแบบเรเนอร์ซองส์ บนกัลสมัยพระราชินีวิคตอเรีย หลังนี้จะตรงกับประตูทางเข้าพอดี มุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดง ตัวตึกทาสีเหลืองครีมอ่อน ภายนอกประดับประดาด้ายลายปูนปั้นงดงามมากเป็นรูปลาผักกาดน่าชม ด้านปีกซ้ายเป็นซุ้มไม้ระแนงปลูกพันธุ์ไม้นานาชนิดเช่านกระดังงา ราชาวดี ลดาวัลย์ ข้างหลัง จะมีหน้าต่างบานใหญ่ภายในเป็นบนใด แต่ไม่งามเท่าด้านหน้า  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 10 ก.ค. 05, 14:37
 มาดูลักษณะบ้านหลังที่2ดีกว่า
ภายนอก:มีลักษณะดูวังเวงเพราะมีต้นไทรต้นใหญ่มาก แล้วสถาปัตยกรรมก็ยุโรปมากเกินไปทำให้ดูหน้ากลัว ลักษณะคล้ายกับโบส์ในต่างประเทศ แต่ด้านข้างดูสว่างสดสัยมีระเบียงโดยรอบทั้งชั้นบน ชั้นล่าง ตอนนี้ใช้ทำการครับ  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 10 ก.ค. 05, 14:44
 มาดูลักษณะบ้านหลังที่3ดีกว่า
ภายนอก:มีลักษณะที่สวยงามมีปูนปั้นรอบของหน้าต่าง มีทางรถเข้า มีมุข8เหลี่ยมมีระเบียงบัชั้นใต้หลังคา มีความงามแต่ด้วยกว่าหลังที่1
มีลักษณะคล้ายหลัง2อยู่คือมีระเบียงรอบ  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 10 ก.ค. 05, 14:46

หลังใหม่เป็นหลังเรียบๆแต่แฝงยุโรปนิดๆตามรสนิยมของท่าน  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 10 ก.ค. 05, 18:57

มุขเล็กของตึก1  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 10 ก.ค. 05, 20:18
 ภาพสวยจังครับ
ชอบรูปที่คุณvun เอามาฝากครับผม


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: หยดน้ำ ที่ 12 ก.ค. 05, 09:49
 คุณ  vun  ครับ  ทราบมาว่าถัดจากบ้านของพระยาประเสริฐศุภกิจ  (อพาร์ทเมนต์ดุสิตเอเวนนิว)  คือวังของเสด็จพระองค์อาทร  (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ  ชั้น  5  พระองค์เจ้าหญิงอาทรทิพยนิภา)  ไม่ทราบว่าตอนนี้วังยังคงสภาพเดิมอยู่หรือเปล่าครับ  แล้วไม่ทราบว่าใครเป็ผุ้ถือกรรมสิทธิ์อยู่  ทราบว่าเมื่อประมาณปี  2525  วังยังเป็นของพระญาติอยู่น่ะครับ


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 16 ก.ค. 05, 18:02
 ผมก็ผ่านมันอยู่ทุกวี่ทุกวันนะครับที่นั่นไม่เห็นจะมีวังอะไรเลย แต่ก็อาจจะเป็นไปได้เนื่องจากพระพระยาบุรุษเป็นพระญาติกับเสด็จท่าน ก็มีแต่ทางด้านหลังของดุสิตเอเวนนิวเป็นตึกเก่าสภาพทรุดโทรมอยู่หลัง1ประตูทางเข้าสวยงามมาก และบูรณะอยู่หลังหนึ่งขณะนี้ประกาศเช่าอยู่หลังสีส้มๆครีมๆ(หลังประกาศเช่า)และยังมีอีกคือวังของคนในสกุลไกรฤกษ์ ซึ่งท่านพึ่งเสียไปครับ ตอนนี้เป็นของ Unifem มูลนิธิกองทุนเพื่อเด็กและสตรีทำการอยู่ครับ และอีกหลังหนึ่งไม่ทราบใช่ใหมที่ซึ่งขณะนี้เป็นหน่วยสันติภาพสหรัฐอเมริกา คุณหยดน้ำลองไปพิจารณาดูนะครับ และเอารูปมาฝากครับ  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 16 ก.ค. 05, 18:08

ไม่เป็นครับคุณติบอ ผมจอดรถที่นั่นทุกวัน เห็นจนเบื่อแล้ว เห็นมันสวยจึงเอามาเล่าสู่กันฟัง เพราะไม่มีใครได้เล่าถึงเลย (ภาพฝ้าเพดานเขียนสีในบ้าน)คุณอยากรู้ประวัติดูได้จากบ้านในกรุงรัตนโกสินทร์3ที่จุฬาฯมีขาย เล่มละ102บาทครับ  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 16 ก.ค. 05, 18:12

ผมมีรูปบ้านตอนยังไม่บำรุง และยังไม่สร้างดุสิตเอเวนนิวสภาพทรุดโทรม ไม่มีสวนอย่างในปัจจุบัน อยากดูไหมครับถ้าอยากมาร่วมกันแสดงความคิดเห็นสิครับ  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 16 ก.ค. 05, 18:16

มีกระทู้นี้อีกนะครับ เรียนถามคุณเทาชมพูเรื่อง"พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ"และบ้านของท่านครับ [ศิลปะวัฒนธรรม] vun มัภาพสวยเยอะเลย  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 16 ก.ค. 05, 18:18
 น้องสาวท่านคือ"เจ้าจอมมารดาชุ่ม"


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 16 ก.ค. 05, 18:20

ขอโทษรูปบ้านหลัง2ยังไม่ได้โพสถ์  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 16 ก.ค. 05, 23:22
 ขอแก้ไขประวัติของพระยาบุรุษฯ ที่ว่าท่านเคยเป็น "อธิบดีกรมเจ้าที่" นั้น  ที่ถูกเป็นกรมชาวที่ครับ  กรมนี้มีหน้าที่ดูแลรักษาพระราชฐาน  ถ้าเรียกเป็นภาษาธรรมดาก็น่าจะเป็นกรมอาคารสถานที่ละครับ  ส่วนน้องชายท่านที่ชื่อพระยาประเสริฐศุภกิจนั้นก็ได้ใช้นามสกุลไหรฤกษ์เช่นเดียวกันครับ  แต่ที่คุณ VUN ว่าท่านได้รับพระราชทานนามสกุลเป็นประเสริฐศุภกิจ ไม่ใช่ไกรฤกษ์นั้น  น่าจะเป็นการเข้าใจผืดเพราะเห็นนามคุณหญิงจำเริญ  ประเสริศุภกิจ ที่ศาลากลางน้ำโรงเรียนวชิราวุธเลยเข้าใจว่าท่านได้รับพระราชทานนามสกุลนั้นกระมังครับ  จึงขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า ที่ออกนามคุณหญิงไว้ดังนั้นเป็นพระราชนิยมในรัชกาลที่ ๖ ที่ให้ออกนามสตรีซึ่งสามีมีบรรดาศักดิ์  หากสามียังมีชีวิตอยู่ให้คงออกนามว่า คุณหญิงแล้วตามด้วยราชทินนามของสามี เช่น คุณหญิงเจริญซึ่งเป็นภรรยาพระยาประเสริฐศุภกิจ  หากพระยาประเสริฐศุภกิจยังคงมีชีวิตอยู่ก็จะออกนามคุณหญิงว่า คุณหญิงประเสริฐศุภกิจ  แต่ถ้าสามีล่วงลับไปแล้วมีพระราชนิยมให้ออกนามเดิมแล้วจามด้วยราชทินนามสามี ดังเช่น คุณหญิงจำเริญ  ประเสริฐศุภกิจ  นามจำเริญเป็นนามเดิม  ส่วนประเสริฐศุภกิจเป็นราชทินนามของสามีที่ล่วงลับไปแล้ว
ที่ดินพระราชทานริมถนนราชวิถีฝั่งเหนือนั้นมี ๓ แปลงติดต่อกันครับ  แปลงแรกทางตะวันออกติดกับสี่แยกซางฮี้เป็นของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทรนิพยนิภา  ซึ่งมีเจ้าจอมมารดาเป็นพวกไกรฤกษ์  ปัจจุบันตกเป็นมรดกแก่ทายาทของคุณพูนเพิ่ม  ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการพระราชวัง และท่านผู้หยฺงกุณฑี (สุจริตกุล) ไกรฤกษ์  แปลงกลางเป็นของพระยาประเสริฐศุภกิจ ซึ่งต่อมาตกเป็นมรดกแก่ ดร.พิริยะ  ไกรฤกษ์ ก่อนที่จะเปลี่ยนมือเป็นดุสิตอเวนิวในปัจจุบัน  ส่วนแปลงด้านตะวันตกนั้นเป็นของพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ  ซึ่งปัจจุบันเป็นของกองทัพบก


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 ก.ค. 05, 10:20
 อ๋อ ใช่ครับทายาทของตระกูลสุจริตกุลท่านมีบ้านอยู่ที่นั้นครับ รู้สึกว่าปัจจุบันยังอยู่ในสภาพดีครับเป็นที่อาศัยของท่าน แล้วบ้านนั้นก็ตกเป็นของคุณพูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ ที่ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมไปเร็วๆนี้ บ้านท่านอยู่ที่พระยา คอร์ท ที่องการยูนิเฟิม ปัจจุบันยังมีอยู่สภาพดีมาก เป็นสถาปัตยกรรมColonialครับ นี่คือรูปบ้านของพระยาประเสริฐศุภกิจ ตอนตกเป็นของดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ ปัจจุบันเป็นสโมสรของดุสิต อเวนนิว


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 ก.ค. 05, 10:27
 นี่คือรูปบ้านของพระยาประเสริฐศุภกิจ ตอนตกเป็นของดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ ปัจจุบันเป็นสโมสรของดุสิต อเวนนิว


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 ก.ค. 05, 10:29

บ้านของพระยาบุรุษรัตนราชพัลลพในด้านหลัง  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 ก.ค. 05, 10:31

มุมสุดขอบ  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 ก.ค. 05, 10:53
 บริเวณที่ตั้งสำนักงานตรวจบัญชีกองทัพบก เดิมคือ บ้านพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์) ผู้รับราชการสนองพระเดชพระคุณพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี ถึง ๓ แผ่นดิน ท่านได้ถวายตัวเข้ารับราชการเป็นมหาดเล็ก ใน รัชกาลที่ ๕        ด้วยความอุตสาหะและจงรักภักดีจนได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้เป็นผู้ตามเสด็จอย่างใกล้ชิดโดยตลอด ท่านได้ทุ่มเทให้กับการรับราชการสนองพระเดชพระคุณ จนแทบไม่ได้กลับบ้าน ซึ่งอยู่ไกลออกไป
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานที่ดินบริเวณปลายถนนราชวิถีให้ท่านได้ปลูกสร้างบ้านพักอาศัย เพื่อสะดวกในการเดินทางไปรับราชการ และยังพระราชทานเงินถึง ๓๐๐ ชั่ง เพื่อใช้ในการปลูกสร้างบ้าน หลังใหญ่จึงได้สร้างขึ้นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก โดยอาศัยช่างก่อสร้างชาวต่างประเทศ ชุดเดียวกับที่สร้างพระที่นั่งอนันตสมาคมใช้เวลาก่อสร้างประมาณ ๖ ปี       โดยท่านเป็นผู้วางแบบแปลนเองทั้งหมดหลังคาทรงปั้นหยา อวดพื้นหลังคา ด้วยกระเบื้องว่าว เจาะตกแต่งช่องหน้าต่างเล็ก ๆ บนหลังคา
     วันประวัติศาสตร์ของบ้านหลังนี้คือวันที่ ๑๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๔๘ ด้วยเป็นวันทำบุญขึ้นบ้านใหม่ โดยเป็นวันที่ รัชกาลที่ ๕ และ รัชกาลที่ ๖ ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จพระราชดำเนินเหยียบบ้านหลังนี้ทุกห้อง เพื่อเป็นสิริมงคล ทรงเสวยพระ กระยาหารโดยพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ เป็นผู้ถวายพระกระยาหารด้วยตนเอง
     กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๒๑
นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๒๒ เป็นต้นมา        สำนักงานตรวจบัญชีกองทัพบกคือผู้รับผิดชอบสถานที่แห่งนี้ได้พยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาคุณค่าและความงดงามของสถานที่นี้ไว้ แต่ก็ยากเกินกว่าที่จะดำเนินการได้โดยลำพัง จากวันนั้นถึงปัจจุบันกว่า ๙๘ ปี อาคารที่โดดเด่นและสะดุดตาหลังใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่อย่างสงบรอการบูรณะให้คงสภาพเดิม เพื่อเป็นทรัพย์ของแผ่นดินที่ทรงคุณค่าตลอดไป
     จนกระทั่งปีพุทธศักราช ๒๕๔๕ เป็นต้นมาได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารอนุรักษ์มาโดยลำดับ เพื่อให้คงไว้ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 ก.ค. 05, 10:58
 อาคารอนุรักษ์ หรือ บ้านพระยาบุรุษรัตนราชพัลลพ หลังการบูรณะ


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 ก.ค. 05, 12:24

ในห้องโถง  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 17 ก.ค. 05, 12:27

บันไดบนตึก  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 19 ก.ค. 05, 17:38

ก่อนบูรณะมีสภาพที่ทรุดโทรม แล้วหลังคาก็ผุทุกวันจะมีนกมาทำรัง  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 19 ก.ค. 05, 17:50

นี่คือรูปบ้านของพระยาประเสริฐศุภกิจ ตอนตกเป็นของดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ ปัจจุบันเป็นสโมสรของดุสิต อเวนนิว  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 19 ก.ค. 05, 18:17

อาคารนี้ถึงแม้จะมีส่วนประกอบ ซึ่ง
นำแบบอย่างมาจากปราสาทNeuschwansteinที่เยอรมันก็จริง แต่หาได้
เป็นการลอกเลียนมาทั้งหมดไม่ แต่เป็นเพียง
การนำส่วนประกอบนั้น ๆ เข้ามาประกอบกัน
เป็นอาคารใหม่ มีประโยชน์ใช้สอยใหม่ได้อย่าง
เหมาะเจาะคล้องจองเป็นอย่างดี  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 20 ก.ค. 05, 17:57

บานประตูแกะสลัก ที่โถงทางเข้า เป็นบานประตูที่ในสมัยนั้นหาดูค่อนข้างยาก  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 20 ก.ค. 05, 17:59

ภายในหอคอยโค้ง ในชั้นล่าง จะเห็นลายบนเพดานพร้อมโคมไฟ ซึ่งเป็นของเก่า  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 20 ก.ค. 05, 18:02

ลายบัวเชิงผนังซึ่งทำออกมาห่างมากมีลักษณะที่งดงาม  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 20 ก.ค. 05, 18:10

ภาพลายเขียนสีบนเพดาน ห้องทางทางออกไปเฉลียงกามเทพ  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 20 ก.ค. 05, 18:14

พอขึ้นบันไดไปจะพบประตู2บานเข้าสู่ห้องพักผ่อน  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 21 ก.ค. 05, 13:03

บนชั้น2 ที่ห้องพักผ่อน  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 21 ก.ค. 05, 13:05

ภาพเขีนสับนพดาน มากด้วยลายละเอียด  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 21 ก.ค. 05, 13:07

ที่ราวบนได  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 21 ก.ค. 05, 13:09

บ้านนรสิงห์ บ้านที่สร้างในยุคเดียวกัน  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 21 ก.ค. 05, 21:00
 พระยาบุรุษท่านเขียนจดหมายเหตุ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวรจนถึงสวรรคต.5ด้วย
ตอนที่1มีอยู่ว่า
จดหมายเหตุ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระประชวรจนถึงสวรรตค นี้ พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ
(นพ ไกรฤกษ์) เจ้ากรมมหาดเล็กห้องพระบรรทม ในรัชกาลนั้น
เป็นผู้เรียบเรียงขึ้น ตามความที่ท่านได้ประจักษ์เอง
ตั้งแต่เริ่มทรงพระประชวร จนถึงที่สุดแห่งพระชนมชีพ
เมื่อปลายปี ร.ศ.125 (พ.ศ. 2449) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระชนมายุได้ 53 พรรษา บังเกิดพระโรคเบียดเบียน ไม่เป็นที่ทรงพระสำราญ ด็อกเตอร์เบอร์เมอร์ นายแพทย์ของกรมทหารเรือ ซึ่งเป็นผู้ถวายการอภิบาล ได้ตรวจพระอาการ ลงสันนิษฐานว่าพระโกฎฐาส ภายในพระวรกาย ไม่เป็นไปสม่ำเสมอ พระโรคเช่นนี้ ไม่ถูกกับอากาศชื้น เช่น ในฤดูฝนชุก และร้อนจัด เช่น ฤดูคิมหะ ประเทศที่จะรักษา พระโรคเช่นนี้ ได้เหมาะดีที่สุด ก็มีแต่ยุโรปเท่านั้น จึงกราบบังคมทูลถวายคำแนะนำ เพื่อเสด็จประพาสยุโรป บำรุงพระวรกาย ให้คืนเป็นปกติ แต่ในเวลาที่พระโรคยังไม่ทันจะเจริญขึ้น
              โดยคำแนะนำ ของนายแพทย์นี้ จึงได้เสด็จประพาสยุโรป ออกจากพระมหานคร เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2449 เสด็จกลับมาถึงพระนคร เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450 ขณะประทับอยู่ที่เมืองซันเรโม ประเทศอิตาลี ได้มีนายแพทย์เยอรมัน และอังกฤษ ชั้นโปรเฟสเซอร์ รวม 3 นาย ได้ประชุมตรวจพระอาการเห็นว่า พระอวัยวะทุกส่วนยังเป็นปรกติ ไม่มีสิ่งใดแสดงว่า จะเป็นไปในทางที่ร้ายแรง ได้ถวายคำแนะนำการเสวย และการบรรทมให้มากพอ และลดทรงการงานให้น้อย ให้งดการงานที่เป็นการหนักทุกอย่าง ได้มีการทำนายซึ่งทางลับว่า ถ้าพระอาการเป็นเช่นนี้ จะทรงพระชนม์ไปได้สัก 3 ปี แต่หมอก็ถวายการรับรองต่อพระองค์ว่า ถ้าผ่อนงานให้น้อย และบรรทมให้มากขึ้นอีก จะดำรงพระชนมายุไปได้ถึง 80 เว้นแต่ จะมีพระโรคอื่นใดมาแทรกแซง



              เมื่อเสด็จกลับสู่พระมหานครแล้ว ดูทรงพระสำราญดีกว่า เมื่อก่อนเสด็จประพาสยุโรป จะมีที่ไม่ปรกติเล็กน้อย ก็ในเรื่องพระนาภี เพราะพระบังคนหนักไปไม่สะดวก ต้องทรงใช้พระโอสถ ระบายอยู่เสมอๆ แต่การประชวรที่เรียกกันว่า ถึงล้มหมอนนอนเสื่อนั้นไม่ปรากฎเลย ตลอดมาจนกระทั่งวันที่ 16 ตุลาคม ร.ศ.129 (พ.ศ. 2453) ในวันนั้นได้ทรงขับรถไฟฟ้า เสด็จออกประพาสทอดพระเนตร การเลี้งไก่พันธุ์ต่างประเทศที่พญาไท แต่มิได้เสด็จลงจากรถพระที่นั่ง มีรับสั่งว่า "ท้องไม่ค่อยจะสบายจะรีบกลับ" แล้วก็ทรงขับรถพระที่นั่ง กลับยังพระที่นั่งอัมพรทีเดียว
              วันที่ 17-18-19 ตุลาคม มีงานบำเพ็ญพระราชกุศล ประจำปีถวายรัชกาลที่ 4 ในพระบรมมหาราชวัง แต่เนื่องด้วยพระนาภียังไม่เป็นปรกติ จึงได้โปรดฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ มกุฎราชกุมาร เสด็จไปแทนพระองค์
              วันที่ 19 ตุลาคม เวลาค่ำมีรับสั่งให้มหาดเล็กไปเชิญ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นนครไชยศรีสุรเดช และเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ขึ้นไปเฝ้าบนพระที่นั่งอัมพรสถาน ชั้น 3 ในที่พระบรรทม สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์วรพินิต เสด็จมาทีหลัง ตามขึ้นไปเฝ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังตรัสราชการ และตรัสเล่นกับผู้ไปเฝ้า เหมือนเวลาทรงพระสำราญ
              วันที่ 20 ตุลาคม เวลา 3 โมงเช้า คุณพนักงานออกมาบอกว่า สมเด็จพระบรมราชินีนาถ มีรับสั่งให้มหาดเล็ก ไปตามหมอเบอร์เกอร์ หมอไรเตอร์ และหมอปัวซ์ ให้รีบมาเฝ้าโดยเร็ว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จออกมารับสั่ง แก่ข้าพเจ้า (พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ) ให้จัดอาหารเลี้ยงหมอ และจัดที่ให้หมออยู่ประจำ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 21 ก.ค. 05, 21:01
 ตอนที่2
เมื่อหมอมาเฝ้าตรวจพระอาการกลับลงมา ข้าพเจ้าได้ถามพระอาการ หมอไรเตอร์ตอบว่า เป็นเพราะพระบังคนหนักคั่งอยู่นาน เมื่อเสวยพระโอสถปัดพระบังคนหนักออกมา จึงอ่อนพระทัย พระกะเพาะอาหารอ่อน ไม่มีแรงพอที่จะย่อยพระอาหารใหม่ ควรพักบรรทมนิ่ง อย่าเสวยพระอาหาร สัก 24 ชั่วโมง ก็จะเป็นปรกติ หมอฉีดมอร์ฟีนถวายหนหนึ่ง
              สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการมาฟังพระอาการ มากด้วยกัน ตั้งแต่ 5 ทุ่มได้บรรทมหลับเป็นปรกติ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสรรพสิทธิประสงค์ หมอฝรั่ง หมอไทย และมหาดเล็ก อยู่ประจำพรักพร้อมกันตลอดทุกเวลา
              วันที่ 21 ตุลาคม ย่ำรุ่งบรรทมตื่นตรัสว่า พระศอแห้ง แล้วเสวยพระสุธารสเย็น คณะแพทย์ไทยถวายพระโอสถ แก้พระเสมหะแห้ง รับสั่งว่าอยากจะเสวยอะไรๆ ให้ชุ่มพระศอ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ถวายน้ำผลเงาะคั้นผล 1 พอเสวยได้สักครู่ ทรงพระอาเจียนออกมาหมด สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตกพระทัยเรียกหมอทั้ง 3 คนขึ้นไปตรวจพระอาการ หมอกราบบังคมทูลว่า ที่เสวยน้ำผลเงาะ หรือเสวยอะไรอื่นในเวลานี้ไม่ค่อยจะดี เพราะพระกระเพาะว่าง และยังอักเสบ เป็นพิษอยู่ เพราะฉะนั้น เมื่อเสวยพระกระยาหาร หรือพระโอสถ จึงทำให้ทรงพระอาเจียนออกมาหมด และเสียพระกำลังด้วย สู้อยู่นิ่งๆ ดีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกริ้วหมอว่า อาหารก็ไม่ให้กิน ยาก็ไม่ให้กิน ให้นอนนิ่งอยู่เฉยๆ จะรักษาอย่างไรก็ไม่รักษา มันจะหายอย่างไรได้ และตรัสต่อไปว่า เชื่อถือหมอฝรั่งไม่ได้ ประเดี๋ยวพูดกลับไปอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่แน่นอนเป็นหลักฐานอะไรได้ เมื่อหมอกลับลงมาแล้ว มีรับสั่งกับสมเด็จพระบรมราชินีนาถว่า ให้ไปตามใครๆ เขามาพูดจา ปรึกษากันดูเถิด สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จลงมารับสั่งกับข้าพเจ้า ให้มหาดเล็กไปเชิญ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์ฯ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงฯ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์ฯ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์ ในเวลาย่ำรุ่งนั้น สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จลงมาเล่าพระอาการให้เจ้านายทั้ง 4 พระองค์ฟัง แล้วเจ้านายซักถามหมอๆ ก็ยืนยันว่าไม่เป็นอะไร บรรทมอยู่นิ่งๆ ดีกว่า เจ้านายพากันเห็นจริง ตามหมอไปหมด รวมกันถวายความเห็นว่า ที่หมอรักษาอยู่เวลานี้ถูกต้องแล้ว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จขึ้นไปกราบบังคมทูลว่า เจ้านาย 4 พระองค์เสด็จมาแล้ว ได้ซักถามหมอ และเห็นด้วยตามที่หมอชี้แจง ทรงนิ่งอยู่มิได้รับสั่งอะไร



              เวลาที่เลี้ยงเครื่องอาหารเช้าเจ้านาย และหมอนั้น มีพระอาเจียนอีกครั้งหนึ่ง เป็นน้ำสีเขียวเหมือนข้าวยาคู ประมาณ 1 จานซุบ หมอว่าสีเขียวนั้นเป็นน้ำดี ตั้งแต่นี้ต่อไป ก็มีพระอาการซึม บรรทมหลับอยู่เสมอ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จลงมารับสั่งเล่าว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรัสว่า "การเจ็บครั้งนี้จะรักษากันอย่างไร ก็ให้รักษากันเถิด" ตามที่รับสั่งเช่นนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกใจหาย ให้หวั่นหวาดหนักใจไปเสียจริงๆ
              ตอนเที่ยงเจ้านายและหมอ ขึ้นไปเฝ้าตรวจพระอาการ ข้าพเจ้าก็ตามขึ้นไปด้วย กลับลงมาได้ความว่า มีแต่พระอาการเซื่องซึม บรรทมหลับอยู่ตลอดเวลา มีพระบังคนเบาครั้งหนึ่ง ประมาณ 1 ช้อนกาแฟ สีเหลืองอ่อน สังเกตดูกิริยาอาการของหมอและเจ้านาย ยังไม่สู้ตกใจอะไรมากนัก สมเด็จพระบรมราชินีนาถ รับสั่งให้เจ้านาย ผลัดเปลี่ยนกันประจำ ฟังพระอาการอยู่เสมอไป
              ตอนบ่ายมีความร้อนในพระองค์ปรอท 100 เศษ 4 แต่เป็นเวลาทรงสร่าง เพราะมีพระเสโท ตามพระองค์บ้าง มีพระบังคนเบาเป็นครั้งที่ 2 ประมาณ 1 ช้อนกาแฟเหมือนคราวก่อน ในเรื่องพระบังคนเบาน้อยเป็นครั้งที่ 2 นี้ เจ้านายออกจะสงสัย ทรงถามหมอๆ ก็ให้การว่า เป็นเพราะไม่ได้เสวยอะไร เสวยแต่พระสุธารสชั่ว 2-3 ช้อนเท่านั้น ก็ซึมซาบไปตามพระองค์เสียหมด เพราะฉะนั้น พระบังคนเบาจึงน้อยไปไม่เป็นไร เมื่อเสวยพระกระยาหาร และพระสุธารสได้มากแล้ว พระบังคนเบาก็คงจะมีเป็นปรกติ แต่พระอาการเซื่องซึมบรรทมหลับ ยังมีอยู่เสมอ


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 21 ก.ค. 05, 21:03
 ตอนเย็นเมื่อเจ้านายและหมอ ขึ้นไปเฝ้าตรวจพระอาการ ข้าพเจ้าได้ยินรับสั่ง กับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์ฯ ว่า "การรักษาเดี๋ยวนี้เป็นอย่างใหม่เสียแล้ว" แล้วก็ไม่ตรัสสั่งอะไรอีก เมื่อเจ้านายและหมอ กลับลงมาคราวนี้ พากันรู้สึกพระอาการมาก ไม่ใช่ทางพระธาตุพิการอย่างเดียว เป็นทางพระวักกะ (คิดนี) เครื่องกรองพระบังคนเบาเสียด้วย มีพระบังคนเบาอีกเป็นครั้งที่ 3 ประมาณ 1 ช้อนกาแฟ ตอนนี้หมอและเจ้านาย แน่ใจทีเดียวว่าเป็น พระวักกะพิการ หมอได้รีบประชุมกัน ประกอบพระโอสถบำรุงพระบังคนเบา และเร่งให้มี พระบังคนเบาโดยเร็ว และในที่สุดใช้เครื่องสวนพระบังคนเบา แต่ไม่ได้ผล เพราะไม่มีพระบังคนเบาเลย
              ตอนค่ำสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์ฯ และหมอ ขึ้นไปเฝ้าตรวจ พระอาการ ข้าพเจ้าก็ขึ้นไปด้วยเช่นเคย เห็นพระพักตร์แต่ห่างๆ เข้าไปใกล้พระแท่นไม่ได้ เพราะข้างในอยู่เต็มไปหมด ได้ยินเสียงหายพระทัยดัง และยาวๆ มาก บรรทมหลับอยู่ ถ้าจะถวาย พระโอสถ พระอาหาร หรือพระสุธารส ก็ต้องปลุกพระบรรทม หมอกลับลงมาได้ความว่า การหายพระทัย และพระชีพจรยังดีอยู่ ความร้อนในพระองค์ลดลงแล้ว เห็นจะไม่เป็นไร หมอประชุมกัน ตั้งพระโอสถแก้พระบังคนเบาอีก ประมาณ 1 ทุ่มเศษ มีพระบังคนเบาเป็นครั้งที่ 4 ประมาณ 1 ช้อนเกลือ และเป็นครั้งสุดท้ายด้วย
              ค่ำวันนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย มาฟังพระอาการเต็มไปทั้งพระที่นั่ง เจ้านายก็ยังเชื่อกันว่าพระบังคนเบา คงจะมีออกมามากแน่ ตั้งแต่ยามหนึ่งแล้ว มีพระบังคนหนัก 3 ครั้ง เป็นน้ำสีดำๆ หมอฝรั่ง หมอไทย ตรวจดูก็ว่าดีขึ้น คงจะมีพระบังคนเบาปนอยู่ด้วย วันนี้เสวยน้ำซุบไก่เป็นพักๆ ละ 3 ช้อนบ้าง 4 ช้อนบ้าง พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสรรพสิทธิประสงค์ ชงน้ำโสมส่งขึ้นไปไว้ถวาย ให้ทรงจิบเพื่อบำรุง พระกำลัง หมอฝรั่ง หมอไทย ไม่คัดค้านอะไร คืนนี้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการ กลับดึกกว่าคืนก่อนๆ
              วันเสาร์ ที่ 22 ตุลาคม เวลาเช้า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์ฯ และหมอฝรั่ง 3 คน ขึ้นไปเฝ้าตรวจพระอาการ ข้าพเจ้าก็ขึ้นไปด้วยตามเคย เมื่อกลับลงมาเห็นกิริยา ท่าทางของหมอ และเจ้านายไม่สู้ดี ได้ความว่า พระอาการหนักมาก พระบังคนเบาที่คาดว่าจะมีก็ไม่มี พิษของพระบังคนเบาซึม ไปตามเส้นพระโลหิตทั่วพระองค์ จึงทำให้เป็นพิษเซื่องซึมบรรทมหลับ อยู่เสมอ หมอตั้งพระโอสถถวาย เร่งให้มีพระบังคนเบาแรงขึ้นทุกที
              พวกหมอฝรั่งประชุมกัน เขียนรายงานพระอาการยื่นต่อเจ้านาย เสนาบดีว่าพระอาการมาก เหลือกำลังของหมอ ที่จะถวายการรักษาแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนพิษณุโลกประชานาถ และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จมาแต่เช้า ได้ทอดพระเนตรรายงาน พระอาการที่หมอทำไว้ ทรงปรึกษาหารือเห็นพร้อมกันว่า ควรให้ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ มาเฝ้าตรวจพระอาการดูด้วย ข้าพเจ้าจึงให้ นายฉันหุ้มแพร (ทิตย์ ณ สงขลา) รีบเอารถยนต์ไปรับมาทันที พระองค์เจ้าสายฯ ขึ้นไปเฝ้าตรวจพระอาการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว น้ำพระเนตรไหลแต่ไม่ตรัสว่าอะไร พระองค์เจ้าสายฯ กลับลงมายืนยันว่า พระอาการยังไม่เป็นไร เชื่อว่าที่บรรทมหลับเซื่องซึม อยู่นั้น เป็นด้วยฤทธิ์ พระโอสถต่างๆ พอฤทธิ์พระโอสถหมดแล้ว ก็คงจะทรงสบายขึ้น เพราะพระชีพจรก็ยังเต้นเป็นปรกติดี พระองค์เจ้าสายฯ กลับไปนำพระโอสถมาตั้งถวาย แก้ทางพระศอแห้ง ขึ้นไปเฝ้าตรวจพระอาการ อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ตรัสทักว่า "หมอมาหรือ" ได้เท่านั้นแล้วก็ไม่ได้รับสั่งอะไรอีกต่อไป
              พระอาการตั้งแต่เช้าไปจนเย็น ไม่มีพระบังคนหนัก และเบาเลย พระหฤทัยอ่อนลงมาก ยังบรรทมหลับเซื่องซึมอยู่เสมอ เวลาย่ำค่ำสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์ฯ และหมอฝรั่งขึ้นไปเฝ้าตรวจพระอาการ ข้าพเจ้าได้ขึ้นไปด้วย และเห็นหายพระทัยดังยาวๆ และหายพระทัยทางพระโอษฐ์ พ่นแรงๆ จนเห็นพระมัสสุไหวได้แต่ไกล สังเกตดูพระเนตร ไม่จับใครเสียแล้ว ลืมพระเนตรคว้างอยู่อย่างนั้นเอง แต่พระกรรณยังได้ยิน สมเด็จพระบรมราชินีนาถ กราบทูลว่าเสวยน้ำ ยังทรงพยักพระพักตร์รับได้ และกราบทูลว่าพระโอสถแก้พระศอแห้ง ของพระองค์เจ้าสายฯ ก็ยังรับสั่งว่า "ฮือ" แล้วยกพระหัตถ์ขวาและซ้าย ที่สั่นขึ้นเช็ดน้ำพระเนตร คล้ายทรงพระกันแสง พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี ซับเช็ดพระเนตรด้วยผ้าซับพระพักตร์ ชุบน้ำถวาย หมอฉีดพระโอสถถวาย ช่วยบำรุงพระหฤทัยให้แรงขึ้น


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 21 ก.ค. 05, 21:06
 ตั้งแต่เวลานี้ต่อไป หมอฝรั่งนั่งประจำคอยจับพระชีพจร ตรวจพระอาการผลัดเปลี่ยนกัน ประจำอยู่ที่พระองค์ การหายพระทัยค่อยเบาลงๆ ทุกที พระอาการกระวน กระวายอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่มีเลย คงบรรทมหลับอยู่เสมอ เจ้านายจะขึ้นไปเฝ้าอีกครั้ง ก็พอหมอรีบลงมาทูลว่า เสด็จสวรรคตเสียแล้วด้วยพระอาการสงบ เมื่อเวลา 2 ยาม 45 นาที
              สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าลูกยาเธอ และ พระเจ้าน้องยาเธอ พร้อมกันเสด็จขึ้นไปเฝ้ากราบถวายบังคม ด้วยความเศร้าโศกอาลัย ทรงกรรณแสง คร่ำครวญสอึกสอื้นทั่วกัน ข้าพเจ้าก็อยู่ที่นั้นด้วย กราบถวายบังคมมีความเศร้าโศก อาลัยแสนสาหัส ร่ำร้องไห้มิได้หยุดหย่อนเลย
              ในที่พระบรรทม และตามเฉลียงเต็มไปด้วยฝ่ายใน และฝ่ายหน้า ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ระงม เซ็งแซ่และทุ่มทอดกายทั่วไป ประดุจต้นไม้ใหญ่ที่ถูกลมพายุใหญ่ พัดต้นและกิ่งก้านหักล้มราบไป ฉันใด บรรดาฝ่ายใน และฝ่ายหน้าทั้งหมด ล้มกลิ้งเป็นลมไปตามกันฉันนั้น ด้วยความเศร้าโศกาอาดูร เป็นอย่างล้นเหลือที่จะรำพันให้สิ้นสุดได้
              ข้าพเจ้าต้องวิ่งลงไปตามหมอ ขึ้นไปแก้ท่านที่ประชวรพระวาโยกันเป็นการใหญ่ และต้องเชิญเสด็จสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ขึ้นพระเก้าอี้หามกลับไปส่ง ที่พระตำหนักสวนสี่ฤดู เพราะประชวรพระวาโย และทรงชักกระตุกด้วย เจ้านายพระองค์อื่น และเจ้าจอมมารดา ที่เป็นลม ก็มีผู้ช่วยพากันไปส่งตำหนักที่อยู่กันเรื่อยๆไป ส่วนสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ซึ่งประชวรพระวาโย บรรทมอยู่ที่เก้าอี้ปลายพระแท่นนั้น ก็ต้องใช้เก้าอี้หามเชิญเสด็จ ไปยังพระตำหนักของพระองค์ท่าน
              เวลานั้น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระภานุพันธุวงศ์วรเดช ทูลเชิญเสด็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ให้เสด็จกลับลงไปชั้นล่าง ประทับห้องแป๊ะเต๋ง พร้อมด้วย พระบรมวงศานุวงศ์ เสนาผู้ใหญ่ องคมนตรี และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ซึ่งทรงกรรณแสง และร้องไห้กัน เสียงระงมเซ็งแซ่ทั่วไป ทั้งพระที่นั่ง
     สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระภานุพันธุวงศ์วรเดช ทรงคุกพระชงฆ์ ลงกราบถวายบังคมสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ อัญเชิญเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน สืบสนองพระองค์สมเด็จพระชนกาธิราช ต่อไป พระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดี ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ก็กราบถวายบังคมทั่วกัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเรียกประชุมพร้อมกันในเวลานั้น เพื่อหารือที่จะจัดการสรงน้ำพระบรมศพ และเชิญไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันพรุ่งนี้ และออกประกาศข่าวการสวรรคต และอื่นๆ
              ในระหว่างที่ประชุมกันอยู่นี้ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสรรพสิทธิ์ฯ และข้าพเจ้า พร้อมกับ เจ้าหมื่นสรรพเพธภักดี (เพิ่ม ไกรฤกษ์) เจ้าหมื่นเสมอใจราช (อ้น นรพัลลภ) ขึ้นไปกราบถวายบังคม แล้วได้ฉลองพระเดชพระคุณ ช่วยกันเชิญพระองค์เลื่อนขึ้นไปหนุนพระเขนย จัดตกแต่งพระเขนย และผ้าลาดพระที่ ทั้งจัดแต่งพระองค์ให้เรียบร้อย แล้วพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสรรพสิทธิ์ฯ กับข้าพเจ้าถวายพระภูษา คลุมพระบรรทมคนละข้าง พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี ประทับเป็นประธานอยู่ด้วย ครั้นจัดเรียบร้อย ปิดพระวิสูตรแล้วกราบถวายบังคมลากลับ ลงไปข้างล่าง พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย เพิ่งเสร็จการประชุม และกลับไปเมื่อจวนสว่าง ในคืนนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ประทับแรมอยู่ที่ห้องพระบรรทมขาว พระที่นั่งอัมพรสถาน มีตำรวจหลวง และทหารมหาดเล็ก ล้อมวงรักษาการ ตามราชประเพณีตลอดคืน
              วันอาทิตย์ ที่ 23 ตุลาคม เวลาเช้า ข้าพเจ้าได้ขึ้นไปเฝ้า กราบถวายบังคมพระบรมศพ อีกครั้งหนึ่ง พร้อมด้วยเจ้าหมื่นสรรพเพธภักดี เจ้าหมื่นเสมอใจราช และหลวงศักดิ์นายเวร (ม.ร.ว. ลภ อรุณวงศ์) พร้อมกันเชิญพระบรมศพจากพระแท่นที่พระบรรทม ไปประทับพระแท่นสำหรับสรง แล้วรื้อพระแท่นที่พระบรรทมออก สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ประทับเป็นประธาน ในการถวายน้ำสรงพระบรมศพ เป็นส่วนฝ่ายใน ครั้นแล้ว จึงเชิญพระบรมศพ ขึ้นพระแท่นที่จัดไว้ใหม่สำหรับพระเกียรติยศ เพื่อถวายน้ำสรงพระบรมศพ เป็นพระราชพิธีตอนบ่าย
              ในเวลานี้ ข้าพเจ้าได้กราบถวายบังคมที่พระบาทยุคล ถวายน้ำหอมสรงพระบาท และซับพระบาทด้วยผ้าเช็ดหน้า ไว้เป็นที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นที่สักการบูชา ได้พิศดูพระพักตร์ในเวลานี้ เหมือนกำลังบรรทมหลับ พระพักตร์ยิ้มน้อยๆ ดูสง่างามเหลือเกิน กระทำให้ตื้นตันใจ ต้องร้องไห้ด้วยความอาลัยเศร้าทวียิ่งขึ้น มิใคร่จะจากพระบาทยุคลไปได้เลย ได้ทำหน้าที่ไปพลาง ร้องไห้คร่ำครวญไปพลาง จนแล้วเสร็จ กราบถวายบังคมลากลับลงไปข้างล่าง
              พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 พระชนมายุ 58 พรรษา ดำรงสิริราชสมบัติมาได้ 43 พรรษา

              (จบหมายเหตุบันทึกตอนทรงพระประชวร และสวรรคตเพียงนี้)


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 21 ก.ค. 05, 21:07
 พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ บันทึกเรียบเรียง


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 23 ก.ค. 05, 10:18
 พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ ถือว่าท่านเป็นข้าราชการที่ทรงไกล้กับพระพุทธเจ้าหลวงมาก


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 23 ก.ค. 05, 10:24

มุมนี้สวย


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 23 ก.ค. 05, 10:28

สวย  


กระทู้: "บ้านบุรุษรัตนราชพัลลพ"นามบ้าน นามความดี
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 30 ก.ย. 05, 00:31

รูปพระยาบุรุษครับ ขออภัสำหรับเวลาโหลดด้วยนะคับ รอหน่อยนะครับ รับรองรูปหายากมากๆ