ละครผู้ชาย เป็นละครของเจ้านายหรือขุนนาง ตลอดจนผู้มีบรรดาศักดิ์ต่าง ๆ ซึ่งต้องการที่จะนำเรื่อง ละครใน โดยเฉพาะเรื่อง อิเหนา มาจัดแสดงตามจารีตประเพณีที่เป็นข้อยึดถือปฏิบัติมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ละครในที่ใช้ผู้หญิงแสดงจะมีได้เฉพาะพระมหากษัตริย์เท่านั้น แม้แต่พระบรมวงศ์ ในระดับเจ้าฟ้า มหาอุปราช ก็มิสามารถมีขึ้นได้ ดังจะเห็นหลักฐานในพงศาวดารในรัชกาลที่ ๑ ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ให้หัดเด็กหญิงไว้แสดงละคร ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณ ทรงกริ้วและมีพระราชดำรัสห้ามเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร จึงต้องทรงเลิก ด้วยเหตุนี้ เจ้านายจึงทรงเลี่ยงจารีตประเพณี โดยการหัดผู้ชายให้เล่นละครใน เรื่องอิเหนา ซึ่งเป็นเรื่องที่มีตัวเอกเป็นเพียงเจ้าชาย เพื่อให้เหมาะสมกับพระฐานะซึ่งเรื่องรามเกียรติ์และอุณรุท ตัวเอกเป็นกษัตริย์
ยุคทองแห่งนาฏศิลป์ไทยอยู่ในรัชกาลที่ ๒ เหตุที่พระองค์ท่านโปรดปรานการกวี และนาฏกรรมทุกแขนง ตั้งแต่เมื่อครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ทรงมีละครผู้ชายในสังกัด ต่อมาเมื่อเสวยราชสมบัติ จังได้ตั้งคณะละครหลวง เพื่อประกอบพระอิสริยยศเป็นมหรสพสำหรับแผ่นดิน เป็นที่ยกย่องไปทั่วนานาประเทศราชทั้งปวง คณะละครหลวงในรัชกาลที่ ๒ ได้ครูท่านสำคัญในคณะของเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ ซึ่งต่อมาตกทอดมรดกมาถึงเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี พระอนุชา ครูทองอยู่ ครูรุ่งนี้ได้เข้ามาเป็นครูละครหลวง เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องอิเหนา เพื่อให้เหมาะสมกับวิธีการแสดง จึงพระราชนิพนธ์บทให้เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ครูทองอยู่ ครูรุ่ง ร่วมกันคิดกระบวนท่ารำให้เหมาะสมกับบทพระราชนิพนธ์ เมื่อติดขัดหรือควรปรับปรุงอย่างไร ก็นำขึ้นกราบบังคมทูล ทรงร่วมกันแก้ไขจนเป็นที่ยุติ จึงโปรดเกล้าฯ ให้หัดละครหลวงใช้แสดงเป็นแบบแผนสืบมา
ถึงแม้ว่าละครหลวงในรัชกาลที่ ๒ จะมีชื่อเสียงมาก แต่ตามวังเจ้านาย บ้านข้าราชการผู้ใหญ่ก็น่าเชื่อว่าละครผู้ชายยังคงมีอยู่ ดังที่ปรากฎหลักฐานในรัชกาลต่อมา
บรรดาตัวละครหลวงในรัชกาลที่ ๒ ที่เชื่อว่าเป็นศิษย์ของเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ครูทองอยู่ ครูรุ่ง ที่มีชื่อเสียงและได้เป็นครูละครหลวงในรัชกาลที่ ๔ ต่อมาคือ เจ้าจอมมารดาแย้ม (อิเหนา) คุณเอี่ยม (บุษบา) คุณมาลัย เป็นตัวย่าหรันและพระสังข์ ต่อมาได้เป็นท้าววรจันทร์ในรัชกาลที่ ๔ และเลื่อนเป็นท้าววรคณานันท์ในรัชกาลที่ ๕ เป็นผู้อำนวยการละครหลวงในรัชกาลที่ ๔-๕ ครูขำ (เงาะ) คุณภู่ (หนุมาน) คุณองุ่น (สีดา) และผู้อื่นอีกหลายท่าน สามารถหารายละเอียดได้จากหนังสือตำนานละครอิเหนา
เจ้าจอมมารดาแย้ม (อิเหนา) หรือคุณโตแย้ม นี้นับได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญยิ่ง ด้วยเหตุที่ท่านได้เป็นครูของศิษย์ที่มีชื่อเสียงยิ่ง คือ ท้าววรจันทร์ฯ หรือเจ้าจอมมารดาวาด (อิเหนา) ในรัชกาลที่ ๔ เจ้าจอมมารดาเขียน (อิเหนา) ในรัชกาลที่ ๔ ซึ่งต่อมาได้เป็นครูให้กับคณะละครวังสวนกุหลาบและมีศิษย์ที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ที่วางรากฐานการเรียนการสอน ตลอดจนรูปแบบการแสดง ตามแนวละครหลวงให้กับกรมศิลปากรต่อมาถึงปัจจุบัน คือ คุณครูลมุล ยมะคุปต์ คุณครูน้อม ประจายกฤต คุณครูเฉลย ศุขวณิช และท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ดังนั้นจึงเป็นหลักฐานได้ว่ารูปแบบละครหลวงที่ใช้ผู้หญิงแสดงของกรมศิลปากร ในปัจจุบันเป็นรูปแบบที่สืบทอดมาจากละครหลวงในรัชกาลที่ ๒ อย่างชัดเจน และเชื่อได้ว่า "ละครผู้ชาย" ซึ่งมีตัวละครที่เป็นครู คือ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์สนตรี ครูทองอยู่ ครูรุ่งซึ่งเป็นครูละครหลวงรัชกาลที่ ๒ ได้ถ่ายทอดกระบวนท่า วิธีแสดงให้ปรากฎอยู่ในละครหลวงสืบมาแต่ครั้งนั้นเช่นกัน
ส่วนของละครผู้ชาย ในรัชกาลที่ ๓ ไม่มีละครหลวง ตัวละครครั้งรัชกาลที่ ๓ ที่เป็นครู ต่อมาจึงใช้ผู้ชายเป็นพื้น มีชื่อเสียงปรากฎหลายท่าน เช่น นายเกษ (พระราม) นายขุนทอง (อิเหนา) นายทองอยู่ (พระลักษมณ์) นายน้อย (สังคามาระตา) นายทับ (ส่าสำ) นายบัว (อิเหนา) นายนิ้ม (อิเหนา) นายแสง (พระ) นายพ่วง (เงาะ) นายแจ้ง (มโหธร) นายเมือง (บุษบา) นางเพ็ง (วิยะดา) นายมั่ ง(บุษบา) นายผึ้ง (วิยะดา) นายเกลื่อน (นาง) นายอ่ำ (นาง) นายฟ้อน (นาง)
ตัวละครผู้ชายเหล่านี้ ได้เป็นครูละครในคณะต่าง ๆ ที่อยู่ในสังกัดเจ้านายและขุนนาง บางท่านได้ไปเป็นครูถึงราชสำนักกัมพูชา นับได้ว่ากระบวนท่ารำ ตลอดจนรูปแบบการแสดงละครผู้ชายได้แพร่หลายออกไปทั้งบ้านทั้งเมือง และเมื่อเริ่มฟื้นฟูจัดตั้งละครหลวงขึ้นใหม่ ในรัชกาลที่ ๔ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูประเพณีให้มีละครหลวง เป็นเครื่องประกอบอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ ก็ได้ครูผู้ชาย ให้เข้าไปถ่ายทอดท่ารำให้แก่คณะละครหลวง ดังปรากฎหลักฐานในประวัติคุณท้าววรจันทรบรมธรรมิกภักดี(เจ้าจอมมารดาวาด ในรัชกาลที่ ๔) ซึ่งพระวรวงศ์เธอกรมหมื่นพฤฒิยลาภฯ นิพนธ์ขึ้นเพื่อสนองพระคุณคุณย่า สรุปเนื้อความว่า
เมื่อเจ้าจอมมารดาวาด ได้ถวายตัวเป็นละครหลวง ในรัชกาลที่ ๔ แล้ว ท่านเป็นศิษย์ของเจ้าจอมมารดาแย้ม ในรัชกาลที่ ๒ ครั้งหนึ่ง คุณครูเจ้าจอมมารดาแย้มป่วย เจ้าจอมมารดาวาดผู้เป็นศิษย์ได้ออกไปเยี่ยม พอดีกับครูบัว (อิเหนา) ตัวละครผู้ชายได้มาเยี่ยมเช่นกัน เจ้าจอมมารดาแย้มจึงขอให้ครูบัวช่วยต่อท่ารำให้ (ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเป็นกระบวนท่าสำคัญชุดใดชุดหนึ่ง เช่น เชิดฉิ่งตัดดอกไม้ฉายกริช หรือรำกริชบวงสรวงฯ) หลังจากนั้นเมื่อเจ้าจอมมารดาวาดกลับเข้าวัง ได้เล่นละครถวายจนเป็นที่โปรดปราณ ก็มีเสียงค่อนแคะว่า "เพราะไปให้ผู้ชายสอนมา" จึงมีการสอบสวน เจ้าจอมมารดาแย้ม จึงได้รับโทษในฐานะรู้เห็นเป็นใจ ซึ่งเป็นการผิดจารีต ด้วยเหตุที่นางในที่ถวายตัวไม่สามารถจะคบหากับชายใดได้ ยิ่งเป็นการสอนรำที่จะต้องถูกเนื้อต้องตัว ยิ่งผิดมหันต์ เจ้าจอมมารดาแย้ม ต้องรับโทษขังสนม ด้วยเหตุนี้เมื่อถึงคราวที่เจ้าจอมมารดาวาด จะต้องออกแสดงละครถวายตัวหน้าพระที่นั่ง ผู้แสดงท่านอื่น ๆ ล้วนมีครูคอยกำกับดูแล แต่ครูของท่านครูต้องถูกขังสนม ขณะที่ร่ายรำถวายตัวอยู่นั้น ท่านก็หวนคิด ไม่สามารถกลั้นความรู้สึกไว้ได้ จึงร้องไห้ออกมาเสียกลางโรง ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณ จึงได้สอบถามกันวุ่นไป เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงทราบเรื่องโดยตลอด จึงพระราชทานอภัยโทษให้เจ้าจอมมารดาแย้มและแต่นั้นมาครูบัวก็ได้เข้าไปเป็นครูละครหลวงจากเรื่องราวนี้ น่าจะเป็นข้อยืนยันได้ว่า ละครผู้ชาย มีส่วนเข้าไปปะปนกับรูปแบบละครหลวง ในรัชกาลที่ ๔ จากนั้นครูละครหลวงรัชกาลที่ ๔ ได้มาเป็นครูละครหลวง รัชกาลที่ ๕ ในตอนต้นรัชกาล และได้มาเป็นครูคณะละครวังสวนกุหลาบ ในสมเด็จฯ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา และเป็นต้นแบบให้กับกรมศิลปากรในปัจจุบัน
ประการหนึ่ง นอกจากครูละครหลวง ในรัชกาลที่ ๔ ได้เข้ามาเป็นครูละครวังสวนกุหลาบแล้ว ยังมีครูละครวังหน้า (เชื่อว่าน่าจะเป็นละครเจ้าคุณมารดาเอม) คือ หม่อมครูอึ่ง หสิตเสน และหม่อมครูนุ่ม นวรัตน์ ณ อยุธยา ซึ่งได้เข้าไปเป็นครูผู้วางรากฐานให้กับคณะละครวังสวนกุหลาบ ละครเจ้าคุณจอมมารดาเอมนี้ นิยมแสดงตามรูปแบบละครหลวง เป็นต้น(สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ.๒๕๔๖:๓๗๘)
ที่กล่าวถึงประวัติความเป็นมา และความเกี่ยวข้องระหว่างละครผู้ชายกับละครหลวง ซึ่งมีความปะปนในส่วนของตัวครูผู้ถ่ายทอด ตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์เป็นต้นมา ด้วยเหตุนี้ จึงเชื่อได้ว่า กระบวนท่ารำ วิธีการแสดงของละครผู้ชายได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของละครหลวง อันเป็นต้นแบบของละครในเรื่องอิเหนา ถึงแม้ว่าในปัจจุบันละครในเรื่องอิเหนา มักนิยมตามรูปแบบละครหลวง โดยนิยมใช้ผู้หญิงแสดงตามประเพณีของละครหลวง แต่กระบวนท่ารำ และวิธีแสดงไม่สามารถแยกออกมาได้ว่า ส่วนใดเป็นละครหลวง ส่วนใดเป็นละครผู้ชาย
จากบทความเรื่อง รูปแบบการแสดงละครผู้ชาย โดย ประเมษฐ์ บุณยะชัย
http://department.utcc.ac.th/thaiculture/index.php?option=com_content&view=article&id=60:2009-03-10-07-40-10&catid=42:2008-12-19-08-47-26&Itemid=70