ถึงรัชกาลพระเจ้าเอกทัศ (พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ พ.ศ. ๒๓๐๑ – ๒๓๑๐)
เมื่อพม่าเข้ามาตั้งล้อมกรุงฯ ในปีจอ พ.ศ. ๒๓๐๙ เดิมพวกจีนที่อยู่ในกรุงฯ อาสาต่อสู้ข้าศึก
จึงจัดให้กองจีนตั้งค่ายอยู่ ณ ตำบลคลองสวนพูล
ต่อมาจีนพวกนั้นคบคิดกันประมาณ ๓๐๐ คน คุมกันขึ้นไปยังพระพุทธบาท
ไปเลิกทองคำที่หุ้มพระมณฑปน้อยอันทรงรอยพระพุทธบาท
และแผ่นเงินที่ปูลาดพื้นพระมณฑป เอามาเป็นอาณาประโยชน์แล้วเลยเผาพระมณฑปเสีย
เพื่อจะให้ความสูญ
พระมณฑปพระพุทธบาทก็เป็นอันตรายยับเยิน ถึงครั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี
ติดการศึก ก็ไม่มีเวลาที่จะได้สร้างพระมณฑปพระพุทธบาทให้คืนดีดังแต่ก่อน
มาจนถึงรัชกาลที่ ๑ กรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจึงโปรดฯ
ให้สมเด็จพระอนุชาธิราชกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท เสด็จขึ้นไปทรงอำนวยการปฏิสังขรณ์
พระมณฑปพระพุทธบาท เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๐……
……แต่กรมพระราชวังบวรฯ ในรัชกาลที่ ๓ นั้นทรงเลื่อมใสพระพุทธบาทมาก
เมื่อเสด็จกลับจากปราบขบถเวียงจันทน์ ทรงอุทิศถวายเครื่องสูงที่แห่เสด็จในการสงครามคราวนั้น
ไว้เป็นพุทธบูชา และทรงสร้างพระเจดีย์ตามแบบพระธาตุพนมไว้ด้วยองค์ ๑
ส่วนพระพุทธบาทนั้น มิใช่ความจำเป็นเร่งด่วน สถาปนากรุงแล้วถึง 15 ปี จึงเริ่มปฏิสังขรณ์
และกว่าจะเสร็จก็คงใกล้ๆ สิ้นรัชกาล เพราะไม่ปรากฏว่าจะทรงกระทำการเฉลิมฉลองอันใด
๑. ฉลองกรุงแล้วแค่ ๕ ปี จึงปฏิสังขรณ์มังคะ (พ.ศ. ๒๓๓๐)
๒. แค่ท่านพระคลังสร้างศาลากว้างคืบยาวศอกเสร็จ ยังมีละครนอกใหญ่โต
แล้วถ้าหากปฏิสังขรณ์พระมณฑปเสร็จ มีประตูมุข ๘ บาน แล้วไรต่อมิไรเยอะแยะ
โดยพระอนุชาทรงเป็นหัวเรือใหญ่เอง หนูเดาว่าคงฉลองกันครึ่งค่อนเดือนแน่
(ถ้าพี่ๆ ฟันธงเรื่องพระบาทแล้ว อยากเชิญให้เปิดกระทู้โคลงทวาทศมาศ
หรือยวนพ่ายก็ได้ หนูร้อนวิชาอยากทราบหลายประเด็นค่ะ)