เรือนไทย

ช่วงนี้ข้าพเจ้าในฐานะหัวหน้าชมรมฯไปคลุกคลีกับเพื่อนฝูงในfacebookเสียมาก เพราะหลายๆท่านที่เคยพูดคุยที่นี่หนีไปคุยกันที่นั้นกันหมดแล้วยังได้พบผู้ที่สนใจทางด้านศิลปะไทยอีกมากมาย มีโอกาสก็แนะนำให้เข้ามาเยียมชมที่เว็ปไซด์นี้ช่วงนี้ ข้าพเจ้าเริ่มมีกำลังพอจะไปสำรวจถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนังตามที่ต่างๆมากขึ้นล่าสุดได้เดินทางไปสุพรรณบุรี เพื่อสำรวจจิตรกรรมฝาผนังและศิลปกรรมต่างๆอีกทั้งโบราณสถานบางแห่งที่สำคัญของจังหวัดด้วย โดยได้เดินทางไปเมื่อวันที่18ธ.ค.54ที่ผ่านมา โดยมีผู้ร่วมเดินทางคือคุณยุทธนาและลูกชายของผมเป็นผู้ร่วมทาง โดยวัดทั้งหมดที่ได้ไปเริ่มจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดหน่อพุทธางกูร วัดประตูสาร วัดพระรูปและสุดท้ายวัดจรรย์ จึงขอนำภาพบางส่วนมาฝากสมาชิกเพื่อร่วมชื่นชมและพูดคุยกันครับ

วัดแรกที่ไปคือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พบว่าโบราณสถานแห่งนี้ได้รับการบูรณะแล้ว  อาจจะขาดความขลังลงไป หยั่งตัวพระปรางค์ถึงขนาดต้องทำประตูบานม้วนไปปิดนี่มันก็เกินไป ส่วนพระอุโบสถเก่านั้นชำรุดทรุดโทรมไม่ได้บูรณะ มีเพียงใบเสมาเท่านั้นที่บูรณะ

กำลังจ้องมองว่าอะไรมันจะขนาดนั้น  ??? สถานที่แห่งนี้ใช่ไหมที่มีการค้นพบพระพิมพ์ศิลปะอู่ทอง และพระเนื้อชินประเภทต่าง ๆ เช่น พระผงสุพรรณ พระสุพรรณยอดโถ พระปทุมโลหิต

แล้วนี่ติดบานม้วนไว้กี่ทิศครับนี่  ???

ข้อมูลเป็นตามที่คุณหนุ่มสยามบอกครับ ส่วนการทำบานม้วนนั่นมีด้านเดียว(เพราะเข้าได้ด้านเดียว) มองในแง่ดีอาจจะกันคนตกลงไป เพราะถ้าจำไม่ผิดสมัยก่อนเคยขึ้นไปมันจะไม่มีพื้นเป็นโพรงลงไป
เสร็จจากวัดพระศรีฯเดินทางต่อไปวัดหน่อพุทธางกูรซึ่งอยู่ห่างกันไม่ไกล พอถึงทางวัดมีการประชาสัมพันธ์อย่างดีมีป้ายติดเชิญชวนเข้าชมจิตรกรรมฝาผนัง พระอุโบสถหลังเก่าที่มีจิตรกรรมก็เปิดให้คนชมได้ตลอด หน้าทางเข้าพระอุโบสถมีสมุดเซ็นต์เยี่ยมพร้อมโบรชัวร์แนะนำ น่าชื่นชม พอเข้าชมจิตรกรรม พบว่าจิตรกรรมถูกซ่อมแซมมาหลายครั้ง สีสรรค์ดูหม่นหมองลงมากรายละเอียดก็หลุดร่อนไป แต่องค์ประกอบโดยรวมก็ยังคงอยู่ หลังเข้าไปถ่ายภาพท่านเจ้าอาวาสได้เข้ามาสนทนาด้วย เลยถามเรื่องการดูแล ท่านเล่าให้ฟังวาปี49น้ำท่วมมากแต่ก็พยายามไม่ให้กระทบจิตรกรรม ก็หมดค่าใช้จ่ายไปมาก ปีนี้น้ำไม่ท่วม ได้ถามถึงเรื่องอุปกรณ์ของช่างเขียนภาพจิตรกรรมที่เคยมีอยู่ ท่านเล่าว่า มันผ่านมาหลายเจ้าอาวาสก่อนถึงท่านทางผู้ดูแล(เจ้าของทายาทนายคำช่างเขียนภาพที่นี่ ได้นำกลับไปแล้วก็ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น เวลาใครยืมไปโชว์ก็ยืม5คืน4หายไปทีละชิ้นสองชิ้น ทางท่านเจ้าอาวาส ก็พยายามตามจากผู้ถือครองล่าสุดเพื่อขอมาทำพิพิธภัณฑ์แม้จะต้องซื้อก็ยอม ปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตาม

จิตรกรรมฝาผนังที่วัดหน่อพุทธางกูรเขียนโดยช่างชื่อนายคำซึ่งเป็นช่างลาวเวียงจันทร์ซึ่งถูกกวาดตอนมาสมัยกบฎเจ้าอนุวงศ์นายคำนั้นมี่พี่น้องอยูสามคนแต่พลัดพรากจากกันตอนเดินทางเข้ามาเมืองไทย ตัวนายคำได้เข้ามากรุงเทพในฐานะที่เคยเป็นช่างเขียนมาก่อนจึงถูกเกณฑ์ให้มาเขียนภาพที่วัดสุทัศน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายคำพยายามออกตามหาพี่น้องของตนจนสืบทราบว่าพี่น้องตนได้อยู่ที่สุพรรณบุรีจึงติดตามมาหาพบอยู่ที่ตำบลพิหารแดง พอดีขณะนั้นชาวบ้านวัดมะขามหน่อได้ก่อสร้างพระอุโบสถเสร็จจะเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง นายคำจึงรับอาสาเขียนให้และให้นายเทศซึ่งเป็นลูกเขยที่กรุงเทพมาช่วยเขียนด้วยอีกคนหนึ่ง นายคำนี้ภายหลังยังได้ไปเขียนภาพทีวัดประตูสารอีกด้วย แต่ที่ไม่ค่อยรู้กันคือยังมีอีกวัดทีนายคำได้ไปเขียนก็คือวัดไม้รวกที่อำเภอท่าเรือจังหวัดอยุธยา ภาพเขียนที่นี่สันนิษฐานว่าเขียนขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2391โดยสันนิษฐานจากในภาพเขียนตอนหนึ่งมีซุ้มประตูเขียนระบุเลขไว้เป็นค.ศ.1848เมีอเทียบแล้วก็จะได้พ.ศ.2391ตามที่บอก(รูปที่4)

เป็นวัดที่ผมจัดให้เป็นเอกแห่งสุพรรณฯครับ
ไปชมได้ตลอด และแถวๆสุพรรณฯปลาช่อนอร่อยมาก

ขออนุญาติแจมด้วย อีกวัดหนึ่งในสุพรรณบุรี วัดเดิมบาง

ภาพเขียนมีที่มาอย่างไรต้องรบกวนท่านทั้งหลายครับ

ขอโทษทุกท่านด้วยที่ไม่มีเวลามาต่อเนื่องกระทู้เลย และขอบคุณคุณchounwsที่นำภาพวัดเดิมบางมาเพิ่มเติม วัดนี้ผมไม่ได้ไป เลยข้อเอาข้อมูลมาเพิ่มให้ดังนี้
เดิมบาง  ตั้งอยู่เลขที่ ๒๓๓  หมู่ที่ ๑  ตำบลเดิมบางนางบวช  อำเภอเดิมบางนางบวช  จังหวัดสุพรรณบุรี  วัดเดิมบางเป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนฝั่งด้านทิศตะวันออก  ประวัติความเป็นมาของวัดจากหนังสือประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๒๑  กล่าวถึงวัดเดิมบางว่า

         ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๕  แต่ไม่ปรากฏนามผู้สร้างวัด  ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๑  ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด้จประพาสคลองมะขามเฒ่า  ได้เสด็จมาประทับที่หน้าวัดเดิมบาง  และพระราชทานนามวัดว่า "วัดคงคาราม"  วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๑  ภายในมีโบราณวัตถุสถานสำคัญ ประกอบด้วย  ธรรมมาสน์สมัยรัชกาลที่ ๖  ภาพจิตรกรรมประดับคอสองศาลาการเปรียญ  ปัจจุบันถอดเก็บอยู่ที่ศาลาเอนกประสงค์  และพระอุโบสถเก่าซึ่งภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา  เขียนด้วยสีฝุ่น  มีการรองพื้น  ฝีมือนายยา  ซึ่งเป็นช่างท้องถิ่น  ในสมัยรัชกาลที่ ๗  แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ผนังด้านในของอุโบสถวัดเดิมบาง  มีการเขียนจิตรกรรมเต็มผนังทั้งสี่ด้านเป็นภาพเรื่องราวในพุทธศาสนา  การดำเนินเรื่องแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ  ผนังตอนบน  ซึ่งเป็นผนังที่อยู่เหนือระดับกรอบประตูและหน้าต่าง  เขียนภาพเทพชุมนุมและภาพอดีตพุทธ  ซึ่งการเขียนภาพเทพชุมนุมนั้นโดยทั่วไปจะประกอบด้วยเหล่าเทพยดา เช่น เทวดา ฤาษี นักสิทธิ์ วิทยาธร  โดยเรียงลำดับจากเทพชั้นต่ำไปจนถึงชั้นสุงสุด  แต่ภาพเทพชุมนุมที่ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังวัดเดิมบาง  มีเพียงรูปแบบเดียว คือ ภาพพระพรหมนั่งพนมมือหันหน้าไปทางพระประธาน  จำนวน ๑๗ พระองค์ส่วนภาพของอดีตพุทธเจ้าเขียนเป็นภาพพระพุทธเจ้า  ประทับนั่งปางมารวิชัยในซุ้มเรือนแก้ว  ผนังละ ๑๖ พระองค์  เมื่อรวมผนังทั้งสองเท่ากับ ๓๒ พระองค์ผนังตอนล่าง (พื้นผนัง)  เขียนภาพเหตุการณ์ในพุทธประวัติ  ตั้งแต่ตอนประสูติ  จนถึงดับขันธ์ปรินิพพาน  และภาพจากทศชาติชาดกบางเรื่อง

วันที่30ธ.ค.54นี้จะเดินทางไปสุพรรณย่ำรอยเส้นทางเดิมนี้อีกครั้งและอาจมีวัดเพิ่มเติมด้วย ใครสนใจไปหลังไมค์ได้ครับ

สวัสดีค่ะ
เพิ่งสมัครสมาชิกใหม่ค่ะ
ชอบไปเดินชมภาพจิตรกรรมฝาผนังตามวัดต่างๆ เช่นกัน
กำลังศึกษาหาความรู้เรื่องราวเก่าๆ อยู่ค่ะ
ขอบคุณที่นำภาพสวยๆ มาลงไว้ให้ชมและศึกษากันค่ะ

ติดตามชมอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ไมได้เข้ามาสองสามวัน มีสมาชิกเข้ามาใหม่ และสนใจชมจิตรกรรมฝาผนัง สนใจเข้าไปดูได้ทีfacebookผนังเก่าเล่าเรื่องนะครับ พรุ่งนี้ไปสุพรรณพาสมาชิกที่สนใจจากเพื่อนในfacebook ไปหลายที่ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด ซึ่งผมรับหน้าที่เป็นวิทยากรและจัดประจำเพื่อผู้สนใจครับ ใครสนใจก็เรียนเชิญครับ และขอสวัสดีปีใหม่ชาวสมาชิกเรือนไทยทุกท่าน ขอให้พบแต่ความสุขความเจริญคิดเงินให้ได้เงินคิดทองให้ได้ทองสมปรารถนาทุกประการครับ

ดิฉันไปชมวัดวาอารามแล้ว นำภาพมาลงบล็อกไว้ค่ะ
บางครั้งข้อมูลก็มีไม่มาก ยังไม่ครบเครื่อง เชิญไปชมได้ที่

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=addsiripun&month=25-12-2011&group=12&gblog=93

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ ตามไป Add ที่ FB แล้วนะคะ
 ;D