เปิบพิสดารสมัยอยุธยา
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=442.0เมื่อพ.ศ. ๒๒๒๘ พระเจ้าชาร์สุไลมานแห่งเปอร์เชียส่งคณะราชทูตมาเจริญพระราชไมตรีกับสมเด็จพระนาราณ์ มีหลักฐานเป็นบันทึกของเลขาทูตชื่ออิบน์ มูฮัมเหม็ด อิมราฮิม เล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอยุธยา เท่าที่เขาเห็น รวมเรื่องอาหารการกินไว้ว่า
" ชาวสยามจำกัดอาหารอยู่กับข้าวเปล่าเท่านั้น ไม่คลุกเกลือ เนื้อหรือเครื่องเทศลงในข้าว กินข้าว น้ำต้มและหัวปลา ชนทุกชั้นไม่ว่าสูงหรือต่ำจะกินแบบนี้ ถ้าหากว่าเขาพบสัตว์ตายไม่ว่าอะไร แม้แต่ซากอีกาแก่ เขาจะกินอย่างไม่ลังเล แต่จะไม่ฆ่าสัตว์เอามาบริโภคเพราะถือว่าเป็นบาป
(ที่ว่าไม่ฆ่านี้คงหมายถึงวัว หรือหมู ไม่รวมปลา)
บางครั้งชาวเมืองจะกินแย้หรือตะกวด ( lizard) และงู ซึ่งวางขายตามตลาด อาหารอย่างอื่นคือตะพาบน้ำหรือเต่า ( tortoise) บางเผ่าก็กินเนื้อช้างหรือหมาป่า"
คนอยุธยาค่อนข้างจะขาดโปรตีน เพราะไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ อย่างมากก็กินปลาเป็นหลัก แต่ก็มักจะทำเป็นปลาแห้ง ปลาร้า ปลาเค็มไว้กิน มากกว่าปลาสด หมูเป็นอาหารของคนจีน ชาวอยุธยาไม่นิยมการฆ่าสัตว์ไว้กินเนื้อ หนังสือภูมิสถานกรุงศรีอยุธยาบอกว่าภายในเมืองมีตลาดขายหมูอยู่แห่งเดียว ที่ย่านในไก่ซึ่งเป็นชุมชนคนจีนในเมือง ถึงแม้ว่าเลี้ยงวัวควาย แต่ก็เพื่อใช้งาน ชาวอยุธยาไม่กินนมวัว
ย่านขายเป็ดไก่ในอยุธยาตอนกลางลงมาถึงตอนปลาย มีจำกัดเพียงย่านเดียว คือย่านป่าทุ่งวัดกระบือวัดวัว ต่อมาในตอนปลายอยุธยา พระเจ้าแผ่นดิน (เข้าใจว่าเป็นพระเจ้าบรมโกศ) ออกกฎหมายว่า "ทรงพระกรุณาแก่สัตว์ โปรดให้เลิกตลาดซึ่งฆ่าเป็ดไก่เสีย" คือหมายความว่าห้ามจำหน่าย ในเมื่อไม่มีตลาด ชาวบ้านจะฆ่าเป็นไก่มาขายก็ทำไม่ได้ ก็เท่ากับต้องเลิกเลี้ยงไปโดยปริยาย เพราะพระเจ้าแผ่นดินสงสารเป็ดไก่ที่ถูกฆ่า แต่ไม่รวมไก่ชนซึ่งไม่ได้มีไว้ฆ่า ชาวบ้านเลี้ยงไก่ชนกันทั่วไป แชร์แวสในสมัยพระนารายณ์บันทึกว่า เป็นการพนันที่คนอยุธยาชอบมากที่สุด
เราได้อาศัยบันทึกของชาวต่างประเทศที่เข้ามาในอยุธยา ทำให้รู้เรื่องอาหารการกินของคนไทยได้บ้าง ในบันทึกของลาลูแบร์และแชร์แวส เล่าตรงกันว่า ชาวสยามไม่นิยมบริโภคเนื้อสัตว์อื่นนอกจากปลา ไม่ชอบการฆ่าและกักขังสัตว์ แม้ว่าล่ากวางมาถลกหนังขายเป็นสินค้าส่งออก แต่ไม่กินเนื้อกวาง คนเลี้ยงแพะแกะรีดนม เป็นชาวมุสลิม คนจีนเลี้ยงหมูเป็ดไก่
ที่เรียกว่าเปิบพิสดารอีกอย่าง มาจากคนจีนไม่ใช่คนไทย ลาลูแบร์บันทึกว่า คนจีนในอยุธยาบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปกติราละเว้น เช่น แมว หมา ม้า ลา ล่อ !!!
ในสมัยรัตนโกสินทร์ การกินอยู่คงจะเริ่มหลากหลายกว่าอยุธยาตอนกลาง ดูจากรายชื่ออาหารในจดหมายเหตุความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวี ระบุเมนูเอาไว้ในงานสมโภชน์พระพุทธมณีรัตนปฏิมากรฯว่ามีเครื่องคาวหวานหลายอย่าง ได้แก่ ไส้กรอก ไข่เป้ดต้ม ไก่พะแนง หมูผัดกับกุ้ง มะเขือชุบไข่ทอด ไข่เจียว ลูกชิ้น กุ้งต้ม หน่อไม้ผัด ผักน้ำพริก ปลาแห้งแตงโม และข้าว ของหวาน มีขนมไส้ไก่ ขนมฝอย ข้าวเหนียวแก้ว ขนงผิง กล้วยฉาบ หน้าเตียง หรุ่ม สังขยา ฝอยทอง และขนมตะไล