ข้อมูลจากอีกเว็บหนึ่ง
http://www.baanjomyut.com/library/6_treason/06.html------------------------------------------------------
แม้กบฎวังหลวงจะยุติลงด้วยการไกล่เกลี่ยรอมชอมไปแล้วก็ตาม กลิ่นไอของการกบฎก็ยังมีท่าทีอยู่เสมอ เพียงยังรอโอกาสเท่านั้นเอง
โดยไม่มีใครคาดฝัน เมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ไปเป็นประธานในพิธีรับมอบเรือขุด "แมนฮันตัน" ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกามอยให้แก่ไทย ตามโครงการว่าด้วยการช่วยเหลือร่วมมือระหว่างสองประเทศ โดยรับบาลจะได้รับเรือขุดนี้ไปใช้ในการขุดลอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา พิธีอันทรงเกียรติเพื่อรับเรือขุดแมนฮัตตันนี้ กระทำกันที่ท่าราชวรดิตถ์ ได้มีทูตานุทูตของประเทศต่างๆ ได้ร่วมเป็นเกียรติเป็นจำนวนมาก
และโดยที่มิได้ตระเตรียมการป้องกันตัวเลยแม้แต่น้อย ภายหลังจากพีธรรับมอบเรือเรียบร้อยแล้ว จอมพล ป. ก็ได้รับเชิญให้ขึ้นไปชมเรือแมนฮัตตัน เมื่อย่างเหยียบขึ้นเรือ ทหารเรือกลุ่มหนึ่งพร้อมปืนกลมือ ภายใต้การนำของ นาวาตรี มนัส จารุภา ผู้บังคับการเรือรบหลวงสุโขทัย ก็ปราดเข้าประชิดตัวจอมพล ป. และบังคับให้ไปลงเรือยังกองเรือรบ ท่ามกลางการตกตลึงของบรรดดาทูตานุทูตต่างประเทศ และผู้ติดตามจอมพล ป. ทั้งหมดได้แต่มอง นาวาตรี มนัส จารุภา นำตัวจอมพล ป. ไปยังเรือรบศรีอยุธยา ซึ่งขณะนั้นจอดลอยลำอยู่ที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา
ในการที่ทหารเรือกลุ่มหนึ่ง เข้าทำการเกาะกุมคุมตัวจอมพล ป . ไว้นั้น ดูเหมือนว่าจะมีความประสงค์จะเอาตัวจอมพล ป. เป็นประกัน ในการตั้งข้อเรียกร้อง ในทางการเมือง ทันทีที่ข่างแพร่ออกไป คณะรัฐมนตรีได้เปิดประชุมกันอย่างเคร่งเครียด เพื่อพิจารณาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ไม่ว่าในกรณีใดๆ จากการเรียกร้อง รัฐบาลจะไม่อนุโลมตามด้วยประการใดๆทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังได้มีการลงมติให้ปราบปราม พวกกบฎด้วยความรุนแรงและเด็ดขาดอีกด้วย ต่อมารัฐบาลได้ออกแแถลงการณ์ ประกาศให้ประชาชนได้ตระหนักว่า การเรียกร้องใดๆของฝ่ายกบฎนั้น ทางรัฐบาลจะไม่ยินยอมด้วยประการทั้งปวง และยังได้ประกาศให้พวกกบฎปล่อยตัวจอมพล ป. ให้เป็นอิสระภาพโดยเร็วที่สุด ถ้าไม่ปล่อยจอมพล ป. ทางรัฐบาลจะจัดการโดยเด็ดขาดและรุนแรงต่อไป
คำแถลงการณ์ไม่เป็นผล ฝ่ายทหารเรือไม่ยอมปล่อยตัวจอมพล ป. เพราะมีความมั่นใจอยู่อย่างหนึ่งว่า การควมคุมตัวจอมพล ป. ไว้เป็นประกันนั้น จะสามารถเรียกร้องสิทธิ์ทางการเมืองได้เป็นอย่างดี และยังเข้าใจต่อไปอีกว่า คงจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ในขณะที่จอมพล ป. ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในอารักขาของทหารเรือ
แต่ผิดถนัด คณะรัฐประหารมิได้มีความหว่งใยกับชีวิตของจอมพล ป. แม้แต่น้อย ความเลื่อมใสศรัทธาในตัวจอมพล ป. นั้นเกือบจะไม่มีอยู่ในคณะรัฐประหารแล้ว ดังนั้นคณะรัฐประหารจึงได้ส่งกำลังรบเข้าปราบปรามทหารเรือริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา การต่อสู้เกิดขึ้น และทหารบกสามารถยึดสถานที่สำคัญๆไว้ได้ และตีทหารเรือแตกกระเจิงไป จนไม่สามารถจะควบคุมการต่อสู้ไว้ได้ จึงพากันหลบหนีไปอย่างอลหม่านสับสน
แม้ว่าทหารบกจะปราบปรามทหารเรือแตกพ่ายไปได้แล้วก็ตาม สำหรับทหารเรือบนเรือรบหลวงศรีอยุธยา อันมีนาวาตรีมนัส จารุภา เป็นผู้บังคับการและคุมตัวจอมพล ป. ไว้นั้น ยังไม่ยอมปล่อยตัวให้เป็นอิสระภาพ เพราะยังมั่นใจว่า ตราบใดที่จอมพล ป. ยังถูกควบคุมตัวอยู่บนเรือแล้ว คณะรัฐประหารคงจะไม่กล้าทำการรุนแรง แต่เป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะจอมพล ป. แทบจะไม่มีอิทธิพลใดเลยต่อคณะรัฐประหาร คณะรัฐประหารมิได้ให้ความสำคัญแก่จอมพล ป. เหมือนวันแรกแห่งการรัฐประหาร เนื่องจากมีความจำเป็นที่ต้องเอาจอมพล ป. เป็นเครื่องมือ เพราะระหว่างนั้นการรัฐประหารทำท่าจะล้มเหลว เมื่อจอมพล ป. มาปรากฎตัวเหตุการณ์จึงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ในวันที่ 30 มิถุนายน นั้นเอง รัฐบาลได้ส่งเครื่องบินจากกองทัพอากาศมาทิ้งระเบิดรอบๆ เรือรบหลวงศรีอยุธยา เพื่อเป็นการคุกคามให้ทหารเรือปล่อยจอมพล ป. แต่นาวาตรีมนัส ยังยืนกรานที่จะไม่ยอมปล่อยจอมพล ป. จนกว่าจะมีการเจรจา คณะรัฐบาลจึงได้ตัดสินใจจะทิ้งระเบิดเรือรบหลวงศรีอยุธยา โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของจอมพล ป. และความเสียหายที่จะเกิดแก่เรือรบหลวงศรีอยุธยา
เสียงระเบิดดังสนันหวั่นไหว ภายในไม่กี่วินาทีเรือรบหลวงศรีอยุธยาก็เริ่มเอียง ภายในเรือรบหลวงศรีอยุธยาเกิดการโกลาหลวุ่นวาย ทหารเรือบางส่วนพากันกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาว่ายเข้าหาฝั่ง โดยมีทหารเรือคนหนึ่งพยายามที่จะช่วยชีวิตจอมพล ป. ให้กระโดดน้ำหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด สำหรับนานวตรีมนัส จารุภา เมื่อเอาตัวรอดมาได้แล้วก็หนีออกนอกประเทศ โดยขอลี้ภัยการเมืองอยู่ในเขมร
หลังจากกบฎแมนฮัตตันแลล้ว กองทัพเรือได้มีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ จนเกือบจะกล่าวได้ว่ากองทัพเรือนั้นไม่มีอิทธิพลใดอีกแล้ว ทั้งนี้เพราะตัวจักรสำคัญๆ ในกองทัพเรือให้ความสนับสนุนนายปรีดี พนมยงค์ และมีทรรศนะจัดระบบการเมืองแนวโซเซียลลิสต์
รัฐบาลได้ส่งพวกของคณะรัฐประหารที่วางใจได้ เข้าสวมตำแหน่งสำคัญๆ ไว้โดยสิ้นเชิง ส่วนนายทหารชั้นผู้ใหญ่ถูกปลดออกจากตำแหน่งหมด เมื่อพวกของนายปรีดีในกองทัพเรือหมดอำนาจลง อิทธิพลในทางการเมืองของนายปรีดี ก็หมดลงไปด้วย.