สยามเพิ่งถือกำเนิดจากภูมิศาสตร์และแผนที่ เป็นผลลัพธ์ของการปะทะและถูกฝรั่งเศสกำหนด ชนชั้นนำสยามมิได้สร้างวีรกรรมให้กำเนิดเองหรือรักษาของที่มีอยู่เดิมไว้แต่อย่างใด แต่วิกฤตการณ์ที่ให้กำเนิดสยามคือวิกฤตการณ์ที่คนไทยรับรู้กลับตาลปัตรว่าเป็นการเสียดินแดนครั้งใหญ่หลวง (ธงชัย วินิจจะกูล, กำเนิดสยามจากแผนที่ สำนักพิมพ์ อ่าน-คบไฟ พ.ศ. ๒๕๕๖)
ในหนังสือ กำเนิดสยามจากแผนที่ ของ ธงชัย วินิจจะกูล ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในอดีต - ก่อนจะมีแผนที่แบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน – ชาวอุษาคเนย์มีแผนที่ชนิดที่ไม่ได้มุ่งนำเสนอภาพแทนของภูมิศาสตร์ แต่มุ่งเสนอความเชื่อหรือศรัทธาทางศาสนามากกว่า เช่น แผนที่ไตรภูมิ เป็นต้น
แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนแต่ก่อน ไม่มีแผนที่ที่แสดงภูมิศาสตร์โดยสิ้นเชิง เพียงแต่แผนที่เหล่านั้นอาจไม่เที่ยงตรงและชัดเจน และบ่อยครั้ง แผนที่โบราณจะระบุระยะห่างระหว่างสถานที่แต่ละแห่งด้วย “เวลา” ที่ใช้ในการเดินทาง (เช่นสองวันหรือสามวัน) ไม่ใช่ “ระยะทาง” เป็นหน่วยกิโลเมตรหรือไมล์แบบในปัจจุบัน
นอกจากนั้น แนวคิดเรื่อง “เส้นเขตแดน” ก็ไม่เคยมีอยู่ในมโนทัศน์ของผู้ปกครองในสมัยก่อน หรือถ้าจะมี ก็ไม่ใช่ในแบบที่ฝรั่งเข้าใจ ดังปรากฏว่า
“ในร่างข้อตกลงที่จัดทำโดยสยามนั้น แม้จะมีการระบุว่าดินแดนไหนเป็นของสยามและอังกฤษอยู่หลายแห่ง ทว่าไม่มีการตกลงเส้นเขตแดนแต่อย่างใด เป็นการบอกกลาย ๆ ว่า สำหรับสยามนั้น การแบ่งตรงไหนของใครชัดเจนอยู่แล้วโดยไม่ต้องอาศัยเส้นเขตแดนแบบที่อังกฤษต้องการ”
และเมื่อทางอังกฤษเรียกร้องหนักเข้า ให้ทางราชสำนักสยามทำการปักปันเขตแดน คำตอบของทางราชสำนักก็มีใจความเพียงว่า
“หากฝ่ายใดข้องใจเกี่ยวกับเขตแดน ก็ให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายและคนจากชายแดน เพื่อสอบสวนและตกลงกันฉันมิตร”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่อังกฤษพยายามจะให้ชาวบ้านในท้องที่ระบุเส้นเขตแดนชัด ๆ คำตอบของพนักงานท้องถิ่นกลับกำกวม
“เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนหนึ่งกลับตอบว่า ชาวบ้านในบริเวณนี้เป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรกัน ไว้เนื้อเชื่อใจกันและเข้าใจกันดี เขตแดนจึงไม่ห้ามผู้คนไปมาหาสู่หรือทำมาหากิน... ชายแดนเป็น ‘ทางเงินทางทอง’ เปิดอิสระสำหรับพ่อค้าวาณิชย์”
มโนทัศน์เรื่องเขตแดนของสยาม จึงเป็นมโนทัศน์คนละชุดกับฝรั่งนักล่าอาณานิคมโดยสิ้นเชิง ธงชัย วินิจจะกูล ให้คำอธิบายไว้ว่า สำหรับสยาม (และประเทศอื่น ๆ ในอุษาคเนย์)
“เขตแดนของแต่ละเมืองขึ้นอยู่กับว่าแต่ละเมืองสามารถดูแลพื้นที่โดยรอบของตนได้ไกลแค่ไหน เมืองหนึ่งจึงไม่จำเป็นต้องมีชายแดนบรรจบกับอีกเมืองหนึ่งพอดี จึงไม่ต้องพูดถึงเส้นแบ่งเขตอำนาจระหว่างเมืองหรือรัฐสองแห่ง อาณาจักรซึ่งรวมหลายเมืองเข้าด้วยกันจึงประกอบด้วยพื้นที่ของอำนาจต่างๆ เป็นหย่อม ๆ เป็นแห่ง ๆโดยมีที่ว่างระหว่างเมืองเหล่านั้นอยู่เต็มไปหมด”
และพื้นที่ที่เป็นเขตแดนสำหรับสยาม ก็เป็นพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในความควบคุมของรัฐใดรัฐหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็น “กันชน” ระหว่างอาณาจักรสองอาณาจักร
“มันจึงเป็นชายแดนที่ไม่มีเส้นเขตแดน หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งได้ว่าเป็น ‘เส้นหนา’ ที่เป็นแนวราบขนาดใหญ่”
ดังนั้น การปักปันพรมแดนโดยฝรั่งเศสและอังกฤษ จึงเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในมโนทัศน์ของชนชั้นนำสยาม และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้สยามมีตัวตนขึ้นในภูมิศาสตร์โลกเป็นครั้งแรก
“แผนที่” จึงกลายเป็นสิ่งที่แสดงถึง “ความเป็นชาติ” โดยอัตโนมัติ
การ “เสียดินแดน” ที่เรารับรู้กันในปัจจุบัน จึงไม่ใช่การ “เสียดินแดน”
แต่เป็นการที่สยาม “ได้ดินแดน” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ต่างหาก
http://www.siamrath.co.th/web/?q=สยามถือกำเนิดด้วย“แผนที่”