เว็บ
map.longdo.com ระบุตำแหน่งไว้ดังในภาพท้ายกระทู้นี้นะครับ คลองข้างๆน้ันชื่อคลองสวนหลวง
มีเงื่อนงำอยู่เล็กน้อยในประวัติหลวงพ่อวัดไตรมิตร
http://wattraimitr.com/prawatbuddha3.html ขอคัดลอกมาดังนี้นะครับ
แต่เดิม พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรหรือพระพุทธรูปทองคำสุโขทัย ไตรมิตรปูชนียวัตถุมหัศจรรย์องค์นี้มีปูนปั้นพอกปิดบังอำพรางไว้ และประดิษฐานอยู่ที่ พระอุโบสถวัดโชตนารามพระอารามหลวงหรือวัดพระยาไกร ตั้งอยู่ในเขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันนี้ก็คือสถานที่ตั้งของบริษัท อิสเอเซียติก จำกัดนั่นเอง
วัดโชตนารามนั้น ในอดีตแต่เดิมมีชื่อว่าวัดพระยาไกร ปรากฏตามหลักฐานจดหมายเหตุที่พระพุทธรูปปูนปั้นหรือพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรนี้ ก่อนที่จะ อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม มีหลักฐานว่าเป็นวัดที่สร้างมาก่อน ปีพุทธศักราช ๒๓๔๔ กาลภายหลังต่อมา พระยาโชฏีกราชเศรษฐี (เจ้าสัวบุญมา) ซึ่ง เป็นข้าหลวงเดิมของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ ๓ ได้ทำการ บูรณะปฏิสังขรณ์เสร็จแล้วได้น้อมถวายเป็นพระอารามหลวง ในรัชสมัยของพระบาท สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และได้รับการสถาปนา ขึ้นเป็นพระอารามหลวงมีนามว่าวัดโชตนาราม
ต่อ มา ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า รัชการที่ ๕ วัดโชตนาราม พระอารามหลวงแห่งนั้นได้กลายสภาพเป็นวัดร้าง ไม่มีผู้ปกครองดูแลปล่อยให้เสนาสนะสงฆ์พร้อมทั้งพระอุโบสถอันเป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นก็คือพระพุทธ รูปทองคำสุโขทัยไตรมิตรองค์นี้ ต้องปรักหักพังชำรุดทรุดโทรมเสียหายมาโดยลำดับ สถานที่ภายในบริเวณวัดโชตนารามทั้งหมดจึงกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ประกอบ กับทางบริษัท อิสเอเซียติก จำกัด ได้แสดงความประสงค์ขอเช่าสถานที่ของวัด โชตนารามทั้งหมดเพื่อดำเนินกิจการของบริษัท เมื่อได้รับอนุญาตจากทางราชการให้ ดำเนินกิจการของบริษัทแล้ว ก็ได้ทำการรื้อถอนเสนาสนะสงฆ์ที่ปรักหักพังจนหมดสิ้น คงเหลือไว้เพียงพระอุโบสถที่มีพระพุทธรูปปูนปั้นและพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ซึ่งมี องค์พระขนาดใหญ่เท่ากันเพียง ๒ องค์เท่านั้นที่ยังประดิษฐานอยู่ ทางการคณะสงฆ์ ในสมัยนั้นจึงมีเถระบัญชาให้วัดไตรมิตรวิทยารามและวัดไผ่เงินโชตนารามไป อัญเชิญ พระพุทธรูป ๒ องค์ขนาดใหญ่นั้นนำไปประดิษฐานเก็บรักษาไว้ แล้วในปีพุทธศักราช ๒๔๗๘ นั้นเองทางวัดไผ่เงินโชตนารามก็ได้ไปอัญเชิญพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ซึ่ง ประดิษฐานอยู่ด้านหน้านำไปประดิษฐานรักษาไว้ ณ วัดไผ่เงินโชตนาราม
ส่วนทาง วัดไตรมิตรวิทยาราม โดยมีพระมหาเจียม กมโล เป็นประธาน ก็ได้ไปอัญเชิญพระพุทธ รูปปูนปั้นองค์ที่ยังเหลืออยู่ นำมาประดิษฐานรักษาไว้ ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม โดย ครั้งแรก ประดิษฐานที่เพิงสังกะสีข้างองค์พระเจดีย์ที่ชำรุดเสียหายทางด้านทิศ ตะวันออกของพระอุโบสถหลังเก่าเพราะยังหาสถานที่ประดิษฐานที่เหมาะสมไม่ได้ส่วนที่ว่าทำไมวัดพระยาไกรถึงได้ร้างไป ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่โดยข้อเท็จจริง ในสมัย ร.๓ พื้นที่แถบนี้น่าจะไกลปืนเที่ยงมาก เพราะในสมัย ร.๔ ทรงให้ขุดคลองผดุงกรุงเกษมเป็นคูเมืองชั้นนอกเพื่อรองรับการขยายตัวของกรุงเทพ พื้นที่นี้ก็ยังอยู่ไกลจากแนวคลองผดุงกรุงเกษมออกมาอยู่มาก ที่สำคัญวัดนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ปากบางริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาอยู่ลับแลเสียปลายบางอย่างนี้ ก็ต้องพึ่งพาชุมชนในบางนี้เป็นหลัก ถ้าชุมชนนี้เบาบางไป วัดก็คงอยู่ไม่ได้ครับ