คำอธิบายจาก "ประชุมพระนิพนธ์ สมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ"
๑. อธิบายกำเนิดการเล่นถั่วโปและหวย
การเล่นถั่วโป และหวย เป็นของที่จีนคิดเล่นขึ้นในเมืองจีนก่อน แล้วพวกจีนที่ไปอยู่ต่างด้าวพาไปเล่น จึงได้แพร่หลายต่อไปในประเทศอื่นๆ ข้าพเจ้าได้วานพระเจนจีนอักษร(สุดใจ ตัณฑากาศ) ศาสตราจารย์ภาษาจีนในราชบัณฑิตสภาให้ช่วยค้นหาเรื่องเหตุเดิมที่จะมีการเล่นนี้ขึ้นในเมืองจีน ได้ความในหนังสือ ยี่ จับ สี่ ซื้อ อ๋าว หั่ง จือ เป็นเรื่องพงศาวดารจีน ตอนราชวงศ์ตั้งฮั่น ว่าเมื่อครั้งราชวงศ์ตั้งฮั่นเป็นใหญ่ในเมืองจีน แผ่นดินพระเจ้าสูนฮ่องเต้ อันดับเป็นรัชกาลที่ ๗ เสวยราชย์เเต่ พ.ศ. ๖๖๙ จน พ.ศ. ๖๘๘ นั้น ขุนนางจีนคนหนึ่งชื่อเลียงกี คิดเล่นการพนันขึ้นอย่าง ๑ เดิมเรียกว่า อีจี๋ แปลว่ากระแปะคิด วิธีเล่นใช้นับ ๔ เป็นเกณฑ์ คือ เอากระแปะหลาย ๆ สิบกระแปะมากองเข้า แล้วเอาภาชนะอันหนึ่งครอบกองกระแปะนั้นไว้ ให้คนทั้งหลายที่เล่นด้วยกันทายว่าจะเป็นเศษ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ หรือครบ ๔ เมื่อทายกันแล้วจึงเปิดภาชนะที่ครอบออกแล้วนับกระแปะ ปัดไปทีละ ๔ กระแปะ ๆ ปัดไปจนกระแปะในกองนั้นเหลือเป็นเศษ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ หรือ ๔ ตรงกับที่ผู้ใดทายผู้นั้นถูก ใครวางเงินแทงเท่าใดถ้าเจ้าถูก เจ้ามือก็ต้องใช้ให้ ใครแทงไม่ถูกเจ้ามือก็ริบเงินที่แทงเสีย
ต่อมาถึงสมัยล่ำปักเฉียว เวลาเมืองจีนแตกกันเป็นภาคเหนือกับภาคใต้ ต่างรัฐบาลกัน ในระหว่าง พ.ศ. ๙๖๓ จนถึง พ.ศ. ๑๑๓๒ ในสมัยนั้นการเล่นที่เรียกว่า อีจี๋ (ทำนองจะเป็นเพราะเอาสิ่งอันใดกองแทนกระแปะให้สังเกตง่ายขึ้น) จึงเรียกแปลงชื่อว่า "ทัวหี่" แปลว่า เล่นแจง
ต่อมาเมื่อราชวงศ์ถังเป็นใหญ่ ในระวาง พ.ศ. ๑๑๖๑ จน พ.ศ. ๑๔๕๐ มีผู้แปลชื่อการเล่น "ทัวหี่" มาเรียกว่า "ทัวจี่" แปลว่าแจงกระแปะ (เพราะกลับเล่นด้วยกระแปะ แต่ทุกวันนี้เรียกกันเป็นหลายอย่าง เรียกกันว่า "กิมจี๋ทัว" แปลว่าแจงกระแปะทอง (เพราะเป็นกระแปะที่เล่นนั้นขัดปลั่งเหมือนกับทอง) ก็มี เรียกว่า "ทัว" แปลว่าแจง เท่านั้น (เพราะใช่แจงด้วยเบี้ยหรือสิ่งอื่นอันมิใช่กระแปะ) ก็มี เรื่องมูลเหตุการเล่นทัว ที่เรามาเรียกกันว่า "ถั่ว" มีมาดังนี้ ที่ไทยเรียก "ถั่ว" เห็นจะเป็นแต่เพี้ยนมาจากคำว่า "ทัว" ภาษาจีน หาใช่เพราะเอาถั่วมากำแทนกระแปะไม่
เรื่องเหตุเดิมที่จะเกิดการเล่นโป ซึ่งจีนเรียกว่า "ป๊อ" นั้นยังค้นไม่พบอธิบาย ได้ความแต่ว่าเป็นของคิดขึ้นที่อำเภอเจี๋ยวอาน ในมณฑลฮกเกี้ยน และว่ามีขึ้นในสมัยตอนปลายราชวงศ์ใต้เหมง หรือเมื่อต้นราชวงศ์ใต้เชงเป็นใหญ่ในเมืองจีน ประมาณราว พ.ศ. ๒๑๐๐ เพราะฉะนั้นโปเป็นของมีขึ้นที่หลังถั่วช้านาน โปมาเล่นในเมืองประเทศสยามนี้มี ๒ อย่าง ไทยเราเรียกว่า "กำโป" เพราะกำเหมือนถั่ว ผิดกันแต่วิธีแทง อย่าง ๑ เรียกว่า "โปปั่น" ใช้ครอบทองเหลืองมีลิ้นรูปเหมือนลูกบาตรข้างใน ปั่นครอบไปจนได้เหลี่ยมแล้วเปิดฝา ซีกขาวที่ลิ้นอยู่ตรงแต้มไหนถือว่าออกแต้มนั้น นี้อย่าง ๑ สันนิษฐานว่าที่จีนเรียก "ป๊อ" เห็นจะได้แก่ โปปั่นอย่างเดียว โปกำจะเป็นขอคิดเอาวิธีเล่นถั่ว กับเล่นโป ประสมกันปรุงขึ้นต่อภายหลัง ได้ความในเรื่องมูลเหตุที่จะเกิดการเล่นโปแต่เท่านี้
ส่วนเหตุเดิมที่จะเกิดหวยนั้น ได้ความในหนังสือชื่อ ยังว่า หวยเป็นของเพิ่งคิดขึ้นในแผ่นดินพระเจ้าเตากวาง รัชกาลที่ ๖ ในราชวงศ์ใต้เชง เสวยราชย์แต่ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๖๔ จนปีจอ พ.ศ. ๒๓๙๔ (ตรงกับรัชกาลที่ ๒ ต่อรัชกาลที่ ๓ กรุงรัตนโกสินทร์นี้) ว่ามีผู้คิดเล่นที่อำเภอว่างง่าม ในมณฑลเจ๊เกี๋ยงก่อน จีนเรียก "ฮวยหวย" ลักษณะการเล่นนั้นทำป้ายเล็ก ๓๔ ป้าย เขียนชื่อคนโบราณลงป้ายละชื่อ ชื่อคนโบราณเหล่านั้นคือชื่อว่า "สามหวย" "ง่วยโป" เป็นต้น ล้วนเป็นคนมีชื่อเสียงครั้งราชวงศ์ซ้องทั้งสิ้น กระบวนเล่นนั้น เจ้ามือเลือกป้ายอัน ๑ ใส่ลงในกระบอกไม้ปิดปากกระบอกเสีย แล้วเอาแขวนไว้กับหลังคาโรง ให้คนทายว่าจะเป็นชื่อคนไหนใน ๓๔ ชื่อนั้น ถ้าทายถูก เจ้ามือก็ใช้ ๓๐ ต่อ ถ้าทายผิดก็ริบเอาเดิมพันเสีย เรื่องมูลเหตุที่หวยเกิดขึ้นในเมืองจีน สืบได้ความดังแสดงมานี้
แผ่นดินทอง - ตำนาน อากรบ่อนเบี้ย หวย และเงินตรา
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/03/K4167818/K4167818.html