ปี พ.ศ. 2290 เจ้าฟ้ากุ้งผู้โปรดให้จารึกฯ ยึดมั่นที่จะออกพระนามเจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐา สุริยวงษ์
และตำแหน่งพระราชวังบวรสถานมงคล อย่างเหนียวแน่นและเป็นแบบเดียวกันกับ ที่ใช้ใน นันโทปนันทสูตรคำหลวง และ กาพย์ห่อโคลง
ตรงนี้ผมขอเสนอเล่นๆว่า ชื่อตัวของเจ้าฟ้ากุ้งคือ เจ้าฟ้าไชย ครับ
สุริยวงศ์ เป็นเชื้อสายพระราม สุริยวงศ์ แห่งอโยธยา
พระเจ้าปราสาททองและพระเจ้าแผ่นดินต่อๆมา ดูค่อนข้างที่จะนิยมในพระไชยราชาเป็นมาก และใช้เป็นแบบอย่างหลายครั้งครับ
พระโอรสองค์โตของพระเจ้าปราสาททองชื่อ เจ้าฟ้าไชย
ทรงบูรณะวัดชีเชียง ที่สร้างโดยพระไชยราชา (วัดชีเชียง อยู่ที่ ... ?)
เรื่องตำแหน่งของวัดชีเชียง พระยาโบราณราชธานินทร์(พร เดชะคุปต์)ได้วินิจฉัยไว้ในหนังสือ 'อธิบายแผนที่นครศรีอยุธยากับคำวินิจฉัยของพระยาโบราณราชธานินทร์ ฉบับชำระครั้งที่ ๒' ไว้ดังนี้ครับ
“...ป้อมปืนตรงวัดสีเชียงเป็นป้อมพระราชวังด้านใต้อยู่เกือบตรงกลางวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ หน้าป้อมออกระหว่างหลังวิหารแกลบ กับหน้าวิหารพระมงคลบพิตร ในกฏมณเฑียรบาลเรียกว่าป้อมศาลาพระมงคลบพิตร แต่ในหนังสือนี้ว่าอยู่ตรงกลางวัดสีเชียง นอกจากด้านหลังของป้อมอยู่เกือบกึ่งกลางวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์แล้ว ข้างด้านหน้าป้อมไม่เห็นตรงกับวัดอะไร แต่ก็มีตำนานการสร้างวัดในพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐว่า เมื่อเดือน ๖ ปีจอ พ.ศ.๒๐๘๑ ในแผ่นดินสมเด็จพระไชยราชาธิราช แรกให้พูนดินวัดชีเชียงและสถาปนาพระพุทธรูป พระเจดีย์เป็นอันว่า วัดชีเชียงหรือวัดสีเชียง มีจริง จะหมายความว่าวิหารแกลบเป็นวัดสีเชียงหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ที่วิหารแกลบก็มีแต่วิหาร หามีเจดีย์ไม่”
สันนิษฐานว่าคงอยู่ใต้วัดพระศรีสรรเพชญ์ไม่ห่างจากพระวิหารพระมงคลบิพิตรเท่าไหร่ครับ แต่ไม่ปรากฏซากให้เห็นนอกจากวิหารแกลบ
ทั้งนี้ถ้าอิงตามหลักฐานของเยเรเมียส ฟาน ฟลีต(Jeremias Van Vliet) หัวหน้าสถานีการค้าของ VOC ประจำกรุงศรีอยุทธยาสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้อธิบายไว้ว่าถูกฟ้าผ่าบ่อย เคยมีพระเจ้าแผ่นดินหลายองค์พยายามบูรณะแต่ไม่สำเร็จ จนมาถึงพระเจ้าปราสาททองทรงรื้อวัดชีเชียงทิ้งทั้งหมดครับ ไม่ได้ทรงบูรณะครับ แล้วไปสร้างวัดใหม่ซึ่งฟาน ฟลีตไม่ได้อยู่นานพอที่จะเห็นว่าทรงสร้างเสร็จหรือไม่
"...ข้าพเจ้าได้กล่าวเมื่อเร็วๆนี้ ว่าพระชัยราชา พระเจ้าแผ่นดินองค์ที่สิบสี่แห่งสยามได้สร้างวัดพระชีเชียง ซึ่งมีเหตุมหัศจรรย์ปรากฏขึ้นเสมอๆ เนื่องจากเป็นเรื่องนิยายเกินไป ข้าพเจ้าจึงไม่ขอกล่าว ณ ที่นี้
ครั้งหนึ่ง วัดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในพระราชอาณาจักร แต่ได้ถูกฟ้าผ่า และพายุพัดหักลงมาตลอดเวลา พระเจ้าแผ่นดินหลายพระองค์ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ แต่เมื่อไรก็ตามที่เริ่มงานก็ต้องล้มเลิกไปกลางคัน เพราะว่าผู้ควบคุมงานและคนงานเกิดเจ็บป่วยและสิ้นชีวิตอย่างน่าสังเวช
กล่าวกันว่าพราหมณ์และพระสงฆ์ได้ทำนายไว้ ว่าผู้ที่จะบูรณะวัดนี้ได้ ต้องเป็นพระเจ้าแผ่นดินสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์เก่าอย่างบริสุทธิ์
เมื่อสองสามเดือนที่แล้ว พระองค์ศรีธรรมาธิราช(พระเจ้าปราสาททอง)ได้ท
รงให้รื้อวัดจนถึงฐาน และทรงย้ายรูปหล่อทองแดงซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ ที่นั้นออกไปไกลหลายวา เพื่อว่าจะสร้างวัดใหม่ ณ ที่ประดิษฐานรูปหล่อทองแดง..."
พระไชยราชาซึ่งเป็นพระนามในพงศาวดารเข้าใจว่าเป็นพระนามก่อนครองราชย์และค่อนข้างสามัญ เพราะมีปรากฏพระนามตอนครองราชย์ในกฎหมายลักษณะพิศูจน์ว่า 'สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรบรมจักรพรรดิศร บวรธรรมิกมหาราชธิราช' ครับ
ส่วนเรื่องโยงพระเจ้าปราสาททองเข้ากับพระไชยราชา ส่วนตัวแล้วคิดว่ายังไม่มีความเชื่อมโยงที่ชัดพอครับ ที่เด่นๆคือทรงนิยมเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมเขมร หรือเน้นหนักในพิธีกรรมที่เกี่ยวกับคติจักรพรรดิราชอย่างพระราชพิธีอินทราภิเศกที่ทำตอนลบศักราช ส่วนเรื่องพระนามของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร หากว่า ไชย เป็นคำที่สำคัญจริง ก็ไม่น่าจะไปไว้ข้างหลัง ในที่นี้น่าจะเป็นเพียงสร้อยนามเท่านั้นครับ