กระทู้: มาตั้งคำถามเรื่องการเขียนบทสนทนาและบทบรรยายค่ะ เริ่มกระทู้โดย: jaiya ที่ 04 พ.ค. 08, 11:29 ช่วงนี้มีปัญหาอย่างหนึ่งเกิดขึ้นค่ะ อาจจะเป็นปัญหาที่แปลกหน่อยคือ
1. พักนี้มักจะติดขัดในเรื่องของบทสนทนาค่ะ เขียนไม่ค่อยออก บรรยายมากไปเพลินรู้ตัวอีกทีทั้งบทกลายเป็นว่าเหลือบทสนทนาอยู่นิดหน่อย ยิ่งโดยเฉพาะเวลาพระเอกกับนางเอกคุยกันหรือจีบกัน ดูจะเป็นการยากเหลือเกิน ใช้เวลากับคิดคำพูดนานเป็นสามเท่าบทนางเอกทะเลาะกับเพื่อนเสียอีก 2. อีกเรื่องหนึ่งค่ะ ช่วงนี้มีการพูดกันมากเรื่องการบรรยายความรู้สึก พักนี้พวกเพื่อนนักเขียนหน้าใหม่ (ที่รู้จัก) มักจะใช้การบรรยายความรู้สึกเพื่อดำเนินเรื่อง แต่ดิฉันก่อนจะเริ่มงานเขียนได้ไปอ่านหนังสือ เขียนนิยายให้ขายดีของสตีเฟ่น คิง เขาบอกว่าควรจะใช้การบรรยายลักษณะท่าทางให้คนอ่านคิดตามมากกว่า ตัวอย่างที่สตีเฟ่น คิง ยกมา (ขอโทษนะคะถ้าจำไม่ได้หมด) เป็นฉากที่ผู้หญิงอ้วนคนหนึ่งกำลังกินเค้กปอนด์ใหญ่คำแล้วคำเล่านัยน์ตาขวาง กินเหมือนไม่รู้สึกว่ามันอร่อยแต่ใช้ระบายความเครียด เขาบอกว่าควรจะทำให้คนอ่านรู้สึกถึงจิตที่ผิดปกติของผู้หญิงคนนี้จากท่าทางของเธอมากกว่า จะเขียนไปว่าเธอรู้สึกอย่างไร แต่ปัญหาก็มีอีกนั่นแหละค่ะ ถ้าเราบรรยายท่าทางของตัวละครที่มีจุดให้บรรยายอย่างผู้หญิงอ้วนคนนี้คงไม่ยาก แต่ถ้าเป็นกิจวัตรหรือท่าทางปกติ คนเราจะเคลื่อนไหวร่างกายอะไรกันนักหนา อย่างนั่งคุยกันบนที่โต๊ะทำงานอย่างมากก็เลื่อนตัว จับปากกกา บางทีเขียนเสร็จกลับไปอ่านยังคิดเลยว่าทำไมมันขยับโน้นขยับนี่เยอะจัง แล้วการบรรยายอย่างไรมันถึงจะเรียกว่าพอเหมาะคะ ทั้งบรรยายลักษณะท่าทางการเคลื่อนไหว ทั้งบรรยายความรู้สึก โดยเฉพาะการบรรยายความรู้สึกทำอย่างไรเราถึงจะบรรยายให้คนอ่านไปจินตนาการเองได้ ไม่ใช่ว่าเราต้องเขียนลงไปว่านางเอกโกรธ แต่ให้คนอ่านสัมผัสได้จากสิ่งแวดล้อมจากท่าทาง จากความรู้สึก โดยไม่ต้องเขียนลงไปตรงๆ ให้คนอ่านจินตนาการว่านางเอกกำลังคิดอะไร โดยเราไม่ต้องเขียนข้อความที่นางเอกคิดลงไป เหมือนเวลาอ่านงานของอาจารย์ ดิฉันสามารถเห็นบรรทัดที่อาจารย์ซ่อนไว้ได้ โดยที่อาจารย์ไม่ต้องเขียนออกมาตรงๆ กระทู้: มาตั้งคำถามเรื่องการเขียนบทสนทนาและบทบรรยายค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ค. 08, 12:14 ลองถามตัวเองว่า ทำไมพระเอกกับนางเอกพูดกันยากเหลือเกิน ทีบทนางเอกทะเลาะกับเพื่อน ลื่นไหลออกมาง่ายกว่าเป็นกอง
๑) เพราะคุณสร้างจินตนาการไม่ได้ว่าคนที่เขาจีบกัน เขาพูดกันยังไง? ๒) คุณไม่ได้ย้อนอารมณ์ตัวเอง เมื่อเคยอยู่ในประสบการณ์แบบนั้น? คนที่อายุเกิน ๒๕ น่าจะเคยเจอความรักมาบ้าง ไม่ว่าจะรักข้างเดียวหรือสองข้าง ลองทบทวนความทรงจำดูนะคะ เผื่อจะดึงอะไรที่เป็นความซาบซึ้งแต่หนหลังออกมาให้พระเอกนางเอกยืมใช้กันบ้าง ๓) เกร็งกับบทนี้หรือเปล่า กลัวมันเชย? กลัวไม่จับใจเท่าที่นักเขียนใหญ่ๆเขาเขียนกัน? หรือไม่อินกับอารมณ์แบบนี้? สำรวจตัวเอง อาจจะได้คำตอบแล้วเลิกเกร็ง อย่าคาดหวัง ให้เขาพูดกันธรรมดาๆ ลื่นไหลออกมาเป็นธรรมชาติ ก็จะช่วยได้นะคะ กระทู้: มาตั้งคำถามเรื่องการเขียนบทสนทนาและบทบรรยายค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ค. 08, 12:22 อ้างถึง ถ้าเราบรรยายท่าทางของตัวละครที่มีจุดให้บรรยายอย่างผู้หญิงอ้วนคนนี้คงไม่ยาก แต่ถ้าเป็นกิจวัตรหรือท่าทางปกติ คนเราจะเคลื่อนไหวร่างกายอะไรกันนักหนา อย่างนั่งคุยกันบนที่โต๊ะทำงานอย่างมากก็เลื่อนตัว จับปากกกา บางทีเขียนเสร็จกลับไปอ่านยังคิดเลยว่าทำไมมันขยับโน้นขยับนี่เยอะจัง เพิ่งเขียนต้นฉบับไปเมื่อชั่วโมงก่อนนี้เอง ใช้ท่าทางตัวละครบรรยายอารมณ์ ลองอ่านดูนะคะ เขานิ่งอึ้ง มือกำโทรศัพท์เกร็งแน่น เงียบงัน หล่อนเองก็เงียบกริบ ราวกับหายตัวไปเสียแล้วเฉยๆ ในความเงียบนั้น วายุได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บลึก...ถ้าหากว่าหัวใจเป็นแก้วเปราะบาง แรงกระแทกจนมันแตกเป็นเสี่ยงก็คงมาจากคำพูดคำนี้ บทบรรยายนี้ไม่มีแอ๊คชั่น พระเอกนิ่งอึ้ง กำโทรศัพท์มือถือแน่น เงียบ เช่นเดียวกับนางเอก หัวใจเต้นแรง แต่เรารู้ว่าใจเขาไม่ได้นิ่งเลย ตรงกันข้าม ความนิ่งทางกาย เป็นสิ่งตรงกันข้ามกับความรู้สึกปั่นป่วนยิ่งกว่าเจอพายุ ที่เขาประสบอยู่ กระทู้: มาตั้งคำถามเรื่องการเขียนบทสนทนาและบทบรรยายค่ะ เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 พ.ค. 08, 16:22 แจ๋วจริงๆ บรรยายโวหารของอาจารย์ เหมือนโคลสอัพหนัง ไม่ต้องเปล่งเสียงพูด กินขาด
|