ร่องรอยของลิลิตพระลอว่าแต่งในสมัยไหน มองเห็นเค้าเงื่อนได้จาก"ร่าย" ตอนเริ่มต้นเรื่อง
... รอนลาวกาวตาวตัดหัว ตัวกลิ้งกลาดดาษดวน ฝ่ายข้างยวนแพ้พ่าย ฝ่ายข้างลาวประไลย ฝ่ายข้างไทยไชเยศร์ คืนยังประเทศพิศาล สำราญราษฎร์สัมฤทธิ พิพิธราชสมบัติ พิพัฒนมงคล สรพสกลสิมา ประชากรเกษมสุข สนุกทั่วธรณี พระนครศรีอโยธยา มหาดิลกลภ นพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมยศโยคยิ่งหล้า ฟ้าฟื้นฟึกบูรณ์ ฯ
เห็นด้วยกับการวิเคราะห์ที่เเจ่มเเจ้งของอาจารย์ค่ะ ว่าเค้าเงื่อนค่อนข้างชัดเจนตั้งแต่ต้นเรื่อง
ซึ่งตอกย้ำความพ่ายแพ้ของหัวเมืองทางเหนือแก่อยุธยา
ก็ต้องกลับมามองว่ารัชสมัยใดที่กษัตริย์อยุธยาจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหัวเมืองเหนือขนาดนั้น
http://www.oceansmile.com/K/Ayuttaya/KingAyuttaya.htmเล็งไปที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ผู้เคยครองกรุงศรีอยุธยา แล้วย้ายไปประทับที่พิษณุโลก
เพื่อกำราบหัวเมืองเหนือโดยเฉพาะ ลองตามรอยท่านฉันทิชย์ กระเเสสินธุ์ ในประชุมวรรณคดีไทย ภาคพิเศษ
ที่มีการแกะรอยทวาทศมาส โคลงดั้น หน้า 26 พ.ศ. 2512 ดังนี้ค่ะ
"นักประวัติศาสตร์ทราบกันเเล้วว่า ในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถนั้น
หัวเมืองเหนือถูกรุกรานและเป็นขบถ เช่น พระยายุทธิษฐิระ เจ้าเมืองเชลียงเป็นขบถ
นำทัพของพระเจ้าติโลกราชจากเชียงใหม่มาตีเอาเมืองสุโขทัย เมื่อพุทธศักราช 2004
เมื่อตีได้เมืองสุโขทัยเเล้ว ชล่าใจยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลกอีก แต่ไม่สำเร็จ
เพราะชาวพิษณุโลกร่วใจกันต้านทานเข้มเเข็ง พระยายุทธิษฐิระจึงนำพระเจ้าติโลกราช
ไปตีเอาเมืองกำแพงเพชร ที่กำแพงเพชรก็ต่อสู้อย่างทรหด พระเจ้าติโลกราชไม่อาจหักเข้าเมืองได้
ประจวบกับมีศึกฮ่อมาประชิดเมืองเชียงใหม่ พระเจ้าติโลกราชจึงถอยทัพคืนไป
ทางกรุงศรีอยุธยาได้ให้พระยากลาโหมเป็นเเม่ทัพยกมาตีเอาเมืองสุโขทัยคืนได้
การศึกครั้งนี้เองที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงพระราชดำริว่าหัวเมืองเหนือ
อยู่ห่างกรุงศรีอยุธยามาก เวลามีศึกสงคราม กว่าทัพทางกรุงศรีอยุธยาจะขึ้นไปถึง
หัวเมืองเหนือก็ถูกข้าศึกทำลายแหลกราญไปเสียแล้ว พระองค์จึงเสด็จขึ้นไปเสวยราชย์
ณ เมืองพิษณุโลก เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าศึกมาย่ำยี และหากมีข้าศึกมาประชิดก็สามารถ
ทรงบัญชาการทัพได้ทันที ในโอกาสเดียวกันนั้นพระองค์ก็ได้ทรงอภิเษกให้พระบรมราชาราชโอรส
ครองราชสมบัติ ณ กรุงศรีอยุธยาเเทน..."
พอเข้าเค้าไหมคะ