เรือนไทย

อันว่าขนมและของทานเล่น ต่างมีหน้าตา รูปลักษณะที่แตกต่างกัน จนบางครั้งทำให้ชวนคิดว่า การทำขนมหรือของทานเล่นบางอย่าง ทำกันออกมาได้อย่างไร จึงเรียนเชิญสมาชิกเข้าร่วมเล่าประสบการณ์เหล่านี้กันครับ  ;D ;D

ลอดช่อง

อันหอมหวาน ตัวอ้วนกลม หัวแหลม ท้ายแหลม ถูกเรียกว่า ลอดช่องสมชื่อขนม เกิดจากการนำแป้งที่จัดได้ส่วนผสมแล้วนำมาวางลงเครื่องมือที่เจาะรูไว้ ใช้แรงอัด หรือกดด้านบน พลันแป้งก็จะไหลออกตามรู ลงในน้ำเดือด จะได้ลอดช่องแล้ว จะอ้วน จะยาว ก็ขึ้นกับความหนืดของแป้งเป็นหลัก

เรไร

ขนมเรไร จะมีการทำที่กลับกันจากลอดช่อง โดยการปั้นแป้งแล้วจัดลงในพิมพ์อัดขนม ด้านบนเป็นรูเจาะไว้ ตัวแป้งจะเล็ดลอดออกมา ใช้ไม้พายตะล่อม จัดทรงขนมเรไรให้สวยงาม แล้วนำไปนึ่งต่อ และอบควันเทียนให้หอม

ขนมดอกจอก

ขนมนี้รูปร่างออกมาเป็นดอกไม้ได้สวยงาม เขาทำโดยมีแม่พิมพ์ทองเหลือง จุ่มน้ำมันให้ร้อน แล้วนำชุบแป้ง แล้วค่อยชุบทอด แป้งจะหลุดจากพิมพ์  เมื่อขนมทอดเหลืองได้ที่แล้ว นำขึ้นมาวางบนก้นถ้วยที่หงายไว้ เพื่อให้เกิดความโค้ง

ขนมชั้น

เป็นชั้น ๆ ได้อย่างไร ก็ตอบเลยว่า เกิดจากการเทน้ำแป้งที่สีอ่อน และสีแก่ ต่างระยะเวลากัน เทแป้งสีอ่อนลงแล้วนึ่งให้สุก ต่อมาค่อยเทแป้งสีแก่กว่าแล้วนึ่งให้สุก ทำสลับไปมา ๕ - ๗ ชั้น สีที่นิยมในขนมชั้นเป็นสีเขียวใบเตย ในสมัยนี้นำขนมชั้นมาจัดเป็นกลีบกุหลาบกันมาก ทำให้หมดความหมายไป

สายไหม

สายไหมนั้น การทำที่แปลกมาก ทำโดยเทน้ำตาลทรายเคี่ยวให้เหนียว (ห้ามคน) ปล่อยให้ละลายไปเรื่อย ๆ เมื่อน้ำตาลเหลืองแล้ว นำเทใส่กะบะขนาดใหญ่ ที่ซัดด้วยน้ำมันบัว

แหวะน้ำตาลออกเป็นวง ด้วยไม้จากนั้น ก็ทำการยืดน้ำตาลกับน้ำมันบัว กลับไป กลับมาเหมือนทำเส้นหมี่สมัยโบราณ ทบน้ำตาลไปมาเรื่อย ๆ ตัวน้ำตาลจะแยกเป็นชั้น ๆ กับน้ำมัน และแรงดึงแยกไปเรื่อย ๆ

ก่อให้เกิดการแตกตัวเป็นเส้นสายไหม ยิ่งทับน้ำตาลได้หลายทบก็ทำให้เส้นสายไหม ละเอียดนุ่มนวลมากเท่านั้น

ขนมขี้หนู

หน้าตาขนม เป็นผง ๆ เขาทำกันอย่างไร ... เกิดจากการร่อนแป้งลงลังถึง ทำให้แป้งสุกเป็นเม็ดทราย อย่างสวยงาม

ลูกชุบ

แค่เอาถั่วเขียวกวนกับน้ำตาล  ปั้นเป็นก้อนกินเฉยๆก็คงไม่ใช่คนไทย  ประดิษฐ์เป็นผลไม้จิ๋วหลากสีแล้วชุบย้ำวุ้น  ยั่วให้เด็กๆอยากกิน...กินพริกโชว์กันตอนเด็กๆ  ต่างชาติเห็นยังทึ่งในความช่างประดิษฐ์ของไทยเรา..........

ขนมทองหยิบ... ;D

ใช้นิ้วมือบรรจงจับจีบแผ่นไข่ชุบน้ำเชื่อมให้เป็นกลีบ 5-6 กลีบ แล้วแต่ความชำนาญของผู้ทำ
แล้วใส่ในถ้วยตะไล หยอดด้วยน้ำเชื่อม ให้กลีบอยู่คงตัว
เวลาจัดจาน แคะออกจากถ้วยตะไลจัดวางให้สวยงาม
เป็นขนมมงคล มีลักษณะงดงามคล้าย ดอกไม้สีทอง
ชื่อ ขนมทองหยิบ เป็นชื่อ สิริมงคล
เชื่อว่าหากนำไปใช้ประกอบ พิธีมงคล ต่างๆ หรือให้เป็น ของขวัญ แก่ใครแล้ว จะทำให้เกิด
ความมั่งคั่งร่ำรวย หยิบจับ การงาน สิ่งใดก็จะ ร่ำรวย มีเงินมีทอง สมดังชื่อ "ทองหยิบ"

ขนมช่อม่วง... ;D
ขนมที่สวย ราวดอกกุหลาบสีม่วง
เกิดจากการใช้แหนบ หนีบแป้ง ให้เป็นกลีบๆ ...

ขนมทองเอก...
ขนมสัมปันนี...
ความสวย ที่มาจากพิมพ์เดียวกัน... ;D

ตังเมหลอด ที่แสนอร่อย ความท้าทายของตังเมหลอดคือ การที่ยืดน้ำตาลให้เกิดความกลวงได้

กวนน้ำตาลกับกะทิให้เหนียวจัด แล้วนำไปม้วนกับหลักตรึงไว้กับเสา แล้วทำการยืด และทบไปเรื่อย ๆ การทบตัวของน้ำตาลจะเกิดฟองอากาศขึ้น และต่อเมื่อได้ทำการยืดน้ำตาลให้ยาว ๆ อากาศในน้ำตาลก็ยืดออกทำให้เกิดโพรงในตัว แล้วค่อยตัดแบ่งเป็นชิ้น ๆพอคำ แค่นี้ก็อร่อยกันได้แล้ว

ขนมน้ำดอกไม้

ขนมน้ำดอกไม้ทำออกมาโดยการนึ่ง จะนึ่งให้เต็มทั้งหน้าขนม ก็ไม่เรียกว่าขนมน้ำดอกไม้ ความวิเศษของขนมนี้คือ ตรงกลางเว้า โบ๋ เป็นหลุมลงไป จึงทำให้หน้าตาขนม ออกมามีเสน่ห์ ชวนค้นหาว่า ทำไมถึงบุ๋มได้

เมื่อนำน้ำแป้งมานึ่งในถ้วยตะไล ปล่อยให้แป้งสุกเกือบถึงกลาง ก็รีบเทน้ำแป้งที่เหลวตรงกลางยังไม่สัมผัสความร้อนออกไป ทำให้ขนมเป็นรูบุ๋ม แล้วนึ่งต่อให้เสร็จ แค่นี้ก็ได้ขนมสวย ๆ แล้ว

พาช่อม่วงสวยๆมาเข้าขบวนด้วยค่ะ   คุณหนุ่มสยามคงรู้วิธีทำ

ในความเห็นที่ ๙ คุณดีดี ผู้มีรสทางการฝีมือ ได้หยิบแหนบ จัดจีบ ตั้งกลีบไว้ให้ชมเรียบร้อยแล้วครับผม  ;)

น่าทานจังครับ

หนมลาเช็ดทะ หรือ ขนมลา

ขนมท้องถิ่นทางภาคใต้ ขนมทำจากแป้งผสมหลายอย่าง กะทิ น้ำผึ้ง เป็นต้น หน้าตาขนมออกมาสวยงาม เป็นร่างแห นัยว่า เป็นเสมือนเสื้อผ้า และเส้นเล็กเพื่อให้เปรต ซึ่งมีปากเล็กเท่ารูเข็มสามารถทานขนมได้

การทำนี้โบราณเอากระบวย (กะลามะพร้าวเสียบด้าม) เจาะรูให้ทั่ว แล้วเพื่อสำหรับการโรยน้ำแป้งลงกะทะ ปัจจุบันพากันใส่กระป๋องโลหะกันหมดแล้ว

ขนมอาลัวดอกกุหลาบ... ;D
ใช้หัวบีบบีบขนมเป็นกลีบกุหลาบทีละกลีบ แล้วมารวมกันเป็นดอก...

ขนมหม้อตาล  เดิมปั้นแป้งเป็นหม้อ  ต่อมาเป็นกระเช้าเล็กๆ หยอดน้ำตาลหลายสี  น่ารักมาก