ส่วนมองซิเออร์ คอนสตันซ์ ยังไม่ทราบหนเหนือหนใต้ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น และพฤติการณ์ทางในพระราชสำนักจะเป็นไปอย่างไรก็ไม่ทราบเสียเลย มัวแต่จะรีบเข้าไปในพระราชวังด้วยอาการอันเร่งร้อน พร้อมด้วยหมู่มิตรสหายซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสเป็นอันมาก ในจำนวนชาวฝรั่งพวกนี้ มีที่เป็นนายทหารผู้มีชื่อเสียงอยู่ด้วย คือมองซิเออร์ เดอบัวชอง มองซิเออร์ เดอเฟรตะวิล มองซิเออร์ เดอร์ฟูร์บัง มองซิเออร์ วังดรีย์ กับมองซิเออร์ เดอลุยซ์ และก่อนที่คอนสตันซ์จะย่างเข้าในบริเวณพระราชวังนั้น คอนสตันซ์ได้ไปแจ้งความจำนงแก่เจ้าหน้าที่ซึ่งรักษาการรอบนอกพระราชสำนักแล้วว่า จะไปเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน แต่เข้าไปยังมิทันจะล่วงล้ำพระทวาร ก็ถูกจับพร้อมกับนายทหารฝรั่งเศสเหล่านั้นทั้งหมด พวกที่ถูกจับเหล่านี้ ต้องถูกส่งตัวไปคุมขังรวมกันไว้ในห้องแห่งหนึ่งภายในพระราชวัง
ครั้นวันรุ่งขึ้น ออกพระเพทราชาจึงให้เบิกตัวคอนสตันซ์เข้าไปพบ และสั่งให้นำความกลับไปบอกนายทหารฝรั่งเศสนั้นว่า ออกพระเพทราชามิได้มุ่งหมายที่จะจับกุมมาคุมขังอย่างนักโทษ ที่ต้องทำไปก็เพราะได้ทราบว่ามีผู้ประพฤติผิดคิดมิชอบ กำลังจะก่อการกบฏประทุษร้ายต่อพระเจ้าแผ่นดิน ในระหว่างนี้ยังสืบสวนไม่ได้ความแน่ชัดว่า ใครเป็นผู้มีมลทินเกี่ยวข้องในการนี้บ้าง จึงจำเป็นต้องควบคุมตัวคนสำคัญ ๆ ไว้เสียก่อน จนกว่าจะสืบสวนได้ความปรากฏชัดเจนต่อไป
"ส่วนตัวท่านมองซิเออร์ คอนสตันซ์"
ออกพระเพทราชาพูดอย่างเฉียบขาด
"ฉันขอกำชับว่า ท่านต้องนำความตามถ้อยคำที่ฉันพูดนี้ ไปแจ้งให้นายทหารฝรั่งเศสเหล่านั้นฟังให้ถูกต้อง จะต่อเติมเสริมสอดอย่างไรอีกไม่ได้เป็นอันขาด และขอบอกให้รู้ตัวเสียด้วยว่า เวลาที่ท่านพูดจากันนั้น ฉันคงจะให้ผู้หนึ่งผู้ใดไปคอยสอดส่องด้อมฟังอยู่ด้วยเป็นแน่"
การที่ออกพระเพทราชาให้มองซิเออร์ คอนตันซ์ เข้าไปพบปะเยี่ยมเยียนชาวฝรั่งเศสพวกนี้ เป็นอุบายที่จะไม่ให้ชาวฝรั่งเศสแค้นเคืองและคิดการต่อสู้ป้องกันตัว ส่วนมองซิเออร์ คอนสตันซ์ เมื่อได้รับคำสั่งเช่นนั้นแล้ว ก็นำความไปแจ้งแก่ชาวฝรั่งเศสตามคำสั่งของออกพระเพทราชาทุกประการ
สมัยนั้นพระเจ้ากรุงศรีอยุธยามีกองทหารรักษาพระองค์หลายกองด้วยกัน แต่กองหนึ่งเป็นชาวยุโรปที่ไปจากประเทศต่าง ๆ ล้วน และโดยมากเป็นชนชาติฝรั่งเศส ทหารกองหนึ่ง ๆ มีจำนวนพล ๑๕๐ คน มีนายทหารฝรั่งเศสเป็นผู้บังคับบัญชา กองหทารเหล่านี้ประจำอยู่ที่ทะเลชุบศรใกล้ ๆ กับเมืองละโว้ และที่ทะเลชุบศรนี้ พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาได้ทรงสร้างพระที่นั่งไว้องค์หนึ่ง เพื่อเป็นที่ประทับทรงพระสำราญพระราชอิริยาบถ ฉะนั้นออกพระเพทราชาจึงได้จัดส่งกองทัพมีไพร่พลจำนวนมาก ไปตั้งค่าย คอยที่อยู่ที่ตำบลนั้น เพื่อเมื่อสบโอกาสจะได้ทำการทันท่วงที อยู่มาอีก ๒ วัน ออกพระเพทราชาก็ให้ทหารกองหนึ่งคุมตัวนายทหารฝรั่งเศสที่คุมขังในเมืองละโว้กับมองซิเออร์ คอนสตันซ์ มากักขังไว้ที่นี่ด้วย
ต่อจากนี้ ออกพระเพทราชาก็ให้เบิกตัวมองซิเออร์ คอนสตันซ์ ออกมาหา และกล่าวบริภาษด้วยถ้อยคำอันหยาบช้าสามานย์ว่า มองซิเออร์ คอนสตันซ์ เป็นผู้คิดทรยศกบฏต่อพระมหากษัตริย์และรัฐบาลสยาม แล้วก็สั่งให้ทำทารุณกรรมด้วยประการต่าง ๆ ตามวิธีเคยทำกันมา และซ้ำยังแสนสาหัสกว่านั้นด้วย เพื่อเป็นการขู่บังคับให้คอนสตันซ์ยอมระบุชื่อผู้ที่สมรู้เป็นใจ ช่วยเหลือดำเนินอุบายอันทุจริต คิดจะให้พระมหากษัตริย์นิยมนับถือศาสนาคริสตัง และจะให้กรุงสยามตกอยู่ใต้อำนาจของฝรั่งเศส แต่เมื่อได้เพียรทรมานอยู่หลายชั่วนาฬิกาแล้ว จึงให้นำตัวพระราชบุตรบุญธรรมออกมาตัดพระเศียร แล้วก็เอาเชือกร้อยพระเศียรผูกห้อยคอมองซิเออร์ คอนสตันซ์ ไว้ ราวกับผูกผ้าพันคอแบบยุโรป
ออกพระเพทราชาเริ่มทำทารุณกรรมแก่มองซิเออร์ คอนสตันซ์ มาตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤษภาคม รุ่งขึ้นวันที่ ๒๙ และ ๓๐ คอนสตันซ์ยังต้องถูกทรมานเช่นนั้นอีก นับว่าเป็นการทรมานอย่างทารุณร้ายกาจซึ่งสุดแล้วแต่จะนึกทำเอา ส่วนพระเศียรพระราชบุตรบุญธรรมก็ยังคงให้ผูกแขวนคออยู่ตลอดวันตลอดคืน มองซิเออร์ คอนสตันซ์ ต้องถูกทรมานอย่างแสนสาหัสอยู่ด้วยอาการเช่นเดียวกันจนวันที่ ๔ มิถุนายน จึงถึงแก่ความตายด้วยความทุกข์ทรมานนั้นจากประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๘๑ จดหมายเหตุเรื่องการจลาจลเมื่อปลายแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หลวงจินดาสหกิจ (ละม้าย ธนะศิริ) แปลจากเรื่อง A European Version of the revolution in Siam at the end of the reign of King Phra Narayana, 1688 A.D.
https://th.wikisource.org/wiki/จดหมายเหตุเรื่องการจลาจลเมื่อปลายแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเรื่องราวในจดหมายเหตุ ทารุณโหดร้ายเสียยิ่งกว่าปรากฏในละคร