เรือนไทย

General Category => ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 14:22



กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 14:22
จากทริปไปวิเศษฯคราวนี้ แม้มีเวลาน้อยแต่ก็ทำให้ผมได้พบเจออะไรดีในเวลาสั้นๆครับ
มีคนเคยพูดว่าเมืองเพชรฯคือลมหายใจของอยุธยา แต่ถึงอย่างนั้นศิลปะอยุธยาก็ยังมีอยู่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
บางทีก็เป็นส่วนเล็กๆน้อยๆที่กระจัดกระจายอยู่ รู้กันแต่เฉพาะคนในชุมชนนั้นๆ(หรือไม่รู้เลยก็มี)
ทำให้นับวันยิ่งค่ิอยๆถูกทำลายหรือเลือนหายไปเรื่อยๆ  :( ทั้งงานจิตรกรรม และ สถาปัตยกรรม

ความตั้งใจแรกที่ผมจะไปวิเศษฯก็คือ การไปนมัสการพระพุทธไสยาสน์ วัดป่าโมก ด้วยความชื่นชมศรัทธามากๆ



กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 15:03
พระพุทธไสยาสน์องค์นี้มีความเป็นมายาวนาน มีเตำนานเล่าว่าสร้างในสมัยสุโขทัย
ก็คิดว่าคงสร้างในสมัยสุโขทัยหรืออโยธยาเดิมล่ะครับ  เพราะบริเวณแถบนี้เป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ
ในระดับภูมิภาคมาตั้งแต่อดีต เป็นเส้นทางน้ำในการล่องเรืองขนส่งสินค้าจากด้านตะวันตกและทางเหนือ
เพราะเป็นจุดที่แม่น้ำน้อยไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาในตำบลโผงเผง 
ทำให้ในฤดูแล้งจะเดินข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในจุดนี้ (อาจจะเพราะเป็นตะกอนทรายจากแม่น้ำน้อย)
จากพระราชพงศาวดารสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อทรงยกทัพเสด็จข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตำบลโผงเผง
แล้วจึงเสด็จไปนมัสการพระพุทธไสยาสน์ ก่อนไปทำสงครามกับทัพหงสาวดี

และยังมีตำนานพระพุทธไสยาสน์ที่คนท้องถิ่นเล่ากันมาว่า เมื่อแม่น้ำน้อยกัดเซาะตลิ่งพังทลายเข้ามาใกล้
องค์พระเลยลุกขึ้นเสด็จไปประทับสีหไสยาสน์ให้ห่างลำน้ำ  :o
แต่เรื่องนี้ใช่จะเป็นเรื่องไร้เหตุผลไปซะทีเดียว ในสมัยพระเจ้าท้ายสระแม่นำ้กัดเซาะตลิ่งจนเข้าใกล้องค์พระจะเป็นอันตราย
พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระจึงมีพระดำริจะให้สร้างใหม่ แต่พระยาราชสงครามได้ขอจะทำการชลอย้ายองค์พระให้ห่างจากที่เดิม
พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระไม่วางพระทัย เพราะกลัวองค์พระจะเสียหายระหว่างขนย้ายเป็นที่อับอาย
พระยาราชสงครามจึงขอเดิมพันด้วยชีวิต (ต้องขอบคุณพระยาท่านที่เป็นตัวอย่างในการรักษาโบราณสถานโบราณวัตถุ แต่สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครเอาอย่าง)
พระยาราชสงครามทำการอย่างยากลำบาก โดยต้องขุดดินทำร่อง ใช้ซุงทำราง ใช้แรงงานทั้งคนทั้งช้าง และสามารถเคลื่อนย้างองค์พระเป็นผลสำเร็จ
นับว่าท่านเป็นวิศกรคนเก่งเลยจริงๆ หลังจากนั้นก็สร้างพระวิหารครอบองค์พระแต่แล้วเสร็จในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ

งานไม้แกะสลักหน้าบันพระวิหาร





กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 15:12
นอกจากองค์พระที่งดงามแล้วพระวิหารก็งามเช่นกัน แม้ในตอนนี้จะมีการสร้างสิ่งก่อสร้างอื่นปะปน
ทำให้พระวิหารไม่สง่างามโดดเด่น แต่ก็นับว่ายังคงรูปแบบงานสถาปัตยกรรมอยุธยาไว้ได้
ตัวพระวิหารทำหลังคาลดสองชั้นหน้าหลัง มีพาไลยื่นออกมาทางด้านหน้า มุงกระเบื้องดินเผาแบบเป็นลอน
หลังคาเชิดตามฐานที่แอ่นโค้งมีความเหมาสมกะทัดรัดน่าชืนชมมากๆครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 15:23
เป้าหมายต่อมาของแผนการไปเที่ยววิเศษไชยชาญของผมก็คือ  การไปชมภาพเขียนที่วัดเขียน
รองมาคือวัดหลงสุนทราราม และก็ไปดูพระตำหนักคำหยาด ตามด้วยไปวัดอ้อยเป็นจุดหมายสุดท้ายที่ไม่ใส่ใจนัก

แต่วัดอ้อยนี่แหละเป็นวัดที่ทำให้ผมทึ่งใจมากๆ เพราะจากข้อมูลที่ได้รู้มามีไม่กี่บรรทัด
คือมีพระอุโบสถสมัยอยุธยาทรงคล้ายกับวัดราชบูรณะ เคยใช้ในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่หล่อด้วยสำริด ประมาณนี้


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 15:30
หลังจากที่ได้เห็นพระอุโบสถก็เป็นแบบอยุธยาตอนต้นจริงๆครับ ทรงจะคล้ายกับวัดราชบูรณะแค่ไหนนั้นผมไม่ทราบเหมือนกัน
ลายแกะสลักไม้บนหน้าบันพระอุโบสถยังไม่ทำให้ผมตื่นเต้นเท่าไหร่  เพราะดูไม่ออกว่าสมัยไหนคิดเองว่าคงเป็นฝีมือช่างท้องถิ่น


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 15:36
การเดินทางต้องเข้าทางหลังวัดเพราะหน้าวัดหันเข้าหาแม่น้ำน้อย ผมสังเกตเห็นนใบเสมาที่ทำจากหินทรายสีแดง
มีบางใบยังมีลวดลายเหลืออยู่  จากลายบนใบเสมาทำให้ผมเข้าใจว่าวัดนี้เก่าแก่ไปถึงยุดอู่ทองหรือยุคอโยธยาเิดิมครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 15:48
ด้านหน้าพระอุโบสถที่ติดกับแม่น้ำน้อย มีซากเจดีย์สามองค์ผมดูไม่ออกว่ายุดไหน
แต่พอหันไปมองลายบนกรอบประตูก็ทำให้แปลกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเห็นงานปูนปั้นแบบนี้ครับ
ลายที่ขมวดเป็นเส้นกลมๆนั่นไม่เท่าไหร่แต่ตรงช่วงนาคสะดุ้ง ที่เป็นเส้นคดๆอย่างเส้นคดกริช
แบบทวยสมัยอยุธยาตอนต้น แม้ฝีมืออาจไม่เท้ากับลายปูนปั้นในอยุธยาแต่ก็ดีใจที่ยังเหลือ
งานยุคอยุธยาตอนต้นไว้ให้ศึกษาครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 15:56
หลังจากนั้นผมก็เข้าไปในพระอุโบสถ  ก็เจอพระประธานองค์สีดำตั้งอยู่บนฐานชุกชีที่สูงมาก(หล่อสำริด)
ฐานชั้นล่างทำใหม่แต่ฐานชั้นบนดูเป็นของเก่าไม่รู้ว่าสูงอย่างนี้ตั้งแต่แรกหรือเปล่า
แต่องค์พระน่าจะสมัยอู่ทองประมาณนั้นต้องให้ผู้รู้ดูก่อน องค์พระมีพุทธลักษณะงดงามครับ
บนฐานชุกชียังมีพระยืนอีกสององค์ขนาบสองฝั่งและมีพระนั่งอีกน่าจะสามองค์


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 16:05
ภาพยในพระอุโบสถไม่มีหน้าต่างแต่มีประตูอยู่ด้านหลังสองบาน ด้านหน้าสามบาน
ที่ริมผนังยังพระพุทธรูปวางอยู่ทั้งสองด้าน มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งงดงามเช่นกัน
ก่อนหน้าที่ผมไปวัดปราสาทมากพระที่นั่นเล่าให้ฟังว่า ขโมยมากเหลือเกินพองัดเข้า
โบสถ์ได้ก็ทุบดูก่อนว่าองค์ไหนเป็นปูน องค์ไหนเป็นสำริด ทองเหลือง
ถ้าองค์ไหนเป็นพวกสำริด ทองเหลืองก็ขมโยไปเลย  :-\

น่าหวั่นใจดีแท้นะครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 16:14
หลังคาพระอุโบสถทำเป็นมุขลดสองชั้นหน้าหลัง มีเสาหารขนาดใหญ่ค้ำมุขที่ยื่นออกมาถึงหกต้น
คู่นอกค้ำชายคาปีกนกและก่อเป็นเสาเรียงไปตลอดความยาวพระอุโบสถ
หลังคามุงกระเบื้องดินเผาเป็นลอนมีเชิงชายรูปเทพพนมสวยงามครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 16:26
พระอุโบสถหลังนี้ทำให้มองภาพงานสมัยอยุธยาตอนต้นได้ชัดเจนขึ้นมากครับ
แม้พวกเครื่องลำยองช่อฟ้าหางหงส์จะไม่มี คงเพราะผุพังไปและไม่ได้ทำขึ้นแทนที่
ถ้ามีเวลามากๆผมคงเดินจะไปดู ถามว่ามีโบราณวัตถุอย่างอื่นเหลืออยู่อีกไหม
ผมสรุปเองว่าวัดอ้อยคงเป็นวัดที่มีมาแต่สมัยอโยธยาเดิมและมาก่อสร้างเพิ่มเติม
ในสมัยอยุธยาตอนต้นซึ่งคงเป็นวัดสำคัญสำหรับเมืองวิเศษไชยชาญ
เพราะต้องการอาคารที่มีขนาดใหญ่โตทำให้ต้องสร้างเสาจำนวนมาก ผนังก็ไม่เจาะช่องหน้าต่าง
เพื่อรับน้ำหนักหลังคาเลยทำให้ภาพรวมดูเทอะทะไปบ้างฐานก็ยังไม่ตกท้องช้าง
รวมๆคงคล้ายกับพระวิหารวัดพระศรีสรรเพชญ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดหน้าพระเมรุ

ไม่รู้ว่าในประเทศไทยยังเหลืออาคารลักษณะนี้อยู่อีกหรือเปล่า ถ้ามีก็แนะนำบ้างนะครับ
ภาพตรงช่วงกลางของอกเลาบานประตูพระอุโบสถวัดอ้อย  เป็นลายไทยโบราณครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 16:50
พระตำหนักคำหยาด เดิมสันนิฐานว่าเป็นที่ประทับของขุนหลวงหาวัดเมื่อคราวมาประทับที่วัดโพธิ์ทอง
แต่มีแนวคิดตามมาว่าพระตำหนักอาจสร้างมาไว้อยู่ก่อนแล้ว สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศหรือพระองค์ใด
พระองค์หนึ่งหลังรัชสมัยพระนารายณ์ลงมา และเมื่อมีการเสด็จผ่านแม่น้ำน้อยขึ้นมาบริเวณนี้ก็คงมีการ
ให้บูรณะพระอุโบสถวัดอ้อยด้วย เป็นสมัยอยุธยาตอนปลายไปปะปน
สำหรับพระตำหนักคำหยาดเดิมมีคูล้อมทั้งสี่ทิศ แต่ปัจจุบันคูด้านหนึ่งเป็นถนนไปแล้ว ส่วนพระตำหนัก
ตั้งอยู่กลางพื้นที่ มีซากอาคารอยู่ด้านข้างคิดว่าคงเป็นหอพระหรือวัดน้อยประมาณนั้น
มีร่องรอยการจัดสวนประดับตกแต่ง มีการสร้างแบบใช้เทคนิคตะวันตกมาผสมผสาน  ซึ่งปรากฏหลายแห่ง
อย่างที่วังในลพบุรีหรือตำหนักในวัดกุฏีดาว เป็นพระตำหนักที่ค่อนข้างสง่างามและสร้างอย่างตั้งใจเป็นที่ประทับ
แม้จะเป็นพระนิเวศน์ขนาดเล็กก็ตาม


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 17:08
ตัวพระตำหนักที่ชั้นสองจะเห็นการทำฐานให้แอ่นตกท้องช้างชัดเจน ด้านหน้าทำเป็นมุขเด็จยืี่นออกมามีเสาหารขึ้นไปรับ
ด้านข้างมีทางขึ้นซ๊ายขวา มุขเด็จนี้คงใช้เป็นที่เทียบพระคชาธาร ด้านหลังก็เป็นมุขยื่นออกไปแต่ก่อผนังออกไปเป็นห้อง
คล้ายๆพระวิหารวัดมหาธาตุที่ลพบุรี มีข้อสันนิฐานไว้แล้วว่าคงเป็นห้องพระบนพระตำหนัก
ส่วนตัวผมเดาเอาว่าอาคารนี้อาจใช้เป็นท้องพระโรง แล้วมีพระตำหนักประทับเป็นเครื่องไม้สร้างไว้ด้านหลัง


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 17:50
นอกจากละแวกวิเศษไชยชาญจะมีงานสถาปัตยกรรมโบราณไว้ให้ชมแล้ว  ยังมีงานจิตกรรมให้เราไปชื่นชมได้หลายที่
แต่เนื่องจากเวลาน้อนผมเลยเลือกไว้สามที่คือวัดปราสาท วัดเขียน และวัดหลวงสุนทราราม
วัดแรกคือวัดปราสาท อยู่ที่ตำบลนรสิงห์ ซึ่งมีอนุสาวรีย์พันท้ายนรสิงห์อยู่ด้วย
สำหรับในบริเวณวัดมีพระปรางค์ทรงสูงมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปรูปอยู่ด้านบนทั้งสี่ทิศ
ซุ้มทิศตะวันออกมีพระพุทธรูปศิลปะอยุธยาปางห้ามสมุทร  ส่วนอีกสามด้านพระสงฆ์ในวัดเล่าว่า
ถูกขโมยปืนขึ้นไปโจรกรรมโดยเอาเชือกผูกพระศอองค์พระแล้วห้อยทิ้งลงมา  :-\ (กรรม)

ภายในพระอุโบสถมีภาพเขียนอยู่บริเวณผนังด้านหลังพระประธาน เขียนเป็นป่าหิมพานต์
และผนังด้านข้างเหนือช่องหน้าต่างทั้งสองด้านเขียนรูปพระพุทธเจ้าประทับยืนและพระสาวก
และมีลายอดไม้ร่วง


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 18:05
ภาพเขียนในส่วนด้านหลังพระประธานนั้นที่จริงคงเป็นภาพเขาพระสุเมรุ หรือจักรวาล
แต่ไม่แน่ใจว่ายังไงภูเขาเห็นแค่ครึ่งเดียวเพราะชนกับฝ้าพอดี เลยเข้าใจว่าเป็นภาพ
ป่าหิมพานต์ไป ซึ่งก็จะมีภาพกินรี หงส์ คชสีห์ ฯลฯ บางตัวก็ไม่รู้จักชื่อครับ



กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 18:08
ข้อมูลจังหวัดบอกไว้ว่าเป็นภาพเขียนสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
สำหรับผมข้อเท็จจริงไม่ทราบแน่ชัดครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 18:10
ภายในมีสิ่งรบกวนมากครับ  คือแมลงอะไรสักอย่างที่ไต่ยั๊วเีี้ยี้ยในพระอุโบสถ
ตัวคล้ายๆแมลงเต่าทองครับแค่สีดำทั้งหมด ดีนะที่บินไม่ได้


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 18:15
แต่จำนวนมันนี่สิครับ มหาศาลมากมาย ไต่กันเต็มพื้นแบบว่าไม่เห็นกระเบื้องพื้นแลย
ผมเลยต้องกระโดดไปยืนอยู่บนหัตบาถกับเพื่อน สำหรับคนเกลียดแมงสาบอาจช็อคตายได้
พระท่านบอกว่าจะมีในช่วงหน้าฝนนี่หล่ะ แต่ผมสงสัยว่าแล้วพระจะลงทำวัตรยังไงเนี่ยคับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 18:17
ภาพนี้สงสัยว่าจะเขียนเป็นรูปนางมโนราห์ฝากแหวนไว้กับฤาษี
แนวๆแอบเล่าเรื่องไปด้วย


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 18:18
ภาพนี้ผมไม่เข้าใจครับ เป็นภาพสัตว์ต่างๆที่โผล่ขึ้นมาในช่วงของเขาพระสุเมรุแต่ละยอดครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 18:20
ภาพนี้ผมเคยเห็นบ่อยๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นรูปอะไร แต่นึกถึงปรสาทนาคพันในเมืองพระนคร
ช่วยตอบด้วยแล้วกันครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 18:23
ภาพสุดท้ายจากวัดปราสาทครับ เนื่องจากผนังแปรระหว่างช่องหน้าต่าง
ไม่มีภาพเขียนเหลือเลยและมีการทาสีทับแล้วจึงมีให้ชมเท่านี้
ตัวที่อยู่ข้างล่างไม่รู้เรียกว่าอะไรแต่น่ากลัวดีครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 18:46
วัดเขียนเป็นวัดที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม และมีความสมบูรณ์อยู่หลายส่วน
เพราะมีการสร้างโบสถ์หลังใหม่ครอบโบสถ์เดิมไว้ มีข้อมูลระบุไว้ว่าภาพเขียนขึ้น
ในสมัยอยุธยาตอนปลายและซ่อมทับในสมัยรัตนโกสินทร์
แต่หากจะสันนิฐานว่าวัดสร้างขึ้นในสมัยใดก็ต้องดูจากใบเสมาเพิ่มเติม 
และภาพเดิมก็คงเขียนในสมัยนั้นหรือไม่ก็หลังจากนั้นไม่นาน


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 15 ส.ค. 09, 19:35
ดีจังที่น้องเนเอาของดีในบ้านเรามาอวด แต่ยังไม่หมดใช่มั๊ยรีบๆเอามาให้หมดเร็วๆ เพราะช่วงนี้ไม่มีเวลาไปไหนเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้น้องๆก็จะไปกันอีก เฮ้อ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:03
สวัสดีพี่ยีนส์ครับ รีบๆกลับมาจัดทริปนะครับอยากไปวัดคงคารามจัง

วัดเขียนครับ ภาพนี้ผมชอบมากๆเป็นภาพ พระพรหมของผนังด้านบน ส่วนเทพชุมนุมครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:05
ภาพนักสิทธิ์รินเหล้า แปลกดีครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:10
ผนังฝั่งขวามพระประธานเขียนเรื่อง พระสุธน มโนราห์ ครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:14
ดูภาพต้นไม้สิครับ  เขียนสวยจังเลย
ภาพนี้สงสัยจะเขียนความแห้งแล้งของเมืองมหาปัญจาละ ใช่หรือเปล่า


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:15
เมืองบาดาลของท้าวชมพูจิตรนาคราช


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:16
ซุ้มประตูแนวยุโรปครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:19
นางมโนราห์ถูกจับโดยพรานบุญ ไปถวายพระสุธน


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:20
ผนังนี้เรียงเรื่องงๆครับ  ผมดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:24
ผนังผั่งนี้เขียนเรื่องทศชาติครับ ไม่แน่ใจว่าครบสิบหรือเปล่านะ
ใช้เส้นแบ่งช่องเขียนแต่ละเรื่อง ภาพนี้เป็นเรื่องมโหสถชาดกครับ ตอนบุกมิถิลา
เห็นทหารยืนประจำการบนเชิงเทินด้วย


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: ilili_tuka_ilil ที่ 15 ส.ค. 09, 20:28
ติดตามตลอดนะคะทุกกระทู้ของสมาชิกเลย  แม้ว่าจะไม่เข้ามาแสดงตัว  ... ทริปที่จะไปเมืองเพชร  .. ขอให้ผ่านช่วงเดือนตุลาคมก่อนได้มั้ยคะ ...ตูก้าในฐานะเจ้าของพื้นที่((ซึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมมากเท่ากับเรื่องอาหารอร่อย..แฮ่ม ;D))  อยากร่วมเดินทางไปด้วย ..แต่ช่วงนี้เป็นช่วงปลายงบประมาณมีงานก่อสร้างที่ต้องควบคุมงานหลายโครงการ จนถึงต้นเดือนตุลาคมโน่นเลยค่ะ ต่อจากนั้นมีทริปที่ต้องเดินทางไปปักกิ่ง ประมาณกลางเดือนถึงปลายเดือนตุลาคมถึงจะมีเวลาว่าง  ... แต่ถ้าทุกคนว่างพร้อมกันก่อนก็สามารถจัดทริปไปกันก่อนได้นะคะไม่ต้องรอ ..แค่อยากพาไปทานของอร่อยๆกับพาไปนมัสการท่านเจ้าอาวาสวัดป้อม ซึ่งเป็นเกจิที่คนเมืองเพชรเคารพ วัดป้อมนี้อยู่ใกล้กับวัดเกาะค่ะ ..เพราะไปเมืองเพชรคงต้องแวะเยือนวัดเกาะแน่แท้เชียว


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:30
ภาพที่เล้วเขียนมีรายละเอียดด้วยนะครับจะเห็น สัปทนโผล่อยู่รอบนอกกำแพงเมือง
เป็นสัญลักษณ์ว่ามีกษัตริย์มาร้อยเอ็ดเมือง
ภานี้เป็นภาพพระมโหสถครับ ฉากนี้เห็นบ่อยๆ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:34
สวัสดีคุณตูก้าครับ

ผนังด้านฝั่งตรงข้ามพระประธานครับ เขียนภาพป่าหิมพานต์ ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องไหม
ดูภาพคชสีห์นี้เทีบกับวัดปราสาทครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:36
ภาพสุดท้ายของวัดเขียน ขอลงภาพนี้ ชอบมากๆช้างสิบตระกูลของป่าหิมพานต์ครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: ilili_tuka_ilil ที่ 15 ส.ค. 09, 20:40
สวัสดีคุณเนค่ะ  .. สวยจังค่ะ ทุกภาพเลย โพสเร็วด้วย ..มิน่าพี่ตูก้าโพสข้อความไม่ติดสักที คงเป็นเพราะคุณเนกำลังเร่งส่งรูปนี่เอง อิอิ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:41
วัดสุดท้ายคือวัดหลวงสุนทรารามครับ  ตั้งใจจะไปดูภาพเขียนในพระอุโบสถอย่างมากเพราะ
มีข้อมูลว่าเป็นภาพเขียนสมัยอยุธยา แต่พอไปถึงพระท่านว่าไม่มีกุญแจ พระรูปที่มีท่านติดกิจธุระ
เสียดายมากๆเลย แต่ก็เข้าไปเดินดูรอบๆครับ
พระอุโบสถหลังเล็กทรงคล้ายๆโบสถ์วัดชมภูเวกครับ  แต่ที่นี่ทรุดโทรมมากหลังคารั่วเกรงว่าภาพอาจอยู่ในอันตราย
หน้าบันเป็นลายปูนปั้นไม่กลาเดาว่าสมัยไหน


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:48
จับโพสอย่างเดียวเลยครับคุณตูก้า
ด้านหน้าทำเป็นพาไลยื่นมาซึ่งชำรุดมากมาย อยากดูภาพด้านในมากๆ >:(


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 20:50
ด้วยความเสียดายเลยไปวนๆที่หน้าประตู  เห็นลายรดน้ำที่เลือนๆไปมากเอามาฝากให้พิจารณาครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 15 ส.ค. 09, 20:54
วัดหลวงสุนทรรามเป็นวัดสมัยพระนารายณ์มหาราช ลักษณะพระอุโบสถเป็นดังนี้
ขนาดกว้าง 7 เมตรเศษ ยาว 17 เมตร ฐานเป็นรูปโค้งสำเภา ด้านหน้าหันไปทางทิศตะวันตก หลังคาไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ แต่ทำเป็นรูปตุ๊กตาบุคคลครึ่งตัวอยู่บนสุดเหนือออกไก่และล่างสุดซ้ายขวาของจั่ว หน้าบันอุดทึบไม่มีไขรา ลายหน้าบันด้านหลังเป็นรูปเทพนมองค์ใหญ่กว่าคนจริงอยู่กลางหน้าบัน รองรับด้วยบัว ล่างลงไปเป็นรูปหน้ากาลประกอบลายพรรณพฤกษา ลายหน้าบันด้านหน้าเป็นรูปต้นไม้บนโขดหินประกอบด้วยดอกไม้ใบไม้ กลางดอกไม้ประดับถ้วยชามโบราณสีต่าง ๆ ส่วนใต้หน้าบันด้านหน้าพระอุโบสถมีพาไลยื่นออกมาคลุม รับด้วยเสากลมทรงสอบ 4 ต้น ประดับบัวปลายเสา ผนังพระอุโบสถด้านหน้ามีประตูทางเข้า 2 ช่อง ซุ้มเป็นรูปตุ๊กตาบุคคลเช่นเดียวกับจั่วบานประตูทั้ง 2 ช่อง เขียนลายรดน้ำ ด้านนอกเขียนลายเทพนมก้านแย่งด้านในขวามือของประธานเขียนสีรูปต้นมักกะลีผล ด้านซ้ายมือของพระประธานเขียนสีรูปหญิงชาวบ้านคู่หนึ่งผนังด้านข้างภายนอกมีหน้าต่างข้างละ 5 ช่อง ด้านนอกเขียนลายรดน้ำลายเดียวกับประตู ด้านในเขียนสีปิดทองรูปทวารบาล ผนังด้านหลังพระอุโบสถทำทึบตันไม่มีประตู ภายในพระอุโบสถตีฝ้าไม้จากผนังหลังพระประธานมาจบตรงกลางพระอุโบสถที่เหลือปล่อยว่างจนเห็นระแนงและกระเบื้อง ช้างบนผนังหลังพระประธานเขียนภาพจิตรกรรมเรื่องเวสสันดรชาดก ใช้สีเพียงน้อยสี ได้แก่ แดง ขาว เขียว ทอง ผนังซ้ายขวาของพระประธานล้วนชำรุดจนมองไม่เห็นภาพ แต่เหนือช่องหน้าต่างเหลือเค้าลายเทพชุมนุมเพียงเล็กน้อยนอกนั้นฉาบปูนขาวทับไว้ ส่วนด้านหน้าพระประธาน เนื่องจากไม่มีฝ้าจึงมีบริเวณกว้างใหญ่ลึกสูง เขียนเป็นรูปมารผจญ จรด อกไก่ข้างบน รูปพระพุทธองค์ที่ประทับอยู่ตรงกลางนั้นภาพจิตรกรรมโดยทั่ว ๆ ไปจะเขียนรูปปางมารวิชัย แต่ที่พระอุโบสถนี้เขียนปางสมาธิแทน ภาพจิตรกรรมทั้งหมดนี้กรมศิลปากรได้ดำเนินการซ่อมแซม และฉีดน้ำยาเพื่ออนุรักษ์ภาพไว้เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะชำรุดกร่อนและลบเลือนไปเป็นอันมากแต่ยังคงเหลือเค้าความงดงามวิจิตรบรรจงในรูปแบบจิตรกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 21:00
สุดท้ายของวัดนี้เป็นใบเสมาหินทรายแดง  รูปแบบคล้ายๆวัดอ้อยครับแต่สลักลายหยาบๆ
วัดนี้แปลกอยู่ครับ  คือหน้าพระอุโบสถหันไปทางทิศตะวันตกทั้งๆที่ไม่มีคลองอยู่ทางด้านนี้
เลยทำให้ข้องใจว่า  บริเวณด้านหลังพระอุโบสถอาจมีพระวิหารหรือเปล่า  แต่ก็ไม่อาจเดา
เพราะมีโบสถ์หลังใหญ่เป็นโบสถ์ใหม่ตั้งอยู่ด้านหลัง ถ้าเคยมีวิหารอยู่ก็คงรื้อแล้วสร้างทับไป
หรือมีเหตุผลอื่นๆที่ทำให้โบสถ์หันไปทางทิศตะวันตกซึึ่งเป็นหลังวัดอีกผมก็ไม่รู้นะครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 15 ส.ค. 09, 21:11
พี่ยีนส์เอาข้อมูลมาฝากซะผมเสียดายเพิ่มเลยครับ แต่สภาพปัจจุปันโทรมมากๆเลย
หลังคารั่วด้วย กลัวว่านับวันจะยิ่งชำรุดไปเรื่อยๆ

พระที่วัดปราสาทบอกกับผมว่า เคยมีชาวต่างชาติเข้ามาที่วัดพร้อมกับไกด์เพื่อมาขอถ่ายภาพ
ภาพเขียนในโบสถ์อยู่บ่อยๆ ผมเริ่มสงสัยว่าเขารู้กันได้ยังไง
ขนาดผมเองก็เพิ่งรู้ไม่นานนี้เอง  ถ้าเป็นวัดในกรุงเทพฯก็ว่าไปอย่าง
แต่นี่อยู่ไกลซะขนาดนี้ยังมาดูได้  เอาเป็นว่าผมก็คงต้องหาข้อมูลไปดูตามที่นั้นที่นี้เเรื่อยๆ
และจะเอามาฝากเป็นครั้งคราวครับ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 16 ส.ค. 09, 11:51
การที่ฝรั่งต่างชาติรู้ถึงสิ่งต่างในเมืองไทยเนื่องด้วยประเทศของเขาเหล่านั้นมุ่งแสวงหาของดีของงาม แล้วถ่ายทำเป็นสารคดีจัดทำเป็นหนังสือเพิ่อเผยแพร่แก่คนของประเทศเค้าทราบ เพื่อเปิดโลกทรรศน์ให้ประชาชนของเค้าได้ซึมซับว่าในบรรณพิภพนี้ยังมีของดีของงามที่ปรากฎอยู่สมควรที่จะหาโอกาสมาทัศนาเยี่ยมชมให้จำเริญหูจำเริญตา ต่างจากประเทศผู้เป็นเจ้าของผลงานชิ้นนั้นที่วันๆเฝ้าแต่จะทำลายผลงานของบรรพชนให้ย่อยยับอัปราลงไป ทั้งชนในประเทศก็หาได้ใส่ใจไม่ รังแต่จะทำเพื่อเอาหน้าไปวันๆอย่างเสียไม่ได้ อีกหน่อยเถิดบ้านเมืองนี้จะไม่เหลือสิ่งดีๆให้ลูกหลานดู


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 16 ส.ค. 09, 13:19
ภาพในคห.ที่ 20
เป็นภาพสระอโนดาตเป็นสระ 1ใน7 ที่ตั้งอยู่ในป่าหิมพานต์

ป่าหิมพานต์ถูกล้อมรอบรูปภูเขาใหญ่ทั้งห้าสัณฐานดังนก
ดังนั้นในบางที่จึงเห็นรูปนกกางปีกอยู่ 5 ตัว รอบสระน้ำรูปวงกลม
โดยที่ปากนก(ยอดเขา)งุ้มลงไปในสระ

ที่สระอโนดาตมีท่าน้ำอยู่ 4 ท่า น้ำไหลออกมาท่าทั้ง4
ที่เป็นรูป ปากช้าง-ปากม้า-ปากโค-ปากสิงห์ โดยไหลเวียนทักษิณาวรรต(เวียนขวา)ครบ3รอบ-5รอบ
โดยน้ำที่ไหลออกจากท่าทั้ง 4 ไม่มีบปกันเลยก่อนที่จะไหลออกไปตามทิศทั้ง 4
โดยทางทิศใต้จะไหลสู่ชมพูทวีป แบ่งออกเป็นปัญจสาขา คือคงคา ยมนา เป็นต้น

ภาพดังกล่าวภพเห็นได้ทั่วไปในจิตรกรรมเรื่องคติไตรภูมิ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 16 ส.ค. 09, 22:16
ขอบคุณคุณ kui045  คงต้องทำความเข้าใจเรื่องไตรภูมิอีกทีครับ

น่าสะเทือนใจจริงๆครับ อย่างที่ไปออกทริปคราวนี้ก็ทำเอาเสียใจมากๆเหมือนกัน
เพราะโบราณวัตถุซึ่งเป็นงานศิลปะสำคัญ ถูกโจรกรรมหายไปอย่างน่าเสียดาย
บางอย่างแม้ภาพถ่ายก็ไม่มีหลงเหลือ บางที่ของจริงอาจถูกส่งนอกไปแล้ว
กลายเป็นสมบัติของคนอื่นหรือชาติอื่นไป ไม่ใช่ของคนไทยอีก

แก้ไขข้อมูลครับ พระพุทธไสยาสน์ วัดป่าโมกนั้น ประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ
ไม่ใช่แม่น้ำน้อย ผมพิมพ์ผิด


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: Agonath ที่ 19 ส.ค. 09, 13:10
สวยงามมากเลยครับK.Virain พอจะมีภาพวัดหลวงสุนทราราม  อีกไหมครับ รู้สึกถึงกลื่นอายความเก่าแก่มากเลยครับ  ขอบคุณนะครับที่มีภาพสวยๆมาให้ได้เก็บใว้


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 20 ส.ค. 09, 21:02
ถ้าคุณ Agonath อยากได้ภาพไหนเป็นไฟล์ใหญ่ก็บอกได้นะครับ
แต่เสียใจเรื่องวัดหลวงฯครับเพราะถ่ายมาน้อย (โบสถ์หันไปทิศตะวันตกย้อนแสงมาก)


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: ฉันรักบางกอก ที่ 21 ส.ค. 09, 03:47
เข้ามากระทู้นี้ช้าไปหน่อย พลาดไปได้อย่างไรนี้เรา


เห็นแล้วอยากไปเที่ยวอีกจังเลยคะ ขอบคุณสำหรับภาพ และข้อมูลคะ


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: santaa ที่ 24 ส.ค. 09, 15:40
มีวัดอีกหลายวัดมากมาย คัฟ ในเมืองวิเศษชัยชาญ ที่ มีสถาปัตยกรรม ที่สวยงาม ภาพเขียน และ องค์พระ  :-[ เคยเรียนอยู่ โรงเรียน วิเศษชัยชาญ ตันติวิทยาภูมิ ตอนสอบ เดินกลับบ้าน ข้ามเรือเดินผ่านวัดอ่ะคัฟ
มีโบสถ์ ที่เป็น ทรงเรือสำเภา สวยมากมาย แต่ จำวัดไม่ได้แล้วอ่ะ  :D อืม ที่โรงเรียน ตันติ อ่ะครับ มีอาจารย์ ประสงค์ ลี้สุวรรณ  ท่าน ทำ เหมือน พิพิธพันธิ์ อ่ะ แต่ตอนนี้ไม่รุว่าเลิกโครงการไปรึยัง ถ้าติดต่อไปก้อน่าจะมี
ข้อมูล มากมาย อ่ะคัฟ ถ้าสนใจนะคัฟ ขนาดผมอยู่ ยังเที่ยววัดไม่หมดเรย ตอนนี้มาเรียนที่เชียงใหม่และ รุสึกดีมากๆเรยนะคัฟ ที่มีคนสนใจ จังหวัด อ่างทอง เพราะ เคยไปถาม คนที่อื่นว่า รุจักอ่างทองรึป่าว ....... คำตอบก็ ไม่รุจักครัฟ ??? แต่รุจักอยุธยา สิงห์บุรี ลพบุรี สุพรรณ เฮ่อเซง อืม นี่เวบโรงเรียน วิเศษชัยชาญ ตันติวิทยาภูมิ คัฟ www.tanti.ac.th


กระทู้: เมืองวิเศษไชยชาญ
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 30 ส.ค. 09, 18:11
คุณsantaa น่าจะจำชื่อวัดได้นะครับ  ผมจะได้หาข้อมูลก่อนไปดูได้  ถ้ามีโอกาศไป