เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14 15 ... 48
  พิมพ์  
อ่าน: 63039 เกี่ยวกับโคโรนาไวรัส อู่ฮั่น
ninpaat
ชมพูพาน
***
ตอบ: 167


ความคิดเห็นที่ 180  เมื่อ 12 มี.ค. 20, 08:39

.


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12607



ความคิดเห็นที่ 181  เมื่อ 12 มี.ค. 20, 11:05

องค์การอนามัยโลกประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคระบาดทั่วโลก (Pandermic)

แล้ว Pandemic และ Epidemic, Outbreak ต่างกันอย่างไร


การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่แพร่กระจายไปอย่างน้อย ๑๑๔ ประเทศ มีการรยกระดับจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้เป็น Pandemic จากเดิมที่เป็น Epidemic  และ Outbreak แล้ว แต่ ๓ คำนี้ ต่างกันตรงไหน มาหาคำตอบกันเลย

Outbreak
เล็ก แต่ไม่ใช่โรคระบาดตามฤดูกาล

การระบาดเล็ก หรือ Outbreak เป็นการระบาดที่อยู่ในวงจำกัด และคาดเดาจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นได้ และไม่ใช่โรคระบาดตามฤดูกาล อย่างเช่น เด็ก ๑๕ คนในศูนย์รับเลี้ยงเด็กปฐมวัย (เนิร์สเซอรี่) ที่เทศบาลใกล้บ้านป่วยเป็นโรคท้องร่วงพร้อมกัน

อย่างไรก็ตามการระบาดของโรคเดิม ๆ ที่ระบาดเป็นครั้งคราว อย่างเช่นโรคท้องร่วงที่ยกตัวอย่างมา มักจะไม่เป็นที่สนใจนัก ต่างจากการระบาดของโรคใหม่ อย่างเช่นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๙ ที่เริ่มขึ้นจากการที่มีผู้ป่วยปอดอักเสบพร้อมกันจากตลาดปลาแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อปลายปีที่แล้ว

ทันทีที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบว่ามีการระบาด ก็จะต้องเริ่มสอบสวนและให้ทราบว่ามีกี่คนที่ติดหรือได้รับผลกระทบ และจะใช้ข้อมูลที่ได้มานี้ตัดสินใจว่าจะควบคุมการระบาดนี้ได้อย่างไร

Epidemic
ใหญ่กว่า และกำลังแพร่

การระบาด หรือ Epidemic ใหญ่กว่าการระบาดเล็ก โดยแพร่ไปในหลายพื้นที่ เมื่อใดผู้คนนอกเมืองอู่ฮั่นเริ่มติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว เมื่อนั้นนักระบาดวิทยาจะรู้ว่าการระบาดนี้ไม่ใช่ Outbreak อีกต่อไป แต่เป็น Epidemic แล้ว ทั้งยังเป็นสัญญาณว่า มาตรการที่ใช้ควบคุมการแพร่ระบาดในตอนแรกอาจไม่เพียงพอหรือสายเกินไป

แต่เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพราะขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนใดๆ ที่รักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโรคโควิด-๑๙ ได้

Pandemic
ระบาดใหญ่ทั่วโลก และควบคุมไม่อยู่

ตามความหมายเลย.... เมื่อ Epidemic นั้นแพร่ระบาดไปในหลายประเทศหรือหลายภูมิภาคทั่วโลก ก็จะกลายเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก หรือ Pandemic แต่นักระบาดวิทยาจะจัดให้การแพร่ระบาดเป็น Pandemic ได้จริงๆ ต้องพบว่าโรคนั้นมีการแพร่กระจายในภูมิภาคอื่น ๆ ผ่านการติดต่อกันในพื้นที่เองด้วย

ตัวอย่างเช่น ถ้าหากมีผู้ป่วยโรคโควิด-๑๙ เดินทางจากจีนสู่สหรัฐ ยังไม่ได้แปลว่าการระบาดนั้นเป็น Pandemic แต่เมื่อใดที่มีผู้ป่วยรายใหม่ในท้องถิ่นนอกพื้นที่แพร่ระบาดเดิม ก็อาจจัดเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลกได้ แต่! จุดนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะนักระบาดวิทยาบางส่วนก็มองว่า จะเป็น Pandemic ได้ต้องมีอีกปัจจัยคือ มาตรการที่ใช้ควบคุมโรคนั้น เอาไม่อยู่แล้ว

ทั้งนี้การประกาศคำเหล่านี้ยังมีปัจจัยทาง "การเมือง" มาเกี่ยวข้องด้วย ขึ้นอยู่กับองค์การด้านสาธารณสุขและรัฐบาลในแต่ละพื้นที่

ข้อมูลจาก The Conversation

https://www.sanook.com/news/8051415
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 182  เมื่อ 12 มี.ค. 20, 11:13

อั้นไว้ไม่อยู่,ในที่สุด

             อนามัยโลกประกาศให้โควิด-19 เป็น “การระบาดใหญ่” ทั่วโลก

https://www.bbc.com/thai/international-51838536

และ พูดแทบไม่ออก

             ไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 11 ราย เป็นกลุ่มเพื่อนร่วมสังสรรค์

https://www.bbc.com/thai/thailand-51847890
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33592

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 183  เมื่อ 12 มี.ค. 20, 12:49

ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี กับคนกลุ่มนี้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33592

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 184  เมื่อ 12 มี.ค. 20, 13:04

อินเดียประกาศ “ปิดประเทศ” ระงับวีซ่าท่องเที่ยวทั้งหมด

เอเจนซีส์ – อินเดียในวันนี้ (12) ประกาศยกระดับมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาด้วยการสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ และระงับวีซ่าท่องเที่ยวทั้งหมด ภายหลังยอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มเป็น 60 ราย และองค์การอนามัยโลกประกาศให้ยกระดับการแพร่ระบาดของโควิด 19 เป็นระดับการแพร่ระบาดไปทั่วโลก (pandemic)

ประกาศดังกล่าวออกมาหลังจากเมื่อเย็นวันพุธ (12) รัฐบาลอินเดียจัดการประชุมเร่งด่วนระหว่างกระทรวงต่างๆ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ ฯลฯ เพื่อแสวงหามาตรการในการป้องกันปัญหาร่วมกัน โดยผลจากการประชุมมี 6 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. วีซ่าทั้งหมดที่เคยให้ไปกับประชาชนต่างสัญชาติทั้งหลายนั้นให้ระงับไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 โดยให้มีผลบังคับใช้ในช่วง 12 นาฬิกา ของวันที่ 13 มีนาคม 2563 ในทุกช่องทางที่ชาวต่างชาติจะเดินทางมาอินเดีย ทั้งนี้ให้มาตรการนี้ยกเว้นกับวีซ่าทางการทูต วีซ่าทางการ วีซ่าสำหรับสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศ วีซ่าทำงาน และวีซ่าโครงการ

2. วีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศอินเดียแล้วนั้นให้ยังคงอยู่ได้ แต่ต้องติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง FRRO/FRO ที่ใกล้ที่สุดผ่านระบบ e-FRRO สำหรับการอยู่ต่อ

3. วีซ่าท่องเที่ยวฟรีที่รัฐบาลให้กับกลุ่มคนที่ถือบัตรอินเดียโพ้นทะเลจะถูกระงับเช่นเดียวกันไปจนถึงถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 โดยให้มีผลบังคับใช้ในช่วง 12 นาฬิกา ของวันที่ 13 มีนาคม 2563 ในทุกช่องทางที่ชาวต่างชาติจะเดินทางมาอินเดีย

4. สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมายังอินเดียอย่างมากด้วยเหตุผลความจำเป็นใด ให้ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลในการออกวีซ่าให้เป็นกรณีพิเศษตามความจำเป็น

5. สำหรับผู้ที่กำลังเดินทางมายังอินเดีย รวมถึงชาวอินเดีย ที่มีประวัติการเดินทางมาจากจีน อิตาลี อิหร่าน เกาหลี ฝรั่งเศส สเปน และเยอรมัน ภายหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ต้องถูกกักตัวอย่างน้อย 14 วัน โดยให้มีผลบังคับใช้ในช่วง 12 นาฬิกา ของวันที่ 13 มีนาคม 2563 ในทุกช่องทางที่ชาวต่างชาติจะเดินทางมาอินเดีย

6. ทุกช่องทางการการเดินทางระหว่างประเทศในเขตพรมแดนของอินเดียทั้งหมดจะได้รับการตรวจตราอย่างเข้มงวดในการผ่านแดน โดยเฉพาะการตรวจทางการแพทย์ ซึ่งจะมีรายละเอียดแจ้งต่อไปโดยกระทรวงมหาดไทย

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 185  เมื่อ 12 มี.ค. 20, 14:40

          Tom Hanks and Rita Wilson Test Positive for COVID-19

ขณะนี้พักกักตัวอยู่ที่รพ. Gold Coast University Hospital ใน Australian state of Queensland

ปล. ขอให้ได้โพสท์ถึงแค่ในกระทู้นี้ ไม่ใช่ในกระทู้โน้น(ฉากประทับใจในหนังเก่า)


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33592

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 186  เมื่อ 12 มี.ค. 20, 15:58

เมื่อเช้าอ่านพบว่าภรรยาติดเชื้อ   แต่น้าทอมยังไม่ได้บอกผลว่าติดหรือไม่ติด    พอตกบ่ายได้ข่าวว่าติดกันทั้งคู่
น่าเห็นใจ   ไปถึงออสเตรเลียยังไม่วายเคราะห์ร้าย
หวังว่าจะหายในเร็ววันนะคะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33592

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 187  เมื่อ 12 มี.ค. 20, 19:53

ผลจากความประมาท ของคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มเดียว

ธ.กรุงเทพ ออกแถลงการณ์ สั่งพนักงานทำงานที่บ้าน 14 วัน

ธนาคารกรุงเทพ ออกใบแถลงการณ์ สั่งพนักงานปฏิบัติงานอยู่ที่บ้านเพื่อเฝ้าระวังอาการภายใต้หลักเกณฑ์ 14 วัน หลังพบพนักงานติดเชื้อโควิด-19 จากคนในครอบครัวที่ติดมาจากคนในประเทศกลุ่มเสี่ยงอีกที


เรื่อง การดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19

เรียน ท่านผู้บริหารและเพื่อนพนักงานทุกท่าน

ธนาคารขอให้ข้อมูลว่าปัจจุบันมีพนักงานคนหนึ่งของธนาคารซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่ชั้น 26 อาคารแสงทองธานี ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พนักงานคนดังกล่าวได้แจ้งให้หัวหน้างานทราบเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ถึงความเสี่ยงที่คนอาจติดเชื้อ

เนื่องจากเมื่อวันที่ มีนาคม พนักงานได้ชับรถพาพี่ชายซึ่งมีไข้สูงไปโรงพยาบาล ผลปรากฏว่าพี่ชายของพนักงานได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลมือวันที่ 11 มีนาคม ว่าติดเชื้อไวร้สโควิต-19 ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการสังสรรค์กับเพื่อนที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง     หลังทราบผลการตรวจของพี่ชาย พนักงานได้แจ้งให้หัวหน้างานทราบทันที ซึ่งเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมที่น่าชมเชยอย่างยิ่ง

ธนาคารได้ให้พนักงานคนดังกล่าวไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจในวันที่ 1 มีนาคม และให้ปฏิบัติงานอยู่ที่บ้านเพื่อเฝ้าระวังอาการภายใต้หลักเกณฑ์ 14 วัน โดยเช้าวันนี้แพทย์ได้ยืนยันผลการตรวจว่าพนักงานคนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ได้เข้ารับการดูแลรักษาจากแพทย์แล้ว
เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ธนาคารได้ให้เพื่อนร่วมงานที่เกี่ยวข้องของพนักงานคนดังกล่าวเข้ารับการตรวจแล้ว และให้ปฏิบัติงานอยู่ที่บ้านตามมาตรการที่ธนาคารกำหนด เพื่อเฝ้าระวังอาการภายใต้หลักเกณฑ์ 14 วันเช่นกัน

ในส่วนของอาคารสถานที่ ธนาคารได้ทำความสะอาดที่ทำงานทั้งชั้นด้วยน้ำยาทำความสะอาดตามมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล โดยได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วในเย็นวันพุธที่ 11 มีนาคม 2563

ธนาคารยังคงดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามแนวทางที่เริ่มปฏิบัติมาตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ลูกค้าและสาธารณชน พร้อมทั้งย้ำเตือนให้พนักงานรักษาสุขอนามัยด้วยหลักการง่ายๆ คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ


https://www.springnews.co.th/thailand/630071
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12607



ความคิดเห็นที่ 188  เมื่อ 13 มี.ค. 20, 08:29

หลังจาก 'เหตุเกิดที่อเมริกา' ผ่านไปแล้ว

ในการแถลงข่าวช่วงบ่ายวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ Dr.Sara Cody ผู้อำนวยการหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่มณฑลซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้แนะนำวิธีการปฏิบัติหลีกเลี่ยงไวรัสง่าย ๆ นั่นก็คือห้ามสัมผัสกับใบหน้าของตัวเอง อันเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการแพร่กระจายเชื้อ

"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้ทุกท่านหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าตัวเอง เพราะเป็นหนึ่งในวิธีที่ไวรัสกระจายตัวได้เมื่อคุณแตะปาก จมูก และดวงตา"

แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที เธอได้ใช้นิ้วสัมผัสกับลิ้นของตัวเองเพื่อใช้ในการเปิดหน้ากระดาษคำแถลง

คราวนี้เป็นคิวของ 'เหตุเกิดที่เนเธอร์แลนด์'

ในช่วงการแถลงข่าวออกโทรทัศน์ทั่วประเทศเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๓ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ มาร์ก รึตเตอขอให้งดธรรมเนียมการทักทายอย่าง ‘การจับมือ’ ในช่วงนี้ไปก่อน

"ระหว่างนี้เราจะงดการจับมือไปก่อนนะครับ คุณอาจจะใช้การเคาะเท้า การชนศอก หรืออะไรก็ตามที่คิดว่าเหมาะสม ผมได้เห็นการทักทายหลายแบบแทนการจับมือในโรงเรียนแล้ว และบัดนี้เราจะงดใช้การจับมือครับ"

แต่พอหลังจากที่ท่านนายกเพิ่งจะพูดจบได้ไม่กี่วินาที ท่านก็หันไปจับมือกับ Jaap van Dissel ตัวแทนจากสถาบันสาธารณสุขที่ยอมจับมือด้วย พร้อมกับทักท้วงในสิ่งที่ท่านนายกเพิ่งจะพูดไปหยก ๆ

ท่านนายกขอโทษที่ลืมตัว จะไม่ทำอีกแล้ว แต่ขอทักทายใหม่อีกรอบทดแทนด้วยการชนศอกแก้เขิน ก่อนจะโอบหลังตบบ่าพากันลงเวทีไป  ยิงฟันยิ้ม

https://www.catdumb.tv/no-shake-hand

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33592

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 189  เมื่อ 13 มี.ค. 20, 09:11

 เมื่อ 4 วันก่อน  ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งข้อความลงทวิตเตอร์ ว่า คนอเมริกันไม่ต้องตื่นตระหนกต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากปีหนึ่งๆ ชาวอเมริกันตายจากไข้หวัดใหญ่ประมาณ 27,000 -70,000 คนทุกปี   ขณะที่คนที่ป่วยด้วยไวรัสโคโรน่ามีแค่ 546  และตายไปแค่ 22 คน

  ก็ไม่รู้ว่าลุงทรัมป์ตั้งใจจะปลอบประชาชนไม่ให้กระต่ายตื่นตูมเกินเหตุ หรือแกคิดของแกอย่างนั้นจริงๆ  


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33592

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 190  เมื่อ 13 มี.ค. 20, 09:16

คนไทยในอเมริกาเขียนลง facebook  เล่าถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนบางกลุ่มในสหรัฐ  ที่จะส่งผลให้เชื้อไวรัสโควิด 19 แพร่กระจายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

 เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
 
*ความระยำในการปัญหาโควิด 19 ของอเมริกา*
.........
ทั้งหมดนี้คือเรื่องจริงทุกประการ
เมื่อวานมีการประกาศสำคัญ 2 เรื่อง
คือองค์การอนามัยโลก
ประกาศให้โควิด 19 เป็นโรคระบาดทั่วโลก
กับหน่วยงานรัฐในเมืองที่ดิฉันอยู่
คือเมือง South Bend. รัฐ Indiana
เรียกประชุมเพื่อประกาศว่า
ในเมืองนี้มีคนเป็นโควิด 19
.
หากให้เดาคงเป็นครูในโรงเรียนข้างบ้านดิฉัน
ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าส่งตรวจเชื้อ
โรงเรียนนี้อยู่ทางด้านใต้ของเมือง
แต่ทางการไม่บอกข้อเท็จจริงใดๆ
หรือบอกวิธีการป้องกันตัวจากโควิด 19
โดยเฉพาะคนที่อยู่ในย่านนั้น
.
การที่โรงเรียนปิดมาจากทางโรงเรียนเอง
ทีมหมอแถลงว่า
"ให้คนป่วยที่ยืนยันว่าติดเชื้อแน่นอนแล้ว"
อยู่กับบ้านรักษาตัว"
และไม่มีการสืบค้นว่า
คนไข้รายนี้ไปไหนมาบ้างก่อนหน้านี้
ซึ่งคงไม่พ้นร้านและห้างแถวบ้านดิฉันนี่แหละ
เพราะฝั่งใต้ของเมืองนี้มีห้างร้านเยอะมาก
.
ไม่มีการปิดห้างปิดร้านเพื่อทำความสะอาดใดๆ
ไม่มีการให้ความมั่นใจว่าจะจัดการอย่างไรต่อ
ในการป้องกันการแพร่กระจาย
แค่บอกว่า "ล้างมือและอยู่ห่างกันเกิน 6 ฟุต"
.

ในเมืองนี้มีโรงละครเก่าแก่แห่งหนึ่ง
ชื่อโรงละครมอริส
ซึ่งบรอดเวย์มักมาเปิดการแสดง
ดิฉันเป็นแฟนประจำละครบรอดเวย์
จึงซื้อตั๋วล่วงหน้าแทบทุกรอบ
หนนี้ก็เช่นกันคือจองตั๋วเดอะไลอ้อนคิงส์ไว้
ตั้งแต่เมื่อปีกลายเพื่อได้จองแถวหน้าราคาสูงสุด
.
ดิฉันพยายามโพสต์ข้อความบอกทางเพจโรงละคร
ว่าควรยกเลิกการแสดง
เพราะโควิด 19 มาถึงชุมชนแล้ว
โดยแนบลิงค์ประกาศเตือนจาก CDC ไปด้วย
ว่าคนอายุ 60 และโรคประจำตัวไม่ควรออกจากบ้าน
แต่ทางเพจลบข้อความดิฉันทิ้ง 3 หน
.
หนสุดท้ายเลยต้องเขียนยาวๆ ว่า
ได้โปรดอย่าลบข้อความนี้
ดิฉันไม่ใช่โรบอทหรือมาป่วน
แต่เป็นพลเมืองอเมริกันเชื้อสายไทย
อาศัยในชุมชนนี้นี่แหละมา 20 ปี
แล้วแปะลิงค์ขององค์กรอนามัยโลก
แต่ทางเพจก็ยังลบเมนต์ของดิฉัน
.
ทั้งที่ทางการประกาศเตือนโควิด 19
หลายงานในเมืองประกาศยกเลิกทันที
แต่โรงละครแห่งนี้กลับไม่ยกเลิก
การแสดงบรอดเวย์แต่ละหนกินเวลา 4.30 ชม.
สภาพอากาศถ่ายเทไม่สะดวก
เพราะสถานที่อายุร้อยปี
ที่ร้ายกว่านั้นคือที่นั่งแคบมาก
ประมาณเก้าอี้ในรถเมล์สีเขียวร่วมบริการ
เวลานั่งแขนต่อแขนแตะกันเป็นปกติ
.
ที่ตลกมากกว่านั้นคือ
มีคนมาเขียนคอมเมนต์เพิ่ม
ว่าซื้อตั๋วแล้วและอยากไปดูมากในคืนพรุ่งนี้
แต่ทางเพจกลับไม่ลบเมนต์นั้นแต่อย่างใด
มีคนมาคัดค้านขอให้ยกเลิก
แต่ทางโรงละครยืนยันว่า
จะเปิดการแสดงต่อ
.
ความไม่ตระหนักความประมาท
และความโง่บัดซบของอเมริกัน
จะทำลายตัวเอง
บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 191  เมื่อ 13 มี.ค. 20, 09:43

เขาอาจจะมองว่า บุคคลทุกคนมีเสรีภาพที่จะเลือกไปดูการแสดง หรือเลือกที่จะไม่ไปดูการแสดงก็ได้ คนที่ไม่มั่นใจ ย่อมมีสิทธิเลือกอยู่บ้าน แต่คนใดเลือกที่จะไปดูการแสดง ก็คือเขาได้ใช้เสรีภาพของเขาเลือกแล้ว บุคคนอื่นๆ ต้องเคารพในเสรีภาพนี้

โรงละครไม่สามารถเลิกการแสดง เพราะเป็นการตัดสิทธิไม่ให้เขาใช้เสรีภาพในการเลือก
 
นี่คือคิดแบบเดโมแครทแท้ๆ เลยครับ

สำหรับเรื่องโควิทนี้ มีหลายครั้งที่ผมคิดว่า ประเทศเผด็จการ คุมโรคได้ดีกว่าประเทศเสรี 

 
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12607



ความคิดเห็นที่ 192  เมื่อ 13 มี.ค. 20, 11:01

นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  ออกแถลงการณ์เรื่อง "แด่นักรบในเสื้อกาวน์ ที่จะต้องรับมือผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 อาการรุนแรง"

พวกเราก็จะไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้รับผิดชอบระดับสูง ที่ขาดความเชี่ยวชาญและเข้าใจบริบทการทำงานของพวกเราอย่างถ่องแท้ ได้เวลาแล้วที่พวกเราต้องเตรียมทำศึกแม้จะไม่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพและแม่ทัพที่เด็ดขาดเข้มแข็ง สิ่งหนึ่งที่จะช่วยยึดเหนี่ยวอุดมการณ์ของพวกเราไว้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ คือคำสอนของสมเด็จพระบรมราชชนก ผู้ก่อกำเนิดการแพทย์แผนใหม่ในประเทศสยาม

"ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจหนึ่ง"


https://www.facebook.com/358915570875664/posts/2376075852492949/


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 193  เมื่อ 13 มี.ค. 20, 11:31

            เรื่องราวซีรี่ส์ดรามาในรพ.ที่จีน ตอนนี้ย้ายมาอิตาลี (และ ขอภาวนาอย่ามาไทยเลย)
            เนื้อหาเดิมๆ แต่สถานที่ไม่มีเพิ่ม(รพ.ชั่วคราวสร้างไวราวกับเนรมิตของจีน)

          บุคคลากรทางการแพทย์ทำงานอย่างหนัก ในการรับมือกับผป.ที่ทะลักล้นห้องฉุกเฉินทุกวันคืน
ด้วยเคสเหมือนๆ กัน ที่มาด้วยอาการทางเดินหายใจ ไข้, ผลตรวจโควิด ออกมา + แล้วก็ + ๆๆๆๆๆ
เอ็กซเรย์ปอดก็จะซ้ำราวกับก็อปปี้กันมาว่า มีการอักเสบกระจายในปอดสองข้าง
         ห้องความดันลบ ไม่ต้องพูดถึง ผป.ล้นวอร์ดจนไปถึงห้องผ่าตัดและโถงทางเดิน
         ที่ดรามาหนัก คือ บุคคลากรบางคนก็ติดเชื้อเอง อีกทั้งยังมีญาติที่ก็ป่วยเช่นกันและกำลังเผชิญ
กับวิกฤตความรอด,ความตาย
         ที่สุดคือ เครื่องช่วยหายใจ ไม่เพียงพอ แพทย์ต้องทำหน้าที่ที่แสนยากเลือดเย็นเป็นผู้พิพากษาชะตาชีวิต
ว่าใครจะได้ใส่ท่อแล้วต่อเข้าเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งแน่นอนว่า เหล่าสว. คือ ผป.ที่ไม่ได้ไปต่อ.


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12607



ความคิดเห็นที่ 194  เมื่อ 13 มี.ค. 20, 11:40

ร้องไห้

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14 15 ... 48
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 19 คำสั่ง