เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ค. 21, 15:17



กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ค. 21, 15:17
เรื่องนี้อาจมีสมาชิกเรือนไทยบางท่านได้อ่านแล้ว เพราะเป็นตำนานรักที่โด่งดังมาก   กลายเป็นหนังสือ เป็นสัมภาษณ์ทางทีวี  แพร่หลายไปทั่วโลก  และได้ข่าวว่าบอลลีวู้ดสนใจจะทำหนังด้วย
แต่ถ้าอ่านแล้วก็เฉยๆนะคะ   กระทู้นี้เผื่อสำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน  คลายเครียดจากสงครามเชื้อโรคที่เราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้

พระเอกของเรื่องนี้ชื่อ Pradyumna Kumar ( หรือย่อๆว่า"PK" )  Mahanandia  เรียกแบบไทยๆว่า ประทุมนา กุมาร มหานันทิย  (ถ้าผิด เดี๋ยวคุณเพ็ญชมพูก็คงมาบอกเอง)  ฝรั่งเรียกชื่อย่อๆว่า พีเค
พีเคเกิดในหมู่บ้านเล็กๆห่างไกลทางตะวันออกของอินเดีย   ผู้ที่เกิดมาในท้องถิ่นแบบนี้ ร้อยทั้งร้อยยากจน    แต่เท่านั้นยังไม่ร้ายพอ ที่ร้ายกว่านี้คือเขาถือกำเนิดจากพ่อที่เป็นชาวอินเดีย แต่แม่เป็นชนเผ่าอีกเผ่าหนึ่งเรียกว่า "Khonds  (หรือ Kondha, Kandha)ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นคนนอกวรรณะตั้งแต่ลืมตาดูโลก   พวกนี้ถูกประทับตราว่าเป็นพวก "จัณฑาล"

สังคมไทยไม่มีวรรณะ  เราอาจไม่เข้าใจว่าคนในวรรณะเขาอยู่กันอย่างไร   มีความเหลื่อมล้ำขนาดไหน  ก็ขอให้ดูพีเคเป็นตัวอย่าง เขาอยู่ในวรรณะจัณฑาลซึ่งถือว่าต่ำสุด  ถูกรังเกียจเหยียดหยามมากที่สุดจากคนในวรรณะอื่นๆ
โดยไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่น้อย


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: unicorn9u ที่ 23 ก.ค. 21, 09:16
มาลงชื่อคนแรกครับ ;)


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ค. 21, 09:30
พ่อเขาเป็นช่างทอผ้าฐานะยากจน แต่ก็อยู่ในวรรณะ (ข้อมูลไม่ได้บอกว่าอยู่ในวรรณะแพศย์(พ่อค้า) หรือศูทร(กรรมกร คนใช้แรงงาน) ส่วนแม่เป็นชนเผ่าคอนด์ส์ อยู่นอกวรรณะ  พีเคจึงถูกจัดให้อยู่นอกวรรณะ เป็นพวกจัณฑาล  
ตอนเล็กๆเมื่ออยู่กับพ่อแม่เขาก็มีความสุขดี แต่พอเข้าโรงเรียน เขาก็พบว่าเด็กจัณฑาลจะไม่ได้รับอนุญาตให้นั่งอยู่ในชั้นเรียนอย่างเด็กอื่นๆ  แต่ต้องนั่งข้างนอก ฟังครูสอนจากนอกห้อง    เวลาเล่นก็ไม่ถูกห้ามไม่ให้เล่นกับเด็กอื่นๆ   เวลากินอาหารกลางวันต้องแยกออกมานั่งต่างหาก  พ่อครัวจะตักอาหารให้โดยระมัดระวังไม่ให้ถูกตัวเขาได้  บางครั้งก็ต้องกินข้าวเปล่าเพราะกับข้าวถูกตักให้เด็กอื่นๆก่อนหน้านี้ จนหมดแล้ว

เมื่ออายุ 5 ขวบ  โหรในหมู่บ้านทำนายอนาคตว่า โตขึ้นเขาจะไม่ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ผู้ใหญ่จัดหมั้นหมายอย่างคนอื่นๆ  แต่เจ้าสาวของเขาเป็นคนมาจากถิ่นไกลมาก   เป็นคนเก่งทางดนตรี  เป็นเจ้าของป่า  และเกิดในราศีพฤกษภ   พีเคจำคำทำนายนี้ฝังใจ

พีเคเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ทางวาดรูป    โตขึ้นเขาสอบเข้าเรียนในโรงเรียนศิลปะได้สองหรือสามแห่ง แต่ก็อดเรียนเพราะไม่มีเงินพอ   ในที่สุดเขาสอบชิงทุนเข้าวิทยาลัยศิลปะในกรุงนิวเดลีได้  จึงเดินทางจากบ้านเกิดมาแสวงหาอนาคตในเมืองใหญ่  
เขาพบว่าวิทยาลัยศิลปะไม่มีทุนเล่าเรียนให้อย่างที่บอก   พีเคดิ้นรนหาเงินค่าเล่าเรียนด้วยการรับจ้างวาดรูปสเกตช์ของบุคคล ในราคาแผ่นละ 10 รูปี    กลางคืนก็นอนข้างถนนเพราะไม่มีเงินค่าเช่าห้อง
แต่เขาก็อดทนบากบั่นสร้างอนาคตอย่างไม่ย่อท้อ    โดยไม่เคยลืมคำทำนายของโหร


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: ภศุสรร ที่ 23 ก.ค. 21, 14:57
ลงชื่อรับฟังด้วยครับท่านอาจารย์ ;D


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 23 ก.ค. 21, 17:28
มาติดตามครับ

ผมสงสัยมานานแล้วว่า เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนวรรณะอะไรครับ


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ค. 21, 17:46
อ่านในลิ้งค์นะคะ

https://www.thaifly.com/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2?news_id=374


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ค. 21, 11:28
พีเคเป็นศิลปินข้างถนนอยู่ 3  ปี   อาชีพนี้ไม่มีกฎหมายรองรับ  เขาจึงถูกตำรวจจับไปโรงพักอยู่หลายครั้ง  แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร     เท่ากับช่วงนั้นเขาจะได้มีหลังคาบังแดดบังฝนให้นอนได้สบายกว่าข้างถนน  และยังมีอาหารจากตำรวจใจดีแบ่งให้กินด้วย

วันหนึ่ง สตรีสาวชาวตะวันตกมาเยือนเมืองที่เขาวาดรูปอยู่   เธอชื่อวาเลนตินา  เทเรชโควา  เป็นนักบินอวกาศหญิงคนแรกของโลกชาวโซเวียต  มาเยือนอินเดียตามคำเชิญของนางอินทิรา คานธี
พีเคตื่นเต้นมาก  เขาหวนนึกถึงคำทำนายเรื่องเนื้อคู่ขึ้นมาได้ บางทีอาจจะเป็นหญิงสาวคนนี้ก็ได้
เขาก็เลยรีบสเกตซ์รูปเธออย่างเร็วที่สุด แล้วเล็ดลอดฝ่าฝูงชนเข้าไปถึงตัวเธอแล้วส่งภาพให้   

วาเลนตินาก็ยิ้มขอบใจเขา  จากนั้นเธอก็แสดงน้ำใจตอบแทนด้วยการให้สมาคมมิตรภาพอินโด-โซเวียตเชิญจิตรกรหนุ่มไปที่สโมสรของรัฐสภา  ณ ที่นั้นพีเคมีโอกาสแสดงฝีมือด้วยการวาดรูปเธออีก 10 รูป  กลายเป็นข่าวออกทีวี   พีเคก็กลายเป็นคนดังในเมืองเดลีชั่วข้ามคืน


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 21, 09:36
พีเคยังคงดำรงชีวิตเป็นศิลปินข้างถนนมาเรื่อยๆ  จนวันที่เขาจำได้แม่นยำว่า 17 ธันวาคม 1975  ลูกค้าคนหนึ่งก็เดินเข้ามาจ้างให้เขาวาดรูปให้
เธอเป็นหญิงสาวชาวตะวันตก  ผมยาวสลวยสีทอง ตาสีฟ้ากลมโต   เมื่อเห็นเท่านั้นพีเคก็ตะลึงงัน รู้สึกตัวเบาหวิวเหมือนเท้าจะไม่ติดพื้น   ไม่อาจจะสรรหาคำบรรยายมาได้ถูก

พีเครู้สึกว่าดวงตาเธอที่มองเขา ไม่ได้มองแค่หน้าตา แต่มองลึกเข้าไปในตัวเขาราวกับเครื่องเอกซเรย์   เขารู้สึกว่าเขาจะต้องวาดภาพเธอออกมาอย่างสุดฝีมือ ให้สมกับความงามของหญิงสาว  แต่เขาทำไม่ได้ จิตใจปั่นป่วนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเกินกว่าจะลงมือวาด
ตรงกันข้าม   เขากลับบอกเธอว่า
" ขอให้คุณกลับมาพรุ่งนี้อีกวันได้ไหมครับ

หญิงสาวก็กลับมาจริงๆ  3 ครั้ง  ให้เขาได้วาดภาพเธอถึง 3  ภาพด้วยกัน  ทุกครั้งเขาคิดภาพละ 10 รูปีเท่ากับลูกค้าอื่นๆ  แต่เธอยื่นเงินให้เขา 20 รูปี  เขาก็คืนเงินเธอไป 10 รูปี ทุกครั้ง
เขาบอกเธอว่า
" อย่าจ่ายให้ผมมากกว่านี้เพียงเพราะคุณเป็นคนสวย  ผมไม่เคยคิดเงินลูกค้าคนไหนสองเท่าเพราะเห็นว่าสวย  แต่ถ้าเป็นนายอะไรหัวล้านละก็ไม่แน่" แล้วเขาก็หัวเราะ




กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 29 ก.ค. 21, 21:15
พีเค...นายเนื้อหอมและมีคารมคมคายไม่หยอกเลยนะ


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ค. 21, 12:48
     หลังจากหญิงสาวกลับมาให้เขาวาดเป็นครั้งที่สอง  พีเคก็ยิ่งแน่ใจว่า..คนนี้แหละใช่เลย  เธอมาจากดินแดนไกลโพ้นถึงยุโรปโน่น   เขาก็เลยลองเลียบเคียงถามว่าเธอเกิดในราศีพฤษภใช่หรือไม่  เธอตอบว่า ใช่
    เขาก็เลยถามต่อว่า  เธอเป็นเจ้าของป่าหรือเปล่า   เธอตอบว่า ใช่ บ้านเธอครอบครองป่าละเมาะ   เขาถามอีกว่าเธอเป่าขลุ่ยเป็นไหม เธอตอบว่าเธอชอบดนตรีทั้งขลุ่ยและเปียโน
    พีเคพูดภาษาอังกฤษได้งูๆปลาๆ   แต่เขาก็พยายามพูดจนได้ว่า
   " เรื่องนี้ สวรรค์กำหนดมาแล้ว   ชะตาลิขิตให้เรามาเจอกัน"
   พีเคประสาทมาก เมื่อหญิงสาวไม่เข้าใจถ้อยคำเขา    เธอจับมือเขามองขึ้นไปบนฟ้าแล้วถามว่า
   " สวรรค์กำหนดอะไรคะ?"
   เขาตอบว่า
   " กำหนดเราให้มาพบกัน  แล้วกำหนดอีกหลายอย่างด้วยครับ"
   " คุณรู้ได้ยังไง?" เธอย้อนถาม
   " ถ้าคุณไม่เชื่อผม  ผมจะเอาดวงชะตาผมมาให้ดูก็ได้ครับ  ตามดวง คุณจะได้เป็นภรรยาผม"


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ค. 21, 12:59
  ท่านผู้อ่านสาวๆในเรือนไทย ถ้าเจอคนแปลกหน้าพูดด้วยแบบนี้   อาจจะทิ้งไม่เอาละรูปเริบ   เปิดแน่บไม่เฉียดมาทางถนนสายนี้อีก    เพราะถือว่าถ้านายคนนี้ไม่เพี้ยน ก็ต้องเป็นตัวอันตราย พูดจาลวนลามผู้หญิงเห็นโต้งๆ
   แต่นั่นคือปฏิกิริยาของคนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นเนื้อคู่กัน     
   สาวผู้ที่พีเคมั่นใจว่าคือเนื้อคู่ของเขา  คิดอย่างไร   สื่อเคยไปสัมภาษณ์เธอหลังจากนั้นอีกนานมาก เมื่อพีเคโด่งดังขึ้นมาแล้ว

   สาวเจ้าตอบว่า
   " ตั้งแต่เล็กๆแล้วค่ะ  ฉันใฝ่ฝันอยากจะไปประเทศอินเดีย  ตอนฉันอายุราวๆ 11,  ครูคนหนึ่งเอาหนังขาวดำของอินเดียมาให้ดูหลายเรื่อง อย่างเรื่อง  Elephant Boy   พอโตขึ้นมา ฉันเคยไปทำงานในลอนดอน  ทำให้มีโอกาสพบชาวอินเดียจำนวนมาก  ได้สัมผัสวัฒนธรรมอินเดีย   ฉันไปดูคอนเสิร์ตที่อัลเบิร์ตฮอลกับจอร์จ แฮร์ริสันและรวี ศังกร   ฉันเคยไปดูระบำพื้นเมืองที่รัฐโอริสสา ถิ่นกำเนิดของพีเค แล้วประทับใจอย่างยิ่ง"


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 21, 14:01
วันหนึ่งหญิงสาวเดินทางโดยรถโดยสารจากสวีเดนมาเที่ยวถึงอินเดีย  มาหยุดอยู่แถวๆที่พีเคกำลังวาดรูปเป็นรายได้เลี้ยงชีพ   ตอนนั้นมืดแล้ว  เธอมองเห็นเด็กหนุ่มผมหยิกคนหนึ่งกำลังนั่งวาดรูปอยู่   มีอะไรบางอย่างทำให้เกิดสนใจอย่างแรงกล้า  ก็เลยเดินเข้าไปแล้วถามว่า
" คุณช่วยวาดรูปฉันหน่อยได้ไหมคะ"
เธอบรรยายว่า ความรู้สึกเมื่อแรกเจอกันนั้น คือความรู้สึกชิดเชื้อและประทับใจ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มผมหยิกเป็นลอน  ดวงหน้ายิ้มแย้มแลเห็นฟันขาว

เรื่องนี้ไม่ใช่นิยาย แต่ทำให้รู้ว่านิยายเอาเข้าจริงก็สู้ชีวิตจริงไม่ได้    ถ้าเรามองจากสายตาคนภายนอกทั่วไป  โดยเฉพาะจากสายตาหนุ่มสาวชาวไทยที่ถือว่ามาตรฐานความหล่อ คือพระเอกหนังเกาหลี    หรือถอยหลังไปสัก 30-40 ปี  คนหล่อก็ต้องพระเอกฮ่องกงอย่างหลิวเต๋อหัว     หรือลูกครึ่งฝรั่งอย่างวิลลี่ แม็ค
หน้าตาอย่างพีเค ย่อมไม่ใช่ความหล่อสำหรับสายตาคนไทย
แต่ในสายตาสาวน้อย ผู้มีนามว่าชาร์ล็อตต์ ฟอน เซดวิน   ผู้ชายคนนี้มีบางอย่างประทับใจเธอตั้งแต่แรก


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 21, 14:04
    เรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือ เมื่อชาร์ล็อตต์ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มชาวอินเดีย ว่าเธอจะได้เป็นภรรยาเขา  นอกจากเธอไม่นึกว่าเขาเพี้ยนแล้ว เธอยังใจเย็นพอจะบอกให้เขาค่อยๆพูดจากันให้เข้าใจกันอีกที
เธอไม่ได้รับปากว่าจะแต่งงานด้วยก็จริง    แต่...ข้อนี้ก็สุดแสนจะมหัศจรรย์อีกเหมือนกัน..คือเธอบอกเขาให้พาเธอไปที่หมู่บ้านถิ่นกำเนิด   เธออยากพบพ่อและพี่น้องของเขา   ใจเธอสั่งให้ทำเช่นนั้น

    ขณะแปลไปพิมพ์ไปให้ชาวเรือนไทยอ่านกันอยู่นี่  ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าสาวคนนี้เป็นลูกสาวเรา   แม่คงหัวใจวายคาโทรศัพท์มือถือหากว่าลูกโทรมาเล่าให้ฟัง ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ 
    ผู้ชายเป็นชายแปลกหน้า ยากไร้   ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า แถมยังต่างชาติต่างภาษา   แค่เห็นกันหนสองหนก็ตามไปถึงบ้านเขาในจังหวัดไกลลิบลับ        ถ้าหายสูญไปหรือกลายเป็นศพ  พ่อแม่ในอีกประเทศหนึ่งจะทำอย่างไรดี
   แต่ก็นั่นแหละ กรณีของพีเคและชาร์ล็อตต์ถือเป็นหนึ่งในพันล้าน   ไม่ใช่หนึ่งในล้าน


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 21, 14:06
 :D


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ส.ค. 21, 09:52
   ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนั้น  หญิงสาวพบพ่อของพีเค พี่ชายและพี่สาว   เธอรู้สึกชอบพวกเขาทันที เช่นเดียวกับพวกเขาก็ต้อนรับขับสู้เธออย่างดี ราวกับเป็นญาติที่จากไปไกลเพิ่งกลับมาเยี่ยมบ้าน 
   เธอบอกว่า ถ้าเชื่อเรื่องกลับชาติมาเกิด  เธอก็รู้สึกอย่างแรงกล้าจนกระทั่งทุกวันนี้ว่า เธอเคยมีชีวิตอยู่ในอินเดียมาก่อน
   ทั้งสองทำพิธีแต่งงานตามธรรมเนียมท้องถิ่นกัน  พี่ชายของพีเคเข้าไปในห้องสวดมนตร์แล้วนั่งสมาธิอยู่ชั่วระยะหนึ่ง   ก่อนจะกลับออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง  แล้วพูดว่า
   " ใช่แล้ว  นี่คือผู้หญิงที่้น้องจะได้แต่งงานด้วย   จากนั้น ก็ตามไปใช้ชีวิตกับเธอเถอะ"


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ส.ค. 21, 09:55
    ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน  2-3 สัปดาห์    ชาร์ล็อตต์ไม่อาจอยู่นานกว่านั้นได้เพราะวีซ่านักท่องเที่ยวกำลังจะหมดอายุ    เธอต้องเดินทางกลับสวีเดน  แต่ก็ยังเขียนจดหมายกลับมาติดต่อกับพีเคอย่างสม่ำเสมอ   
   พีเคตัดสินใจจะไปอยู่กับเธอ
 
   ปัญหาใหญ่คือเขาไม่มีเงินพอค่าเครื่องบิน  ชาร์ล็อตต์ตกลงส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ แต่พีเคถือว่าลูกผู้ชายไม่ควรจะรับเงินจากผู้หญิง  เขาก็เลยส่งตั๋วคืนไปให้เธอ  บอกว่าความรักของเขาไม่จำเป็นต้องใช้ตั๋วเครื่องบินเพื่อจะไปหาคนที่เขารัก

   เวลาผ่านไปถึงหนึ่งปีครึ่ง  พีเคก็ยังเก็บออมเงินได้ไม่พอแม้แต่ตั๋วครึ่งใบ   ในที่สุดเขาตัดสินใจว่าห่างกันนานพอแล้ว  ถึงเวลาที่จะต้องหาทางอื่นเพื่อไปพบคนรักให้ได้ 
   เขาก็เลยขายทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ ได้เงินมา 80 ดอลล่าร์
   เขาซื้อจักรยานเก่ามาคันหนึ่งในราคา 60 รูปี ขนสัมภาระเล็กน้อยที่เหลือเช่นอุปการณ์วาดรูป  แล้วออกเดินทางมุ่งหน้าไปยุโรป
   เริ่มต้นที่อินเดีย พีเคปั่นจักรยานไปสู่จุดหมายปลายทางที่สวีเดน


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 01 ส.ค. 21, 10:22
ผมลองลากวัดระยะทางจากอินเดียไปสวีเดน
โอ้โห! ไม่น่าจะต่ำกว่า ๗,๐๐๐ กม. เลยครับ


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ส.ค. 21, 09:32
เอาเส้นทางมาให้คุณหมอ CVT ดูค่ะ


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ส.ค. 21, 09:38
   พีเคออกเดินทางด้วยสองล้อ จากกรุงนิวเดลีไปอมริตสา  แล้วออกชายแดนไปเข้าอัฟกานิสถาน  จากนั้นเขาก็ใช้เส้นทางที่อเลกซานเดอร์มหาราชเคยกรีฑาทัพมาบุกอินเดียในสมัยโบราณ   มุ่งไปสู่อิหร่าน  ออกจากอิหร่านไปตุรกี  บุลกาเรีย  ยูโกสลาเวีย  เยอรมนี และออสเตรีย  จนกระทั่งมาถึงชายแดนประเทศเดนมาร์ค

    เล่าฉบับย่อแบบนี้ดูเหมือนพระเอกของเราไปได้ง่ายๆ  แต่เอาเข้าจริงแล้ว  มันเป็นเส้นทางที่คำว่า "วิบาก" และ "ทรหด" ยังบรรยายให้เห็นภาพได้น้อยไป
    พีเคเผชิญสภาพภูมิประเทศทุกชนิด  ทั้งทะเลทรายแห้งแล้งในอัฟกานิสถาน   ท้องทุ่งชนบทกว้างใหญ่ไพศาลทุรกันดาร  อากาศร้อนจัดในเอเชียแล้วเปลี่ยนเป็นเย็นจัดในยุโรป     ผ่านทุ่งราบ ภูเขา เมืองใหญ่น้อย  แล้วแต่จะคลำหาเส้นทางไปทางไหนได้   เพราะเขาไม่เคยออกนอกอินเดียมาก่อน
   รถจักรยานเก่าๆของเขาเสียหลายต่อหลายครั้ง   พีเคต้องจูงหรือหอบหิ้วมันเดินไปตามเส้นทางที่เขาเองก็ไม่รู้จักมาก่อน  จากหมู่บ้านถึงหมู่บ้าน  จากเมืองถึงเมือง เพื่อไปให้ถึงชายแดนของแต่ละประเทศ
   บางครั้งเขาต้องโบกรถ หอบจักรยานขึ้นรถบรรทุกที่ผ่านมาเพื่อเดินทางไปให้ถึงหมู่บ้านถัดไป   กลางคืนเขานอนพักแรมกลางทุ่ง  ถ้าหาที่พักไม่ได้   เรียกว่าค่ำไหนนอนนั่น   ถ้าไม่มีใครแบ่งปันอาหารให้  เขาก็ต้องอดข้าวทีละหลายๆวัน   ถ้ามีกินก็คือพึ่งพาอาหารจากชาวบ้านใจบุญ โดยวาดภาพให้เป็นค่าตอบแทน   


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ส.ค. 21, 09:40
 :D


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ส.ค. 21, 09:42
   พีเคเก็บเงิน 80 ดอลล่าร์ไว้ในเข็มขัดติดตัวตลอด พยายามเดินทางโดยไม่ใช้เงินส่วนนี้เลย   แต่หารายได้เพิ่มจากรับจ้างวาดรูปไปตลอดทาง  เขาเขียนจดหมายส่งข่าวถึงชาร์ล็อตต์เป็นระยะ
   เขาได้รับจดหมายที่เธอส่งมาให้ตามเมืองต่างๆที่เขาแวะ คือเมืองกันดะฮาร์และคาบูลในอัฟกานิสถาน  และอิสตันบูลในตุรกี  แต่ละครั้ง กำลังใจเขาก็เพิ่มขึ้นมากโข พอจะฝ่าฟันต่อไปได้
   พีเคเล่าว่า
   " ระหว่างเส้นทาง ผมผูกมิตรกับเพื่อนฮิปปี้อีกหลายคน  พวกนี้แบ่งอาหารให้ผมกิน  สอนผม และช่วยนำทางผมด้วย       ผมไม่รู้สึกว้าเหว่เลยเพราะเจอเพื่อนเดินทางด้วยตลอด   ผมไม่เคยพบใครที่ผมไม่ชอบหน้า  มันเป็นประสบการณ์ใหม่ ในโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความรักและสันติ  และแน่ที่สุดคือเสรีภาพ   อุปสรรคใหญ่สุดของผมเกิดจากความคิดของผมเอง ที่คิดโน่นคิดนี่ และเฝ้าแต่หวั่นใจอยู่ตลอดว่าเราจะไปได้รอดไหม"
     แต่ถึงจะลำบากเลือดตาแทบกระเด็น  พีเคก็ไม่ย่อท้อ   อุปสรรคใดๆก็ไม่อาจขวางกั้นไม่ให้เขาบรรลุถึงความฝันได้


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ส.ค. 21, 09:45
    หลังจากเดินทางลำเค็ญแสนสาหัาอยู่ 4 เดือนกับอีก 3 สัปดาห์  เขาก็มาถึงชายแดนสวีเดน ที่เมืองโกเทนเบิร์ก
   เมื่อมาถึงด่านตรวจ  เจ้าหน้าที่ต.ม. ที่นั่นงงงันไปตามๆกันเมื่อเห็นชายหนุ่มชาวอินเดียปั่นจักรยานมาถึงชายแดน    เดาว่าพวกนี้เกิดมาคงไม่เคยพบเคยเห็นไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางชาวอินเดีย หรือคนปั่นจักรยานข้ามประเทศโผล่เข้ามาแถวนี้
   เมื่อฟังเรื่องที่พีเคเล่า  ก็ยิ่งไม่มีใครเชื่อเข้าไปใหญ่   มันพิสดารเกินกว่าจะเป็นจริงได้  แม้ว่าพีเคงัดรูป
ถ่ายแต่งงานของเขากับชาร์ล็อตต์มาให้เจ้าหน้าที่ ต.ม. ก็ไม่มีใครยอมเชื่ออยู่ดี
    ใครจะเชื่อว่าชาวสวีเดนตระกูลสูงอย่างพวกฟอน เชดวินจะลดตัวลงมาแต่งงานกับชายอินเดียยากจนสิ้นไร้ไม้ตอก
   พีเคว้าวุ่นใจมาก  สิ่งเดียวที่ทำได้คือโทรศัพท์ไปหาชาร์ล็อตต์ เพื่อบอกว่าเขามาถึงสวีเดนแล้ว

   ก่อนหน้านี้ พีเคไม่รู้ภูมิหลังของชาร์ล็อตต์เลยว่าเธอเป็นใครในสวีเดน  ไม่รู้ว่าตระกูลฟอน เชดวินเป็นตระกูลผู้ดีเก่าขึ้นชื่อของประเทศ    พอรู้เท่านั้น ความหวั่นกลัวก็แล่นปราดเข้าจับใจอีกครั้ง  แทนที่ความหวั่นกลัวซึ่งจับหัวใจมาตลอดทางว่าจะมาไม่ถึง 
  เขาไม่แน่ใจว่าอุปสรรคใหม่ครั้งนี้จะยิ่งใหญ่เกินกว่าเส้นทางวิบากที่ฝ่าฟันมาตลอดหรือไม่


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 21, 08:51
    เมื่อชาร์ล็อตต์รู้ว่าสามีเดินทางมาหาเธอจนสำเร็จ   เธอก็ขับรถดิ่งจากเมืองที่อยู่ตรงมาชายแดนทันทีอย่างลิงโลด
    คำแรกที่พีเคพูดเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวก็คือ
    " อย่าเข้ามากอดผม  ผมตัวเหม็น"

    เมื่อชาร์ล็อตต์รับรองว่านี่คือสามีของเธอ   พีเคก็ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาได้   เดินทางต่อไปถึงบ้านของภรรยา  พบพ่อแม่พี่น้องเธอเป็นครั้งแรก

     ชีวิตจริงเรื่องนี้ ราวกับสวรรค์คัดสรรคนประเภทหนึ่งในพันล้านมาให้ชุมนุมกัน    นอกจากพระเอกเป็นหนึ่งเดียวในประชากรพันล้านของอินเดียที่ปั่นจักรยานจากบ้านเกิดเมืองนอกมาตามหารักถึงสวีเดน   นางเอกก็เป็นสาวลูกผู้ดีคนเดียวในประวัติศาสตร์ของสวีเดนที่เลือกสามีเป็นหนุ่มวรรณะจัณฑาลจากอินเดีย

     ส่วนที่น่าอัศจรรย์กว่านี้คือพ่อแม่พี่น้องของชาร์ล็อตต์ก็เช่นกัน  ช่วยบวกจำนวนหนึ่งในพันล้านของพ่อแม่ในโลกเข้าไปด้วย
    คือแม้ว่าอยู่ในตระกูลสูงของสวีเดนที่ไม่มีใครเคยแต่งงานกับคนต่างชาติต่างศาสนา  เขาก็ต้อนรับพีเคเข้าเป็นเขยอย่างไม่รังเกียจรังงอน   
    ตกลงให้สองคนทำพิธีแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณีและกฎหมายของสวีเดน ในปี 1975   ทำให้พีเคได้สัญชาติสวีเดนตามภรรยา   ปักหลักประกอบอาชีพอยู่ในสวีเดนได้ถาวร


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 21, 08:52
 :) เจ้าบ่าวเจ้าสาว


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 21, 08:58
พีเคกับชาร์ล็อตต์อยู่ครองคู่กันยาวนาน  จาก 1975 ถึงวันนี้ก็ 46 ปีแล้ว  มีชีวิตราบรื่น  ทั้งสองมีลูกชายหญิงอย่างละ 1  ลูกชายชื่อสิทธัตถ์ และลูกสาวชื่อเอมิลี
    ลูกสาวน่ารักมาก   ดูสีหน้าพ่อแม่ลูก มีความสุขกันจริงๆ


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 21, 09:02
ตอนนี้ลูกๆก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 21, 09:05
พ่อแม่ลูกไปท่องเที่ยวดินแดนถิ่นกำเนิดของพ่อ อย่างมีความสุข


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 03 ส.ค. 21, 10:41
สุดยอดจริง ๆ ครับ


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ส.ค. 21, 11:03
บุพเพสันนิวาส

เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด
บุพเพสันนิวาสที่ประสาทความรักภิรมย์
คู่ใครคู่เขารักยังคอยเฝ้าชม คอยภิรมย์เรื่อยไป

ขอบน้ำขวางหน้าขอบฟ้าขวางกั้น
บุพเพยังสรรค์ประสบให้ได้พบสบรักกันได้
ห่างกันแค่ไหนเขาสูงบังกั้นไว้รักยังได้บูชา

สุรัฐ พุกกะเวส

https://youtu.be/MiDKEhClNSA


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 21, 12:24
ยังมีเกร็ดอีกนิดหน่อยจะทยอยเล่าต่อค่ะ


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ส.ค. 21, 08:55
ในช่วงเวลาหนึ่งปีครึ่งที่จากกัน   ก่อนพีเคตัดสินใจเดินทางมาสวีเดน   เขาไม่ได้ปล่อยเวลาผ่านไปแค่ทำงานหาเงิน   แต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนกระทั่งจบจากวิทยาลัยศิลปะที่นิวเดลีด้วย
ด้วยวุฒิการศึกษา   พีเคก็หางานได้ในสวีเดน เป็นครูสอนศิลปะในโรงเรียนมัธยมต้น   เช่นเดียวกับชาร์ล็อตต์ก็ได้งานเป็นครูสอนดนตรี

พีเคเป็นครูที่ดีมาก  ลูกศิษย์รัก  ศิษย์เก่าคนหนึ่งเอ่ยถึงเขาอย่างชื่นชมว่า ครูเป็นคนยิ้มแย้มอารมณ์ดีเสมอ   ใจดีมีน้ำใจ เป็นมิตรกับนักเรียนดีมาก   ไม่ยอมให้นักเรียนคนไหนถูกเพื่อนบุลลี่  ถ้าเห็นจะเข้าขวางทันที   แถมบางครั้งถ้านักเรียนขอร้อง เขาก็แสดงท่าโยคะเอาหัวยืนต่างเท้าให้ดูเล่นสนุกๆเสียด้วย

นักเรียนคนเดียวกันนั้นเล่าว่า ครูเป็นแรงบันดาลใจให้เธอค้นพบตัวเอง  ก่อนหน้านี้เธอสับสนกับตัวเองตามประสาเด็กเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น  ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร หรือควรจะไปทางไหน
ครูช่วยให้เธอค้นพบตัวเอง  รู้ถึงความสามารถและความพิเศษของตัวเอง ที่ไม่จำเป็นต้องซ้ำแบบกับเพื่อนๆ   เธอเติบโตขึ้นด้วยความมั่นใจ  ไปเรียนต่อจนประสบความสำเร็จในวิชาชีพ  เธอก็เลยยกความดีข้อนี้ให้ครูว่าเป็นหนึ่งในสามคนในชีวิตที่ช่วยวางอนาคตให้เธอก้าวไปข้างหน้า  อีกสองคนคือลูกสาวของเธอ


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ส.ค. 21, 08:59
    ชีวิตรักของพีเคและชาร์ล็อตต์เป็นที่รับรู้กันไปทั่วโลกเมื่อโลกมีอินเทอร์เน็ตให้คนทุกมุมโลกสื่อสารกันได้ นอกจากนี้ พีเคยังประสบความสำเร็จทางด้านศิลปะอีกด้วย  
   ผลงานศิลปะของเขาถูกเจ้าตัวนำไปแสดงตามนิทรรศการต่างๆทุกมุมโลก  รวมกับงานศิลปะท้องถิ่นของอินเดียที่พีเคนำไปเผยแพร่ด้วย   ทำให้ชื่อเสียงเขาขจรขจายถึงขั้นรัฐบาลอินเดียตั้งเขาเป็นทูตวัฒนธรรมของแคว้นโอริสาประจำสวีเดน    
    ภาพที่เขาวาดได้รับคัดเลือกจากองค์การยูนิเซฟให้ไปพิมพ์เป็นบัตรอวยพรของยูนิเซฟ แจกจ่ายไปทั่วโลก
   พีเคได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยในอินเดียให้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  ทำให้ทุกวันนี้ คนเรียกเขาว่า ดร. พีเค  

    พีเคกลับไปที่อินเดียอีกครั้งอย่างบุคคลผู้มีเกียรติ   เมื่อเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด  เป็นช่วงที่เกิดน้ำท่วมทำให้ไปทางรถไม่ได้  รัฐบาลก็เลยจัดเฮลีคอปเตอร์พาเขาไปส่งถึงจุดหมาย  
    เขาได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริกจากประชาชนในหมู่บ้าน ที่ครั้งหนึ่งเคยเอาก้อนหินขว้างปาเขาสมัยเขาเดินไปโบสถ์ตอนเล็กๆ    พีเคไม่ถือโทษโกรธเคืองคนเหล่านี้  เขาให้อภัยและผูกมิตรกับทุกคน


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ส.ค. 21, 09:08
ดูจากสิ่งดีๆที่เข้ามาในชีวิตแล้ว  ถ้าเราไม่นับว่าพีเคเป็นคนโชคดีหาตัวจับยาก ก็คงมองเห็นด้วยว่าเขาเป็นคนที่บันดาลสิ่งดีๆให้ตัวเองมาตลอด     
       พีเคยอมรับเคราะห์ร้ายที่เกิดมาเป็นคนวรรณะจัณฑาลโดยไม่ตีโพยตีพายโทษสังคม หรือเพื่อนมนุษย์  แต่เลือกที่จะหาทางทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น  จนกระทั่งหลุดออกจากบ่วงวรรณะ กลายเป็นคนมีชื่อเสียงไปทั่วโลกได้สำเร็จ
       ถ้าหากว่าเขาไม่ใฝ่ดีขนาดนี้  พีเคก็อาจจะเป็นชาวบ้านเล็กๆคนหนึ่งในหมู่บ้านไปจนตาย 
       ถ้าไม่ดิ้นรนจนเรียนจบศิลปะ เขาก็คงจะเป็นศิลปินข้างถนนขายรูปได้รูปละ ๑๐ รูปีไปจนแก่เฒ่า   
       ถ้าไม่มุมานะไปหาชาร์ล็อตต์ แต่ท้อแท้ว่าไม่มีปัญญาจะไป   พีเคก็คงลงเอยกับผู้หญิงจัณฑาลด้วยกันสักคน แล้วก็กลับไปอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอย่างยากแค้นไปตลอดชีวิต
        พูดง่ายๆคือถ้าปล่อยชีวิตไปตามบุญตามกรรม ไม่ดิ้นรนทำตัวเองให้ดีขึ้น   ชีวิตเขาก็คงไม่มาไกลขนาดนี้

       ความจริง ชีวิตที่สวีเดนก็คงไม่ได้เลิศลอยเหมือนขึ้นวิมาน   ถึงพ่อแม่ของฝ่ายหญิงยอมให้แต่งงานกัน  พีเคก็ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอยู่ดี   
      เขาต้องเป็นคนอินเดียในดินแดนฝรั่ง  ไม่มีเพื่อนฝูง  ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีสังคมของตนเอง  แต่พีเคก็สามารถปรับตัวให้อยู่ในประเทศใหม่ได้ตลอด  สร้างครอบครัว อาชีพ และสังคมของตนเองกับนักเรียนขึ้นมาจนได้
      ที่สำคัญคือ ถ้าไม่รักไม่ซื่อสัตย์กับภรรยาตลอด 46 ปีที่อยู่กันมา   หากแต่พอได้ดีขึ้นมาก็ออกนอกลู้นอกทาง     พีเคก็คงไม่กลายเป็นผู้ชายที่คนชื่นชมกันทั่วโลก   ก็คงต้องกลับอินเดียไปดำเนินชีวิตธรรมดาๆ หรืออาจจะตกอับไปเลยก็ได้

      เรื่องทะเยอทะยานจะทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น ใครๆก็อยากทำ  แต่ถ้าทำได้แล้วรักษาเอาไว้ให้ดีอย่างที่พีเคทำ เป็นเรื่องยากกว่าหลายเท่า   
      น่าชมพีเคในเรื่องนี้แหละ ที่รักษาความดีได้ดุจเกลือรักษาความเค็ม จนถึงบั้นปลายชีวิต


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ส.ค. 21, 09:11
 :D


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 ส.ค. 21, 16:44
พีเคเล่าว่า
 
"ระหว่างเส้นทาง ผมผูกมิตรกับเพื่อนฮิปปี้อีกหลายคน  พวกนี้แบ่งอาหารให้ผมกิน  สอนผม และช่วยนำทางผมด้วย       ผมไม่รู้สึกว้าเหว่เลยเพราะเจอเพื่อนเดินทางด้วยตลอด   ผมไม่เคยพบใครที่ผมไม่ชอบหน้า  มันเป็นประสบการณ์ใหม่ ในโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความรักและสันติ  และแน่ที่สุดคือเสรีภาพ   อุปสรรคใหญ่สุดของผมเกิดจากความคิดของผมเอง ที่คิดโน่นคิดนี่ และเฝ้าแต่หวั่นใจอยู่ตลอดว่าเราจะไปได้รอดไหม"

เอาเส้นทางมาให้คุณหมอ CVT ดูค่ะ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=7234.0;attach=76260;image)


เส้นทางนี้เรียกว่า เส้นทางสายฮิปปี้ (The Hippie Trail) คือเส้นทางทางบกที่พวกฮิปปี้นิยมใช้ในการเดินทางจากยุโรปมายังอินเดีย โดยเฉพาะเมื่อ The Beatles เดินทางไปอินเดียในค.ศ. ๑๙๖๘ ทำให้มีผู้คนเดินทางท่องเที่ยวเพื่อจะไปให้ถึงอินเดียเพิ่มขึ้น การเดินทางของพวกฮิปปี้ ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยหนุ่มวัยสาว จะเลือกการเดินทางทางบกที่เสียค่าใช้จ่ายน้อย เช่น การโบกรถ การขึ้นรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ และพักในโรงแรมราคาถูก

ชาร์ล็อตต์เองก็มาอินเดียด้วยเส้นทางสายฮิปปี้ ด้วยการนั่งรถตู้มาพร้อมกันเพื่อนผ่านเส้นทางสายนี้ โดยเป็นการมาจากยุโรป ผ่านตุรกี, อิหร่าน, อัฟกานิสถาน ก่อนจะเดินทางมาถึงอินเดีย โดยใช้เวลาถึง ๒๒ วัน

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาร์ล็อตต์และพีเคไม่รู้สึกแปลกแยกซึ่งกันและกัน อาจจะเป็นเพราะทั้งสองรักในศิลปะและเป็นฮิปปี้ในจิตวิญญาณเหมือนกัน  ;D

จาก จากอินเดียถึงสวีเดน : การปั่นจักรยานข้ามโลกตามหารักแท้ของ 'พีเค' ศิลปินไส้แห้งสุดระห่ำ (https://www.mainstand.co.th/catalog/1-FEATURE/1815)

เส้นทางสายฮิปปี้ (http://www.culturedcreatures.co/the-hippie-trail/)


กระทู้: ตำนานรักข้ามทวีป
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ส.ค. 21, 20:14
ข้อเขียนของดิฉัน เรียบเรียงขึ้นจากเว็บต่างๆข้างล่างนี้ ใครสนใจเชิญตามไปอ่านได้ค่ะ

https://en.wikipedia.org/wiki/P._K._Mahanandia
https://www.nationalgeographic.com/culture/article/pk-mahanandia-cycle-india-sweden-love-untouchable
https://medium.com/the-ascent/to-my-art-teacher-pk-mahanandia-dfec61659d1f