เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 243 ดิสนีย์แลนด์ แดนมหัศจรรย์ของเด็กน้อยและพ่อแม่
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 13 พ.ค. 24, 12:57

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 14 พ.ค. 24, 10:11

     ดิสนีย์แลนด์คืออาณาจักรสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก  เป็น soft power สำคัญของสหรัฐอเมริกา  แพร่วัฒนธรรมบันเทิงสู่โลกมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษแล้ว เกิดมาจากสมองและสองมือของผู้ชายคนเดียว ชื่อ วอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney)
     ภูมิหลังของดิสนีย์แสนจะธรรมดาสามัญมากจนไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเติบโตขึ้น เขาจะกลายเป็นคนที่ทั่วโลกรู้จัก มาจนกระทั่งถึงแก่กรรมไปยาวนานแล้ว ชื่อเสียงก็ยังอยู่ยงคงกระพัน
     เขาเกิดมาในครอบครัวธรรมดาๆค่อนข้างจะยากจนด้วยซ้ำ   พ่อมีเชื้อสายไอริช อพยพมาอยู่ในแคนาดา แล้วมาอเมริกา  แต่งงานกับแม่ซึ่งเป็นสาวอเมริกันจากรัฐฟลอริดา มีลูกด้วยกัน 5 คนเป็นชาย 4 หญิง 1   วอลต์เป็นลูกคนที่ 4
     ทั้งสองอพยพไปเป็นชาวนาอยู่ที่เมืองแคนซัส ซิตี้ รัฐแคนซัส เมื่อวอลต์อายุ 7 ขวบ  เขาเติบโตอยู่ในเมืองนี้อย่างลูกชาวบ้านธรรมดาๆ  ตอนเช้าๆก็เป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์หารายได้ช่วยพ่อแม่  สายก็เข้าเรียนหนังสือไปตามปกติ 


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 14 พ.ค. 24, 14:17

    หนูน้อยวอลต์มีนิสัยผิดแผกจากพี่น้องคนอื่นๆ คือชอบวาดรูปเป็นชีวิตจิตใจ   ตั้งแต่เด็ก เขาวาดรูป ระบายสีรูป ขายเพื่อนๆและคนรู้จัก ตั้งแต่ก่อน 7 ขวบด้วยซ้ำ   แต่ก็ไม่มีใครคาดฝันว่าจะเอาดีทางนี้ได้
   ชีวิตในบ้านไม่มีความสุข  พ่อเขามีฐานะคนยากจน ชักหน้าไม่ถึงหลัง    เพราะฉะนั้นลูกเมียก็อดๆอยากๆ  ซ้ำยังเข้มงวด  เจ้าระเบียบและเฆี่ยนตีลูกๆเป็นว่าเล่น   แม่เองก็ป่วยทางจิต ไม่สามารถเป็นที่พึ่งของลูกๆ   จนพี่ชายคนโตทนไม่ไหว  ออกจากบ้านไปทันทีที่โตพอจะสู้ชีวิตเองได้ 
    ส่วนวอลต์แอบโกงอายุเพื่อจะได้ออกจากบ้าน   เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้น เขาสมัครไปเป็นคนขับรถพยาบาลของกาชาด  ได้ไปปฏิบัติภารกิจในฝรั่งเศสและเยอรมัน    เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง ก็ได้กลับมาบ้านในวัย 18 ปี  โชคดีชิงทุนได้  จึงมีโอกาสไปเรียนต่อที่สถาบันศิลปะเมืองแคนซัส ซิตี้
   ณ ที่นี้เอง ชีวิตของหนุ่มน้อยวอลต์ ก็เริ่มเห็นแสงสว่าง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 15 พ.ค. 24, 10:00

  ในสถาบันการศึกษาแห่งนี้  หนุ่มน้อยวอลต์เจอเพื่อนนักศึกษาคนหนึ่งชื่อ เอิบ ไอเวิร์กส์ (Ub Iwerks) หนุ่มน้อยทั้งสองผูกมิตรกันเพราะต่างก็มีใจรักศิลปะด้านเดียวกัน คือชอบวาดภาพ วาดการ์ตูน ในที่สุดก็ได้มาทำงานร่วมกัน  สร้างสตูดิโอของตนเอง ผลิตการ์ตูนสั้นออกสู่ตลาด
  งานในช่วงต้นเป็นเช่นเดียวกับงานของมือใหม่ทั้งหลาย คือล้มลุกคลุกคลานจนล้มละลาย ปิดกิจการ แต่ดิสนีย์ไม่ยอมย่อท้อ   เขาอำลาแคนซัส ซิตี้ มาลอสแอนเจลิสเพื่อจะตั้งตัวใหม่   เอาเพื่อนรักมาด้วย  เปิดสตูดิโอผลิตการ์ตูน
  การ์ตูนตัวแรกที่สตูดิโอเล็กๆแห่งนี้ผลิตป้อนให้ยักษ์ใหญ่ยูนิเวอร์แซล ชื่อเจ้ากระต่ายออสวอลด์ (Oswald the Rabbit)ในปี 1927  ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
   ไอเวิร์กส์เก่งทางวาดการ์ตูนเคลื่อนไหวให้มีชีวิตชีวา เก่งทางถ่ายภาพ  ส่วนดิสนีย์เก่งทางออกแบบ  หามุมกล้อง สร้างบุคลิกนิสัยใจคอให้ตัวการ์ตูนดูมีชีวิตชีวาจริงๆ  ซึ่งในยุคนั้นยังไม่มีใครคิดกัน    ผลคือเจ้ากระต่ายตัวแรกโด่งดัง     กลายเป็นคู่แข่งของการ์ตูนดังๆสมัยนั้น
  ตอนนั้น มิกกี้เม้าส์ยังไม่เกิดค่ะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 15 พ.ค. 24, 14:28

  วอลต์เริ่มมีกำลังใจ  ขยายสตูดิโอ  จ้างคนมาร่วมงานด้วยอีกหลายคน  อนาคตทำท่าจะสดใส  แต่ด้วยความอ่อนหัด  ทำให้เขาไม่รู้เรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์   แม้ว่าเจ้ากระต่ายออสวอลด์เกิดจากสมองและฝีมือของเขาล้วนๆ แต่ลิขสิทธิ์กลับตกเป็นของผู้ซื้อ    ก็เลยหลุดลอยจากมือไป แม้ว่าผลิตออกมาได้ถึง 26 ตอน ด้วยกันแล้วก็ตาม
  วอลต์เป็นนักสู่้ที่ไม่มีวันหมดกำลังใจ   เมื่อสูญเสียกระต่าย เขาก็ฮึดสู้สร้างการ์ตูนตัวใหม่ขึ้นมา   จะเป็นไรไป  ตำนานเล่ากันว่าสมัยที่เขายังเช่าห้องใต้หลังคาโกโรโกโส ดำเนินชีวิตด้วยความยากแค้นเพียงลำพัง   มีเจ้าหนูตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในรูที่ผนัง   มันจะออกมาแทะเศษขนมปังนิดๆหน่อยๆ ที่เขาเหลือไว้ให้มันเป็นประจำ   คนกับหนูก็เลยกลายเป็นเพื่อนในยามยาก
  เมื่อวอลต์คิดสร้้างการ์ตูนตัวใหม่ เขาก็เอาหนูตัวน้อยนี่แหละมาปรับปรุงโฉมเสียใหม่  จับมันนุ่งกางเกง  สวมรองเท้าและถุงมือ ทำท่าทางอย่างมนุษย์   ตั้งชื่อให้ว่า Mortimer Mouse  แต่ภรรยาเขาท้วงว่าชื่อนี้ไม่เพราะ  สามีก็เลยต้องคิดหาชื่อใหม่อีกหลายชื่อ จนมาลงเอยที่ Mickey Mouse   อันเป็นตำนานอมตะมาจนทุกวันนี้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 15 พ.ค. 24, 14:33

   มิกกี้ปรากฏโฉมเป็นครั้งแรกในปี 1928  ในการ์ตูนสั้นเรื่อง Steamboat Willie  เป็นการ์ตูนเรื่องแรกที่มีการพากย์เสียงตัวการ์ตูน  ก่อนหน้านี้การ์ตูนมีแต่ดนตรีประกอบในแบคกราวน์เฉยๆ
   เจ้าหนูตัวใหม่ประสบความสำเร็จล้นหลาม ชื่อมิกกี้ เม้าส์กลายเป็นเครื่องรางนำโชคของดิสนีย์นับแต่นั้น

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 16 พ.ค. 24, 14:01

     ความสำเร็จของมิกกี้ เม้าส์ ทำให้ดิสนีย์ผู้ไม่เคยหยุดยั้งสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ   ผลิตการ์ตูน มินนี่ เม้าส์ (Minnie Mouse) ออกมาในปีเดียวกัน   ตัวนี้หน้าตาเหมือนมิกกี้ แต่เป็นผู้หญิง นุ่งกระโปรง สวมรองเท้าส้นสูง
     มินนี่เป็นหวานใจของมิกกี้  นิสัยใจคอเป็นผู้หญิงเต็มตัว อ่อนหวาน ช่างเอาใจ เมตตาปรานี แต่ก็แสนงอน  ทำให้เล่นบทได้หลากหลาย   เป็นที่ถูกอกถูกใจเด็กๆทั่วอเมริกา
     มิกกี้กับมินนี่เป็นคู่รักกันก็จริง แต่ดิสนีย์ไม่เคยอนุญาตให้สองตัวนี้มีบทบาทถึงขั้นแต่งงานกัน   ต่างคนต่างอยู่กันคนละบ้าน  ยาวนานมาจนกระทั่งบัดนี้


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12607



ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 16 พ.ค. 24, 19:35



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 17 พ.ค. 24, 09:22

  เมื่อประสบผลสำเร็จจากมิกกี้ เมาส์ ต่อมาคือมินนี่   ตัวการ์ตูนอื่นๆก็เกิดขึ้นมาเป็นทิวแถว  ล้วนเป็นเพื่อนของมิกกี้ มาร่วมผจญภัยในการ์ตูนสั้นๆแต่ละตอน   เช่นโดนัลด์ ดั๊ก   กูฟฟี่  หลานๆของมิกกี้ และหลานๆของโดนัลด์
  ข้างล่างนี้คือการ์ตูนสั้นยุคต่อมาจากการ์ตูนขาวดำ    ตัวการ์ตูนเริ่มมีสีสันเทคนิกคัลเลอร์

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 17 พ.ค. 24, 10:57

     ความสำเร็จของการ์ตูนสั้นไม่ได้ทำให้ดิสนีย์หยุดอยู่ตรงนั้น     เขาริเริ่มโครงการใหม่ที่ไม่มีผู้สร้างการ์ตูนคนไหนทำมาก่อน นั่นคือสร้างการ์ตูนเรื่องยาวขึ้นมาให้สำเร็จจนได้  เป็นการ์ตูนสีสันสวยงาม มีเพลงไพเราะประกอบ  อันเป็นสิ่งที่อภิมหายากในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2   เครื่องไม้เครื่องมืออะไรก็ไม่มีอย่างปัจจุบัน  ภาพเคลื่อนไหวด้วยวาดด้วยมือทีละแผ่น   แค่ตัวการ์ตูนก้าวเดิน 1 ก้าวก็วาดให้ขยับทีนะนิดๆ ไม่รู้ว่ากี่แผ่นแล้ว
    ดิสนีย์รวบรวมนักวาดฝีมือดีมาร่วมงานกัน  ทุกคนทุ่มเทให้กับงานที่ใครๆก็บอกว่าไม่มีทางสำเร็จ  จ้างเด็กสาวมาแสดงท่าเคลื่อนไหวของสโนไวท์   จ้างคนมาพากย์เสียง  มาร้องเพลงที่แต่งกันเองขึ้นมา
    เรื่องที่ดิสนีย์เลือกคือ Snow White and the Seven Dwarfs  จากเทพนิยายเยอรมันของพี่น้องตระกูลกริมม์


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12607



ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 18 พ.ค. 24, 09:35



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 18 พ.ค. 24, 11:10

    ดิสนีย์ทุ่มเทเงินลงไปในการสร้างการ์ตูนเรื่องนี้ มหาศาล ถึง 1.5 ล้านดอลล่าร์  ในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2  เป็นเหตุให้ฮอลลีวู้ดจับตามองด้วยความเสียวไส้ ว่าใครจะอยากมาดูการ์ตูนที่แพงกว่าหนังดังๆเสียอีก    ในเมื่อตอนนั้น หนังดี เพลงไพเราะ ระบำงามตา และดาราดังก็มีกันให้ดูเกลื่อนโรงไปหมด
   พอการ์ตูนออกฉาย  บรรดาผู้จับตามองในทางร้ายก็หงายเก๋งไปตามๆกัน  เพราะหนังทำเงินถึง 8 ล้านดอลล่าร์  สูงสุดในบรรดาหนังทุกเรื่องในปีนั้น   ผู้คนแห่แหนกันมาดูสโนไวท์และคนแคระกัน จนเป็นปรากฏการณ์ของปี  
    ถ้าอยากดูทั้งเรื่อง  เข้าไปตามลิ้งค์นี้ค่ะ

    
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33596

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 19 พ.ค. 24, 19:52

  ความสำเร็จมหาศาลของการ์ตูนสโนไวท์ ทำให้ในปีนั้น   เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสคาร์ หรือรางวัลตุ๊กตาทอง สาขาเพลงยอดเยี่ยม  ในปี 1937  ต่อมาในปี 1938   องค์กรได้มอบรางวัลตุ๊กตาทองเกียรติยศให้ดิสนีย์   คือตุ๊กตาทองขนาดมาตรฐาน 1 ตัว และตุ๊กตาทองตัวน้อยๆ อีก 7 ตัวรายล้อม
  ผู้มอบรางวัลคือดาราเด็กที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น เชอร์ลี่ เทมเปิ้ล   เธอทำหน้าที่ตัวแทนของเด็กๆทั่วโลกที่เป็นแฟนการ์ตูนของดิสนีย์


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12607



ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 19 พ.ค. 24, 20:35



บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.041 วินาที กับ 20 คำสั่ง