กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 06, 15:43
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 05 ก.ย. 06, 16:09 เปิดขึ้นมาอ่านเห็นหัวเรื่องเข้า
ให้ตกใจ เกรงว่าตัวเองจะเป็นเหตุให้อาจารย์ที่เคารพของพวกเรารำคาญอกรำคาญใจ วันนี้กว่าจะโหลดเข้าได้นานเหลือเกิน แต่ก็ต้องรออ่านเพื่อให้หายกังวล เฮ้อ โล่งอกครับ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เม็ดดิน เม็ดทราย และ ชายทะเล ที่ 05 ก.ย. 06, 20:07 อยากเห็นหมวกของแต่ละยุคละสมัยจังคะ ไม่ทราบว่าพอจะมีให้ชมหรือเปล่า
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: กุรุกุลา ที่ 05 ก.ย. 06, 22:57 ตามมาฟังอาจารย์เทาเล่าเรื่องหนักหัวก่อนประวัติศาสตร์ครับ
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 05 ก.ย. 06, 23:11 มานั่งฟังอาจารย์ ทำหน้าตาสนใจสุดขีด
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: caeruleus ที่ 06 ก.ย. 06, 06:29 ไทยมุงมาแอบขอฟังด้วยคนค่ะ
ไม่ได้เข้ามาที่วิชาการตั้งนาน ขอรายงานตัวว่าดิฉันได้เป็น Horror member แล้วค่ะ อิอิอิ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 06, 08:31
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 06, 09:16 ส่วนภาพนี้คุณ Hoฯ น่าจะรู้จัก ชื่อว่า Dancing Violinist เป็นภาพวาดบนหิน flagstone ที่นักโบราณคดีชื่อ Stéphane Lwoff ค้นพบที่เมืองลามาร์ช
เป็นภาพผู้ชายสวมหมวก ถืออะไรอย่างหนึ่งที่เขาดูว่าคล้ายไวโอลิน (จึงตั้งชื่อภาพว่า Dancing Violinist)มีสร้อยหรือเครื่องประดับคอ อีกมือจับที่วัตถุยาวๆที่ห้อยเอวคล้ายกับปืน เมื่อ Lwoff นำภาพนี้ไปเสนอต่อ French Prehistoric Society ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นของจริง เพราะมันดูใหม่และทันสมัยเกินกว่าจะเชื่อว่าเป็นภาพวาดเมื่อ ๑๔๐๐๐ ปีมาแล้ว เจ้าตัวเองก็เคราะห์ร้ายถูกกล่าวหาว่าเอาภาพมาตบตาหลอกนักวิชาการอีกแน่ะ เสียชื่อแทบเสียคนไปเลย ภาพนี้ก็เลยถูกมองข้ามไป ไม่มีใครแยแสจนกระทั่งปี 2002 Dr. Michael Rappenglueck แห่ง University of Munich ใน เยอรมนี รื้อฟื้นกันขึ้นมาใหม่ พบว่าเป็นภาพยุคถ้ำจริงๆ ตอนนี้ก็กำลังศึกษากันต่อ http://www.geocities.com/jirimruzek/firearm.htm ถ้าหากว่าเป็นของจริง แสดงว่ามีหลักฐานว่ามนุษย์สวมหมวกกันมาแล้ว 14000 ปีเป็นอย่างน้อย กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 06 ก.ย. 06, 10:08 เรื่องนี้เริ่มด้วยวาดเส้นมนุษย์ต่างดาว
จบด้วยมาลานำไทยไปสู่ฟามล่อนจ้อน จะมีช่องว่างให้กีรีฏมุกุฏของคุณกุรุกุลาแทรกได้บ้างใหมเอ่ย แต่..... เรื่องหมวกยังไม่มหัศจรรย์เท่ากับได้ทราบว่า ท่านอาจารย์ของเราเป็นสมาชิกฝ่าหลุนก๊งด้วย....55555 กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 06, 10:35
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 06 ก.ย. 06, 11:51 ตรงมุมซ้ายของหน้าที่อาจารย์ทำลิ้งค์ไว้
มีแบนเนอร์ให้คลิก ตามรอยไปเรื่อยจะมาที่นี่ครับ บางทฤษฎีบอกว่า นี่เป็นองค์กรที่ CIA จ่ายเงินอุดหนุน ส่วนที่เมืองจีนเอง เห็นว่าลัทธินี้เป็นภัยต่อความมั่นคง มีท่านที่ผมคุ้นเคย ไปราชการปักกิ่งมา เล่าว่า จุดหมายปลายทางคือการสอนให้เลิกนับถือทุกสิ่ง ไม่ว่าพ่อแม่ หรือพรรค สหายเติ้งเห็นว่าเป็นภัยยิ่งกว่ากรณีเทียนอันเหมินเสียอีก ตอนนี้เจ้าลัทธิดูเหมือนไปอยู่ที่เมริกาครับ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 06 ก.ย. 06, 12:03 เอาหัว(ที่ไม่มีของหนักครอบ) เป็นประกัน ว่าหัวข้อนี้ไม่มีใครรู้ตอนจบ
ลองหาเรื่องหนักหัวใส่ขมอง เจอบทความนี้ อึ้งไปเลย http://www.xanga.com/UncleanSpirits/453588239/item.html ฝากอาจารย์อ่านได้ใหมครับ ผมไม่รู้ทั้งคริสต์ ทั้งเมโสฯ ทั้งภาษาอังกฤษ งานนี้ต้องไปตามหาท่านกำนันมาช่วยอีกแรงซะแล่ว กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 06 ก.ย. 06, 12:08
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 06 ก.ย. 06, 12:12
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 06, 12:31 ขอบคุณที่มาไขข้อข้องใจให้ ดิฉันไม่ได้สนใจ banner ในเว็บแรกเลยค่ะ มองข้ามไป เลยไม่รู้ว่าเกี่ยวกับฟาหลุนกง
ก็เลยเปลี่ยนลิ้งค์ใหม่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังขอลบลิ้งค์ที่คุณพิพัฒน์บอกไว้ด้วย จะได้ไม่เป็นการชี้โพรงให้กระรอก ลิ้งค์ในค.ห. 11 อ่านแล้ว เห็นว่ามันมั่วจับแพะชนแกะเราดีๆนี่เอง ทำนองเดียวกับแดน บราวน์และอีริค ฟอน ดานิเก้นที่หาหลักฐานอะไรก็ได้มามั่วให้เข้ากับทฤษฎีของตัวเอง ไม่สนใจความเสียหายทางสถาบันที่ตัวเองพูดถึง จะว่าสรุปมันก็สรุปอะไรไม่ได้ทั้งนั้น แม้คนเขียนเองก็สรุปไม่ได้ แต่จะยังไม่ลบ นอกจากใครจะร้องเรียนมา ตอนนี้กำนันแหนบทองไม่ค่อยมีเวลาเข้าเว็บ เห็นว่าสำเร็จปริญญา PHD (Permanent Heart Damage) คงไปพักระยะยาว อยู่มั้ง ชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่ากระทู้นี้จะไปได้มากน้อยแค่ไหน ขอบคุณสำหรับรูปและลิ้งค์ที่ทำมาให้ค่ะ ถ้ายุ่งยากนักก็ลบกระทู้ได้ทุกโอกาสค่ะ ไม่มีปัญหา กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 06 ก.ย. 06, 12:48 เครื่องครอบศีรษะนี่ เป็นเรื่องใหญ่ขนาดสารานุกรมมนุษย์ชาติเชียวละครับ ตั้งแต่วีนัสข้างบน เรื่อยมาจนถึงหมวกนักบินอวกาศ
ออกเป็นหนังสือชุดได้หนึ่งชั้นหนังสือทีเดียว แต่น่ารู้มาก อาจารย์ตั้งหัวข้อได้เจ๋งขนาด อันนี้ผู้น้อยขอรับประกัน ว่ากันเฉพาะเอเชีย ครอบหัวเจ๊กกับแขกก็ยุ่งขิงเป็นลิงทะเลาะกันแล้ว ยังต้องมาดูพวกดองซอน บ้านเชียง เบ๊กธาโน เลยไปถึงชวา....โอ๊ย ท่านเอาสมองส่วนใหนมาคิดหัวข้อกันนี่ ครีเอถีปสุดๆ ว่าแต่ว่า คำว่า "หมวก" เป็นคำไตหรือเป่ากั๊บ อันนี้น่าจะจับตั้งต้นก่อนจะหลงทาง แล้วท่านจะแถมความเชื่อเกี่ยวกับขวัญ กระบาล หัว ศีรษะ แถมด้วยหรือเปล่า งานนี้กลิ้งภูเขาทับครกยังง่ายกว่าเล็ยยยย........... กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 06, 13:06 พจนานุกรมของราชบัณฑิตฯ ให้นิยามคำว่า หมวก ไว้ว่า
เครื่องสวมศีรษะมีรูปต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องประดับหรือกันแดดกันฝนเป็นต้น. ไม่ได้บอกว่าเป็นคำจากภาษาอะไร ตีความได้ว่า ๑) เป็นคำไทย หรือ ๒) ไม่รู้ที่มา ถ้าเป็นข้อ ๒ ขนาดท่านราชบัณฑิตยังไม่รู้แล้วดิฉันจะไปรู้กระไรได้ ก็รีบฉวยช่องว่างตรงนี้เป็นประโยชน์แก่ตัว ด้วยการถือว่าเป็นภาษาอะไรก็ช่างมันไปก่อน ยึดเส้นทางเดิมตามหัวข้อนี้ว่า "เรื่องหนักหัว" คือเล่าถึงสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมาวางไว้บนหัว มีน้ำหนักมากกว่าตอนที่ไม่มีมันอยู่บนหัว จนรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง ดิฉันจะจับเส้นทางใหญ่ คือจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ แล้วมุ่งหน้าสู่ถนนไปอียิปต์ แล้วเข้ากรีกกับโรมัน ก่อนจะไปอังกฤษ แล้วตามเรือสินค้าฝรั่งมาเข้าอ่าวไทย เส้นทางที่จะไป นำชมสองข้างทางแบบที่สำนวนจีนเรียกว่า "ขี่ม้าชมดอกไม้" คือดูผ่านๆ ไม่มีเวลาและปัญญาจะดูให้ละเอียดกว่านี้ มันจะหนักหัวมากเกินไป และเผลอๆจะจบไม่ลง ปล่อยให้คนอื่นต่อยอดกันไปตามสะดวกดีกว่า แต่มีความเชื่อมั่นว่าในเรือนไทย มีหลายท่านที่รู้จักเส้นทางมากกว่าดิฉัน ก็คงจะพาลูกทัวร์เข้าซอยแยกไปชมวัฒนธรรมหนักหัวได้โดยละเอียดกว่า ขอเชิญทุกท่านมาร่วมวงด้วยค่ะ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 06 ก.ย. 06, 13:34 แอบมานั่งหลังห้องครับ
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 06, 13:53 ว่ากันว่า อวัยวะทุกอย่างของมนุษย์ถูกพระเจ้าดีไซน์มาเพื่อใช้สอยเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตทั้งสิ้น ไม่มีส่วนใดเกินจำเป็น (ยกเว้นไส้ติ่ง ที่ยังขบคิดไม่ออกว่าประทานมาทำไม)
ดังนั้น ถ้ายึดตามหลักเกณฑ์นี้ สิ่งที่อยู่บนหัวของคน ได้แก่ผม ก็เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมาเพื่อช่วยเหลือหัว ไม่ให้ลำบากลำบนเกินไปกับความหนาวร้อนและแรงกระทบกระแทกจนเป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม ถือว่ามนุษย์คนแรกที่รู้จักเอาสิ่งหนึ่งขึ้นมาครอบหัว เป็นคนที่เริ่มรู้สึกว่า ผมที่ได้รับมานั้นยังไม่พอ เขาสามารถจะเพิ่มเติมให้มันดีขึ้นกว่าเก่าด้วย เมื่อเริ่มที่จุดนี้ได้แล้ว หัวของมนุษย์ก็กลายเป็นที่รองรับวัตถุอันประดิษฐ์คิดค้นขึ้น เพื่อผลดีของมนุษย์เองต่อเนื่องยาวนานกันมาก่อนประวัติศาสตร์จนถึงประวัติศาสตร์ปัจจุบัน ผลดีที่ว่านี้ ดิฉันแบ่งเอง ไม่ได้พึ่งทฤษฎีใคร เพราะยังหาไม่เจอว่าใครเขียนไว้บ้าง ๑) ผลดีทางกาย ๒) ผลดีทางใจ หรือจะเรียกให้ยากแบบนักวิชาการก็ได้ว่า อย่างที่ ๑ คือผลดีทางรูปธรรม และอย่างที่ ๒ คือผลดีทางนามธรรม มนุษย์คนแรกที่หาอะไรมาคลุมหัว แกคงไม่ได้คิดลึกซึ้งไปถึงข้อ ๒ คงหยุดอยู่แค่ข้อ ๑ ว่า ถ้าเอาใบไม้ปิดหัว หัวก็เปียกฝนน้อยกว่าไม่มีอะไรปิด หรือในถิ่นหนาว ถ้าเอาขนสัตว์คลุมหัวไว้ได้ ก็อุ่นหัวสบายกว่าไม่มีอะไรคลุม จุดมุ่งหมายของหมวกหรือเครื่องคลุมศีรษะคงมีแค่นี้ในยุคแรกๆ ที่สังคมมนุษย์ยังเรียบง่ายเกือบจะเท่าสัตว์โลกชนิดอื่น จนกระทั่งสังคมซับซ้อนขึ้น หมวกจึงมีบทบาทพัฒนามาถึงข้อ ๒ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 06 ก.ย. 06, 22:13 ขออภัย หายไปนานมาก ....
งานแยะครับ และงส่วนก็ไม่สนุก ถ้าจะให้ผมบ่นก็คงจะบ่นได้ว่าหนักหัวจริงๆ และรำคาญใครหรืออะไรบางอย่างมากๆ แต่เดี๋ยวจะกลายเป็นการคุยเรื่องการเมืองไป เพราะฉะนั้นผมจะหยุดบ่น ดีกว่า เข้าประเด็นกระทู้นะครับ ถ้าคุณครูเทาชมพูย้อนไกลไปถึงมนุษย์ก่อน ปวศ. ผมก็เห็นจะต้องรับฟังอย่างเดียวเลย เพราะเกิดไม่ทันครับ แต่มีข้อสังเกตว่า ลิงใหญ่บางชนิดในสมัยนี้ ก็รู้จักหักเอาใบไม้มาปิดหัวกันฝนเหมือนกัน ลิงที่ว่านี่ไม่ได้เป็นบรรพบุรุษของคน เป็นแต่เพียงญาติของคน คือคนไม่ได้วิวัฒนาการมาจากลิง แต่ทั้งคนทั้งลิง (ปัจจุบัน) มีบรรพชนร่วมกัน แต่แยกสายวิวัฒน์ไปคนละทาง ถ้าถืออนุโลมตามพฤติกรรมของลิงเอปบางประเภท ก็สงสัยว่ามนุษย์จะรู้จักเอาอะไรดปะปิดหัวมานานมากแล้วตั้งแต่ยังไม่เป็นมนุษย์ ยังเป็นกึ่งๆ วานรอยุ่ด้วยซ้ำครับ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 06 ก.ย. 06, 22:17
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 06 ก.ย. 06, 22:19
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 06 ก.ย. 06, 22:20
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 06 ก.ย. 06, 22:21
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 06 ก.ย. 06, 22:22
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 06 ก.ย. 06, 22:24
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 06 ก.ย. 06, 23:32 เครื่องหนักกระบาลนี่ น่าจะแบ่งเป็น 2 สาขานะครับ
1 คือพวกที่ไม่ใส่ กระบาลจะหนักยิ่งกว่า คือต้องหามาปกปิดเพราะเหตุจำเป็นทางกายภาพมันบังคับ เช่นกันเปียก หรือกันเลือดโชก 2 พวกที่ใส่ให้หนักกระบาลอย่างเดียว ประเภทนาโปเลยองไงครับ ใช้คำว่ากระบาลเพราะรู้สึกว่าตรงกว่าหัว ตีกระบาลนี่ ถ้าโดนท้ายทอยคงต้องถือว่าตีผิด แต่ถ้าดักตีหัวนี่ ตามสะบายครับ คุณนิลเล็งไอ้ตัวน่าหมั่นไส้แถวๆนั้น ฟาดเข้าไปตรงไหนก็ได้ ขอให้เลยคอขึ้นมา น่าจะถือว่าตีหัว ขอต้อนรับคุณนิลกลับบ้านครับ หายไปนาน โชคดียังจำทางกลับเรือนได้...5555 กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: Hotacunus ที่ 07 ก.ย. 06, 03:33 มากราบสวัสดี คุณเทาชมพูครับ
เรื่อง "หมวก" นี่น่าสนใจครับ ผมลองให้ในพจนานุกรมคำตระกูลไท-กะได ( http://starling.rinet.ru/cgi-bin/response.cgi?root=config&morpho=0&basename=data haizhtaet&first=581 ) ก็ไม่พบ ไม่รู้ว่าจะเป็นมอญ-เขมร ได้หรือไม่ ??? เรื่องภาพบุคคลสวมหมวกในภาพวาดก่อนประวัติศาสตร์นี่ มีอยู่เกือบทุกแห่งบนโลกเลยครับ แม้แต่ของไทยเองก็มี แต่เรามักจะเรียกว่า "เครื่องประดับศีรษะ" เพราะภาพพวกนี้ มักไม่ชัดเจน แต่ก็ถือได้ว่า เป็นหมวกประเภทหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะมีคำถามตามขึ้นมาอีกว่า "หมวก" ที่ว่านี้ มีหน้าที่อย่างไรในสังคมก่อนประวัติศาสตร์ ? เป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า "หมวก" มักจะมีการใช้กันแพร่หลายในกลุ่มประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น ซึ่งนอกจากจะทำให้ที่ให้ความอบอุ่นให้กับหัวแล้ว ยังเป็นเครื่องประดับอีกด้วย สำหรับกลุ่มประเทศร้อนๆ อย่างบ้านเราก็มีหมวก แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อกันความร้อน โดยเฉพาะชาวนา ชาวไร่ ที่ต้องสู้แดดกันทั้งวัน ดังนั้น หมวกของชาวนาจึงไม่ได้เป็นเรื่องประดับแต่อย่างใด เพราะ ถ้าใส่กันร้อนๆ ไม่ถอดทั้งวัน ขี้กลากขึ้นหัวแน่ๆ ครับ อิอิ --------------------------------------------------------- "เครื่องประดับศีรษะ" กับ "หมวก" อันนี้ มีความเหมือนในความแตกต่างครับ ภาพก่อนประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่จะถูกตีความว่า เป็น หมวก ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องประดับศีรษะ เพื่อบ่งบอกสถานภาพทางสังคม และเพื่อการประกอบพิธีธรรมของเผ่า ดังนั้น เราจะพบได้ว่า "หมวก" มีหน้าที่หลักๆ อยู่ ๓ ประการครับ ๑. เป็นอุปกรณ์ป้องกันแดด ป้องกันความหนาวเย็น (เราเรียก หมวก) ๒. เป็นอุปกรณ์แสดงสถานภาพทางสังคม (ถ้าเป็นหมวกที่แสดงสถานภาพความเป็นพระราชา เราเรียกมงกุฎ หรือ อย่างพวกขุนนางจีนสมัยแมนจูก็สวมหมวก ไทยเองก็พวกขุนนางสมัยอยุธยาก็สวมหมวกครับ) ๓. เป็นอุปกรณ์แสดงความโก้เก๋ (Fashion) กรณีนี้อาจเข้ากับกระแส "ทั่นผู้นำ" ที่พยายามจะทำให้ "หมวก" เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญแบบฝรั่ง (ทั้งๆ ที่บ้านเราร้อนกว่าบ้านฝรั่ง ! ) นี่แหละครับ เรื่องหนักหัว ที่ใครๆ ก็อยากได้ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: Hotacunus ที่ 07 ก.ย. 06, 03:46
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: Hotacunus ที่ 07 ก.ย. 06, 04:05
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: Hotacunus ที่ 07 ก.ย. 06, 04:12
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 06, 08:00
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 06, 08:07
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 06, 08:11
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 07 ก.ย. 06, 09:50
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 06, 10:20
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 07 ก.ย. 06, 23:23
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 07 ก.ย. 06, 23:25
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 07 ก.ย. 06, 23:30
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 07 ก.ย. 06, 23:34
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 07 ก.ย. 06, 23:38
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: Hotacunus ที่ 08 ก.ย. 06, 05:48 ว่าด้วย "ลอมพอก"
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมาย "ลอมพอก" ว่า คำ : ลอมพอก เสียง : ลอม-พอก นิยาม : เครื่องสวมศีรษะรูปยาวแหลมคล้ายชฎา. ไม่ได้ระบุที่มาของคำเหมือนกันครับ มีบทความเกี่ยวกับมุสลิมในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ของ คุณปิยศักดิ์ อู่ทรัพย์ กล่าวถึง "ลอมพอก" ดังนี้ครับ “ลอมพอก” เครื่องแต่งกายสมานฉันท์ หลักฐานทางประวัติศาสตร์อีกอย่างหนึ่งของการผสานกลมกลืนกันระหว่าง 2 วัฒนธรรม ก็คือ “ลอมพอก” อันได้แก่หมวกสำหรับขุนนางไทยที่นิยมใช้กันในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดย “ลอมพอก” นี้ทำจากผ้าขาว พันและผับเป็นทรงหมวก มียอดแหลม ประดิษฐ์ขึ้นอย่างประณีต ที่ขอบของ “ลอมพอก” จะมีเครื่องประดับแสดงชั้นยศ สันนิษฐานกันว่ารูปแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากผ้าโพกศีรษะของมุสลิมเปอร์เซีย ผสมผสานกับรูปแบบชฎาของไทย เมื่อครั้งที่คณะราชทูตในสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2229 ได้สวมเครื่องแต่งกายดังกล่าวจนเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากชาวฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก ที่มา : http://www.muslimcampus.com/wbreply.php?id=371 แต่อย่างไรก็ตาม นายซิม็องต์ เดอ ลาลูแบร์ ได้อธิบายเกี่ยวกับความหมายของคำว่า ลอมพอก (Lom Pok) ไว้ว่า "lom หมายถึง "หมวก" pok หมายถึง "สูง" ปกติจะมีสีขาว แต่ในการออกล่าสัตว์ หรือออกศึกสงคราม จะใช้สีแดง ผมสงสัยว่า "ลอม" หมายถึง "หมวก" ? ก็เลยไปหาคำว่า "ลอม" มาได้ดังนี้ครับ ๑. ลอม (กริยา) : รวมตะล่อมกันขึ้นไปให้เป็นจอม. ๒. ลอม (นาม) : เรียกกองฟางกองข้าวเป็นต้นซึ่งมีลักษณะเช่นนั้นว่า ลอมฟาง ลอมข้าว. (ตะล่อม ลอม ล้อม ห้อม รวม = มีรากเดียวกัน ???) ----------------------------------------- ส่วนคำว่า "พอก" ๑. พอก (กริยา) หุ้ม เช่น พอกไข่, พูน, โปะให้หนา ๒. พอก (วิเศษณ์) โป่งออกมา เช่น คอพอก. ๓. พอก (กริยา - กลอน) โพกผ้า. ๔. พอก (นาม - กลอน) ผ้าโพกคล้ายหมวก. ------------------------------------------- สรุปว่า ลอมพอก แปลว่า ผ้าที่นำมาล้อมสุ่มไปให้สูงบนศีรษะ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: Hotacunus ที่ 08 ก.ย. 06, 06:23 ว่าด้วย "หมวก"
ผมมานึกถึงหมวกของชาวนาที่เรียกว่า "งอบ" นี่น่าจะเป็น "หมวก" ดั่งเดิมที่สุดของคนเผ่าไท ดังนั้น คำว่า "หมวก" ก็อาจไม่ใช่คำไทเดิมครับ แต่อาจเป็นคำศัพท์ต่างชาติ เพราะรูปแบบของหมวกที่เราเข้าใจกันปัจจุบันนี้ เป็นสินค้าต่างชาติครับ คำว่า "หมวก" ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Hat (ฝรั่งเศสว่า ชาโป - chapeau) ซึ่งไม่น่าจะเป็นที่มาของคำว่าหมวกได้เลย แต่มีศัพท์คำหนึ่งของภาษาฮินดีน่าสนใจ Maur (ฮินดี, ไม่น่าใจว่าออกเสียงอย่างไรนะครับ อาจเป็น เมารฺ) แปลว่า มงกุฎ หรือ หมวกทรงสูงชนิดหนึ่ง คำว่า "เมารฺ" นี้ มีรากมาจากคำสันสกฤตว่า "มกุฏ" หรือ "มุกุฏ" หรือ อีกทางหนึ่งก็ว่ามาจากคำบาลี-สันสกฤตว่า "โมลิ" (เกล้าผม ตรงกับคำไทยว่า เมาลี) คำนี้น่าสนใจเรื่องเสียงครับระหว่าง "เมารฺ" กับ "หมวก" เป็นไปได้หรือไม่ว่า หมวกรุ่นแรกๆ (หมวกฝรั่ง) ถูกนำเข้ามาโดยพวกพ่อค้าอินเดีย-เปอร์เซีย ??? แต่ปัญหาอยู่ที่ความหมายไม่ตรงกับคำว่า "หมวก" เสียทีเดียว แต่มันก็เกี่ยวๆ กับ "เรื่องหนักหัว" เหมือนกัน ตอนนี้ก็ขุดหารากได้แค่นี้ครับ คำนี้ยากจริงๆ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 08 ก.ย. 06, 09:15 ลอมพอก ผมสงสัยว่าเกี่ยวกับคำว่า โพก (ผ้า)
ร่วมด้วยช่วยมั่วครับคุณ Hotacunus ภาษาจีนกลาง คำว่า หมวก เรียกว่า เม่า (-ซจึ) คำหลังช่างมันเหอะ แต่คำว่าเม่านั้นจะมาเป็น หมวก ได้ไหม? ในภาษาตระกูลจีน คำจีนกลางสำเนียงฟังดูอาจจะไม่ค่อยใกล้คำไทยเท่าไหร่ แต่ภาษาจีนถิ่นสำเนียงทางใต้ๆ เช่นกวางตุ้งนั้นบางคำก็คล้ายๆ บางคำในภาษาตระกูลไทและเวียดนามพอใช้ทีเดียว เช่นเรื่องการนับเลข เผอิญผมไม่รู้กวางตุ้ง ใครทราบบ้างครับว่ากวางตุ้งเรียกหมวกยังไง ถ้าจีนกลางเรียกเม่า กวางตุ้งอาจจะเรียกหม็อกหรืออะไรทำนองนั้นได้หรือเปล่า แล้วจะกลายมาเป็น หมวก ได้ไหม (มั่วครับ เรียนแล้วว่ามาช่วยมั่ว) ขอตัวช่วยครับ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 08 ก.ย. 06, 09:19 เห็นด้วยว่า งอบ น่าจะเป็นหมวกทรงไทยดั้งเดิมกว่าหมวกอื่นๆ ดังนั้นน่าจะสันนิษฐานว่าคำว่า งอบ ก็น่าจะเป็นคำไทมากกว่าคำว่าหมวก หรือเปล่า?
ทำไมไม่รู้ ใจผมโยงคำว่า งอบ กับ ครอบ แล้วก็นึกถึงอีกคำด้วยว่า เงิบ เช่น "ผาเงิบ" ซึ่งผมรู้สึกว่า (แต่ไม่แน่ใจ) แปลว่าชะโงกเงื้อมคลุมอยู่ข้างบนเหนือหัว หรือเปล่า? ใครรู้ความหมายของคำว่าเงิบบ้างครับ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 08 ก.ย. 06, 09:30 ราชาศัพท์เรียกหมวกเป็นคำแขกว่า พระมาลา
แต่ที่จริงมาลาน่ะแปลว่าดอกไม้นี่ครับ จะตีความได้หรือเปล่าว่า ไทเราแต่เดิมถ้าจะประดับแต่งหัวกัน อย่างมากที่สุดก็เกล้าผมมวยให้สุงขึ้นไป ปักปิ่นหรือแซมดอกไม้ ความคิดเรื่องการใช้ดอกไม้เลยติดอยู่ในเรื่องเกี่ยวกับการตกแต่งศีรษะ แม้แต่เมื่อเปลี่ยนรูปมาใช้หมวกแล้ว ผมจำได้คล้ายๆ ว่า ชฎาหรือพระมหามงกุฎ ซึ่งก็คือหมวกอย่างหนึ่ง ก็มีส่วนประกอบที่เรียกชื่อเป็นดอกไม้เหมือนกัน? ลอมพอกขุนนางหรือที่ท่านเอกอัครบรมมหาอภิบรรพทูต โกษาปาน ต้นตระกูลทูตไทย ท่านสวมนั้น ก็มีส่วนที่ได้ชื่อว่าเป็นดอกไม้ ดูเหมือนเรียกดอกไม้ไหวหรืออะไรทำนองนั้นแหละ แต่ไม่ได้ใช้ดอกไม้สดจริงๆ แล้ว พัฒนามาเป็นอัญมณีและทองแทน กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 06, 09:39
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 06, 09:44 ชนกันกลางอากาศกับคุณนกข. หลีกทางให้ค่ะ
นึกได้ถึงพระนาม เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ต้นราชสกุลมาลากุล คำว่า มาล แปลได้ทั้งดอกไม้ และหมวก แต่ถ้าเป็นราชาศัพท์ พระมาลา แปลว่าหมวกอย่างเดียว ไม่ได้แปลว่าดอกไม้หลวง เลี้ยวออกนอกเรื่องไป ใส่เกียร์ถอยหลังกลับมาที่เดิมดีกว่า กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 08 ก.ย. 06, 11:28 เคยได้ยินสมมติฐานหนึ่งเกี่ยวกับลอมพอกครับ แต่จนใจจำไม่ได้ว่ามาจากไหน
ท่านว่า ลอมพอกนี้เป็นผ้าลงแป้งแข็ง(พอก)เพื่อให้เกิดความสะดวกในการถอด/ใส่ ลักษณะเฉพาะนี้ทำให้ลอมชนิดนี้ถูกเรียกว่าลอมพอกครับ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 08 ก.ย. 06, 12:47 แวะมาลงชื่อไว้ก่อนค่ะ ช่วงนี้เครื่องที่บ้านเสีย กำลังหาทางกู้รูปที่ไปเที่ยววัดที่เมืองเพชรคืนอยู่ค่ะ
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 08 ก.ย. 06, 14:03 หมวก กวางตุ้งว่า mou6 ครับ
ถ้าเข้าใจไม่ผิด จะอ่านว่า โหม่ว ครับ เข้าเค้าเหมือนกัน กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 08 ก.ย. 06, 15:01 ขอบคุณคุณอาชาผยองครับ
คำเรียกเต็มๆ จีนกลางเขาเรียก เม่าซจึ ถ้าหากกลายเป็นกวางตุ้งว่า โหม่วกี้ หรืออะไรทำนองนั้นได้ ก็จะยิ่งเข้าเค้าพอใช้ทีเดียวเชียวนะนั่น... กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 08 ก.ย. 06, 15:05 จับแพะชนแกะมั่วไปเรื่อยเปื่อยตามประสาผม
ยังไม่รู้อยู่ดีว่า เงิบ แปลว่าอะไรมีความหมายรึเปล่า แต่เท่าที่ทราบ ลาวก็เรียกหมวกว่าหมวก เหมือนไทย แต่ลาวเรียกรองเท้าว่า เกิบ ("ปดเกิบ" หรือ ปลดเกิบ คือ ถอดรองเท้า) เกิบนั้นไทยเราเรียก เกือก อันนั้นเป็นสิ่งที่สวมกับเท้า ไกลจากหัวเอาการอยู่ แต่ว่าในเมื่อเคยมีคนป่าที่ไม่รู้จักรองเท้า เรียกรองเท้าว่า "หมวกตีน" มาแล้ว (คือไอ้เถื่อน ของอาจานต์ ปัญจพรรค์ ในเรื่องสั้นชุดเหมืองแร่) แถมเสียงก็คล้ายๆ กัน ผมก็เลยสงสัยว่า เกิบ กับ เงิบ เกี่ยวกันรึเปล่า แล้วเกี่ยวกับ งอบ รึเปล่า??????? โยงกันจนได้... กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว ที่ 11 ก.ย. 06, 00:05 ขอหนักหัวด้วยคนนะคับผม อิอิอิ (ท่าทางจะหนักหลายกิโลเลยแหละ)
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 06, 21:25
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: กุรุกุลา ที่ 11 ก.ย. 06, 22:29 ขอเอาเรื่องหมวกอียิปต์มาลงบ้างครับ
ภาพโอสิริสเทพแห่งความตายที่อาจารย์เทาชมพูลงไว้ ก็สวมหมวกที่มีขนนกกระจอกเทศประดับอยู่สองข้าง เรียกว่า Atef crown ขนนกนั้นจะเกี่ยวข้องกับขนนกของเทพ Maat ที่ใช้ชั่งหัวใจคนตายหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจครับ ส่วนหมวกของคลีโอพัตรา เป็นรูปแร้งหัวเป็นงูเห่า ก็อาจจะเป็นสัญลักษณ์ของการรวมอิยิปต์เหนือและอิยิปต์ใต้เข้าด้วยกันก็เป็นไปได้ครับ หมวกแบบนี้ถูกสวมโดยเทพี Nekhbet เทพีที่มีรูปเป็นนกแร้งครับ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: กุรุกุลา ที่ 11 ก.ย. 06, 22:32
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว ที่ 12 ก.ย. 06, 10:52
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.ย. 06, 08:54
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.ย. 06, 08:59
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิรันดร์ ที่ 13 ก.ย. 06, 22:11 จดจดจ้องจ้องอยู่นานกว่าจะคลิ๊กเข้ามา
เพราะกลัวชื่อกระทู้ เกรงว่าจะต้องเครียด พอคลิ๊กเข้ามาถึงได้ทราบว่าถึงหนักหัวก็ไม่ต้องเครียด ไหน ๆ เข้ามาแล้วก็เลยขอแจมหน่อยนะครับ #58 ; สมมติว่าหมวกสองใบนี้หนักเท่ากันจริง แต่#59 มีเสถียรภาพมากกว่า จะยักย้ายส่ายก้มก็ล้มยาก เพราะจุดศูนย์ถ่วงของหมวกต่ำกว่า #58 แยะเลย แบบฟอร์มูล่าวันที่เลี้ยวอย่างไรก็ไม่คว่ำ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 14 ก.ย. 06, 17:01 คห. อ. นิรันดร์ สมเป็นอาจารย์ฟิสิกส์จริงๆ อิอิอิ
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ก.ย. 06, 15:43
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ก.ย. 06, 15:52
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ก.ย. 06, 16:12
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: นิรันดร์ ที่ 16 ก.ย. 06, 22:46
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 06, 08:59
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 06, 09:00
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 06, 21:24
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 06, 21:28
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 06, 21:38
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 06, 21:42
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 06, 20:27
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 06, 20:29
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 06, 20:31
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ย. 06, 20:33
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ย. 06, 20:35
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ย. 06, 20:48
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ก.ย. 06, 18:20
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 02 ต.ค. 06, 19:52 เห็นแล้ว หนักแทนจริงด้วยค่ะ อาจารย์
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 06, 10:11
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 06, 10:14
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 06, 10:20
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 06, 10:24
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 06, 10:25
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 06, 20:31
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 06, 21:14
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 06, 21:18
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 06, 10:06 สงครามโลกครั้งที่ ๑ ในต้นศตวรรษที่ ๒๐ (ตรงกับรัชกาลที่ ๖)กลายเป็นจุดจบทางวัฒนธรรมหลายๆด้าน
ในด้านวรรณกรรม ถือว่าสงครามโลกเป็นจุดจบของวิธีการเขียนแบบสมจริงอย่างที่ดำเนินมาในสมัยวิคตอเรียน เพราะสงครามได้สั่นคลอนความเชื่อถือ วิธีคิด การดำเนินชีวิต ของผู้คนอย่างรุนแรง จนการเขียนแบบเดิมไม่อาจรองรับวิธีคิดของคนได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ Modernism อย่างในงานของ James Joyce จึงเกิดขึ้นมาตอบสนองความต้องการของนักประพันธ์และกวี ขอลากความกลับมาทางด้านหมวกนะคะ สงครามโลกครั้งที่ ๑ คืออวสานของขนบธรรมเนียมการสวมหมวก เมื่อสงครามจบลง ใครจะสวมหรือไม่สวมหมวกออกนอกบ้าน ก็ตามสบายทั้งสองแบบ กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 06, 07:59
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 06, 08:01
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 06, 08:07
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 06, 20:57
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 06, 21:09
กระทู้: เรื่องหนักหัว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 06, 15:09
|