เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: ไพลินภัทร ที่ 26 เม.ย. 13, 22:26



กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: ไพลินภัทร ที่ 26 เม.ย. 13, 22:26
เท่าที่ค้นดูคำๆ นี้ใช้หลายความหมาย
ทั้งหมายถึงเพลงดาบที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยพระนเรศวร กองทหารม้าส่งข่าว หน่วยสืบราชการลับ
เลยอยากทราบรายละเอียดและที่มาที่ไปของคำๆ นี้ค่ะ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 เม.ย. 13, 08:53
กองอาทมาฏ เป็นกองที่เชี่ยวชาญในเพลงดาบและแข็งแกร่งในการต่อสู้รบ นัยว่าเป็กกองชาวมอญเข้าสังกัดกองนี้อยู่มาก สำหรับกองทหารม้าส่งข่าว หรือหน่วยราชการลับ เป็นเพียงการใช้คนของกองอาทหาฏไปทำภาระกิจนี้เท่านั้น เลยเรียกตามปากไปเสีย

ท่ารำพื้นฐานคือท่าคลุมไตรภพ, ตลบสิงขร และย้อนฟองสมุทร ซึ่งเป็นท่าเพลงดาบที่ผสมผสานความอ่อนช้อย แต่ว่องไวและปกป้องร่างกายได้เป็นอย่างดี

คลิปนี้ให้ดูลีลาของเพลงดาบแห่งกองอาทมาฏ ที่สวยงามและแฝงด้วยอันตรายมาก ๆ

http://www.youtube.com/watch?v=Ed04p5KpkSs


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 เม.ย. 13, 09:03
การลาดตระเวนสอดแนมข่าวคราวของข้าศึกตามชายแดนไทย-พม่าในสมัยโบราณ ใช้พวกมอญซึ่งพูดภาษาพม่าได้ ดำเนินชีวิตกลมกลืนไปกับพม่าได้ดี ไม่มีพิรุธ     พวกนี้สังกัดกองอาทมาต  เป็นสายลับไทยโบราณ
ตัวละครในเรื่องขุนช้างขุนแผนที่เป็นนักรบอาทมาต   คือขุนไกรพลพ่าย  พ่อของขุนแผน

เป็นทหารชาญชัยใจฉกรรจ์         คุมไพร่ทั้งนั้นได้เจ็ดร้อย
อาจองคงกระพันชาตรี         เข้าไหนไม่มีที่จะถอย
รบศึกศัตรูอยู่กับรอย                 ถึงมากน้อยทหารไม่หนีมา
กรมการเมืองสุพรรณสั่นหัว         เข็ดขามคร้ามกลัวใครไม่ฝ่า
โปรดปรานเป็นทหารอยุธยา         มีสง่าอยู่ในเมืองสุพรรณ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 28 เม.ย. 13, 22:50
กองลาดตระเวนหาข่าวจริง ๆ ยังมีอาทมาตเขมรด้วยนะครับ เท่าที่ทราบมาคร่าว ๆ คือเกิดในสมัยที่สยามมีศึกกับญวน

อาทมาตคำนี้ มาปรากฏเอายุครัตนโกสินทร์แล้ว ในยุคอยุธยาและธนบุรีไม่มีนะครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 29 เม.ย. 13, 19:58
กองอาทมาฏ เป็นกองที่เชี่ยวชาญในเพลงดาบและแข็งแกร่งในการต่อสู้รบ นัยว่าเป็กกองชาวมอญเข้าสังกัดกองนี้อยู่มาก สำหรับกองทหารม้าส่งข่าว หรือหน่วยราชการลับ เป็นเพียงการใช้คนของกองอาทหาฏไปทำภาระกิจนี้เท่านั้น เลยเรียกตามปากไปเสีย

ท่ารำพื้นฐานคือท่าคลุมไตรภพ, ตลบสิงขร และย้อนฟองสมุทร ซึ่งเป็นท่าเพลงดาบที่ผสมผสานความอ่อนช้อย แต่ว่องไวและปกป้องร่างกายได้เป็นอย่างดี

คลิปนี้ให้ดูลีลาของเพลงดาบแห่งกองอาทมาฏ ที่สวยงามและแฝงด้วยอันตรายมาก ๆ


เห็นมาดเจ้าสำนักดาบอาทมาฏแล้วสุดยอด
เสียดายที่ครูมาโนช จากโลกนี้ไปแล้วครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 พ.ค. 13, 15:03
เลยอยากทราบรายละเอียดและที่มาที่ไปของคำๆ นี้ค่ะ

จาก พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา (http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2011/07/K10800000/K10800000.html)

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2011/07/K10800000/K10800000-1.jpg)

อาทมาต มาจาก คำว่า อาจสามารถ   เป็นไปได้หรือไม่หนอ   ???


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 พ.ค. 13, 15:32
คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ เห็นทีจะเชื่อข้อสันนิษฐานข้างต้นอยู่มาก

คำนี้ปรากฏอยู่ในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง กรุงแตก ยศล่มแล้ว   ;D


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 13, 21:49


อาทมาต มาจาก คำว่า อาจสามารถ   เป็นไปได้หรือไม่หนอ   ???

หรือว่า อาจสามารถ มาจากคำว่า อาทมาต?


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: Thanate ที่ 02 พ.ค. 13, 13:07
กองอาทมาฏ เป็นกองที่เชี่ยวชาญในเพลงดาบและแข็งแกร่งในการต่อสู้รบ นัยว่าเป็กกองชาวมอญเข้าสังกัดกองนี้อยู่มาก สำหรับกองทหารม้าส่งข่าว หรือหน่วยราชการลับ เป็นเพียงการใช้คนของกองอาทหาฏไปทำภาระกิจนี้เท่านั้น เลยเรียกตามปากไปเสีย

ท่ารำพื้นฐานคือท่าคลุมไตรภพ, ตลบสิงขร และย้อนฟองสมุทร ซึ่งเป็นท่าเพลงดาบที่ผสมผสานความอ่อนช้อย แต่ว่องไวและปกป้องร่างกายได้เป็นอย่างดี

คลิปนี้ให้ดูลีลาของเพลงดาบแห่งกองอาทมาฏ ที่สวยงามและแฝงด้วยอันตรายมาก ๆ


เห็นมาดเจ้าสำนักดาบอาทมาฏแล้วสุดยอด
เสียดายที่ครูมาโนช จากโลกนี้ไปแล้วครับ

เสียดาย ครูมาโมช จริงๆครับ
ยังมี ครูหมี  คงพอได้ 


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 24 พ.ค. 13, 01:36
กองอาทมาต เท่าที่ไปหาข้อมูลเพิ่ม พบว่าเจอครั้งแรกในตอนปลายสมัยกรุงธนบุรีครับ ช่วงทำสงครามในแผ่นดินเขมร แต่เรียกว่ากองอาจารย์แทน ในจดหมายเหตุทัพเขียนไว้แบบนั้น


เท่าที่ทราบมา วิชาดาบทางนี้ พื้นฐานจริง ๆ มีไม่มาก คือ คลุมไตรภพ ตลบสิงขร และ ย้อนฟองสมุทร  ครูมาโนช และ ครูหมี ตลอดจน ครูโอ ล้วนแล้วแต่ได้พื้นฐานของวิชาดาบจ้าวรามมาก่อนอยู่แล้ว เมื่อมารวมกับเคล็ดของทางดาบอาฏมาท ก็เลยทำให้ยิ่งเด่นขึ้นไปอีก

ครูหมีเอง ก็มีพื้นฐานมาจากวิชาเจิงของภาคเหนือพื้นถิ่นอยู่แล้วด้วยเช่นกัน



กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 03 มิ.ย. 13, 15:01
พอดีเปิดเข้ามาเจอ เลยอยากจะแนะนำงานวิจัยเล่มนี้ครับ "http://www.sac.or.th/databases/ethnicredb/research_detail.php?id=630"

ผมเป็นคนหนึ่งที่ฝึกดาบอาทมาฏครับ ทุกวันนี้เราก็ยังฝึกกันอยู่ที่สำนักฯ
โดยส่วนตัวผมแล้วคำว่าอาทมาตหรือ อื่นๆที่ออกเสียงคล้ายกันผมคิดว่าหมายถึง กองทหารมอญ ครับ แต่วิชาดาบนั้นจากที่ในหนังสือสารคดีนั้นว่าเป็นวิชาดาบที่ถูกฉีกออกแล้วไปเก็บใว้ทางเหนือนั้น ผมมีความเห็นต่างจากนั้น
คือผมเชื่อประการหนึ่งว่าเป็นวิชาที่สมเด็จพระนเรศใช้สอนลูกขุนนางที่เกณฑ์มาฝึกวิชาที่พิษณุโลกเมื่องครั้งทรงเสด็จกลับมาจากการเป็นองค์ประกัน
เหตุผลหนึ่งที่สนับสนุนว่าวิชาดาบที่สำนักดาบอาทมาฏนเรศวรฝึกเป็นวิชาดาบที่ทรงสอน คือ "เป็นวิชาที่ผสมผสานวิชาดาบ หลายวิชาเข้าด้วยกัน เช่นวิชาดาบเหนือ วิชาดาบไต และรวมเข้ากับวิชาดาบของอยุธยา เป็นวิชาดาบที่เราฝึกอยู่ สังเกตุง่ายๆวิชาดาบทางเหนือและพม่าจะเน้น ตัดปาด วิชาดาบของอยุธยาจะเน้นปะทะ แต่อาทมาฏมีทั้งสองวิชานี้ ซึ่งคนที่จะคิดรวมวิชาดาบหลายๆวิชาเข้าเป็นวิชาเดียวกันนั้นผมไม่เห็นจะมีใครไปได้นอกจากสมเด็จพระนเรศ อาจเป็นไปได้มากว่าทรงเรียนวิชาดาบมาจากพม่าโดยที่พระองค์ทรงเป็นวิชาดาบของอยุธยาอยู่ก่อนแล้ว จึงทรงรวมวิชาดาบนี้ขึ้นมาใหม่ แต่การที่วิชาดาบนี้ไม่แพร่หลายไป อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ในแต่ละครั้งนั้นมักฆ่าขุนนางที่จงรักภักดีราชวงศ์เดิมเสียเป็นส่วนมาก จึงทำให้วิชานี้หายไปกับการเปลี่ยนราชวงศ์ แต่ยังมีฝึกอยู่ในกลุ่มคนมอญไม่แพร่หลายออกไป
อีกประการหนึ่งคือชื่อท่าต่างๆ ล้วนเป็นชื่อที่ถูกตั้งมาเป็นอย่างดี มีชื่อไม่ใช่น้อย เช่น ท่าแม่ไม้สามท่า ก็เรียกคลุมไตรภพ ไม้รำ12ท่า ท่าไม้รำสอดสร้อยมาลา เสือลากหาง ฟันเงื้อสีดา หงษ์ปีกหัก ท่ายักษ์ พระรามแผลงศร เชิญเทียนตัดเทียน มอญส่องกล้อง ลับหอกลับดาบ ช้างประสานงา กาล้วงไส้ พญาครุฑยุดนาค และ เรียงหมอน ชื่อท่าไพเราะทั้งนั้น ท่ากลยุทธ์ ท่ากลศึก ท่าตัดข้อตัดเอ็น  27 ท่า และท่าหนุมานเชิญธอีก 48 ท่า มีชื่อท่าทั้งนั้นครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 03 มิ.ย. 13, 18:29
จำได้ลางๆ ว่าอาจารย์คึกฤิทธิ์เคยเขียนไว้ในขุนช้างขุนแผนฉบับอ่านใหม่ แต่ตอนนี้ผมไม่มีหนังสืออยู่ในมือ ท่านอธิบายไว้ด้วยครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 04 มิ.ย. 13, 21:56
พอดีเปิดเข้ามาเจอ เลยอยากจะแนะนำงานวิจัยเล่มนี้ครับ "http://www.sac.or.th/databases/ethnicredb/research_detail.php?id=630"

ผมเป็นคนหนึ่งที่ฝึกดาบอาทมาฏครับ ทุกวันนี้เราก็ยังฝึกกันอยู่ที่สำนักฯ
โดยส่วนตัวผมแล้วคำว่าอาทมาตหรือ อื่นๆที่ออกเสียงคล้ายกันผมคิดว่าหมายถึง กองทหารมอญ ครับ แต่วิชาดาบนั้นจากที่ในหนังสือสารคดีนั้นว่าเป็นวิชาดาบที่ถูกฉีกออกแล้วไปเก็บใว้ทางเหนือนั้น ผมมีความเห็นต่างจากนั้น
คือผมเชื่อประการหนึ่งว่าเป็นวิชาที่สมเด็จพระนเรศใช้สอนลูกขุนนางที่เกณฑ์มาฝึกวิชาที่พิษณุโลกเมื่องครั้งทรงเสด็จกลับมาจากการเป็นองค์ประกัน
เหตุผลหนึ่งที่สนับสนุนว่าวิชาดาบที่สำนักดาบอาทมาฏนเรศวรฝึกเป็นวิชาดาบที่ทรงสอน คือ "เป็นวิชาที่ผสมผสานวิชาดาบ หลายวิชาเข้าด้วยกัน เช่นวิชาดาบเหนือ วิชาดาบไต และรวมเข้ากับวิชาดาบของอยุธยา เป็นวิชาดาบที่เราฝึกอยู่ สังเกตุง่ายๆวิชาดาบทางเหนือและพม่าจะเน้น ตัดปาด วิชาดาบของอยุธยาจะเน้นปะทะ แต่อาทมาฏมีทั้งสองวิชานี้ ซึ่งคนที่จะคิดรวมวิชาดาบหลายๆวิชาเข้าเป็นวิชาเดียวกันนั้นผมไม่เห็นจะมีใครไปได้นอกจากสมเด็จพระนเรศ อาจเป็นไปได้มากว่าทรงเรียนวิชาดาบมาจากพม่าโดยที่พระองค์ทรงเป็นวิชาดาบของอยุธยาอยู่ก่อนแล้ว จึงทรงรวมวิชาดาบนี้ขึ้นมาใหม่ แต่การที่วิชาดาบนี้ไม่แพร่หลายไป อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ในแต่ละครั้งนั้นมักฆ่าขุนนางที่จงรักภักดีราชวงศ์เดิมเสียเป็นส่วนมาก จึงทำให้วิชานี้หายไปกับการเปลี่ยนราชวงศ์ แต่ยังมีฝึกอยู่ในกลุ่มคนมอญไม่แพร่หลายออกไป
อีกประการหนึ่งคือชื่อท่าต่างๆ ล้วนเป็นชื่อที่ถูกตั้งมาเป็นอย่างดี มีชื่อไม่ใช่น้อย เช่น ท่าแม่ไม้สามท่า ก็เรียกคลุมไตรภพ ไม้รำ12ท่า ท่าไม้รำสอดสร้อยมาลา เสือลากหาง ฟันเงื้อสีดา หงษ์ปีกหัก ท่ายักษ์ พระรามแผลงศร เชิญเทียนตัดเทียน มอญส่องกล้อง ลับหอกลับดาบ ช้างประสานงา กาล้วงไส้ พญาครุฑยุดนาค และ เรียงหมอน ชื่อท่าไพเราะทั้งนั้น ท่ากลยุทธ์ ท่ากลศึก ท่าตัดข้อตัดเอ็น  27 ท่า และท่าหนุมานเชิญธอีก 48 ท่า มีชื่อท่าทั้งนั้นครับ

ตอนแรกผมก็เกือบจะเชื่อแล้วครับ แต่เผอิญได้ยินข่าวมาว่า ครูสุริยา ที่เป็นผู้สืบทอดวิชามา ก่อนที่จะถ่ายทอดให้มาจนสู่รุ่นหลัง ที่ในหนังสือสารคดีบอกว่าหายไปแล้วตามหาไม่เจอนั้น ผมเพิ่งทราบข่าวมาว่า ก็มีคนไปเจอท่าน จนสุดท้ายที่ท่านถึงแก่กรรมครับ

ถ้าจะว่าผสมดาบเหนือ ผมยังพอเป็นไปได้ เพราะหลาย ๆ ท่าเช่น สีไคล หรือ บิดบัวบาน ก็ยังพอมีเค้าลางพอจะกล้อมแกล้มไปเป็นพื้นฐานให้ได้ แต่ถ้าว่าเป็นก้าแลว (วิชาดาบไทใหญ่) มาผสมด้วย ผมว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะก้าแลวที่เคยเห็น ส่วนใหญ่จะมีท่าดาบที่กระชับ รัดกุม ไม่มีลีลาเหมือนดาบสายเจิงหลาบเหนือทั่ว ๆ ไป เหมือนที่คนยวน คนลื้อ ใช้เลยสักนิดครับ

 


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 04 มิ.ย. 13, 22:04
้ก้าแลว โดยครูส่างคำ จางยอด
IRQ7fidHv80

คลิปนี้ อิมพอร์ต จากดอยไตแลง ฐานของ SSA เจ้ายอดศึก
zbi74RJDN9Y

นี้ก็อิมพอร์ตจากรัฐฉาน ครูส่างคำ พามาแสดงที่ จุฬาฯ
KEVAFMCm6ng

คลิปนี้ ของ อ้ายนิฮอน 
pTOqSwdHPTU


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 04 มิ.ย. 13, 22:19

นี่คือเจิงสายลื้อ ของพ่อหนานสาม ผู้ล่วงลับ
ZL6uwchbQUI

นี่สายของ อ้ายแสบ หรือ ตุ๊แสบ ในปัจจุบัน สายนี้ผมจำชื่อพ่อครูไม่ได้ แต่เป็นสำนักใหญ่ในเชียงใหม่ ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นสายของพ่อครูคำสุข ช่างสาน
nQcT0nQxtE8


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 04 มิ.ย. 13, 22:25
ส่วนที่บอกว่า ท่าแม่ไม้สามท่า ก็เรียกคลุมไตรภพ ไม้รำ12ท่า ท่าไม้รำสอดสร้อยมาลา เสือลากหาง ฟันเงื้อสีดา หงษ์ปีกหัก ท่ายักษ์ พระรามแผลงศร เชิญเทียนตัดเทียน มอญส่องกล้อง ลับหอกลับดาบ ช้างประสานงา กาล้วงไส้ พญาครุฑยุดนาค และ เรียงหมอน ชื่อท่าไพเราะทั้งนั้น ท่ากลยุทธ์ ท่ากลศึก ท่าตัดข้อตัดเอ็น  27 ท่า และท่าหนุมานเชิญธอีก 48 ท่า มีชื่อท่าทั้งนั้นครับ

บางท่าก็มาจากกระบี่กระบองกรมพละฯ ของ อ.นาค ฯ , บางท่าก็มาจากชื่อท่ามวยเช่น เสือลากหาง ก็มาจากท่าของมวยไชยา , ท่าเรียงหมอน ท่านี้สายดาบอิสลามในภาคกลางบางสายก็มีท่านี้เหมือนกัน

ซึ่งถ้าจะสืบค้นจริง ๆ อายุก็ไม่น่าเกินยุคธนบุรีเป็นอย่างมากครับ   


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 05 มิ.ย. 13, 00:20
ขอบคุณท่าน samun007 ครับที่นำคลิปดีๆมาให้ชม ผมอยากให้สังเกตุที่ดาบที่มีการวนรอบศีระษะ ท่าสีไคลที่ท่านว่าอยู่ในท่าสอดสร้อยมาลาครับ ส่วนบิดบัวบานของอาทมาฏไม่มี แต่ผมอยากให้ดูท่าตลบสิงขรและท่าย้อนฟองสมุทรการวาดดาบหากเข้าใกล้ข้อมือจะคล้ายท่านี้มากครับ และยังมีอีกหลายท่าที่ใช้คล้ายกัน ผมเคยไปก่อสร้างโรงงานที่พม่าหลายปีได้มีโอกาศเห็นการรำดาบที่พม่า คล้ายดาบเหนือแต่ไม่ทั้งหมด ผมถึงว่ามันถูกผสมมาแน่ๆ ส่วนตัวแล้วผมเรียน ดาบเหนือ 32 ขุม มาจากครูหมี พอเจิงได้นิดหน่อย อย่างที่ผมว่ารวมมาจากหลายสาย อย่างมวยไชยาก็เป็นมวยโบราณที่พื้นเพจริงๆไม่ได้มาจากไชยาและน่าจะมีมากว่าธนบุรีแน่ และการที่คนๆหนึ่งจะเรียบเรียงการสอน การเรียกชื่อท่า การคิดกระบวนกลยุทธ์ กลศึก มากขนาดนี้ผมไม่เห็นมีในวิชาดาบสายไหน คิดง่ายๆหากเป็นเราๆท่านๆที่มีสื่อมากมายในตอนนี้ ให้คิดวิชาดาบขึ้นมาใหม่ จะรวมมาหรือลอกเขามา ตั้งเป็นวิชา ผมยังว่ายากที่จะเป็นไปได้ หากจะว่าไปถึงจะไม่ใช่สมเด็จท่านเป็นผู้คิด ผมว่าคนที่คิดก็ไม่ธรรมดาครับ เรื่องครูสุริยาที่ว่านั้นผมก็ทราบแต่ผมก็ทราบเมื่อเร็วๆนี้เหมือนกันครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มิ.ย. 13, 15:25
จำได้ลางๆ ว่าอาจารย์คึกฤิทธิ์เคยเขียนไว้ในขุนช้างขุนแผนฉบับอ่านใหม่ แต่ตอนนี้ผมไม่มีหนังสืออยู่ในมือ ท่านอธิบายไว้ด้วยครับ

ท่านเขียนถึงอาทมาตว่าอย่างนี้ค่ะ

    กรมอาทมาตเป็นกรมของสายลับ  ที่หาข่าวกรองมาให้รัฐบาล   ในปัจจุบันนี้เห็นจะต้องเรียกว่ากรมประมวลข่าวกลาง     หรือเมื่อเปลี่ยนมาแล้วก็จะต้องเรียกว่า สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ   อเมริกันเรียกว่า CIA   เป็นกรมที่มีสายลับอยู่มาก   และส่วนใหญ่ก็ทำงานรวบรวมข้อมูลขากสายลับ
   กรมอาทมาตสมัยอยุธยานั้น คงจะมีสายลับอยู่ในประเทศต่างๆที่อยู่รอบพระราชอาณาจักร  เช่น ลาว เขมรและญวน    แต่ราชการสงครามในสมัยนั้น มีอยู่ที่ประเทศพม่าเป็นส่วนใหญ่    และพม่านั้นก็ดูเหมือนจะเตรียมตัวที่จะรุกรานประเทศไทยอยู่เรื่อยๆ    กรมอาทมาตจึงต้องส่งคนเข้าไปอยู่ในพม่า   เพื่อคอยสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหวของพม่าในทางที่จะเป็นภัยต่อประเทศไทย แล้วรีบส่งข่าวกรองมารายงานที่กรมอาทมาต    ซึ่งก็จะได้รวบรวมข่าวกรองเสนอต่อท่านเสนาบดีผู้ใหญ่    ตลอดจนนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ   เพื่อจะได้เตรียมการที่จะรับศึกพม่าได้ทันท่วงที
    สายลับของกรมอาทมาตที่จะส่งเข้าไปอยู่ในพม่านั้น หากส่งคนไทยเข้าไปแล้วก็คงจะไม่ได้ผล เพราะคนไทยมีความแตกต่างกับคนพม่าอยู่มากมาย   และคงจะพูดภาษาพม่าไม่ได้แคล่วคล่อง    เมื่อเข้าไปทำหน้าที่สายลับในเมืองพม่า   พม่าก็คงจะจับได้และฆ่าเสีย   แต่ในเมืองไทยนั้นมีมอญที่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไทยอยู่มาก     มอญนั้นแต่งกายเหมือนพม่า    ไว้ผมยาวเช่นเดียวกับพม่า และพูดภาษาพม่าได้เป็นภาษาที่สองดีเท่ากับภาษามอญของตนเอง เพราะฉะนั้นเมื่อส่งมอญเข้าไปเป็นสายลับ พม่าก็จับไม่ได้ และมอญกรมอาทมาตที่เข้าไปทำราชการลับในพม่านั้นก็ได้รับผลสำเร็จ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 05 มิ.ย. 13, 22:00
ท่านเทาชมพูกล่าวมามีเหตุผลสอดคล้องกับงานวิจัยที่ผมว่าครับ มีหลักฐานอ้างอิงครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 05 มิ.ย. 13, 22:14
ขอบคุณท่าน samun007 ครับที่นำคลิปดีๆมาให้ชม ผมอยากให้สังเกตุที่ดาบที่มีการวนรอบศีระษะ ท่าสีไคลที่ท่านว่าอยู่ในท่าสอดสร้อยมาลาครับ ส่วนบิดบัวบานของอาทมาฏไม่มี แต่ผมอยากให้ดูท่าตลบสิงขรและท่าย้อนฟองสมุทรการวาดดาบหากเข้าใกล้ข้อมือจะคล้ายท่านี้มากครับ และยังมีอีกหลายท่าที่ใช้คล้ายกัน ผมเคยไปก่อสร้างโรงงานที่พม่าหลายปีได้มีโอกาศเห็นการรำดาบที่พม่า คล้ายดาบเหนือแต่ไม่ทั้งหมด ผมถึงว่ามันถูกผสมมาแน่ๆ ส่วนตัวแล้วผมเรียน ดาบเหนือ 32 ขุม มาจากครูหมี พอเจิงได้นิดหน่อย อย่างที่ผมว่ารวมมาจากหลายสาย อย่างมวยไชยาก็เป็นมวยโบราณที่พื้นเพจริงๆไม่ได้มาจากไชยาและน่าจะมีมากว่าธนบุรีแน่ และการที่คนๆหนึ่งจะเรียบเรียงการสอน การเรียกชื่อท่า การคิดกระบวนกลยุทธ์ กลศึก มากขนาดนี้ผมไม่เห็นมีในวิชาดาบสายไหน คิดง่ายๆหากเป็นเราๆท่านๆที่มีสื่อมากมายในตอนนี้ ให้คิดวิชาดาบขึ้นมาใหม่ จะรวมมาหรือลอกเขามา ตั้งเป็นวิชา ผมยังว่ายากที่จะเป็นไปได้ หากจะว่าไปถึงจะไม่ใช่สมเด็จท่านเป็นผู้คิด ผมว่าคนที่คิดก็ไม่ธรรมดาครับ เรื่องครูสุริยาที่ว่านั้นผมก็ทราบแต่ผมก็ทราบเมื่อเร็วๆนี้เหมือนกันครับ

ขอตอบเป็นข้อ ๆ ไปนะครับ

- ส่วนบิดบัวบานของอาทมาฏไม่มี

จริง ๆ บิดบัวบานนี่ แค่เอามือออกไปข้างหนึ่ง ก็จะกลายเป็นท่าตลบสิงขร หรือจะย้อนฟองสมุทรก็ได้แล้วครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะควงดาบในแนวไหน ตั้งหรือนอน

- อย่างมวยไชยาก็เป็นมวยโบราณที่พื้นเพจริงๆไม่ได้มาจากไชยาและน่าจะมีมากว่าธนบุรีแน่

ถ้าว่าตามหลักฐาน ก็สืบได้แค่สมัยพ่อท่านมา วัดทุ่งจับช้าง ไม่เกินสมัย ร.๑ เป็นอย่างมากครับ  เพราะถ้าจะต่อกันให้ยาวไปถึงที่ ครูเขตร์ท่านว่า ท่าครูของมวยไชยาเหมือนกับท่าของคุณหลวงวิศาลดรุณกร (อั้น สาริกบุตร) ซึ่งเป็นศิษย์ของพระไชยโชกชกชนะ เจ้ากรมทนายเลือกหอกขวา ก็ยังไม่มีหลักฐานว่า มวยปล้ำที่ท่านเจ้าคุณได้เรียนมานั้น สืบมาแต่สำนักไหนเหมือนกันครับ

-และการที่คนๆหนึ่งจะเรียบเรียงการสอน การเรียกชื่อท่า การคิดกระบวนกลยุทธ์ กลศึก มากขนาดนี้ผมไม่เห็นมีในวิชาดาบสายไหน คิดง่ายๆหากเป็นเราๆท่านๆที่มีสื่อมากมายในตอนนี้ ให้คิดวิชาดาบขึ้นมาใหม่ จะรวมมาหรือลอกเขามา ตั้งเป็นวิชา ผมยังว่ายากที่จะเป็นไปได้ หากจะว่าไปถึงจะไม่ใช่สมเด็จท่านเป็นผู้คิด ผมว่าคนที่คิดก็ไม่ธรรมดาครับ เรื่องครูสุริยาที่ว่านั้นผมก็ทราบแต่ผมก็ทราบเมื่อเร็วๆนี้เหมือนกันครับ

ผมเชื่อว่า คนโบราณมีความสามารถอยู่เยอะครับ ไม่ขึ้นกับว่าจะอยู่ในสถานะอะไร นายทองดีฟันขาว หรือก็คือ พระยาพิชัยดาบหัก ก็ยังสามารถคิดค้นมวยเฉพาะทางของตน โดยการประยุกต์งิ้วจีน+มวยสายท่าเสา กลายเป็นมวยใหม่เฉพาะตนเองไปได้เลย หรือทางดาบของท่านพระยาพิชัยก็เช่นกัน

มาถึงยุคปัจจุบัน อย่างของสำนักจ้าวราม แต่เดิมเป็นการรวมเอาบรรดาศิษย์ของสำนักดาบใหญ่ ๆ ในกรุงเทพ + ธนบุรี ที่มาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง จากนั้นมีการคิดค้นนำเอาข้อดีข้อด้อย ของดาบแต่ละสายมาผสานกัน กลายเป็นดาบของจ้าวรามไป อานุภาพแค่ไหนผมไม่รู้ครับ ลองถามครูหมีดูก็ได้



กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 05 มิ.ย. 13, 22:19
ขอต่ออีกนิด ไม้รำ ๑๒ ท่าที่คุณยกมานั้น เอาเข้าจริงมีไม่น้อย ที่มาจากสายกรมพละ ลองดูตามนี้ก็ได้ครับ

ไม้ ๑- ๖
http://www.ipest.ac.th/11042554/doc/T.Mana/15%20%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B3%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%20%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%201%20-%206.pdf

และ

ไม้ ๗ - ๑๒
http://www.ipest.ac.th/11042554/doc/T.Mana/16%20%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B3%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%20%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%207%20-%2012.pdf

ซึ่งท่าเหล่านี้ ครู นาค เทพหัสดินทรฯ ท่านเป็นผู้บรรจุตามตำราสายที่ท่านสืบทอดมา คำถามก็คือ ถ้าวิชาดาบอาทมาทเป็นวิชาที่ถูกฉีกหายไป ทำไมท่าไม้รำหลาย ๆ ท่านจึงเหมือนทางดาบสายครูนาคจังครับ ?

สายดาบของครูนาค ก็มาแต่ยุคอยุธยา ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับทางดาบอาทมาทที่มาจากทางสายพิษณุโลกอยู่แล้ว


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 05 มิ.ย. 13, 22:23
นี่ผมยังไม่พูดถึงการฝึกซ้อมตีเป้านะครับ เพราะเท่าที่เคยเห็นมีสายดาบจ้าวราม หรือดาบสายอื่น ๆ ที่ผู้ฝึกสอนเคยได้รับการเรียนดาบจ้าวรามมาก่อน ได้เอาไปประยุกต์เข้ากับทางดาบของตน แม้แต่ดาบสายเหนือของบางครู ตอนแรกไม่มีฝึกฟันเป้าเลย แต่พอบางท่านไปเจอทีหลัง มีฟันเป้าเฉย...................... ไม่ใช่สายครูหมีนะครับ เพราะครูหมีจบดาบจ้าวรามมาก่อนครับ

 ;D ;D ;D


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 05 มิ.ย. 13, 23:40
คือผมเชื่อประการหนึ่งว่าเป็นวิชาที่สมเด็จพระนเรศใช้สอนลูกขุนนางที่เกณฑ์มาฝึกวิชาที่พิษณุโลกเมื่องครั้งทรงเสด็จกลับมาจากการเป็นองค์ประกัน
เหตุผลหนึ่งที่สนับสนุนว่าวิชาดาบที่สำนักดาบอาทมาฏนเรศวรฝึกเป็นวิชาดาบที่ทรงสอน คือ "เป็นวิชาที่ผสมผสานวิชาดาบ หลายวิชาเข้าด้วยกัน เช่นวิชาดาบเหนือ วิชาดาบไต และรวมเข้ากับวิชาดาบของอยุธยา เป็นวิชาดาบที่เราฝึกอยู่ สังเกตุง่ายๆวิชาดาบทางเหนือและพม่าจะเน้น ตัดปาด วิชาดาบของอยุธยาจะเน้นปะทะ แต่อาทมาฏมีทั้งสองวิชานี้ ซึ่งคนที่จะคิดรวมวิชาดาบหลายๆวิชาเข้าเป็นวิชาเดียวกันนั้นผมไม่เห็นจะมีใครไปได้นอกจากสมเด็จพระนเรศ อาจเป็นไปได้มากว่าทรงเรียนวิชาดาบมาจากพม่าโดยที่พระองค์ทรงเป็นวิชาดาบของอยุธยาอยู่ก่อนแล้ว จึงทรงรวมวิชาดาบนี้ขึ้นมาใหม่ แต่การที่วิชาดาบนี้ไม่แพร่หลายไป อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ในแต่ละครั้งนั้นมักฆ่าขุนนางที่จงรักภักดีราชวงศ์เดิมเสียเป็นส่วนมาก จึงทำให้วิชานี้หายไปกับการเปลี่ยนราชวงศ์ แต่ยังมีฝึกอยู่ในกลุ่มคนมอญไม่แพร่หลายออกไป


อย่างที่ผมกล่าวครับ ว่าน่าจะมีการผสมหลายวิชาดาบเข้าด้วยกัน หากสาย ครูนาคเก่าถึงอยุธยา ก็น่าจะคล้ายของครูนาคซึ่งเป็นเหมื่อนแม่บทที่เอาวิชาอื่นมาเสริมให้รัดกุมขึ้น  อย่างท่ารำบางท่าของครูนาคยังไปเหมื่อนกับท่าของดาบเหนือเลยครับ เช่นตัดเทียน


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 05 มิ.ย. 13, 23:51
เรื่องการฝึก ครูมาโนทย์ก็เป็นหนึ่งในครูที่สอนที่เจ้ารามน่ะครับและเป็นครูของครูหมีมาก่อนที่ครูหมีจะมาเรียนดาบอาทมาฏ ส่วนว่าใครเป็นคนคิดเรื่องตีเป้านี้ผมไม่ทราบ

อย่างที่ท่านsamunกล่าว ครูในอดีตต่างก็คิดค้นเป็นทางเฉพาะของคนเอง ไม่แปลกครับที่ดาบก็เป็นวิชาหนึ่งที่ถูกคิดค้นเช่นกัน ครับ

ชักนอกประเด็นไปเยอะ ขออภัยท่านเจ้าของกระทู้ด้วยน่ะครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 06 มิ.ย. 13, 00:05

อย่างที่ผมกล่าวครับ ว่าน่าจะมีการผสมหลายวิชาดาบเข้าด้วยกัน หากสาย ครูนาคเก่าถึงอยุธยา ก็น่าจะคล้ายของครูนาคซึ่งเป็นเหมื่อนแม่บทที่เอาวิชาอื่นมาเสริมให้รัดกุมขึ้น  อย่างท่ารำบางท่าของครูนาคยังไปเหมื่อนกับท่าของดาบเหนือเลยครับ เช่นตัดเทียน

ผมติดใจก็ตรงนี้ล่ะครับ  คือถ้าวิชานี้ได้หายไปนานจริงอย่างที่ว่าไว้  แล้วอยู่ดี ๆ ก็โผล่ขึ้นมา หลังจากที่ทางดาบของครูนาคได้สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นสิบ ๆ ปี ผมว่าก็ยังมีข้อสงสัยอยู่นะครับ

เพราะถ้าครูสุริยาท่านยังสืบทอดอยู่มาได้ แสดงว่าก่อนหน้านั้นก็ต้องเคยมีการเรียนการสอนกันมาก่อน ไม่มากก็น้อย แต่กลายเป็นว่าทางดาบนี้ เป็นเรื่องที่ลับสุดยอดไป ซึ่งมันชวนให้สงสัยครับ

แม้แต่ทางดาบเหนือหลาย ๆ สำนักก็มีการสืบทอดลงมาไม่ขาดช่วงเหมือนกันครับ  

ถ้าจะให้ชัดเจน คงต้องย้อนไปถึงวิชาที่สืบทอดมากับครูสุริยาเลยล่ะครับ ว่าจริง ๆ ท่านสอนอะไรบ้าง เหมือนหรือต่างกับของดาบจ้าวรามหรือไม่

เพราะบุคคลากรที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับทางดาบอาทมาทนี้ นอกจากครูสุริยาแล้ว ทุกท่าน มีพื้นฐานวิชาอื่นมาทั้งสิ้น ครูมาโนชเอง ท่านก็แจ้งไว้ในหนังสือสารคดีว่า ตั้งแต่เยาว์วัยท่านเรียนดาบสายกรมพละมา ก่อนจะมาเจอครูสุริยาอีกที แล้วก็มาต่อดาบจ้าวรามอีกรอบ

เรื่องการผสมวิชา ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติครับ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย เมืองนอกเขาก็ทำกันทั้งนั้น  แต่สำคัญคือต้องให้รู้ชัดเจนก่อนว่า ตัววิชาจริง ๆ มีแค่ไหน  แล้วเสริมอะไรของใครเข้าไป แล้วเสริมตอนช่วงเวลาไหน ตรงนี้ต่างหากครับ คือจุดประสงค์ที่ผมอยากจะสื่อถึง


เรื่องการฝึก ครูมาโนทย์ก็เป็นหนึ่งในครูที่สอนที่เจ้ารามน่ะครับและเป็นครูของครูหมีมาก่อนที่ครูหมีจะมาเรียนดาบอาทมาฏ ส่วนว่าใครเป็นคนคิดเรื่องตีเป้านี้ผมไม่ทราบ

อย่างที่ท่านsamunกล่าว ครูในอดีตต่างก็คิดค้นเป็นทางเฉพาะของคนเอง ไม่แปลกครับที่ดาบก็เป็นวิชาหนึ่งที่ถูกคิดค้นเช่นกัน ครับ

ชักนอกประเด็นไปเยอะ ขออภัยท่านเจ้าของกระทู้ด้วยน่ะครับ

ถ้าเป็นไปได้ ผมไม่แน่ใจว่ารุ่นพี่ดาบจ้าวราม ที่เป็นรุ่นก่อนครูมาโนช ยังอยู่กันมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นไปได้ คงต้องลองสอบถามรุ่นพี่ ๆ อาวุโสเหล่านั้นดูครับว่า จริง ๆ แล้ววิชาเป็นอย่างไรกันแน่ ไม่จำเพาะเจาะจงที่แค่การฟันเป้าเท่านั้นครับ ตัวดาบจ้าวรามเอง แม้แต่วิชาอาทมาท ก็น่าจะมีเค้าลางให้เห็นกันบ้างแน่ ๆ

ซึ่งผมคิดว่า ก็คงน่าจะได้ความจริงไม่มากก็น้อย

การที่วิชาดาบนี้ไม่แพร่หลายไป อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ในแต่ละครั้งนั้นมักฆ่าขุนนางที่จงรักภักดีราชวงศ์เดิมเสียเป็นส่วนมาก จึงทำให้วิชานี้หายไปกับการเปลี่ยนราชวงศ์ แต่ยังมีฝึกอยู่ในกลุ่มคนมอญไม่แพร่หลายออกไป[/b]

ประเด็นเรื่องการไม่เผยแพร่ เพราะขุนนางถูกกวาดล้างตอนผลัดแผ่นดิน  เอาเข้าจริงประเด็นนี้ถือว่าน้ำหนักน้อยนะครับ เพราะตลอดช่วงราชวงศ์พระร่วงในสมัยอยุธยา (สมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ เจ้าฟ้าศรีเสาวภาค พระเจ้าทรงธรรม )

การล้างบางขุนนางจำนวนมากไม่มีเลย ถึงมีก็เทียบไม่ได้กับกรณีของสมัยราชวงศ์ปราสาททองและบ้านพลูหลวง และที่สำคัญทางดาบอาทมาทนี้ ถ้าเป็นอย่างที่คุณบอกว่าเผยแพร่ตั้งแต่พิษณุโลก ที่พิษณุโลกเอง ก็น่าจะต้องมีร่องรอยการสืบทอดวิชาไม่มากก็น้อยแล้ว  ยิ่งมาในอยุธยา ผมเชื่อว่าต่อให้ล้างบางกันขนาดไหน คงไม่ถึงขั้นล้างบางสำนักดาบทิ้งเป็นแน่

ส่วนที่ว่ายังมีอยู่ในกลุ่มคนมอญ  ผมอยากจะบอกว่า ผมตามทางทวน ทางหอก ของคนมอญมาตั้งนาน ยังหาไม่เคยเจอ ยิ่งบอกว่ามีทางดาบอาทมาทของมอญ ซึ่งน่าจะอยู่ในสังกัดของ สมิงนครอินทร เจ้ากรมดาบสองมือ แต่ปัญหาก็คือ ถ้ามีการสืบทอดมาทางนี้ แต่ทำไมที่สามโคก หรือที่ปากลัด พระประแดง ผมก็ไม่เคยได้ยินว่ามีคนสืบทอดดาบอาทมาทของมอญเหมือนกันครับ พยายามหาแล้ว ก็ยังหาไม่ได้เช่นกัน  ใกล้ ๆ ปากลัดก็มีสำนักสมอทอง ซึ่งก็เป็นทางดาบของสำนักใหญ่ในกรุงเทพแห่งหนึ่ง ไม่ใช่อาทมาทแน่ ๆ เลยไปอีกนิดก็เป็นทางดาบอิสลาม ของคณะ สเลมาน ลูกปีกกา
คำถามก็คือ แล้วทางดาบอาทมาท ที่บอกว่าสืบทอดกันในวงคนมอญ หายไปไหนครับ ?

เหล่านี้จึงเป็นที่มาของความสงสัยที่ผมมีครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 06 มิ.ย. 13, 00:34

ทางดาบอิสลาม คณะ สเลมาน ลูกปีกกา
gyUVxOEqhb4

เพลงผู้ชนะสิบทิศเสียด้วย  เวลาไหว้ครู ได้รับอิทธิพลจากขึ้นพรหมสี่หน้าของสำนักดาบสายพุทธเป๊ะ ทางดาบอิสลามในภาคกลางบางที่ ที่ผมเคยเห็น ก็ขึ้นพรหมแบบนี้เหมือนกัน

ลืมไปว่า ยังมีคณะ มงคล หวังศิลป์ อีกเจ้า ที่อยู่แถว ๆ สมุทรปราการ
xT4DEgAu7_8

ส่วนของคณะสมอทอง น่าจะไม่มีคลิปในยูทูปครับ





กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 06 มิ.ย. 13, 20:00
การฆ่าขุนนางไม่จำเป็นต้องล้างบางหรอกครับแค่ฆ่าคนที่เป็นหลักก็จบแล้ว ทุกราชวงศ์ก็เป็นแบบนี้ หากยิ่งมีกลุ่มที่ต่อต้านมากก็ยิ่งต้องฆ่ามากตาม หรือแม้แต่การไม่ให้คุมหน่วยหนึ่งหน่วยใดก็จบเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าถนัดวิชาอะไร สมมุติว่าผมถนัดวิชาดาบของ อ.นาค ผมจะให้คนในหน่วยผมฝึกวิชาอาทมาฏไหมเท่านี้ก็จบแล้วครับ ซึ่งทำให้วิชาหลายๆแขนงศูนย์หายไป แม่แต่ปัจุบันนี้ ในโรงเรียนตำรวจหรือทหาร ยังฝึกวิชาป้องกันตัวของต่างชาติอย่างจริงจังตามกระแสนิยมเพราะคนสอนไปเรียนวิชาอื่นมาวิชามวยไทยไม่ถนัด อย่างนี้มันจะไม่หายได้ยังไงครับ หรือถามใหม่ว่าตำรวจหรือทหารเป็นมวยไทยจริงๆกี่คน

อีกทั้งหากกลุ่มที่ฝึกวิชาดาบนี้เป็นกลุ่มที่เป็นหน่วยเล็กๆ ยิ่งมีคนน้อยกว่าหน่วยอื่นๆ หากเปลี่ยนคนคุมกำลัง หรือเปลี่ยนกลุ่มคนที่รับผิดชอบก็จบเช่นกัน
วิชาหลายๆวิชาที่หายสาบศุนย์ก็มีเยอะไป ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่อนุรักษ์ใว้ก็มักเป็นลูกหลานเพียงไม่กี่คน เอาง่ายๆแค่เรื่องตีดาบตอนนี้ที่ตีได้จริงๆ เหลือยังไม่ถึง 5 เตาเลยครับ ตอนนี้กลายเป็นว่าดาบจากบ้านอรัญญิกเป็นดาบไทยไปไกลทั่วโลก ไอ้ดาบของเรากลายเป็นดาบของพม่าไปซะนั้น

วิชาดาบจริงๆผมว่ามันมีมานานแล้วทั้งนั้น เพียงแต่จะเปิดเผยหรือไม่ หรือมีคนต่อวิชาหรือไม่ อย่างที่คุณตามหาวิชาทวน หากไปเจอขึ้นมาเขาบอกคุณว่ามันเป็นเพลงทวนของมอญ ที่เรียนมาจากปู่แล้วปู่เรียนมาจากปู่อีกที่จะเชื่อเขาไหม มวยไชยาก็เหมือนกันครับ ท่านเจ้ามาท่านก็ไม่ใช่คนถิ่น เราเพียงแต่ไม่ทราบเท่านั้นเองว่าท่านเรียนมาจากไหน แล้วเราเชื่อหรือไม่ว่ามันคือมวยของสยาม ที่เราเชื่อก็เพราะมันมีรากฐานมวยทางเดียวกัน เท่านั้นเอง วิชาอื่นก็เหมื่อนกันครับ ไม่จำเป็นต้องมาโผล่ตอนไหนหรอกครับ ไอ้ที่โผล่มานี้ก็เพราะครูชาติชายท่านอยากจะอนุรักษ์ไว้ อยากจะสนับสนุนครูมาโนทย์ อย่างเดียวกับที่สนับสนุนมวยไชยาของครูเล็กและครูแปรงที่เปืดสอนมวยไชยาที่ตึกWYCA ก่อนที่จะแยกมาตั้งสำนักในปัจจุบัน
นี้ยังดีน่ะครับที่ครูสุริยามีตัวตนจริงๆ ถึงแม้ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว ความจริงประการหนึ่งก็คือวิชามันมีการถ่ายทอดมาก่อนที่ครูมาโนทย์จะเข้ามากรุงเทพฯแน่นอน


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 06 มิ.ย. 13, 20:15
ที่อีกประเด็นหนึ่ง ท่าเท้าของวิชาดาบอาทมาฏมันดันไปคล้ายกับวิชามวยไชยานี้ซิแปลก หรือว่าครูสุริยาไปเรียนมวยไชยามาก่อนที่จะมาสอนครูมาโนทย์ (ท่าเท้าของดาบอาทมาฏมีแบบแผนการวางและการก้าวย่าง คือท่าเท้าสี่ทิศแปดแฉก)
ที่ผมสงสัยอีกประการหนึ่งคือ เราเชื่อว่ามีการสอนวิชาของสมเด็จพระนเรศที่วังจันทร์ แล้ววิชานั้นเป็นวิชาอะไร หรือว่าเป็นวิชาดาบของ ครูนาคที่เราฝึกกันมา(ผมเรียนวิชาดาบของ ครูนาคตอน ม.2) หรือว่าไม่มีการสอนเกิดขึ้น


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 06 มิ.ย. 13, 22:08
การฆ่าขุนนางไม่จำเป็นต้องล้างบางหรอกครับแค่ฆ่าคนที่เป็นหลักก็จบแล้ว ทุกราชวงศ์ก็เป็นแบบนี้ หากยิ่งมีกลุ่มที่ต่อต้านมากก็ยิ่งต้องฆ่ามากตาม หรือแม้แต่การไม่ให้คุมหน่วยหนึ่งหน่วยใดก็จบเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าถนัดวิชาอะไร สมมุติว่าผมถนัดวิชาดาบของ อ.นาค ผมจะให้คนในหน่วยผมฝึกวิชาอาทมาฏไหมเท่านี้ก็จบแล้วครับ ซึ่งทำให้วิชาหลายๆแขนงศูนย์หายไป แม่แต่ปัจุบันนี้ ในโรงเรียนตำรวจหรือทหาร ยังฝึกวิชาป้องกันตัวของต่างชาติอย่างจริงจังตามกระแสนิยมเพราะคนสอนไปเรียนวิชาอื่นมาวิชามวยไทยไม่ถนัด อย่างนี้มันจะไม่หายได้ยังไงครับ หรือถามใหม่ว่าตำรวจหรือทหารเป็นมวยไทยจริงๆกี่คน

อีกทั้งหากกลุ่มที่ฝึกวิชาดาบนี้เป็นกลุ่มที่เป็นหน่วยเล็กๆ ยิ่งมีคนน้อยกว่าหน่วยอื่นๆ หากเปลี่ยนคนคุมกำลัง หรือเปลี่ยนกลุ่มคนที่รับผิดชอบก็จบเช่นกัน
วิชาหลายๆวิชาที่หายสาบศุนย์ก็มีเยอะไป ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่อนุรักษ์ใว้ก็มักเป็นลูกหลานเพียงไม่กี่คน เอาง่ายๆแค่เรื่องตีดาบตอนนี้ที่ตีได้จริงๆ เหลือยังไม่ถึง 5 เตาเลยครับ ตอนนี้กลายเป็นว่าดาบจากบ้านอรัญญิกเป็นดาบไทยไปไกลทั่วโลก ไอ้ดาบของเรากลายเป็นดาบของพม่าไปซะนั้น


สมัยอยุธยานี่ เขาล้างบางคือล้างจริง ๆ นะครับ ดูตัวอย่างต้นแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศก็ได้ครับ ข้าราชการวังหลวงในสมัยนั้น ส่วนใหญ่คือข้าเก่าจากวังหน้าครับ

วิชาจะสูญหาย ไม่ใช่มาจากประเด็นว่าไม่ให้เรียนครับ จริง ๆ มันสูญหายมาจาก

- ครูหวงวิชา ไม่ยอมสอน จนวิชาตายไปกับตัว เรื่องนี้ชัด ๆ ก็ วิชาหุ่นละครเล็ก ที่ถ้าผมจำไม่ผิด อ.โจหลุยส์ ท่านเคยบอกว่า ต้องแอบไปลักจำเอา เพราะครูที่ท่านไปลักจำ ไม่ยอมสอนให้

- ลูกศิษย์ฝึกไม่ถึงขั้น ทำให้วิชาตายไปเรื่อย ๆ

เพราะถ้าจะบอกว่า เอาวิชาใหม่มาบังคับเรียน จะทำให้วิชาเดิมหายไป ป่านนี้ สำนักดาบที่เป็นสำนักดาบภูธร ไม่มีชื่อเสียงเท่าสำนักใหญ่โตในกรุงเทพ+ธนบุรี คงล้มหายตายจากไปหมดแล้ว แม้แต่ของอาทมาทก็เถอะครับ

แต่ที่ยังมีอยู่ได้ เพราะยังมีคนเรียนอยู่ ไม่ได้โดนห้ามอะไรขนาดนั้น

ส่วนเรื่องตำรวจ + ทหาร ปัจจุบัน ผมก็เห็น ครูหมีไปสอนที่ ราบ ๑๑ ไม่ใช่หรือครับ อ.ชาติชาย ก็ไปวางรากฐานอาทมาทไว้ที่ จปร. (แต่แอบงงว่า เข้าไปได้โดยที่ มวยไทยสายเก่าของที่โน่นไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยหรือ ? )



อ้างจาก: นักรบกองอาทมาฏ


วิชาดาบจริงๆผมว่ามันมีมานานแล้วทั้งนั้น เพียงแต่จะเปิดเผยหรือไม่ หรือมีคนต่อวิชาหรือไม่ อย่างที่คุณตามหาวิชาทวน หากไปเจอขึ้นมาเขาบอกคุณว่ามันเป็นเพลงทวนของมอญ ที่เรียนมาจากปู่แล้วปู่เรียนมาจากปู่อีกที่จะเชื่อเขาไหม มวยไชยาก็เหมือนกันครับ ท่านเจ้ามาท่านก็ไม่ใช่คนถิ่น เราเพียงแต่ไม่ทราบเท่านั้นเองว่าท่านเรียนมาจากไหน แล้วเราเชื่อหรือไม่ว่ามันคือมวยของสยาม ที่เราเชื่อก็เพราะมันมีรากฐานมวยทางเดียวกัน เท่านั้นเอง วิชาอื่นก็เหมื่อนกันครับ ไม่จำเป็นต้องมาโผล่ตอนไหนหรอกครับ ไอ้ที่โผล่มานี้ก็เพราะครูชาติชายท่านอยากจะอนุรักษ์ไว้ อยากจะสนับสนุนครูมาโนทย์ อย่างเดียวกับที่สนับสนุนมวยไชยาของครูเล็กและครูแปรงที่เปืดสอนมวยไชยาที่ตึกWYCA ก่อนที่จะแยกมาตั้งสำนักในปัจจุบัน
นี้ยังดีน่ะครับที่ครูสุริยามีตัวตนจริงๆ ถึงแม้ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว ความจริงประการหนึ่งก็คือวิชามันมีการถ่ายทอดมาก่อนที่ครูมาโนทย์จะเข้ามากรุงเทพฯแน่นอน

นั่นล่ะครับ จึงเป็นที่มา ที่ผมยังไม่เชื่อ เพราะผมก็ยังไม่เคยเห็นว่า วิชาจริง ๆ ของครูสุริยาเป็นอย่างไร เนื่องจากที่ผมเห็นก็อย่างที่บอกว่า มาจากรุ่น อ.มาโนช แล้วนั่นเอง


 


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 06 มิ.ย. 13, 22:19
ที่อีกประเด็นหนึ่ง ท่าเท้าของวิชาดาบอาทมาฏมันดันไปคล้ายกับวิชามวยไชยานี้ซิแปลก หรือว่าครูสุริยาไปเรียนมวยไชยามาก่อนที่จะมาสอนครูมาโนทย์ (ท่าเท้าของดาบอาทมาฏมีแบบแผนการวางและการก้าวย่าง คือท่าเท้าสี่ทิศแปดแฉก)
ที่ผมสงสัยอีกประการหนึ่งคือ เราเชื่อว่ามีการสอนวิชาของสมเด็จพระนเรศที่วังจันทร์ แล้ววิชานั้นเป็นวิชาอะไร หรือว่าเป็นวิชาดาบของ ครูนาคที่เราฝึกกันมา(ผมเรียนวิชาดาบของ ครูนาคตอน ม.2) หรือว่าไม่มีการสอนเกิดขึ้น

เอาทีละประเด็นเลยแล้วกันนะครับ

- เนื่องจากผมไม่เคยเห็นวิชาจากตัวครูสุริยาจริง ๆ ผมจึงไม่สามารถบอกได้ว่า ท่าเท้ามันคล้ายกันมากน้อยแค่ไหน ครั้นจะไปกราบเรียนถามก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

- วิชาปัจจุบัน ก็มาจากรุ่นครูมาโนชแล้ว ซึ่งก็อย่างที่ผมบอกไปว่า ด้วยพื้นฐานในหลาย ๆ เรื่องทั้งก่อนจะเรียนดาบอาทมาท + หลังเรียนดาบจ้าวราม มันก็ไม่สามารถจะบ่งบอกอะไรได้ครับว่า ตัววิชามันจะมีการพัฒนาการหรือไม่  อาจจะมีท่าการเคลื่อนไหวมาก่อนอยู่แล้ว  หรือมาปรับปรุงใหม่ หลังจากได้วิชาที่อื่นเพิ่ม ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ผมถึงได้บอกว่า ถ้าจะให้ชัดเจน ต้องดูจากตัวครูสุริยาเท่านั้น

ไม่ต้องถึงมวยไชยาหรอกครับ แค่ดาบจ้าวราม สมัยก่อนที่จะมีมวยไชยาเข้าไปสอนที่ ม. ราม  ก็มีท่าเท้าสี่ทิศ แปดแฉก อยู่แล้ว   เท่าที่เคยได้ยินข่าวมาก็คือ พอมวยไชยาเข้าไป ก็ไม่ได้ทำให้ศิษย์ในสำนักลำบากแต่อย่างใดกับการก้าว นอกจาก แค่วางขุมให้เล็กลงหน่อยเท่านั้นเอง เพราะขุมมวยจะไม่เหมือนขุมดาบ


- เรื่องการสอนวิชาที่วังจันทร์

ถ้าหมายถึงยุคโบราณ ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนครับ  อาจจะเพราะผมรู้น้อยด้วย ถ้าให้เดา ก็เดาว่า เป็นการสันนิษฐานของท่านนักประวัติศาสตร์มากกว่า

ถ้าหมายถึงยุคปัจจุบัน เท่าที่จำได้ ที่มีการประชาสัมพันธ์ จะเริ่มมาจาก อ.อัคนี (ชื่ออาจจะผิด) ท่านไปสอนดาบสายของท่านก่อน ซึ่งท่านก็ไม่ได้บอกว่าเป็นดาบสายไหน เห็นเคยได้ยินว่าจดเหลี่ยมบาง ก็ไม่น่าจะเหมือนของ อ.นาค แล้ว  ถ้าจำไม่ผิด ชื่อสำนักดาบวังหน้า กรุงศรีอยุธยา มั้งครับ




กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 08 มิ.ย. 13, 00:03
พอดีวันนี้รับงานออกแบบอาคารมาเลยขอทำงานก่อนน่ะครับ แต่ขอถามทิ้งท้ายคุณsamun007ครับเนื่องจากเห็นว่าท่านมีความรู้เรื่องทางด้านวิชาการต่อสู้ของไทยเป็นอย่างดี คือเรื่องการพันหมัดที่ท่านปรมาจารย์เขตร เขียนใว้ในหนังสือปริทัศน์มวยไทยว่าการพันหมัด หรือถักหมัด บิดเป็นเกียวให้เป็นก้นหอยที่สันหมัด ท่านว่ามันมีวิธีพันหมัดหรือถักหมัดแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะเห็นมีคนบอกว่าไม่มีคนถักแบบนั้นได้แล้ว มันศุนย์หายไปแล้วเช่นกัน เลยไม่เคยมีคนเห็นว่ามันเป็นอย่างไร อย่างนี้ท่านเชื่อไหมว่ามันมีวิชานี้อยู่  


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 08 มิ.ย. 13, 00:45
พอดีวันนี้รับงานออกแบบอาคารมาเลยขอทำงานก่อนน่ะครับ แต่ขอถามทิ้งท้ายคุณsamun007ครับเนื่องจากเห็นว่าท่านมีความรู้เรื่องทางด้านวิชาการต่อสู้ของไทยเป็นอย่างดี คือเรื่องการพันหมัดที่ท่านปรมาจารย์เขตร เขียนใว้ในหนังสือปริทัศน์มวยไทยว่าการพันหมัด หรือถักหมัด บิดเป็นเกียวให้เป็นก้นหอยที่สันหมัด ท่านว่ามันมีวิธีพันหมัดหรือถักหมัดแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะเห็นมีคนบอกว่าไม่มีคนถักแบบนั้นได้แล้ว มันศุนย์หายไปแล้วเช่นกัน เลยไม่เคยมีคนเห็นว่ามันเป็นอย่างไร อย่างนี้ท่านเชื่อไหมว่ามันมีวิชานี้อยู่  

ถามเรื่องก้นหอย ตอบได้ทันทีครับว่ามีจริง

ที่บอกเพราะเคยเห็นมาแล้ว ในคลิปวิดีโอ ที่เขาโปรโมทมวยไชยาสายหนึ่งทางโทรทัศน์ ก็เห็นทางสายนั้นเขาถักก้นหอยได้ครับ แม้แต่รูปเก่า ๆ ของลูกศิษย์ครูเขตร์บางท่าน เช่น ครูทอง ก็เห็นถักก้นหอยเหมือนกัน  เพราะฉะนั้น ลูกศิษย์สายครูทอง ก็น่าจะทำกันได้เกือบหมด


จะว่าไป นอกจากสายครูทองแล้ว ในหนังสือของ อ. คฤกษ์เดช กันตามระ (ต้องขออภัยถ้าสะกดชื่อท่านผิดนะครับ) ท่านก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับมวยไทยขึ้นมา ในนั้นก็เห็นมีสอนพันหมัดครบทุกประการนี่ครับ เพราะว่า ครูเขตร์ ท่านเคยได้รับเชิญให้ไปสอนมวยไชยาที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาหนึ่ง มีลูกศิษย์ไปเรียนกับท่านไม่น้อยเช่นกัน

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่บอกว่าถักแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรียนมาไม่ครบหรือเปล่า เพราะวิชานี้ เท่าที่รู้ พอเข้าสำนักไปสักระยะ ถ้าถึงเวลาและฝีมือพอตัวจะขึ้นครูได้  ครูก็จะถ่ายทอดวิชาถักแบบนี้มาให้ ไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งสิ้น

ถ้าบอกว่า ทำไม่ได้ และสูญหายไป  พูดแบบนี้ เขียนแบบนี้  ต้องขอยืมสำนวนครูเขตร์มาใช้ล่ะครับ

พูดได้ทำได้จึงเป็นครู

สำหรับผม ทำไม่ได้ครับ เพราะไม่เคยเรียนมาครับ



กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 08 มิ.ย. 13, 01:38
ก่อนนอนครับ ผมอยากให้คุณลองค้นดูใน Google ครับว่าก้นหอยที่ปรมาจารย์เขตรพูดถึง มีศิษย์สายตรง คนไหนที่บิดเกียวเป็นก้นหอยได้บ้าง เพราะผมไม่เคยเลยเห็นแม้แต่ในรูป ที่มีอยู่ทั่วไปก็แค่พันเชือกไม่บิดเกียวเป็นก้นหอย อย่างของครูแปรง  "http://www.muaychaiya.com/did-ancient-muay-thai-fighters-cover-their-gloves-with-broken-glass-%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81-%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD/" " http://www.youtube.com/watch?v=KytGNOoTSS4" แบบนี้เรียกก้นหอยหรือปล่าวครับ ถ้าไม่ใช้แสดงว่า ครูแปรงไม่ใช้ศิษย์ตรงหรือป่าวครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 00:11
ก้นหอยที่หลังหมัดเป็นแบบนี้ใช้หรือป่าวครับที่ท่านเห็น
(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/55_1_1.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/55_1_1.jpg.html) ขอยืมภาพจากเวปไทยอชิรามาครับ ครูทอง หมัดคาดเชือกไม่มีก้นหอย

อันนี้ของครูแปรงครับจากเวปของท่าน
(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/muaychaiya_com2-1.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/muaychaiya_com2-1.jpg.html)
(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/default_muaychaiyakadchuek_1-2.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/default_muaychaiyakadchuek_1-2.jpg.html)

ที่หลังหมัดนี้คือก้นหอยหรือป่าวครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 07:40
อันนี้จากเวป บ้านช่างไทยของครูเล๋ก มีแต่รูปวาดที่จิตนาการเอาว่าเป็นแบบนี้ก้นหอยไปอยู่ที่หลังหมัดแล้วมันจะมีประโยชน์อะไรเวลาชก ครูเล็กเองก็บอกว่าท่านเรียนมาจากครูเขตรโดยตรง ท่านเคยเข้าไปช่วยทำหนังเรื่องไชยา ก็คาดเชือกแบบในรูปที่ท่านวาด แต่ไม่มีก้นหอยซะงั้นมีแต่เชือกที่บิดเกียวคล้องนิ้ว

(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/33_2.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/33_2.jpg.html)
http://www.samkhum.com/tips-of-muay-chaiya-tv-33.html

(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/16.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/16.jpg.html)

รูปนี้ผมตัดมาจาก http://www.youtube.com/watch?v=GCGlsxQncPA ของครูจิระประวัติ แบบประเสริฐ  เป็นก้นหอยแบบนี้หรือป่าวครับ
(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/9-5-25567-06-08.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/9-5-25567-06-08.jpg.html)

รูปนี้จาพนมสุดเท่
(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/0907198GX8088080.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/0907198GX8088080.jpg.html)

แบบไหนครับท่านsamunที่ว่าเคยเห็น และเชื่อว่ามันมีจริง มันคือการถักเชือกคาดหมัดของปรมาจารย์เขตร มันเป็นแบบไหนครับ ก้นหอยที่ปรมาจารย์เขตรเขียนถึง หรือหากไม่เป็นการรบกวน ช่วยลงรูปให้ดูสักนิดได้ไหมครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ ถ้าไม่มีผมก็ไม่สามารถเชื่อท่านได้ว่ามันมีจริง หรือไม่วิชานี้มันก็หายไปแล้ว เพราะที่ผมถามครูผม ครูทองก็ไม่เคยสอนถักก้นหอย ที่เห็นๆก็จับประเด็นในหนังสือปริทัศน์มวยไทย แล้วมาคาดๆให้ดู แล้วบอกว่ามันคือก้นหอยที่ปรมาจารย์เขตรสอนทั้งนั้น


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 09 มิ.ย. 13, 17:06
อันดับแรกเลยนะครับ ต้องบอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผมก่อน ซึ่งสิ่งที่ผมบอกต่อไปนี้ อาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เนื่องจากที่ผมบอกไปว่า ผมไม่เคยเรียนมา เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่รู้ครับ ทำความเข้าใจตรงนี้ก่อนนะครับ

ประการต่อมา ความคิดเห็นของผม ไม่สามารถนำไปอ้างอิงที่ไหนได้ เพราะผมไม่มีความรู้มากพอ และเนื่องจากเท่าที่ผมทราบมา มีความขัดแย้งกันอย่างสูงในบรรดาของผู้ที่อ้างตัวว่าสืบทอดมวยไชยาในปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่อยากจะตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้งในวงการนี้ เนื่องจากผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสักฝ่ายในแวดวงนี้นั่นเอง ผมจะเขียนตามที่ผมเข้าใจเท่านั้น

ทำความเข้าใจตรงนี้ก่อนนะครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 09 มิ.ย. 13, 17:09
เข้าเรื่องครับ

จากท่าที่เห็นมาทั้งหมด 

ของ โทนี่ ตัดทิ้งไปได้เลย เพราะ

 1.  โทนี่ เติบโตมากับสายของผู้แสดงแทน (สตั้นแมน) และไม่เคยเรียนมวยโบราณสักสายมาก่อนเลย

 2.  โทนี่ เคยเรียนที่สถาบันที่เกี่ยวข้องกับการกีฬามาก่อน ซึ่งก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า ในสถาบันการศึกษาด้านนี้ ที่มีอยู่หลายที่นั้น ไม่ได้มีการเรียนการสอนมวยไทยโบราณมาเลย เพราะฉะนั้น ผมจึงอนุมานได้โดยทันทีว่า การคาดเชือกของโทนี่ ไม่ได้สืบสายมวยไชยาแน่นอนครับ




กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 09 มิ.ย. 13, 17:25
 ต่อมา เรื่องการถักก้นหอยในสายมวยไชยานั้น จุดประสงค์ก็คือ เพื่อต้องการใช้เป็นเครื่องป้องกันสันหมัดของนักมวย ซึ่งการถักก้นหอยนั้น จะเป็นส่วนเสริมขึ้นมาต่างหาก  เนื่องจากมวยไชยา เป็นมวยที่เน้นอาวุธในช่วงสั้น โดยหลัก ๆ ก็คือ ศอก     ดังนั้น

การป้องกันส่วนนี้จึงสำคัญมาก การถักก้นหอย บางรายก็ถักต่างหากจากด้ายดิบที่ใช้พันหมัด บางรายถ้าเชือกยาวจะทำเป็นก้นหอยไปเลยก็ได้ แต่จุดประสงค์หลักก็อย่างที่ได้เรียนบอกไปคือ ป้องกันสันหมัดของนักมวย  นี่คือจุดประสงค์หลักของการทำก้นหอยขึ้นมาครับ

ส่วนเสริมก็คือ ก้นหอย จะเป็นเหมือนคมมีดที่ใช้ในการต่อสู้ เพราะถ้าด้ายดิบที่เอาไว้พันหมัดนั้น ผ่านการชุบน้ำข้าว ตามที่ครูเขตร์เขียนไว้ พอด้ายดิบแห้ง จะแข็งมาก แค่ชกเฉี่ยว ๆ ก็เรียกเลือดจากคู่ต่อสู้ได้แล้วครับ

เพราะฉะนั้น จึงเป็นที่มาของอีกความเชื่อผิด ๆ ที่มีคนบอกว่า มวยไทยโบราณชุบกาวโรยแก้ว ซึ่งในความเป็นจริงทำไม่ได้เลย ถ้าจะเป็นแผลก็เพราะมาจากก้นหอยนี้แหละ

ในธรรมเนียมของการตีมวยไชยา ก่อนจะตีมวยกัน ก็ต้องมีการพิสูจน์ให้เห็นว่ามีความบริสุทธิ์ใจของนักชกทั้งสองฝ่าย โดยการนำหมัดที่คาดเชือกแล้วไปถูบริเวณใบหน้า เพราะฉะนั้น ถ้ามีก้นหอยไว้ที่หลังหมัด ก็คงจะมีการบาดหน้าตาของนักมวยแต่ละคนแน่

ถ้าอ้างตามธรรมเนียมการตีมวยสายไชยานี้  ส่วนตัวผมเชื่อว่า ก้นหอย ไม่น่าจะมาถักอยู่หลังมือครับ แต่ต้องอยู่บริเวณสันหมัด หรือส่วนที่จะป้องกันสันหมัดได้เท่านั้น นี่พูดกันตามหลักฐานเท่าที่ผมพอรู้มานะครับ



ส่วนที่ว่า ทำไมบางทีมีก้นหอย ทำไมบางทีไม่มี  ตรงนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เพราะผมก็ไม่ได้ร่ำเรียนมาโดยตรง แต่เดาว่า เนื่องจากมวยไชยานั้น มี กลหนึ่งคือ ทุ่มทับจับหัก  ซึ่งไม่ได้เดินเข้าไปหักดื้อ ๆ แบบของโทนี่แน่นอน และก็ไม่น่าจะเหมือนกับ อายพลอยล้ม ของมวยโคราชแน่ ๆ

ดังนั้น มวยไชยาบางคน อาจจะไม่เน้นการถักก้นหอยก็เป็นได้ เพราะถ้าถักก้นหอย และมีการชุบน้ำข้าว ผมเดาว่า น้ำหนักของด้ายดิบเมื่อผ่านการชุบน้ำข้าวแล้ว นานไป จะทำให้มือของนักมวยไชยาล้าได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อนักมวยแน่ ๆ เพราะฉะนั้น นักมวยบางท่านอาจจะไม่ถักก้นหอยก็เป็นไปได้เหมือนกันครับ  




กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 18:22
พอดีวันนี้รับงานออกแบบอาคารมาเลยขอทำงานก่อนน่ะครับ แต่ขอถามทิ้งท้ายคุณsamun007ครับเนื่องจากเห็นว่าท่านมีความรู้เรื่องทางด้านวิชาการต่อสู้ของไทยเป็นอย่างดี คือเรื่องการพันหมัดที่ท่านปรมาจารย์เขตร เขียนใว้ในหนังสือปริทัศน์มวยไทยว่าการพันหมัด หรือถักหมัด บิดเป็นเกียวให้เป็นก้นหอยที่สันหมัด ท่านว่ามันมีวิธีพันหมัดหรือถักหมัดแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะเห็นมีคนบอกว่าไม่มีคนถักแบบนั้นได้แล้ว มันศุนย์หายไปแล้วเช่นกัน เลยไม่เคยมีคนเห็นว่ามันเป็นอย่างไร อย่างนี้ท่านเชื่อไหมว่ามันมีวิชานี้อยู่  

ถามเรื่องก้นหอย ตอบได้ทันทีครับว่ามีจริง

ที่บอกเพราะเคยเห็นมาแล้ว ในคลิปวิดีโอ ที่เขาโปรโมทมวยไชยาสายหนึ่งทางโทรทัศน์ ก็เห็นทางสายนั้นเขาถักก้นหอยได้ครับ แม้แต่รูปเก่า ๆ ของลูกศิษย์ครูเขตร์บางท่าน เช่น ครูทอง ก็เห็นถักก้นหอยเหมือนกัน  เพราะฉะนั้น ลูกศิษย์สายครูทอง ก็น่าจะทำกันได้เกือบหมด


จะว่าไป นอกจากสายครูทองแล้ว ในหนังสือของ อ. คฤกษ์เดช กันตามระ (ต้องขออภัยถ้าสะกดชื่อท่านผิดนะครับ) ท่านก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับมวยไทยขึ้นมา ในนั้นก็เห็นมีสอนพันหมัดครบทุกประการนี่ครับ เพราะว่า ครูเขตร์ ท่านเคยได้รับเชิญให้ไปสอนมวยไชยาที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาหนึ่ง มีลูกศิษย์ไปเรียนกับท่านไม่น้อยเช่นกัน

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่บอกว่าถักแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรียนมาไม่ครบหรือเปล่า เพราะวิชานี้ เท่าที่รู้ พอเข้าสำนักไปสักระยะ ถ้าถึงเวลาและฝีมือพอตัวจะขึ้นครูได้  ครูก็จะถ่ายทอดวิชาถักแบบนี้มาให้ ไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งสิ้น

ถ้าบอกว่า ทำไม่ได้ และสูญหายไป  พูดแบบนี้ เขียนแบบนี้  ต้องขอยืมสำนวนครูเขตร์มาใช้ล่ะครับ

พูดได้ทำได้จึงเป็นครู

สำหรับผม ทำไม่ได้ครับ เพราะไม่เคยเรียนมาครับ




กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 20:49
ท่านsamun007คราบ ท่านหลงประเด็นหรือป่าวครับ
ผมแค่ถามท่านว่าท่าน
ขอถามทิ้งท้ายคุณsamun007ครับเนื่องจากเห็นว่าท่านมีความรู้เรื่องทางด้านวิชาการต่อสู้ของไทยเป็นอย่างดี คือเรื่องการพันหมัดที่ท่านปรมาจารย์เขตร เขียนใว้ในหนังสือปริทัศน์มวยไทยว่าการพันหมัด หรือถักหมัด บิดเป็นเกียวให้เป็นก้นหอยที่สันหมัด ท่านว่ามันมีวิธีพันหมัดหรือถักหมัดแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะเห็นมีคนบอกว่าไม่มีคนถักแบบนั้นได้แล้ว มันศุนย์หายไปแล้วเช่นกัน เลยไม่เคยมีคนเห็นว่ามันเป็นอย่างไร อย่างนี้ท่านเชื่อไหมว่ามันมีวิชานี้อยู่ 
ท่านก็ตอบว่า

พอดีวันนี้รับงานออกแบบอาคารมาเลยขอทำงานก่อนน่ะครับ แต่ขอถามทิ้งท้ายคุณsamun007ครับเนื่องจากเห็นว่าท่านมีความรู้เรื่องทางด้านวิชาการต่อสู้ของไทยเป็นอย่างดี คือเรื่องการพันหมัดที่ท่านปรมาจารย์เขตร เขียนใว้ในหนังสือปริทัศน์มวยไทยว่าการพันหมัด หรือถักหมัด บิดเป็นเกียวให้เป็นก้นหอยที่สันหมัด ท่านว่ามันมีวิธีพันหมัดหรือถักหมัดแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะเห็นมีคนบอกว่าไม่มีคนถักแบบนั้นได้แล้ว มันศุนย์หายไปแล้วเช่นกัน เลยไม่เคยมีคนเห็นว่ามันเป็นอย่างไร อย่างนี้ท่านเชื่อไหมว่ามันมีวิชานี้อยู่ 

ถามเรื่องก้นหอย ตอบได้ทันทีครับว่ามีจริง

ที่บอกเพราะเคยเห็นมาแล้ว ในคลิปวิดีโอ ที่เขาโปรโมทมวยไชยาสายหนึ่งทางโทรทัศน์ ก็เห็นทางสายนั้นเขาถักก้นหอยได้ครับ แม้แต่รูปเก่า ๆ ของลูกศิษย์ครูเขตร์บางท่าน เช่น ครูทอง ก็เห็นถักก้นหอยเหมือนกัน  เพราะฉะนั้น ลูกศิษย์สายครูทอง ก็น่าจะทำกันได้เกือบหมด


จะว่าไป นอกจากสายครูทองแล้ว ในหนังสือของ อ. คฤกษ์เดช กันตามระ (ต้องขออภัยถ้าสะกดชื่อท่านผิดนะครับ) ท่านก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับมวยไทยขึ้นมา ในนั้นก็เห็นมีสอนพันหมัดครบทุกประการนี่ครับ เพราะว่า ครูเขตร์ ท่านเคยได้รับเชิญให้ไปสอนมวยไชยาที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาหนึ่ง มีลูกศิษย์ไปเรียนกับท่านไม่น้อยเช่นกัน

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่บอกว่าถักแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรียนมาไม่ครบหรือเปล่า เพราะวิชานี้ เท่าที่รู้ พอเข้าสำนักไปสักระยะ ถ้าถึงเวลาและฝีมือพอตัวจะขึ้นครูได้  ครูก็จะถ่ายทอดวิชาถักแบบนี้มาให้ ไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งสิ้น

ถ้าบอกว่า ทำไม่ได้ และสูญหายไป  พูดแบบนี้ เขียนแบบนี้  ต้องขอยืมสำนวนครูเขตร์มาใช้ล่ะครับ

พูดได้ทำได้จึงเป็นครู

สำหรับผม ทำไม่ได้ครับ เพราะไม่เคยเรียนมาครับ




กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 20:56
ผมก็ถามท่านต่อว่า

ก่อนนอนครับ ผมอยากให้คุณลองค้นดูใน Google ครับว่าก้นหอยที่ปรมาจารย์เขตรพูดถึง มีศิษย์สายตรง คนไหนที่บิดเกียวเป็นก้นหอยได้บ้าง เพราะผมไม่เคยเลยเห็นแม้แต่ในรูป ที่มีอยู่ทั่วไปก็แค่พันเชือกไม่บิดเกียวเป็นก้นหอย อย่างของครูแปรง  "http://www.muaychaiya.com/did-ancient-muay-thai-fighters-cover-their-gloves-with-broken-glass-%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81-%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD/" " http://www.youtube.com/watch?v=KytGNOoTSS4" แบบนี้เรียกก้นหอยหรือปล่าวครับ ถ้าไม่ใช้แสดงว่า ครูแปรงไม่ใช้ศิษย์ตรงหรือป่าวครับ
แล้วผมก็แกรงใจท่านเลยหารูปมาลงให้ท่านดูว่ารูปไหนท่านเห็น เพราะผมดูแล้วไม่เห็นมันเป็นก้นหอยเลย ซึ่งหากอ้างจากการตอบของท่าน ที่ว่า
" ก็เห็นทางสายนั้นเขาถักก้นหอยได้ครับ แม้แต่รูปเก่า ๆ ของลูกศิษย์ครูเขตร์บางท่าน เช่น ครูทอง ก็เห็นถักก้นหอยเหมือนกัน  เพราะฉะนั้น ลูกศิษย์สายครูทอง ก็น่าจะทำกันได้เกือบหมด


จะว่าไป นอกจากสายครูทองแล้ว ในหนังสือของ อ. คฤกษ์เดช กันตามระ (ต้องขออภัยถ้าสะกดชื่อท่านผิดนะครับ) ท่านก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับมวยไทยขึ้นมา ในนั้นก็เห็นมีสอนพันหมัดครบทุกประการนี่ครับ เพราะว่า ครูเขตร์ ท่านเคยได้รับเชิญให้ไปสอนมวยไชยาที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาหนึ่ง มีลูกศิษย์ไปเรียนกับท่านไม่น้อยเช่นกัน

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่บอกว่าถักแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรียนมาไม่ครบหรือเปล่า เพราะวิชานี้ เท่าที่รู้ พอเข้าสำนักไปสักระยะ ถ้าถึงเวลาและฝีมือพอตัวจะขึ้นครูได้  ครูก็จะถ่ายทอดวิชาถักแบบนี้มาให้ ไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งสิ้น

ถ้าบอกว่า ทำไม่ได้ และสูญหายไป  พูดแบบนี้ เขียนแบบนี้  ต้องขอยืมสำนวนครูเขตร์มาใช้ล่ะครับ

พูดได้ทำได้จึงเป็นครู"
ผมก็แค่ถามว่ารูปไหนเองครับที่ท่านเห็น


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 21:09
ผมไม่เคยดึงท่านเข้าไปในความขัดแย้งใดๆเลยครับ และเท่าที่ผมทราบคนที่ฝึกมวยไชยาก็รักใคร่กันดี ไม่เห็นแบ่งเป็นอย่างที่ท่านว่าเลย ครูแปรงกับครูเล็กหรือครูชาติชายก็เป็นเพื่อนกัน ที่เคยเรียนเคยสนับสนุนกันมาก่อน ไม่เห็นจะขัดแย้งกันเลย บางทียังเอาลูกศิษย์มาประลองกันด้วยซ่ำไป ไม่เห็นจะมีการขัดแย่งใดๆเลยครับ ส่วนตัวผมเองก็รักและเคารพครูทั้งสองท่าน หรือไม่ว่าจะเป็นครูมวยหรือผู้ฝึกมวยสายไหนผมเคารพทุกท่านครับ ถึงไม่เคยสอนผม ไม่เคยเป็นเพื่อนกันแต่เราก็เป็นคนที่รักหมัดมวยด้วยกันทั้งนั้น ถึงขึ้นชกกัน จบการแข่งขั้นเราก็ขอโทษขอโพยกัน

ผมแค่ถามความคิดเห็นของท่านเพื่อเป็นความรู้เท่านั้นเอง และถามท่านถึงหลักฐานที่สนับสนุนความคิดเห็นของท่านเท่านั้นครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 21:28
มูลเหตุที่ผมกล่าวถึงเรื่องการคาดเชือกเป็นเพราะว่าผมจะดึงประเด็นเข้ามาเทียบเคียงกรณีที่เรากำลังอภิปรายเรื่องดาบอาทมาฏกันอยู่นี้ครับ (ขอโทษท่านadminด้ายน่ะครับที่อาจทำให้ปวดหัวและมีการพาดพิงถึงบุคคลที่สามหลายครั้ง และขอกราบขอโทษทุกท่านใว้ ณ ที่นี้ ด้วย ที่ได้อ้างอิงท่าน แต่มิได้มีเจตนาลบหลู่แต่ประการใด)

เข้าประเด็จครับ

หากทุกท่าน ค้นรูปใน google ด้วยคำว่า "คาดเชือก" จะได้แบบนี้ครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 21:45
รูปแรกคือ
(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/DSCN29103.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/DSCN29103.jpg.html)

รูปที่ 4 คือ
(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/-2.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/-2.jpg.html)

รูปชุดนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เวปนี้ 
http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/lofiversion/index.php?t8253.html
หากท่านมีใจที่เป็นธรรมและมองโดยไม่มีอคติ ที่ว่ามันโพล่มาที่หลังการคาดเชือกของคนอื่นๆ และอ่านข้อความในหนังสือปริทัศน์มวยไทยของปรมาจารย์เขตร
ผมอยากให้ท่านตัดสินอีกทีว่าอันไหนมันน่าจะเป็นการคาดเชือกที่ถูกต้อง


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 21:56
ตามที่ท่านsamun007บอกล่าวว่า
พอดีวันนี้รับงานออกแบบอาคารมาเลยขอทำงานก่อนน่ะครับ แต่ขอถามทิ้งท้ายคุณsamun007ครับเนื่องจากเห็นว่าท่านมีความรู้เรื่องทางด้านวิชาการต่อสู้ของไทยเป็นอย่างดี คือเรื่องการพันหมัดที่ท่านปรมาจารย์เขตร เขียนใว้ในหนังสือปริทัศน์มวยไทยว่าการพันหมัด หรือถักหมัด บิดเป็นเกียวให้เป็นก้นหอยที่สันหมัด ท่านว่ามันมีวิธีพันหมัดหรือถักหมัดแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะเห็นมีคนบอกว่าไม่มีคนถักแบบนั้นได้แล้ว มันศุนย์หายไปแล้วเช่นกัน เลยไม่เคยมีคนเห็นว่ามันเป็นอย่างไร อย่างนี้ท่านเชื่อไหมว่ามันมีวิชานี้อยู่ 

ถามเรื่องก้นหอย ตอบได้ทันทีครับว่ามีจริง

ที่บอกเพราะเคยเห็นมาแล้ว ในคลิปวิดีโอ ที่เขาโปรโมทมวยไชยาสายหนึ่งทางโทรทัศน์ ก็เห็นทางสายนั้นเขาถักก้นหอยได้ครับ แม้แต่รูปเก่า ๆ ของลูกศิษย์ครูเขตร์บางท่าน เช่น ครูทอง ก็เห็นถักก้นหอยเหมือนกัน  เพราะฉะนั้น ลูกศิษย์สายครูทอง ก็น่าจะทำกันได้เกือบหมด


จะว่าไป นอกจากสายครูทองแล้ว ในหนังสือของ อ. คฤกษ์เดช กันตามระ (ต้องขออภัยถ้าสะกดชื่อท่านผิดนะครับ) ท่านก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับมวยไทยขึ้นมา ในนั้นก็เห็นมีสอนพันหมัดครบทุกประการนี่ครับ เพราะว่า ครูเขตร์ ท่านเคยได้รับเชิญให้ไปสอนมวยไชยาที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาหนึ่ง มีลูกศิษย์ไปเรียนกับท่านไม่น้อยเช่นกัน

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่บอกว่าถักแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรียนมาไม่ครบหรือเปล่า เพราะวิชานี้ เท่าที่รู้ พอเข้าสำนักไปสักระยะ ถ้าถึงเวลาและฝีมือพอตัวจะขึ้นครูได้  ครูก็จะถ่ายทอดวิชาถักแบบนี้มาให้ ไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งสิ้น

ถ้าบอกว่า ทำไม่ได้ และสูญหายไป  พูดแบบนี้ เขียนแบบนี้  ต้องขอยืมสำนวนครูเขตร์มาใช้ล่ะครับ

พูดได้ทำได้จึงเป็นครู

สำหรับผม ทำไม่ได้ครับ เพราะไม่เคยเรียนมาครับ



แล้วบอกได้ทันที่ว่าที่เห็นนั้นคือของแท้ ตามเหตุผลที่ท่านกล่าว ว่าได้เห็นจากคลิปวีดีโอ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 22:03
คือท่านเชื่อตามที่ท่านเห็นนั้นเอง ว่ามาจากสายมวยไชยาต้องใช่อยู่แล้ว

ที่ครูให้ลงรูปชุดนี้ก็เพื่อ ต้องการบอกว่ามันมีอยู่จริงยังไม่ได้หายสาบศูนย์ไป และต้องการเผยแพร่ว่าที่ถูกต้องมันคืออะไร ไม่ใช่พันๆแล้วก็บอกว่านี้น่ะคาดเชือกของมวยไชยาสายปรมาจารย์เขตร ศรียาภัย


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 22:35
กลับมาเรื่องวิชาดาบอาทมาฏ
ประเด็นที่ 1 วิชาดาบอาทมาฏเป็นดาบที่มาจากสำนักดาบเจ้ารามหรือไม่ ผมอยากจะเรียนว่า ครูมาโนทย์ เข้าเรียนที่รามคำแหง ปี 2521(ครูแปรงเป็นรุ่นพี่หนึ่งปี)และเข้าร่วมกับผู้ชื่นชอบวิชาดาบและมวยที่นั้น ตั้งชมรมดาบเจ้ารามขึ้นมา เพียง 1 ปี ก็เป็นครูฝึกให้กับรุ่นน้อง ประเด็นนี้ผมว่าสำนักดาบเจ้ารามทราบกันเป็นอย่างดี แม้แต่เพลงมาร์ชของสำนักดาบเจ้ารามยังมีประโยคหนึ่งว่า " ฝึกดาบอาทมาฏเกรียงไกร" ซึ่งทุกวันนี้เมื่อครบรอบวันตายของครูมาโนทย์สำนักดาบเจ้ารามก็ไปทำบุญให้กับ ครูมาโนทย์ ทุกปีมิได้ขาด ผมเสียอีกที่ไม่ได้ไป

ประเด็นที่ 2 เรื่องการสืบทอดวิชาดาบอาทมาฏ ที่ครูมาโนทย์กล่าวว่า ครูสุริยาบอกว่าเป็นวิชาที่ถูกฉีกออกไปก่อนเสียกรุงครั้งที่ 1 เอาไปเก็บใว้ที่พิษณุโลก เป็นที่ยอมรับแล้วว่าครูสุริยามีตัวตนจริง แด่เสียชีวิตแล้วนั้นได้ถ่ายทอดวิชาให้ครูมาโนทย์จริงตามที่ครูมาโนทย์กล่าวใว้ทุกประการ ซึ่งการกล่าวของครูสุริยาเรื่องที่มาของวิชาดาบนั้นเป็นผมๆก็เชื่อครูผม

ประเด็นที่ 3 ที่มาของวิชาดาบ ครูมาโนทย์บอกว่าเรียนมาจากครูสุริยา ท่านsamun007ท่านก็บอกว่าไม่สามารถเชื่อได้ว่าเป็นวิชาเก่าที่ถูกถ่ายทอดกันอย่างลับๆ ผมกล่าวว่าหากผมเรียนวิชาทวนมาจากปู่ผมแล้วปู่ผมบอกผมว่าเรียนมาจากปู่ผมอีกที ท่านก็ว่าไม่เชื่อ หากผมใช้หลักการเดียวกับท่านsamunบ้างละครับ
ว่าที่ครู นาค เรียนวิชามาจากบิดาของท่าน ผมไม่สามารถเชื่อได้ว่ามันเป็นวิชาของคนโบราณจริงเนื่องจากผมก็ไม่ทราบเหมื่อนกันว่าตัววิชาจริงๆก่อนที่ครูนาคได้รับมามันเป็นอย่างไร เป็นวิชาที่มีการถ่ายทอดกันมาจากกรุงเก่า แต่มาโพล่ก่อนวิชาอื่นๆเลยเป็นวิชาแท้ไป แล้ววิชาที่มาโพล่ทีหลังเลยกลายเป็นวิชาที่ดัดแปลงมา
ซึ่งเหมื่อนกับการคาดเชือกที่ท่านเห็นว่าที่มีอยู่ก่อนเป็นวิชาที่ถูกถ่ายทอดมามักจะเป็นสิ่งที่ถูก


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 22:57
ประเด็นที่ 4 เรื่องถ่ายทอดในสายตำรวจและทหาร ที่ผมกล่าวเช่นนั้น ผมไม่ได้มองที่ว่าต้องเป็นวิชาดาบอาทมาฏน่ะครับ ผมอยากเห็นวิชามวยและดาบของไทยถูกเผยเพร่ไป เช่นเดียวกับเจตนารมณ์ของครูนาค ท่านsamunกล่าวว่า"ครูหมีไปสอนที่ ราบ ๑๑ ไม่ใช่หรือครับ อ.ชาติชาย ก็ไปวางรากฐานอาทมาทไว้ที่ จปร. (แต่แอบงงว่า เข้าไปได้โดยที่ มวยไทยสายเก่าของที่โน่นไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยหรือ)" ผมอยากจะกล่าวว่าตอนนั้นท่านทรงกิติเป็น ผบ.โรงเรียนนายร้อย ท่านคงมองไม่ออกมั้งครับว่ามันเป็นวิชาที่ถูกดัดแปลงมาไม่ใช้วิชาโบราณ และเอาไปแสดงต่อหน้าพระที่นั่ง สมเด็จพระเทพฯ ซึ่งท่านก็ทรงรับสั่งกับ ครูชาติชายว่า "อย่าทิ้ง จปร.นะ"ในขณะที่ทรงพระราชทานเหรียญที่ระลึกเมื่อปี46 หรือแม้แต่ National Geographic เข้ามาทำสารคดีเกี่ยวกับศิลปการต่อสู้ในภูมิภาคนี้ได้คัดเลือกเอาวิชาอาทมาฏเป็นวิชาดาบของไทย และคัดเลือกวิชามวยไชยาเป็นตัวแทนวิชามวย พวก ฝรั่งมันคงโง่น่ะครับ ซึ่งครั้งนั้นเราเสียท่าหนุมานเหินหาวให้กับฝรั่งไป ถูกเอาท่าไปแสดงในหนังเรื่อง ทรอย ในรายการคุณพระช่วยเราจึงเอาท่านี้มาแสดง โดยยังปิดท่าอื่นๆใว้เป็นความลับ

 ซึ่งผมก็งงเหมื่อนกันครับว่า ทำไมถึงมาเลือกวิชาดาบอาทมาฏ ทำไมไม่เลือกวิชาดาบสายครูนาค หรือสายพุทไธสรรค์ หรือสายที่โพล่มาก่อนวิชาดาบอาทมาฏ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 09 มิ.ย. 13, 23:03
ผมไม่เคยดึงท่านเข้าไปในความขัดแย้งใดๆเลยครับ และเท่าที่ผมทราบคนที่ฝึกมวยไชยาก็รักใคร่กันดี ไม่เห็นแบ่งเป็นอย่างที่ท่านว่าเลย ครูแปรงกับครูเล็กหรือครูชาติชายก็เป็นเพื่อนกัน ที่เคยเรียนเคยสนับสนุนกันมาก่อน ไม่เห็นจะขัดแย้งกันเลย บางทียังเอาลูกศิษย์มาประลองกันด้วยซ่ำไป ไม่เห็นจะมีการขัดแย่งใดๆเลยครับ ส่วนตัวผมเองก็รักและเคารพครูทั้งสองท่าน หรือไม่ว่าจะเป็นครูมวยหรือผู้ฝึกมวยสายไหนผมเคารพทุกท่านครับ ถึงไม่เคยสอนผม ไม่เคยเป็นเพื่อนกันแต่เราก็เป็นคนที่รักหมัดมวยด้วยกันทั้งนั้น ถึงขึ้นชกกัน จบการแข่งขั้นเราก็ขอโทษขอโพยกัน

ผมแค่ถามความคิดเห็นของท่านเพื่อเป็นความรู้เท่านั้นเอง และถามท่านถึงหลักฐานที่สนับสนุนความคิดเห็นของท่านเท่านั้นครับ

ถ้าคุณรู้มาแค่นี้ก็ดีแล้วล่ะครับ อย่าพยายามไปรู้มากอย่างที่ผมเคยได้ยินมาเลยครับ จะเศร้าใจไปเปล่า ๆ และผมคิดว่า ถ้าคนที่ตามข่าวในวงการนี้ ซึ่งมันแคบมาก ๆ มานาน ก็จะรู้เองล่ะครับ ว่าอะไรเป็นอะไร   ผมถึงต้องออกตัวก่อนว่า ผมจะเขียนเท่าที่ผมรู้เท่านั้น



กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 09 มิ.ย. 13, 23:07
พอดีวันนี้รับงานออกแบบอาคารมาเลยขอทำงานก่อนน่ะครับ แต่ขอถามทิ้งท้ายคุณsamun007ครับเนื่องจากเห็นว่าท่านมีความรู้เรื่องทางด้านวิชาการต่อสู้ของไทยเป็นอย่างดี คือเรื่องการพันหมัดที่ท่านปรมาจารย์เขตร เขียนใว้ในหนังสือปริทัศน์มวยไทยว่าการพันหมัด หรือถักหมัด บิดเป็นเกียวให้เป็นก้นหอยที่สันหมัด ท่านว่ามันมีวิธีพันหมัดหรือถักหมัดแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะเห็นมีคนบอกว่าไม่มีคนถักแบบนั้นได้แล้ว มันศุนย์หายไปแล้วเช่นกัน เลยไม่เคยมีคนเห็นว่ามันเป็นอย่างไร อย่างนี้ท่านเชื่อไหมว่ามันมีวิชานี้อยู่  



ที่บอกเพราะเคยเห็นมาแล้ว ในคลิปวิดีโอ ที่เขาโปรโมทมวยไชยาสายหนึ่งทางโทรทัศน์ ก็เห็นทางสายนั้นเขาถักก้นหอยได้ครับ แม้แต่รูปเก่า ๆ ของลูกศิษย์ครูเขตร์บางท่าน เช่น ครูทอง ก็เห็นถักก้นหอยเหมือนกัน  เพราะฉะนั้น ลูกศิษย์สายครูทอง ก็น่าจะทำกันได้เกือบหมด


จะว่าไป นอกจากสายครูทองแล้ว ในหนังสือของ อ. คฤกษ์เดช กันตามระ (ต้องขออภัยถ้าสะกดชื่อท่านผิดนะครับ) ท่านก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับมวยไทยขึ้นมา ในนั้นก็เห็นมีสอนพันหมัดครบทุกประการนี่ครับ เพราะว่า ครูเขตร์ ท่านเคยได้รับเชิญให้ไปสอนมวยไชยาที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาหนึ่ง มีลูกศิษย์ไปเรียนกับท่านไม่น้อยเช่นกัน

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่บอกว่าถักแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรียนมาไม่ครบหรือเปล่า เพราะวิชานี้ เท่าที่รู้ พอเข้าสำนักไปสักระยะ ถ้าถึงเวลาและฝีมือพอตัวจะขึ้นครูได้  ครูก็จะถ่ายทอดวิชาถักแบบนี้มาให้ ไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งสิ้น

ถ้าบอกว่า ทำไม่ได้ และสูญหายไป  พูดแบบนี้ เขียนแบบนี้  ต้องขอยืมสำนวนครูเขตร์มาใช้ล่ะครับ

พูดได้ทำได้จึงเป็นครู

สำหรับผม ทำไม่ได้ครับ เพราะไม่เคยเรียนมาครับ



ถ้าอ่านความเห็นของผมดี ๆ คุณจะรู้ว่า ผมตอบคำถามตามที่คุณถามมาว่า การถักก้นหอย ยังมีจริงอยู่หรือไม่ คุณถามมาว่ามีจริงไหม เมื่อผมเคยเห็น ผมก็ต้องตอบว่ามีจริงสิครับ จะให้ตอบว่าไม่มีจริงหรือ ?  


เพราะฉะนั้นที่คุณบอกผมว่า

แล้วบอกได้ทันที่ว่าที่เห็นนั้นคือของแท้ ตามเหตุผลที่ท่านกล่าว ว่าได้เห็นจากคลิปวีดีโอ

ผมคิดว่าคุณอาจจะลืมคำถามที่คุณถามผมมาแล้วกระมังครับ ?



===================================================================================


คือท่านเชื่อตามที่ท่านเห็นนั้นเอง ว่ามาจากสายมวยไชยาต้องใช่อยู่แล้ว

ที่ครูให้ลงรูปชุดนี้ก็เพื่อ ต้องการบอกว่ามันมีอยู่จริงยังไม่ได้หายสาบศูนย์ไป และต้องการเผยแพร่ว่าที่ถูกต้องมันคืออะไร ไม่ใช่พันๆแล้วก็บอกว่านี้น่ะคาดเชือกของมวยไชยาสายปรมาจารย์เขตร ศรียาภัย


อย่างที่ผมได้เรียนไปแล้วว่า ผมไม่เคยเรียนการถักก้นหอย เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่มีความรู้ในเรื่องนี้

ผมได้แต่เดา ตามที่ครูเขตร์ท่านเขียนไว้ในหนังสือปริทัศน์มวยไทยเท่านั้น  ธรรมเนียมการเอาหมัด ทั้งส่วนที่เป็นหลังหมัดถูบริเวณใบหน้าก่อนจะตีมวยกันนี้ ถ้ามันไม่มีอยู่จริง ครูเขตร์ท่านจะเขียนไว้หลอก ๆ กระนั้นหรือครับ  ?

ครูเขตร์ท่านเป็นถึงระดับผู้ทรงคุณวุฒิอย่างนั้นแล้ว ท่านไม่น่าจะทำอะไรที่มันไม่ถูกต้องนะครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 23:11
และตั้งแต่กระทู้แรกที่ผมเข้ามาผมก็กล่าวแต่ต้นว่าผมเชื่อ ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนตัวของผมเช่นเดียวกับท่านที่เชื่อเรื่องการคาดเชือก
พอดีเปิดเข้ามาเจอ เลยอยากจะแนะนำงานวิจัยเล่มนี้ครับ "http://www.sac.or.th/databases/ethnicredb/research_detail.php?id=630"

ผมเป็นคนหนึ่งที่ฝึกดาบอาทมาฏครับ ทุกวันนี้เราก็ยังฝึกกันอยู่ที่สำนักฯ
โดยส่วนตัวผมแล้วคำว่าอาทมาตหรือ อื่นๆที่ออกเสียงคล้ายกันผมคิดว่าหมายถึง กองทหารมอญ ครับ แต่วิชาดาบนั้นจากที่ในหนังสือสารคดีนั้นว่าเป็นวิชาดาบที่ถูกฉีกออกแล้วไปเก็บใว้ทางเหนือนั้น ผมมีความเห็นต่างจากนั้น
คือผมเชื่อประการหนึ่งว่าเป็นวิชาที่สมเด็จพระนเรศใช้สอนลูกขุนนางที่เกณฑ์มาฝึกวิชาที่พิษณุโลกเมื่องครั้งทรงเสด็จกลับมาจากการเป็นองค์ประกัน
เหตุผลหนึ่งที่สนับสนุนว่าวิชาดาบที่สำนักดาบอาทมาฏนเรศวรฝึกเป็นวิชาดาบที่ทรงสอน คือ "เป็นวิชาที่ผสมผสานวิชาดาบ หลายวิชาเข้าด้วยกัน เช่นวิชาดาบเหนือ วิชาดาบไต และรวมเข้ากับวิชาดาบของอยุธยา เป็นวิชาดาบที่เราฝึกอยู่ สังเกตุง่ายๆวิชาดาบทางเหนือและพม่าจะเน้น ตัดปาด วิชาดาบของอยุธยาจะเน้นปะทะ แต่อาทมาฏมีทั้งสองวิชานี้ ซึ่งคนที่จะคิดรวมวิชาดาบหลายๆวิชาเข้าเป็นวิชาเดียวกันนั้นผมไม่เห็นจะมีใครไปได้นอกจากสมเด็จพระนเรศ อาจเป็นไปได้มากว่าทรงเรียนวิชาดาบมาจากพม่าโดยที่พระองค์ทรงเป็นวิชาดาบของอยุธยาอยู่ก่อนแล้ว จึงทรงรวมวิชาดาบนี้ขึ้นมาใหม่ แต่การที่วิชาดาบนี้ไม่แพร่หลายไป อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ในแต่ละครั้งนั้นมักฆ่าขุนนางที่จงรักภักดีราชวงศ์เดิมเสียเป็นส่วนมาก จึงทำให้วิชานี้หายไปกับการเปลี่ยนราชวงศ์ แต่ยังมีฝึกอยู่ในกลุ่มคนมอญไม่แพร่หลายออกไป
อีกประการหนึ่งคือชื่อท่าต่างๆ ล้วนเป็นชื่อที่ถูกตั้งมาเป็นอย่างดี มีชื่อไม่ใช่น้อย เช่น ท่าแม่ไม้สามท่า ก็เรียกคลุมไตรภพ ไม้รำ12ท่า ท่าไม้รำสอดสร้อยมาลา เสือลากหาง ฟันเงื้อสีดา หงษ์ปีกหัก ท่ายักษ์ พระรามแผลงศร เชิญเทียนตัดเทียน มอญส่องกล้อง ลับหอกลับดาบ ช้างประสานงา กาล้วงไส้ พญาครุฑยุดนาค และ เรียงหมอน ชื่อท่าไพเราะทั้งนั้น ท่ากลยุทธ์ ท่ากลศึก ท่าตัดข้อตัดเอ็น  27 ท่า และท่าหนุมานเชิญธอีก 48 ท่า มีชื่อท่าทั้งนั้นครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 09 มิ.ย. 13, 23:17
และตั้งแต่กระทู้แรกที่ผมเข้ามาผมก็กล่าวแต่ต้นว่าผมเชื่อ ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนตัวของผมเช่นเดียวกับท่านที่เชื่อเรื่องการคาดเชือก


ถูกครับ ความเชื่อเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้  ปัญหามันมีอยู่ว่า แล้วมีอะไรมารองรับความเชื่อไหมล่ะครับ ?

อย่างเรื่องการคาดเชือก หลักฐานก็ค่อนข้างชัดเจนทั้งในปริทัศน์มวยไทย และ รูปอื่น ๆ ไม่ว่าจะถักก้นหอยผิดหรือถูก แต่สุดท้าย มันก็มีการถักก้นหอยแบบนี้อยู่จริง ผิแต่ว่าใครจะเรียนมาผิดหรือถูกก็ว่ากันไป

แต่การที่ออกมาตั้งสมมติฐานว่า วิชานี้คิดค้นมาแบบนี้ ผมว่าก็ควรจะมีหลักฐานมารองรับด้วยเหมือนกันนะครับ



กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 09 มิ.ย. 13, 23:31
กลับมาเรื่องวิชาดาบอาทมาฏ
ประเด็นที่ 1 วิชาดาบอาทมาฏเป็นดาบที่มาจากสำนักดาบเจ้ารามหรือไม่ ผมอยากจะเรียนว่า ครูมาโนทย์ เข้าเรียนที่รามคำแหง ปี 2521(ครูแปรงเป็นรุ่นพี่หนึ่งปี)และเข้าร่วมกับผู้ชื่นชอบวิชาดาบและมวยที่นั้น ตั้งชมรมดาบเจ้ารามขึ้นมา เพียง 1 ปี ก็เป็นครูฝึกให้กับรุ่นน้อง ประเด็นนี้ผมว่าสำนักดาบเจ้ารามทราบกันเป็นอย่างดี แม้แต่เพลงมาร์ชของสำนักดาบเจ้ารามยังมีประโยคหนึ่งว่า " ฝึกดาบอาทมาฏเกรียงไกร" ซึ่งทุกวันนี้เมื่อครบรอบวันตายของครูมาโนทย์สำนักดาบเจ้ารามก็ไปทำบุญให้กับ ครูมาโนทย์ ทุกปีมิได้ขาด ผมเสียอีกที่ไม่ได้ไป

เท่าที่ผมทราบมา ครูมาโนช น่าจะเป็นรุ่นพี่ครูแปรงนะครับ เพราะท่านเคยให้สัมภาษณ์ไว้สักที่ว่า ท่านเข้าเรียนในชมรมอาวุธไทย ม.ราม ราว ๆ ปี 2524 เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ที่ครูมาโนชจะเป็นรุ่นน้องครูแปรง

ส่วนเรื่องเพลงมาร์ช ตรงนี้ผมไม่ทราบจริง ๆ ครับ ผมรู้เพียงแต่ว่า ในวิชาดาบจ้าวราม เกิดจากลูกศิษย์ของหลาย ๆ สำนักดาบในกรุงเทพ + ฝั่งธนบุรีมาร่วมสังเคราะห์วิชากัน และก็ชมรมจริง ๆ เกิดมาจากการที่ว่า จะมีการแสดงอะไรสักอย่างนี่แหละ และต้องการคิวบู๊ จึงเกิดชมรมศิลปการแสดงขึ้นมา ทีนี้ เมื่อต้องการคิวบู๊ ก็เลยมีการทาบทามให้บรรดานักศึกษา ม. รามในยุคนั้น จัดทำคิวบู๊ขึ้นมา จึงกลายมาเป็นตำนานชมรมอาวุธไทย ม. ราม ครับ  ที่ผมรู้ก็คร่าว ๆ ได้เพียงเท่านี้

ประเด็นที่ 2 เรื่องการสืบทอดวิชาดาบอาทมาฏ ที่ครูมาโนทย์กล่าวว่า ครูสุริยาบอกว่าเป็นวิชาที่ถูกฉีกออกไปก่อนเสียกรุงครั้งที่ 1 เอาไปเก็บใว้ที่พิษณุโลก เป็นที่ยอมรับแล้วว่าครูสุริยามีตัวตนจริง แด่เสียชีวิตแล้วนั้นได้ถ่ายทอดวิชาให้ครูมาโนทย์จริงตามที่ครูมาโนทย์กล่าวใว้ทุกประการ ซึ่งการกล่าวของครูสุริยาเรื่องที่มาของวิชาดาบนั้นเป็นผมๆก็เชื่อครูผม

ตรงนี้ ผมก็เชื่อตามที่คุณบอกมาครับ เพราะในนิตยสาร สารคดี ก็ลงไว้อย่างนั้น ผมไม่ได้ติดใจเรื่องที่ครูสุริยาสอนครูมาโนชครับ

แต่ที่ผมสงสัยก็คือ เนื้อหาที่สอนมามากกว่าว่า สอนอย่างไรแค่ไหน เท่านั้นเอง

ประเด็นที่ 3 ที่มาของวิชาดาบ ครูมาโนทย์บอกว่าเรียนมาจากครูสุริยา ท่านsamun007ท่านก็บอกว่าไม่สามารถเชื่อได้ว่าเป็นวิชาเก่าที่ถูกถ่ายทอดกันอย่างลับๆ ผมกล่าวว่าหากผมเรียนวิชาทวนมาจากปู่ผมแล้วปู่ผมบอกผมว่าเรียนมาจากปู่ผมอีกที ท่านก็ว่าไม่เชื่อ หากผมใช้หลักการเดียวกับท่านsamunบ้างละครับ
ว่าที่ครู นาค เรียนวิชามาจากบิดาของท่าน ผมไม่สามารถเชื่อได้ว่ามันเป็นวิชาของคนโบราณจริงเนื่องจากผมก็ไม่ทราบเหมื่อนกันว่าตัววิชาจริงๆก่อนที่ครูนาคได้รับมามันเป็นอย่างไร เป็นวิชาที่มีการถ่ายทอดกันมาจากกรุงเก่า แต่มาโพล่ก่อนวิชาอื่นๆเลยเป็นวิชาแท้ไป แล้ววิชาที่มาโพล่ทีหลังเลยกลายเป็นวิชาที่ดัดแปลงมา
ซึ่งเหมื่อนกับการคาดเชือกที่ท่านเห็นว่าที่มีอยู่ก่อนเป็นวิชาที่ถูกถ่ายทอดมามักจะเป็นสิ่งที่ถูก

ทำความเข้าใจกันใหม่ก่อนนะครับ

 1. ผมเชื่อว่า ครูสุริยา ท่านได้วิชาอาทมาทมาแน่ ๆ
 2. ครูสุริยาท่านสอนให้ครูมาโนชแน่ ๆ
 3. ก่อนครูมาโนชจะเรียนดาบกับครูสุริยา ท่านเคยเรียนดาบสายกรมพละมาก่อน  ภายหลังครูมาโนชมาเรียนต่อที่ ม. ราม ท่านก็มาเข้า ชมรมอาวุธไทย ม. ราม และได้เรียนดาบจ้าวราม

 4. สิ่งที่ผมสงสัยก็คือ วิชาดาบอาทมาทในยุคแรกที่ครูสุริยาถ่ายทอดให้ครูมาโนช ก่อนที่ครูมาโนชจะเข้ามาเรียนดาบจ้าวรามต่อนั้น เป็นอย่างไร ?  เนื้อหามีแค่ไหน ? ซึ่งผมได้บอกไปแล้วว่า ถ้าอยากจะรู้จริง ๆ ก็คงต้องไปกราบเรียนถามครูสุริยา แต่คงเป็นไปไม่ได้แล้ว

 5. วิชาสาย อ. นาค เท่าที่ผมเห็น ก็เป็นดาบในทางเดียวกับ สำนักดาบอื่น ๆ ในภาคกลาง ไม่ว่าจะสายพุทธหรืออิสลามครับ แนวทางคล้าย  ๆ กัน ขึ้นพรหมนั่ง พรหมยืน แทบไม่แตกต่าง ท่านไหว้ครูก็คล้าย ๆ กัน มันยังพอสืบหาที่มาได้ไม่ยากครับ


 
       ตามนี้ครับ ที่ผมสรุปให้ได้


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 09 มิ.ย. 13, 23:43
ประเด็นที่ 4 เรื่องถ่ายทอดในสายตำรวจและทหาร ที่ผมกล่าวเช่นนั้น ผมไม่ได้มองที่ว่าต้องเป็นวิชาดาบอาทมาฏน่ะครับ ผมอยากเห็นวิชามวยและดาบของไทยถูกเผยเพร่ไป เช่นเดียวกับเจตนารมณ์ของครูนาค ท่านsamunกล่าวว่า"ครูหมีไปสอนที่ ราบ ๑๑ ไม่ใช่หรือครับ อ.ชาติชาย ก็ไปวางรากฐานอาทมาทไว้ที่ จปร. (แต่แอบงงว่า เข้าไปได้โดยที่ มวยไทยสายเก่าของที่โน่นไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยหรือ)" ผมอยากจะกล่าวว่าตอนนั้นท่านทรงกิติเป็น ผบ.โรงเรียนนายร้อย ท่านคงมองไม่ออกมั้งครับว่ามันเป็นวิชาที่ถูกดัดแปลงมาไม่ใช้วิชาโบราณ และเอาไปแสดงต่อหน้าพระที่นั่ง สมเด็จพระเทพฯ ซึ่งท่านก็ทรงรับสั่งกับ ครูชาติชายว่า "อย่าทิ้ง จปร.นะ"ในขณะที่ทรงพระราชทานเหรียญที่ระลึกเมื่อปี46 หรือแม้แต่ National Geographic เข้ามาทำสารคดีเกี่ยวกับศิลปการต่อสู้ในภูมิภาคนี้ได้คัดเลือกเอาวิชาอาทมาฏเป็นวิชาดาบของไทย และคัดเลือกวิชามวยไชยาเป็นตัวแทนวิชามวย พวก ฝรั่งมันคงโง่น่ะครับ ซึ่งครั้งนั้นเราเสียท่าหนุมานเหินหาวให้กับฝรั่งไป ถูกเอาท่าไปแสดงในหนังเรื่อง ทรอย ในรายการคุณพระช่วยเราจึงเอาท่านี้มาแสดง โดยยังปิดท่าอื่นๆใว้เป็นความลับ

 ซึ่งผมก็งงเหมื่อนกันครับว่า ทำไมถึงมาเลือกวิชาดาบอาทมาฏ ทำไมไม่เลือกวิชาดาบสายครูนาค หรือสายพุทไธสรรค์ หรือสายที่โพล่มาก่อนวิชาดาบอาทมาฏ


ที่ผมตอบคุณแบบนี้ เพราะคุณเขียนไว้ว่า


แม่แต่ปัจุบันนี้ ในโรงเรียนตำรวจหรือทหาร ยังฝึกวิชาป้องกันตัวของต่างชาติอย่างจริงจังตามกระแสนิยมเพราะคนสอนไปเรียนวิชาอื่นมาวิชามวยไทยไม่ถนัด อย่างนี้มันจะไม่หายได้ยังไงครับ หรือถามใหม่ว่าตำรวจหรือทหารเป็นมวยไทยจริงๆกี่คน

ผมก็ไม่แน่ใจว่า คุณอาจจะลืมว่าวิชาอาทมาทเองก็ได้รับเกียรติเข้าไปสอนในสถาบันการทหารชั้นสูงครับ ผมเอง ออกจะชื่นชมและดีใจ ที่อย่างน้อย ๆ ก็วิชาไทย ๆ เหล่านี้ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้ในสถาบันการศึกษาด้านการป้องกันประเทศ ผมก็เลยเขียนไปว่า วิชานี้ได้รับเกียรติเข้าไปสอนในสถานที่ไหนบ้าง ก็ตามนี้ล่ะครับ

อย่างในกรณีของ จปร. นั้น เดิม รุ่นโบราณมาก ๆ หน่อย ก็มีมวยไทยโบราณสายของมวยโคราช สอนอยู่ โดย ร้อยโท บัว นิลอาชา หรือที่รู้จักกันในนาม ครูบัว วัดอิ่ม  ครูท่านนอกจากสอนมวยไทยสายโคราชแล้ว ก็ยังเมตตาเขียนตำราวิชาอาวุธไทยโบราณ ก็คือ กระบี่กระบอง ดาบ ฯลฯ ไว้ด้วย

ซึ่ง ถ้าอ้างอิงจากหนังสือสารคดีฉบับที่มีดาบอาทมาท ก็ให้ข้อมูลไว้ว่า ครูบัว ท่านก็ไปเรียนวิชาอาวุธไทยเพิ่มเติมจาก ครูเปลี่ยน เจริญพาศน์ และถ้าจำไม่ผิด ก่อนหน้านั้นก็จะมีคณะกระบี่กระบองจากสายวัดชำนิหัตถการ(วัดสามง่าม) ไปสอนให้อยู่ก่อนแล้ว

ต่อมาภายหลังจากที่ครูบัวท่านเกษียณออกไป  วิชาจากต่างชาติก็เข้ามาแทนที่ของไทย ๆ จนมายุคหลังก็มีมวยไทยของ อ. ท่านหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ได้รับการบรรจุสอนให้กับบรรดานักเรียนนายร้อย เรื่อยมา และชมรมศิลปการต่อสู้ที่ จปร. ก็ได้สอนกันมารุ่นต่อรุ่นครับ 



กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 09 มิ.ย. 13, 23:45
ประเด็นที่ 5 เรื่องการอ้างอิงหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าวิชาดาบไหนๆผมก็ว่ามันไม่มีหลักฐานอ้างอิงทั้งนั้น อย่างวิชาสายพุทไธสรรค์ซึ่งมีการกล่าวถึงอยู่ แต่ตัววิชาจริงๆที่ฝึกกันอยู่ตอนนี้มีหลักฐานไหมครับว่าเป็นวิชาที่สอนกันในสมัยโบราณ ทุกวิชาไม่มีการบันทึกทั้งนั้น ล้วนสอนกันปากต่อปาก ฝึกกันจำกัน แล้วจะเอาหลักฐานมาจากไหนกันล่ะครับ ไม่ใช้แต่วิชาดาบ วิชาอื่นๆก็เป็น ผมจึงดูจากตัววิชาว่ามันมีรากฐานมาจากไหน อะไรผสมอะไร แก่นของวิชาอยู่ที่ไหน มากกว่า แล้วเอามารวมกันกับประวัติศาสตร์ว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ ประเทศเราทำได้เท่านี้ เพราะแค่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ยังผิดๆถูกๆเลยครับ จะหาอะไรกับ ที่เก่ากว่านั้น

โดยส่วนตัวผม หากท่านบอกว่าวิชาดาบของทุกครูที่สอนอยู่ตอนนี้ หรือจะมีวิชาอื่นโพล่ขึ้นมาอีกสักกี่วิชา จะบอกว่าเรียนมาหรือสืบทอดมาอย่างไร แต่ละวิชาแต่ละครูก็มีความเชื่อเป็นของตนเองทั้งนั้นครับ ซึ่งเป็นสิ่งจรรโลงจิตใจของผู้ฝึก เป็นสิ่งเคารพของวิชานั้นๆ ผมเชื่อในสิ่งที่เขาบอกผมครับ ผมเคารพในความเชื่อของครูทุกคน และขอบคุณที่ท่านกรุณาสอนวิชาดาบและมวย ให้วิชาอยู่กับประเทศของเราครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 00:51
ขอตอบเรื่องของครูแปรงก่อนน่ะครับ
ครูแปรง ครูมวยไชยา
เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๑ ที่ ตำบลหนองชิ่ม อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ในวัยเด็กนั้นด้วยเป็นคนต่างจังหวัด ใช้ชีวิตตามแบบเด็กในชนบท จึงมีความถนัดในด้าน ยิงหน้าไม้ ยิงลูกกระสุน ธนู และปืน เพื่อยังชีพ และได้เริ่มเรียน มวย กับคุณพ่อ และคุณอา เมื่อเข้าช่วงวัยรุ่น

พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้เดินทางมาศึกษาต่อ ที่มหาวิทยาลัย รามคำแหง และได้สมัครเข้าเป็นสมาชิก ชมรมต่อสู้ป้องกันตัว แผนกมวยไทย ฝึกซ้อม และขึ้นชกมวย ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย อยู่พักหนึ่ง จึงย้ายมาเรียนที่ แผนก อาวุธไทย “สำนักดาบเจ้าราม” ซึ่งรุ่นพี่ในชมรมฯช่วงนั้น จะมีหลายคนมาจากหลายสำนัก รวมตัวกันในรามฯ เพื่อก่อตั้งเป็น แผนกอาวุธไทย
จากเวปนี้ครับ http://www.muaychaiya.com/kru-preang-master-of-muay-chaiya/
และนี้ครับรูปที่วันเกิดและวันตายของครูมาโนทย์ครับ
(http://i178.photobucket.com/albums/w249/enep_put/DSCN4289.jpg) (http://s178.photobucket.com/user/enep_put/media/DSCN4289.jpg.html)
ชัดไหมครับว่าใครรุ่นพี่ใคร


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 01:19
เรื่องการคาดเชือก ผมไม่ลืมคำถามหรอกครับ คำตอบน่ะผมคาดไว้แล้วว่าท่านจะตอบผมว่ามีจริง แต่ส่วนขยายนี้ซิครับ

ที่บอกเพราะเคยเห็นมาแล้ว ในคลิปวิดีโอ ที่เขาโปรโมทมวยไชยาสายหนึ่งทางโทรทัศน์ ก็เห็นทางสายนั้นเขาถักก้นหอยได้ครับ แม้แต่รูปเก่า ๆ ของลูกศิษย์ครูเขตร์บางท่าน เช่น ครูทอง ก็เห็นถักก้นหอยเหมือนกัน  เพราะฉะนั้น ลูกศิษย์สายครูทอง ก็น่าจะทำกันได้เกือบหมด

ที่ได้น่ะได้แบบไหนครับ ตามรูปที่ผมลงให้ชม นั้นคือที่ท่านเข้าใจว่ามันคือสิ่งที่มีจริง

ท่านยังบอกอีกว่า
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่บอกว่าถักแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรียนมาไม่ครบหรือเปล่า เพราะวิชานี้ เท่าที่รู้ พอเข้าสำนักไปสักระยะ ถ้าถึงเวลาและฝีมือพอตัวจะขึ้นครูได้  ครูก็จะถ่ายทอดวิชาถักแบบนี้มาให้ ไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งสิ้น

ถ้าบอกว่า ทำไม่ได้ และสูญหายไป  พูดแบบนี้ เขียนแบบนี้  ต้องขอยืมสำนวนครูเขตร์มาใช้ล่ะครับ

พูดได้ทำได้จึงเป็นครู

ผมลงรูปให้ชมและผมก็ถามต่อว่า

แบบไหนครับท่านsamunที่ว่าเคยเห็น และเชื่อว่ามันมีจริง มันคือการถักเชือกคาดหมัดของปรมาจารย์เขตร มันเป็นแบบไหนครับ ก้นหอยที่ปรมาจารย์เขตรเขียนถึง หรือหากไม่เป็นการรบกวน ช่วยลงรูปให้ดูสักนิดได้ไหมครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ ถ้าไม่มีผมก็ไม่สามารถเชื่อท่านได้ว่ามันมีจริง หรือไม่วิชานี้มันก็หายไปแล้ว เพราะที่ผมถามครูผม ครูทองก็ไม่เคยสอนถักก้นหอย ที่เห็นๆก็จับประเด็นในหนังสือปริทัศน์มวยไทย แล้วมาคาดๆให้ดู แล้วบอกว่ามันคือก้นหอยที่ปรมาจารย์เขตรสอนทั้งนั้น

ท่านก็ตอบผมว่า
อันดับแรกเลยนะครับ ต้องบอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผมก่อน ซึ่งสิ่งที่ผมบอกต่อไปนี้ อาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เนื่องจากที่ผมบอกไปว่า ผมไม่เคยเรียนมา เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่รู้ครับ ทำความเข้าใจตรงนี้ก่อนนะครับ

ที่ตอบผมตอนแรกหายไปไหนครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 01:35
ที่ผมเอาการคาดเชือกขึ้นมาอย่างที่กล่าว ผมต้องการเทียบเคียงให้เห็นครับ ว่าสิ่งที่เราเห็นมันอาจจะยังไม่ใช่ก็ได้ เพราะก่อนนั้นยังไม่มีรูปที่ผมลงปี2009 ก่อนนั้นมีเวปๆหนึ่งกล่าวถึงการคาดเชือกและบอกว่าไม่มีใครคาดได้แล้ว ศูนย์หายไปแล้ว พอผมลงรูปไป ส่วนนั้นก็ปิดปรับปรุง นี้ดีน่ะครับที่ผมลงรูปไปนานแล้ว จึงยังตอบว่ามีได้ ยังไม่ศูนย์หาย หากเอามาลงตอนนี้ จะสนุกกว่าแต่ก่อนแน่

"อย่างที่ผมได้เรียนไปแล้วว่า ผมไม่เคยเรียนการถักก้นหอย เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่มีความรู้ในเรื่องนี้

ผมได้แต่เดา ตามที่ครูเขตร์ท่านเขียนไว้ในหนังสือปริทัศน์มวยไทยเท่านั้น"

รวมถึงเรื่องที่สำนักดาบเจ้ารามด้วยหรือป่าวครับ นี้คือส่วนหนึ่งจากเวปครูแปรงที่ผมลิงค์ใว้

ครูแปรง จึงได้เรียนวิชา จากหลายสำนัก เช่น ดาบพุทไธสวรรค์, ดาบผดุงสิทธิ์, ดาบ พละ, ดาบพรานนก, ดาบอาทมาต, ดาบอาทมาต เท้าช้าง ปัตตานี, มีดสั้นทอง นับแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ – ๒๕๒๕ จึงจบหลักสูตร หลังจากนั้น ครูแปรง ยังได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จากครูอีกหลายท่าน อาทิเช่น ครูพัน ยารนะ ครูดาบสะบัดชัย, ดาบสายกรมหลวงชุมพร จาก กี คลองตัน, ดาบบ้านไชว อยุธยา, ดาบสายอาจารย์นาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ดาบและมวยในสายอาจารย์กิมเส็ง ซึ่งถือว่าเป็นอาจารย์ปู่ สายมวยทวีสิทธิ์ ในเวลาต่อมาอีกด้วย

ครูแปรงแยกดาบอาทมาฏออกจากดาบสายอืนๆ แสดงว่ามันไม่เหมื่อนกัน ถูกไหมครับ และเรียนในช่วงแรกๆของการเข้าไปเรียนที่กรุงเทพฯของครูมาโนทย์


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 02:33
จากงานวิจัยที่ผมลิงค์ แต่ต้น เอามาอีกที http://www.sac.or.th/databases/ethnicredb/research_detail.php?id=630

Abstract
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับชนชาติมอญซึ่งอพยพเข้ามาในอาณาจักรอยุธยาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช พ.ศ.2127 ถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พ.ศ.2301 การที่ชนชาติมอญอพยพเข้ามาเนื่องจากสงครามระหว่างมอญกับพม่า พระมหากษัตริย์ของอยุธยาโปรดให้ไปตั้งถิ่นฐานตามที่ต่างๆและให้อยู่ดูแลควบคุมกันเอง โดยเน้นศึกษาบทบาทขุนนางมอญทั้งทางด้านทหารและพลเรือนปรากฏว่ามีขุนนางมอญและขุนนางเชื้อสายมอญที่น่าจะมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ขณะนั้น ดังปรากฏบทบาทขุนนางมอญในกองทหารหน้า ทหารเรือ ทหารม้า ทหารอาทมาต และขุนนางมอญยังมีบทบาทด้านพลเรือนด้วยดังจะเห็นได้จากมีขุนนางไทยเชื้อสายมอญได้รับตำแหน่งสำคัญ เช่น ออกญาโกษาธิบดีเหล็ก และออกญาโกษาธิบดีปาน และยังปรากฏว่าขุนนางมอญมีเกี่ยวข้องในการแย่งชิงอำนาจราชบัลังก์หลายครั้งและขุนนางมอญยังร่วมก่อกบฏอีกหลายครั้งด้วยกัน ขุนนางมอญจึงมีบทบาทความสำคัญต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรและราชบัลลังก์ในขณะนั้นอย่างมาก
 
 History of the Group and Community 
จากหลักฐานทางเอกสารของทั้งไทยและต่างประเทศปรากฏว่าในสมัยอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ.2127 สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาจนถึง พ.ศ. 2301 สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มอญจำนวนหนึ่งได้อพยพเข้ามาอยู่ในอาณาจักรอยุธยา เนื่องจากปัญหาการสู้รบระหว่างมอญกับพม่า การสู้รบกับพม่าได้ก่อให้เกิดความทุกข์ยากแก่มอญโดยทั่วไป เนื่องจากเมื่อพม่าเป็นฝ่ายชนะจะปกครองมอญอย่างกดขี่ มอญส่วนหนึ่งจึงพากันอพยพไปยังดินแดนอื่นซึ่งส่วนหนึ่งได้เข้ามายังอาณาจักรอยุธยา การอพยพของมอญเข้ามานั้นมีด้วยกันหลายครั้ง เมื่อมอญเหล่านั้นเข้ามาในอยุธยาพระมหากษัตริย์ทรงอนุญาตให้ตั้งถิ่นฐานอยู่ทั้งในเกาะเมืองและนอกเกาะเมืองอยุธยา การอพยพครั้งแรกในสมัยพระมหาธรรมราชา พ.ศ.2127 ปรากฏว่าให้ไปอยู่บริเวณบ้านใหม่มะขามหย่อง ครั้งที่2 พ.ศ.2136 ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งที่ 3 พ.ศ.2142 ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2175 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2201 ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โปรดเกล้าฯให้ไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านสามโคก วัดตองปุ ชานพระนครด้านทิศเหนือและแถวคลองคูจามชานพระนครด้านทิศใต้ ครั้งที่ 6 - 8 ระหว่าง พ.ศ.2290 - 2301 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (หน้า75-76) มอญเหล่านี้ได้รวมตัวกันเป็นชุมชนที่ยังคงรักษาความเป็นชุมชนมอญไว้ได้ โดยมีการดูแลปกครองกันเองเมื่อมีความขัดแย้งในชุมชนก็จะตัดสินกันเอง โดยมีมอญบางส่วนได้เข้ารับราชการทำหน้าที่ทั้งทางด้านการทหารและพลเรือนดังปรากฏบทบาทของมอญ เช่น บทบาทด้านการทหาร ผู้เขียนเสนอว่าระหว่าง พ.ศ.2127-พ.ศ.2310 ขุนนางมอญมีบทบาทสำคัญกว่ากองทหารต่างชาติอื่นๆ โดยมีส่วนสำคัญในการรบกับพม่าหลายครั้ง โดยการรบกับจะทำหน้าที่เป็นหน่วยรบ ทหารรักษาพระองค์และหน่วยลาดตระเวน ส่วนบทบาทด้านพลเรือนได้แก่ ออกญาโกษาธิบดี (เหล็ก) และออกญาโกษาธิบดี (ปาน) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จด้านเจรจาทางการทูต นอกจากนี้ยังปรากฏว่าขุนนางมอญเข้าไปมีส่วนร่วมในการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองหลายครั้ง และมีการก่อกบฏหลายครั้ง ขุนนางมอญจึงมีบทบาทสำคัญในด้านความมั่นคงของราชอาณาจักรอยุธยาและมีบทบาทสำคัญต่อมาในสมัยธนบุรี
 
Settlement Pattern
จากพงศาวดารชุมชนมอญในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งอาจแบ่งลักษณะการตั้งถิ่นฐานหลักๆ ได้เป็น 2 แบบ คือ ชุมชนมอญภายในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาและชุมชนภายนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา โดยชุมชนภายในเกาะเมือง ได้แก่ ชุมชนพระมหาเถรคันฉ่องซึ่งอยู่แถบวัดนก ตำบลหัวแหลม และวัดค้างคาว ชุมชนของพญาเกียรติ พญาพระราม อยู่ระหว่างวัดขมิ้นและวัดขุนแสน ตำบลบ้านขมิ้น ชุมชนภายนอกเกาะเมืองตามลำดับรัชกาล ได้แก่ ชุมชนมอญสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา อยู่นอกเกาะเมืองทางทิศเหนือ คือชุมชนบ้านใหม่มะขามหย่อง ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มบริเวณทางแยกของแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำสัก ชุมชนมอญสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสันนิษฐานว่าอยู่แถบชานเมือง ชุมชนมอญสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านสามโคก วัดตองปุชานพระนครด้านทิศเหนือและแถวคลองคูจามชานพระนครด้านทิศใต้ นอกจากนี้จากเอกสารอื่นยังปรากฏชุมชนมอญวัดพนัญเชิง ชุมชนมอญวัดโปรดสัตว์ หรือด่านขนอนบ้านตะนาวศรี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะเมืองไปประมาณ 2 กิโลเมตรอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ชุมชนมอญปากคลองขุนละครไชย ซึ่งเป็นคลองที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยา ชุนมอญนอกเกาะเมืองอยุธยาจะตั้งอยู่บริเวณที่แม่น้ำมาบรรจบกันอาจเป็นชุมชนที่ทำหน้าที่ป้องกันข้าศึกที่จะเข้ามารุกรานพระนคร (หน้า32-45)
 Political Organization
มอญที่อยู่ในอาณาจักรอยุธยาจะได้มีการดูแลควบคุมกันเองเมื่อมีความขัดแย้งกันภายในชุมชนก็ให้ตัดสินกันเอง ดังเช่นชาติอื่นๆ ที่เข้ามาในอยุธยา มีมอญบางส่วนได้มีส่วนในการปกครอง กล่าวคือ ได้เข้ารับราชการ ขุนนางมอญมีภาระหน้าที่ของความเป็นขุนนางเหมือนกับขุนนางไทยทั่วไป มอญได้เป็นขุนนางเนื่องจากความสามารถในการรบ ในขณะนั้นอยุธยาต้องสู้รบกับพม่า ซึ่งต่อมาก็มีขุนนางมอญเข้ารับราชการโดยทำหน้าที่ทั้งด้านทหารและพลเรือน 1.บทบาทขุนนางมอญด้านการทหาร ปรากฏในกองทหารหน้าหรือเรียกว่าทหารเดินหน้า ทหารมอญน่าจะเข้าร่วมกับกองทัพอยุธยารบกับพม่าตั้งแต่สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา ซึ่งผู้เขียนสันนิษฐานว่าขุนนางมอญมีส่วนสำคัญในการรบกับพม่าหลายครั้ง ซึ่งมีปรากฏชื่อขุนนางมอญชั้นผู้ใหญ่คือสมิงพระราม นอกจากนี้เหตุการณ์การสู้รบหลายครั้งที่น่าจะเป็นหน้าที่ของขุนนางมอญแม้จะไม่ระบุชื่อเช่นการส่งทหารไปตีเมืองทวายและเมืองตะนาวศรีซึ่งเป็นหัวเมืองมอญ เนื่องจากขุนนางมอญมีความชำนาญในพื้นที่มากกว่า (หน้า 53-57) บทบาทขุนนางมอญด้านทหารเรือ โดยทำหน้าที่ในการควบคุมไพร่หลวงซึ่งเป็นฝีพายเรือพระที่นั่งซึ่งมีฝีพายมอญปรากฏในบันทึกของเดอ ลาลูแบร์ นอกจากนี้การเก็บเรือพระที่นั่งและโรงเรือกระบวนต่างๆไว้ในโรงที่อยูที่วัดตองปุซึ่งเป็นวัดของชุมชนมอญ(หน้า58-63) บทบาทขุนนางมอญด้านทหารม้า สมัยสมเด็จพระนารายณ์มีขุนนางมอญเป็นทหารม้า สังกัดกรมพระอัศวราชขวา(หน้า64) บทบาททหารมอญด้านทหารอาทมาต ทำหน้าที่สืบข่าวสอดแนมข้าศึก(หน้า64-65) 2.บทบาทด้านพลเรือน ได้แก่ ออกญาโกษาธิบดีเหล็ก เป็นขุนนางเชื้อสายมอญทางฝ่ายบิดา ออกญาโกษาธิบดีปาน เป็นน้องชายของออกญาโกษาธิบดีเหล็กซึ่งได้รับยกย่องว่าประสบความสำเร็จด้านเจรจาทางการฑูต ในสมัยพระเจ้าเสือขุนนางเชื้อสายมอญมีอิทธิพลอยู่ในกรมพระคลัง(หน้า 67-71) นอกจากนี้ยังมีขุนนางมอญบทบาทในการเมือง โดยในสมัยอยุธยาช่วงพ.ศ.2171 - 2301 มีการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองถึง 8 ครั้ง ในการช่วงชิงอำนาจแต่ละครั้งจะมีขุนนางมอญร่วมอยู่ด้วย (หน้า81-95) และยังปรากฏว่าขุนนางมอญมีส่วนร่วมในการก่อกบฏด้วยกันหลายครั้ง เช่น กบฏพระธรรมเถียร กบฏมอญโพธิ์สามต้น กบฏมอญเขานางบวช กบฏสุกี้พระนายกอง(หน้า100-105)
 
 

 




กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 02:53
จากเวป อยุธยาศึกษา http://www.ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/166/32/
ใน พ.ศ. ๒๑๑๔ สมเด็จพระมหาธรรมราชาโปรดให้พระนเรศวรขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลกขณะนั้นพระชันษาได้ ๑๖ ปี ด้วยทรงมีนโยบายจะฟื้นฟูหัวเมืองฝ่ายเหนือให้แข็งแรงอย่างเดิม และเพื่อสมานการแตกร้าวระหว่างเมืองเหนือกับชาวเมืองใต้ที่บังเกิดขึ้นเสมอมาให้กลับคืนดีเป็นพวกเดียวกัน เนื่องจากพระนเรศวรทรงสมภพในเมืองพิษณุโลก และทรงเป็นที่คุ้นเคยรักใคร่ของผู้เฒ่าผู้แก่ที่นั่นมาก่อน เมื่อเสด็จกลับมาอยู่ใหม่ไม่น่นนักก็เป็นที่นิยมนับถือของชาวพิษณุโลกทุกหมู่เหล่า ทำให้กิจการต่างๆ ในการปกครองของพระองค์เป็นไปโดยสะดวก นับตั้งแต่การคัดเลือกเด็กหนุ่มลูกหลานข้าราชการเข้ามาฝึกหัดใช้ในราชการปกครองและราชการทหาร ทดแทนข้าราชการประจำตำแหน่งดั้งเดิมที่พระชนกทรงเรียกตัวลงมาใช้สอยเสียในพระนครศรีอยุธยาเกือบหมด การนี้กลับเป็นผลดีแก่พระองค์เป็นอันมาก เพราะเป็นโอกาสให้พระองค์ทรงคัดเลือกคนหนุ่มมารับการฝึกอบรมวิชาตามที่ทรงศึกษาเล่าเรียนมาจากกรุงหงสาวดีได้ตามที่ทรงต้องการ ข้าราชการหนุ่มๆ พวกนี้เองที่ได้เป็นกำลังให้พระองค์ทรงบริหารราชการต่างๆ ลุล่วงไปด้วยดีและรวดเร็วตลอดมา

ที่ผมสงสัยคือวิชาอะไรที่ทรงสอน ตั้งแต่ที่ผมกล่าวในช่วงต้นๆ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 11:19
ครับมาต่อวิชากัน

จากที่ผมอ้างถึง โดยหลักการสงคราม มีคำหนึ่ง  "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" ตามที่เราทราบโดยทั่วกันและยอมรับว่า สมเด็จพระนเรศทรงได้เรียนศาสตร์ต่างๆ มาจากพม่า ผมถามว่าท่านจะไม่เรียนดาบทางพม่ามาบ้างเลยหรอครับ ขณะนั้นอยุธยาเป็นศัตรูกับพม่าและเชียงใหม่ ท่านจะไม่ทรงหาทางแก้วิชาของทางศัตรูเลยหรอครับ ว่าถ้าฟันมาแบบนี้จะรับอย่างไร วิชาดาบอาทมาฏเป็นวิชาที่แก้วิชาดาบ ตัวอย่างที่ออกแสดงในรายการคุณพระช่วยที่เมื่อคู่ต่อสู้รับท่านี้จะแก้ท่ารับอย่างไรเช่น ท่าหนุมานเหินหาวเมื่อคู่ต่อสู้รับเราก็พลิกไปเป็นท่ามะพร้าวห้าวทิ้งดิ่ง หากคนที่เรียนอาทมาฏจะรู้ว่าท่าแก้ท่าหนุมานเหินหาวคือท่าอะไร(ผมเรื่องอะไรจะบอกท่าน) หากท่านอ่านหรือศึกษาดีๆจากหนังสือสารคดีที่ลงวิชาอาทมาฏหรือพี่น้องที่เคยฝึกวิชาดาบอาทมาฏจะเห็นได้ว่าวิชาส่วนใหญ่ของอาทมาฏเป็นการแก้ทางดาบ ซึ่งมีอยู่ในวิชาตัดขัอตัดเอ็น และกลยุทย์กลศึก และ หากที่เป็นศิษย์เอกก็จะเห็นได้จากวิชาหนุมานเชิญธงที่มีถึง 48 ท่า(ครูมาโนทย์มีศิษย์เอก 24 คน ครูชาติชายเป็นคนที่ 1 ครูวุฒิกับครูหมีเป็นลำดับที่เท่าไหร่ผมจำไม่ได้ ผมเป็นคนที่ 22 ลูกผมเป็นคนที่ 24 สุดท้ายพอดีก่อนครูเสียชีวิต) หรือแม้แต่ท่ารำมันก็แค่ท่าที่คล้ายกัน แต่ที่มาของท่าซินี้สำคัญ พูดตามเอกสารที่ท่านsamu007อ้างถึงท่ารำของครูนาค นั้นคือขั้นตอนที่จะมาเป็นท่านั้นๆต่างหากที่มันไม่เหมื่อนกัน

ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดผมจึงคิดว่า อาทมาฏเป็นวิชาที่ทรงรวบรวมขึ้นมาใหม่ ในขณะนั้น เพื่อแก้ทางดาบของวิชาอื่นๆที่เป็นศัตรูของอยุธยา(รวมถึงหัวเมื่องที่คิดจะแยกตัวด้วย) ขณะนี้ยังไม่มีวิชาดาบใดที่เป็นแบบดาบอาทมาฏ นี้คือเหตุของผมที่ผมกล่าวมาตั้งแต่ต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าผมเรียนวิชาดาบที่คิดว่าน่าจะเป็นรากของวิชา ซึ่งแม้จะถูกบังคับให้เรียนวิชาดาบของครูนาคก็เถอะ แต่ผมก็มีความสุขที่ได้เรียนเพราะชอบฟันดาบแต่เด็ก แต่พอมาเรียนวิชาดาบอาทมาฏครูมาโนทย์กลับสอนผมว่า "เรียนทำไมฟันดาบ เราต้องเรียนฟันคน หากฟันให้ดาบโดนกันบ่อยๆ คมดาบมันจะเหลือให้รบไหม" หรือเรียนดาบเหนือกันครูหมี ที่เน้นตัดปาด และความรวดเร็ว
เดี๋ยวมาต่อตอนเย็นครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 15:56
ไปรับงานอาคารมาอีกหลัง เดือนนี้ผมสบายแล้ว ;D ;D ;D

ดาบเหนือที่เน้นตัดปาด และความรวดเร็วด้วยใบดาบที่น้ำหนักเบา ปะทะตรงๆ ไม่ได้เนื่องจากดาบที่เล็กและแคบ ซึ่งมีหลักการเดียวกันกับดาบอาทมาฏ ผมก็เรียนวิชาดาบเหนือ ซึ่งครูหมีก็กรุณาสอนผม ทำให้ผมทราบและเข้าใจวิชาดาบอาทมาฏมากขึ้น ส่วนดาบพม่าผมก็ได้มีโอกาสชมการแสดงต้อนรับ นายทหารของพม่าคนหนึ่ง แล้วคนต้อนรับเอาวิชาดาบมาโชว์ และมีโอกาศได้คุยนอกรอบกับคนแสดง(อ่ะๆผมก็พอพูดพม่าได้นิดหน่อยรับรองว่าหลงทางไม่อดข้าวตายเพราะคนดูแลพูดไทยได้  ;D) และได้แสดงวิชาที่ผมเรียนมาจากครูหมีให้เขาชม เขายังบอกผมว่าคล้ายกัน ผมจึงกล้าที่จะกล่าวว่า ดาบอาทมาฏเป็นวิชาดาบที่ผสม ระหว่างดาบสายอยุธยา กับสายเหนือซึ่งรวมดาบสายกลุ่มชนแถบพม่าเข้าไปด้วย

ส่วนเรื่องการศูนย์หายของวิชา จากงานวิจัยที่ผมอ้างถึง จะเห็นได้ว่ามอญมีบทบาทในราชอาณาจักรอยุธยาไม่น้อยเลย รวมไปถึงการก่อกบฏด้วยหลายครั้ง(จากงานวิจัย) และจากการเปลี่ยนแปลงผู้คาบคุมหน่วยหรือกองนั้นๆ นี้อาจเป็นมูลเหตุที่เมื่อคนกลุ่มนี้ที่ฝึกวิชาแบบนี้ถือว่าไม่ใช่พวก หรือเป็นกบฏหรืออาจจะเป็นอะไรที่เรานึกไม่ถึงก็เป็นได้ จึงทำให้ไม่กล้าที่จะฝึกให้ใครเห็น รวมถึงหากเห็นกลุ่มคนที่ฝึกวิชาแบบนี้คือพวกหน่วยสอดแนม จึงต้องปกปิดใว้ไม่เปิดเผยในลักษณะส่องสุมผู้คนที่ฝึกตามหมู่บ้านต่างๆ เช่นเดียวกับปัจจุบันที่หน่วยทหารบางกลุ่มถูกปกปิดใว้ไม่บอกว่าฝึกอะไรบ้าง ส่วนที่บอกว่าครูไม่ถ่ายถอดวิชาให้จึงหายไปนี้ผมก็ว่าเป็นส่วนน้อย เพราะยังลักจำมาฝึกได้ เหมื่อน อ.โจหลุยซ์


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 16:19
ต่อเรื่องที่มาของวิชาดาบอาทมาฏ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วทั้งผู้ที่สนใจวิชาดาบ และคนที่เคยได้ชมรายการคุณพระช่วย และจากหนังสารคดี คนดีที่ถูกลืม อาทมาฏ 400 รวมไปถึงหนังสือสารคดีฉบับที่ ๒๑๙ เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๖ ว่าวิชานี้ ได้เริ่มมาจากครูสุริยา ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับครูมาโนทย์ตั้งแต่มัธยม  ผมขอยกมาดังนี้ "แล้วครูผมแต่ละท่านจะมาแปลกๆ บางท่านตกรถไฟมา ไม่มีข้าวกิน มาขอกินข้าว ผมก็เอาข้าวให้กิน เช่นครูธำรงค์ ไม่ยอมบอกนามสกุล บอกแต่ว่ามาจากสำนักดาบพุธไธสวรรค์ มากินนอนและฝึกดาบอยู่กับผมถึง ๓ ปีก็ยังไม่รู้นามสกุลของท่านเลย จนกระทั่งท่านจากไป อีกท่านหนึ่งบอกแต่ชื่อสำนัก แต่ไม่ยอมบอกชื่อตัวท่าน ผมจึงเรียกท่านว่าครูมาตลอด ท่านบอกแต่เพียงเป็นหนึ่งในสี่ศิษย์เอกของท่านปรมาจารย์อารีย์ ผู้ก่อตั้งสำนักดาบศรีอยุธย์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนั้นยังมีอีกสองท่านที่ไม่ยอมบอกสำนัก แต่ละท่านได้สั่งสอนผมท่านละหนึ่งปีบ้าง สองปีบ้าง สามปีบ้าง"  
         ครูมาโนทย์กล่าวว่า แม้ตัวเขาเรียนวิชาดาบมาหลายสำนักแล้ว แต่เมื่อได้เห็นวิชาดาบของครูต่างถิ่นท่านหนึ่ง ก็ถึงกับตื่นเต้นและฉงนสนเท่ห์ นี่คือจุดเริ่มต้นที่เขาได้รู้จักวิชาดาบอาทมาฏ
      "ตอนนั้นผมอายุสิบกว่าปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมที่โรงเรียนพุทธชินราช และเป็นครูฝึกดาบสายพุทไธสวรรค์ให้กับนักเรียนรุ่นน้อง ก็ได้ข่าวว่ามีครูดาบฝีมือดีจากทางเหนือมาสอนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์นิโคลัส เมื่อได้ไปดูท่านฝึกซ้อมแล้วรู้สึกเป็นเรื่องที่แปลกมาก ครูท่านนั้นอายุประมาณ ๔๐ กว่า ท่านใช้วิชาดาบสองมือ ที่สำคัญคือท่านเป็นคนขาเป๋ แต่พอฟันดาบท่านมีความรวดเร็วมาก คู่ฝึกซ้อมที่เป็นคนขาดีจะรับก็รับไม่ทัน หนีก็หนีไม่พ้น จะฟันก็ตามท่านไม่ทัน แล้วท่าดาบของท่านก็แปลกๆ มีการยกแข้งยกขา เหินตัว มีการกระโดด การฉาก ผิดกับวิชาสำนักอื่นที่ผมเรียนมา ซึ่งส่วนมากจะวิ่งตรง ถอยตรง"
       "ผมจึงไปฝากตัวเป็นศิษย์ ได้ทราบว่าท่านชื่อครูสุริยา และวิชาดาบสองมือที่ท่านใช้เรียกว่าวิชาดาบอาทมาฏ ผมเรียนดาบกับท่านอยู่สามปี ฝึกซ้อมทั้งกลางวันกลางคืน
ระหว่างนั้นครูสุริยาได้เล่าประวัติของวิชาดาบอาทมาฏให้ฟังว่า เดิมวิชานี้เป็นส่วนหนึ่งของตำราพิชัยสงครามซึ่งถูกฉีกออกก่อนสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก นำไปเก็บรักษาไว้ทางภาคเหนือ แล้วส่งมอบให้กับสมเด็จพระนเรศวรฯ เมื่อพระองค์เสด็จกลับจากเป็นตัวประกันที่พม่า มาครองเมืองพิษณุโลก สมเด็จพระนเรศวรฯได้ใช้วิชานี้ฝึกสอนผู้คนที่ซ่องสุมไว้ เข้าป่าเข้ารกฝึกกัน โดยพระองค์และพระเอกาทศรศทรงเป็นครูฝึกเอง เพื่อเตรียมพร้อมทำสงครามกับพม่า"
ครูมาโนทย์เล่าว่า เขาเรียนดาบอาทมาฏอยู่ ๓ ปีจึงสำเร็จวิชา ประจวบกับจบการศึกษาชั้นมัธยมปลายในปี ๒๕๒๑ จึงลาครูสุริยาเข้ามาศึกษาต่อมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อกลับไปเยี่ยมบ้านอีกครั้ง ก็ไม่พบครูสุริยาแล้ว
      "ครูสุริยาได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่นั้นมาผมไม่ได้พบท่านอีกเลย"
      ขณะเรียนอยู่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ครูมาโนทย์ได้เข้าชมรมกีฬาต่อสู้ป้องกันตัว สำนักดาบเจ้ารามฯ หนึ่งปีต่อมาก็ได้เป็นครูฝึกของสำนัก
      "ผมเป็นครูฝึกสำนักดาบเจ้ารามฯ ถึงปี ๒๕๓๘ แต่ไม่เคยนำวิชาดาบอาทมาฏออกมาเผยแพร่เลย เพราะสำนักดาบเจ้ารามฯ มีวิชาดาบของตนเองอยู่แล้ว การนำวิชาอื่นมาสอนเป็นการไม่บังควร และที่สำคัญ วิชาดาบอาทมาฏเป็นวิชาที่อันตรายมาก ถ้าคนสำมะเลเทเมา หรือคนเกกมะเหรกเกเรเอาวิชานี้ไปใช้ คนอื่นจะเดือดร้อน คนฝึกต้องมีคุณธรรมสูง ผมจึงเก็บวิชานี้ไว้กว่า ๒๐ ปี โดยไม่ได้เผยแพร่ กระทั่งปลายปี ๒๕๓๘ อาจารย์ชาติชาย อัชนันท์ ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอศึกษาวิชานี้ อาจารย์ชาติชายเป็นศิษย์ของท่านปรมาจารย์เขตร ศรียาภัย ปรมาจารย์มวยไชยา ส่วนผมเคยศึกษามวยไชยาจากครูทองหล่อ ยาและ ซึ่งเป็นศิษย์ของปรมาจารย์เขตร จึงถือว่า อาจารย์ชาติชายเป็นรุ่นพี่ทางสายมวย อีกทั้งผมลองสืบประวัติดู พบว่าเป็นคนดี ผมใช้เวลาตรึกตรองอยู่เป็นเดือน จึงตกลงใจถ่ายทอดวิชาดาบอาทมาฏให้อาจารย์ชาติชาย"

นี้คือสิ่งที่มีในหนังสือ สารคดี ฉบับที่ ๒๑๙ เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๖ ซึ่งนับถึงวันนี้ ก็ร่วม 10 ปีมาแล้วหากไม่เป็นความจริง สำนักดาบเจ้าราม จะไม่โวยวายหรือครับท่าน samun007





กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 18:39
แถมยังเคารพครูมาโนทย์ มากมายอย่างที่ผมอ้างถึงว่าสำนักดาบเจ้ารามไปทำบุญให้ครูมาโนทย์ทุกวันครบรอบวันเสียชีวิต ผมเสียอีกที่ไม่ได้ไป

เรื่องครูสริยาที่ว่าหายไป ตอนที่หนังสือออกมาก็ 10 เข้านี้แล้ว มีพี่ท่านหนึ่งเอารูปครูสริยามาให้ครูมาโนทย์ดู ครูก็รับว่าใช่ มันแปลกตรงไหนครับที่มาพบท่านที่หลังจากที่หนังสือออกมา ผมยังว่าดีน่ะครับที่เจอ เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าครูมาโนทย์ได้วิชามาจากครูสุริยาจริงไม่ได้โกหกเลยสักนิด

อีกเรื่องที่ผมเชื่อว่า วิชานี้เป็นวิชาของสมเด็จพระนเรศแน่นอนนั้น เพราะ อย่างที่ผมกล่าวไว้แต่ต้นว่า
 "อีกประการหนึ่งคือชื่อท่าต่างๆ ล้วนเป็นชื่อที่ถูกตั้งมาเป็นอย่างดี มีชื่อไม่ใช่น้อย เช่น ท่าแม่ไม้สามท่า ไม้รำ12ท่า สอดสร้อยมาลา เสือลากหาง ฟันเงื้อสีดา หงษ์ปีกหัก ท่ายักษ์ พระรามแผลงศร เชิญเทียนตัดเทียน มอญส่องกล้อง ลับหอกลับดาบ ช้างประสานงา กาล้วงไส้ พญาครุฑยุดนาค และ เรียงหมอน ชื่อท่าไพเราะทั้งนั้น ท่ากลยุทธ์ ท่ากลศึก ท่าตัดข้อตัดเอ็น  27 ท่า และท่าหนุมานเชิญธอีก 48 ท่า มีชื่อท่าทั้งนั้นครับ"

ท่านsamun007 ก็บอกว่า
"บางท่าก็มาจากกระบี่กระบองกรมพละฯ ของ อ.นาค ฯ , บางท่าก็มาจากชื่อท่ามวยเช่น เสือลากหาง ก็มาจากท่าของมวยไชยา , ท่าเรียงหมอน ท่านี้สายดาบอิสลามในภาคกลางบางสายก็มีท่านี้เหมือนกัน

ซึ่งถ้าจะสืบค้นจริง ๆ อายุก็ไม่น่าเกินยุคธนบุรีเป็นอย่างมากครับ "

ท่าเสือลากหางนี้ก็มีมาแต่โบราณแล้วครับ หากคุณนึกดูดีๆว่าที่สมเด็จพระนเรศทรงสังหารลักไวทำมู โดยการหลอกให้ควบม้าตามแล้วทรงหันกลับมาแทง ลักไวทำมู จริงๆแล้วผมไม่อยากจะบอกท่านเลยน่าจะปล่อยให้ไม่รู้ต่อไป ว่านั้นคือท่าเสือลากหาง เปลี่ยนดาบเป็นทวนลองไปทำท่าดูนะครับท่านsamun007
ที่กล่าวถึงนี้ก็เพราะจะชี้ประเด็นให้ทราบว่าท่านทรงเป็นอัจฉริยะไม่เพียงแค่ดาบ หรือท่านว่าไม่จริง
หรืออย่างทรงปืนก็ทรงได้อย่างอัศจรรย์ จนหนังยังว่าเป็น กฤษฎาภินิหาร  ทรงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง สังหารสุรกรรมา
หรือทรงปืนไล่ตามพระยาจีนจันตุ  เหตุการณ์เหล่าท่านเชื่อหรือไม่ว่าเกิดขึ้นจริง
หาอะไรกับวิชาดาบสักวิชาที่จะทรงประยุกต์ ขึ้นมาเพื่อให้เหล่าทหารๆได้ใช้
คุณยังกล่าวในทำนองว่า
“ผมติดใจก็ตรงนี้ล่ะครับ  คือถ้าวิชานี้ได้หายไปนานจริงอย่างที่ว่าไว้  แล้วอยู่ดี ๆ ก็โผล่ขึ้นมา หลังจากที่ทางดาบของครูนาคได้สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นสิบ ๆ ปี ผมว่าก็ยังมีข้อสงสัยอยู่นะครับ
เพราะถ้าครูสุริยาท่านยังสืบทอดอยู่มาได้ แสดงว่าก่อนหน้านั้นก็ต้องเคยมีการเรียนการสอนกันมาก่อน ไม่มากก็น้อย แต่กลายเป็นว่าทางดาบนี้ เป็นเรื่องที่ลับสุดยอดไป ซึ่งมันชวนให้สงสัยครับ

แม้แต่ทางดาบเหนือหลาย ๆ สำนักก็มีการสืบทอดลงมาไม่ขาดช่วงเหมือนกันครับ 

ถ้าจะให้ชัดเจน คงต้องย้อนไปถึงวิชาที่สืบทอดมากับครูสุริยาเลยล่ะครับ ว่าจริง ๆ ท่านสอนอะไรบ้าง เหมือนหรือต่างกับของดาบจ้าวรามหรือไม่

เพราะบุคคลากรที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับทางดาบอาทมาทนี้ นอกจากครูสุริยาแล้ว ทุกท่าน มีพื้นฐานวิชาอื่นมาทั้งสิ้น ครูมาโนชเอง ท่านก็แจ้งไว้ในหนังสือสารคดีว่า ตั้งแต่เยาว์วัยท่านเรียนดาบสายกรมพละมา ก่อนจะมาเจอครูสุริยาอีกที แล้วก็มาต่อดาบจ้าวรามอีกรอบ

เรื่องการผสมวิชา ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติครับ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย เมืองนอกเขาก็ทำกันทั้งนั้น  แต่สำคัญคือต้องให้รู้ชัดเจนก่อนว่า ตัววิชาจริง ๆ มีแค่ไหน  แล้วเสริมอะไรของใครเข้าไป แล้วเสริมตอนช่วงเวลาไหน ตรงนี้ต่างหากครับ คือจุดประสงค์ที่ผมอยากจะสื่อถึง”

คุณกำลังจะบอกผมว่า
“ครูผมผสมวิชาดาบสายกรมพละ รวมกับดาบที่ครูสุริยาสอน แล้วมารวมกับดาบเจ้ารามอีกรอบ”  อ่านดูแล้วรู้สึกว่าคุณกำลังจะบอกว่าครูผมก็ลอกวิชาคนอื่นมาแล้วบอกว่าเป็นวิชาดาบอาทมาฏ"
หากเป็นผมอยากจะบอกว่าครูมาโนทย์ท่านควรได้คำว่าปรมาจารย์ทางดาบ หรือมอบปริญญา ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ให้ท่านเลยครับ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครทำได้  แต่ครูผมพูดตามที่เป็นจริง นี้แหละที่ผมเคารพท่านหมดใจ



กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 20:02
ผมถึงต้องแสดงกลยุทธ์วิชาดาบอาทมาฏให้คุณเห็น และรู้จักวิชานี้มากขึ้น

ซึ่งผมใช้วิชานี้กับคุณตั้งแต่ผมถามเรื่องทวนแล้วครับ  เพื่อสั่งสอนนักวิชาการแบบคุณ ที่ชอบเขียนแบบรู้ไม่จริงแล้วเดาตามที่เขาเล่า ไม่เคยตรวจสอบดูว่าจริงเท็จอย่างไร ไม่ว่าจะเรื่องการคาดเชือก หรือเรื่องที่สำนักดาบเจ้าราม หรือแม้แต่เรื่องอื่นๆ คุณก็ชอบเขียนว่า เท่าที่ทราบมาคร่าว ๆ  หรือ เท่าที่ทราบมา หรือ เคยได้ยินมา

ที่ผมใช้วิชาดาบอาทมาฏกับคุณคือ  กลนเรศวรล้อมศึก ที่ครูมาโนทย์ใช้  7 รุม 1   ซึ่งจริงๆแล้วเป็น 1 รุม 7 ในรายการคุณพระช่วย กลนี้วางกลง่ายๆให้คู่ต่อสู้เข้าใจว่าจะฟันไปทางหนึ่ง แล้วเข้าโจมตีอีกทางหนึ่ง

สมมุติว่าการถกประเด็นนี้เป็นการปะลองดาบ
ผมก็เปิดประเด็นทวนให้คุณฟันมาในทางนั้น แล้วผมก็เพียงหลบเล็กน้อยไม่ตอบโต้
แล้วผมก็เปิดประเด็นการคาดเชือกอีก ให้คุณฟันลงมา แบบสบายใจว่าข้านี้แน่มากมาย ตอบได้ทันที่พร้อมมีหลักการว่าเคยเห็นมาแล้ว

และแล้วผมก็ใช้ท่าเสือลากหางสะบัดดาบกลับมาที่คุณ

ประเด็นทวนหากคุณกล่าวว่า ผมก็ต้องขอดูก่อนว่าวิชาเป็นอย่างไร อย่างนี้ผมฟันคุณไม่ได้ แต่คุณพูดเต็มๆว่าคุณไม่เชื่อในทันที่ที่เปิดประเด็น ไม่ได้ดูที่ตัวเนื้อหาจริงๆของมันว่ามันเป็นจริงมากน้อยเพียงใด ไม่มีการพินิจพิเคราะห์ดูก่อนว่าเป็นอย่างไร ไม่ใจแคบไปหน่อยหรอครับ

ประเด็นการคาดเชือกก็เช่นกัน คุณก็ไม่ได้วิเคราะห์ดูก่อนเลยว่ามันจริงเท็จประการใด ได้แต่เดาๆตามหนังสือปริทัศน์มวยไทย ของปรมาจารย์เขตร  

ประเด็นของดาบเจ้ารามหากคุณกลับไปอ่านสักนิดคุณจะไม่หลงกลนี้ ได้แต่บอกว่า ”เท่าที่ผมทราบมา” ซึ่งมันผิดแบบเห็นๆตามหลักฐาน
ซึ่งเช่นเดียวกันกลับการที่คุณวิเคราะห์ แบบนักวิชาการ ที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้เห็นถึงข้อเท็จจริงได้แต่บอกว่า เท่าที่ทราบมาคร่าว ๆ  หรือ เท่าที่ทราบมา หรือ เคยได้ยินมา แล้วบอกว่า “ผมได้แต่เดา” “ผมถึงต้องออกตัวก่อนว่า ผมจะเขียนเท่าที่ผมรู้เท่านั้น” ที่คุณกล่าวมาเคยกลับไปตรวจสอบหรือป่าวครับว่าผิดหรือไม่


ผมยกประเด็นตำรวจทหาร เพื่อให้คุณเปิดช่อง ให้ผมได้โม้เรื่องนี้ หรืออีกทีนั้นคือผมจะโชว์ท่าสวยๆก่อนที่จะลงดาบคุณ ว่าวิชาดาบอาทมาฏดีเพียงใด ว่าแม้แต่สมเด็จพระเทพฯยังทรงตรัสว่า "อย่าทิ้ง จปร.นะ"ในขณะที่ทรงพระราชทานเหรียญที่ระลึกเมื่อปี46 หรือแม้แต่ National Geographic เข้ามาทำสารคดีเกี่ยวกับศิลปการต่อสู้ในภูมิภาคนี้ได้คัดเลือกเอาวิชาอาทมาฏเป็นวิชาดาบของไทย และคัดเลือกวิชามวยไชยาเป็นตัวแทนวิชามวย”


นี้ไงล่ะครับวิชาดาบอาทมาฏ ที่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์หากรู้จักพลิกแพลง


ลงดาบ ท่าหนุมานเชิญธง

สังคมแห่งนี้ เป็นสังคมวิชาการ เข้ามากระทู้แรก ผมก็อ้างถึงงานวิจัย คูณก็เข้ามาพูดลักษณะดูแคลนครูผม  การดูแคลนวิชาของผู้อื่นนั้น มันดีตรงไหนครับ เพื่อให้คนอื่นตกต่ำแย่ลงแล้วคุณได้เป็นผู้รู้หรือครับ การที่คุณอ้างแต่ละครั้งก็พยายามยกสิ่งต่างๆมาประกอบ คุณเคยศึกษาจริงๆหรือไม่ ผมก็ไม่รู้ว่าคุณเรียนวิชาดาบอะไรมา แต่ผมรู้อย่างหนึ่งว่าคุณได้แต่ดูแล้ววิจารณ์เท่านั้น ไม่ได้ลงไปเรียนจริงๆ ไม่ได้พินิจพิเคราะห์อย่างถ่องแท้ด้วยใจเป็นธรรม นักวิชาการแบบนี้ประเทศมันถึงเจริญยากไงครับ คำว่า เท่าที่ทราบมาคร่าว ๆ  หรือ เท่าที่ทราบมา หรือ เคยได้ยินมา ของคุณมันบอกครับว่ามั่วไม่รู้จริงแต่อยากจะวิจารณ์






กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 10 มิ.ย. 13, 21:25
ต่อเรื่องที่มาของวิชาดาบอาทมาฏ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วทั้งผู้ที่สนใจวิชาดาบ และคนที่เคยได้ชมรายการคุณพระช่วย และจากหนังสารคดี คนดีที่ถูกลืม อาทมาฏ 400 รวมไปถึงหนังสือสารคดีฉบับที่ ๒๑๙ เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๖ ว่าวิชานี้ ได้เริ่มมาจากครูสุริยา ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับครูมาโนทย์ตั้งแต่มัธยม  ผมขอยกมาดังนี้ "แล้วครูผมแต่ละท่านจะมาแปลกๆ บางท่านตกรถไฟมา ไม่มีข้าวกิน มาขอกินข้าว ผมก็เอาข้าวให้กิน เช่นครูธำรงค์ ไม่ยอมบอกนามสกุล บอกแต่ว่ามาจากสำนักดาบพุธไธสวรรค์ มากินนอนและฝึกดาบอยู่กับผมถึง ๓ ปีก็ยังไม่รู้นามสกุลของท่านเลย จนกระทั่งท่านจากไป อีกท่านหนึ่งบอกแต่ชื่อสำนัก แต่ไม่ยอมบอกชื่อตัวท่าน ผมจึงเรียกท่านว่าครูมาตลอด ท่านบอกแต่เพียงเป็นหนึ่งในสี่ศิษย์เอกของท่านปรมาจารย์อารีย์ ผู้ก่อตั้งสำนักดาบศรีอยุธย์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนั้นยังมีอีกสองท่านที่ไม่ยอมบอกสำนัก แต่ละท่านได้สั่งสอนผมท่านละหนึ่งปีบ้าง สองปีบ้าง สามปีบ้าง"  
    

    ครูมาโนทย์กล่าวว่า แม้ตัวเขาเรียนวิชาดาบมาหลายสำนักแล้ว แต่เมื่อได้เห็นวิชาดาบของครูต่างถิ่นท่านหนึ่ง ก็ถึงกับตื่นเต้นและฉงนสนเท่ห์ นี่คือจุดเริ่มต้นที่เขาได้รู้จักวิชาดาบอาทมาฏ
      "ตอนนั้นผมอายุสิบกว่าปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมที่โรงเรียนพุทธชินราช และเป็นครูฝึกดาบสายพุทไธสวรรค์ให้กับนักเรียนรุ่นน้อง ก็ได้ข่าวว่ามีครูดาบฝีมือดีจากทางเหนือมาสอนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์นิโคลัส เมื่อได้ไปดูท่านฝึกซ้อมแล้วรู้สึกเป็นเรื่องที่แปลกมาก ครูท่านนั้นอายุประมาณ ๔๐ กว่า ท่านใช้วิชาดาบสองมือ ที่สำคัญคือท่านเป็นคนขาเป๋ แต่พอฟันดาบท่านมีความรวดเร็วมาก คู่ฝึกซ้อมที่เป็นคนขาดีจะรับก็รับไม่ทัน หนีก็หนีไม่พ้น จะฟันก็ตามท่านไม่ทัน แล้วท่าดาบของท่านก็แปลกๆ มีการยกแข้งยกขา เหินตัว มีการกระโดด การฉาก ผิดกับวิชาสำนักอื่นที่ผมเรียนมา ซึ่งส่วนมากจะวิ่งตรง ถอยตรง"
       "ผมจึงไปฝากตัวเป็นศิษย์ ได้ทราบว่าท่านชื่อครูสุริยา และวิชาดาบสองมือที่ท่านใช้เรียกว่าวิชาดาบอาทมาฏ ผมเรียนดาบกับท่านอยู่สามปี ฝึกซ้อมทั้งกลางวันกลางคืน
ระหว่างนั้นครูสุริยาได้เล่าประวัติของวิชาดาบอาทมาฏให้ฟังว่า เดิมวิชานี้เป็นส่วนหนึ่งของตำราพิชัยสงครามซึ่งถูกฉีกออกก่อนสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก นำไปเก็บรักษาไว้ทางภาคเหนือ แล้วส่งมอบให้กับสมเด็จพระนเรศวรฯ เมื่อพระองค์เสด็จกลับจากเป็นตัวประกันที่พม่า มาครองเมืองพิษณุโลก สมเด็จพระนเรศวรฯได้ใช้วิชานี้ฝึกสอนผู้คนที่ซ่องสุมไว้ เข้าป่าเข้ารกฝึกกัน โดยพระองค์และพระเอกาทศรศทรงเป็นครูฝึกเอง เพื่อเตรียมพร้อมทำสงครามกับพม่า"
ครูมาโนทย์เล่าว่า เขาเรียนดาบอาทมาฏอยู่ ๓ ปีจึงสำเร็จวิชา ประจวบกับจบการศึกษาชั้นมัธยมปลายในปี ๒๕๒๑ จึงลาครูสุริยาเข้ามาศึกษาต่อมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อกลับไปเยี่ยมบ้านอีกครั้ง ก็ไม่พบครูสุริยาแล้ว
    

      "ครูสุริยาได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่นั้นมาผมไม่ได้พบท่านอีกเลย"
      ขณะเรียนอยู่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ครูมาโนทย์ได้เข้าชมรมกีฬาต่อสู้ป้องกันตัว สำนักดาบเจ้ารามฯ หนึ่งปีต่อมาก็ได้เป็นครูฝึกของสำนัก
    
        "ผมเป็นครูฝึกสำนักดาบเจ้ารามฯ ถึงปี ๒๕๓๘ แต่ไม่เคยนำวิชาดาบอาทมาฏออกมาเผยแพร่เลย เพราะสำนักดาบเจ้ารามฯ มีวิชาดาบของตนเองอยู่แล้ว การนำวิชาอื่นมาสอนเป็นการไม่บังควร และที่สำคัญ วิชาดาบอาทมาฏเป็นวิชาที่อันตรายมาก ถ้าคนสำมะเลเทเมา หรือคนเกกมะเหรกเกเรเอาวิชานี้ไปใช้ คนอื่นจะเดือดร้อน คนฝึกต้องมีคุณธรรมสูง ผมจึงเก็บวิชานี้ไว้กว่า ๒๐ ปี โดยไม่ได้เผยแพร่ กระทั่งปลายปี ๒๕๓๘ อาจารย์ชาติชาย อัชนันท์ ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอศึกษาวิชานี้ อาจารย์ชาติชายเป็นศิษย์ของท่านปรมาจารย์เขตร ศรียาภัย ปรมาจารย์มวยไชยา ส่วนผมเคยศึกษามวยไชยาจากครูทองหล่อ ยาและ ซึ่งเป็นศิษย์ของปรมาจารย์เขตร จึงถือว่า อาจารย์ชาติชายเป็นรุ่นพี่ทางสายมวย อีกทั้งผมลองสืบประวัติดู พบว่าเป็นคนดี ผมใช้เวลาตรึกตรองอยู่เป็นเดือน จึงตกลงใจถ่ายทอดวิชาดาบอาทมาฏให้อาจารย์ชาติชาย"

นี้คือสิ่งที่มีในหนังสือ สารคดี ฉบับที่ ๒๑๙ เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๖ ซึ่งนับถึงวันนี้ ก็ร่วม 10 ปีมาแล้วหากไม่เป็นความจริง สำนักดาบเจ้าราม จะไม่โวยวายหรือครับท่าน samun007



ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณนักรบฯ นะครับ  ที่ช่วยนำข้อมูลที่ผมกำลังหาอยู่มาลงให้ครับ ขออนุญาตอ้างอิงจากข้อความนะครับ

แสดงว่า ที่ผมเคยได้ยินมาเรื่องเวลาเข้าเรียนของครูแปรงก็เป็นเรื่องที่ผิดพลาดครับ ตรงนี้ต้องขออภัยไว้ด้วย

แต่ผมก็มีข้อสงสัยว่า

จากประโยคที่คุณนักรบฯ ได้กรุณานำมาลงให้ผมนั้น  ผมสงสัยดังนี้ครับ

 -  จากข้อความสีเขียว

ครูมาโนช เข้าเรียนที่ ม.ราม และหนึ่งปีให้หลังได้เป็นครูดาบประจำสำนักดาบจ้าวราม เพราะฉะนั้น ปีที่ท่านเริ่มสอนดาบจ้าวรามคือ ปี 2522 นะครับ

ปัญหาที่ผมสงสัยก็คือ

แล้ว ครูมาโนช ท่านสอนดาบอาทมาทใน ม. ราม เมื่อไรกันแน่ครับ ?

เพราะจากตัวหนังสือสีเขียว ชัดเจนว่า ท่านบอกว่าไม่เคยสอนใครเลยมา 20 ปี จนมาเจอท่านอาจารย์ชาติชาย  



ยิ่งมาเจอข้อความที่คุณนักรบบอกผมว่า

กลับมาเรื่องวิชาดาบอาทมาฏ
ประเด็นที่ 1 วิชาดาบอาทมาฏเป็นดาบที่มาจากสำนักดาบเจ้ารามหรือไม่ ผมอยากจะเรียนว่า ครูมาโนทย์ เข้าเรียนที่รามคำแหง ปี 2521(ครูแปรงเป็นรุ่นพี่หนึ่งปี)และเข้าร่วมกับผู้ชื่นชอบวิชาดาบและมวยที่นั้น ตั้งชมรมดาบเจ้ารามขึ้นมา เพียง 1 ปี ก็เป็นครูฝึกให้กับรุ่นน้อง ประเด็นนี้ผมว่าสำนักดาบเจ้ารามทราบกันเป็นอย่างดี แม้แต่เพลงมาร์ชของสำนักดาบเจ้ารามยังมีประโยคหนึ่งว่า " ฝึกดาบอาทมาฏเกรียงไกร" ซึ่งทุกวันนี้เมื่อครบรอบวันตายของครูมาโนทย์สำนักดาบเจ้ารามก็ไปทำบุญให้กับ ครูมาโนทย์ ทุกปีมิได้ขาด ผมเสียอีกที่ไม่ได้ไป

เพราะฉะนั้น ที่คุณนักรบฯ บอกว่า มีเพลงมาร์ช ของสำนักดาบจ้าวรามร้องไว้ว่า ฝึกดาบอาทาทเกรียงไกร  ปัญหาก็คือ ในเมื่อ อ.มาโนช ท่านบอกเองว่าไม่เคยสอนใครนาน 20 ปี แล้ว เพลงมาร์ชนี้มาจากไหนครับ ?


แล้วที่ถามผมว่า ถ้าเรื่องไม่เป็นความจริง ทำไมสำนักดาบจ้าวรามไม่โวยวาย 

ถ้าให้เดานะครับ ผมเดาว่า ก็ในเมื่อวิชาดาบอาทมาทไม่เคยมีการสอนอยู่จริงในชมรมอาวุธไทย ม. ราม  ทางนั้นก็ไม่เห็นจะต้องโวยวายอะไรครับ 


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 10 มิ.ย. 13, 21:44
ประเด็นต่อมา สืบเนื่องจากหัวข้อเมื่อสักครู่ ที่ว่า ครูมาโนช ท่านบอกว่าท่านไม่เคยเผยแพร่วิชาดาบอาทมาทมากว่า 20 ปีต่อนะครับ เพราะหัวข้อคล้าย ๆ กัน

ขออ้างอิงครับ

ครูแปรง จึงได้เรียนวิชา จากหลายสำนัก เช่น ดาบพุทไธสวรรค์, ดาบผดุงสิทธิ์, ดาบ พละ, ดาบพรานนก, ดาบอาทมาต, ดาบอาทมาต เท้าช้าง ปัตตานี, มีดสั้นทอง นับแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ – ๒๕๒๕ จึงจบหลักสูตร หลังจากนั้น ครูแปรง ยังได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จากครูอีกหลายท่าน อาทิเช่น ครูพัน ยารนะ ครูดาบสะบัดชัย, ดาบสายกรมหลวงชุมพร จาก กี คลองตัน, ดาบบ้านไชว อยุธยา, ดาบสายอาจารย์นาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ดาบและมวยในสายอาจารย์กิมเส็ง ซึ่งถือว่าเป็นอาจารย์ปู่ สายมวยทวีสิทธิ์ ในเวลาต่อมาอีกด้วย

ครูแปรงแยกดาบอาทมาฏออกจากดาบสายอืนๆ แสดงว่ามันไม่เหมื่อนกัน ถูกไหมครับ และเรียนในช่วงแรกๆของการเข้าไปเรียนที่กรุงเทพฯของครูมาโนทย์

ขอตัดส่วนหัวที่เกี่ยวกับมวยออกไปก่อนนะครับ ขอคุยเฉพาะเรื่องดาบก่อน ไว้เรื่องดาบชัดเจนแล้ว จะขอคุยเรื่องมวยต่อครับ

ส่วนที่ถามว่า ใครเป็นพี่ใครกันแน่ ระหว่าง อ.มาโนช กับ อ. แปรง


ผมขอยกบทสัมภาษณ์ของ อ.ชาติชาย ที่มีต่อนิตยสารเล่มเดียวกันที่อ้างถึง ดังนี้ครับ

".............."ปี ๒๕๒๖ ผมกลับจากฝรั่งเศสมาเยี่ยมบ้าน ได้มีโอกาศเรียนมวยไชยาเพิ่มเติมกับครูทองหล่อ ยาและ หรือครูทอง เชื้อไชยา ศิษย์เอกคนหนึ่งของท่านปรมาจารย์เขตร ศรียาภัย ครูทองมีลูกศิษย์คนหนึ่ง คือครูแปลง( ) ซึ่งสนิทกับผม ช่วงปี ๒๕๓๘ มีอยู่วันหนึ่งครูแปลงก็รำดาบท่าคลุมไตรภพให้ดู ตอนนั้นผมก็ เอ๊ะ! ดาบอะไร ไม่เคยเห็น ครูแปลงเล่าให้ฟังว่า เขาเรียนวิชาดาบนี้มาจากครูคนหนึ่ง ซึ่งเก่งมาก ก็คือครูมาโนทย์ ผมก็เลยให้ครูแปลงไปตาม"อาจารย์ชาติชายเล่า
      
    "พบกันครั้งแรกเป็นการพูดคุยแนะนำตัว อีกวันหนึ่งครูแปลงไม่มาด้วย พอครูมาโนทย์มาถึงบ้านผม ผมถือดาบหวาย พี่โนทย์ถือดาบหวาย ผมก็ตีแกเลย หวดเลย พอหวดปุ๊บเขาก็หวดแขนผม เจ็บ หวดอีกทีเขาก็หวดโดนผมอีก ผมบอกหวดหลายทีแล้วนะ ชักโมโห ก็ไล่ตี เขาก็ยิ้มหัวเราะแบบสบายๆ พอผมหวดไปแรงๆ เขาก็ใช้ลูกไม้สะท้อนบ้าง คลื่นกระทบฝั่งบ้าง เล่นผมซะน่วมเลย วันนั้นเขาทำให้ผมเจ็บตัว แต่ยังไม่ยอมสอนวิชา แล้วเขาก็หายไปตั้งนาน จริงๆ เขาไปสืบประวัติว่าผมเป็นคนยังไง ผมต้องไปตามหาเขา ขอให้สอนวิชาให้
""



=============================================
จากที่อ้างอิงนี้ ก็แสดงว่า อ.แปรง เรียนดาบอาทมาท กับ อ.มาโนช  ซึ่ง ผมก็งง ๆ ว่า แล้วตกลง เรื่องไหนเป็นจริงกันแน่

เพราะจากความเห็นก่อน อ.มาโนช บอกว่าไม่เคยเผยแพร่ใครเลย 20 ปี  แต่ทำไม อ. แปรง ถึงสามารถทำท่าคลุมไตรภพได้ล่ะครับ ?



============================================

ประการต่อมาที่ผมสงสัยอีก

ถ้าสิ่งที่ อ.มาโนช ให้สัมภาษณ์นิตยสารเป็นจริง

ก็แสดงว่า มีดาบอาทมาทอีกสายหนึ่ง ที่ไม่ใช่ อาทมาทนเรศวร และไม่ใช่ อาทมาทเท้าช้างปัตตานี สอนอยู่แล้วใน ม. ราม และก็มีท่าคลุมไตรภพด้วยเช่นกัน



ถ้าเป็นแบบนี้ ก็แสดงว่า มีวิชาดาบอาทมาท 2 สาย ที่บังเอิญ มีท่าคลุมไตรภพเหมือนกันอีก  ซึ่งผมก็ไม่รู็ว่า คลุมไตรภพ อีกแบบนั้น จะเหมือนหรือต่างจาก คลุมไตรภพ ของ อาทมาทนเรศวร หรือไม่อย่างไรนะครับ

ถ้าคุณนักรบฯ พอจะทราบ ผมขอความกรุณาช่วยแนะนำให้ผมและท่านอื่น ๆ เป็นวิทยาทานด้วยครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: นักรบกองอาทมาฏ ที่ 10 มิ.ย. 13, 21:51
ผมน่ะรู้  แต่ให้คุณสงสัยต่อไปน่ะดีแล้ว ไปทำงานหาเงินดีกว่ามาเสียเวลากันนักวิชาการแบบคุณ เท่านี้ผมก็เสียเวลามามากแล้ว คุณรู้ไปก็มีแต่เอาไปทับถมคนอื่น


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 10 มิ.ย. 13, 21:54
ผมน่ะรู้  แต่ให้คุณสงสัยต่อไปน่ะดีแล้ว ไปทำงานหาเงินดีกว่ามาเสียเวลากันนักวิชาการแบบคุณ เท่านี้ผมก็เสียเวลามามากแล้ว

ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณนักรบฯ ไม่สะดวก ผมก็ไม่ขอรบกวนครับ แต่น่าเสียดายข้อมูลตรงนี้ครับ ก็ไม่เป็นไรครับ ผมจะพยายามลองหาข้อมูลต่อไปครับ ขอบพระคุณครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 13, 22:03
ในฐานะเจ้าของเรือน   ดิฉันได้ติดตามคุณสองคนถามตอบกันเรื่องเพลงดาบอาทมาฏมาพักหนึ่งแล้ว     ขอเรียนให้คุณนักรบกองอาทมาฏว่าเว็บเรือนไทยเป็นเว็บของผู้ประสงค์จะได้ความรู้ มาถามจากผู้รู้     และผู้นำความรู้มาแบ่งปันให้คนอื่นๆเป็นวิทยาทาน     แต่ไม่ใช่สำหรับใครก็ตามที่มาบอกว่า รู้แล้วแต่ไม่บอก    ถ้าทำอย่างนั้นก็เท่ากับไม่รู้นั่นเอง
นอกจากนี้ เว็บนี้ไม่ประสงค์จะให้เกิดการทะเลาะวิวาท ลบหลู่   เหน็บแนม เสียดสีกัน  อันจะก่อบรรยากาศน่าเบื่อหน่ายแก่คนอื่น       ถ้าหากว่าคุณนักรบอาทมาฏไม่สามารถจะปฏฺิบัติตัวให้กลมกลืนกับสมาชิกท่านอื่นๆได้    ดิฉันก็คิดว่าคุณคงไม่เหมาะที่จะเข้ามาสนทนาในเว็บเรือนไทยต่อไปค่ะ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: terapak ที่ 11 มิ.ย. 13, 06:25
อ่านมา 3 วันแล้วครับ แต่สมัครสมาชิกเข้ามาตอบไม่ได้ ไม่ทันได้อ่านข้อความด้านข้างว่าให้ใส่ตัวเลขแทน

ขอตอบบางข้อที่รู้นะครับ

1.ครูแปรงเรียนวิชาดาบอาทมาฏจากครูมาโนทย์ที่รามครับ โดยตอนนั้นท่านเองได้ฝึกดาบกับรุ่นพี่ท่านอื่นในชมรมอาวุธไทยมาแล้วครับ ปกติครูแปรงเวลาพูดถึงครูมาโนทย์ จะเรียก พี่โนทย์เสมอครับ ครูแปรงเคยบอกว่า ครูมาโมทย์ อายุน้อยกว่าครูปีหนึ่ง แต่เป็นรุ่นพี่ของครู ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นรุ่นพี่ในชมรมอาวุธไทยนะครับ และข้อมูลตามหนังสือที่อาจารย์ชาติชายกล่าวนั้นก็ถูกต้องแล้วครับ ครูแปรง แสดงท่ารำคลุมไตรภพ และ เป็นคนแนะนำครูมาโนทย์ ให้อาจารย์ชาติชาย รู้จักครับ ผมเองก็ได้พบครูมาโนทย์อยู่ 3 ครั้งตอนท่านมาเยี่ยมครูแปรงที่สำนักสยามยุทธ์ครับ

2.เรื่องก้นหอย ที่เห็นในรูปของครูแปรง คือเป็นอันที่ทำไว้สำเร็จรูปแล้วนะครับ เอาไว้ใส่ตอนถ่ายรายการ พอพันหมัดเสร็จก็วางทาบลงและเอาเชือกเส้นเล็กร้อยได้เลย แต่ถ้ามีเวลา ก็ใช้เชือกเส้นยาวถักเสร็จแล้วก็เอาเชือกเส้นเดียวกันนะแหละขมวดปมเป็นก้นหอยครับ แต่โดยปกติเวลาเราพันซ้อมก็คงไม่ได้ถักก้นหอยครับ ส่วนเรื่องว่าจะอยู่หลังหมัด หรือ สันหมัด ก็แล้วแต่การใช้งานละครับ ที่เคยลองทำมา แม้ว่าจะเอาเชือกจุ่มน้ำ มันก็ไม่แข็งและคม ขนาดที่ว่าเอามาถูหน้าแล้วจะบาดเลยหรอกครับ สามารถถูหน้าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจได้ครับ

ส่วนวิธีทำให้เกิดบาดแผลฉีกขาด ก็ขึ้นอยู่กับวิถีการต่อยด้วยครับ เพราะมวยไชยาไม่ได้ต่อยด้วยสันหมัดอย่างเดียวครับผม


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 11 มิ.ย. 13, 12:08
ผมก็ตามอ่านกระทู้นี้เช่นกันครับ สำหรับผมจัดว่าเป็นกระทู้ที่เกินภูมิ คือ ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เพราะฉะนั้น ทุกข้อความที่อ่านจึงเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้ผมทั้งสิ้น
แต่หลังจากที่ได้อ่านมาระยะหนึ่ง ผมก็มีข้อสังเกตดังนี้ครับ คือ คำว่า "อาทมาฏ" เป็นคำเรียกขานของสิ่งใดแน่ครับ ระหว่างชื่อวิชาดาบ หรือชื่อหน่วยงาน (กรมกองทหาร) ถ้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน ก็อาจจะนึกถึง หน่วย SWAT อะไรอย่างนั้น

ถ้าเป็นชื่อของวิชาดาบ ผู้สำเร็จวิชานี้ ก็อาจจะไม่ได้ทำงานในกรมอาทมาฏก็ได้ ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรอาจจะมีนายทหารบางท่านที่เรียนวิชาดาบอาทมาฎ แต่รับราชการอยู่ในกรมพระคลังก็ได้ (สมัยนั้นพระคลังก็ต้องออกรบนะครับ) หรือถ้าเป็นชื่อกรมกอง ก็เป็นไปได้ว่า อาจจะมีนักรบในกองอาทมาฎท่านหนึ่ง ที่ใช้วิชาดาบจากสำนักอื่นๆ แต่ฝีมือดี จึงได้รับราชการในกองอาทมาฎ ก็ได้ ไม่ได้แปลว่า ถ้าเป็นทหารในกองอาทมาฎแล้ว จะต้องใช้เพลงดาบเดียวกันทุกคน เรื่องจะเป็นอย่างนี้ได้หรือเปล่าครับ แต่แน่นอน ผมเชื่อว่า เมื่อมาเข้าสังกัดเดียวกัน ก็คงมีการให้เรียนเพิ่มเพื่อปรับพื้นฐาน ในที่นี้คือวิชาดาบให้ใกล้เคียงกันด้วยแน่ ท้ายที่สุด ทหารในกรมอาทมาฎคงมีวิชาดาบที่เป็ไปในแนวเดียวกัน แต่กระนั้น รายละเอียดปลีกย่อยก็อาจต่างกันไปตามพื้นฐานของแต่ละบุคคล

ด้วยเหตุนี้ ผมขอเดาว่า มีความเป็นไปได้ ที่แม้จะเป็น "นักดาบจากกรมอาทมาฎ" เหมือนกัน แต่วิชาดาบที่ใช้อาจไม่เหมือนกันก็ได้ 

และเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ นักดาบจากกรมอาทมาฎทั้งสองท่าน เกษียณอายุ ออกจากราชการแล้ว กลับไปยังบ้านเกิดของแต่ละท่าน แล้วไปเป็น ครูดาบ สั่งสอนวิชาดาบของท่านให้แก่ลูกหลานในละแวกบ้าน ครูทั้งสองท่าน จะสามารถอ้างได้หรือไม่ครับว่า วิชาดาบที่ท่านสอนนั้น คือดาบอาทมาฎ (ผมคิดว่า ในสมัยที่ไม่มีแนวคิดกฎหมายลิขสิทธิ คงไม่มีใครทักท้วงหรอกครับ ก็ครูทั้งสอง ต่างเป็น "นักดาบจากกรมอาทมาฎ" จริงๆ)

สามสิบปีผ่านไป จาก สองครู ก็กลายเป็นสองสำนัก ก็ปรากฎว่า ศิษย์จากทั้งสองสำนัก ได้ไปเจอกันในงานหนึ่ง แล้วแสดงเพลงดาบให้แก่กันชม ต่างฝ่ายต่างก็คิดว่า วิชาดาบของฉันเป็นดาบอาทมาฎ -> วิชาดาบของเขาไม่เหมือนของฉัน -> แต่เขาอ้างว่าวิชาของเขาคือดาบอาทมาฎ = เขาโกหก และเป็นคนชั่วร้าย

ข้อสังเกตของผมคือ คิดเช่นนี้ ถูกต้องหรือไม่

ไม่รู้เหมือนกันครับ แหะๆ     


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 มิ.ย. 13, 14:28
สรุปเท่าที่รู้ก็คือกองอาทมาตเป็นกองลาดตระเวนสืบข่าวอยู่ชายแดน ตั้งแต่สมัยอยุธยา   ถ้าเป็นชายแดนพม่าก็ใช้มอญทำหน้าที่นี้เพราะมอญพูดภาษาพม่าได้  กลมกลืนไปกับคนท้องถิ่นได้สนิท
มอญที่เข้ามาสวามิภักดิ์ต่อไทย เป็นพวกนักรบกันมาก    ดูจากทำเนียบนาพระไอยการพลเรือนที่ระบุถึงตำแหน่งหน้าที่ของขุนนาง พบว่าตำแหน่งของพวกมอญ มีหน้าที่นักรบกันเต็มไปหมด    อาวุธที่มอญใช้คือดาบ มีทั้งเดี่ยวและสองมือ       แต่ไม่รู้ว่าวิธีฟันดาบอย่างที่เรียกว่าดาบอาทมาต  ตามที่มีกันอยู่ปัจจุบันนี้ เก่าแก่ย้อนไปได้ถึงแค่ไหน  เป็นของมอญจริงหรือเปล่า   ยังหาหลักฐานชัดๆไม่ได้ค่ะ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: ไพลินภัทร ที่ 12 มิ.ย. 13, 18:05
ไม่ได้เข้ามาหลายสัปดาห์ นึกว่ากระทู้นี้จะตกไปแล้วเสียอีก กลับมาอีกทีข้อมูลมาเต็มเลย ^w^


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 27 ส.ค. 13, 15:36
อนุสนธิจากกระทู้สัตว์ประหลาด ท่านอาจารย์อุตส่าห์ประกอบอาหารให้รับประทาน ด้วยสำนึกในพระคุณประกอบกับอ่านเจอพอดี จึงขอนำเสนอเพื่อสนองพระคุณท่านครับ





กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 27 ส.ค. 13, 15:38
ต่อครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 27 ส.ค. 13, 15:40
ต่อครับ


กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 27 ส.ค. 13, 15:42
จบครับ



กระทู้: อยากทราบเรื่องกองอาทมาตค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ส.ค. 13, 16:14
ขอบคุณค่ะคุณ Hobo  อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าอาทมาฏ เป็นภาษามอญ  เดิมสะกดยังไงก็ไม่ทราบ   เมื่อไทยรับมาคงสะกดกันตามเสียงที่ได้ยิน