คุณเพ็ญชมพูเป็นคนเอามาลงไม่ใช่หรือ คุณเพ็ญไปเอามาจากไหนเล่า
คือจะขอทำความเข้าใจและแก้ต่างให้พี่อรรถดาดังนี้ครับ
1. ทางเจ้าของภาพไม่ได้เป็นเจ้าของภาพพระปิ่นเกล้าที่อาจารย์ท่านอื่นถืออยู่แต่ท่านเป็นเจ้าของภาพที่มีช่างภาพและลายเซ็นต์ชื่อ จากสิงคโปร์
2. การใช้ภาพดังกล่าวมีลิขสิทธิ์ของทางสำนักพิมพ์ ก็เพียงบอกเครดิทและที่มาของภาพเพียงเท่านี้ เพราะเป็นการศึกษาไม่ได้เพื่อการค้า
3. เจ้าของภาพเกรงว่าจะมีการเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ จึงขออธิบายผ่านมายังผมขอให้เข้าใจว่า ท่านได้ภาพนี้มานานแล้วแต่ภาพเกิดหลุดออกไปเมืองนอก เนื่องจากสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งท่านสะสมภาพนี้มานานกว่าปี 2008 แล้ว ดังนั้นภาพพระปิ่น + ด้านหลังลายเซ็นต์นี้เป็นของมีลิขสิทธ์ จะใช้ภาพต้องขอสำนักพิมพ์เพื่อให้เครดิทสำหรับการศึกษาครับ
ส่วนขอ้ความที่กล่าวว่า "สหายจากแดนไกล" ณ เวลานั้นๆ เจ้าของภาพได้ถือต้นฉบับเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
ขอถอดความจากคำชี้แจงของคุณ siamese ว่า...
1 เมื่อคุณพิพัฒน์นำพระรูปสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯที่ถ่ายโดยห้องภาพสิงคโปร์มาลงในเรือนไทย เมื่อปี 2008 สิทธิ์การครอบครองภาพนั้นตกอยู่กับคุณอรรถดาเรียบร้อยแล้ว
2 แต่คุณพิพัฒน์มิได้นำภาพนี้มาจากคุณอรรถดา แต่บอกว่าได้มาจาก "สหายจากแดนไกล"
3 ดังนั้นคุณพิพัฒน์จึงมิได้ขออนุญาตจากคุณอรรถดา ในปี 2008
4 เมื่อภาพนี้ถูกคุณเพ็ญชมพูนำมาอ้างอิงอีกครั้งในปี 2014 คุณอรรถดาจึงทักท้วงมา โดยเห็นว่าเป็นภาพลิขสิทธิ์ของท่าน
ขออธิบายเรื่องข้อยกเว้นในการละเมิดลิขสิทธิ์ นะคะ เพื่อประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านเรือนไทย
เนื่องจากกระทู้เกือบทุกกระทู้มีภาพประกอบ ดิฉันใส่เองบ้าง ท่านสมาชิกใส่บ้าง ถ้าเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ ท่านจะได้สบายใจว่าการใส่ภาพประกอบเป็นการละเมิดหรือไม่ เพราะเหตุใด
ส่วนที่ ๖
ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์
มาตรา ๓๒ การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หากไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงาน อันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์ และไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ภายใต้บังคับบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง
การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามวรรคหนึ่ง มิให้ถือว่าเป็น การละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
(๑)
วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร(๒) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท
(๓) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(๔) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(๕) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงาน ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว
(๖) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ โดยผู้สอนเพื่อประโยชน์ ในการสอนของตน อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร
(๗) ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอน หรือทำบทสรุปโดยผู้สอน หรือสถาบันศึกษา เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร
(๘) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ
มาตรา ๓๓ การกล่าว คัด ลอก เลียน หรืออ้างอิงงานบางตอนตามสมควรจากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมีการรับรู้ถึง ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้ปฏิบัติตามมาตรา ๓๒ วรรคหนึ่งมาตรา ๓๔ การทำซ้ำโดยบรรณารักษ์ของห้องสมุดซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หากการทำซ้ำนั้นมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร และได้ปฏิบัติตามมาตรา ๓๒ วรรคหนึ่ง ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) การทำซ้ำเพื่อใช้ในห้องสมุดหรือให้แก่ห้องสมุดอื่น
(๒) การทำซ้ำงานบางตอนตามสมควรให้แก่บุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ในการ วิจัยหรือการศึกษา