กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มิ.ย. 02, 07:25
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 พ.ค. 02, 17:26
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 พ.ค. 02, 17:27
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 พ.ค. 02, 17:30
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 พ.ค. 02, 17:31
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 พ.ค. 02, 17:35
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 พ.ค. 02, 17:37
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 พ.ค. 02, 17:39
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ทองรัก ที่ 16 พ.ค. 02, 19:26 แวะเข้ามาอ่านและขอบคุณคุณเทาชมพูมากค่ะ
ที่มีเรื่องดี ๆ มาฝากอย่างสม่ำเสมอ อ่านแล้วนึกถึงตอนเป็นเด็ก เลยค่ะชอบฟังนิทานเกี่ยวกับเทวดานางฟ้าน้อย ๆ เหล่านี้มาก ฟังแล้วนอนหลับฝันดีทั้งคืน แต่เรื่องของนางอัปสรทำให้คิดถึงวรรณคดีสันสกฤตค่ะ ยังนึกถึงความยากลำบากในตอนเรียนไม่หาย กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ป่านแก้วและใยไหม ที่ 16 พ.ค. 02, 22:50 ขอบคุณมากค่ะ คุณเทาชมพู
นางอัปสรที่ชื่อ เมนกา น่ะชื่อเพราะนะคะ หนูเคยเห็นชื่อเมนกา เป็นนางเอกนิยายเรื่องโปรดของหนู อย่างน้อยก็ สองเรื่องค่ะ รูปสวยมากทุกรูปค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: นนทิรา ที่ 17 พ.ค. 02, 09:05 น่ารักจังค่ะ แต่คุณเทาชมพูขา เสียดายรูปที่ 4 และ 5 ค่ะ เพราะคำบรรยายของคุณเทาชมพูโดนรูปบังไว้บางส่วนค่ะ
เหล่านางฟ้าท่าทางซุกซน รวมทั้งทิงเกอร์เบลล์ด้วย คงจะเรียกรวมๆกันว่า pixie ได้ใช่มั้ยคะ เคยจำได้ว่าทิงเกอร์เบลล์มีผงวิเศษ หรือจะเรียกว่า ฝุ่นวิเศษ ดี แปลจากคำว่า pixie dust จากเรื่องปีเตอร์แพน เป็นผงที่โรยตัวแล้วทำให้บินได้น่ะค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 02, 10:01
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 02, 10:05
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 02, 10:07
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 02, 10:20
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 02, 10:23
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 02, 10:25
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฟ้าฝัน ที่ 17 พ.ค. 02, 15:12
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฟ้าฝัน ที่ 17 พ.ค. 02, 15:39
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฟ้าฝัน ที่ 17 พ.ค. 02, 16:10
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฟ้าฝัน ที่ 17 พ.ค. 02, 16:32
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ป่านแก้วและใยไหม ที่ 17 พ.ค. 02, 21:06 เคยอ่านเจอ ชื่อเมนกา ในนิยาย 2 เรื่องค่ะ
เรื่องแรก เป็น นางเอกนิยายเรื่องเรือนไม้สีเบจค่ะ อีกเรื่องหนึ่ง เมนกา ไม่ใช่นางเอกค่ะ แต่เคยคู่หมั้น คู่หมาย กับพระเอก จากเรื่องกลิ่นกุหลาบค่ะ รูปภาพข้างบนนี้สวยทุกรูปเลยค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 02, 08:30
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 02, 08:32
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ป่านแก้วและใยไหม ที่ 18 พ.ค. 02, 22:32 หนูว่าสวยทุกรูปเลยค่ะ คุณเทาชมพู
เมื่อคืนคุยกับฝอยฝน เธอบอกว่าบางรูปดูน่ากลัว แต่หนูว่าไม่เห็นมีภาพน่ากลัวเลยค่ะ น่ารักทั้งนั้นเลยค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ทองรัก ที่ 19 พ.ค. 02, 07:39 รูปสวยทุกรูปเลยค่ะ แต่ชอบรูปที่ 23 เป็นพิเศษ
ขอบคุณคุณเทาชมพูค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 19 พ.ค. 02, 08:27 คุณ pink ribbon คะ แค่รสนิยมส่วนตัวค่ะ
ทุกภาพสวยมากค่ะ แต่ฝนไม่ชอบดูภาพที่ให้แสงแบบสะท้อนไปสะท้อนมา ภาพเหล่านี้มักจะต้องเป็นภาพที่มีฉากตอนกลางคืน หรือตอนพระอาทิตย์จะขึ้น ไม่ก็จะตกค่ะ ถึงจะเล่นแสงเงาแบบนี้ได้ ดูภาพแบบนี้แล้วมีความรู้สึกว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในภาพที่เรามองไม่เห็น ก็เลยคิดว่าน่ากลัวนะคะ แม้แต่นางฟ้าก็จะซ่อนความทุกข์ หรือความเจ็บปวดไว้ค่ะ แค่รู้สึกไปเองนะคะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 พ.ค. 02, 10:34
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 20 พ.ค. 02, 08:03
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 20 พ.ค. 02, 08:08 คุณเทาชมพูคะ ภาพยังน่ากลัวอยู่ค่ะ หลังเงาไม้นั่นเหมือนจะมีใครซ่อนอยู่ก็ไม่ทราบค่ะ หมอกก็ลงหนาเชียวค่ะ
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 พ.ค. 02, 12:35
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 21 พ.ค. 02, 02:39 Late in his life, Sir Arthur C. Doyle took interrest in spiritualism and supernatural occurings. I believe at that time he had already abandoned his most famous character - Sherlock Holmes. He wrote many books about spirits and "karn khao song" and even had his characters from "The Lost World" - Prof. Challenger and young reporter Malone (who became the Prof's son-in-law) investigated these phenomena in "The Land of Mist". In those books of his a century ago, 'media' didn't mean the press or mass media but 'Khon song chao' krab. It is interesting to note that earlier in his life when he was still writing about Holmes' adventure, he was a sceptic. He always had the Great Detective proving the cases of these ghosts or monsters or vampires to be just man-made hoax.
On the fairies hoax that Khun Pinkandgrey mentioned, I think because he himself wanted so much to believe it, he was duped by the two girls so easily. I remember reading somewhere that the girl who later confessed (long after Sir Arthur was dead) said that she and her sister drew the fairies themselve, cut the images up and pasted them on cardboard, and held them upright (for photographing) using pins. Actually, one photographer expert noticed the pins in the photo, and thought that they were the fairies' navels. This led to great and exciting speculation that if fairies did exist, they must be lifeforms that were somehow similar to mammals as they had navels (and therefore should have had placenta)... - all the excitement over nothing at all ! กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 21 พ.ค. 02, 02:58 Sometimes farang experts can be doped too.
I went back to look at the fairies' and apsaras' picures again, and saw that (according to the imagination of some artists)some fairies did have navels... Well, well, well. Of course the navel is one of the cutest part of the female human body. And if the (human) artists want to depict fairies as cute and pretty ladies, they probably would imagine fairies to have navels like their human counterparts. But just think a bit... back to Biology 101. The navel is what was left of the channel where we humans got our nutrients from our moms back when we were still in moms' wombs. If the apsaras are Oppatika "beings which are just born by themselves" from the sea, not from any mother, then they should not have any navel at all??? I guess we have discover one way to prove if a given lady is human or non-human : look for her navel. Anyone want me to conduct the test on her???? But first I have to be sure I myself am human - Aha... I have my navel, ladies and gentlemen. I looked and found it right where it should be. Therefore, I am not an alien, am I? กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 21 พ.ค. 02, 02:59 Sometimes farang experts can be doped too.
I went back to look at the fairies' and apsaras' picures again, and saw that (according to the imagination of some artists)some fairies did have navels... Well, well, well. Of course the navel is one of the cutest part of the female human body. And if the (human) artists want to depict fairies as cute and pretty ladies, they probably would imagine fairies to have navels like their human counterparts. But just think a bit... back to Biology 101. The navel is what was left of the channel where we humans got our nutrients from our moms back when we were still in moms' wombs. If the apsaras are Oppatika "beings which are just born by themselves" from the sea, not from any mother, then they should not have any navel at all??? I guess we have discover one way to prove if a given lady is human or non-human : look for her navel. Anyone want me to conduct the test on her???? But first I have to be sure I myself am human - Aha... I have my navel, ladies and gentlemen. I looked and found it right where it should be. Therefore, I am not an alien, am I? กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: คุณพระนาย ที่ 21 พ.ค. 02, 04:35 มาแล้วครับ หลังจากดูภาพ นางอัปสร แล้วก็ Fairy ของฝรั่งไปแล้ว ก็มีข้อคิดเห็นอย่างนึง
คือในภาษาไทยเรานั้นเรียกว่า เทวดา กับนางฟ้า นางสวรรค์ แต่ว่าพอมาจริง ๆ แล้วนี่ นางฟ้า นางสวรรค์ แล้วก็นางอัปสรนั้น ถือเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า ถ้านางฟ้า หรือ Fairy นั้นไม่จำเป็นต้องอยู่บนสวรรค์เสมอไป แล้วก็ช่วยคนได้นิด ๆ หน่อย ๆ แล้วก็มีทั้งดีและไม่ดี จนดูคล้าย ๆ นางไม้ แม่ย่านาง นางตะเคียน หรือรุกขเทวดา หรือเทวนารีที่สิงอยู่ตามต้นไม้ และภูเขา ถ้าเป็นจีน ก็เรียกว่า เป็นเซียน ไถลไปของจีนนั้น สิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตอะไรก็ตาม ที่มีอายุยืนยาว หลายร้อยปี จะกลายเป็นสิ่งวิเศษ มีตบะแก่กล้า อย่างที่ดัง ๆ ก็ นางไม้ ถ้าบำเพ็ญภาวนา แล้วจะมีอิทฤิทธิ ก่อน เรียกว่ากลายเป็นปีศาจไปซะก่อน แล้วถ้าใฝ่ดี ก็จะกลายเป็นเซียน หรือ ปีศาจจิ้งจอก ก็เช่นกัน โดยเฉพาะปีศาจจิ้งจอกสาว จะกลายเป็นเซียน แต่มักจะเจอชายหนุ่มรูปหล่อ มาทำลายการบำเพ็ญภาวนาซะทุกที กลับมาเรื่องนางฟ้า นางสวรรค์ กับนางอัปสร คือนางอัปสรเนี่ย ต้องเรียกว่าน่าสงสารเลยล่ะครับ เพราะพูดตรง ๆ เธอก็คล้ายกับพวกนารีผล ด้วยซ้ำ คือ เป็นของกลาง เป็นโสเภณีของสวรรค์ เห็นได้ว่า สวรรค์ของศาสนาฮินดู นั้น กิเลสเยอะมากในชั้นนี้ นอกจากมีหน้าที่ให้ความสำราญกับเทวดาบนสวรรค์แล้ว นางอัปสร ยังมักจะถูกใช้งานหลักคือ ลงมา ทำลายตบะของเหล่าฤาษี บนโลกมนุษย์ ให้ฤาษีเหล่านั้น ลืมการบำเพ็ญภาวนาแล้วก็สูญเสียตบะไป ถ้าไม่นับนิยายจากภารตะ แล้วมีนิยายไทยอยู่เรื่องนึง ก็พูดถึงนางอัปสรเหมือนกัน นั่นคือเรื่องรัตติกาลยอดรัก ผมจำได้ดีคือภาคที่ศรัญญูเล่น (จำชื่อนางเอกไม่ได้) เรื่องย่อเรื่องนี้คือ ศรัญญูเป็น Dr. ทาง เทวะวิทยาสติเฟื่อง ที่มีตบะพิเศษสามารถเห็น ภูตผี วิญญาณ และก็เทพ เทวดานางฟ้าได้ ซึ่งทำให้แกกลายเป็นเหมือนคนบ้าไป แล้วก็ได้พบกับ รัตติกาลนางฟ้าผู้แสนสวยนี้ ซึ่งตอนใกล้จบได้สารภาพว่า มีหน้าที่มายั่วยวนให้พระเอกของเรา เลิกงานค้นคว้าทางจิตที่จะพิสูจน์เรื่องภูตผีไปซะ โดยตามยั่วยวนกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ที่พระเอกเป็นฤาษี นั่นคือสาเหตุที่ทำให้พระเอกมีตบะแก่กล้ามีจิตพิเศษ มองเห็นผีและวิญญาณได้ ตอนจบ นางฟ้ากับพระเอกหลงรักกัน จนนางฟ้าเธอยอมลงมาเกิดเป็นมนุษย์ แต่ว่าพระเอกต้องรอไปอีกยี่สิบปี ก็กว่าจะได้แต่งกัน ก็พระเอก ก็แก่พอควรแน่ล่ะครับ คงเกือบห้าสิบ หกสิบ ถึงจะได้แต่งงานกัน เขียนวนไปวนมา เยอะแล้ว จบเลยละกันแหะ ๆ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 พ.ค. 02, 10:28 รัตติกาลยอดรักในทีวีต่างจากในหนังสือ ในหนังสือของพนมเทียนบอกว่ารัตติกาลไม่ใช่นางอัปสร แต่เป็นเทวีแห่งราตรี คือขึ้นถึงชั้นเจ้าแม่ ตอนจบพระเอกก็ดูเหมือนจะบรรลุนิพพาน ดับสิ้นเชื้อไปไม่ได้มาแต่งงานกัน แต่พล็อตนี้คงไม่ถูกใจชาวประชาเท่าไหร่ถึงมาเปลี่ยนกันใหม่อย่างที่คุณพระนายเล่า
เรื่องสะดือนางอัปสรหรือสะดือนางไม้ที่คุณนกข.ตั้งข้อสังเกตมา ศิลปินผู้วาดคงคิดว่ารักษาเอาไว้เป็นหนึ่งในอวัยวะครบ ๓๒ ของนางเหล่านี้ดีกว่าจะตัดออก เพราะพวกนี้ไม่ได้คลอดจากท้องแม่ตามธรรมชาตินะคะ เอ แฟรี่คลอดจากท้องแม่แฟรี่หรือเปล่าก็ไม่แน่ เพราะเห็นแฟรี่เด็กๆมีถมไป แต่นางอัปสรไม่มีแม่นั้นแน่นอนเพราะเกิดจากทะเล ทำให้ดิฉันพลอยคิดต่อไปจากคุณนกข.ว่า นอกจากนางอัปสรไม่ควรมีสะดือเพราะไม่ต้องตัดสายรกเมื่อเกิดแล้ว หล่อนก็ไม่ควรมีจมูกเพราะไม่จำเป็นต้องหายใจเพื่อเอาอากาศไปให้ปอดฟอกโลหิต อีกอย่างบนสวรรค์นั้นอากาศน่าจะบางเบามาก ออกซิเจนน้อย หายใจด้วยจมูกก็ลำบาก นอกจากนี้หล่อนไม่ควรมีเอว และบริเวณหน้าท้องเพราะภายในไม่จำเป็นต้องมีกระเพาะ ลำไส้ ลำไส้ใหญ่ เพราะหล่อนไม่จำเป็นต้องกินอาหารเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต หรือดำรงชีวิตอยู่เพราะหล่อนไม่แก่ ร่างกายไม่เสื่อม อยู่ได้ยาวนานมาตั้งแต่ผุดจากทะเลจนบัดนี้ จะว่าไปอวัยวะภายในของนางอัปสรไม่จำเป็นต้องมีเพราะไม่ต้องใช้งานเลยสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปอด ม้าม ไต กระเพาะ ลำไส้ ฯลฯ มีกระดูกอย่างเดียวพอเพื่อให้เป็นโครงร่าง หล่อนควรมีร่างกายแบบตุ๊กตาคือไม่มีอวัยวะภายในเลย พอที...กลายเป็นบาร์บี้ไปแล้วค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 22 พ.ค. 02, 07:05 พึ่งจะได้เข้ามาชมค่ะ ตื่นตาทั้งภาพสวยๆ และตื่นใจกับบทวิเคราะห์ค่ะ
แล้วอย่างกรณี ยามะธิดานี่เธอมีศักดิ์สูงกว่า นางอัปสรมั้ยคะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ค. 02, 13:16 สูงกว่าสิคะคุณสร้อยสน เป็นเทพนี่คะ
วรรณคดีสันสกฤตมีเรื่องของนางอัปสรที่กาลิทาสนำมาแต่งเป็นบทละคร ชื่อ วิกรโมรวศี เป็นเรื่องของนางอัปสรสวยที่สุดชื่ออุรวศีซึ่งมารักกับมนุษย์ เรื่องมีอยู่ว่าท้าวปุรุรวัสเป็นกษัตริย์จอมยุทธ ขนาดเคยไปช่วยพระอินทร์ปราบอสูรไม่ให้มารังควานสวรรค์ได้ ก็เลยได้ผูกมิตรกับพระอินทร์ วันหนึ่งอสูรกำเริบไปฉุดนางอัปสรชื่ออุรวศี นางร้องให้ช่วย พระเอกของเราได้ยินก็เลยยกทัพไล่ตามติดไปช่วยนางไว้ได้ตามฟอร์มพระเอก ทำให้เกิดรักกันขึ้นแบบ love at first sight ตามฟอร์มอีกเหมือนกันค่ะ แต่นางมีภาระต้องทำคือไปเล่นละครสวรรค์ ก็ต้องจากกันไป พอไปเล่นอยู่ ความที่ผูกพันกับพระเอก นางก็ท่องบทผิดพลาด ไปหน้าแตกกลางงาน ทำให้พระภรตฤาษีเจ้าแห่งละครโกรธมาก จึงสาปนางให้ต้องตกสวรรค์ไป แต่พระอินทร์สงสารก็เลยเติมคำสาป ส่งนางลงมาที่โลกมนุษย์ ให้มาอยู่กินกับท้าวปุรูรวัสเพื่อนเก่า แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อใดสามีเห็นหน้าลูกที่เกิดจากนาง นางก็พ้นคำสาป กลับสวรรค์ นางอุรวศีก็เลยได้อยู่กินกับพระเอกอย่างเป็นสุข จนมีลูกชายชื่ออายุส นางก็หาทางเลี่ยงคำสาป ด้วยการ... หยุดแค่นี้ก่อน เช็คเรตติ้งคนเข้ามาอ่านค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ค. 02, 13:18
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ค. 02, 13:21
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: caeruleus ที่ 23 พ.ค. 02, 04:49 แล้วนางอุรวศีทำยังไงคะ
มารอฟังคำตอบ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 23 พ.ค. 02, 08:29 รอคำตอบด้วยความตื่นเต้น
คิดไว้ในใจหลายข้อ แต่คงจะไม่ตรงกับในเรื่องยุคนั้นค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 พ.ค. 02, 09:39
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 23 พ.ค. 02, 11:58 มาช่วยเพิ่มเรทติ้งค่ะ อยากฟังต่อจนเนื้อเต้นเลย
รูปข้างบนนั่น(ที่๓๘) คนกลางคือพระลักษมีหรือคะ แสดงว่าจิตรกรที่วาดเป็นพวกที่บูชาพระนารยณ์ใช่มั้ยคะ เพราะให้พระลักษมีเด่นทีสุด ดิฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า คนไหนคือพระลักษมีในภาพ เพราะทั้งสามท่านประทับบนดอกบัว แต่ที่แน่ๆคนขวา พระสุรัสดีแน่นอนค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 พ.ค. 02, 13:19 องค์กลางคือพระลักษมีค่ะ
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: อ้อยขวั้น ที่ 24 พ.ค. 02, 08:51 เหล่าชายาทำไมมีสี่กรเหมือนกันหมดนะคะ แปลกดีจัง
พยายามนึกว่านางอุรวสีใช้วิธีอะไรเลี่ยงคำสาป ปิดหน้าลูก? เอาลูกซ่อน? เปลี่ยนหัวให้ไม่มีหน้า? แฮ่ๆ ยิ่งคิดยิ่งโกโซบิ๊คค่ะ รอฟังเฉลยดีกว่า กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ค. 02, 09:49
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 24 พ.ค. 02, 10:25 เฮ้อ...ทำไมนางอัปสรไม่อยากกลับสวรรค์ล่ะคะ
กว่าจะมีความสุขเหนื่อยน่าดู โดนคำสาบไม่รู้กี่รอบ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 24 พ.ค. 02, 11:55 ดิฉันเดาว่านางอุรวศีเลือกความรักมากกว่าความสุขในสวรรค์ค่ะคุณฝอยฝน เพราะถ้าเธอกลับไปก็ต้องจากสามีที่รักรวมทั้งลูกด้วย ความหึงของผู้หญิงนี่ทำลายได้ทุกอย่างจริงๆนะคะ
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 พ.ค. 02, 09:26
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 25 พ.ค. 02, 09:56 ขอบคุณค่ะ พอท้าวปุรูรวัสสิ้นอายุไขแล้ว
จะตามนางอัปสร อุรวศรีขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ได้ไหมคะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ทองรัก ที่ 27 พ.ค. 02, 08:08 หายไปหลายวันเนื่องจากงานยุ่งแล้วก็คอมฯที่บ้านมันเกเรค่ะ
อ่านได้แต่โพสต์ไม่ได้ซักที (ตอนนี้อาการก็ยังไม่หายค่ะ แต่วันนี้เขาใจดีให้โพสต์ได้2-3 กระทู้แล้ว) อ่านแล้วก็สงสัยเหมือนคุณฝอยฝนเลยค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ค. 02, 09:30
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ค. 02, 10:01
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 29 พ.ค. 02, 06:26 ได้มาอ่านตอนจบแล้ว ดีใจจังค่ะ แล้วมีเรื่องต่อของอายุศหนุ่มน้อยครึ่งมนุษย์ครึ่งอัปสรมั้ยคะ
เคยมีนักเขียนท่านหนึ่งเอ่ยในนิยายนะคะว่าความงามของผู้หญิงมีเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย แต่ผู้ชาย งามอย่างไรก็งามแบบนั้ยดูแต่อพอลโลเป็นต้น ผู้ชายแถวนี้เลยเบิ้ลต่อค่ะว่าความจริงผู้ชายสวยกว่าผู้หญิงนะจ๊ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ค. 02, 09:02
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ค. 02, 09:05
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ค. 02, 09:09
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ค. 02, 09:12
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ค. 02, 09:15
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ค. 02, 09:17
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 29 พ.ค. 02, 11:56 สวยทุกรูปเลยค่ะ มีคนละเมออยากเป็นฮีลาส โดนนางไม้ฉุดลงน้ำแน่ะค่ะ แต่รายนี้พอลงน้ำ น้ำกระฉอกหมดสระแน่
สุดท้าย อโดนิส ตายใช่มั้ยคะ แล้วกลายเป็นดอกไม้เหมือนกัน? เรื่องหนุ่มมนุษย์ที่หาญไปรักกับเหล่าเทพีนี่จบด้วยความเศร้าทั้งนั้นนะคะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ทองรัก ที่ 29 พ.ค. 02, 16:40 เป็นธรรมดาค่ะคุณสร้อยสน อะไรที่ผิดที่ผิดทาง
ผิดฝาผิดตัวนี่ จะให้ happy ending เห็นจะยากค่ะ แต่ได้รักแล้วผิดหวังนี่ก็ยังดีกว่าไม่เคยรู้เลยนะคะว่ารักคืออะไร กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ค. 02, 08:57
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ค. 02, 09:00
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ทองรัก ที่ 30 พ.ค. 02, 10:50 นั่นซิคะ อกหักดีกว่ารักไม่เป็น อย่างน้อยก้รู้ละว่าเวลาที่มีความรักน่ะโลกสดใสขนาดไหน
คุณเทาชมพูคะแล้วเคยมีตำนานที่ เทพเจ้ามาหลงรักหญิงงามที่เป็นมนุษย์บ้างไหมคะ อยากฟังจังเลยค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 30 พ.ค. 02, 14:54 คนตรงนี้มองไซเรนรูปที่๖๔ แล้วบอกว่าเหมือนตัว อรหันที่ผนังวัดที่ไหนจำไม่ได้ค่ะ แต่ตัวอรหันนั่น ศีรษะเป็นผู้ชาย (ผู้หญิงก็มีมั้ง)
อีกคนว่าคล้าย สัตว์ในเทพนิยาย ชื่อตัวHARPYค่ะ แต่หน้าตาจะน่าเกลียดกว่านี้ เป็นคู่ปรับกับGLOBBIN อยากฟังเรื่องโรแมนติกระหว่างเทพกับมนุษย์อีกค่ะรู้สึกว่าซูส หรือจูปีเตอร์นี่จะเป็นต้นตำหรับหลายเรื่องอยู่ คนแถวนี้ประสานเสียงรับคุณทองรักค่ะว่าช่าย อกหักดีกว่ารักไม่เป็นรู้มั้ย รู้มั้ย กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 พ.ค. 02, 09:35
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 พ.ค. 02, 10:36
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 31 พ.ค. 02, 11:48 สวยมากค่ะคุณเทาชมพู รูปทรงทันสมัยไม่อวบเทอะทะแบบโบราณด้วย
พูดถึงภรรยาหลวงที่ขี้หึงแบบเฮรานี่ร้ายจังค่ะ ระรานแต่หนูของๆของซูสไม่ไปเฉ่งกับท่านสามีเลยทั้งๆที่เรื่องแบบนี้ต้องผิดทั้งสองฝ่าย ยิ่งพวกสาวๆชาวมนุษย์นี่ยิ่งน่าสงสารเพราะเธอไม่รู้อิโหน่อิเหน่ โดนปิ๊งไม่รู้ตัว เลยต้องเคราะห์ร้าย คงมีเรื่องเล่าอีกนะคะสนุกจัง มีคนตรงนี้อ่านกันหลายคนแต่โพสต์ไม่ได้ บางทีเลยดูเป็นว่าดิฉันพูดมากจัง กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ทองรัก ที่ 31 พ.ค. 02, 19:46 คราวนี้เห็นด้วยกับคุณสร้อยสนค่ะว่ารูปปั้นเฮราสวยจริง ๆ
รูปทรงสมส่วนเข้าสมัยเป๊ะเลยค่ะ ทองรักว่าที่ภรรยาหลวงเธอหันไปเฉ่งหนู ๆ แทนพ่อเจ้าประคุณสามีนี่ คงเป็นเพราะว่าเธอยังรักเขาอยู่มังคะ เลยไม่อยากจะทำอะไรที่เป็นการทำให้คนที่ตัวเองรักรำคาญหรือขุ่นเคือง สู้ไปไล่เบี้ยหนู ๆ ไม่ได้สบายกว่าเยอะเลย ยังไงซะพวกเธอก็ไม่สามารถต่อกรกับบ้านใหญ่ได้อยู่แล้ว ฝ่ายพ่อเจ้าประคุณก็ได้ใจไป แต่เมื่อไรที่เธอหมดรักเขาแล้วนั่นแหละ คราวนี้ถึงคราวที่เขาจะต้องรับกรรมบ้างล่ะ อยากฟังอีกจังเลยค่ะ ต้องขอบคุณคุณเทาชมพูค่ะ ที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนตอนเด็ก ๆ อีกครั้งที่มีผู้ใหญ่ใจดีมาคอยเล่านิทานให้ฟัง สัญญาค่ะว่าฟังนิทานแล้ว หนูจะเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซนค่ะ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 02, 09:42
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 02, 09:44
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 02, 09:47
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 02, 09:49
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 02, 09:51
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 02, 10:05
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 02, 10:15 ขึ้นไปต่อเรื่องเทพเจ้ากรีกให้หนูๆที่ไม่ดื้อไม่ซนอ่านค่ะ
ที่ http://www.vcharkarn.com/snippets/vcafe/show_message.php?Cid=17&Pid=5555 กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ทองรัก ที่ 01 มิ.ย. 02, 10:25 ขอบคุณค่ะ ชอบรูปสลักนางไม้กำลังทำผมจังเลย
ช่างมีฝีมือจริง ๆเลย นะคะ สลักความพริ้วของชายผ้าได้เหมือนจังค่ะ แต่ทองรักว่ารูปนี้ดูเผิน ๆ นึกว่ารูปปั้นวีนัสนะคะ ยืนท่าเดียวกันเป๊ะเลย ดูภาพนางไม้ของตะวันตกแล้วต้องอมยิ้มไปด้วยทุกทีเลยค่ะ ด้วยคสามชอบใจในความอวบของพวกเธอ กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 02, 10:23
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 03 มิ.ย. 02, 07:35 ชอบรูปที่๗๕ค่ะ บรรยากาศชวนฝัน
ดีใจจังคุณเทาชมพูเริ่ม"ติดลม"แล้ว กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 มิ.ย. 02, 09:17
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 04 มิ.ย. 02, 07:21 ขอบคุณค่ะ เต็มอิ่มพอดี หนุ่มแถวนี้ว่าถ้าให้เลือก ชอบนางอัปสร ร่างปุ้มปุ้ย มากกว่าสาวมั่นกล้ามเนื้อเกร็งๆแบบสมัยนี้ค่ะ
กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: ทองรัก ที่ 04 มิ.ย. 02, 09:21 ตามคุณสร้อยสนมาติด ๆ ขอบคุณคุณเทาชมพูด้วยคนค่ะ
หนุ่ม ๆ แถวที่ทำงานคุณสร้อยสนท่าทางจะเป็นพวกนักอนุรักษ์นะคะ (นิยมของโบราณ) กระทู้: เรื่องของนางอัปสร เริ่มกระทู้โดย: สร้อยสน ที่ 06 มิ.ย. 02, 07:25 จุ๊ จุ๊ คุณเทาชมพูปิดกระทู้แล้ว เดี๋ยวถูกตีนะคะ
หนุ่มแถวนี้....ก็ประมาณนั้นแหละค่า |