เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 25 26 [27] 28 29
  พิมพ์  
อ่าน: 24527 ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 390  เมื่อ 19 ม.ค. 24, 18:45

 สำหรับชาวอังกฤษ  ข่าวล่าสุดของเดือนนี้เห็นจะไม่มีข่าวไหนใหญ่เกินไปกว่า พระราชวงศ์ 2 พระองค์ต้องเข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาล ระยะไล่ๆกัน
  คนแรกคือเคท  เจ้าหญิงแห่งเวลส์   เป็นข่าวที่ไม่ได้ประกาศล่วงหน้า  ปุบปับก็ออกข่าวว่าเธอเข้ารับการผ่าตัดช่องท้อง (Abdominal surgery)  ตอนนี้ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว กำลังพักฟื้น 10-14 วันในโรงพยาบาล และต้องงดภารกิจทั้งหมดจนกระทั่งผ่านพ้นเทศการอีสเตอร์ไปก่อน   ไม่มีรายละเอียดว่า ผ่าตัดช่องท้องที่ว่าคือผ่าตัดอะไร   มากน้อยแค่ไหน    ข่าวบอกแต่ว่าเธอปลอดภัยดี และไม่ได้เป็นมะเร็ง
  ส่วนพระโอรสธิดาทั้งสามอยู่กับพ่อคือเจ้าชายวิลเลียม   ทางครอบครัวมิดเดิลตันก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยดูแลหลานๆด้วยจนกว่าแม่จะกลับบ้านได้   
  ข่าวใหญ่ไล่หลังมาติดๆคือพระเจ้าชาร์ลส์จะต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดต่อมลูกหมาก    ที่ว่าใหญ่ไม่ใช่แค่พระเจ้าแผ่นดินต้องเข้ารพ. เพื่อผ่าตัด  แต่เป็นครั้งแรกที่พระประมุขออกข่าวอย่างเปิดเผยว่าทรงเข้ารับการรักษาผ่าตัดอาการอะไร   ก่อนหน้านี้พระราชวงศ์ผู้ใหญ่ทั้งหลายจะกระมิดกระเมี้ยนเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ  ถือเป็นเรื่องส่วนพระองค์ที่ไม่ควรป่าวประกาศ   แต่พระเจ้าชาร์ลส์ไม่ทรงถือเช่นนั้น   ท่านถือว่าพระราชาก็มนุษย์ มีเจ็บไข้ได้ป่วยได้เหมือนคนอื่นๆ  และป่วยอะไรตรงไหนก็เหมือนมนุษย์อื่นๆอีกนั่นแหละ  ไม่ต้องมาอ้ำอึ้งเขินอายว่าไม่ควรพูด
   ในเมื่อต้องงดภารกิจกันถึง 2 พระองค์    ก็คงมีชาวบ้านอยากถามว่า ยังงี้ต้องไปตามผัวเมียคู่นั้นจากมอนเตซิโตมาช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจไหม   เพราะดูทางโน้นก็เนื้อเต้นอยากจะคืนดีอยู่   คำตอลคือ..อย่าหวัง    พระเจ้าชาร์ลส์มอบหมายงานให้เจ้านาย 2 องค์ช่วยแบ่งเบาไปแทนแล้ว  คือเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ และเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุคแห่งเอดินบะระ พระอนุชาองค์เล็ก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 391  เมื่อ 22 ม.ค. 24, 18:35

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 392  เมื่อ 11 ก.พ. 24, 09:52

    ข่าวช็อกคนอังกฤษมากที่สุดในระยะนี้คงไม่มีข่าวไหนเกินแถลงการณ์ว่าพระเจ้าชาร์ลส์ประชวรเป็นโรคมะเร็ง  หลังจากเข้าไปรักษาอาการต่อมลูกหมากโตเมื่อเดือนก่อน     ยิ่งแถลงสั้นๆแค่นี้ ไม่บอกว่ามะเร็งที่ไหน อย่างไร  ขั้นไหน ยิ่งทำให้เกิดการคาดเดากันไปต่างๆนานา  สรุปลงท้ายว่า ไม่รู้ความจริงกันอยู่ดี
   ที่รู้แน่ๆคือ พระเจ้าชาร์ลส์ก็เสด็จกลับวัง  ไม่ได้อยู่รักษาพระองค์ในโรงพยาบาล    มีแต่ควีนคามิลล่าเท่านั้นที่อยู่ใกล้ชิด  ห้ามคนอื่นเข้าไปมะรุมมะตุ้มเยี่ยมเยียนหรือเฝ้าดูแล  เพราะอยู่ในภาวะที่ต้องระมัดระวังพระสุขภาพมาก 
   (โดยส่วนตัว คิดว่าแพทย์พบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าประชวรเป็นมะเร็ง    ข่าวที่บอกว่าไปรักษาอาการต่อมลูกหมากที่โรงพยาบาลก็คือไปผ่าตัดมะเร็งน่ะแหละ  ตอนนี้กลับมาวังก็เพื่อมาพักฟื้นระยะยาว  ต่อไปนี้ก็คงทำพระราชภารกิจหนักๆไม่ไหวอีกแล้ว)
   พอรู้ข่าว  สายตาคนค่อนโลกก็เหลียวไปมองที่มอนเตซิโต ว่าลูกชายนอกคอกจะเหลียวแลพ่อหรือเปล่า หลังจากสับพ่อ แม่เลี้ยง พี่ชาย และพี่สะใภ้จนละเอียดเป็นหมูสับไปแล้ว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 393  เมื่อ 11 ก.พ. 24, 10:19

    สื่อหลายเจ้าคาดการณ์ว่า เจ้าชายแฮรี่น่าจะมาคนเดียว  ไม่เอาเมียและลูกมาเยี่ยมปู่   มีข่าวแพร่ออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แฮรี่อยากจะคืนดีกับพ่อและพี่ชาย  ถ้ามีทางไหนจะซ่อมสะพานที่ตัวเองกับเมียช่วยกันทุบจนพังได้ก็อยากจะทำ   
    เหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่สื่อคาด คือเจ้าชายมาคนเดียว ได้เข้าเฝ้าพระบิดาที่พระตำหนักแคลเรนซ์  มีเวลาเจอกันได้แค่ 45 นาที เพราะพระเจ้าชาร์ลส์มีกำหนดจะออกจากพระตำหนักแคลเรนซ์ไปพระราชวังบักกิงแฮมเพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปพักผ่อนที่พระตำหนักซานดริงแฮม ในมณฑลนอร์ฟอล์ก
    ข่าวรั่วออกมาว่าพระเจ้าชาร์ลส์ทรงหงุดหงิดมากที่ต้องเสียเวลารอลูกชายเข้าพบ   เพราะตามกำหนด ในวันนั้นคือวันเดินทางไปพักผ่อนที่ซานดริงแฮม   ก็มีคิวแทรกเข้ามา ว่าแฮรี่มาถึงลอนดอนพอดี จะต้องมาพบพ่อในวันนั้น  เลยพบได้แค่ 45 นาที ก็จบกันไป
     ข่าวอื้ออึงอีกอย่างคือเจ้าชายแฮรี่ไม่ได้ประทับในวังไหนทั้งสิ้น   ไม่ว่าวังของพ่อ พี่ชาย หรือพระญาติองค์ใดองค์หนึ่ง   แต่ว่าไปอยู่ในโรงแรมเหมือนสามัญชนธรรมดา    สื่อฝ่ายแฮรี่ออกมาแก้ตัวว่า เจ้าชายอยากพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า สามารถเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งญาติๆ  แต่สื่อฝ่ายตรงข้ามก็ฟันธงไปว่า ไม่มีพระญาติพระวงศ์คนไหนกล้ารับเข้าไปอยู่ด้วยต่างหาก     ดีไม่ดีเจ้าของบ้านได้กลายเป็นข่าวใน Spare เล่มใหม่ก็พังกันเท่านั้นเอง
    ส่วนเจ้าชายวิลเลียมก็อย่างที่หมอเดาทั้งหลายฟันธง   คือไม่มีการติดต่อใดๆกับน้องชาย



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 394  เมื่อ 12 ก.พ. 24, 10:00

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 395  เมื่อ 12 ก.พ. 24, 10:05

   สรุปว่าแฮรี่นั่งเครื่องบินพาณิชย์จากมอนเตซิโตมาลอนดอน  เข้าเยี่ยมพ่อ พ่อให้เวลา 45 นาที  จากนั้นลูกชายกลับไปพักที่โรงแรม
   วันรุ่งขึ้น ออกจากโรงแรม ขึ้นเครื่องกลับบ้าน
   ไม่ได้พบหน้าพี่ชาย   ไม่ได้ไปเยี่ยมญาติเลยสักคนเดียว
   เป็นการปฏิเสธที่เงียบเชียบ แต่ชัดเจนถึงความสัมพันธ์ว่าแก้วแตกแล้วแตกเลย  ฝ่ายมีกาวอยู่ในมือไม่ได้หยิบกาวออกจากกระเป๋า  แม้ว่าฝ่ายที่ทำแก้วแตก มีท่าทีว่าอยากหยิบช้ินแก้วส่งให้ทากาวก็ตาม

บันทึกการเข้า
superboy
พาลี
****
ตอบ: 222


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 396  เมื่อ 12 ก.พ. 24, 12:40

ถือเป็นความพยายามครั้งแรกได้ไหมครับ เป็นเพียงการชิมลางยังไม่คาดหวังผลลัพธ์แท้จริง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 397  เมื่อ 12 ก.พ. 24, 13:03

     ก็เป็นได้ว่า แฮรี่ไม่ได้คิดอะไรมาก    พ่อป่วยก็ต้องมาเยี่ยม   ไม่มีโอกาสพบพี่ก็ช่างปะไร  ผลเป็นยังไงวันหน้าก็รู้เอง
    
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 398  เมื่อ 23 ก.พ. 24, 11:24

      หลังจากเจ้าชายแฮรี่กลับไปอเมริกา   ข่าวก็แพร่ออกมาว่า เจ้าชายอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจะกลับมาแบ่งเบาภารกิจของพระบิดา ระหว่างพระเจ้าชาร์ลส์ต้องงดงานทุกอย่างเพื่อรับการรักษาโรคมะเร็ง   แต่ก็น่าจะเป็นการรับหน้าที่แบบงานพาร์ทไทม์  คือตัวเองก็ยังอยู่ที่คาลิฟอร์เนีย แต่บินไปๆมาๆ รับงานหลวงบ้างบางงาน
       ตอนนี้ทางฝ่ายพระราชวงศ์แบกภาระหนักมาก   ไหนจะขาดพระเจ้าชาร์ลส์  ควีนคามิลล่าก็ต้องคอยอยู่ใกล้ชิดดูแลพระสวามี ไปไหนไม่ได้    เจ้าหญิงเคทเองก็ต้องพักฟื้นถึงเดือนเมษายน   เจ้าชายแอนดรูว์ก็ถูกตัดขาดจากหน้าที่ไปหมดแล้ว   เหลือเจ้าชายวิลเลียมกับเจ้าฟ้าหญิงแอนน์แบกภาระกันหลังแอ่น   ถึงมีครอบครัวของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุคแห่งเอดินบะระคนปัจจุบันช่วยบ้างก็ยังหนักหนาอยู่ดี
   แต่พอข่าวแฮรี่จะกลับคืนรังแพร่ออกมา   สื่ออังกฤษก็เต้นผาง    หนึ่งในนั้นคือบรรณาธิการข่าวราชสำนักของเดลี่เมล์ ชื่อรีเบคก้า อิงลิช   เธอค้านสุดตัวว่า ไม่มีทาง  ยังไงราชสำนักบัคกิ้งแฮมก็ไม่เอาแฮร์รี่กลับมาแน่นอน
    ริชาร์ด อีเดนเป็นอีกคนที่ค้านสุดตัว  ว่าแฮรี่มีพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอกไว้ใจไม่ได้   เดี๋ยวก็ให้สัมภาษณ์โจมตีราชวงศ์ของตัวเองอย่างดุเดือดในสัปดาห์หนึ่ง  แต่พออีกสัปดาห์หนึ่งก็กลับเสียงอ่อนทำทีจะทอดไมตรีด้วย  


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 399  เมื่อ 23 ก.พ. 24, 12:57

    จะว่าไปก็พอเข้าใจได้ทั้ง 2 ฝ่าย  คือทางฝ่ายเจ้าชายแฮรี่ ออกจากวังมา 5 ปี เส้นทางทำมาหากินก็ชักคับแคบ   ทำโปรเจคอะไรก็เจ๊งหมด   หนังสือขายดีอยู่เล่มเดียวคือ Spare  แต่กระแสโจมตีหนักมาก  จนไม่มีเล่ม 2    ในเมื่อเมียอยากอยู่อย่างเศรษฐี  เจ้าชายก็ต้องหันไปหาหนทางทำมาหาเลี้ยง    ถ้าไปทำงานให้ราชสำนักก็น่าจะขอเงินพ่อมาเติมได้    อาชีพอื่นไม่ต้องคิด  มีแต่รายจ่ายไม่คุ้มรายได้
   ส่วนทางราชสำนักก็ได้บทเรียนมาแล้วว่า เวลาเจ้าชายไม่ถูกใจขึ้นมา  ไส้กี่ขดๆก็ถูกสาวออกมาให้กาทุกมุมโลกได้กินกันหมด   ตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปจนเรื่องเล็ก   เรื่องจริงมั่งเท็จมั่งก็ปะปนกันไป แล้วแต่เจ้าตัวจะอยากพูดแบบไหน    เรื่องไม่ควรพูดก็พูดออกมา   เสียทั้งวงศ์ตระกูลทั้งตัวเอง
   ดังนั้น ถ้ารับกลับเข้าไป   เกิดไม่ถูกใจขึ้นมาอีก   จะสาวอะไรออกมาให้กากินอีกก็ไม่มีใครคาดเดาได้   เพราะฉะนั้นตัดไฟแต่ต้นลม คือไม่เอาเสียแต่แรกดีกว่า
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 400  เมื่อ 27 ก.พ. 24, 12:06

      เราก็คงเดาได้ว่า เจ้าชายแฮรี่กลับไปอเมริกาหลังจากพบพ่อได้เพียง 45 นาที  ด้วยอารมณ์แบบไหน    เพราะอยู่ๆเมื่อไปร่วมInvictus Games  (การแข่งขันกีฬาสำหรับทหารผ่านศึกที่บาดเจ็บทั้งกายและใจ) ที่ตัวเองเป็นผู้ก่อตั้ง  ปีนี้จัดที่แคนาดา ก็ให้สัมภาษณ์ในรายการ Good Morning America  ว่ากำลังคิดๆอยู่ว่าจะโอนสัญชาติเป็นอเมริกัน(ตามเมีย) ก็เดาได้ว่าตามประสาเด็กน้อยที่น้อยอกน้อยใจเพราะพ่อไม่โอ๋อย่างที่คิด   และเหตุผลรองลงมาคือ ถ้าพ่อเกิดจากไปในอนาคตอันสั้น   ยังไม่มีวี่แววเลยว่าพี่ชายจะยอมปรองดองด้วย   ตัวเองก็คงหมดโอกาสจะกลับไปเป็นเจ้าฟ้าชาย มีหน้ามีตาตามเดิม
     เพราะงั้นก็ประชดด้วยการเปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกัน ให้รู้แล้วรู้รอดไป แบบว่า "ช่างมัน ฉันไม่แคร์"
     ถ้าพูดประชดก็แล้วไป  เพราะชาวบ้านก็รู้ว่าแฮรี่พูดอะไรแบบไม่คิดมาหลายเรื่องแล้ว    แต่ถ้าเอาจริง  ก้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
     กฎหมายอเมริการะบุไว้ชัดเจนว่าถ้าใครได้สัญชาติอเมรืกัน  หากของเดิมมียศถาบรรดาศักดิ์ติดตัวมา  ต้องสละออกให้หมด   คนอเมริกันเป็นนางและนาย   ไม่มีเจ้าชาย เจ้าหญิง  ท่านลอร์ด ท่านเคานต์อะไรเป็นคำนำหน้า   แปลว่าตำแหน่งดยุคแห่งซัสเซกซ์ ต้องปลดออกจากตัว
    อย่างที่สองคือ ถ้าเคยเสพยาเสพติดมาก่อน จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ   อย่าว่าแต่จะขอสัญชาติอเมริกันเลย    เรื่องนี้ก็เป็นปัญหาคาราคาซังอยู่  เพราะเจ้าชายปากปลาหมอ   เขียนลงใน Spare  เองว่าเคยเสพยามาหลายชนิดจนเมาแล้วเมาอีก
    อย่างที่สามคือ ถ้าทำจริงๆ  ก็เท่ากับกรีดบาดแผลระหว่างตัวเองกับพระราชวงศ์ให้เหวอะหวะหนักขึ้นเป็นทวีคูณ   โอกาสจะกลับมาได้อีกก็อย่าหวังเลย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 401  เมื่อ 27 ก.พ. 24, 14:24

‘ทรัมป์’ ซัด 'เจ้าชายแฮร์รี' ทรยศหักหลังควีน ขู่จะ 'เนรเทศ' กลับอังกฤษหากได้เป็นปธน.สหรัฐฯ

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีเต็งหนึ่งของพรรครีพับลิกัน ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ Daily Express เมื่อช่วงสุดสุปดาห์เกี่ยวกับสถานะคนเข้าเมืองของเจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษ โดยบอกว่าหากตนชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ก็ “จะไม่ปกป้อง” พระองค์เหมือนที่รัฐบาล โจ ไบเดน ทำ และจะปล่อยให้ดยุคแห่งซัสเซกซ์ถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ แน่นอน

ทรัมป์ ยังกล่าวหาเจ้าชายแฮร์รีว่า “ทรยศหักหลัง” สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้เป็นย่า “และนั่นเป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้ เขาจะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย ถ้าให้ผมเป็นคนจัดการ”

อดีตผู้นำสหรัฐฯ แสดงแนวคิดดังกล่าวระหว่างร่วมการประชุมของกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาอนุรักษนิยม (Conservative Political Action Conference – CPAC) เมื่อวันเสาร์ (24 ก.พ.) และอาทิตย์ (25 ก.พ.) ที่ผ่านมา และเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่เจ้าชายแฮร์รีต้องทรงไปขึ้นศาลกรณีที่องค์กร Heritage Foundation เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ โดยองค์กรแห่งนี้พยายามที่จะขอตรวจสอบบันทึกการเข้าเมืองของเจ้าชายแฮร์รี เพื่อดูว่าพระองค์ทรงกล่าวเท็จเกี่ยวกับประวัติการใช้ยาเสพติดขณะที่ยื่นเรื่องขอวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกาหรือไม่

เจ้าชายแฮร์รีและพระชายา “เมแกน” ได้ย้ายจากอังกฤษมาสร้างครอบครัวในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือน มี.ค. ปี 2020 ขณะที่เจ้าชายแฮร์รีเองก็ทรงเปิดเผยชัดเจนผ่านหนังสืออัตชีวประวัติ Spare ที่ออกในปี 2023 ว่าทรงเคยใช้สารเสพติด ทั้งโคเคน กัญชา รวมถึงเห็ดวิเศษหรือเห็ดขี้ควายที่มีฤทธิ์หลอนประสาท

ที่ผ่านมา ทรัมป์ มักจะหาโอกาสวิพากษ์วิจารณ์ครอบครัวซัสเซกซ์อย่างไม่หยุดหย่อน อย่างเช่นเมื่อตอนให้สัมภาษณ์รายการ The Hugh Hewitt Show เดือน ก.ย. ปีที่แล้ว เขาก็เอ่ยถึง เมแกน ว่าเป็นผู้หญิงที่ “ขาดความเคารพยำเกรง” (disrespectful) และยังบอกด้วยว่า “ผมไม่ชอบสิ่งที่เธอปฏิบัติต่อควีน พวกเขาให้เกียรติเธอ (เมแกน) มาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบเลย”

ในบทสัมภาษณ์เดียวกันนั้น ทรัมป์ ยังท้า “ดีเบต” กับ เมแกน และบอกว่า “ผมไม่เห็นด้วยที่พวกเขาได้รับการดูแลความปลอดภัยจากรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อย้ายมาที่นี่”

เมื่อเดือน ม.ค. ปี 2020 เซอร์ เอ็ดเวิร์ด ยัง ซึ่งเป็นราชเลขานุการส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้เขียนจดหมายส่งถึง เซอร์ มาร์ค เซดวิลล์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของอังกฤษ โดยแจ้งว่าสมเด็จพระราชินีนาถทรงเน้นย้ำเรื่องการคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่เจ้าชายแฮร์รี เมแกน และพระโอรส-ธิดา หลังจากที่พวกเขาถอนตัวจากการปฏิบัติภารกิจในฐานะสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูง

เนื้อความส่วนหนึ่งของจดหมายระบุว่า “ท่านคงเข้าใจเป็นอย่างดีว่า การรับรองความปลอดภัยให้แก่ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อสมเด็จพระราชินีนาถและครอบครัวของพระองค์”

ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 เมแกน เคยออกมาวิจารณ์ ทรัมป์ ว่าเป็นพวก “สร้างความแตกแยก” (divisive) และ “เกลียดชังผู้หญิง” (misogynistic) ซึ่งหลังจากนั้น ทรัมป์ ก็ออกมาแถลงตอบโต้ว่าสิ่งที่อดีตดาราสาวพูดนั้น “น่ารังเกียจ” (nasty)

https://mgronline.com/around/detail/9670000017353
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 402  เมื่อ 29 ก.พ. 24, 21:28

   พระศุกร์ยังเข้า และพระเสาร์ยังแทรกเจ้าชายแฮรี่อย่างสม่ำเสมอ   ข่าวล่าสุดจากสหราชอาณาจักร คือ เจ้าชายแพ้คดีที่ทรงยื่นต่อศาลสูงสหราชอาณาจักร  คัดค้านกรณีถูกกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษลดระดับการอารักขา หลังจากเจ้าชายถอนตัวจากหน้าที่พระราชวงศ์   พูดง่ายๆคือไม่ได้รับการอารักขาอย่างเต็มยศเหมือนเมื่อครั้งยังดำรงฐานันดรเป็นเจ้าชายแห่งสหราชอาณาจักร    และปฏิบัติพระกรณียกิจในฐานะพระราชวงศ์
   ทั้งนี้ เจ้าชายถูกลดระดับอารักขา  จากการประชุมลงมติของคณะกรรมการบริหารเพื่อการปกป้องสมาชิกราชวงศ์และบุคคลสำคัญ (RAVEC) ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย, ตำรวจกรุงลอนดอน และสำนักพระราชวัง
   พูดง่ายๆคือคณะกรรมการเห็นว่าเมื่อไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเดิม จะให้มาอารักขาเต็มยศอย่างเดิมได้ไง    เทียบง่ายๆแบบไทยคือคุณไม่ได้ทำงานให้บริษัทแล้ว จะให้ใช้รถตำแหน่งผู้บริหารบริษัท เบิกค่านำมันและค่าพนักงานขับเหมือนเดิม มันก็ไม่ถูกต้อง  รถและคนขับก็ต้องถูกงดไป
    ส่วนเจ้าชายแฮรี่ไม่ยอม   ยื่นคำร้องต่อศาลว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ในการลดระดับความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากตัวเองยังคงเผชิญภัยคุกคาม จากคนหลายอย่างต่างประเภท  ทั้งในลอนดอนและในนิวยอร์ก  เพราะฉะนั้นทางการอังกฤษก็มีหน้าที่ต้องดูแลเอาใจใส่ให้เท่ากับเมื่อก่อน
    แปลไทยเป็นไทยวา่ ฉันก็ยังเป็นเจ้าที่ถูกสื่อและปาปารัชชี่ตามรังควานเหมือนเมื่อก่อน   เพราะฉะนั้นไม่เป็นธรรมเลยที่พวกคุณไม่ให้คนมาอารักขาฉันเหมือนเดิม   จะมาลดจำนวนบอดี้การ์ด ลดความสำคัญให้ฉัน  มันก็ไม่แฟร์
   แต่ศาลไม่เล่นด้วย   จึงให้คำตอบมาว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลงการอารักขาให้ขึ้นไปเท่าระดับเดิม   ทางการเขาตัดสินไปแล้ว   และศาลก็ไม่พบว่ามันไม่เป็นธรรมที่ตรงไหน
    ด้านทนายความของเจ้าชายให้สัมภาษณ์ว่าลูกความจะยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสิน และย้ำว่า เจ้าชายไม่ได้เรียกร้องให้มีการปฏิบัติเป็นพิเศษ แต่ต้องการโต้แย้งว่ามีความไม่เป็นธรรมที่มาทำแบบนี้เท่านั้น

    ส่วนตัวอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าทนายไม่ได้เป็นฝ่ายยุให้อุทธรณ์เพื่อจะเอาค่าทนายเพิ่มขึ้นมากๆ   เจ้าชายก็ยังคงทำตัวเหมือนเด็กไม่ได้ดังใจ  ดื้อรั้นจะเอาชนะให้ได้แบบข้างๆคูๆ   โดยไม่คำนึงว่าแพ้คดีแบบนี้มีแต่รายจ่ายมหาศาลรออยู่ข้างหน้า 
     หาเรื่องเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์  ทุกวันนี้รายได้ก็ร่อยหรอเต็มทีแล้ว


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 403  เมื่อ 01 มี.ค. 24, 08:17

    ชอแถมอีกหน่อยค่ะ
     การที่เจ้าชายแฮรี่เรียกร้องให้มีการอารักขาเต็มยศแบบเดิม  ไม่ว่าตัวเองจะเดินทางไปไหน   หรือปฏิบัติงานอะไร  หากศาลสูงตัดสินให้เจ้าชายชนะ    เจ้าชายไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าอารักขาใดๆ   คนที่จ่ายคือกระทรวงมหาดไทยที่เป็นจำเลย    อาจจะผสมกับราชสำนักด้วย
     แล้วเงินค่าใช้จ่ายนี้มาจากไหน  ก็มาจากภาษีของประชาชนชาวอังกฤษ   เพราะเจ้านายอังกฤษไม่ต้องเสียถาษี แต่ทำงานให้ประเทศชาติ อย่างที่เราเห็นๆกันในพระราชกรณียกิจทั้งหลาย 
    ผิดกับพระมหากษัตริย์ของไทยที่ทรงเสียภาษีต่างๆมาตลอด   
    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=832785018224494&set=a.226713818831620&type=3&paipv=0&eav=Afas76qxi3BvyQx5Rgt6z1lAdQ9SiX_UplrWDKyjUfTbCQBgeSGlSDfarm_zIbLiVWU&_rdr
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 404  เมื่อ 11 มี.ค. 24, 10:33

    ตั้งแต่แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งในที่ีนี้ขอเรียกว่าเจ้าหญิงเคทก็แล้วกันนะคะ  เข้ารับการผ่าตัดท้องแล้วกลับไปพักฟื้นอยู่ในวัง  แมงเม้าท์ทั้งหลายก็ลือกันเป็นการใหญ่  จนสำนักพระราชวังต้องออกมาแถลงว่า "ไม่ใช่มะเร็ง"  แต่ข่าวลือก็ไม่ยอมสยบ   เพราะเจ้าหญิงต้องพักฟื้นยาวหลายเดือน 
   วันนี้ บรรดา FC เจ้าหญิงเคทคงยิ้มออกมาได้ เมื่อมีการเผยแพร่ภาพถ่ายล่าสุดของเจ้าหญิงกับพระโอรสธิดา  ถ่ายภาพโดยเจ้าชายวิลเลียม  ดูหน้าตาเจ้าหญิงสดใส ดูมีสุขภาพสมบูรณ์   เจ้าชายเจ้าหญิงน้อยๆก็ดูร่าเริงเบิกบานดี ไม่เคร่งเครียด
   ส่วนตัวแล้วเดาว่าเจ้าหญิงเคทน่าจะผ่าตัดมดลูก  เพราะพักฟื้นออกงานไม่ได้นาน 3 เดือนแบบนี้ นึกโรคที่เกี่ยวกับท้องอย่างอื่นไม่ออก  ต้องขอถามคุณหมอในเรือนไทยว่าน่าจะมีโรคอื่นอะไรได้บ้าง


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 25 26 [27] 28 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 19 คำสั่ง