เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 06, 17:20



กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 06, 17:20
 ไปเที่ยวตลาดสามชุก สุพรรณบุรีมาค่ะ  
เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ชาวสามชุกช่วยกันอนุรักษ์ไว้อย่างเข้มแข็งเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ผู้คนหลั่งไหลไปกันแน่นโดยเฉพาะวันหยุด  ทำให้ตลาดเก่าแห่งนี้มีชีวิตชีวาทันตาเห็น

ตลาดนี้เคยคึกคักมาตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 5  เป็นเรือนไม้ริมแม่น้ำท่าจีน  สมัยก่อนการเดินทางก็คงรู้กันแล้วว่าต้องอาศัยทางน้ำเป็นหลัก
สามชุกเป็นจุดแวะ  พักแรมค้างคืน ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า  ฯลฯ

ต่อมาเมื่อการคมนาคมเปลี่ยนเป็นทางรถ  ตลาดริมน้ำก็โรยรา ตลาดริมถนนเฟื่องฟูขึ้นมาแทน
เรือนไม้เก่าแก่ของสามชุกเกือบจะถูกรื้อกลายเป็นตึกแถวคอนกรีต เหมือนที่เห็นกันทั่วไป
ถ้าไม่ใช่เพราะ คณะกรรมการพัฒนาตลาดสามชุก เชิงอนุรักษ์  ยื่นมือเข้ามา ด้วยการสนับสนุนขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น  มูลนิธิชุมชนไท และองค์กรระหว่างประเทศอีกหลายองค์กร
สามชุกก็เลยยืนหยัดสภาพเรือนไม้ที่ยังเหลืออยู่ไว้ได้  ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นกันในวันนี้
.


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 06, 17:23

.
นี่คือโรงแรมเก่าแก่ชื่ออุดมโชค    เป็นที่พักแรมของคนที่เดินทางจากกรุงเทพ จะแวะค้างคืนหนึ่งก่อนเลยต่อไป
บรรยากาศเหมือนในนิยายเสือดำเสือใบของป.อินทรปาลิต
วันนี้ ชั้นล่างเปิดเป็นคาเฟ่ไทยเดิม  เก๋เชียว


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 06, 17:27

.
ส่วนร้านนี้ ทำสีสดใสน่ารักมาก  ชื่อร้านบ้านโค้ก  ใครสะสมอะไรเกี่ยวกับโค้ก น่าแวะไปดู


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 06, 17:30
 ย้อนกลับมาที่โรงแรมอุดมโชค
(อย่าถือสาไกด์มือใหม่ที่พาเดินย้อนไปมา)
จับภาพมุมหนึ่งมาให้ดูค่ะ
.


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 06, 17:33

เขามีนิยายให้อ่านด้วยนะคะ เข้ากับบรรยากาศ    
เปิดดูแต่ละเล่ม  อาวุโสกว่าสมาชิกเรือนไทยเกือบร้อยทั้งร้อย
.


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 06, 17:36
 คุณลุงคนนี้ขายขนมหลายอย่าง  อุดหนุนขนมพร้อมกับพาคุณลุงมาโชว์ตัวที่เรือนไทยด้วยค่ะ
.


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 06, 10:40
 ซอยหนึ่งของตลาดเก่า
ถนนหนทางและหน้าร้าน จัดไว้เรียบร้อย  


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 06, 11:29

.
เสน่ห์ของเรือนไม้รุ่นร้อยปีก่อน ส่วนหนึ่ง อยู่ที่ลายฉลุแบบขนมปังขิงตรงชายคา และลายลูกกรงระเบียง
มองเห็นได้หลายแห่งในตลาดร้อยปี
ลูกกรงแบบนี้เรียกว่าอะไรไม่ทราบ เท่าที่ดูจากถนนข้างล่าง ไม่ได้ไปยืนบนระเบียงดูใกล้ๆ
ไม้ลูกกรงนั้นไม่ใช่ท่อนไม้สั้นๆเอามาต่อกัน แต่เป็นไม้ชิ้นเดียวกันค่ะ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 06, 11:34

.
นางงามรุ่นเก่าเช่นเดียวกับภาพข้างบน แต่ว่าเธอถูกจับแต่งตัว ผัดแป้งแต่งหน้าเสียใหม่
ให้กลมกลืนกับสายตาของคนยุคนี้


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: guru ที่ 17 ส.ค. 06, 12:04
 ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีกับสมาชิกทุกๆท่านเพราะเป็นสมาชิกใหม่ครับ และต้องบอกว่าดีใจจริงๆที่เปิดเข้ามาอ่านกระทู้นี้พอดีเพราะตลาด100ปี สามชุก คือบ้านเกิดผมเองครับ ต้องขอบคุณ คุณเทาชมพู มากๆครับ ที่ไปเที่ยวแล้วยังถ่ายรูปมาเผื่อแผ่ให้กับสมาชิกได้ดูด้วย ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับชาวตลาดสามชุกด้วย ผมเองนั้นตั้งแต่มีการปรับปรุงเป็นตลาด100ปี เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปเดินชมตลาดเลยครับแย่จริงๆ อ้อ! บ้านผมอยู่ตรงซอย 1 นั่นแหละครับ เป็นร้านขายรถจักรยานชื่อ วิจิตรจักรยานครับ ต้องขอบคุณ คุณเทาชมพู อีกครั้งนะครับ (เป็นครั้งแรกที่ได้แสดงความเห็นผ่านทาง
email นะครับ).


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 17 ส.ค. 06, 14:07
 จากนิราศสุพรรณ ครับ

         นึกนามสามชุกถ้า    ป่าดง
เกรี่ยงไร่ได้ฟ่ายลง          แลกล้ำ
เรือค้าท่านั้นคง               คอยเกรี่ยง เรียงเอย
รายจอดทอดท่าน้ำ          นับฝ้ายขายของฯ

หมายเหตุ -     บางคำบางแห่งถี้(ที่)    ต่างกัน :-    

        นึกนาม - ถึงนาม     ได้ฟ่ายลง - ได้ฝ้ายลง


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: ทามะ ที่ 17 ส.ค. 06, 15:25
 แม่ผมคนสุพรรณนะคับเคยไปเหมือนกันคับแต่ตั้งแต่สมัยเด็กๆตอนนั้นนั่งเรือเขียวไปจำได้ว่าสมัยก่อนจะไปสุพรรณนั่งเรืออย่างเดียวชอบไปเพราะชอบไปเที่ยวสุพรรณเวลามีงานผ้าป่าและกฐินและที่ชอบมากเวลาไปสุพรรณต้องกินตลอดคือก๋วยเตี๋ยวเรือของสุพรรณอร่อยมากปัจจุบันก็ยังกินอยู่คับเรือนไม้ที่สามชุกนี่ผมชอบนะคับเพราะบ้านพี่ผมที่สุพรรณก็บ้านไม้คับไม่ยอมให้เปลี่ยนเด็ดขาดคับคราวหน้าไปผมต้องไปถ่ายรูปมาอวดอาจารย์บ้างและคับ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: violoncello ที่ 17 ส.ค. 06, 16:14
 ยังไม่เคยไปเลยครับ แต่เท่าที่อ่านดูแล้วน่าไปมากๆเลยครับ แล้วยิ่งมีรูปอีกยิ่งทำให้อยากไปเห็นซักครั้งในชีวิต


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 18 ส.ค. 06, 08:36
 สวัสดีภาคเช้าครับทุกท่าน  ตื่นก่อนใครเลย

ตลาดแห่งนี้ที่มีการพัฒนาขึ้นมามีชื่อเสียงในปัจจุบัน   นับว่าเป็นความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนโดยแท้  หากนับอายุแล้วก็มีการริเริ่มได้ราว ๖-๗ ปีมานี้เองครับ

ผมขอเดินตามหลังอาจารย์เทาฯ เที่ยวด้วยซักคน  แต่จะเงียบเฉยก็กระไร  เพราะอยู่ในจังหวัดบ้านเกิดของตัวเองแท้ๆ  ขอเชียร์ที่นี่ให้ดังๆ อีกซักทีจะเป็นไร  หากมีเวลา  และความสนใจเรื่องตลาดร้อยปีเริ่มซาลงเมื่อใด  ผมจะเล่าเกร็ดสำคัญของอำเภอสามชุกให้ฟังด้วยครับ  นำก่อนสักนิดเพื่อเรียกน้ำย่อย  แต่เดิมอำเภอนี้ชื่อว่า "อำเภอนางบวช" ครับ  เป็นชื่อเรียกแต่โบราณนานเน

ผมเป็นคนนอกสามชุกครับ  ที่จริงคุณ guru ซึ่งเป็นคนในอาจไม่รู้จะพูดอะไรเพราะเห็นมาตั้งแต่เกิด  ทุกอย่างดูมีความสำคัญไปหมด  ไม่รู้จะเน้นอะไรให้เป็นสิ่งสำคัญ  ส่วนผมเป็นคนนอกสามชุกครับ  รู้งูๆ ปลาๆ  เลยอาจพูดได้สะดวกปากหน่อย  จึงขอจับจุดบางอย่างแบบสายตาคนนอกมาเล่าให้ฟังครับ

ตลาดแห่งนี้ถ้าเอารถยนต์เข้าไปจะยากสักหน่อย  หากมาจากกรุงเทพทางถนนใหญ่สุดๆ ระดับประเทศของเมืองสุพรรณที่ใครๆ ต่างอิจฉา  ก็ต้องเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานใหญ่แม่น้ำท่าจีนใต้ตัวตลาดสามชุกไปทางฟากตะวันตก  นิดหนึ่ง  แล้วเลี้ยวขวามาตามคลองชลประทานขึ้นไปทางเหนือ  อีกนิดหนึ่ง  แล้วก็เลี้ยว แล้วก็เลี้ยว  ไม่ต้องกลัวหลงครับ ถึงแม้จะไม่มีป้ายบอกทางทุกที่  แต่ท่านก็ต้องเข้าถูกแน่นอน  แต่ตรงทางเข้าที่จอดรถจะแคบซักหน่อยครับ

นี่เป็นแนวถนนที่ผมเคยกินนอนสร้างวีรกรรมที่นั่นแทบทุกคืนเมื่อราวปี ๓๕-๓๖ นะครับ  ตอนนี้คิดว่าก็คงไม่ต่างกันเท่าใดนัก

ตอนนั้นรถวนเข้าไปจอดหน้าอำเภอได้  ตอนนี้ยังจอดได้หรือเปล่าครับ อ.เทาชมพู

ตัวที่ว่าการอำเภอหันหน้าออกแม่น้ำ  ตอนนั้นเป็นอาคารไม้  ตอนหลังรื้อออก  ข่าวว่าขายไปราวสองแสนบาท  จริงหรือเท็จไม่รู้  เสียดายเหมือนกัน  สร้างใหม่เป็นคอนกรีตหลังปี ๓๗-๓๘ นะครับ

แนวเดียวกัน  แต่ใต้ลงไป  เป็นสถานีตำรวจ  เมื่อก่อนพอผมสร้างวีรกรรมวีรเวรอะไร  ทั้งหนักทั้งเบา  ก็ต้องไปแวะเวียนที่นี่เป็นประจำ   แต่ตอนหลังสถานีตำรวจย้ายออกไปอยู่ข้างนอก  ตรงถนนใหญ่กรุงเทพ-ชัยนาท (๓๔๐)  ฟากตะวันออกของแม่น้ำ  แล้วก็ตะวันออกของถนนด้วยครับ  ใต้ที่ปัจจุบันไปประมาณ ๓ กม.ได้  ตรงนั้นเดิมเป็นบึงละหารน้อย (ส่วนบึงละหารใหญ่อยู่เหนือขึ้นมาอีกหน่อย  แนวเส้นรุ้งเดียวกันกับที่ว่าการอำเภอแหละครับ)

อาคารสถานีตำรวจเดิม  รื้อออกไปแล้ว  กลายเป็นถนนหนทางแทนที่

หน้าสถานีตำรวจ  คือทางตะวันออก ติดริมแม่น้ำ  เป็นสำนักงานที่ดินสามชุก  ตอนนี้กลายเป็นสำนักงานเทศบาลตำบลสามชุกแทนครับ

อ้อ  เขตหน่วยราชการเหล่านี้มีเนื้อที่ติดริมแม่น้ำสุพรรณเลยครับ  จึงไม่มีซอยย่อยริมแม่น้ำนับจากอำเภอลงไปทางใต้เลยครับ  มีแต่ซอยย่อยไปทางเหนือ  ซึ่งตรงนั้นถือเป็นจุดศูนย์กลางของตลาดร้อยปี

หลังสถานีตำรวจ  คือไปทางตะวันตก  เป็นสโมสรอำเภอ  ก็ที่แทงสนุ๊กนั่นแหละ   รื้อออกหมดเหมือนกัน  แล้วก็ทำเป็นสวนหย่อมกับถนนหนทาง

ผมเว่าซื่อๆ อย่างนี้  ถูกไหมครับคุณ guru


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: guru ที่ 18 ส.ค. 06, 15:14
 สวัสดีทุกท่านครับ  ต้องขอบคุณ คุณNickyNickมากครับ คุณรู้จริงเหมือนคนในเลยครับ(อาจมากกว่า)
ผมจะลองทบทวนความจำสมัยเด็กดูนะครับ
เมี่อขับรถมาและเลี้ยวช้ายขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนแล้ว(สมัยก่อนยังไม่มีสะพานใหญ่นี้ ต้องขับเลยไปอีกประมาณ 5 กม.เพื่อข้ามสะพานตรงประตูน้ำแล้วย้อนกลับมา) ให้เลี้ยวขวาตรงแยกเล็กๆแยกแรกเลย จะผ่านที่ทำการไปรษณีย์ชื่งอยู่ด้านช้ายมือ แล้วไปเลี้ยวขวาหลังที่ว่าการอำเภอ(เมื่อก่อนตรงจุดที่จะเลี้ยวนั้นทางด้านขวาจะเป็นห้องสมุดประชาชน,เกษตรอำเภอ,ดับเพลิง ส่วนด้านซ้ายจะเป็นที่โล่งๆเรียกว่า"เด่น" ซื่งเป็นที่วิ่งเล่น เตะฟุตบอล ออกกำลังกาย ตอนเย็นๆคนจะเยอะมาก และมีบ้านแขกขายเนื้ออยู่ทางด้านติดกับถนนเลียบคลองชลประทาน ซึ่งเขาจะเลี้ยงวัว ควาย แพะ เป็นจำนวนมาก) เมื่อเลี้ยวขวาที่จะไปอำเภอแล้วจะผ่านสวนหย่อมด้านขวามือซึ่งเมื่อก่อนบริเวณนี้จะเป็นบ้านพักนายอำเภอมีสนามแบดมินตันและสนามเด็กเล่น สามารถเข้าไปเล่นได้ท่านนายอำเภอไม่หวง ส่วนทางด้านหลังบ้านพักนายอำเภอก็จะเป็นบ้านพักข้าราชการ
ถัดจากบ้านพักนายอำเภอ(เวลาพูดเร็วๆก็จะกลายเป็นแนมเภอเลยเรียกแนมเภอจนติดปาก)ก็จะเป็นหอประชุมอำเภอซึ่งทุกสิ้นเดือนพวกข้าราชการครู กำนันผู้ใหญ่บ้านจะต้องมาประชุมและรับเงินเดือนที่นี่  ติดกับหอประชุมก็คือสโมสรที่คุณNickyNick ว่านั่นแหละครับ
เมื่อขับรถถึงอำเภอแล้วสามารถจอดรถได้หมดนะครับทั้งด้านหน้าด้านหลัง พูดถึงอำเภอแล้วผมก็เสียดายเหมือนกันนะครับและก็ได้ข่าวเหมือนคุณNickyNick นั่นแหละ ยังอยากให้เขาไปซื้อกลับคืนมาเลย
ตัวอำเภอเมื่อก่อนเป็นเรือนไม้สองชั้น(ผมและเพื่อนๆขึ้นไปวิ่งเล่นบ่อยๆ) มีหน้ามุข ปลูกกระดังงาหรือจำปีด้วยถ้าจำไม่ผิด
ตัวเรือนจะสร้างติดกับอนามัย ถัดไปก็จะเป็นโรงพัก(สถานีตำรวจ)
ด้านหน้าอำเภอติดกับแม่น้ำท่าจีน ด้านขวาจะมีท่าเรือดับเพลิง
ด้านซ้ายเป็นสะพานข้ามแม่น้ำซึ่งเมื่อก่อนเป็นสะพานไม้เล็กๆ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2508 ในสมัยนายสมพร กลิ่นพงษา เป็นนายอำเภอ จึงให้ชื่อว่าสะพานพรประชา เนื่องจากสะพานไม้มันผุพัง จึงได้มีการบูรณะปรับปรุงและขยายให้ใหญ่ขึ้นเปลี่ยนเป็นคอนกรีต
ในสมัยนายอำเภอสมพรได้ชื่อว่าเป็นนายอำเภอมือปราบ ประชาชนให้ความรัก เคารพนับถือท่านมาก ท่านมักออกไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปนอนกับชาวบ้านเป็นประจำเพื่อไปจับเสือ(โจร) สมัยก่อนเสือฝ้าย เสือมเหศวร ดังมาก มีข่าวว่าเมื่อฆ่าเสือได้ บางครั้งก็ควักหัวใจออกมาย่างกินด้วย จริงเท็จประการใดต้องไปถามท่านเองนะครับ (ปัจจุบันท่านปลดเกษียณไปหลายปีแล้วในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และไปเป็นกรรมการกฤษฎีกา)
ในตลาดสามชุกจะแบ่งออกเป็นซอยๆ ตั้งแต่ ซอย1, ซอย2, ซอย3, ซอย4 และถัดไปเรียกท่าถ่านหรือท่านายเจริญเพราะเป็นของนายเจริญ สถาปิตานนท์ (ไม่ทราบเป็นอะไรกับดร.ประสม สถาปิตานนท์) และถัดไปอีกซอยหนึ่งจะเป็นโรงหนังวัฒนไกร ปิดวิกเก็บตังค์ จึงพูดว่าไปดูหนังที่วิก เป็นอันรู้กัน
ตรงมุมซอยนี้จะเป็นโรงตีเหล็ก มีชายกำยำ 3 คน ช่วยกันตีสลับกันคนละโป๊ก โป๊ก โป๊ก
ปัจจุบันที่เป็นตลาด100ปีนี้ เรียกว่าหน้าตลาดหรือหัวตลาดเพราะมีอีกตลาดหนึ่งอยู่ทางด้านท้ายติดกับถนนเลียบคลองชลประทาน เรียกว่าท้ายตลาดหรือตลาดยายจูเพราะเป็นของยายจู
และเป็นท่ารถด้วย
ถ้าจะจ่ายตลาดเช้าต้องไปท้ายตลาด ถ้าเป็นตอนเย็นต้องไปหน้าตลาด
ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ตลาด 100 ปีจะอยู่ในซอย 2 ทางด้านหัวตลาดซึ่งเป็นบ้านของขุนจำนงค์จีนารักษ์ (เป็นนายอากรเก็บภาษีคนแรก) เป็นบ้าน 3 ชั้น ทายาทได้ยกให้เป็นพิพิธภัณฑ์ของตลาดสามชุกชื่อ "พิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงจีนารักษ์" ดำเนินการโดยคณะกรรมการพัฒนาตลาดสามชุก ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บของโบราณ
ชั้นที่ 1 แสดงข้อมูลความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสามชุก
ชั้นที่ 2 แสดงเรื่องราวของครอบครัวขุนจำนงจีนารักษ์
ชั้นที่ 3 จัดเป็นที่ประชุมสัมนา จัดนิทรรศการ
เท่านี้ก่อนนะครับ.


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 18 ส.ค. 06, 16:19
 ขอแย่งกันนำเที่ยวก็แล้วกันครับ  ประโยชน์ตกอยู่กับคนอ่านทั้งนั้นแล  เหมือนกันมั่งต่างกันมั่งนิดหน่อยก็ค่อยๆ เฉลยที่ถูกต้องออกมาก็แล้วกัน  คราวนี้ขอเวอร์ชั่นของนิคกี้  ผียังกลัวอีกคนนะ


ลืมบอกไป  ว่าตอนรื้อทำอำเภอใหม่เมื่อคราวนั้น  ก็ได้สร้างอนุสาวรีย์รัชกาลที่ ๕ ประดิษฐานอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอ  หันหน้าไปทางแม่น้ำด้วยครับ

คราวนี้เราเริ่มเข้ามาในเขตศูนย์กลางของตลาดร้อยปีสามชุกแล้วครับ

จากที่ว่าการอำเภอ  หันหน้าขึ้นไปทางเหนือ  ข้างขวามือจะเจอ  "สะพานพรประชา"  ข้ามแม่น้ำสุพรรณ (ท่าจีน) เดิมเป็นสะพานไม้  คนเดินข้ามได้  รถมอเตอร์ไซค์ข้ามได้  สร้างสมัยนายอำเภอสมพร  กลิ่นพงษา (๒๕๐๔-๙)  ครับ  ร่วมมือกันดีระหว่างราชการกับชาวบ้าน  จึงนำเอา  "สมพร+ประชาชน"  จึงกลายเป็น "พรประชา" ครับ  สร้างใช้ได้ตั้งแต่ปี ๒๕๐๗  แต่ฉลองสะพานเมื่อ ๒๕๐๘

นายอำเภอสมพรเป็นเขยสุพรรณด้วยครับ  ภริยาของท่านก็เป็นเครือญาติของท่านเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)

สะพานนี้ปัจจุบันรื้อแล้ว   ก่อนรื้ออำเภอนิดหน่อย  เพราะมันเริ่มจะซวนเซ   สร้างเป็นสะพานคอนกรีตเล็กๆ เท่าเดิมแทน  ยังทำป้ายจารึก ๒๕๐๘ ประดับเป็นประวัติศาสตร์อยู่เลย  ตอนที่รื้อยังเป็นสุขาภิบาลอยู่  เทศบาลเพิ่งมายกฐานะตอนประกาศ พรฎ.ยกฐานะสุขาเป็นเทศบาลทั่วประเทศเมื่อปี ๒๕๔๒ นี้เองครับ   หลังรื้อ  อยากบอกว่าเสียดายหรือไม่  ก็ม่ายรู้เหมือนกัน  คนบอกไม่เสียดายสะพาน  แต่เสียดายไม้  ไม้เนื้อดีแผ่นใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย

จากตีนสะพานพรประชาฟากตะวันตก  ก็จะมีถนนซอยลงมาต่อจากสะพาน  เรียกว่าซอย๑  ติดข้างอำเภอด้านเหนือแหละครับ  แล้วมองขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ขนานกันก็จะมีซอย๒  - ซอย๓ - ซอย๔  -  ซอยสุดท้ายไม่ใช่ซอย๕  แต่เรียกเป็นซอย "ท่าถ่าน"  แทนดั่งคุณ guru พรรณนา  ตรงนี้เดิมมีโกดังถ่าน  แล้วก็ขนถ่านลงเรือได้ครับ  แล้วก็ "ซอยโรงหนัง" ดังที่กล่าว

จากตีนสะพานพรประชาฟากตะวันตกเช่นกัน  มีถนนขนานกับแม่น้ำแยกจากซอย๑ กับสะพาน ขึ้นไปทางเหนือ  ตรงนี้ไม่มีชื่อเรียกเป็นจริงเป็นจัง  บางคนเรียกกันง่ายๆ ว่า "ซอยริมน้ำ"  บางคนก็เรียก "ซอยริมนที"  ซึ่งจากซอยริมแม่น้ำนี้เองที่เป็นจุดแยกเริ่มต้นของทั้งซอย๑-๔  แล้วก็ซอยท่าถ่านด้วยครับ   ซอยโบราณของตลาดร้อยปีก็แบ่งง่ายๆ อย่างนี้ครับ

เข้าใจแผนที่อย่างนี้  คราวนี้ไม่หลงกันแล้วล่ะ  เที่ยวชมกันได้ตามสะดวกเลยครับ

คุณ guru นำเที่ยวต่อครับ  แล้วผมจะคอยเสริม  แต่หากช้า  นิคกี้ผีน่ารักขอออฟไซด์ไปมั่ง  มิเป็นไรนะขอรับ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: guru ที่ 18 ส.ค. 06, 17:21
 ดีครับคุณนิคกี้
งั้นก่อนจะเที่ยวต่อไปขอเล่าประวัติย่อๆให้ทราบก่อนนะครับ
ประวัติเมืองสามชุกตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2437 ในสมัยรัชกาลที่ 5
เดิมชื่ออำเภอนางบวช ไม่ได้ตั้งอยู่ตรงนี้แต่ตั้งที่ตำบลนางบวช ต่อมาในปี พ.ศ.2457 สมัยรัชกาลที่ 6 ย้ายที่ตั้งอำเภอมายังบ้านสามเพ็ง ซึ่งเป็นย่านการค้าสำคัญในสมัยนั้น จนปี พ.ศ. 2481 สมัยรัชกาลที่ 8 จึงเปลี่ยนชื่ออำเภอเป็นอำเภอสามชุก ย้ายมาตั้งที่ริมแม่น้ำสุพรรณ (ท่าจีน)
เดิมบริเวณอำเภอสามชุกเรียกว่า ท่ายาง ; ชาวบ้าน ชาวเรือ เหนือใต้ตก นำเกลือ นำข้าวของป่ามาขาย จึงเรียกบริเวณที่นำของมาชุมนุมขายกันนี้ว่า "สามแพร่ง" ต่อมาเพี้ยนเป็นสามเผ็ง และสำเพ็ง ตลาดนี้จึงเป็นแหล่งค้าขายของป่า ขายเกลือ ฝ้าย แร่ และสมุนไพร
ระหว่างที่รอขายสินค้าหมด ก็ใช้ไม้ไผ่ที่มีอยู่มากมายมาสานกระชุกใส่ของขาย นานไปชาวบ้านเลยเรียกว่า "สามชุก" ต่อมาตลาดนี้ก็เจริญกลายเป็นชุมชนที่หนาแน่นเป็นแหล่งทำนา มีโรงสีข้าว ตลาดค้าขายเรียกว่า ค้าขายกันคึกคักเลยทีเดียว จึงมีการเก็บภาษีและตั้งนายอากรคนแรกขึ้นมาคือ "ขุนจำนงจีนารักษ์" ซึ่งท่านขุนผู้นี้เสียชีวิตเมื่อ พ.ศ.2517 อายุได้ 83 ปี และบ้านของท่านซึ่งเป็นบ้าน 3 ชั้น ทายาทได้ยกให้เป็นพิพิธภัณฑ์ของตลาดสามชุก ดังได้เล่าแล้ว
ถนนที่ขนานกับแม่น้ำที่เป็นตลาดนั้นเรียกว่าถนนเลียบนที มีของกินเยอะแยะ วานคุณนิคกี้ช่วยพาชิมหน่อย
อ้อ เมื่อก่อนมีร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่งอยู่ริมน้ำชื่อร้าน "ซ้งอาหาร" มีปลาบู่ทอดกรอบ อร่อยมาก ขนาดคุณชายถนัดศรียังไปชิมมาแล้วยังติดใจให้เชลล์ชวนชิมเลยครับ ซึ่งเจ้าของร้านก็คือเฮียซ้ง เป็นลูกท่านขุนจำนงฯ นั่นแหละครับ แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว
ที่เหลือคุณนิคกี้ว่าไปเลยนะครับ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 06, 17:29

.
นี่ใช่ไหมคะ  ถนนเลียบนที   เลียบแม่น้ำท่าจีน


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 06, 17:30

.
อีกมุมหนึ่ง


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 06, 17:31

.
ภาพนี้ หันกล้องไปทางทิศตรงข้าม


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 06, 17:34

.
ถ่ายรูปบางส่วนของพิพิธภัณฑ์บ้านท่านขุนจำนงจีนารักษ์ไว้ด้วย
นี่คือห้องบนชั้นสองของบ้าน น่าจะเป็นห้องรับแขกหรือไม่ก็ห้องนั่งเล่น


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 06, 17:35

.
ห้องนอนของท่านขุน


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 06, 17:42

.
โต๊ะเครื่องแป้งโบราณ  ลวดลายเป็นแบบฝรั่งแล้ว ไม่ใช่ไทย
แต่เป็นสมัยที่หญิงสาวยังนั่งพับเพียบแต่งโฉมอยู่  ตัวโต๊ะ ลิ้นชัก และกระจกเงาเตี้ยอยู่ในระดับเจ้าของต้องนั่งกับพื้นถึงจะส่องเห็นเงาหน้า และเปิดลิ้นชักหยิบของได้ถนัด


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 06, 17:52

.
บ้านนี้มี ๓ ชั้น นี่คือชั้นที่ ๓ เป็นทางเดินหน้าห้องลูกสาวท่านขุน    ที่จริงให้ลูกสาวอยู่ถึงชั้น ๓ ก็เป็นความรอบคอบของคุณพ่อ  เพราะพ่ออยู่ชั้น ๒  ย่อมไม่มีใครผ่านด่านขึ้นมาชมโฉมลูกสาวได้ง่ายนัก    
เดาว่าท่านขุนอาจจะหวงลูกสาว  ถ้าหวงก็ไม่แปลก ดูจากรูปถ่ายที่แขวนไว้ในห้องชั้นที่สอง  ลูกสาวท่านขุนสวยสะดุดตาน่าอัศจรรย์ทีเดียว   สวยไม่แพ้ดาราหรือนางงามคนไหนเลย

มีโอกาสพบตัวจริงด้วยค่ะ  เพราะอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์นี่เอง ท่านอยู่ในวัยย่ายายแล้ว แต่ก็ยังสวย ผิวขาวสะอาด พูดจาไพเราะ  เสียดายไม่มีเวลาคุยกันมากกว่านี้

ถ่ายรูปห้องที่เป็นทางเดินไว้ สวยมากทั้งประตู พื้นห้องและกระจกฝ้า  ตรงกระจกสีเขียว ออกแบบให้กระดกพลิกปิดเปิดรับลมได้ด้วยนะคะ โดยไม่ต้องเปิดประตูทั้งบาน


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 18 ส.ค. 06, 18:23
 เรทติ้งดีจัง  ไม่ทันอาจารย์เทาฯ แล้วครับ

สำหรับเนื้อหารวมๆ ของอำเภอนางบวชเดิม  หรืออำเภอสามชุกปัจจุบันก็เป็นดังที่ท่านเล่าครับ  แต่รายละเอียดปลีกย่อยหรือปี พ.ศ. ต่างกันบ้าง  ซึ่งประวัติที่เขียนในหนังสือเล่มเดียวกันแต่คนละบทยังไม่เหมือนกันเลยครับ  ผมค้นจากหลักฐานต้นๆ ก็จึงทราบความชัดเจนกว่านี้  ไว้มีโอกาสจะขยายให้ฟังอีกทีครับ

เรารู้ตำแหน่งแห่งหนของตลาดร้อยปีเรียบร้อยแล้ว  คราวนี้ก็แวะเข้าซอยกันเลยนะครับ

..................

ซอย๑  เป็นซอยติดอำเภอ  คนเยอะสุด  เพราะมีตลาดสดหน้าอำเภอประจำ  อย่างที่คุณ guru เล่าไว้  ตรงนั้นถูกต้องครับ   แล้วก็มีคนมีรถข้ามสะพานพรประชากันตลอดเวลาด้วย  จึงคึกคักเป็นพิเศษทั้งวัน

ขอเริ่มนำเที่ยวจากใกล้แม่น้ำก่อน  มี ร้านกาแฟเจ๊ม่วยเล็ก ตรงหัวมุมปากซอยที่แยกเป็นซอยริมแม่น้ำด้วย  ร้านเจ๊ขายดีเป็นพิเศษ  กล่าวได้ว่าใครมาที่นี่แล้วไม่ได้กินกาแฟฝีมือเจ๊ม่วยเล็กแล้ว  นับได้ว่ายังไม่ถึงสามชุกโดยแท้  อาจารย์เทาถึงสามชุกรึยังครับ

จากร้านกาแฟ  ถัดไปทางตะวันตกก็เป็นร้านขายนาฬิกา – ร้านขายทองเพชรพลอยของเจ๊อ๋า  เป็นพี่สาวเจ๊ม่วยเล็กนั่นแหละครับ กินกาแฟน้องสาวเสร็จก็มาซื้อเพชรร้านพี่สาวได้เลย  รวยซะอย่าง  ใครจะทำไม – ร้านขายยา - แล้วก็ร้านซุปเปอร์มาเก็ต – แล้วจึงถึงร้านวิจิตรจักรยานของคุณ guru นี่แหละ  ร้านใหญ่ดีนี่ครับ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 18 ส.ค. 06, 18:34
 ลืมบอกอาจารย์เทาฯ ไปครับ  ถนนที่โชว์ใน ๑๗-๑๙ นั้นเป็นถนนใหม่  ไม่รู้เขาเรียกกันยังไง  ถนนเลียบนทีคือถนนเก่าบนบกที่ขนานกับถนนสีขาวนี่แหละ  ส่วนถนนนี้อยู่เหนือน้ำ  อาจจะเรียกว่า "ถนนบนนที" ก็คงได้

ตั้งแต่ทำแล้วผมยังไม่เคยเข้าไปซักที  เข้าไปครั้งสุดท้ายราวปี ๔๐-๔๑ มั้งครับ  ที่พอรู้ๆ เรื่องเหล่านี้  และมาเขียนให้ท่านทราบได้  ก็มาจากความทรงจำเก่าๆ  กับผลจากที่ได้ไต่ถามทุกข์สุขของเพื่อนพ้องที่นั่น

มีความหลังฝังใจหลายอย่างที่นั่นครับ

ไม่อยากจำฝังใจให้เจ็บลึก
ไม่อยากนึกถึงค่ำคืนชื่นสดใส
วันเวลาห้วงหนึ่งถูกดึงไป
อยากหวนไห้ให้กลับเป็นเช่นดังเดิม


แปลงจากเพลง "จำฝังใจ" ของไมโครครับ
.

ไปทีไร  แล้วหม่นหมองไหม้กลับมาทุกที


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 06, 18:51
 ถึงซีคะ  
ได้ไกด์กิตติมศักดิ์ชื่อคุณพงษ์วิน ชัยวิรัตน์ ประธานกรรมการพัฒนาตลาดฯพาไปกินกาแฟร้านเจ๊ม่วยเล็ก  พรรคพวกกินกาแฟเย็น  ดิฉันสั่งโอเลี้ยง
อร่อยสมคำเล่าลือ  

มีขนมไข่ตรงซอย ๒ ก่อนถึงพิพิธภัณฑ์ท่านขุนจำนง  ที่อยากกินมาก   คนขายยิ้มย่องผ่องใสให้ชิมฟรีคนละอัน    รสชาติเหมือนของเดิมที่เคยกินแถวสำเพ็งตอนเด็กๆ  
ย้อนกลับไปซื้อหลังออกจากพิพิธภัณฑ์   เพราะขี้เกียจหิ้วไปตั้งแต่แรก  
ปรากฏว่าหมดร้านแล้ว  มีลูกค้าสั่งจองหมดไม่เหลือ  เลยคอตกกลับบ้าน


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 18 ส.ค. 06, 18:58
 ทราบว่าอาจารย์เทาฯ ถึงสามชุกแท้แน่นอน  ผมก็พลอยสบายใจไปด้วย

ก็ขอเล่าตามวิธีของผมต่อเลยครับ

เดินตามซอยริมแม่น้ำขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เจอซอย๒
ซอย๒  จะนับเป็นหัวใจของตลาดร้อยปีก็อาจว่าได้  เข้าซอย๒ ไปเจอบ้านที่ ๒ ด้านขวามือ  เป็นบ้านขุนจำนงค์จีนารักษ์ครับ  ชาวบ้านที่นี่เรียกกันสั้นๆ ว่า "ท่านขุน"  ตอนนี้มีลูกสาวขุนจำนงค์อาศัยอยู่คนเดียว  จะจีบก็ได้ไม่มีใครว่า  ท่านเพิ่งพ้นวัย ๘๐ ในปีนี้เอง  ยังแรกรุ่นอยู่  คนแก่เรียกเจ๊ลั้ง  เด็กๆ เรียกป้าลั้ง  บนบ้านก็มีอะไรหลายอย่างให้ชม  คนคงจะพูดถึงบ้านหลังนี้กันเยอะ  ผมไม่พูดก็แล้วกัน  เดี๋ยวดังคนเดียว  อ้อ  บ้านหลังนี้เดินขึ้นไปชมฟรีได้เลย  เจ้าของบ้านใจดี  ไม่เก็บกะตังค์หรอก

โรงแรมอุดมโชค  ร้านบ้านโค้ก  ร้านเสริมสวย  ตามที่เสนอมาตั้งแต่รูปแรกจนถึง คหพต.๘  อยู่กลางๆ ซอย๒ ครับ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 18 ส.ค. 06, 19:11
 เดินตามซอยริมแม่น้ำขึ้นไปอีกหน่อย  ระหว่างซอย๒  กับซอย๓  ทางซ้ายมือจะมี ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสามชุก ตั้งอยู่ครับ  ใครไปอย่าลืมแวะด้วยนะครับ  ตลาดร้อยปีที่ยังอยู่รอดปลอดภัยจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ๆ ได้ก็เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อหลักเมืององค์นี้แหละครับ  ทำให้คนในชุมชนนี้อยู่กันอย่างมีความสุข

เลยศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขึ้นไปทางเหนืออีกนิดตามซอยริมแม่น้ำ  ทางขวามือเป็นร้านขนมหวาน  อร่อยซาบซ่านหวานใจยิ่งนัก  ใครดื่มกาแฟเจ๊ม่วยเล็กเสร็จ  แวะบ้านท่านขุนฯ  พร้อมกับไหว้เจ้าแล้ว  ก็มานั่งกินขนมหวานร้านนี้ได้  เห็นมีป้ายติดหน้าบ้านว่าเจ๊เข่งวีดีโอ  บอกว่าตอนนี้วีดีโอบ่มีให้เช่าแล้ว  ขายขนมรวยกว่าเป็นไหนๆ  จันทร์ถึงศุกร์จะขายขนมหวาน  เยอะแยะ  เช่น เต้าส่วน ลอดช่อง ข้าวเหนียวถั่วดำ  กล้วยบวชชี  บัวลอย  จำไม่หวาดไม่ไหว  พอเสาร์อาทิตย์คนมาเดินเที่ยวชมตลาดกันเยอะ  ก็เปลี่ยนสไตล์มั่ง  ขายขนมไข่แทน  ก็ขนมไข่ฟูๆ เล็กๆ หยอดใส่พิมพ์นั่นไง  แล้วก็รวบรวมพลพรรคในบ้านมาขายทุกอย่างกันสะบั้นหั่นแหลก  อีกคนหนึ่งขายยำแหนม  อีกคนปั่นน้ำฝรั่งคั้นสด  ฟังแล้วชื่นใจ  ร้านอื่นบ้านอื่นก็ขายของแตกต่างกันไปตามถนัด

ที่เล่ามาเยอะนี้  เพราะคุณ guru ขอร้องให้เล่าเรื่องขนมหวานนะครับ  แล้วอาจารย์เทาฯ ก็อดกินขนมไข่  คงเป็นของเจ๊เข่งนี่แหละ  ชัวร์  ของแท้แน่นอน

ส่วน  ตำนานซ้งอาหาร  อาจมีต่อวันหลัง  ที่นี่ก็เที่ยวจนปรุมาแล้วเหมือนกัน


ซอยต่อไป  ขอวันหลังครับ


กลอนบทต่อกันกับข้างบนโน้นน

เราสองคนใจเดียวกันเคยพันผูก
เคยสนุกเคยฉลองเคยเฉลิม
ฟังเพลงนี้สุดช้ำถูกซ้ำเติม
คอยเพียรเพิ่มแผลใหม่ให้ทรมาน


ต้องกลับไปฟังเพลง "จำฝังใจ" อีกซักรอบ  แล้วสมองถึงจะแล่น


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 06, 08:00

คราวหน้าถ้าชวนเพื่อนไปอีก   จะพริ้นท์ความเห็นคุณนิคไปด้วย  ได้อธิบายให้เพื่อนฝูงฟัง
ที่นี่มีร้านถ่ายรูปโบราณ ที่บริการถ่ายรูปแบบโบราณให้ลูกค้า   จะเอาสีขาวดำหรือสีซีเปียก็ได้     ห้องถ่ายรูปมีเสื้อผ้าสมัยรัชกาลที่๕ และ ๖ให้ยืมสวมใส่เข้าฉากด้วยค่ะ  สร้อย แหวน กระเป๋าหมาก  ไม้เท้า หมวกกะโล่  มีพร้อม
กล้องถ่ายรูปรุ่นคุณทวด รูปร่างเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมใหญ่   คงจะเป็นรุ่นลูกของกล้องท่านฟะรันซิศ จิต   ถ้าคุณพิพัฒน์ไปเห็นคงจะอธิบายได้อีก ๑ กระทู้เป็นอย่างน้อย

ภาพนี้คือผนังของร้านที่พราวไปด้วยรูปถ่าย  ในจำนวนนี้มีรูปชายหนุ่มในชุดนายทหารประมาณรัชกาลที่ ๗    สง่างามมาก  ไม่ค่อยเคยเห็นคนรุ่นเก่าหน้าตาหล่อขนาดนี้
ถามคุณยายเจ้าของร้าน   บอกว่าชื่อพระยาเฉลิมอากาศ  ท่านเป็นชาวศรีประจันต์  เคยอ่านพบแต่ยังนึกไม่ออกว่าหนังสือเล่มไหน
น่าเสียดาย ภาพที่ถ่ายมาฝาก ออกมาพร่ามาก  ครั้งหน้าไปจะถ่ายออกมาให้ดีกว่านี้ค่ะ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: กุรุกุลา ที่ 19 ส.ค. 06, 09:38
 ขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูมากครับที่พาไปชม กระทู้รวมคนสุพรรณจริงๆ อ้อ แวะมาสวัสดีคุณนิกด้วยครับ ถ้าวันหลังผมไปเยี่ยมสุพรรณบุรีอยากให้ช่วยเป็นไกด์ให้จัง




อาทิตย์หน้าจะแวะไปเยี่ยมเมืองสุพรรณแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าจะได้ไปชมตลาดสามชุกหรือเปล่า ตลาดโบราณอย่างนี้ไม่ค่อยจะมีเหลือแล้ว อย่างปีก่อนก็มีข่าวไฟไหม้ตลาด 100 ปีที่อุทัยธานีฟังแล้วก็ใจหายเหมือนกัน หวังว่าที่นี่คงจะอยู่ให้ลูกหลานได้ดูไปนานๆนะครับ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 19 ส.ค. 06, 10:11
 อาจารย์เทาฯ นำเที่ยว  เหมือนไม่อยากให้เราก็อปภาพเก็บไว้  เอาแต่ภาพเบลอๆ มาโชว์  ลืมบอกไปครับว่าแม้กาแฟเจ๊ม่วยเล็กอร่อยก็อย่าดื่มมาก  ไม่ได้ทานขนมไข่เจ๊เข่งตาม  มือจะสั่นได้ง่ายๆ  ใครไปเที่ยวครั้งต่อไปก็ต้องทำตามสูตรครับ


สำหรับพระยาเฉลิมอากาศ (สุณี สุวรรณประทีป)  ท่านมีกำเนิดที่อำเภอศรีประจันต์ครับ  มีอายุช่วงปี ๒๔๓๐-๒๔๙๘  ท่านเป็นเจ้าของนามสกุลนี้เลยครับ   พ่อของท่านชื่อหลวงอนุกูลราชกิจ (ทอง) แม่ชื่อหรุ่น  ปู่ชื่อ เทียน  นำเอา ทอง+เทียน  จึงกลายเป็นสุวรรณประทีป  นามสกุลนี้ปรากฏเต็มท้องที่อำเภอศรีประจันต์เลยครับ  แล้วก็มีความสำคัญในประวัติศาสตร์อำเภอแต่แรกตั้งด้วยครับ

ท่านมีความสำคัญในเรื่องการบินของประเทศ  รู้สึกว่าจะเป็นคนไทยคนแรกที่ขับเครื่องบินด้วยครับ  และอีกอย่าง  เหมือนได้รับการยกย่องว่าเป็นบูรพาจารย์และบิดาแห่งกองทัพอากาศไทยด้วยครับ  ตรงไม่แน่ใจเต็มร้อยครับเพราะไม่มีตำราอยู่กับมือ  ลองเช็คดูอีกทีครับ


กุรุกุลา  ไกด์คนนี้โก่งค่าตัวหน่อยนะ  ไม่รักไม่ชอบกันจริงไม่มีทางได้พบหน้าค่าตากันดอก  แล้วก็

ชอบอยู่คนเดียวโดดๆ  ไม่โลดไม่โผน  ไม่เดือดไม่ร้อน  เรื่อยๆ เอื่อยๆ  อยู่คนเดียวให้เข็ด .........


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 06, 10:27
 ถ้ามีเวลาไปเที่ยวตลาดสามชุกได้ก็จะดีค่ะ    

ที่ประทับใจอีกอย่างคือชาวตลาดที่นี่ อัธยาศัยดีมาก  
ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส  ยินดีคุยด้วย ยินดีให้ข้อมูล  
แวะเข้าไปเฉยๆไม่ซื้อของก็ไม่ว่าอะไร  เต็มอกเต็มใจต้อนรับกันทุกร้าน  
ดิฉันไปยืนอยู่หน้าร้านเสริมสวย  เพื่อจะถ่ายรูปร้านตรงข้าม   เจ้าของร้านเสริมสวยยังมีน้ำใจชี้มุมโน้นมุมนี้ให้ถ่ายอีกแน่ะ
ไม่ได้รู้สึกเลยว่าเราไปยืนเกะกะอยู่หน้าร้านเขา
ทำให้รู้สึกว่า เสน่ห์ของบรรยากาศเก่าเป็นอย่างนี้เอง   มันไม่ใช่ตึกคอนกรีตที่ต่างคนต่างอยู่  คนซื้อคนขายถ้าหากว่าไม่ซื้อของกันแล้วก็แทบไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ

เรียกตลาดเก่าสามชุก เล่นๆว่าตลาดสามเสน่ห์

ตัวตลาดเก่าที่บูรณะดีแล้วเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง    ยิ้มสยามและคำทักทายของชาวตลาดก็เป็นเสน่ห์อย่างที่สอง
ของอร่อยที่นี่มีหลายอย่างมาก   เรียกว่าแวะกินกันอิ่ม แทบจะจุกกลับไปทีเดียว เป็นเสน่ห์อย่างที่สาม

เข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวใส่เกี๊ยว   สั่งบะหมี่เกี๊ยวมากิน  เส้นบะหมี่เล็กนิดเหมือนเส้นหมี่  รสชาติแบบเก่า   แต่ละชามใส่มาให้จนอิ่ม ไม่หวงทั้งเส้น เกี๊ยว ผัก และถั่วงอก   ทั้งอิ่มและอร่อยมาก

ดิฉันไปถ่ายรูปโบราณไว้ อีก 3 สัปดาห์จะกลับไปเอา   ชวนเพื่อนฝูงไว้แล้ว  
คราวนี้หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องเอาขนมไข่กลับมาบ้านให้ได้


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 19 ส.ค. 06, 11:19
 ร้านถ่ายรูปโบราณดังที่สุดที่อาจารย์เทาฯ นำเสนอนั้นอยู่ซอย๓ ครับ   คนมาเยี่ยมควรลองดูสักครั้งในชีวิต   แล้วก็  เพื่อให้ถึงสามชุกด้วยอีกประการหนึ่ง  อาจารย์ถึงสามชุกรอบสองแล้ว  ผมก็อุ่นใจอีกครั้งครับ

ซอย๔  มีร้านขายเสื้อผ้าเยอะแยะ  อาจารย์คงมีรูปมาให้ชม

ซอยท่าถ่าน  ซึ่งก็คือซอยลำดับที่ ๕ นั่นแหละครับ  แต่ชาวบ้านเขาไม่เรียกกัน  อยู่ติดตลาดแผงลอยเก่า


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 06, 11:35
 ซอยนี้คือซอย 4 ใช่ไหมคะ  
นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าที่ไปถ่ายกระทะบนเตาที่เห็นนั่น  เขาขายอะไรถึงได้ไปเก็บรูปมา
คุณนิคช่วยมองข้ามๆไปดีกว่า  ดูแต่บรรยากาศของซอย

ผ่านร้านขายเสื้อ ตาไวเห็นเสื้อถักลายตาข่าย ก็เลยถามราคา พบว่าตัวละ 150 บาท  เสื้อแบบเดียวกันนี้ที่ห้างสรรพสินค้าในโคโลราโดขาย $ 40 กว่า
เลยได้ติดมือกลับมาบ้าน  คนรับฝากใส่ไปทำงานเรียบร้อยแล้ว


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 19 ส.ค. 06, 18:46
 สมัยก่อนพอท่านกวีไปเที่ยวไหนแต่ละที  จะแต่งนิราศรำพึงรำพันถึงความหลัง  ให้เข้ากับเหตุการณ์ที่เจอขณะนั้น

ขอเอามั่ง  แต่คงไม่ถึงกับเรียกนิราศสามชุกหรอก  แต่งเยอะไม่ไหว  เดี๋ยวแมวมองมาเจอแล้วจะลำบากใจ  ไม่รู้จะเอาดีทางอาชีพไหนดี

ขอแวะเวียนมาต่อกลอนจาก คหพต.๒๕ กับ ๒๘ ครับ  จะได้จบสิ้นกันซะที

ขอตั้งชื่อกลอนตลาดรวม ๔ บทนี้ว่า  จำฝังใจ  นะขอรับ  ตามเพลงของพี่หนุ่ยไม่โคร  ที่เป็นต้นแบบ

อยากจากลา  จากห่าง  ช่างแสนง่าย
พี่เดียวดาย  ไม่มาแล  แม้สงสาร
คงเพียงแค่  ผิวเผิน  เกินผูกพัน
ไยทำกัน   ช่าง "รุน   แรงเหลือเกิน"

หากมีคน  ดลใจเป็น  เช่นดังเก่า
จะเพียรเฝ้า  นับวัน  สรรเสริญ
สายสัมพันธ์  แนบสนิท  ชิดเพลิดเพลิน
อยากดำเนิน  เหมือนดังเก่า  เราสองคน


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 21 ส.ค. 06, 21:13
 นังฟังเรื่องเล่าของแต่ละท่านแล้วทำให้รู้สึกว่าน่าจะลองไปดูสักครั้งครับ

( ไม่อยากให้กระทู้ตกไว ขอมาดันกระทู้ด้วยคนครับ )


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 22 ส.ค. 06, 08:47
 ร่วมด้วยช่วยกัน  ดัน
จะแต่งโคลงกลอนร่วมดันที่นี่  ไม่ได้แล้วล่ะ
แวะไปเยี่ยมกระทู้คำประพันธ์ของพี่หมูน้อยแล้ว  ติดใจ

หากแต่งโชว์ในนี้มากๆ  เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดว่ามีความหลังอะไรกับป้าลั้งลูกสาวท่านขุนจำนงฯ  ไม่ได้การละ  ต้องรีบกลบข่าว


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: guru ที่ 22 ส.ค. 06, 17:18
 คุณนิคกี้ยังพาชิมไม่หมดเลย งั้นผมไปต่อเลยนะครับ

ขอเสริมคุณนิคกี้นิดหนึ่งเกี่ยวกับร้านกาแฟเจ๊ม่วยเล็ก คือว่าคนชงกาแฟร้านนี้วันหนึ่งจะมี 2-3 ผลัด ในตอนเช้าเจ๊ชั่งซึ่งเป็นพี่สาวจะเป็นคนชงซึ่งผมจะชอบรสชาดนี้มากกว่า อีกคนหนึ่งเป็นผู้ชายมีอยู่ 2 คนและทั้งคู่ก็จะช่วยกันคั่วกาแฟเองด้วย คั่วตรงท่าน้ำที่ตรงกับซอย 2 พอดีครับ

หน้าร้านกาแฟตรงหัวมุมมี"เป็ดย่างจ่าเฉิด"สูตรดั้งเดิม เจ้าของสูตรและเป็นคนขายคือเมียจ่าเฉิดเองแหละครับ
ติดกันก็ ซี่โครงหมูอบ และ หมูกรอบ
ติดหมูกรอบ คือขนมหวาน มีอยู่ 10 กว่าหม้อ

ตรงข้ามร้านกาแฟเป็น  น้ำพริกแม่กิมลั้ง (ผมไม่ชินปากแม่กิมลั้ง แต่จะติดปากว่าเจ๊เหวียงซึ่งเป็นลูกสาวครับ)
มีน้ำพริกหลายอย่าง และ ขนมกงด้วย

เดินขึ้นเหนือไปอีกหน่อยก่อนถึงซอย 2 ขวามือเป็นร้าน "บะหมี่เจ๊กอ้าว"มีทั้งบะหมี่ เกี๊ยวหมู หมูแดง เขาจะทำเส้นเอง (คงจะเป็นร้านที่คุณเทาชมพูไปอิ่มอร่อยมาแล้ว)ผมกินตั้งแต่สมัยเจ๊กอ้าวทำนู่นแน่ะ

ลืมไป จากร้านกาแฟเดินไปทางตีนสะพานพรประชาตรงมุมริมน้ำมี "ข้าวห่อใบบัว พี่หรั่ง" และก๋วยเตี๋ยวยำบกรสเด็ด (ร้านตรงนี้เมื่อก่อนเป็นร้านกาแฟอีกร้านหนึ่งคือเจ๊ฮวยและลูกสาวตอนหลังเลิกไป)

วกกลับมา อัอ แถวๆร้านน้ำพริกแม่กิมลั้งมี ปลาสลิดแดดเดียว ของพี่จิต น่ากิน

ส่วนร้านขนมไข่ตรงซอย 2 ที่คุณเทาชมพูชิมแล้วอดซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านนั้น เป็นของลูกสาวเจ๊มาลีหลานยายเตียบครับ

ส่วนขนมไข่ดั้งเดิมของเจ๊เข่งอยู่ตรงเยื้องกับศาลเจ้าพอหลักเมืองที่คุณนิคกี้ได้พาชิมไปแล้วนั่นแหละครับ

เมื่อก่อนตรงข้ามกับขนมไข่เจ๊เข่งจะเป็นร้านผัดไทยเจ๊ย้ง เป็นเส้นจันทร์ อร่อยมาก ปัจจุบันย้ายไปอยู่ตรงข้ามธนาคารออมสิน ตรงทางเข้าหลังอำเภอ รู้สึกว่าเจ๊ย้งจะไม่ได้ผัดแล้ว

สำหรับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสามชุกนั้น ชาวสามชุกให้ความเคารพนับถือมากๆในความเฮี้ยนหรือความศักดิ์สิทธิ์ ขององค์ท่าน ก็อย่างที่คุณนิคกี้ได้กล่าวนั่นแหละครับ
มีประวัติเล่าไว้ว่า ศาลเดิมอยู่ตรงข้ามวัดสามชุก สร้างเมื่อ พ.ศ. 2370 ต่อมาได้สร้างขึ้นใหม่ที่ตลาดสามชุก ดำเนินการสร้างด้วยวิธีโบราณแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2467 หน้าศาลเจ้ามีโคมไฟประจำศาลเจ้าเยกว่า "ที้ ตี่ เต็ง" ในศาลมีกระบอกให้เสี่ยงเซียมซี และ "ป่วย" คือโยนไม้สองอันประกบคู่กัน ถ้าดี อันหนึ่งจะคว่ำ อันหนึ่งจะหงาย เรียกว่าสำเร็จตามที่ขอ

ก่อนกลับอย่าลืมแวะกินข้าวเย็นร้าน "เจ๊เน้ยกุ้งเป็น" อยู่ริมถนนสาย 340 ที่มาจากสุพรรณฯ ร้านจะอยู่ซ้ายมือก่อนถึงสามชุก ตรงหลัก กม. 128 (สามชุก กม. 130)
มีทั้งกุ้งทอดเกลือ แกงป่ากุ้ง ต้มยำปลาม้า และอื่นๆอีกมากมาย

หวังว่าคงจะอิ่มหมีพลีมันกันถ้วนทั่วทุกตัวคนนะครับ

ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพแล้วกลับมาเยือนสามชุกอีกนะครับ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 22 ส.ค. 06, 19:09

หยู ..... ออกพรรษาเมื่อไหร่ต้องไป สามชุกให้ได้...ของน่าอร่อยทั้งนั้นเลยค่ะ  

สงสัยก่อนไปต้องปริ้นกระทู้นี้ไปด้วยไม่งั้น ไปไม่ครบแน่ๆ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 23 ส.ค. 06, 08:25
 ของแท้เข้ามาแล้ว  ของปลอมต้องถอย
นึกว่าหายไปไหน  ไปเตรียมงานอยู่นะเอง

ก็ผมเคยบอกแล้วไงครับ  ว่าคนภายในที่รู้จักอะไรดี  ไม่ค่อยได้เขียนเรื่องราวให้ทราบเท่าไร  เพราะเห็นแต่ของดีๆ ทั้งนั้น  บรรยายไม่ถูก  เราคนนอก  รู้นิดรู้หน่อยก็เขียนเป็นตุเป็นตะ

ขออ้างถึงหน่อยนะครับ  กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร  พระองค์รักสมเด็จกรมพระยานริศฯ มาก  พระองค์เคยประทานสัมภาษณ์กับบุคคลท่านหนึ่งว่า  ยิ่งรักมาก  ยิ่งสรรเสริญกันได้ยาก  เหตุเพราะตอนมีงานสรรเสริญพระเกียรติคุณสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศฯ ครบร้อยปี  พระองค์ไม่รับแสดงปาฐกถาอีก  ทั้งๆ ที่เมื่อปีก่อนได้รับเป็นองค์ปาฐกของสมเด็จพระองค์หนึ่งไปได้อย่างดีแล้ว  เป็นเพราะเหตุทำนองนี้





แต่ยังไงผมก็ยินดีที่คุณ guru มาเปิดเผยข้อเท็จจริง  และรายละเอียดเป็นอย่างดี

พาชมเสร็จแล้วจะรีบไล่กลับบ้านเลยเหรอ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 06, 10:55
 ร้านหมูกรอบนี่ละค่ะ คุณ guru ที่คุณพงษ์วินอุตส่าห์พาไปซื้อ ปรากฏว่า...หมด   เลยอดอีกเหมือนกัน
ต้องรอเที่ยวหน้า

ชุมชนที่นี่เข้มแข็งมากในการอนุรักษ์สมบัติของท้องถิ่นไว้ แล้วยังรู้จักทำให้เกิดผลงอกเงยขึ้นมาด้วย
ผู้คนหลั่งไหลกันไปแน่นเชียวในวันนั้น   ที่จอดรถตรงอำเภอ สะดวกมากค่ะ มีตำรวจมาช่วยจัดจราจรให้แข็งขัน   ทีมงานที่นี่ประสานกันดี
อยากเห็นกันหลายๆจังหวัด  ที่รู้จักเอาของดีในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 24 ส.ค. 06, 10:09

นี่เป็นความยิ่งใหญ่ของอำเภอสามชุกครับ
เหนือเส้นตรงที่ลากแบ่งจังหวัดสุพรรณบุรี  ส่วนครึ่งบนคืออำเภอสามชุกในอดีต  ครั้งชื่อว่า  อำเภอนางบวช

เป็นความยิ่งใหญ่ก่อนปี พ.ศ.๒๔๕๔ ครับ

ครั้งนั้น  อำเภอสามชุก (อำเภอนางบวช ในอดีต ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี ๒๔๓๗)  ยังกินพื้นที่ในเขต ๕ อำเภอของจังหวัดสุพรรณบุรีในปัจจุบัน  คือ

๑. อำเภอสามชุก (เปลี่ยนชื่อจากอำเภอนางบวชเมื่อปี ๒๔๘๒)

๒. อำเภอศรีประจันต์ (แบ่งจาก ๒ อำเภอคือ อำเภอท่าพี่เลี้ยงหรืออำเภอเมืองปัจจุบัน กับอำเภอนางบวช เมื่อ ๒๔๔๔)

๓. อำเภอดอนเจดีย์ (แยกจากอำเภอศรีประจันต์เมื่อปี ๒๕๐๕, ๒๕๐๘

๔. อำเภอเดิมบางนางบวช (แยกจากอำเภอนางบวชเมื่อปี ๒๔๕๔ เรียกอำเภอเดิมบาง  ปี ๒๔๘๒ เรียกอำเภอเดิมบางนางบวช)

๕. อำเภอด่านช้าง (แยกจากอำเภอเดิมบางนางบวชเมื่อปี ๒๕๑๗, ๒๕๒๔)

๖. อำเภอหนองหญ้าไซ (แยกจากอำเภอสามชุกเมื่อปี ๒๕๒๖, ๒๕๓๓)

ปล. ที่เขียนแยกอำเภอเป็น ๒ ปีพ.ศ.  คือตอนแรกเป็นกิ่ง  แล้วอันหลังเมื่อยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอครับ
ส่วนครั้งเก่าแก่เมื่อสมัย ร.๕  เขายกเป็นอำเภอทันทีเลยครับ  


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 29 ส.ค. 06, 11:14
 จากพื้นที่อันยิ่งใหญ่ของอำเภอนางบวชหรืออำเภอสามชุกในอดีต  แล้วถูกแบ่งซอยกลายเป็น ๖ อำเภอทางตอนเหนือของเมืองสุพรรณในปัจจุบัน

สามชุกกลับมามีมนต์เสน่ห์ดึงดูดใจผู้คนได้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว  อย่างน้อยก็เพิ่มเติมพวกเราในเวปวิชาการที่เข้ามาแวะเวียนอ่าน  โดยการปลุกปล้ำอีกครั้งของอาจารย์เทาฯ ครับ

แล้วหวังสักวันหนึ่งว่า  เมื่ออาจารย์ได้กลับไปรับรูปถ่ายเมื่อครบ ๓ สัปดาห์อย่างตั้งใจไว้ที่ร้าน "ศิลป์ธรรมชาติ" ซึ่งถ่ายรูปโบราณที่โด่งดังที่สุดของตลาดร้อยปีสามชุกแล้ว  พวกเราคงได้มีโอกาสชื่นชมความงดงามของภาพนั้นไปพร้อมๆ กันด้วยครับ


กระทู้: ตลาด 100 ปี สามชุก
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 29 ส.ค. 06, 15:51
 แล้วก็  หากจะกรุณาถ่ายรูปองค์เจ้าพ่อหลักเมืองสามชุกกลางตลาดมาลงไว้ด้วย  จะเป็นพระคุณยิ่งครับ  เพราะเป็นสิ่งสักการะยิ่งของชาวสามชุก

รวมทั้งจะได้มาร่วมประกอบกับกระทู้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณของผมให้เกิดความสมบูรณ์ขึ้นด้วยครับ  เพราะเป็นองค์พระนารายณ์สี่กรเหมือนกัน