เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 08 เม.ย. 16, 18:36



กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 เม.ย. 16, 18:36
ตั้งชื่อวิชาในชั้นเรียนใหม่   เรียกเรตติ้งเอาไว้ก่อน   รอนักเรียนมาลงทะเบียน
จะนานเท่าใดไม่รับรอง  เพิ่งหายป่วยค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 08 เม.ย. 16, 19:32
นักเรียนหมายเลขประจำตัว ๑ ลงทะเบียนค่ะ  ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: ninpaat ที่ 08 เม.ย. 16, 20:16
มาอีกหนึ่งแล้วครับ และขอจองโต๊ะริมหน้าต่างเช่นเคยครับ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Neepata ที่ 08 เม.ย. 16, 22:09
มาค่ะ...  ขอนั่งรอด้วยคนนะคร้า    ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 09 เม.ย. 16, 09:41
อยู่ในห้องตั้งนานแล้วครับ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: walai ที่ 09 เม.ย. 16, 09:50
 :o...เพิ่งวิ่งมาจองโต๊ะกลางแถวหน้าค่ะ  กลัวมองไม่ชัด ..


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 เม.ย. 16, 10:47
มา 5 คน โอเค เปิดคลาสได้

ก่อนอื่น   ขอทำความเข้าใจว่า  กระทู้นี้เอ่ยอ้างนิราศ 9 เรื่องที่สาธารณชนเข้าใจร่วมกันว่าสุนทรภู่เขียน   แม้ในกระทู้เก่าๆ  เคยมีความเคลือบแคลงว่าบางชิ้นเป็นผลงานของสุนทรภู่จริงหรือ    แต่ก็จะไม่เอามาโยงเป็นข้อหักล้างในกระทู้นี้นะคะ

สุนทรภู่กวีเอกของเรา เปิดเผยชีวิตส่วนตัวเอาไว้ตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย   บรรดาแฟนคลับตั้งแต่รัชกาลที่ 3  ต้องเสาะแสวงหาเอาเอง ว่าท่านบอกอะไรเกี่ยวกับตัวเองและบุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องบ้าง       กระทู้นี้ก็จะรวบรวมเรื่องที่ว่ามาเล่าสู่กันฟังอีกทีหนึ่ง

เพื่อความเข้าใจสังคมในสมัยเกือบ 200 ปีมาแล้ว      ขอปูพื้นว่าสังคมครอบครัวไทยสมัยนั้น เรียกว่า Polygamy   คือชายคนเดียวสามารถมีภรรยาพร้อมๆกัน หรือก่อนหลังได้หลายคน  โดยไม่ถือว่าผิดกฎหมาย     นอกจากไม่ผิดกฎหมายยังถูกกฎหมายอีกด้วย เพราะกฎหมายตราสามดวงที่มีรากฐานมาตั้งแต่อยุธยา ได้ยอมรับสถานภาพของเมียหนึ่งเมียสองสามสี่เหล่านี้    โดยกำหนดศักดินาไว้ให้ทุกประเภท     ดังนั้น  จะว่าสุนทรภู่เจ้าชู้ ก็ต้องมีคำขยายว่า ไม่ต่างจากชายอื่นๆในสังคมสมัยเดียวกัน


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 09 เม.ย. 16, 11:05
มาเข้าห้องด้วยครับ :-[


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 เม.ย. 16, 14:46
สุนทรภู่เป็นหนุ่มชาววัง  แม่เป็นแม่นมของพระองค์เจ้าจงกล พระธิดาในกรมพระราชวังหลัง    ส่วนพ่อไปบวชอยูที่อ.บ้านแกลง จ.ระยอง   แม่มีสามีใหม่ มีลูกสาวสองคนชื่อฉิมกับนิ่ม

เมื่อเติบโตเป็นหนุ่ม สุนทรภู่น่าจะถวายตัวเป็นมหาดเล็ก  ถ้าไม่ใช่กับกรมพระราชวังหลังเอง  ก็กับเจ้านายองค์ใดองค์หนึ่งในวังหลัง    ทำให้มีโอกาสเห็นสาวชาววังหลังอยู่บ่อยๆ  จึงได้ผูกสมัครรักใคร่กับสาวคนหนึ่งชื่อแม่จัน
แม่จันน่าจะเป็นรักแรก   ชนิดหายใจเข้าหายใจออก  เมื่อจากกันกะทันหันเพราะเจ้านายใช้ไปราชการในหัวเมือง  ไม่ทันลา    สุนทรภู่จึงแต่งนิราศเมืองแกลงอุทิศให้แม่จันคนเดียว


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 เม.ย. 16, 17:50
ยังทันนะครับ  ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 09 เม.ย. 16, 20:17
เปลี่ยนจากอาจารย์ห้องโน้น มาเป็นนักเรียนห้องนี้ดีกว่า


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 09 เม.ย. 16, 20:31
มาเข้าห้องเรียนด้วยค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 เม.ย. 16, 20:39
เปลี่ยนจากอาจารย์ห้องโน้น มาเป็นนักเรียนห้องนี้ดีกว่า

โดดสอนนะ   ครู   สิ้นปีไม่ได้สองขั้น  จะมาทำหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงไม่ได้นะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 เม.ย. 16, 20:48
พูดถึงรูปหล่อ สุนทรภู่ก็คงไม่หล่อ    แถมแชมพูบำรุงเส้นผมก็ยังไม่มีใครผลิตขึ้นมาในโลก   ท่านก็เลยต้องปล่อยศีรษะให้เป็นไปตามธรรมชาติ    พระพรหมให้เส้นผมมากี่เส้นก็ต้องจำใจรับตามนั้น     เห็นได้จากพรรณนาถึงนกตะกรุมเอาไว้ในนิราศพระบาท

หน้าวังหรือจะสั่งด้วยนะนก            ให้แนบอกของพี่รู้ว่าโหยไห้
มิทันสั่งสกุณินก็บินไป            ลงจับใกล้นกตะกรุมริมวุ้มวน
ศีรษะเตียนเลี่ยนโล่งหัวล้านเลื่อม    เหนียงกระเพื่อมร้องแรงแสยงขน
โอ้หัวนกนี่ก็ล้านประจานคน            เมื่อยามยลพี่ยิ่งแสนระกำทรวง

ถ้าหากว่ากวีของเราผมดกดำเหมือนหนุ่มคนอื่นๆ     คงไม่เก็บเอาหัวนกตะกรุมมาคิดน้อยอกน้อยใจว่ายิ่งดูแล้วยิ่งช้ำใจ     มีแต่คนมีปมด้อยถูกเพื่อนฝูงล้อเลียนเอาบ่อยๆเท่านั้นแหละ    ถึงเหลือบไปเห็นนกตะกรุมแล้วแสลงใจขึ้นมาซะเฉยๆ

แต่พระเอกเรื่องนี้ ตรงกับคำว่า "คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง"    หนุ่มชาววังรูปหล่อพ่อรวยทั้งหลายจึงชวดจีบแม่จันไม่ติด       พ่อนกตะกรุมจีบติดจนได้ร่วมหอลงโรงกัน



กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 09 เม.ย. 16, 22:07
มาค้าบบบ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 10 เม.ย. 16, 00:35
คล้ายใครอีกคนหนอ
ลูกชายพระนม คารมรักแพรวพราย ชื่อเสียงขจรขจายสิบทิศ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 10 เม.ย. 16, 06:46
พูดถึงรูปหล่อ สุนทรภู่ก็คงไม่หล่อ    แถมแชมพูบำรุงเส้นผมก็ยังไม่มีใครผลิตขึ้นมาในโลก   ท่านก็เลยต้องปล่อยศีรษะให้เป็นไปตามธรรมชาติ    พระพรหมให้เส้นผมมากี่เส้นก็ต้องจำใจรับตามนั้น     เห็นได้จากพรรณนาถึงนกตะกรุมเอาไว้ในนิราศพระบาท

หน้าวังหรือจะสั่งด้วยนะนก            ให้แนบอกของพี่รู้ว่าโหยไห้
มิทันสั่งสกุณินก็บินไป            ลงจับใกล้นกตะกรุมริมวุ้มวน
ศีรษะเตียนเลี่ยนโล่งหัวล้านเลื่อม    เหนียงกระเพื่อมร้องแรงแสยงขน
โอ้หัวนกนี่ก็ล้านประจานคน            เมื่อยามยลพี่ยิ่งแสนระกำทรวง

ถ้าหากว่ากวีของเราผมดกดำเหมือนหนุ่มคนอื่นๆ     คงไม่เก็บเอาหัวนกตะกรุมมาคิดน้อยอกน้อยใจว่ายิ่งดูแล้วยิ่งช้ำใจ     มีแต่คนมีปมด้อยถูกเพื่อนฝูงล้อเลียนเอาบ่อยๆเท่านั้นแหละ    ถึงเหลือบไปเห็นนกตะกรุมแล้วแสลงใจขึ้นมาซะเฉยๆ

แต่พระเอกเรื่องนี้ ตรงกับคำว่า "คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง"    หนุ่มชาววังรูปหล่อพ่อรวยทั้งหลายจึงชวดจีบแม่จันไม่ติด       พ่อนกตะกรุมจีบติดจนได้ร่วมหอลงโรงกัน



สุนทรภู่นี่ ช่างไม่เกรงพระทัยพระพุทธเลิศหล้าเอาเสียเลย


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 10 เม.ย. 16, 06:53
เปลี่ยนจากอาจารย์ห้องโน้น มาเป็นนักเรียนห้องนี้ดีกว่า

โดดสอนนะ   ครู   สิ้นปีไม่ได้สองขั้น  จะมาทำหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงไม่ได้นะ

แหะๆ ท่านอาจารย์ใหญ่คงลืมไปว่า ให้ผมสองขั้นทุกปี แต่เงินเดือนยังไม่ได้จ่ายผมสักกะเดือนเดียวเลยครับ สงกรานต์นี่แต๊ะเอียผมสักซองนึงก็ยังดี


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: visitna ที่ 10 เม.ย. 16, 15:31
อาจารย์ใหญ่มีหนังสือแนะนำควบคู่กับเรื่องนี้  บ้างไหม ครับ 


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 10 เม.ย. 16, 17:39
เปลี่ยนจากอาจารย์ห้องโน้น มาเป็นนักเรียนห้องนี้ดีกว่า

โดดสอนนะ   ครู   สิ้นปีไม่ได้สองขั้น  จะมาทำหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงไม่ได้นะ

แหะๆ ท่านอาจารย์ใหญ่คงลืมไปว่า ให้ผมสองขั้นทุกปี แต่เงินเดือนยังไม่ได้จ่ายผมสักกะเดือนเดียวเลยครับ สงกรานต์นี่แต๊ะเอียผมสักซองนึงก็ยังดี

เห็นควรว่าท่านอาจารย์ใหญ่กว่าควรจะได้ซักซองสองซองครับ ซองต้องหนาๆ ด้วย จะได้มีแรงไปซุ่มทำหนังสือเรื่องพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ไว้วางแจกในงานหนังสืองวดหน้าเดือนตุลานี้ครับ  เล่มสามนี่ยังไงผมก็ไม่ยอมเสียกะตังค์ซื้อแบบสองเล่มแรกแล้วแน่ๆ  ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 10 เม.ย. 16, 20:10
เศร้าจริงๆ ::)


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 เม.ย. 16, 08:28
ล้มกระดานง่ายกว่ามั้ง  ท่านอาจารย์ใหญ่กว่า


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 เม.ย. 16, 09:55
มีนักเรียนลงทะเบียน ๑๑ คนแล้ว

ด(ร)ช.ประกอบคงมีเรื่องสนทนากับท่านอาจารย์ใหญ่กว่ามากหน่อย จึงจัดให้นั่งอยู่ใกล้กัน  ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 11 เม.ย. 16, 10:17
เอ๊ะ ผมมาสายครับ ไปแอบๆ อยู่หลังห้องใกล้หน้าต่างดีกว่า


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 11 เม.ย. 16, 11:08
ฮิฮิ นักเรียนมาค่อนห้องแล้ว คุณครูยังไม่มา  นี่นักเรียนเยอะกว่าวิชาที่ผมปลอมตัวไปสอนซะอีก อันนั้นแต่ละวิชามีนักเรียนวิชาละคนเดียว สงสัยเด็กๆ รู้ทัน อุตส่าห์ทำปริญญาซะมองดูยังกะของจริง


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 เม.ย. 16, 08:47
ถูกทวงเงินเดือนกับแต๊ะเอียสงกรานต์กลางห้อง    อับอายขายหน้า ต้องงดสอนชั่วคราวไปหากะตังค์มาจ่ายก่อนค่ะ
ติดต่อเลขาหน้าห้องขอบริจาคจากเจ้าของบริษัทโฟร์เอสมาพักใหญ่แล้ว     เลขาบอกว่าให้รอไปก่อน


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 เม.ย. 16, 13:10
อาจารย์ใหญ่มีหนังสือแนะนำควบคู่กับเรื่องนี้  บ้างไหม ครับ 
ดิฉันไม่ได้เอามาจากหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งโดยเฉพาะค่ะ     ลองใช้กูเกิ้ลค้นคำว่า  ประวัติสุนทรภู่ นะคะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Molly ที่ 15 เม.ย. 16, 21:27
มาลงชื่อด้วยค่ะ  ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 เม.ย. 16, 13:42
แม่จันน่าจะเป็นผู้หญิงที่สุนทรภู่รักมากที่สุด   เห็นได้จากการเอ่ยถึงหลายครั้งหลายหนในนิราศ  แม้ว่าจะจากกันไปแล้วก็ยังไม่วายอาลัย
ทั้งนี้เพราะเธอเป็นรักแรกของกวีเอกของเรา   มีสิทธิ์ได้รับความรักไปเต็มๆร้อย   ไม่มีรักก่อนหน้านี้มาแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้พร่องลงไป
ในนิราศพระบาท นิราศเรื่องที่สองของสุนทรภู่    ทั้งสองสมหวังได้ครองรักร่วมหอลงโรงกันแล้ว   แต่ชีวิตรักทั้งที่น่าจะอยู่ในยุคข้าวใหม่ปลามัน ก็ไม่ยักหวานชื่นอย่างที่ควรเป็น

                                             โอ้อาลัยใจหายเป็นห่วงหวง
ดังศรศักดิ์ปักซ้ำระกำทรวง                เสียดายดวงจันทราพะงางาม
เจ้าคุมแค้นแสนโกรธพิโรธพี่              แต่เดือนยี่จนย่างเข้าเดือนสาม

สุนทรภู่ไม่ได้บอกว่าตัวเองไปทำอะไรให้ภรรยาโกรธ ขนาดข้ามเดือนแล้วก็ยังไม่หายโกรธ     ถ้านานขนาดนี้แสดงว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ประเภทกลับบ้านดึกไปหน่อย   น่าจะมีชนวนเหตุให้ร้าวฉานค่อนข้างมาก    แม่จันถึงไม่ยอมพูดยอมจา หรือถ้าพูดก็อาจทะเลาะกันบ้านแตกมากกว่ายอมพูดกันดีๆ

พระเอกของเรานั้นอย่าลืมว่าเป็นกวี ซึ่งนับเป็นศิลปิน     พวกนี้มักทำอะไรตามอารมณ์อยู่มาก     ส่วนแม่จัน  ก็เดาว่าเธออาจจะมีความเป็นติสต์ไม่น้อยไปกว่าสามี   แม้ไม่ได้แสดงออกทางบทกวี เพราะผู้หญิงสามัญสมัยนั้นไม่ได้เรียนหนังสือ
เมื่อติสต์กับติสต์มาเจอกัน    ก็ยากจะอยู่กันราบรื่น


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: แพรวพิม ที่ 16 เม.ย. 16, 18:28
มาลงชื่อเข้าเรียนค่ะ
ตอนที่เรียนวรรณคดีตอนมัธยมต้น ได้เรียนเรื่องนิราศภูเขาทองและพระอภัยมณีที่สุนทรภู่แต่ง ซึ่งแต่ละเรื่องก็สนุก มีข้อคิดและวรรณศิลป์งดงามมาก และก็เป็นหนึ่งในวรรณคดีไม่กี่เรื่องด้วยที่เวลาคุณครูสอนทีไร นักเรียนก็ตั้งใจฟัง ตั้งใจอ่าน "อิน" ไปกับเนื้อเรื่องจริงๆ ไม่หลับเหมือนเวลาอ่านเรื่องที่แต่งโดยผู้อื่น


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 เม.ย. 16, 13:44
ทั้งๆสุนทรภู่รักแม่จัน ชนิดคิดถึงทุกลมหายใจเข้าออก     แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพระเอกของเราจะไม่เหลียวแลสาวอื่นเอาเสียเลย
มีทั้งจริงบ้างเล่นบ้าง     
เมื่อตอนไปเมืองแกลง   ก็ไปก่อนิยายชิงรักหักสวาท หนึ่งชายสองหญิงเข้ากับเด็กสาวสองคน ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน ชื่อม่วงกับคำ

ตอนป่วย  สองสาวนี้ก็มาปรนนิบัติดูแลอย่างญาติ  แต่ดูแลกันท่าไหนไม่ทราบ  เกิดหึงหวงกันขึ้นมาเอง สาเหตุคือสุนทรภู่เก็บดอกไม้มาฝากเป็นการตอบแทนน้ำใจ    แต่คงจะฝากไม่เท่ากัน หรือสองสาวอยากให้ฝากตัวคนเดียว ไม่อยากให้อีกคนมีส่วนแบ่ง   ก็เลยหึงกันขึ้นมาเอง
พระเอกเราเห็นท่าไม่ดี  พอหายป่วยก็รีบลาพ่อ   เปิดแน่บออกจากบ้านกร่ำ   โดยไม่ลาสองสาว   คือผลุนผลันกลับกรุงเทพเอาดื้อๆ ม่วงกับคำไม่ทันรู้ตัว  ไม่มีแม้แต่จะกล่าวลา
การเปิดหนีไปดื้อๆ แบบนี้  สุนทรภู่ให้เหตุผลที่ดิฉันรู้สึกว่าท่านบอกไม่หมดยังไงพิกล

ครั้นจะมิหนีมาจะลาเล่า           จะสร้อยเศร้าโศกาเพียงอาสัญ
จึงพากเพียรเขียนคำเป็นสำคัญ   ให้สองขวัญเนตรนางไว้ต่างกาย
อย่าเศร้าสร้อยคอยพี่พอปีหน้า   จึงจะมาทำขวัญเหมือนมั่นหมาย
ไม่ทิ้งขว้างห่างให้เจ้าได้อาย            จงครองกายแก้วตาอย่าอาวรณ์


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 เม.ย. 16, 13:58
คือให้เหตุผลว่า ถ้าออกปากลาให้สองสาวรู้ว่าจะกลับกรุงเทพละ      นางก็จะร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตาย   สงสารนาง เลยหนีเข้ากลีบเมฆไปก่อนดีกว่า
แต่ไม่ลาเสียเลยก็ใจจืดใจดำ  เลยเขียนหนังสือทิ้งไว้ว่า ไปแล้วไม่ไปลับ  ไปชั่วคราว  ปีหน้าจะกลับมาทำขวัญ    ไม่ต้องห่วงว่าเป็นการเปิดหนีไปไม่ไยดี ทิ้งให้สองสาวอายชาวบ้านอยู่ทางนี้     ในเมื่อพี่ไปแล้วก็จงรักษาตัวไว้ให้ดี รอพี่กลับมา เหมือนเนื้อเพลงสุนทราภรณ์

เราก็รู้ว่าสุนทรภู่สบถสาบานมาแต่แรกแล้วว่ามาบ้านกร่ำลำบากเลือดตาแทบกระเด็น   แม้เจ้านายไม่ใช้แล้วไม่มา   หลังจากนั้นในประวัติก็ไม่ปรากฏว่าท่านกลับมาอีกเลย       ไม่มีแม้แต่จะเอ่ยถึงพ่อหรือญาติทางพ่ออีก

ส่วนเรื่องหนังสือที่เขียนทิ้งไว้ปลอบใจสาวนั้น       ลองอ่านดีๆ นะคะ   มันมี keyword  ชวนสะดุดใจอยู่หลายคำ   เช่นบอกว่าปีหน้าจะกลับมาทำขวัญ   
ทำขวัญอะไร  ทำไมต้องทำขวัญ
ไม่ต้องกลัวว่าจะทิ้งขว้าง ให้สาวเจ้าอายชาวบ้านอยู่ทางนี้   
ก็ถ้าแค่จีบกัน แบบเซิฟๆ    ฝ่ายหนึ่งรักษาพยาบาล อีกฝ่ายแค่เด็ดดอกไม้ให้ของกำนัลเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่เห็นจะต้องหึงหวงกันหนัก  และมันก็ไม่เห็นจะเป็นพันธะผูกพันจนต้องปลอบสาวว่าพี่ไม่ทิ้งขว้าง  ไม่ต้องกลัวว่าจะอายชาวบ้าน
ถ้าปลอบกันขนาดนี้ มันก็เลยขั้นรักษาพยาบาล  หรือ "หยอด" คำหวานให้สาวปลื้ม ไปไกลแล้ว
เพราะถ้าแค่เกี้ยวพาราศีกันเล่นๆ    ไม่ต้องสัญญิงสัญญากันถึงขนาดนี้     เขียนขอบอกขอบใจนึกถึงบุญคุณ  บอกว่าถ้ามีโอกาสตามพ่อแม่ไปบางกอกเมื่อไหร่ให้ไปหา   แค่นี้ก็พอถมเถไป

แม้แต่ลาก็ไม่กล้าลา   เพราะกลัวสาวทั้งสองจะยื่นคำขาดไม่ยอมให้ไปใช่ไหม    ในเมื่อความสัมพันธ์มันล้ำเส้นไปแล้ว   ผู้หญิงก็ต้องถือว่าจะมาเด็ดดอกหญ้าแซมผมแล้วขว้างทิ้งไม่ได้   ดีไม่ดี  นางฟ้องพ่อแม่ ฟ้องพ่อสุนทรภู่    เรื่องก็จะไปกันใหญ่  แม่จันเอาตายแน่
พระเอกเราก็เลือกทางออกที่ปลอดภัยที่สุด คือบอกลาผู้ใหญ่พอเป็นพิธี แล้วเปิดแน่บกลับเมืองหลวง    หายตัวไปเลย ไม่กลับมาอีก


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 เม.ย. 16, 17:06
ในที่สุดเมื่อกลับเมืองหลวง  สุนทรภู่ก็สมหวัง ได้มีโอกาสร่วมหอลงโรงกับแม่จัน   แต่ชีวิตคู่ก็ไม่ราบรื่น  ทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อย 
ทั้งสองมีลูกชายคนหนึ่งชื่อพัด   หรือตอนลูกยังเล็กๆ สุนทรภู่เรียกบุตรชายว่า "หนูพัด"    แต่มีลูกแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ในที่สุดก็เลิกกันเด็ดขาด    แม่จันไปมีสามีใหม่   ส่วนลูกชาย แม่จันให้อยู่กับพ่อ

สุนทรภู่คงจะอยู่กับแม่จันได้ไม่กี่ปี   เพราะลูกชายยังเล็กขนาดเรียก "หนู" ได้    อีกอย่างแม่จันมีสามีใหม่ได้ก็แสดงว่ายังสาวอยู่    เมื่อเธอมีครอบครัวใหม่ไปแล้วก็คงจะตัดใจเด็ดขาดจากสามีเก่าไปเลย      ไม่มีตอนไหนแสดงว่าแม่จันอาลัยอาวรณ์อยากจะกลับมาหาสามีอีก   มีแต่สุนทรภู่ที่เขียนอาลัยอาวรณ์ภรรยาอยู่ เช่น ในโคลงนิราศสุพรรณ เขียนถึงแม่จันตอนหนึ่งว่า

ยนย่านบ้านบุตั้ง            ตีขัน
ขุกคิดเคยชมจรร            แจ่มฟ้า

ในนิราศพระประธมก็ได้กล่าวถึงแม่จันว่า

เห็นต้นรักหักโค่นต้นสนัด                    เป็นรอยตัดรักขาดให้หวาดไหว
เหมือนตัดรักหักสวาทขาดอาลัย            ด้วยเห็นใจเจ้าเสียแล้วเจ้าแก้วตา
   


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 เม.ย. 16, 17:24
แต่ความรักของสุนทรภู่   ต่อให้ม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร  ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน อย่างที่ท่านเขียนไว้ให้เรื่องพระอภัยมณี  ก็ไม่วายมีข้อแม้อยู่ข้อหนึ่งว่า  มันจะไม่มีวันเป็นรักหนึ่งเดียว     คือรักได้ชั่วนิรันดรโดยเป็นพหูพจน์  ไม่ใช่เอกพจน์

เมื่อสุนทรภู่ได้เข้ารับราชการ มีการงานมั่นคง เป็นอาลักษณ์คนโปรดของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 2  ขนาดมีโอกาส  "หมอบใกล้ได้กลิ่นสุคนธ์ตลบ" อย่างที่ท่านพรรณนาไว้ในนิราศภูเขาทอง    ไม่ต้องไปหมอบอยู่ท้ายแถวสุดท้องพระโรงเพราะเป็นแค่ขุนนางชั้นขุน    ท่านก็ดูเนื้อหอม  ทำให้มีสาวๆเข้ามาพัวพัน    คนที่ท่านติดเนื้อต้องใจชื่อแม่นิ่ม     นางได้ตกลงปลงใจเป็นภรรยาคนที่สองของสุนทรภู่   ทั้งๆภรรยาคนแรกก็ยังไม่ได้เลิกร้างกัน
ก็มีผู้สันนิษฐานว่า นี่คือสาเหตุที่แม่จันเลิกกับสามี ชนิดเด็ดบัวไม่เหลือใย



กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Molly ที่ 20 เม.ย. 16, 10:26
อ่านแล้วสนุกได้อรรถรส น่าติดตาม อาจารย์เทาชมพูกรุณามาเล่าต่อนะคะ เหมือนติดนวนิยายในนิตยสารยังไงยังงั้นเลยค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 เม.ย. 16, 11:11
แม่นิ่ม น่าจะเป็นผู้หญิงนิ่มๆ สมชื่อ   มีสามีแล้วก็อุทิศชีวิตจิตใจให้สามี   จะสุขทุกข์ยังไงก็ไม่โทษฝายชาย ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ศรีภริยาไปตามที่ควรทำ     คงไม่ได้บาดหมางกัน  เพราะในนิราศต่างๆที่เอ่ยถึงนาง จึงไม่มีตอนไหนที่พูดถึงรสชาติแสบเผ็ดเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอย่างที่พูดถึงแม่จัน
แม่นิ่มมีบุตรชายชื่อตาบ หรือสุนทรภู่เรียกว่า หนูตาบ     ชีวิตสุนทรภู่ขึ้นๆลงๆ เป็นขุนนางแต่ก็กินเหล้าเมาไปทุบตีญาติผู้ใหญ่ถึงต้องจำคุก   แม่นิ่มก็อดทนส่งเสียสามีให้ได้กินได้อยู่ไม่อดตาย  เลี้ยงลูกไปด้วย   เมื่อสุนทรภู่ตกยากในรัชกาลที่ ๓  ต้องออกบวช หมายความว่าไม่ได้ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวหาเลี้ยงลูกเมีย   แม่นิ่มก็หาเลี้ยงหนูตาบกันสองคนแม่ลูกที่บ้านบางกรวย  จ.นนทบุรี
ไม่มีที่ไหนในนิราศบอกว่าแม่นิ่มรู้สึกยังไงกับชีวิตสมรสกับกวีเอก    แต่ถ้าดูจากชะตาชีวิต  เห็นทีแม่นิ่มจะไม่สุขอย่างที่ควรจะเป็น  อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยมากหรืออะไรก็ตาม สุขภาพแม่นิ่มก็เลยไม่ดี   ตายไปเสียก่อนตั้งแต่ยังไม่ทันกลางคน  ลูกชายคือหนูตาบก็ยังเล็ก

สุนทรภู่รำพันถึงมรณกรรมของภรรยาคนที่สองไว้ว่า

“บางกรวยตรวดน้ำแบ่ง                บุญทาน
ส่งนิ่มนุชนิพพาน                       ผ่องแผ้ว
จำจากพรากพลัดสถาน                ทิ้งพี่ หนีเอย
เห็นแต่คลองน้องแคล้ว                คลาดเคลื่อนเดือนปี”

สุนทรภู่รำพันถึงแม่นิ่มไว้ในนิราศพระประธม (พระปฐม) ว่า

“ถึงคลองขวางบางกรวยระรวยจิต                     ไม่ลืมคิดนิ่มน้อยละห้อยหา
เคยร่วมสุขทุกข์ร้อนแต่ก่อนมา                         โอ้สิ้นอายุเจ้า ได้เก้าปี
แต่ก่อนกรรมนำสัตว์ให้พลัดพราก                     จึงจำจากนิ่มน้องให้หมองศรี
เคยไปมาหาน้องในคลองนี้                             เห็นแต่ที่ท้องคลองนองน้ำตา
สงสารบุตรสุดเศร้าทุกเช้าเย็น                         ด้วยเป็นกำพร้าแม่ชะแง้หา
เขม้นมองคลองบ้านดูมารดา                          เช็ดน้ำตาโทรมซาบลงกราบกราน”


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 เม.ย. 16, 11:16
     ขอมองในแง่ร้ายว่า แม่นิ่มตายไปเสียก่อนตั้งแต่ยังสาว  ระหว่างอยู่กินกันก็พลัดพราก ลุ่มๆดอนๆให้คิดถึงกันอยู่เสมอ   ความรักของสุนทรภู่จึงไม่ทันเบื่อหน่ายจืดจาง    ถ้าแม่นิ่มอยู่จนแก่ เบื่อหน้ากันแทบตายทั้งสองฝ่าย  ความทรงจำของสุนทรภู่คงไม่ออกมาซาบซึ้งตรึงใจขนาดนี้ก็เป็นได้  
     สุนทรภู่เก็บรักษาแหวนและแพรสีของแม่นิ่มไว้ดูต่างหน้าถึง ๙ ปี จึงได้นำไปถวายพระพุทธรูป ที่พระปฐมเจดีย์เพื่ออุทิศผลบุญแด่เจ้าของผ้า

“ยังมิคุ้นอุ่นจิตไม่บิดเบือน                  มาเป็นเพื่อนทุกข์ยากเมื่อจากจร
ยังเหลือแต่แพรสีที่พี่ห่ม                   ขึ้นประธมจะถวายให้สายสมร”

และนิราศพระประธมอีกตอนหนึ่งว่า

“โอ้คิดไปใจหายเสียดายนัก            ที่เคยรักเคยเคียงเรียงหมอน
มาวายวางกลางชาติถึงขาดรอน        ให้ทุกข์ร้อนรนร่ำระกำตรอม
ยังเหลือแต่แพรชมพูของคู่ชื่น        ทุกค่ำคืนเคยชมได้ห่มหอม
พี่ยอมเหลืองเปลื้องปลดสู้อดออม        เอาคลุมห้อมหุ้มห่มประธมทอง
กับแหวนนางต่างหน้าบูชาพระ        สาธุสะถึงเขาผู้เจ้าของ
ได้บรรจงทรงเครื่องให้เรืองรอง        เหมือนรูปทองธรรมชาติสะอาดตา”

เป็นอันว่าภรรยาคนนี้ จากตาย ไม่ได้จากเป็น  ก็เลยมีแต่ความเศร้าโศกอย่างเดียว ไม่มีชอกช้ำระกำใจอย่างกรณีภรรยาคนแรก


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: unming ที่ 20 เม.ย. 16, 13:26
รอติดตามอาจารย์มา เล่าต่อค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Neepata ที่ 20 เม.ย. 16, 23:06
นุ่งโจงห่มสไบมารออ่านต่อคร้า  รู้สึกชีวิตสุทรภู่ลุ่มๆดอนๆทั้งเรื่องรัก เรื่องงานเลยนะคะ รอลุ้นเผื่อสมหวังกับแม่หญิงคนต่อไป ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 16, 16:40
เมื่อไม่มีแม่นิ่ม สุนทรภู่ก็มีความสัมพันธ์กับหญิงสาวอีกหลายคน      แต่ดูจากบทรำพันในนิราศ  พวกนี้ไม่น่าจะร่วมหอลงโรงกันอย่างสามีภรรยา   เพราะมีแต่บทรำพึงรำพันหลงใหลอยากได้มาครองบ้าง   หรือครองแล้วนึกถึงความหลังบ้าง    จะเอาพ.ศ.ที่แต่งนิราศเป็นตัวตัดสินก็ไม่ได้ เพราะอาจเท้าความถึงอดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน
เข้าใจว่าสาวๆพวกนี้น่าจะเป็น "กิ๊ก" ของท่าน มากกว่าภรรยาที่อยู่กินกันเป็นเรื่องเป็นราว

ในจำนวนนี้ คนสวยกว่าเพื่อน ชื่อแม่งิ้ว  กล่าาวไว้ในนิราศวัดเจ้าฟ้า ว่า

ถึงบ้านงิ้วงิ้วต้นแต่พงหนาม              ไม่ออกงามเหมือนแม่งิ้วที่ผิวเหลือง
เมื่อแลพบหลบพักตร์ลักชำเลือง         ดูปลดเปลื้องเปล่งปลั่งกำลังโลม
มาลับนวลหวนไห้เห็นไม้งิ้ว               เสียดายผิวพักตร์ผ่องจะหมองโฉม
เพราะเสียรักหนักหน่วงน่าทรวงโทรม    ใครจะโลมเลียมรสช่วยชดเจือ”

    แม่งิ้วในบทกลอนนี้กำลังเป็นสาวเต็มตัว ผิวพรรณสวย    บทความนี้บอกให้รู้ว่านึกถึงความหลังสมัยเจอกัน   ฝ่ายหญิงหลบตาไม่ประสานสายตาด้วย ฝ่ายชายก็แอบมองเห็นกำลังสาวเปล่งปลั่งไปทั้งตัว     เลยสงสัยว่าคงจะเป็นสมัยท่านร่อนเร่พเนจรอยู่ในรัชกาลที่ ๓  ไปเจอแม่งิ้ว  ก็เลยถูกตาต้องใจเข้า    แต่ก็มีเหตุให้ต้องจากกันไป ไม่ได้ร่วมหอลงโรงกัน      เมื่อจากกันไปแบบนี้  แม่งิ้วก็อกหักไปตามระเบียบ
    แม่งิ้วปรากฏชื่ออีกครั้งในนิราศพระประธม ซึ่งเป็นเรื่องก่อนสุดท้าย

        "น้ำค้างพรมลมเฉื่อยเรื่อยเรื่อยริ้ว                หนาวดอกงิ้วงิ้วออกดอกไสว
   เกสรงิ้วปลิวฟ้ามายาใจ                     ให้ทราบในทรวงช้ำสู่กล้ำกลืน
   โอ้งิ้วป่าพาหนาวเมื่อคราวยาก              สุดจะฝากแฝงหน้าไม่ฝ่าฝืน
   แม้นงิ้วเป็นเช่นงานเมื่อวานซืน                   จะชูชื่นช่วยหนาวเมื่อคราวครวญ"
         
         เมื่อผู้ชายจากไป จะตีจากหรือจำใจจากเพราะฐานะขัดสนไม่พร้อมจะมาสู่ขอ     หรืออะไรก็ตาม    แม่งิ้วก็คงไม่ได้อยู่เฉยๆ แต่ตกลงปลงใจไปกับชายอื่น   สุนทรภู่กลับมาอีกครั้ง ก็พบว่าแม่งิ้วบ๊ายบายไปนานแล้ว   ทิ้งไว้แต่ความหลังให้คร่ำครวญฝายเดียว
         ก็นับเป็นโชคดีของแม่งิ้ว  ที่ไม่ต้องอยู่อย่างแม่นิ่ม


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 เม.ย. 16, 17:02
   ชีวิตสุนทรภู่เมื่อร่อนเร่อยู่ในรัชกาลที่ ๓    ดูจะไม่ขาดรสชาติจากสาวๆมากหน้าหลายตาที่เข้ามาเติมสีสันให้ชีวิต      เป็นใคร อยู่ที่ไหนท่านไม่ได้บอกรายละเอียด   อาจจะเป็นสาวชาวบ้าน หรือลูกสาวผู้ดีมีตระกูลที่ท่านมีโอกาสเจอก็ได้ทั้งนั้น
   แต่ละคนมีความสัมพันธ์ระดับตื้นหรือลึกขนาดไหน ท่านไม่ได้บอกตรงๆ   แต่ดูจากคำบรรยาย ก็น่าจะไม่ธรรมดากันทั้งนั้น

    “…ถึงโพแตงคิดถึง แตง ที่แจ้งจัก        ดูน่ารักรสชาติประหลาดเหลือ
แม้นลอยฟ้ามาเดี๋ยวนี้ที่ในเรือ                 จะฉีกเนื้อนั่งกลืนให้ชื่นใจ”

   ลองถ้าคิดถึงขั้น "หม่ำ" ไม่มีเหลือ    น่าจะเคยหม่ำมาแล้ว


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: สองล้อ ที่ 22 เม.ย. 16, 21:48
กราบสวัสดีท่านอาจารย์เทาชมพูครับ สบายดีไหมครับอาจารย์


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 เม.ย. 16, 10:24
สบายดีค่ะ  ??? ???

ในช่วงชีวิตที่ต้องระเหเร่ร่อน ในรัชกาลที่ ๓   สุนทรภู่ได้เติมสีสันให้ชีวิตด้วยสาวๆอีกหลายคน  ในนิราศวัดเจ้าฟ้า ซึ่งอ้างชื่อว่าเณรพัดเป็นคนแต่ง  ซึ่งอาจจะทำให้สะดวกที่จะพรรณนาเรื่องผู้หญิงบ้าง อกหักบ้าง โดยไม่น่าเกลียดเท่ากับเปิดเผยว่าท่านเขียนขณะอยู่ในเพศบรรพชิต
สาวงามหนึ่งในนั้น ชื่อแม่อิน

“…ถึงเกาะเรียงเคียงคลองเป็นสองแยก                       ป่าละแวกวังราชประพาสสินธุ์
ได้นางห้ามงามพร้อมชื่อ หม่อมอิน                            จึงตั้งถิ่นที่เพราะเสนาะนาม
หวังถวิลอินน้องละอองเอี่ยม                                   แสนเสงี่ยมงามพร้อมเหมือนหม่อมห้าม
จะหายศอุตส่าห์พยายาม                                      คงจะงามพักตร์พร้อมเหมือนหม่อมอิน…”

ชื่อแม่อินขวัญใจของกวี ไปพ้องกับชื่อหม่อมอิน  ที่ตำนานบอกว่าเป็นสาวชาวบ้านอาศัยอยู่ตรงเกาะที่เรียกว่าบางปะอินในปัจจุบัน   ย้อนหลังไปสมัยสมเด็จพระนเรศวร    พระเอกาทศรถพระราชอนุชา ในวันหนึ่งเสด็จประพาสทางเรือมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา  ถึงแถวนั้นเรือล่ม  ทรงว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งได้ในละแวกบ้านที่แม่อินอาศัยอยู่     ความงามของแม่อินเป็นที่ต้องพระทัย  จึงได้นางมาเป็นบาทบริจาริกา
ชื่อบางนั้นก็เลยเรียกว่าบางนางอิน  ต่อมาเพี้ยนเป็นบางปะอิน


“…ตลาดแก้วแล้วแต่ล้วนสวนสล้าง        เป็นชื่ออ้างออกนามตามวิสัย
แม้นขาย แก้ว แววฟ้าที่อาลัย            จะซื่อใส่บนสำลีประชีรอง
ประดับเรือนเหมือนหนึ่งเพชรสำเร็จแล้ว        ถนอมแก้วกลอยใจมิให้หมอง
ไม่เหมือนนึกตรึกตราน้ำตานอง            เห็นแต่น้องหนูแนบแอบอุรา”


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Molly ที่ 26 เม.ย. 16, 09:48
มารอ ร้อ รอ ตอนต่อไปค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 เม.ย. 16, 10:20
รอแป๊บค่ะ   วิ่งรอก ๒ กระทู้  แฮก แฮก แฮก


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 26 เม.ย. 16, 11:47
ยังติดตามอยู่เช่นกันครับ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 26 เม.ย. 16, 13:38
อาจารย์ระวัง Post สลับกันนะครับ  :D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 เม.ย. 16, 09:56
จะพยายามค่ะ  ;) ;)

ชีวิตของสุนทรภู่ค่อนข้างระหกระเหิน  ขึ้นสูงก็สูงมาก  ตกต่ำก็ต่ำมาก  สูงก็ขนาดหมอบใกล้ชิดพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งน่าจะเป็นระดับเจ้าพระยาที่มีโอกาสขนาดนี้      ตกต่ำก็ขนาดต้องรำพึงว่า

มาถึงบางธรณีทวีโศก                            ยามวิโยคยากใจให้สะอื้น
โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น                     ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร
เมื่อเคราะห์ร้ายกายเราก็เท่านี้                   ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย
ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ              เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกาฯ

ถ้าไม่โทษกรรมเก่า  ก็ต้องมองหากรรมปัจจุบันมาอธิบาย  อย่างหนึ่งที่เห็นในนิราศก็คือสุรากับนารี   สุนทรภู่กินเหล้า   กินชนิดขาดไม่ได้    ส่วนผู้หญิงก็ขาดไม่ได้เช่นกัน   สองข้อนี้อ่านได้จากคำรับสารภาพของเจ้าตัว

ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง                   มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา                  ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ                    พระสรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย                       ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก                 สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป                    แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ



กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 เม.ย. 16, 10:04
 กรรมในปัจจุบันของสุนทรภู่มี 2 อย่าง คือสุนทรภู่เป็นคนติดเหล้า  ติดหนักขนาดเมาอาละวาด คุมสติไม่อยู่  (ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย)    แม้ว่าบวชแล้วก็ยังเลิกไม่ได้   ข้อนี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องฟ้องร้องต้องอธิกรณ์เมื่อบวชในวัดราชบูรณะ  ต้องออกจากวัดลงเรือตุหรัดตุเหร่ไปกับลูกชาย     
ตัวท่านเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ถึงโทษของสุรา     แต่ก็สารภาพอย่างหน้าชื่นตาบานว่า  " ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป"    แปลว่า จะให้ตัดขาดจากเหล้า  ไม่ให้จิบให้ชิมเสียเลยก็เกินไปละ   สรุปคือ รู้ทั้งรู้ว่าติดเหล้าแล้วเหมือนตกนรกก็ยังไม่วายกินอยู่นั่นเอง   

แต่ที่ร้ายกว่าเหล้าก็คือ มัวเมาเรื่องผู้หญิง   ขนาดบวชเป็นพระแล้วก็ยังสารภาพว่า คิดถึงผู้หญิงอยู่ตลอดเวลา    หักห้ามใจให้อยู่ในศีลอย่างผู้ถือบวชไม่ได้  (แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน)   
จึงไม่น่าแปลกว่า ไม่ว่าจะบวชหรือสึกเป็นคฤหัสถ์     ไปไหนต้องหลงละเมอเพ้อพกถึงสาวคนนั้นสาวคนนี้ที่พบเห็นอยู่ร่ำไป    แม่คนนั้นแม่คนนี้บางคนที่รำพันไว้ในนิราศก็น่าจะเป็นลูกสาวชาวบ้านหรือขุนนางที่เจอขณะเจ้าของบ้านเขานิมนต์ไปสวด     หลวงลุงก็อดใจไม่ได้อยู่ร่ำไป


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: sirinawadee ที่ 28 เม.ย. 16, 14:10
มารายงานตัวค่ะ จริงๆ อ่านมาตลอดนะคะ แต่ไม่ได้ออกเสียงค่ะ  :D :D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 เม.ย. 16, 14:08
ผู้หญิงอีกสองคน ที่สุนทรภู่เอ่ยไว้ในนิราศพระประธม   บอกเล่าความสัมพันธ์ที่น่าสนใจ  ผิดไปจากคนอื่นๆ

ที่ปลูกรักจักได้ชื่นทุกคืนค่ำ                               ก็เตี้ยต่ำตายฝอยกร๋องกร๋อยโกร๋น
ที่ชื่นเชยเคยรักเหมือนหลักประโคน                      ก็หักโค่นขาดสูญประยูรวงศ์
ยังเหลือแต่แม่ศรีสาครอยู่                                 ไปสิงสู่เสน่หานางสาหงส์
จะเชิญเจ้าเท่าไหร่ก็ไม่ลง                                 ให้คนทรงเสียใจมิได้เชย

เริ่มต้นพรรณนาถึงอกหักรักสลาย  ซึ่งเป็นธรรมดาของกวีท่านนี้   เกี้ยวผู้หญิงได้สมหวังอยู่พักหนึ่งก็มีเหตุตัดสวาทขาดกันไป   เท่าที่สังเกต   พระเอกเราเป็นฝ่ายอกหักเสียมากกว่าจะหักอกผู้หญิง
แต่หญิงที่เข้ามาพัวพันนี้   น่าจะมีหลายคนพร้อมๆกัน  ไม่ได้เกี้ยวทีละคน    เมื่อเลิกร้างกับสาวอื่นไปหมดแล้วจึงปรากฏว่ายังเหลืออีกคนหนึ่งชื่อว่า แม่ศรีสาคร      แต่จะหันกลับไปสานสายสัมพันธ์ต่อ ก็ไม่สำเร็จ   เพราะแม่ศรีสาครได้หวานใจคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว  เป็นหญิงด้วยกันชื่อนางสาหงส์ 
คงจะรักใคร่กันมากเพราะใช้คำว่า "สิงสู่เสน่หา"  ทำให้คิดว่าคนใดคนหนึ่งในคู่นี้น่าจะมีอาชีพเป็นคนทรง    ไม่นางสาหงส์ก็นางศรีสาคร
สุนทรภู่คงจะเจ็บใจไม่น้อย  จึงเปรียบเปรยว่าตัวเองทำตัวเป็นคนทรงแข่งกับเขาบ้าง   แต่ล้มเหลว เชิญแม่ศรีสาครเท่าไหร่ นางก็ไม่ยอมมาเข้าทรงสักที  สรุปว่ากวีก็เลยรับประทานแห้วไป


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 เม.ย. 16, 14:16
ในนิราศพระประธมนี้เช่นกัน พูดถึงแม่ม่ายคนหนึ่งที่สุนทรภู่ไปติดพัน 

สงสารแต่แม่ม่ายสายสวาท                             นอนอนาถหนาวน่าน้ำตาไหล
อ่านหนังสือหรือว่าน้องจะลองไน                        เสียดายใจจางจืดไม่ยืดยาว
แม้นยอมใจให้สัตย์จะนัดน้อง                            ไปร่วมห้องหายหม้ายทั้งหายหนาว
นี่หลงเพื่อนเหมือนเคี้ยวข้าวเหนียวลาว                 ลืมข้าวเจ้าเจ้าประคุณที่คุ้นเคย

สุนทรภู่น่าจะเคยมีความสัมพันธ์กับแม่ม่ายคนนี้ ในระดับไม่ธรรมดา       แต่ว่าผู้หญิงเปลี่ยนใจ    ไปชอบผู้หญิงด้วยกัน   พระเอกของเราก็เลยตัดพ้อต่อว่า  กระทบกระแทกว่าทอมของเธอนั้นเหมือนข้าวเหนียวลาว    ส่วนชายแท้อย่างท่านเหมือนข้าวเจ้า   ตามธรรมดาคนไทยซึ่งหมายถึงชาวภาคกลางกินข้าวเจ้าเป็นหลักอยู่แล้ว    ไม่ได้กินข้าวเหนียว      เมื่อแม่ม่ายรายนี้ไปทำอะไรไม่เหมือนคนอื่น ก็เลยถูกเหน็บแนมเอาแบบนี้
คำว่า "เพื่อน" ในที่นี้ ไม่ได้แปลว่า friend   แต่หมายถึงเลสเบี้ยน

แม่ม่ายคนนี้อาจจะหมายถึงแม่ศรีสาครก็เป็นได้


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 เม.ย. 16, 15:17
ที่ปลูกรักจักได้ชื่นทุกคืนค่ำ                               ก็เตี้ยต่ำตายฝอยกร๋องกร๋อยโกร๋น
ที่ชื่นเชยเคยรักเหมือนหลักประโคน                       ก็หักโค่นขาดสูญประยูรวงศ์
ยังเหลือแต่แม่ศรีสาครอยู่                                ไปสิงสู่เสน่หานางสาหงส์
จะเชิญเจ้าเท่าไหร่ก็ไม่ลง                                 ให้คนทรงเสียใจมิได้เชย

แม่ศรีสาครได้หวานใจคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว  เป็นหญิงด้วยกันชื่อนางสาหงส์  คงจะรักใคร่กันมากเพราะใช้คำว่า "สิงสู่เสน่หา"  ทำให้คิดว่าคนใดคนหนึ่งในคู่นี้น่าจะมีอาชีพเป็นคนทรง    ไม่นางสาหงส์ก็นางศรีสาคร สุนทรภู่คงจะเจ็บใจไม่น้อย  จึงเปรียบเปรยว่าตัวเองทำตัวเป็นคนทรงแข่งกับเขาบ้าง   แต่ล้มเหลว เชิญแม่ศรีสาครเท่าไหร่ นางก็ไม่ยอมมาเข้าทรงสักที  สรุปว่ากวีก็เลยรับประทานแห้วไป


ตีความได้ ๒ นัยคือ

๑. อาจไม่มีใครเป็นคนทรงเลยก็ได้

คุณชลดา เรืองรักษ์ลิขิต ภาควิชาภาษาไทย  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาบทกลอนของสุนทรภู่ (ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต, ๒๕๔๔) ได้ตีความบทกลอนตอนนี้ว่า แม่ศรีสาครนั้นรักใคร่นางสาหงส์ คำว่า “สิงสู่" ในที่นี้แสดงว่าความรักที่แม่ศรีสาครมีต่อนางสาหงส์ถึงขั้นหลงใหลมากถึงขนาดไม่ยอมจากมาหรือไม่ยอมอยู่ห่างไกลนอกจากนี้ข้อความที่ว่า "จะเชิญเจ้าเท่าไรก็ไม่ลง"แสดงว่าสุนทรภู่ก็มีจิตหมายปองแม่ศรีสาครแต่แม่ศรีสาครไม่สนใจสุนทรภู่ และไม่ยอมเลิกรักนางสาหงส์

๒. ถ้ามีคนทรง อาจจะเป็นนางสาหงส์

ชื่อนางสาหงส์นี้ไปปรากฏในเรื่อง อภัยนุราช อันเป็นบทละครของสุนทรภู่ และได้พรรณาว่า

บัดนั้น                                          นางศรีสาหงคนทรงผี
อยู่แต่ตัวผัวตายหลายปี                      อายุสี่สิบสี่ปีปลาย
นัยน์ตาพองสองผมนมคล้อย                ทำชดช้อยลอยเลิศเฉิดฉัน
นุ่งแดงห่มชมพูพิศดูกาย                     ออกจากเรือนเดือนหงายกรีดกรายมา


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 เม.ย. 16, 15:27
อาจารย์ธนิต อยู่โพธิ์ กล่าวว่านางสาหงส์นี้สุนทรภู่ได้อาศัยให้เป็นแม่สื่อเพื่อช่วยให้ได้รักกับแม่ศรีสาคร และนางสาหงส์มีอาชีพเช่นนี้ ก็ช่วยให้คิดไปว่าคงจะมีนิสัยจัดจ้านสักหน่อย ทั้งยังชวนให้คิดต่อไปอีกว่า บางทีนางก็คงตกเป็นเมียกวีเอกของเราด้วย นางศรีสาหงในเรื่องอภัยนุราชนี้ สุนทรภู่คงจะถอดเอามาจากนางสาหงส์แม่สื่อของท่าน และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็พอปรับได้กับ นางผีเสื้อยักษ์ ในเรื่องพระอภัยมณี เพราะตอนที่ฤๅษีเกาะแก้วพิสดารด่าผีเสื้อสมุทรก็มีความคล้ายกันอยู่

พระโยคีชี้หน้าว่าอุเหม่                       ยังโว้เว้วุ่นวายอีตายโหง
เพราะหวังผัวมัวเมาเฝ้าตะโกรง             ว่ากูโกงมิงตกนรกเอง
อียักษาตาโตโมโหมาก                      รูปก็กากปากก็เปราะไม่เหมาะเหม็ง
นมสองข้างอย่างกระโปรงดูโตงเตง        ผัวของเอ็งเขาระอาไม่น่าชม


ในนิราศพระประธมมีตอนหนึ่ง กล่าวถึงแม่ศรีสาครว่า

แม่หม้ายสาวขาวโศกโฉลกมี              เหมือนแม่ศรีสาครฉะอ้อนเอว

อาจารย์ธนิต กล่าวว่า เห็นพอจะปรับได้กับนางเงือกเพราะนางเงือกมีลูกออกมาชื่อ สุดสาคร ชื่อนี้ออกจะพ้อง ๆ กับแม่ศรีสาครอยู่ เหตุที่พอจะปรับได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ นาม ศรีสาคร พอจะแปลได้ความว่าเป็น ศรีแก่ลำน้ำ ก็ผู้ที่เป็นศรีแห่งลำน้ำนั้น เห็นจะได้แก่ นางเงือก เป็นแน่นอน ดังนั้น สุนทรภู่จึงวาดนางเงือกโดยถอดแบบมาจากแม่ศรีสาครก็อาจเป็นได้

แม่ศรีสาคร อาจมีลักษณะเหมือนอย่างตอนที่พระอภัยมณีพิจารณานางเงือก สุนทรภู่พรรณาไว้ว่า

พงศ์กษัตริย์ทัศนานางเงือกน้อย             ดูแช่มช้อยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผม  
ประไพพักตร์ลักษณ์ล้ำล้วนขำคม           ทั้งเนื้อนมนวลเปล่งออกเต่งทรวง  
ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด                  ดังสุรางค์นางนาฏในวังหลวง  
พระเพลินพิศคิดหมายเสียดายดวง          แล้วหนักหน่วงนึกที่จะหนีไป


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 พ.ค. 16, 09:38
นางเงือกน้อยแม่ของสุดสาครเป็นสาวรุ่น   ส่วนแม่ศรีสาครเป็นแม่ม่าย น่าจะเป็นสาวใหญ่แล้ว   อาจจะเป็นคนละคนกัน

กลับมาที่อาการ "ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก" ของสุนทรภู่        นอกเหนือจากสาวๆระดับสามัญชนเหมือนกัน ที่สุนทรภู่เจออยู่หลายคน     ในนิราศวัดเจ้าฟ้า  ท่านยังกล่าวถึงหญิงสาวในระดับสูงกว่าสามัญที่ท่านไปพัวพันอยู่ด้วย

                                               อย่าหมิ่นชายเชิญตรึกให้ลึกซึ้ง
เหมือนภุมรินบินหาซึ่งสาโรช                  ถึงร้อยโยชน์แย้มกลิ่นคงบินถึง
แต่ดอกไม้ไทท้าวในดาวดึงษ์          ไม่พ้นซึ่งพวกหมู่แมลงภู่ชม
เช่นกระต่ายกายสิทธิ์นั้นผิดเพื่อน          ขึ้นแต้มเดือนได้จนชิดสนิทสนม
เสน่หาอาลัยใจนิยม                          จะใคร่ชมเช่นกระต่ายไม่วายตรอม

ท่านรำพันถึงสาวชาววัง ที่เรียกเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่า "ดอกไม้ไทท้าวในดาวดึงส์"  แล้วยังบอกเสียอีกว่า "ไม่พ้นซึ่งพวกหมู่แมงภู่ชม"
ถ้าหมายถึงแม่จัน ที่เป็นสาวชาววังหลังก็ไม่แปลก   เพราะเคยร่วมหอลงโรงกับหนุ่มแมงภู่กันมาแล้ว      แต่ในกลอนตอนนี้ คงไม่ใช่แม่จันซึ่งเลิกร้างกันไปนานหลายปีแล้ว   แต่น่าจะหมายถึงสาวสูงศักดิ์ที่สุนทรภู่เล็งแลอยู่ในขณะนั้น    วิธีเขียน แฝงนัยยะไว้ว่า ถึงยังไงก็ไม่พ้นมือ

ถ้านักเรียนชั้นเรียนนี้ สงสัยว่าทำไมชีวิตกวีเอกถึงได้ระหกระเหินลุ่มๆดอนๆ  ไม่เห็นจะราบรื่นอย่างที่ควรเป็น ทั้งที่เป็นขุนนาง  ดีกว่าไพร่เป็นกอง    ขนาดบวชแล้วก็ยังไม่มีความสุขในรสพระธรรมอย่างพระสงฆ์อื่นๆ   
คำตอบก็คือ  อาการเมาเหล้ากับอาการเมารัก  นี่แหละคือสาเหตุ   ตัดเหล้าไม่ได้อย่างเดียวก็หนักพอแล้ว   นี่ยังตัดรักไม่ขาดอีกด้วย
ใจคะนึงหาสาวๆอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ตอนบวช  อุตส่าห์แปลงจากพระเป็นเณร อ้างชื่อลูกชายเป็นคนแต่งเพื่อให้เพลาๆความไม่เหมาะไม่ควรลงหน่อย   ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความอ่อนไหวของท่านอยู่ตลอดเรื่อง


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 พ.ค. 16, 09:48
ในนิราศวัดเจ้าฟ้าเช่นกัน ที่บอกให้รู้ว่าใจของสุนทรภู่ตอนนั้นกำลังหลงใหลใฝ่ฝันสาวสูงศักดิ์อยู่นางหนึ่ง    เป็นใครไม่ได้บอกชื่อไว้  ซึ่งก็คงบอกไม่ได้ เพราะเผยแพร่ออกไปอาจจะหัวขาด

มณฑาทิพย์กลีบบานตระการกลิ่น                        ภุมรินหรือจะร้างห่างเกสร
จงทราบความตามใจอาลัยวอน                        เดชะกลอนกล่าวปลอบให้ตอบคำ
จะคอยฟังดังคอยสอยสวาท                                แม้นเหมือนมาดหมายจะชิมให้อิ่มหนำ
ถ้าครั้งนี้มิได้เยื้อนยังเอื้อนอำ                                จะต้องคร่ำคร่าเปล่าแล้วเราเอย

กลอนตอนนี้ มีลักษณะเป็นกลอนเพลงยาวเขียนถึงผู้หญิง     เพราะมีคำว่า "จงทราบความตามใจอาลัยวอน" กับ "จะคอยฟังดังคอยสอยสวาท"    คือเป็นการเขียนส่งให้หญิงสูงศักดิ์ที่ท่านเปรียบเทียบว่าเป็นดอก "มณฑาทิพย์"  คือดอกไม้สวรรค์     โดยหวังว่าจะได้คำตอบจากเธอด้วย
นิราศวัดเจ้าฟ้า จึงไม่ใช่บันทึกการเดินทาง   ไม่ใช่กลอนที่เขียนไว้ขายชาวบ้าน  อย่างเขียนนิทานเรื่องพระอภัยมณี    แต่เป็นสารหรือแมสเสจที่ส่งให้หญิงงามนางหนึ่งที่ท่านมีใจให้อยู่ในตอนนั้น      หวังว่าเธอจะตอบ   ถ้าตอบดังหวัง แล้วก็จะ "ชิมให้อิ่มหนำ" แปลว่าจะก้าวเข้าไปถึงความสัมพันธ์กันละ    แต่ถ้าผู้หญิงยังสงวนท่าทีไม่ตอบ  ก็คงแห้วรับประทานไปเหมือนรายก่อนๆ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 พ.ค. 16, 10:29
ในนิราศวัดเจ้าฟ้าเช่นกัน ที่บอกให้รู้ว่าใจของสุนทรภู่ตอนนั้นกำลังหลงใหลใฝ่ฝันสาวสูงศักดิ์อยู่นางหนึ่ง    เป็นใครไม่ได้บอกชื่อไว้  ซึ่งก็คงบอกไม่ได้ เพราะเผยแพร่ออกไปอาจจะหัวขาด

มณฑาทิพย์กลีบบานตระการกลิ่น                   ภุมรินหรือจะร้างห่างเกสร
จงทราบความตามใจอาลัยวอน                      เดชะกลอนกล่าวปลอบให้ตอบคำ
จะคอยฟังดังคอยสอยสวาท                        แม้นเหมือนมาดหมายจะชิมให้อิ่มหนำ
ถ้าครั้งนี้มิได้เยื้อนยังเอื้อนอำ                       จะต้องคร่ำคร่าเปล่าแล้วเราเอย


กลอนตอนนี้ มีลักษณะเป็นกลอนเพลงยาวเขียนถึงผู้หญิง     เพราะมีคำว่า "จงทราบความตามใจอาลัยวอน" กับ "จะคอยฟังดังคอยสอยสวาท"    คือเป็นการเขียนส่งให้หญิงสูงศักดิ์ที่ท่านเปรียบเทียบว่าเป็นดอก "มณฑาทิพย์"  คือดอกไม้สวรรค์     โดยหวังว่าจะได้คำตอบจากเธอด้วย

ทั้งแก้วเนตรเกสรามณฑาทิพย์       จงลอยลิบลุล่วงถึงสรวงสวรรค์
จะเกิดไหนได้อยู่คู่ชีวัน               อย่ามีอันตรายเป็นเหมือนเช่นนี้ฯ


นี่คือความอีกตอนหนึ่ง  มีคำว่า "ทั้ง" เริ่มต้นไว้ เป็นการคั่นระหว่างบทก่อนกับบทนี้ให้รู้ว่าคนละคน
แก้วเนตร แปลว่าแม่แก้วตา(พี่)  มณฑาทิพย์ เป็นสร้อยคำประกอบชื่อเกสรา  บอกให้รู้ว่าเปรียบแม่คนนี้เป็นดอกไม้สวรรค์  น่าจะมีฐานะในสังคมดีกว่าหญิงชาวบ้านทั่วไป
ยิ่งอวยพรให้หล่อนเป็นดอกไม้สวรรค์ที่ลอย(กลับ)ขึ้นไปถึงสวรรค์ ก็ยิ่งเห็นว่ายกย่องคนนี้
จะเกิดไหนได้อยู่คู่ชีวัน    วรรคนี้แน่นอนว่าเป็นเมีย
ส่วนวรรคท้ายแสดงว่าแม่เกษ ตายเพราะอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่ง  ไม่ใช่เจ็บป่วยหรือแก่ตาย

ในพระอภัยมณี  สุนทรภู่ตั้งชื่อตัวละครหญิง เมียของศรีสุวรรณว่า นางแก้วเกษรา   ผู้หญิงคนนี้เป็นคนดีที่สุดในบรรดาเมียๆของพระเอกพระรอง
สวย อ่อนหวาน ไม่มีความหึงหวง จงรักภักดีต่อสามี เสมอต้นเสมอปลาย แต่ไม่ค่อยมีบทบาท  เป็นภาพที่เลือนๆเมื่อเทียบกับคนอื่น
เป็นได้ว่าเอาเค้าโครงการสร้างมาจากแม่เกษคนนี้แหละค่ะ

ฤๅ "แม่มณฑาทิพย์" จากนิราศวัดเจ้าฟ้า จะเป็นคนเดียวกับ "แม่เกสรา" ในนิราศพระประธม  ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 พ.ค. 16, 11:13
กลอนอีกตอนหนึ่งบอกถึงสถานะของเธอ ว่าเป็นดวงจันทร์ ที่สุนทรภู่เป็นแค่กระต่าย   แต่ไม่ใช่กระต่ายธรรมดา  เป็นกระต่ายกายสิทธิ์ที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับดอกฟ้า
คำว่า "ขอเดชะจะได้พึ่งให้ถึงจอม"  ฝากคุณเพ็ญชมพูไปค้นว่า หมายถึงอะไร

เช่นกระต่ายกายสิทธิ์นั้นผิดเพื่อน                     ขึ้นแต้มเดือนได้จนชิดสนิทสนม
เสน่หาอาลัยใจนิยม                                     จะใคร่ชมเช่นกระต่ายไม่วายตรอม
แต่เกรงเหมือนเดือนแรมไม่แจ่มแจ้ง                     สุดจะแฝงฝากเงาเฝ้าถนอม
ขอเดชะจะได้พึ่งให้ถึงจอม                             ขอให้น้อมโน้มสวาทอย่าคลาดคลา
ไม่เคลื่อนคลายหน่ายแหนงจะแฝงเฝ้า             ให้เหมือนเงาตามติดขนิษฐา
ทุกค่ำคืนชื่นชุ่มพุ่มผกา                             มิให้แก้วแววตาอนาทร


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ค. 16, 08:45
แต่ "มณฑาทิพย์" อาจไม่ใช่ผู้หญิงฐานะทางสังคมสูงสุดเท่าที่สุนทรภู่จะเกี่ยวข้องด้วยได้      ยังมีอีกคนหนึ่ง  คนนี้นักวรรณคดีถอดความออกมาแล้วก็ตกตะลึงพรึงเพริดกัน ว่าสุนทรภู่อาจเอื้อมใฝ่สูงถึงขนาดนี้เชียวหรือ

พูดถึงความเป็นมาของ "รำพันพิลาป" เป็นเรื่องที่สุนทรภู่ได้แต่งขึ้นตามความฝันของท่านในคืนวันจันทร์ เดือน ๘ ปีขาล พ.ศ. ๒๓๘๕ ซึ่งเวลานั้นท่านมีอายุ ๕๖ ปี ยังครองเพศเป็นสมณะและจำพรรษาอยู่ ณ วัดเทพธิดาราม
ต้นฉบับ "รำพันพิลาป" ที่ใช้เป็นฉบับพิมพ์มีอยู่ ๑ เล่มสมุดไทย พระยาราชสมบัติ (เอิบ บุรานนท์) ได้นำมามอบให้แก่หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๐ ได้ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อพ.ศ. ๒๔๘๑ และพิมพ์ต่อมาอีกหลายครั้ง ครั้นถึง พ.ศ. ๒๕๐๔ นายธนิต อยู่โพธิ์ ได้ตรวจสอบชำระและทำเชิงอรรถประกอบตีพิมพ์เป็นครั้งแรกเนื่องในวันเกิดครบ ๑๗๕ ปีของสุนทรภู่ (๒๖ มิถุนายน ๒๕๐๔)

ในรำพันพิลาป  สุนทรภู่เล่าว่าฝันไป ว่าเห็นนางฟ้าทรงโฉมงดงาม พร้อมบริวารสาวน้อยๆจำนวนมาก  มาปรากฏตัวให้เห็น

ที่เอกองค์ทรงศรีฉวีวรรณ                       ดั่งดวงจันทร์แจ่มฟ้าไม่ราคี
ทั้งคมขำล้ำนางสำอางสะอาด              โอษฐ์เหมือนชาดจิ้มเจิมเฉลิมศรี
ใส่เครื่องทรงมงกุฎดังบุตรี                      แก้วมณีเนาวรัตน์จำรัสเรือง
รูปจริตพิศไหนวิไลเลิศ                      เหมือนหุ่นเชิดโฉมแช่มแฉล้มเหลือง
พอแลสบหลบชะม้ายชายชำเลือง              ดูปลดเปลื้องเปล่งปลั่งกำลังโลม
ลำพระกรอ่อนชดประณตน้อม              แลละม่อมเหมือนหนึ่งเขียนวิเชียรโฉม
หรือชาวสวรรค์ชั้นฟ้านภาโพยม              มาประโลมโลกาให้อาวรณ์
แปลกมนุษย์ผุดผ่องละอองพักตร์              วิไลลักษณ์ล้ำเลิศประเสริฐสมร
ครั้นปราศรัยไถ่ถามนามกร                      ก็เคืองค้อนขามเขินสะเทินที


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ค. 16, 08:52
ไต่ถามกันยังไม่ทันรู้ชื่อ นางก็ขึ้นรถทิพย์เหาะลอยลับไปจากสายตา      แต่กวีเอกของเราก็ไม่หมดความหวัง   จู่ๆก็เห็นเทพธิดาคือนางเมขลาเหาะลอยมาบอกชื่อให้รู้

นี่จนใจไม่รู้จักที่หลักแหล่ง                     สุดแสวงสวาทหมายไม่วายหมอง
เมื่อยามฝันนั้นว่านึกนั่งตรึกตรอง             เดือนหงายส่องแสงสว่างดังกลางวัน
เห็นโฉมยงองค์เอกเมขลา                     ชูจินดาดวงสว่างมากลางสวรรค์
รัศมีสีเปล่งดังเพ็งจันทร์                     พระรำพันกรุณาด้วยปรานี
ว่านวลหงส์องค์นี้อยู่ชั้นฟ้า                     ชื่อโฉมเทพธิดามิ่งมารศรี
วิมานเรียงเคียงกันทุกวันนี้                     เหมือนหนึ่งพี่น้องสนิทร่วมจิตใจ
จะให้แก้วแล้วก็ว่าไปหาเถิด                     มิให้เกิดการระแวงแหนงไฉน
ที่ขัดข้องหมองหมางเป็นอย่างไร             จะผันแปรแก้ไขด้วยใกล้เคียง ๚


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 พ.ค. 16, 09:34
นางฟ้าองค์นี้จะหมายถึงผู้ใด คุณเทาชมพูคงเฉลยในไม่ช้า

อยากฝากคำถามเก่าของท่านอาจารย์ใหญ่ผ่านต่อให้นักเรียนในชั้นช่วยกันตอบหน่อย ห้องเรียนจะได้ครึกครื้น มีชีวิตชีวา ;D

กลอนอีกตอนหนึ่งบอกถึงสถานะของเธอ ว่าเป็นดวงจันทร์ ที่สุนทรภู่เป็นแค่กระต่าย   แต่ไม่ใช่กระต่ายธรรมดา  เป็นกระต่ายกายสิทธิ์ที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับดอกฟ้า
คำว่า "ขอเดชะจะได้พึ่งให้ถึงจอม"  ฝากคุณเพ็ญชมพูไปค้นว่า หมายถึงอะไร


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ค. 16, 09:50
คุณครูเพ็ญส่งต่อระเบิดเวลา   นักเรียนหายโม้ด...


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ค. 16, 09:15
เปิดประตูเข้ามาในห้องเรียน    สายตะวันโด่ง   ยังไม่มีใครมานั่งสักคน    หายแซบหายสอยกันหมด พอรู้ว่ามีการบ้าน

ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปถึงคู่ครองเรือนของสุนทรภู่ให้ครบคนเสียก่อนนะคะ

คนแรกคือแม่จัน เลิกร้างกันไป ต่างคนต่างมีครอบครัวใหม่โดยแม่จันให้บุตรชายคือหนูพัด  อยู่กับพ่อ      คนที่สองคือแม่นิ่มที่ถึงแก่กรรมตั้งแต่ลูกชายยังเล็ก      สุนทรภู่ครองความเป็นพ่อม่ายอยู่จนอายุ 50   ใช้ชีวิตสลับกันระหว่างครองเรือนกับครองวัด  มีผู้หญิงอื่นเข้ามาไม่ขาดสาย   ความสัมพันธ์มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่กรณี    ในที่สุดก็ตกลงปลงใจกับภรรยาคนที่สาม 

ภรรยาคนนี้ชื่อแม่ม่วง  ร่วมหอลงโรงกันหลังจากสึกจากพระครั้งแรก ในต้นปีพ.ศ. 2378 ขณะที่สุนทรภู่อายุย่างเข้า 50 ปี   เป็นช่วงที่กวีเอกของเราตกยาก ไม่ได้รุ่งเรื่องเฟื่องฟู   ขนาดไม่มีบ้านเรือนจะอยู่อาศัย  แต่ก็มีเมียและมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน   
นับว่าแม่ม่วงเป็นผู้หญิงที่อาภัพคนหนึ่ง ไม่แพ้แม่นิ่ม  เพราะถึงมีสามีเป็นขุนนางในรัชกาลที่ 2 เป็นกวีมีชื่อเสียงขนาด "เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร" อย่างที่ท่านบรรยายตัวเองไว้     แต่แม่ม่วงก็ไม่ได้สุขสบายอย่างที่ควรจะเป็น

ชีวิตคู่ของสุนทรภู่กับแม่ม่วง น่าจะลุ่มๆดอนๆอยู่บ้าง   เพราะถ้าอยู่กันราบรื่นเป็นสุขสบายดี  สุนทรภู่คงไม่ทิ้งเมียทิ้งลูกไปบวชพระเป็นครั้งที่ 2 ในต้นปีพ.ศ.2383  ความจริงอายุเข้าไป 55 แล้ว  ก็ไม่น่าจะไปนับหนึ่งใหม่ในเพศบรรพชิต   แต่คงมีความจำเป็นอะไรสักอย่าง  หรือไม่ก็สิ้นหวังกับชีวิตชาวบ้าน จึงหันไปพึ่งผ้าเหลืองชั่วคราว 

ในที่สุด  สุนทรภู่ก็สึกจากพระอีกครั้ง   แม่ม่วงยังคอยท่าอยู่ ไม่ได้ไปไหน  จึงกลับมาครองคู่กันอีก     ในช่วงที่ย่างเข้าวัยชรา ชะตาสุนทรภู่กระเตื้องขึ้นเมื่อถวายตัวเป็นข้าสมเด็จฯเจ้าฟ้า กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ หรือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
สุนทรภู่ก็พาแม่ม่วงมาอยู่ที่พระราชวังเดิมด้วย


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ค. 16, 09:18
ในนิราศ  มีการเอ่ยถึงผู้หญิงชื่อม่วงอยู่บ้าง     เช่นในโคลงนิราศสุพรรณ

“บางม่วงทรวงเศร้าคิด            เคยชวน
ม่วงเก็บมะม่วงสวน                สุกระย้า
ม่วงอื่นรื่นรันจวน                   จิตไม่ ใคร่แฮ
ม่วงหม่อมหอมหวนหน้า           เสน่เนื้อ เจือจรร”

ในนิราศพระประธม  รำพึงว่า

“ถึงบางง่วงจิตคิดถึงม่วง                แต่จากทรวงเสียใจอาลัยเหลือ
มะม่วงงอมหอมหวนเหมือนนวลเนื้อ    มิรู้เบื่อบางม่วงเหมือนดวงใจ”

แต่ไม่มีรายละเอียดประกอบ    ก็เลยไม่แน่ใจว่าท่านหมายถึงแม่ม่วงภรรยา หรือม่วงอื่นที่เคยไปพัวพันด้วย


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: คนดีอยู่ไหนจ๊ะ? ที่ 04 พ.ค. 16, 17:25
ตามอ่านอยู่นะคะ อ.เทาชมพู และอยากรู้คำเฉลยด้วยคะ รอ รอ รอ นะคะ :D :D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: แพรวพิม ที่ 04 พ.ค. 16, 18:31
พอจะเดาได้ว่านางฟ้าองค์นี้เป็นใคร แต่รออาจารย์เฉลยดีกว่าค่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าหนูจะเดาผิดหรือเปล่า  ???


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 05 พ.ค. 16, 16:46
กราบขออภัยมาสายค่ะท่านอ.เทาชมพู

เพิ่งได้มาตามอ่านเรื่องผญ.ของท่านครูกวีเอก

เคยสงสัยประเด็นเมียน้อยเมียหลวงในละครหรือนิยายย้อนยุคหลายเรื่องว่าในเมื่อสังคมไทยเป็น Polygamy มานานเป็นร้อยๆปีแล้ว ผญ.จะหึงหวงทำไม

แต่ทั้งบทพระราชนิพนธ์ หรือวรรณคดีเก่าๆหลายต่อหลายเรื่องเหลือเกินก็ชูประเด็นเรื่องความหึงหวงของสตรีขึ้นมาให้เห็นบ่อยๆ ขุนช้างขุนแผนนี่ชัดมากๆจริงๆ วันทองกับวันทองก็แทบจะตบกันตั้งแต่วันแรกที่เจอ

ซึ่งก็น่าสงสัยว่ามันคงผญ.ที่ไม่คิดจะแบ่งผัวกับใครอยู่เยอะแน่ๆนะคะ ไม่งั้นกวีเขาคงไม่ยกมาขนาดนั้น นวนิยายหรือละครก็มิได้เกินจริงแต่อย่างไร


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 พ.ค. 16, 17:27

เคยสงสัยประเด็นเมียน้อยเมียหลวงในละครหรือนิยายย้อนยุคหลายเรื่องว่าในเมื่อสังคมไทยเป็น Polygamy มานานเป็นร้อยๆปีแล้ว ผญ.จะหึงหวงทำไม

สังคมไทยเป็น polygamy แบบผูกขาดโดยเพศชายฝ่ายเดียว    คือผู้ชายมีภรรยาได้หลายคนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย   แต่ผู้หญิงต้องมีสามีเดียว  ถ้ามีมากกว่า 1 เรียกว่ามีชู้  โทษถึงประหาร
ดังนั้นของอะไรที่มีได้อย่างเดียว   จึงกลายเป็นของสำคัญ  แบ่งปันให้ใครก็ลำบาก เพราะเท่ากับต้องถูกหารลงไปให้เหลือส่วนนิดเดียว แทนที่จะเต็มร้อย  ผิดกับผู้ชายที่มีภรรยาเพิ่มจำนวนได้ไม่จำกัด  เท่ากับชีวิตมีแต่คูณไปเรื่อย ไม่มีหาร

ลองนึกเล่นๆดูว่า ถ้า polygamy กันทั้งสองฝ่าย    ผู้หญิงก็มีสิทธิ์แต่งงานกับชายได้หลายคนพร้อมกันอย่างถูกต้อง  เหมือนสังคมธิเบต   ฝ่ายหึงเป็นบ้าอาจเป็นฝ่ายสามีหลวงสามีน้อยก็ได้ค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 05 พ.ค. 16, 21:27
รบกวนภาพถ่ายสตรีสยามสมัย ร.๓ ถึง ร.๔ ทั้งชาววังและชาวบ้าน จากท่านๆอาจารย์ในเรือนด้วยเถิดครับ
จะได้อินไปกับท่านสุนทรภู่ขึ้นอีกระดับหนึ่ง


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 07:47
ถ้าเป็นสมัยรัชกาลที่ ๕ จะหาง่ายหน่อย  ;D

ชาววัง

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5929.0;attach=57735;image)

ชาวบ้าน

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6319.0;attach=57325;image)


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 08:07
มาดูรูปชาววังดูบ้างค่ะ

พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
(จากซ้าย) พระองค์เจ้ากัลยาณี, พระองค์เจ้ากินรี, พระองค์เจ้าดวงเดือน, พระองค์เจ้านิเวศน์, พระองค์เจ้าแสงจันทร์, กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร, พระองค์เจ้าสุบงกช, พระองค์เจ้าจามรี และกรมหลวงวรเสรฐสุดา


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 06 พ.ค. 16, 08:49
เข้าใจแล้วค่ะ

ขอแก้ไขข้อความข้างบนหน่อย วันทองกับลาวทอง  :) :) :) :D ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: visitna ที่ 06 พ.ค. 16, 09:03
รูปการแต่งกายของชาววังกับชาวบ้านสมัย ร 3 คงจะหายาก
สมัย ร 4  ชาววัง น่าจะเป็นแบบนี้
ชาวบ้านชั้นกลางในยุคต้น ร 5 อนุมาณว่าคงจะแบบเดียวกับสมัย ร 4





กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 06 พ.ค. 16, 09:20
ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านครับ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 09:30
ขอย้อนกลับมาถึงผู้หญิงคนสำคัญที่สุด ค่ะ

รำพันพิลาป  เป็นบทร้อยกรองที่แตกต่างจากนิราศเรื่องอื่นๆ คือเป็นการเล่าความฝัน ขณะบวชอยู่ที่วัดเทพธิดาราม  ในพ.ศ. 2385  
ในนั้น  บรรยายความฝันตามนี้

แล้วร่ำภาวนาในพระไตรลักษณ์                    ประหารรักหนักหน่วงตัดห่วงหาย
หอมกลิ่นธูปงูบระงับหลับสบาย                    ฝันว่าว่ายสายชะเลอยู่เอกา
สิ้นกำลังยังมีนารีรุ่น                                    รูปเหมือนหุ่นเหาะเร่ร่อนเวหา
ช่วยจูงไปไว้ที่วัดได้ทัศนา                            พระศิลาขาวล้ำดังสำลี
ทั้งพระทองสององค์ล้วนทรงเครื่อง                    แลเลื่อมเหลืองเรืองจำรัสรัศมี
พอเสียงแซ่แลหาเห็นนารี                            ล้วนสอดสีสาวน้อยนับร้อยพัน

มาไขปริศนากันดีกว่า ว่าวัดไหนที่ท่านเห็น     ที่มี "พระศิลาขาวล้ำดังสาลี"
เชิญดูรูปค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 09:51
มาไขปริศนากันดีกว่า ว่าวัดไหนที่ท่านเห็น     ที่มี "พระศิลาขาวล้ำดังสาลี"
เชิญดูรูปค่ะ


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6491.0;attach=61365;image)

เชิญนักเรียนในชั้นช่วยกันตอบ ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 09:57
พระพุทธรูปองค์นี้  เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยเชียงแสนผสมสุโขทัย ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร จำหลักด้วยศิลายวง สีขาวบริสุทธิ์
มีพระนามทางการว่า พระพุทธเทววิลาส   แต่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อขาว  ประวัติความเป็นมาไม่ปรากฎ  ทราบว่าเดิมอยู่ในพระบรมมหาราชวัง     
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  โปรดให้กรมหมื่นภูมินทรภักดี (พระองค์เจ้าชาย ลดาวัลย์ ต้นราชสกุลลดาวัลย์) เป็นแม่กองสร้างวัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิลาศ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ เดิมชื่อว่าวัดพระยาไกรสวนหลวง สร้างเสร็จเมื่อพุทธศักราช ๒๓๘๒ พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดเทพธิดาราม" ซึ่งหมายถึงกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ  โปรดให้อัญเชิญพระพุทธรูปจำหลักด้วยศิลาขาว จาก พระบรมมหาราชวังมาเป็นพระปฏิมากรประธาน


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 10:00
ทั้งพระทองสององค์ล้วนทรงเครื่อง                  แลเลื่อมเหลืองเรืองจำรัสรัศมี

คือพระพุทธรูปทรงเครื่อง 2 องค์ ประดิษฐานอยู่ซ้ายขวา "หลวงพ่อขาว" ในพระอุโบสถวัดเทพธิดาราม


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 06 พ.ค. 16, 10:26
พอจะเดาได้ว่านางฟ้าองค์นี้เป็นใคร แต่รออาจารย์เฉลยดีกว่าค่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าหนูจะเดาผิดหรือเปล่า  ???
ท่านสุนทรภู่ มีวิญญาณศิลปินเต็มตัว จึงไม่มีขีดจำกัดใดมากั้นจินตนาการของท่านได้
จนต้องปลดปล่อยออกมาเป็นบทกวีให้แจ่มแจ้งเป็นรูปธรรม
สตรีต่างๆระดับในแผ่นดินท่านได้ผ่านมาหมดแล้ว (ความเป็นชายชาววังมีส่วนเอื้อโอกาสให้ท่าน)
ยังเหลือแต่ระดับเทพธิดา ที่ท่านมีโอกาสเฉียดใกล้ (ผ้าเหลืองมีส่วนเอื้อท่าน)
 
เสียวหัวแทนท่านจริงๆ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 11:00
ที่เอกองค์ทรงศรีฉวีวรรณ                    ดั่งดวงจันทร์แจ่มฟ้าไม่ราคี
ทั้งคมขำล้ำนางสำอางสะอาด            โอษฐ์เหมือนชาดจิ้มเจิมเฉลิมศรี
ใส่เครื่องทรงมงกุฎดังบุตรี                    แก้วมณีเนาวรัตน์จำรัสเรือง
รูปจริตพิศไหนวิไลเลิศ                    เหมือนหุ่นเชิดโฉมแช่มแฉล้มเหลือง
พอแลสบหลบชะม้ายชายชำเลือง            ดูปลดเปลื้องเปล่งปลั่งกำลังโลม
ลำพระกรอ่อนชดประณตน้อม              แลละม่อมเหมือนหนึ่งเขียนวิเชียรโฉม
หรือชาวสวรรค์ชั้นฟ้านภาโพยม            มาประโลมโลกาให้อาวรณ์
แปลกมนุษย์ผุดผ่องละอองพักตร์            วิไลลักษณ์ล้ำเลิศประเสริฐสมร
ครั้นปราศรัยไถ่ถามนามกร                    ก็เคืองค้อนขามเขินสะเทินที

สาวสวรรค์ชั้นฟ้าองค์นี้ มีชื่อที่นางเมขลาบอกไว้ว่า

ว่านวลหงส์องค์นี้อยู่ชั้นฟ้า                    ชื่อโฉมเทพธิดามิ่งมารศรี


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 06 พ.ค. 16, 13:38
จริงๆก้เคยอ่านเจออยู่ว่ามีคนตีความว่าท่านเอกกวีคนนี้แอบใฝ่ปองผู้ใด แต่รอให้ท่านอ.เทาชมพูเฉลยดีกว่า


เคยไปกราบหลวงพ่อศิลาขา บุษบกท่านงามมากๆค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 16:46
สงสัยนักเรียนพวกนี้อ่านบทจบกันหมดแล้ว   ต้องรีบปิดคอร์ส

กรมหมื่นอัปสรสุตาเทพ นอกจากมีพระโฉมงามเลิศล้ำแล้ว ยังทรงเฉลียวฉลาด  โปรดหนังสือ และการกวี ทรงชุบเลี้ยงกวี อย่างสุนทรภู่เองเมื่อบวชอยู่ที่วัดเทพธิดาก็อยู่ในพระอุปถัมภ์   โปรดให้แต่งกลอนถวาย   ว่ากันว่าคือนิทานเรื่องสิงหไกรภพ   และประทานรางวัลให้เลี้ยงชีพ  จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ในพศ. 2388  คือ 3 ปีหลังสุนทรภู่แต่ง รำพันพิลาป

กลับมาที่รำพันพิลาป
ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็บังเอิญมากไปหน่อย   ว่าเทพธิดาโฉมงามที่สุนทรภู่ฝันเห็นนั้น มีนามว่า " เทพธิดา" ซึ่งเป็นคำแปลของพระนามกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ

ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว    ในเมื่อนักเรียนส่วนใหญ่หรือทั้งหมดก็เคยอ่านมาแล้วว่าเทพธิดาองค์นี้ สุนทรภู่หมายถึงใคร    ก็จะไม่กล่าวย้ำให้เสียเวลาละค่ะ   แต่มาดูขั้นต่อไปกันเลยดีกว่า  ว่ากลอนต่อไปนี้ สะท้อนความในใจฝ่ายเดียว หรือความสัมพันธ์อันมีพื้นฐานอยู่บนความจริงบ้าง

ยังนึกเห็นเช่นโฉมประโลมโลก                    ยิ่งเศร้าโศกแสนสวาทปรารถนา
ได้แนบชมสมคะเนสักเวลา                            ถึงชีวาม้วยไม่อาลัยเลย
อยู่หลัดหลัดพลัดพรากไปฟากฟ้า                    ให้ดิ้นโดยโหยหานิจจาเอ๋ย
ถึงชาตินี้พี่มิได้บุญไม่เคย                            ขอชื่นเชยชาติหน้าด้วยอาวรณ์
แม้นรู้เหาะก็จะได้ตามไปด้วย                            สู้มอดม้วยมิได้ทิ้งมิ่งสมร
เสมอเนตรเชษฐาเวลานอน                            จะกล่าวกลอนกล่อมประทับไว้กับทรวง
สายสุดใจไม่หลับจะรับขวัญ                            ร้องโอดพันพัดชาช้าลูกหลวง
ประโลมแก้วแววตาสุดาดวง                            ให้อุ่นทรวงไสยาสน์ไม่คลาดคลาย
ยามกลางวันบรรทมจะชมโฉม                    ขับประโลมข้างที่พัดวีถวาย
แม้นไม่ยิ้มหงิมเหงาจะเล่านิยาย                    เรื่องกระต่ายตื่นตูมเหลือมูมมาม
ไม่รู้เหาะก็มิได้ขึ้นไปเห็น                            แม้นเหมือนเช่นชาวสุธาภาษาสยาม
ถ้ารับรักจักอุตส่าห์พยายาม                            ไปตามความคิดคงได้ปลงทอง
    
สุนทรภู่รู้ขนาดว่า เทพธิดาองค์นี้ โปรดฟังกลอนก่อนบรรทม    ถ้าหากว่าขับเพลงกล่อม ก็คือเพลงพัดชา เพลงช้าลูกหลวง ซึ่งเป็นเพลงเห่กล่อมพระบรรทม       
รู้ว่าตอนกลางวัน เทพธิดาโปรดบรรทมด้วยเช่นกัน     แม้ว่าวันไหนเทพธิดานึกเหงา ไม่เบิกบานใจ  ก็ชอบที่จะฟังนิทาน   เรียกว่ารู้อัธยาศัยกัน
ความรู้ข้อนี้  นักเรียนในชั้นคิดว่าเกิดจากการเดา  หรือว่ามีการติดต่อสนทนากันบ้าง  อาจจะโดยตรงหรือผ่านทางนางข้าหลวงและสตรีที่สุนทรภู่เรียกว่า "นางเมขลา" ซึ่งเป็นสตรีสูงศักดิ์ นับญาติเป็นพี่น้องกับเทพธิดาในฝันของท่าน  มีวิมานหรือควรจะเรียกว่าตำหนักอยู่เคียงกัน
สรุปว่า มีสตรีสูงศักดิ์ระดับนางฟ้า เกี่ยวข้องกับสุนทรภู่อยู่ถึง 2 องค์ ไม่ใช่องค์เดียว


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 17:34
ความในใจของสุนทรภู่ต่อเทพธิดา  เป็นอย่างไร เชิญอ่านในกลอนต่อไปนี้

เหมือนบุปผาปาริกชาติชื่น                    สุดจะยื่นหยิบได้มีไม้สอย
ด้วยเดชะพระกุศลให้หล่นลอย            ลงมาหน่อยหนึ่งเถิดนะจะประคอง
มิให้เคืองเปลื้องปลดเสียยศศักดิ์            สนอมรักร้อยปีไม่มีหมอง
แม้นมั่งมีพี่จะจ้างพวกช่างทอง            หล่อจำลองรูปวางไว้ข้างเคียง

คือใฝ่ฝันจะให้ดอกฟ้าร่วงลงมาสู่มือเลยทีเดียว


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 16, 17:38
ดูฝีปากเกี้ยวดอกฟ้าของพระภู่ในวัย 56 ปีบ้าง

ขอเดชะพระอุมารักษาสวาท                       ให้ผุดผาดเพียงพักตร์พระลักษมี
วิมานแก้วแววฟ้าฝูงนารี                       คอยพัดวีแวดล้อมอยู่พร้อมเพรียง ๚
ขอเดชะพระอินทร์ดีดพิณแก้ว               ให้เจื้อยแจ้วจับใจแจ่มใสเสียง
สาวสุรางค์นางรำระบำเรียง                       คอยขับกล่อมพร้อมเพรียงเคียงประคอง
ขอพระจันทร์กรุณารักษาศรี                       ให้เหมือนมณีนพเก้าอย่าเศร้าหมอง
เหมือนหุ่นเชิดเลิศล้วนนวลละออง               ให้ผุดผ่องผิวพรรณเพียงจันทรา ๚
ขอพระพายชายเชยรำเพยพัด               ให้ศรีสวัสดิ์สว่างจิตขนิษฐา
หอมดอกไม้ในทวีปกลีบผกา                       ให้หอมชื่นรื่นวิญญาณ์นิทรารมณ์ ๚
ขอเดชะพระคงคารักษาสนอม               อย่าให้มอมมีระคายเท่าปลายผม
ให้เย็นเรื่อยเฉื่อยฉ่ำเช่นน้ำลม               กล่อมประทมโสมนัสสวัสดี


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 พ.ค. 16, 07:40
กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพเป็นที่เลื่องลือกันมากในเรื่องของความงาม ดังปรากฏในข้อความที่ พระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) ได้บันทึกไว้ในพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ตอนหนึ่งว่า

กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพเป็นถึงพระราชบุตรีโปรดปรานมาก คนที่เข้าพึ่งพระบารมีทั้งแผ่นดิน และสิ่งที่เชิดชูพระนามของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพให้เลื่องลือไปทั่วแผ่นดินนั้น อีกประการหนึ่งก็คือพระสิริโฉมของพระองค์ ซึ่งลือกันว่า งามเลิศหาใครเสมอเหมือนได้ยาก

ภาพวาดในพระอุโบสถ วัดเทพธิดาราม


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ค. 16, 09:03
มาฟังคำฝากรักของพระภู่ในตอนท้าย ที่กล่าวถึงเทพธิดา

ด้วยเดิมฉันฝันได้ยลวิมลพักตร์                  สุดแสนรักลักประโลมโฉมฉวี
ถวิลหวังตั้งแต่นั้นจนวันนี้                          ขออย่ามีโทษโปรดยกโทษกรณ์
ด้วยเกิดเป็นเช่นมนุษย์บุรุษราช                  มาหมายมาดนางสวรรค์ร่วมบรรจถรณ์
ขอษมาการุญพระสุนทร                          ให้ถาพรภิญโญเดโชชัย

ความตรงนี้บอกกันตรงๆเลยว่า  ตั้งแต่เห็นหน้าเทพธิดา  ก็เกิดหลงรักขึ้นมาตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้      ความรู้สึกนั้นก็ไม่ใช่แค่เพ้อๆ ชื่นชมรูปโฉมเหมือนพวกเราที่อาจจะเคยไปยืนกะเย้อกะแหย่ง แหวกกลุ่มนักท่องเที่ยวในพระราชวังลูฟว์เพื่อชมภาพโมนาลิซ่า กันมาแล้ว    กล่าวคือไม่มีใครคิดถึงขั้นจะไปขโมยโมนาลิซ่ามาครอบครองไว้ที่บ้าน  แค่ดูสักพักก็ปลื้มถมเถไป
แต่พระภู่นั้นบอกตามตรงเลยว่า ขอประทานอภัยโทษที่คิดอย่างผู้ชาย ว่าหมายมาดเทพธิดามาร่วมเรียงเคียงหมอนกันเลยทีเดียว


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ค. 16, 09:04
ต่อไปนี้ก็ถึงการบ้านให้นักเรียนที่หนีหายกันไปหมดในวันหยุดยาว  เหลือคุณครูเพ็ญช่วยเฝ้าชั้นเรียนอยู่คนเดียว

การบ้านประเภทอัตนัย ต้องเขียนตอบยาวๆคงไม่มีนักเรียนเรือนไทยทำกันอยู่แล้ว    เพราะงั้นเพื่อให้ทันยุคทันเหตุการณ์ ออกการบ้านแบบโหวต yes โหวต no  กันดีกว่าค่ะ

คำถามก็คือ   รำพันพิลาปนี้  นักเรียนคิดว่าสุนทรภู่เขียนไว้แล้วซุกซ่อนอ่านคนเดียว ไม่แพร่งพรายให้ใครรู้  เพราะเป็นความในใจที่ให้รู้ถึงบุคคลภายนอกไม่ได้  ผ้าเหลืองจะหลุด หัวจะขาด   เพราะบังอาจคิดจะไปเอื้อมเด็ดดอกฟ้าพระราชธิดาพระเจ้าแผ่นดิน
หรือ
รำพันพิลาปนี้  สุนทรภู่ส่งให้บุคคลที่สอง(ซึ่งรวมคนที่สามสี่ห้าด้วยก็ได้) ได้อ่าน   กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพก็อาจอยู่ในข่ายที่ได้อ่านด้วย

ถ้าหาก เห็นว่าสุนทรภู่เขียนไว้เพื่ออ่านคนเดียว  ตามประสา "นักเลงกลอนนอนฝันเป็นสันดาน" อย่างที่ท่่านออกตัวไว้ท้ายๆเรื่อง

ได้ครวญคร่ำร่ำเรื่องเป็นเครื่องสูง                 พอพยุงยกย่องให้ผ่องใส
ทั้งสาวแก่แม่ลูกอ่อนลาวมอญไทย                 เด็กผู้ใหญ่อย่าเฉลียวว่าเกี้ยวพาน
พระภู่แต่งแกล้งกล่าวสาวสาวเอ๋ย                 อย่าถือเลยเคยเจนเหมือนเหลนหลาน
นักเลงกลอนนอนฝันเป็นสันดาน                 เคยเขียนอ่านอดใจมิใคร่ฟัง

ก็ขอให้นักเรียน โหวต yes

แต่..
ถ้าหากว่าเห็นว่าสุนทรภู่เขียนเพื่อส่งความในใจ และปล่อยให้บุคคลที่สอง (หรือสามหรือสี่) รู้     รวมทั้งกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพด้วย
ก็ขอให้นักเรียน โหวต  no

แต่..อีกหน
ถ้าหากว่านักเรียนสมองดีมาก  สามารถคิดเป็นอย่างอื่นได้นอกจาก yes และ no    ก็สามารถจะตอบเป็นข้อที่สามได้ค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 07 พ.ค. 16, 10:02
ท่านอาจารย์ใหญ่ ทันสมัยจัง"ขอเสียงหน่อย" เช็กประชามตินักเรียน
นัเกเรียนขอเวลาทบทวนแป๊บ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ค. 16, 12:20
๏ แล้วร่ำภาวนาในพระไตรลักษณ์                      ประหารรักหนักหน่วงตัดห่วงหาย
หอมกลิ่นธูปงูบระงับหลับสบาย                      ฝันว่าว่ายสายชะเลอยู่เอกา
สิ้นกำลังยังมีนารีรุ่น                                      รูปเหมือนหุ่นเหาะเร่ร่อนเวหา
ช่วยจูงไปไว้ที่วัดได้ทัศนา                              พระศิลาขาวล้ำดังสำลี
ทั้งพระทองสององค์ล้วนทรงเครื่อง                      แลเลื่อมเหลืองเรืองจำรัสรัศมี
พอเสียงแซ่แลหาเห็นนารี                              ล้วนสอดสีสาวน้อยนับร้อยพัน
ล้วนใส่ช้องป้องพักตร์ดูลักขณะ                      เหมือนนางสะสวยสมล้วนคมสัน
ที่เอกองค์ทรงศรีฉวีวรรณ                              ดั่งดวงจันทร์แจ่มฟ้าไม่ราคี
ทั้งคมขำล้ำนางสำอางสะอาด                      โอษฐ์เหมือนชาดจิ้มเจิมเฉลิมศรี
ใส่เครื่องทรงมงกุฎดังบุตรี                              แก้วมณีเนาวรัตน์จำรัสเรือง
รูปจริตพิศไหนวิไลเลิศ                              เหมือนหุ่นเชิดโฉมแช่มแฉล้มเหลือง
พอแลสบหลบชะม้ายชายชำเลือง                      ดูปลดเปลื้องเปล่งปลั่งกำลังโลม
ลำพระกรอ่อนชดประณตน้อม                      แลละม่อมเหมือนหนึ่งเขียนวิเชียรโฉม
หรือชาวสวรรค์ชั้นฟ้านภาโพยม                      มาประโลมโลกาให้อาวรณ์
แปลกมนุษย์ผุดผ่องละอองพักตร์                      วิไลลักษณ์ล้ำเลิศประเสริฐสมร
ครั้นปราศรัยไถ่ถามนามกร                              ก็เคืองค้อนขามเขินสะเทินที
ขืนถามอีกหลีกเลี่ยงหลบเมียงม่าย                      เหมือนอายชายเฉยเมินดำเนินหนี
นางน้อยน้อยพลอยตามงามงามดี                      เก็บมาลีเลือกถวายไว้หลายพรรณ
แล้วชวนว่าอย่าอยู่ชมพูทวีป                              นิมนต์รีบไปสำราญวิมานสวรรค์
แล้วทรงรถกลดกั้นนางทั้งนั้น                      นั่งที่ชั้นลดล้อมน้อมคำนับ
ที่นั่งทิพย์ลิบเลื่อนคล้อยเคลื่อนคล้าย              พรรณรายพรายเรืองเครื่องประดับ
ประเดี๋ยวเดียวเฉียวฉิบแลลิบลับ                       จนลมจับวับใจอาลัยลานฯ
    
๏ ซึ่งสั่งให้ไปสวรรค์หรือชันษา                       จะมรณาในปีนี้เป็นปีขาล
แม้นเหมือนปากอยากใคร่ตายหมายวิมาน               ขอพบพานภัคินีของพี่ยา
ยังนึกเห็นเช่นโฉมประโลมโลก                       ยิ่งเศร้าโศกแสนสวาทปรารถนา
ได้แนบชมสมคะเนสักเวลา                               ถึงชีวาม้วยไม่อาลัยเลย
อยู่หลัดหลัดพลัดพรากไปฟากฟ้า                       ให้ดิ้นโดยโหยหานิจจาเอ๋ย
ถึงชาตินี้พี่มิได้บุญไม่เคย                               ขอชื่นเชยชาติหน้าด้วยอาวรณ์
แม้นรู้เหาะก็จะได้ตามไปด้วย                       สู้มอดม้วยมิได้ทิ้งมิ่งสมร
เสมอเนตรเชษฐาเวลานอน                               จะกล่าวกลอนกล่อมประทับไว้กับทรวง
สายสุดใจไม่หลับจะรับขวัญ                               ร้องโอดพันพัดชาช้าลูกหลวง
ประโลมแก้วแววตาสุดาดวง                               ให้อุ่นทรวงไสยาสน์ไม่คลาดคลาย
ยามกลางวันบรรทมจะชมโฉม                       ขับประโลมข้างที่พัดวีถวาย
แม้นไม่ยิ้มหงิมเหงาจะเล่านิยาย                       เรื่องกระต่ายตื่นตูมเหลือมูมมาม
ไม่รู้เหาะก็มิได้ขึ้นไปเห็น                               แม้นเหมือนเช่นชาวสุธาภาษาสยาม
ถ้ารับรักจักอุตส่าห์พยายาม                              ไปตามความคิดคงได้ปลงทองฯ
http://www.toursabuy.com/soontornpoo/rampanpilap.asp (http://www.toursabuy.com/soontornpoo/rampanpilap.asp)


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ค. 16, 12:23
๏ นี่จนใจไม่รู้จักที่หลักแหล่ง                          สุดแสวงสวาทหมายไม่วายหมอง
เมื่อยามฝันนั้นว่านึกนั่งตรึกตรอง                          เดือนหงายส่องแสงสว่างดังกลางวัน
เห็นโฉมยงองค์เอกเมขลา                                  ชูจินดาดวงสว่างมากลางสวรรค์
รัศมีสีเปล่งดังเพ็งจันทร์                                  พระรำพันกรุณาด้วยปรานี
ว่านวลหงส์องค์นี้อยู่ชั้นฟ้า                                  ชื่อโฉมเทพธิดามิ่งมารศรี
วิมานเรียงเคียงกันทุกวันนี้                                  เหมือนหนึ่งพี่น้องสนิทร่วมจิตใจ
จะให้แก้วแล้วก็ว่าไปหาเถิด                                  มิให้เกิดการระแวงแหนงไฉน
ที่ขัดข้องหมองหมางเป็นอย่างไร                          จะผันแปรแก้ไขด้วยใกล้เคียงฯ
    
๏ สดับคำฉ่ำชื่นจะยื่นแก้ว                                  แล้วคลาดแคล้วคลับคล้ายเคลิ้มหายเสียง
ทรงปักษาการเวกแฝงเมฆเมียง                          จึ่งหมายเสี่ยงวาสนาอุตส่าห์คอย
เหมือนบุปผาปาริกชาติชื่น                                  สุดจะยื่นหยิบได้มีไม้สอย
ด้วยเดชะพระกุศลให้หล่นลอย                          ลงมาหน่อยหนึ่งเถิดนะจะประคอง
มิให้เคืองเปลื้องปลดเสียยศศักดิ์                          สนอมรักร้อยปีไม่มีหมอง
แม้นมั่งมีพี่จะจ้างพวกช่างทอง                          หล่อจำลองรูปวางไว้ข้างเคียงฯ
    
๏ คิดจนตื่นฟื้นฟังระฆังฆ้อง                                  กลองหอกลองทึ้มทึ้มกระหึ่มเสียง
โกกิลากาแกแซ่สำเนียง                                  โอ้นึกเพียงขวัญหายไม่วายวัน
วิสัยเราเล่าก็ไม่สู้ใฝ่สูง                                  นางฟ้าฝูงไหนเล่ามาเข้าฝัน
ให้เฟือนจิตกิจกรมพรหมจรรย์                          ฤๅสาวสวรรค์นั้นจะใคร่ลองใจเรา
ให้รักรูปซูบผอมตรมตรอมจิต                          เสียจริตคิดขยิ่มง่วงหงิมเหงา
จะได้หัวเราะเยาะเล่นทุกเย็นเช้า                          จึงแกล้งเข้าฝันเห็นเหมือนเช่นนี้
แม้นนางอื่นหมื่นแสนแดนมนุษย์                           นึกกลัวสุดแสนกลัวเอาตัวหนี
สู้นิ่งนั่งตั้งมั่นถือขันตี                                           อยู่กระฎีดั่งสันดานนิพพานพรหม
รักษาพรตปลดปละสละรัก                                   เพราะน้ำผักต้มหวานน้ำตาลขม
คิดรังเกียจเกลียดรักหักอารมณ์                           ไม่นิยมสมสวาทเป็นขาดรอนฯ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 07 พ.ค. 16, 15:03

No
 ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: แพรวพิม ที่ 07 พ.ค. 16, 18:25
เข้ามาโหวตโนด้วยคนค่ะ  :D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: walai ที่ 08 พ.ค. 16, 09:35
  no ค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 08 พ.ค. 16, 10:10

       No   :-[


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Molly ที่ 08 พ.ค. 16, 12:00
No ด้วยค่ะ

เพิ่งเข้ามาอ่านตั้งแต่หน้าที่ 5 จุใจมากค่ะ ขอบพระคุณท่านอาจารย์เทาชมพูที่รู้ใจนักเรียนยุคใหม่ ให้ตอบสั้นๆ yes, no เพราะหนูมาลีไม่มีความรู้ลึกซึ้งพอที่จะตอบแบบอัตนัยได้ แค่่ติดตามอ่านอย่างเดียวก็มีแต่ทึ่งจนบรรยายไม่ถูกจริงๆ และขอขอบพระคุณท่านอาจารย์เพ็ญชมพูที่กรุณาเก็บที่นั่งให้ด้วยนะคะ ... ดีใจจัง


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 08 พ.ค. 16, 15:09
No ค่ะ


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: ป้าหวัน ที่ 08 พ.ค. 16, 21:29
เข้าห้องเรียนช้าไปหน่อยค่ะ เลยแอบนั่งข้างหลัง นักเรียนโข่งคิดว่าเป็นได้ทั้ง Yes และ ค่ะ No  คือ ๑ฺ. ตามประสากวีก็ฝันเฟื่องเพ้อเรื่องรัก เป็นประเภทตกหลุมรักทั้งปี (Falling in love with love) ใจง่ายว่างั้นเถอะ อันนี้ก็คือ NO ; ๒.  Yes ที่ว่า Yes  ก็เป็นเพราะท่านเป็นคนเจ้าชู้ เจอสาวที่ไหนก็อดจีบไม่ได้ แต่คราวนี้หวังสูง(โดยไม่ตักน้ำใส่กะโหลก) ถึงผู้ทรงอุปถัมภ์คุณเทียดสุนทรภู่ยามตกยาก ขอรวบรัดว่าเป็นประเภท dream on


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ค. 16, 08:16
เรียนคุณป้าหวัน

คำถามคือ  ใครคิดว่า
๑  สุนทรภู่เขียนไว้อ่านคนเดียว    ให้โหวต yes
๒  สุนทรภู่เขียนแล้วส่งให้คนอื่นอ่านด้วย  ให้โหวต no

เพราะฉะนั้น มันจะเป็นทั้ง yes และ no สองอย่างพร้อมกันไม่ได้ค่ะ   ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

๓  ไม่ใช่ทั้ง ข้อ ๑ และ ๒    ข้อนี้เผื่อท่านที่มีความเห็นเป็นอย่างอื่น ทำให้ไม่อาจโหวตเยสหรือโนได้ เช่นเห็นว่า คนแต่งไม่น่าจะเป็นสุนทรภู่


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ค. 16, 10:17
ยังรอโหวตจากนักเรียนคนอื่นๆอยู่นะคะ  รวมทั้งคุณครูเพ็ญชมพูด้วย
ท่านที่ไม่เข้าชั้นเรียนก็โหวตได้


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 พ.ค. 16, 11:47
สุนทรภู่ท่านประกาศชัดว่า

จึ่งเอื้อมอ้างนางสวรรค์ตามฝันเห็น        
ให้อ่านเล่นเป็นเล่ห์เสน่หา
ไม่รักใครในแผ่นดินถิ่นสุธา                
รักแต่เทพธิดาสุราลัย


จึงแต่งรำพันพิลาปเพื่อจะบอกความในใจ แต่ยังเกรง "พระอาชญา" อยู่

จึงแต่งตามความฝันรำพันพิลาป          
ให้ศิษย์ทราบสุนทราอัชฌาสัย
จะสั่งสาวชาวบางกอกข้างนอกใน        
ก็กลัวภัยให้ขยาดพระอาชญา


มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งกุฏิพระวัดเทพธิดารามซึ่งปัจจุบันเป็นกุฏิคณะ ๗ ข. มีฝ้าเพดานผุกร่อนหล่นลงมาพร้อมกันนั้นก็พบต้นฉบับคำกลอนเรื่องรำพันพิลาปอยู่ด้วย ถ้าเรื่องเล่าเป็นเรื่องจริง ก็อาจจะเดาความได้ว่า ท่านต้องการ vote NO อยู่หรอก คือต้องการให้มีผู้อื่นอ่าน แต่ไม่ใช่ในรัชกาลปัจจุบัน (รัชกาลที่ ๓) จึงเอาต้นฉบับไว้บนฝ้าเพดาน รอเวลาให้ลูกหลานได้อ่านในกาลเบื้องหน้า

วิสัชนาจึงมีด้วยประการฉะนี้แล  ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ค. 16, 11:49
จบกัน  มาเฉลยซะก่อนหน้าแล้ว 
เป็นอันจบกระทู้แต่เพียงนี้


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: ป้าหวัน ที่ 09 พ.ค. 16, 13:19
อกอีแป้นแล่นลึกเท่าตึกแขก นักเรียนสอบตกเพราะเมาหมัด ไม่อ่านคำสั่งของข้อสอบให้ดี เพราะเขียนคำตอบตอนเลยสองยามไปแล้ว ขอบคุณค่ะอาจารย์ แต่ป้าหวันก็ยังขอยืนยันว่าคิดถึงท่านสุนทรภู่ว่าท่านคงมีบุคคลิกเช่นนั้นจริงๆ และเชื่อว่าท่านคงเขียนเองเป็นทำนอง fantasy monologues :'(


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: Neepata ที่ 27 พ.ค. 16, 10:28
เสียดายมาช้าตลาดวายไปหมดแล้ว อ่านจบแล้วยิ่งทึ่งกับท่านสุนทรภู่ที่เขียนกลอนไพเราะคิดอะไรก็เป็นกลอนได้หมดเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้มาอ่านศึกษากัน รอติดตามตอนต่อไปจะเป็นเรื่องรักของท่านใดมาให้อ่านกันอีกคะอ. เทาชมพู หนูขอนั่งรอที่หน้าบันไดเรือนนะคะ ;D


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ค. 16, 10:57
นึกได้เมื่อกระทู้นี้ขึ้นมาข้างบนอีกครั้ง

มีสาวน้อยอีกคนหนึ่งชื่อ "ลูกจัน"  สร้างความหลังกับสุนทรภู่ไว้ใน "นิราศเมืองเพชร"

แล้วเดินดูภูผาศิลาเลื่อม                       บ้างงอกเงื้อมเงาระยับสลับสี
เป็นห้องน้อยรอยหนังสือลายมือมี               คิดถึงปีเมื่อเป็นบ้าเคยมานอน
ชมลูกจันกลั่นกลิ่นระรินรื่น                       จนเที่ยงคืนแขนซ้ายกลายเป็นหมอน
เห็นห้องหินศิลาน่าอาวรณ์                       เคยกล่าวกลอนกล่อมช้าโอ้ชาตรี

ตอนนั้น น่าจะเป็นสมัยระเหเร่ร่อนในต้นรัชกาลที่ 3   กวีของเราตกยาก  บ้านเรือนก็ไม่มีอยู่   เดินทางมาถึงเพชรบุรี ไม่สามารถจะหาที่พักได้  ต้องไปอาศัยอยู่ในถ้ำ
ทั้งๆที่ในนิราศเมืองเพชร  ที่แต่งเมื่อหลังจากนั้นอีกนานเป็นสิบๆปี  ก็บอกว่ามีเพื่อนอยู่หลายคนในเพชรบุรี ทั้งเพื่อนทั้งผู้มีพระคุณ   ทำไมไปอาศัยกับท่านเหล่านั้นไม่ได้
เรื่องมันมี
ที่ไปอาศัยไม่ได้คือไปพาผู้หญิงหนีมาด้วยไงคะ   ชื่อแม่ลูกจัน
ชื่อนี้นักวิชาการบางท่านไปเข้าใจว่าหมายถึงแม่จันภรรยาคนแรก   ความจริงไม่ใช่  เป็นสาวอีกคนหนึ่ง   น่าจะเป็นสาวน้อยชื่อจันเหมือนกัน   สุนทรภู่เรียกว่าลูกจัน
แม่ลูกจันน่าจะหลงคารมกวีหนุ่มใหญ่ หนีพ่อแม่ตามมาด้วย   พระเอกก็เลยไปพักที่บ้านไหนไม่ได้  เดี๋ยวรู้ถึงหูผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง เขาจะมาเอาตัวกลับไปและอาจจะแถมคมแฝกให้ฝ่ายชาย   ก็เลยต้องพามาอยู่ในถ้ำชั่วระยะหนึ่ง   กล่อมน้องนอนด้วยคำกลอนบ้าง เพลงช้าปี่ เพลงโอ้ชาตรี   ให้สาวเพลิดเพลิน ลืมความลำบากของถ้ำทุรกันดาร  หลับไปได้ในที่สุด


กระทู้: ผู้หญิงของสุนทรภู่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 พ.ค. 16, 09:45
แต่ความรักครั้งนี้ก็เหมือนครั้งก่อนๆ คือเริ่มต้นอย่างมีสีสันแต่จบลงด้วยแห้วทั้งเข่งตามเคย   
สุนทรภู่ไปไม่รอด  จำต้องส่งแม่ลูกจันกลับไปบ้าน  อาจจะเป็นเพราะเธอทนความลำบาก  อาศัยถ้ำแทนบ้านไม่ไหว  ความรักก็เลยบินหนี  กลับไปหาอ้อมอกพ่อแม่ให้ดุด่าเฆี่ยนตีสักพัก  ก็ยังดีกว่าต้องอยู่อย่างมนุษย์หินฟลิ้นท์สโตน

ยังรินรินกลิ่นกลั่นจันทน์กระแจะ        เหมือนจะแนะนำจิตให้คิดเห็น
เหลือรำลึกนึกน่าน้ำตากระเด็น        โอ้จำเป็นเป็นกรรมจึงจำไกล
มาเห็นถ้ำน้ำตาลงพรากพราก        แต่เพื่อนยากยังไม่เห็นว่าเป็นไฉน
จะไปเรือนเยือนเยี่ยมก็เจียมใจ        ขอสั่งไว้เถิดถ้ำที่ช้ำทรวง

กลอนบทนี้บอกให้รู้ว่า แม่ลูกจันมีเป็นสาวเมืองเพชร    มีถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่เพชรบุรี  น่าจะปักหลักมานานตั้งแต่ปู่ย่าตายาย    เวลาผ่านไปเป็นสิบปี ก็ยังรู้ว่าแม่ลูกจันคงอยู่บ้านเดิมไม่ย้ายไปไหน      แต่ก็เช่นเดียวกับหลานสาวสองคนชาวเมืองระยองที่สุนทรภู่ทิ้งมาแล้วไม่เคยกลับไปหาอีก
คราวนี้ก็เช่นกัน  ทิ้งแม่ลูกจันมานาน ตัวเองก็ไปมีลูกมีเมียจนกระทั่งแก่   กลับมาธุระที่เมืองเพชรอีกครั้ง  จะไปหาก็คงกระดาก  ความสัมพันธ์ต่อกันไม่ติดเสียแล้ว