เรื่องฝิ่น20ตันที่เป็นเรื่องขึ้นนี้ พ.ต.อ.พุฒ บูรณสมภพ อัศวินแหวนเพชรคนสนิทของพล.ต.อ.เผ่า ได้เขียนเล่า ในหนังสือจากบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย,พ.ต.อ.พุฒ บูรณะสมภพ
ถ้าหากว่าข้อเขียนของพ.ต.อ.พุฒ เป็นเรื่องข้อเท็จจริงล้วนๆ ไม่ได้สร้างขึ้นมา อ่านแล้วก็ได้ความรู้จากข้อเขียนนี้ ด้วยความอัศจรรย์ใจ ว่า
๑ ฝิ่นสมัยนั้น เป็นของถูกกฎหมาย เหมือนบุหรี่หรือเหล้าในสมัยนี้
๒ ทางราชการค้าขายและควบคุมฝิ่นเอง
สองข้อนี้ไม่อัศจรรย์ใจเท่าไร เพราะจำได้ว่ามีโรงยาฝ่ิ่นมาก่อนตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์ ใครใคร่สูบก็สูบ ผู้ใหญ่เล่าว่าคนสูบฝิ่นสมัยก่อนสูบแล้วติด มีอาการซึมเลื่อนลอย ผอมแห้ง ผิวเหลืองซีด ถ้าอดไม่ได้ก็ลงแดงตายไป แต่พวกนี้ไม่อาละวาดคลุ้มคลั่งอย่างพวกติดยาบ้าในสมัยนี้
แต่ที่อัศจรรย์ใจมากๆคือข้อต่อไป ที่แสดงว่า
๓ รัฐบาลจอมพล ป. ค้าฝิ่นเถื่อน กระทำกันในนามรัฐบาล ไม่ใช่ส่วนตัวของค.ร.ม. คนใดคนหนึ่ง เพราะมีการประชุม และผลการประชุมมอบหมายให้อธิบดีตำรวจเป็นคนจัดหาฝิ่นเถื่อน ไม่ใช่ซุบซิบทำกันอยู่ที่บ้านเป็นส่วนตัว ระหว่างนาย ก. และนาย ข.
๔
"ผมถามไปทางสรรพสามิตว่ามีงบประมาณให้ผมเท่าไหร่ สรรพสามิตให้ถามไปทางกระทรวงการคลัง เขาไม่รู้เรื่อง มีหน้าที่แต่เพียงคอยรับของกลางที่จับได้เท่านั้น ถามไปทางกระทรวงการคลังก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ คงจะเป็นที่รู้กันเฉพาะเบื้องสูง คือ ระดับรัฐมนตรีและสูงไปอีก ต่อมาผมให้เจ้านาย(พล.ต.อ.เผ่า)ถามไป มีคำตอบมาคือ มีงบพอสำหรับจำนวนขนาดสิบตัน"
อ่านหลายเที่ยวเพื่อจับให้ได้ว่างบประมาณไปซื้อฝิ่นนั้นเอามาจากกระทรวงไหน ก็สังเกตว่าหน่วยงานรัฐไม่ว่าสรรพสามิต หรือกระทรวงการคลังล้วนแต่หนีไม่เอาด้วยทั้งนั้น แต่เมื่อพลต.อ.เผ่าถามไปถึงเบื้องสูง คือระดับค.ร.ม.และหัวหน้า ก็กลับมีงบมาให้สำหรับฝิ่นสิบตัน ก็แปลว่าเป็นงบประดับนายกรัฐมนตรีสั่งจ่าย
ข้อสงสัยต่อไปจากการอ่านข้อเขียนของพ.ต.อ.พุฒก็คือ ฝิ่นแค่สิบตัน มันจะใช้สูบกันทั่วประเทศได้สักกี่วันกัน
สมมุติว่าขบวนการซื้อฝิ่นอย่างนี้มีจริง คือมีการคุ้มกันและดำเนินงานจากเจ้าหน้าที่ของรัฐทำให้ไม่มีใครแตะต้อง ถ้ามีผู้ประสงค์จะสมทบทุนซื้อเพิ่มอีกสัก 10 ตัน เป็น 20 ตัน เงินสมทบทุนนี้ก็ไม่เกี่ยวกับรายได้ของรัฐบาล แต่ไปเข้ากระเป๋าเอกชนใช่ไหม?
อีกอย่างคือ ไหนๆจะขนกันแล้ว ขนเที่ยวเดียวก็ไม่คุ้ม แจ้งเป็นทางการว่าขน 1 ครั้งแต่จริงๆขนสัก 10 ครั้งก็ยังได้
เมื่อนายตำรวจตงฉินอย่างพ.ต.อ.บรรจง ชีพเป็นสุข มองเห็นขบวนการโจรขนฝิ่นที่แอบแฝงอยู่ในอะไรก็ตามที่อ้างว่าถูกต้อง ไปขัดขวางจับกุมเข้า ท่านก็ถูกขจัดให้พ้นทางไปด้วยข้อหากบฏวังหลวง ได้ไม่มีใครรื้อฟิ้นคดีขึ้นมาได้อีกว่าของจริงคืออะไรกันแน่