เรือนไทย

ข้อความโดย: Ruamrudee 
คงไม่มีใครรู้จัก British Dispensary & Siam Free Press ได้ดีชาวเรือนไทยแล้วค่ะ
++

ถ้าอย่างนั้นในเมื่อสมาชิกเรือนไทยรู้จักกันดีแล้ว กระผมก็ใคร่ขอเสนอ "สยามออฟเซอร์เวอร์" อีกสักแห่งจะเป็นอะไรไป  ::) อยู่ที่ไหน ?

เกิน 24 ชม. แล้วยังไม่มีใครเข้ามาตอบเลยค่ะ...
สงสัยว่าหินจะก้อนใหญ่ไป นักย่อยหินเลยใช้เวลาย่อยนานหน่อย..
ท่าน siamese ใจเย็นๆ นั่งทานเค็กรอไปก่อนนะคะ...
ส่วนหนูดีดี ยังช้อนลูกน้ำในอินเตอร์เน็ทไม่ได้สักตัวเลยค่ะ.. ;D

ขอบคุณสำหรับเค้กดอกไม้หลากสี  :)

จากหนังสือ Twentieth Century Impressions of Siam หน้า 295 บอกว่า หมอสมิธให้ใช้โรงพิมพ์ที่บางคอแหลมเป็นที่ตั้งของ Siam Observer

ภาพที่นำมาให้ชมเป็นส่วนของสำนักงาน จึงไม่ใช่โรงพิมพ์ที่บางคอแหลมครับ  8)

ในหนังสือDirectotyบางกอกสยาม ปี 1900  เศษ ๆ
บอกที่ตั้ง ของ Siam Observer ว่า

Oriental  Avenue, Bangkok 

คงอยู่แถวๆ ถนนเจริญกรุง บางรักกระมัง ???

มาประจำสถานีรบแล้วค่ะ ไม่ว่างอย่างแรงเสียหลายวัน ได้แต่แวะมาดูผู้กล้าว่าเมื่อไรจะมีใคร ทะลายหินแกร่งก้อนนี้ของคุณ Siamese ได้

ขอใช้ความทรงจำทายนะคะ ภาพสำนักงานของ Siam Observer ดูคล้ายกับอาคารไม้ที่อยู่ในตรอก Oriental หรือ ตรอกข้าง ๆ ค่ะ อาคารนี้ ควรจะหันหลังให้กับ ศุลกากรสถาน สังเกตุเห็นหน้าจั่วด้านหลังได้

เข้าไปดูที่หน้า 13 ของLinkนี้ http://www.thailaws.com/download/thailand/veniceofeast.pdf
จะเห้นแผนที่เลือนราง ระบุว่า หมายเลข 26 Siam Observer อยู่ถัดจากเลขที่ 25 Oriental Hotel

ผู้ก่อตั้ง Siam Observer คือ พระยาอรรถการประสิทธิ์ ที่ปรึกษากฏหมายชาวศรีลังกา และ G.W.Ward
http://en.wikipedia.org/wiki/Tilleke_%26_Gibbins

[[[William Alfred Tilleke, a Ceylonese,was later appointed the second Attorney General of Siam, and honored by H.M. the King to eventually become Maha Ammart Tho Phraya Attakarn Prasiddhi. He was also the co-founder with G.W. Ward of the Siam Observer, the first daily newspaper in Thailand.]]]

สำหรับโรงพิมพ์หมอสมิธที่บางคอแหลม ยังไม่พบข้อความที่ระบุชัดว่า รับพิมพ์หนังสือพิมพ์ Siam Observer นะคะ แต่ที่พบในLink ที่ให้มานั้น หนังสือพิมพ์ที่พิมพ์จากที่นี่ ล้วนมีคำขึ้นต้นว่า "Siam" ทั้งนั้น

http://www.ggm-th.com/index.php?option=com_content&task=view&id=161&Itemid=148

[[[[ปี พ.ศ.2412 แซมมวล จอห์น สมิธ (Samuel John Smith) ได้ตั้งโรงพิมพ์ที่ตำบลบางคอแหลม หมอสมิธเรียกตัวเองว่าครูสมิธ เพราะสอนหนังสือด้วย จึงเรียกว่าโรงพิมพ์ครูสมิธ จัดพิมพ์หนังสือประเภทร้อยกรอง ประเภทหนังสือประโลมโลกพวกจักร ๆ วงศ์ ๆ เช่น คาวี อุณรุท จันทะโครพ อิเหนา รามเกียรติ์ สังข์ทอง พระอภัยมณี ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีหนังสือสยามรีโปสิโตรี (Siam Repository) ราย 3 เดือน หนังสือสยามวีคลีแอดเวอร์ไทเซอร์ (Siam Weekly Advertiser) รายสัปดาห์ หนังสือจดหมายเหตุสยาม รายเดือนเปลี่ยนเป็นรายปักษ์และรายสัปดาห์ เป็นต้น]]]]

ใครจำเซนทรัลสาขาราชประสงค์ได้ไหมคะ   ว่าอยู่ตรงไหน
หน้าตาไม่น่าจะเป็นสาขาชิดลม เพราะเหมือนเป็นตึกแถวริมถนน
รูปนี้ถ่ายตรงไหนของราชประสงค์ ยังนึกไม่ออก
ดูจากเสื้อผ้าผู้หญิงในรูป น่าจะประมาณ 2500 กว่าๆ

(http://www.thaimtb.com/webboard/486/243371-54.jpg)

พ.ศ. ๒๕๐๗ ห้างเซ็นทรัล สาขาราชประสงค์ ซึ่งเป็นตึกแถวขนาด ๕ ห้องอยู่ในซอยไม่ติดถนนใหญ่เกิดขึ้น แต่ตลาดยังเป็นรองห้างใหญ่ไดมารูของนักธุรกิจญี่ปุ่นอยู่มาก จึงเลิกสาขานี้ไป

ภาคผนวก ๗๐ ปีของตระกูลจิราธิวัฒน์
http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=5905

 

Central ราชประสงค์ ตั้งอยู่ที่ตึกแถวริมถนนพระราม 1 ตรงกันข้ามกับ ร.พ.ตำรวจ สามารถเข้าออกห้างได้จากด้านใน ที่หันไปทาง Daimaru

แม้จะขายไม่ดีนัก แต่ดิฉันอาศัยที่นี่ ซื้อหนังสือ MADS การ์ตูนที่ตลกร้าย ซ่อนเงื่อนที่สุดในยุคนั้น และมีหนังสือจากต่างประเทศ แผ่นเสียงดี ๆ แต่ร้านดูเหมือนจะไม่มี Air Con นะคะ สมัยนั้นอากาศไม่ร้อนเท่าไร

พอ Daimaru มาเปิดพร้อม Air Con และบันไดเลื่อน เด็ก ๆอย่างดิฉันก็ไปเลื่อนขึ้นเลื่อนลงทุกครั้งที่ไปแถวนั้น จนลืม Central ไป ไม่ทราบว่า เขาปิดไปเมื่อไร

ปรมมือดังๆให้คุณร่วมฤดีและคุณหลวงเล็กครับ

ที่ตั้งของสยามออฟเซอฟเวอร์ ตั้งอยู่ในที่ดินใกล้ๆห้างสิงโต (สังเกตุหลังคาจั่วในภาพ เป็นห้างสิงโตครับ)



"Central ราชประสงค์ ตั้งอยู่ที่ตึกแถวริมถนนพระราม 1 ตรงกันข้ามกับ ร.พ.ตำรวจ " แสดงว่าปัจจุบันก็อยู่บริเวณห้าง ZEN ถูกไหมครับ  ???

เริ่มจำได้รางๆว่ามีห้างสรรพสินค้าใหญ่อีกห้าง กินเนื้อที่หลายห้องตึกแถว   อยู่ละแวกเดียวกับไดมารู สมัยยังไม่ข้ามฟากมาอยู่ใกล้นารายณ์ภัณฑ์  แต่ไม่เคยจำชื่อได้ว่าชื่ออะไร
น่าจะเป็นเซนทรัลราชประสงค์นี่เอง
ขอบคุณที่ช่วยกันฟื้นความทรงจำค่ะ

เอาภาพในอดีตของบางกอกมาให้ชมอีกภาพ   ดิฉันทันเห็นตำรวจจราจรที่ออกมาโบกรถแบบนี้    เห็นเขาว่ามีท่าให้ต้องเรียนฝึกกันให้ดี  ก่อนออกปฏิบัติการ
ชาวบ้านเรียกว่า "รำ"  ตำรวจบางคนรำสวยทีเดียว  เหมือนเป็นดารารำวงมาก่อน

(http://img208.imageshack.us/img208/3526/27659842.jpg)

สังเกตกางเกงตำรวจสมัยก่อนไหมคะ  ราวกับจะใช้แทนร่มชูชีพ

^
^
แล้วอาจารย์ทราบไหมว่า นายตำรวจท่านนี้ "รำ" อยู่บริเวณไหนของบางกอกครับผม  ;D ;D จะได้เข้าห้วข้อกระทู้ซะเลย  ::)
********************
ขอโทษที คลิกผิด ไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาแก้ไขค่ะ  ตั้งใจจะคลิก อ้างถึง  :-\

คำถามนี้ดิฉันขอผูกขาดเป็นคนถามค่ะ  ;D

ขอรับอาจารย์ เชิญสมาชิกช้อนลูกน้ำ เข้าประจำที่ได้ ;D

คุณ siamese จะใบ้คำไหมคะ?

จุดตรงนี้ตั้งอยู่กลางสี่แยก  บนถนนแรกแบบใหม่แห่งสยาม
ให้ต่างชาติขี่ม้าระบือนาม 

ถนนสายนี้ใช่ไหมคะ?

ท่านอาจารย์ให๋กล่าวถึง "รำ" จราจรไว้ข้างต้น

เรื่องการรำจราจรนี้ดูจะเป็นเรื่องสำคัญของตำรวจจราจรในสมัยก่อนเลยทีเดียวครับ  เคยได้ยินท่านผู้ใหญ่ท่านกระเซ้า พลตำรวจเอก หลวงชาติตระการโกศล ให้รำจราจรให้ดู  เลยได้ความรู้มาว่า คุณหลวงชาติฯ นั้นท่านเป็นคนแรกที่นำท่าโบกรถนถยนต์ที่เรียกว่า "รำจราจร" มาใช้ในกรุงเทพฯ เป็นคนแรก  และว่ากันว่าท่านรำได้สวยมาก  วันนั้นนึกในใจว่า คงจะได้ชมคุณหลวงชาติฯ รำจราจรให้ดูแล้ว  ที่ไหนได้คุณหลวงฯ ท่านหัวเราะแหะๆ  แล้วบอกว่า รำไม่ไหวแล้ว  ก็ตอนนั้นท่านอายุประมาณ ๘๐ ปีแล้วครับ

ดีจริง  ได้คุณ V_Mee มาช่วยเสริมท่ารำของตำรวจจราจร
ยังจำท่ารำได้บางท่าค่ะ   เช่นท่าในรูปคือท่าห้ามรถสองทาง  ลีลาจะออกคล้ายท่าโขน    คือเหยียดแขนออกไปทั้งสองข้าง กระดกมือตั้งขึ้นเหมือนรำ
พอห้ามรถทางเดียวก็ตั้งแขนแบบเดิมไว้ข้างหนึ่ง  อีกข้างหนึ่งเหยียดไปข้างหน้า หันฝ่ามือเข้าตัว กวักเป็นสัญญาณให้รถด้านนั้นออกวิ่งได้ 
หันไปห้ามรถอีกสองด้าน ก็หมุนตัวเหยียดแขนสองข้าง  แต่หันตัวคนละทาง
จราจรยุคนี้รำไม่เป็นแล้ว

ใช่ครับ ถนนสายนี้คือ "เจริญกรุง"  :-X เพียงแต่ว่าอยู่ช่วงไหนเอ่ย  8)

แก๊งค์ลูกน้ำ มัวไปช้อนลูกน้ำที่ไหนกันหมด   
ไม่มาช่วยกันบ้างเลย ว่าคุณตำรวจรำอยู่ที่สี่แยกไหนของเจริญกรุง

หาแนวรถรางไม่เจอ น่าจะอยู่ฝั่งซ้ายของภาพหรือเปล่าครับ..หากมองจากรูปทรงของตึก น่าจะอยู่แถวๆ ถนนเฟื่องนครครับ   8)

แวะมาเดา.........เจ้าค่ะ

สี่แยกที่ตำรวจยืนรำละคร น่าจะเป็นแยกเสือป่าตัดกับเจริญกรุงค่ะ

จำได้เลา ๆ ว่าห้องแถวตรงนั้น มีหน้าต่างและบังแสงคล้าย ๆ แบบนี้

จะไปกินข้าวราชวงศ์ ต้องผ่าน และ แถวนั้น มักมีอุปกรณ์แปลก ๆ บนถนน เช่น ที่หยอดเหรียญเมื่อจอดรถ

และ เสาอะไร ๆ แบบที่คุณจราจรกางเกงบาน เอวแห้ง ๆ คนนั้นยืนเป็นเพื่อนอยู่น่ะค่ะ

เกือบแล้วๆๆๆ  :P

ร่ยมนต์เรียกแก๊งค์ลูกน้ำก่อน.........

คุณ Natadol  ลุงศรีสยามจ๋า คุณหนู D: D: มาช่วยด่วน!!!!!!!!!!!!!!!!!

แยกอันไหนหนอ วรจักร ไป จักรวรรดิ์ ตัดเจริญกรุง หรือเปล่า

ห้องแถวที่มีบังแสงแบบนี้ มันอยู่แถว ๆ นั้นแน่ ๆ

ยกรูปมาให้ดูอีกหนค่ะ

(http://img208.imageshack.us/img208/3526/27659842.jpg)

ถนนเจริญกรุง ตัดกับถนนแปลงนาม ตรงแยกที่ต่อกับถนนพลับพลาชัย ค่ะ ;D
น่าจะเรียกว่า สี่แยกแปลงนาม มั้งคะ...

ไช่แถวนี้หรือเปล่าครับ..

ในภาพปริศนาเป็นตึกแถวทรงโบราณ  มีรถรางแล่นผ่าน  ในปัจจุบันยังพอมีเค้าตึกแถวแบบนี้หลงเหลืออยู่บ้าง  ตึกแถวลักษณะดังกล่าวน่าจะมีอยู่ ๒ แยกที่สำคัญ ๒ ในแนวถนนเจริญกรุง  แยกแรกน่าจะเป็นสี่แยก S.A.B.  ที่ถนนเจริญกรุงตัดกับถนน......ที่มาจากแยกวรจักรจะไปสี่แยกวัดตึก  ที่แยกนี้มีห้าง S.A.B. ขายนาฬิกาตั้งอยู่  กับอีกแยกคือ แยกถนนเสือป่าตัดกับเจริญกรุง  ที่มีห้างขายยาเบอร์ลินตั้งอยู่ที่มุมหนึ่ง  แต่จะเป็นแยกไหนนึกไม่ออกจริงๆ ครับ

ภาพปริศนานี้ คือ แยกแปลงนาม บนถนนเจริญกรุง ตามที่คุณดีดี ทายไว้คว้าชิ้นปลามันไปครองได้

ปรบมือดังๆให้เลยครับ

ดีใจจังค่ะ!!!

เก่งมากค่ะ

มาปรบมือให้คุณ D:D: สมาชิกแก๊งค์ลูกน้ำระดับยอดเยี่ยม

เก่งมากจริง ๆ ค่ะขอชมเชย

ภาพปริศนาอีกภาพ ค่ะ   ในเว็บที่เอามาเขาก็ไม่รู้ว่าที่ไหน

(http://a.imageshack.us/img266/9413/rarephotographsofbangko.jpg)

แต่ยังไงก็เชื่อมั่นว่า อยู่ในอาณาเขตที่สมาชิกแก๊งค์ลูกน้ำเคยไปช้อนลูกน้ำมาแน่ๆ  ไม่พ้นสายตาไปได้
คุณ siamese ถ้ารู้  อุบไว้ก่อน   ถ้าให้ดีก็ช่วยใบ้คำอีกสักครั้งนะคะ

แต่เดิมทีแถวนี้คือทุ่งโล่ง    อากาศโปร่งลมเย็นดีหนักหนา
ชาวต่างชาติล้วนพำนักแต่นานมา   ด้วยว่าเจ้าของตัดที่ทางให้เข้าถึง

การตัดที่ให้เข้าถึงที่ดินย่านนี้ ทำให้เกิดชื่อย่านนี้เกิดขึ้นครับ  ;)

ตึกหัวมุมคุ้นตามากค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นมุมถนนสี่พระยาหรือ สุริวงศ์

เชื่อว่าจะเป็นมุมสี่พระยามากกว่า......

พบหลักฐานพอดี

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=260197

หากเลี้ยวเข้าสี่พระยา ซอยแรกทางซ้ายมือ คือ ตรอกเฟรเซอร์ มีบ้านหลวงที่พระราชทานให้พระยาราชานุประพันธ์ เจ้าคุณพ่อของหม่อมมณีได้อาศัย หม่อมมณีก็โตที่ซอยนี้

ถนนสาทร หรือคะ

ไม่เห็นใครเข้ามาต่อกระทู้ เลยต้องมาปั่นเอง  ;D

จวนแล้ว 95 เปอร์เซนต์แล้ว เหลือแต่มุมมอง

ระหว่างรอคำเฉลย  เอารูปสถานีโทรทัศน์แห่งแรกมาให้ดู
อยากรู้ว่าปัจจุบันนี้เป็นอะไร

(http://img204.imageshack.us/img204/310/thaitv.jpg)

ในภาพเห็นรางทางซ้ายมือ แปลว่า หันหน้าไปทางสะพานเหล็ก และ วัดมหาพฤฒาราม หัวมุมถนนสี่พระยานี้ จึงอยู่ฝั่งเดียวกับตรอก เฟรเซอร์ค่ะ

ภาพสถานีโทรทัศน์ของอาจารย์เทาชมพู เห็นรั้วของวังบางขุนพรหมด้วย ปัจจุบัน ตรงนั้นถูกรื้อออก สร้างอาคารธนาคารแห่งประเทศไทยค่ะ

อยากให้รื้ออีกทีค่ะ รื้อธนาคารออกไปให้หมดเลย ทำให้กลับเป็นวังดังเดิม แล้ว จัดบริเวณวังทั้งหมดเป็นพิพิธภัณฑ์ หรือ สวนสาธารณะบางส่วนก็ยังดี

สำนักวังบางขุนพรหม เคยได้ชื่อว่า ยูนิเวอร์ซิตี้ เพราะอะไร ตำหนักริมน้ำของเจ้าฟ้าที่ทรงพระสิริโฉมที่สุด วงดนตรีไทยของวังนี้ มีชื่อเสียงมาก ก็น่าจะทำให้เป็นสถาบันดนตรีไทย....

พอแล้วค่ะ ดิฉันต้องกินยาระงับประสาทบ้างแล้ว เพ้อฝันไปเสียไกล

อาณาเขตช้อนลูกน้ำของคุณร่วมฤดี กว้างไกลและเก็บรายละเอียดได้น่าทึ่งมาก  ;D

มาร่วมฝันถึงวังบางขุนพรหมด้วยค่ะ

(http://tumtoilet3.tarad.com/shop/t/tumtoilet3/img-lib/spd_20080505213600_b.JPG)

จะขอเสริมพิกัดของอาคารสถานีโทรทัศน์บางขุนพรหม และเสาส่งอากาศ ที่วังบางขุนพรหมครับ ตั้งอยู่ในพื้นที่สีขาวในภาพครับ ตัวอาคารก็จะขนานไปกับสะพานพระราม 8 ในปัจจุบัน

นำภาพเจ้าฟ้าหญิงผู้ทรงพระสิริโฉมที่สุด ดิฉันชอบภาพนี้มาก เพราะเป็นภาพที่ไม่เป็นทางการ แต่สวยอย่างมีเสนห์มาก ทั้ง ๆ ที่พระชนมายุ 40 แล้ว

ตำหนักของทูลกระหม่อมหญิง ที่ทรงประทับเมื่อพบว่า ประชวรเป็นวัณโรค จะสังเกตได้ว่า โปร่งโล่งสบาย กระทัดรัด น่าอยู่อาศัยมาก

คุณ Siamese ค่ะ ดิฉันได้อ่านหนังสือที่กล่าวถึงอาคารทรงยุโรปในพระบรมมหาราชวัง ที่เรียกว่า พระปรัสซ้าย และ พระปรัสขวา ไม่ทราบมีภาพสะสมไว้บ้างหรือไม่คะ่

หากมีภาพ ขอความกรุณาเผื่อแผ่คนอยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกสิ่งคนนี้ด้วยค่ะ

ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงล่วงหน้าค่ะ

หลังไมค์ไปถามแล้วยังไม่ได้รับคำตอบ เลยมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปรัศว์ซ้าย และปรัศว์ขวา หมายถึง รักแร้หรือด้านข้าง หรือ อาคารที่วางขนานต่อกับอาคารหลัก ในหมู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทก็มีพระปรัศว์ซ้ายและขวา ด้านหน้าปราสาทก็มีอาคารน้อยๆ ก็เรียกรักแร้ปราสาท (รื้อถอนแล้ว)
ในหมู่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานก็มีพระปรัศว์ซ้ายและขวา ที่สร้างต่อเติมเช่นเดียวกัน

สำหรับอาคารแบบยุโรป ในรั้วพระบรมมหาราชวัง ก็มีตั้งแต่หมู่พระที่นั่งอภิเนาว์นิเวศน์, หมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทและอาคารเชื่อมด้านหลัง, พระที่นั่งบรมพิมาน เป็นต้น

แผนผัง หมู่พระมหามณเฑียรในพระบรมมหาราชวัง ค่ะ

พระที่นั่งเทพสถานพิลาส พระปรัศว์ขวา
เป็นพระที่นั่งอยู่ทางขวาของพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในเขตพระราชฐานชั้นใน ใช้เป็นที่ประทับของฝ่ายใน

พระที่นั่งเทพอาสน์พิไล พระปรัศว์ซ้าย
เป็นพระที่นั่งอยู่ทางซ้ายของพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในเขตพระราชฐานชั้นใน ใช้เป็นที่ประทับของฝ่ายใน

เคยอ่านเจอว่า
"พระที่นั่งเทพสถานพิลาส เคยเป็นที่ประสูติในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
พระราชธิดาพระองค์เดียวของ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี"

มีรูปมาเสิฟอีกรูป ส่งท้ายวันสุดสัปดาห์ค่ะ

ใครพอจะเล่า "ข้างหลังภาพ" ได้บ้างว่า เจ้านายเล็กๆเหล่านี้มีพระนามทรงกรม ว่าอะไรบ้าง

สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ - สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ - x - สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ - x

ขออนุญาตเดานะคะ เพราะไม่แน่ใจ

สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ - สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฏราชกุมาร - สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมพระนครสวรรค์วรพินิต - สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนเทพทวาราวดี (พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว) - สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์

ดิฉันไม่ทราบว่าทั้งหมดคือพระองค์ใดบ้าง   ในคำบรรยายใต้ภาพบอกว่า ที่สองจากขวาคือ The Late Crown Prince   แต่ดูแล้วไม่ใช่  น่าจะเป็นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อทรงพระเยาว์มากกว่า
ถ้าภาพนี้กลับด้าน   ก็ต้องเป็นพระองค์ที่สองจากซ้าย  คือเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ   ส่วนที่สองจากขวา  คือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ
อีกสามพระองค์ ได้แต่เดาว่าเป็นชั้นเจ้าฟ้าทั้งหมด   พระชนม์ไล่เลี่ยกัน 

มีรูปง่ายๆมาให้ดูอีกรูป  
ถ้าคุณ siamese เห็นแวบแรกคงร้องอ๋อ    ช่วยใบ้คำให้คนอื่นๆด้วยก็จะดี

ไม่ร้องอ๋อ เลยครับ ตกใจมากกว่า  :o เพราะว่าง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วย ต้องเรียกว่า บดให้ทานได้เลย  ;D

เจ้าฟ้าพระองค์นี้ มีพระชนนีเชื้อสายมอญ ใบ้แค่นี้พอ

สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพมหามงกุฎ บุรุษยรัตนราชรวิวงศ์วรุตมพงศบริพัตร สิริวัฒนราชกุมาร ค่ะ ;D

เข้าวัดกันบ้างไหม วัดอะไรครับ

คนตอบรู้มากกว่าคนถามอีก
 :-[

ยกภาพวัดให้คนอื่นทาย

นำรูปง่ายๆมาให้ดูอีกรูป  ใครคะ?
เชิญคุณ siamese ใบ้คำ

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์

ภาพ 1704 คือ วัดบวรนิเวศค่ะ ดูรูปปรางค์มองจากบนเจดีย์ในปัจจุบัน จะเห็นว่าเหมือนกัน

ไหนๆ ท่าน siamese ก็พาเข้าวัดแล้วนะคะ...
คำถามของหนูดีดี ก็เลยยังอยู่ในวัดค่ะ...
ทั้ง 3 ท่าน ในภาพ คือใครเอ่ย....
ง่ายไปหรือเปล่าคะ?... ;D

ง่ายจริง ๆ ค่ะ
ซ้าย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
กลาง สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช เมื่อทรงบรรพชาสามเณรพระฉายา มหิตลาตุโล
ขวา พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะนั้นทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อทรงผนวช

ภาพง่ายๆ อีกภาพนะคะ.. ;D

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13562

ถูกต้องค่ะ ...
เป็นภาพงามๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นนะคะ...
(หมายถึงหนูดีดี ไม่ค่อยได้เห็นค่ะ ท่านอื่นคงเห็นกันบ่อยๆ... ;D)

ภาพนี้คือใคร?ที่ไหน?เมื่อไร? (ถามแบบเดียวกับคุณหลวงเล็ก)   ;D

ภูมิพโลภิกขุ ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับพระภิกษุสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร กับท่านอื่นๆ

เรียงลำดับตามนี้ครับ

๑.ภูมิพโลภิกขุ (พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)

๒.สมเด็จพระวันรัตน์(ปลด กิตฺติโสภโณ) สามเณรเปรียญธรรม ๙ ประโยคสมัยรัชกาลที่ ๕ เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

๓.ที่ประทับที่ว่างเป็นของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ชื่น นภวงศ์) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พระราชอุปัฐยาจารย์ สาเหตุที่ไม่ได้เสด็จมาร่วมฉายพระรูปเพราะทรงมีพระอาการประชวร จึงเว้นไว้เสีย

๔.พระศาสนโสภณ (จวน อุฏฐายี) เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม ธรรมยุต
รูปที่ ๒ และรูปที่ ๔ (ตามลำดับนั่งเก้าอี้) ภายหลังได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

๕.พระโสภณคณาภรณ์ พระราชาคณะ ชั้น เทพ วัดบวรนิเวศวิหาร พระอภิบาล(พี่เลี้ยง)ภูมิพโลภิกฺขุ ปัจจุบันทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร องค์ปัจจุบัน

ที่ไหน?เมื่อไร?

 ;D

หน้าพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๙๙

ตามหมอซ้ง ๒ ไปดูดีกว่า   

(คงจำรายการ ตามไปดู  (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%94%E0%B8%B9) กันได้)

;D

http://www.youtube.com/watch?v=l57cC1UGKUw

 

ท่านนี้หละคะ...ใครเอ่ย?

ตอบว่า
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ
พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ต่อมา คือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

เก่งมากค่ะ... ;D
จริงๆ มีอีก 3 ภาพ นะคะ จะถึงภาพเฉลย...
เลยเอามาให้ดูกันเลยค่ะ ...

ทำไมทรงมีพระนามว่า มนุษยนาคมานพ

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงพระนิพนธ์ใน พระประวัติตรัสเล่า  (http://www.nkgen.com/rem/rem.htm#พระประวัติตรัสเล่า) ไว้ว่า

ได้ฟังคำผู้ใหญ่เล่าว่า  พอเราประสูตแล้ว  อากาศที่กำลังสว่างมีเมฆตั้ง  ฝนตกใหญ่  จนน้ำฝนขังนองชาลาตำหนัก  ทูลกระหม่อมของเรา  ทรงถือเอานิมิตต์นั้น  ว่าแม้นกับคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับ ณ ควงไม้ราชายตนนาคราชเอาขนดกายเวียนพระองค์  และแผ่พังพานเหนือพระเศียร เพื่อมิให้ฝนตกถูกพระองค์  ครั้นฝนหายแล้ว  จึงคลายขนดจำแลงกายเป็นมาณพหนุ่มเข้ามายืนเฝ้าเฉพาะพระพักตร์  จึงพระราชทานนามเราว่า  พระองค์เจ้า “มนุษยนาคมานพ”  แต่เราได้พบในภายหลัง เมื่ออ่านบาลีเข้าใจแล้ว  ในบาลีมหาวรรคพระวินัยเล่ม ๑ ตอนทรามานอุรุเวลกัสสปชฎิล  คำว่า “มนุสสฺนาโค” หรือ มนุษยนาค”  นั้น  เป็นคำเรียกพระพุทธเจ้าคู่กับคำว่า “อหินาโค” หรือ “อหินาค”  เป็นคำเรียกพระนาคที่เป็นชาติงูเช่นนี้  คำว่า มนุษยนาคก็เหมือนคำว่า บุรุษรัตน์ หรือ มหาบุรุษ  ที่ใช้เรียกท่านผู้สูงสุดในหมู่มนุษย์  คือ พระพุทธเจ้า และพระเจ้าแผ่นดิน  

เมื่อเรายังเยาว์ แต่จำความได้แล้ว  ได้ตามเสด็จทูลกระหม่อมไปวัดราชประดิษฐ์เนือง ๆ  คราวหนึ่งได้ยินตรัสถามพระสังฆราช (ปุถสฺสเทว สา) ครั้งนั้นยังเป็นพระศาสนโศภนว่า  คนชื่อคนมีหรือไม่  สมเด็จพระสังฆราชนิ่งนึกอยู่หนึ่ง แล้วถวายพระพรทูลว่า  ไม่มี  ทรงชี้เอาเราผู้นั่งอยู่เบื้องพระปฤษฎางค์ว่า  นี่แนะคนชื่อคน  แต่นั้นเราสังเกตว่า  ทรงพระสรวล  และสมเด็จพระสังฆราชก็เหมือนกัน  แปลชื่อมนุษยนาคมาณพ  ตามวิกัปป์ต้นว่า  หนุ่มน้อยจำแลงเป็นคน  แต่ศัพท์มคธที่แปลว่า คนหนุ่มนั้น สอบสวนได้แน่ในบัดนี้ว่า “มาณโว”  คือ มาณพ  แต่ในพระราชหัตถเลขา พระราชทานนามนั้นเป็น “มานพ” ที่ที่ตรงศัพท์มคธว่า “มานโว”  และแปลว่า “คน”  หรือ “เชื้อสายของท่านมนุ”  ศัพท์สันสกฤตก็เป็นเช่นเดียวกัน  แต่ครั้งนั้นหนังสือและภาษาอันเป็นเครื่องสอบสวนยังหามีแพร่หลายเหมือนในกาลนี้ไม่  แปลตามวิกัปป์หลังว่า “คนผู้เป็นมนุษยนาค” หรือ “คนผู้เป็นนาคในมนุษย์”  ศัพท์ว่านาคในวิกัปป์นี้ หมายความว่า ผู้หลักผู้ใหญ่  เราเป็นพระเจ้าลูกเธอที่ ๔๗  ของทูลกระหม่อม และเป็นพระองค์เจ้าที่ ๔ ของเจ้าจอมมารดาของเรา ผู้มีพระองค์เจ้า ๕ พระองค์

;D

คุณดีดีทราบไหมเอ่ยว่าอาคารนี้ชื่ออะไร อยู่ที่ไหน

คงต้องขอแรงท่านอื่นๆ ช่วยๆ กันตอบค่ะ  ;D

รูปนี้คือ "ตึกมนุษยนาควิทยาทาน" ภายในโรงเรียนวัดบวรนิเวศฯค่ะ  ;)

 ;D ;D


 

นี่ก็อีกรูปนึงค่ะ

ในวิกิพีเดียให้รายละเอียดเกี่ยวกับ "ตึกมนุษยนาควิทยาทาน" ไว้ว่า "ตึกมนุษยนาควิทยาทาน ภายในโรงเรียนวัดบวรนิเวศ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯจัดสร้างถวาย" เท่านั้นเองค่ะ

 ;D

คุณ  pierre ตอบถูกต้อง

มีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

ตึกมนุษยนาควิทยาทาน วัดบวรนิเวศ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ เพื่อถวายแด่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส  พระราชทานนามว่า มนุษยนาควิทยาทาน (ตามพระนามเดิมของเสด็จในกรมท่าน) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนครราชสีมาทรงรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการดำเนินงาน พระเจ้าพี่ยาเธอกรมพระจันทบุรีนฤนาถ ทรงรับหน้าที่เป็นเหรัญญิก และ พระเทพกวีเป็นผู้อำนวยการงานก่อสร้าง บริเวณที่ตั้งตึกมนุษยนาค เดิมเป็นวัดร้าง ชื่อ วัดรังษี เมื่อได้ถูกรวมเข้ากับวัดบวรนิเวศ วัดรังษี จึงกลายเป็นคณะรังษี ในปัจจุบัน

วัตถุประสงค์ในการสร้างตึก มนุษยนาควิทยาทานนั้น  เพื่อใช้ในการศึกษาเป็นหลัก ในอดีตเคยเป็นชั้นเรียนของนักเรียนมัธยมต้น  ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ของวัดบวรนิเวศวิหาร

 ;D

เพิ่มเติมที่คุณเพ็ญชมพูอธิบายไว้ครับ

ตึกมนุษยนาควิทยาทานนี้  บรรดาศิษยานุศิษย์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรยาณวโรรสได้พร้อมกันบริจาคทุนทรัพย์จัดสร้างเป็นพระอนุสาวรีย์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นั้นคราวบำเพ็ยพระราชกุศลออกพระเมรุ  โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูหัวพระราชทานพระราชทรัพย์จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท เป็นทุนประเดิม  แล้วโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนครราชสีมา ทรงเป็นผู้อำนวยการจัดการก่อสร้างจนสำเร็จ

แวะมาส่งรูปให้ทายอีกครั้ง
เจ้านายพระองค์ใดคะ?

รูปเจ้านายพระองค์น้อง พระองค์นี้ ขอทายว่าเป็น สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (ร.6) คะ ;D

นำภาพเขียนกระเบื้องในวังมาให้ชมครับ

ภาพเขียนบนกระเบื้อง งามจริง
สมเด็จเจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ ค่ะ

คำตอบ # 1707   ของคุณหลวงเล็ก ถูกต้องค่ะ
คำตอบ # 1732,1733  ของคุณ Siamese และคุณกะออม  ถูกต้องค่ะ

กระทู้นี้แฟนพันธ์เรียกพ่อเลยครับ

ผู้ให้ความรู้แต่ละคนสุดยอดทั่งนั่น

ระหว่างหารูปเจ้าจอมแส  ไปเจอกระทู้นี้เข้า

http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/11/A7204325/A7204325.html

(http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/11/A7204325/A7204325-0.jpg)

คุณเจ้าของกระทู้บอกว่าไม่ทราบนามเจ้าของรูป
รูปนี้มาจากเรือนไทย  ดิฉันเป็นคนสแกนจากหนังสืองานศพ ก็เลยตอบได้ว่าเป็นใคร
ท่านไม่ใช่บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์    ไม่ใช่เจ้านาย   เป็นสามัญชน    ก็คงทายยากอยู่สักหน่อย
เลยเอารูปมาลงเผื่อๆไว้  อาจมีชาวเรือนไทยที่อ่านกระทู้เก่าแล้วจำได้

คุณหญิงนิมิราชทรงวุฒิ (เนื่อง วินิจฉัยกุล) ภรรยาพระยานิมิราชทรงวุฒิ (สวน วินิจฉัยกุล)
??????

จำแม่นมาก
คุณหญิงเนือง  สกุลเดิม บุณยรัตพันธุ์  เป็นบุตรีพระยาอภัยรณฤทธิ์  และเป็นหลานปู่ของเจ้าพระยาภูธราภัย(นุช)
ท่านเคยเป็นข้าหลวงของสมเด็จพระพันปีมาก่อน

คุณ siamese  ท่านเป็นมารดาของคุณยายเพื่อนบ้านที่คุณเคยถามถึงไงคะ

รูปนี้น่าจะทายง่ายขึ้น

ม.ร.ว. อรุณ นพวงษ์ และหม่อมเจ้ากรรเจียก ผู้เป็นบิดาครับ ที่มาจากข้อมูลของอาจาร์ยเทาชมพู ข้างบนนี้แหละครับ..แหะ..แหะ.. ไม่ค่อยน่าภูมิใจเลย

ถูกต้องค่ะ   ทายถูกก็ถือว่าภูมิใจได้แล้วค่ะ
คราวนี้อาจจะโหดหน่อยนะคะ
หนูน้อยเพศหญิงทั้งสองคนนี้ เติบโตขึ้นมามีชื่อเสียงในแวดวงบันเทิง   ท่านทั้งสองล่วงลับไปแล้ว   แต่ผลงานและชื่อยังเป็นที่จดจำอยู่

เด็กน้อยทางซ้าย คลับคล้ายกับคุณสุพรรณ บูรณะพิมพ์

ยัง...ไม่ใช่ ค่ะ

คนขวาคล้าย คุณอารีย์ นักดนตรี ค่ะ

ยังไม่ใช่อีกเหมือนกันค่ะ  ;D

คุณเทาชมพู ใบ้หน่อยครับ

นี่มันมหาหินเลย

มาเดาอีกที คนขวา คุณกนกวรรณ ด่านอุดมค่ะ

ไม่ใช่คุณกนกวรรณค่ะ   เก่ากว่านั้นมาก

ใบ้คำว่า  ท่านทั้งสองไม่ใช่ดารา  เป็นคนหลังกล้อง
ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดี  โดยเฉพาะหนูน้อยคนซ้ายสุด  ผลงานขจรขจายเป็นอมตะก็ว่าได้
อ้อ  ใบ้อีกเรื่อง  ทั้งสองเป็นสมาชิกในราชสกุล  

กำลังรอแก๊งลูกน้ำ ท่านอื่นๆ
และคุณ siamese
ให้เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน

เด้กน้อยซ้าย ท่านผู้หญิงพวงร้อย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ???

แล้วคนขวาล่ะคะ?

ท่านด้านซ้าย หม่อมหลวง พวงร้อย สนิทวงศ์(อภัยวงศ์) อายุ 4 ขวบ ท่าน กลาง หม่อมหลวง ซัง สนิทวงศ์ อายุ 8 ขวบ ริมสุด หม่อมหลวงสร้อยระย้า สนิทวงศ์(ยุคล) อายุ 9 ขวบ ครับ ขอบคุณข้อมูลจากคุณ art47 ที่เปิดโลกให้ครับ

บุตรของหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ กันหมดเลยหรือเปล่าครับ
ผมไม่แน่ใจ (ไม่มีที่จะค้น)

ไม่ค่อยสันทัดสักเท่าไรครับ อ.เทาชมพู  ??? ??? ???

บุตรของม.ร.ว.สุวพรรณทั้งหมดค่ะ คุณ natadol ได้กิ๊ฟไปแล้ว  แบ่งกับคุณ art47 ด้วย

คนขวามือคือม.ล.สร้อยระย้า ซึ่งต่อมาคือหม่อมสร้อยระย้า ยุคล ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล
นำภาพท่านมาให้ดูกันค่ะ

ต้องขออภัยที่ไม่สันทัดเรื่องภาพบุคคลค่ะ ขอนั่งเชียร์ข้างเวทีด้วยความตื่นเต้นค่ะ

ภาพนี้จำไม่ได้ว่าเคยลงหรือยัง     ถ้าลงแล้ว ก็ถามอีกครั้งค่ะ
อะไรที่อยู่ในวงสีแดง  รูปร่างคล้ายสุเหร่า  นี่ที่ไหนในบางกอก

ตอบท่านอาจารย์เทาชมพูด้วยภาพนี้ค่ะ....
เป็นภาพถ่ายอีกมุมหนึ่ง ที่เฉลยได้ทั้ง 2 คำถาม ว่า อะไร และที่ไหน ค่ะ  ;D

หัวลำโพงนี่เอง
ว่าแต่สะพานแถวไหนของหัวลำโพงล่ะคะ?

สะพานเจริญสวัสดิ์36 ข้ามคลองผดุงกรุงเกษมค่ะ

เรียนถามท่านผู้รู้ค่ะ ว่าทำไมต้องสร้างเสาใหญ่โตขนาดนั้น
หรือมีวัตถุประสงค์อื่น นอกจากเป็นเสาสะพานที่สวยงาม ?

น่าจะสร้า่งหัวสะพานนี้เพื่อความสวยงามเป็นหลักค่ะ
เพราะตรงนี้ เหมือนประตูเข้าเมือง และ สถานีรถไฟ ก็เป็นหน้าเป็นตาของเมือง

รูปที่ 2 ในค.ห. 1758  ไม่ใช่สะพานเดียวกันนี่คะ  เสาสะพานไม่เหมือนกัน

ผมขอนำสะพานหนึ่งสะพานให้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่นี้ เป็นภาพสะพานเหล็ก โค้ง ครึ่งวงกลม / สะพานแห่งนี้มีนามว่า "สะพานสุประดิษฐ์" ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ แต่เดิมสะพานผ่านฟ้าลีลาศก็มีลักษณะแบบเดียวกันนี้ (อยากเห็นไหม  :P) สะพานสุประดิษฐ์ได้ถูกรื้อถอนไปในสมัยรัชกาลที่ ๖ ครับ และถูกก่อสร้างด้วยสะพานเจริญสวัสดิ์ ๓๖ ซ้อนทับในเวลาต่อมา

ขออภัยทุกท่านที่ตาลายดูเป็นคนละสะพานค่ะ

สนใจข้อมูลเกี่ยวกับ "สะพานสุประดิษฐ์" ค่ะ
ทำไมจึงได้ชื่อนี้ เกี่ยวข้องอะไรกับ พระองค์เจ้าสุประดิษฐ์ หรือไม่ค่ะ


ที่ถาม เพราะ เวลาขับรถไปตามทางรถไฟสายเก่า (สายปากน้ำ) จะพบคำว่า "นพวงศ์"
เป็นป้ายเก่า ๆ (เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว) คล้ายบอกชื่อสถานี

ถนน และ รถไฟ มีอะไรเกี่ยวข้องกับ โอรสของพระจอมเกล้าทั้ง 2 นี้หรือเปล่าคะ

เป็น ไปได้ไหมครับว่าเนื่องจากทั้งสองพระองค์ กำกับดูแลพระคลังมหาสมบัติ การตั้งชื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านหรือจากการบริจาคของพระองค์ท่านเพื่อสร้างถนน และสะพานเหล่านี้ครับ มีภาพมาให้ชม 2-3ภาพ อาจะไม่เก่ามาก แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนครับ

อีกภาพครับ

และก็อีกภาพครับ

ขอโทษครับส่งภาพซ้ำ ต้องภาพนี้ครับ คลับตล้ายคลับคลา แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหนครับ

^
^
เป็นภาพการก่อสร้างสะพานพุทธยอดฟ้าฯ ก่อนจะฉลองพระนครครบรอบ ๑๕๐ ปี ด้านซ้ายคือวัดราษฎร์บุรณะ และด้านขวามือเป็นโรงเรียนสวนกุหลาบ ครับ

ยังตามหา บ้านนายชวดตรองอยู่นะครับ ตามมาข้ามปีแล้ว ได้ข้อมูลใหม่มาเป็นแผนที่ ปี2450 สะพาน ยศเส กับสะพาน กษัตริย์ศึก เป็นสะพานเดียวกันหรือเปล่าครับ มีบ้านข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อยู่ในแผนที่ด้วย ส่วนเลขที่บ้านต้องมีจื๊กซอร์ของ คุณวันดี ครับ

สะพานยศเส กับ สะพานกษัตริย์ศึก เป็นคนละสะพานกันครับ

ตั้งแต่ช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕ - ๖ นั้น สะพานยศเส เป็นสะพานไม้ ก่อสร้างขึ้นเพื่อไว้สำหรับข้ามคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อเชื่อมถนนบำรุงเมืองเข้าไว้ด้วยกัน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๗ จึงมีการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อไว้ข้ามทางรถไฟ เนื่องจากมีหลายราง และอาจจะเกิดอันตรายจาก รถยนต์ วิ่งข้ามทางรถไฟ จึงได้ทำการสร้างสะพานขึ้น โดยใช้ชื่อว่า "สะพานกษัตรยิ์ศึก" เพื่อรำรึกถึงครั้ง ร.๑ ยกทัพไปปราบเขมร ทางฝั่งตะวันออก จึงได้ตั้งชื่อสะพานนี้เพื่อสอดคล้องกับที่ตั้งสะพานคือ ด้านตะวันออกของพระนคร

เนื่องจากการยกระดับของสะพานให้มีความสูงในระดับที่ปลอดภัยจากรถไฟ จึงทำให้เชิงสะพาน (access ramp) ต้องมีระยะความลาดยาวไปถึงวัดสระบัว และสะพานยศเส จึงต้องรื้อสะพานยสเส ทิ้งและก่อสร้างรวมกันไป เพื่อให้ช้ามทั้งทางรถไฟ และข้ามคลองไปในคราวเดียวกันในสมัย รัชกาลที่ ๗ ครับ

รบกวนคุณ siamese ช่วยตรวจสอบแผนที่ เหนือสะพานยศเส จะมีบ้านพระยามหาอำมาตย์ (อ่านชื่อไม่ออก) พื้นที่ตรงบ้านนี้ไช่ตรอกโรงเลี้ยงเด็กในเวลาต่อมาไช่หรือเปล่าครับ หากเลยสะพานกษัตริย์ศึก ไปทางสนามกีฬาจะเจอแยก ต้นทางถนนพระรามหก (ถนนประทัดทอง เดิม) และตลาดเจริญผล  หากใครมีแผนที่บริเวณนี้ปี2450รบกวนโพสมาให้รับชมหน่อยนะครับ

"บ้านพิบูลธรรม กลายมาเป็นกระทรวงพลังงาน"

กระทรวงพลังงาน ตั้งอยู่ที่บ้านพิบูลธรรม เลขที่ ๑๗ เชิงสะพานกษัตริย์ศึก เขตปทุมวัน ปัจจุบันกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ สำนักงานรัฐมนตรี และสำนักงานปลัดกระทรวง ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งอยู่ในบริเวณ บ้านพิบูลธรรม เชิงสะพานกษัตริย์ศึก ยศเส เดิม

บ้านพิบูลธรรมเดิมชื่อบ้านนนที เป็นบ้านที่พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชทานเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (หม่อมราชวงศ์ปุ้ม มาลากุล) เสนาธิบดีกระทรวงวัง ซึ่งคงได้สร้างประมาณ พ.ศ. ๒๔๕๖ อันเป็นปีที่เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าพระยา บ้านนี้มีชื่อว่าบ้านนนที ตามชื่อวัวพระนนทิการ ซึ่งเป็นเทวพาหนะของพระอินทร์ (ตราประจำเสนาบดีกระทรวงวัง คือคราพระมหาเทพทรงพระนนทิการ) เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดีอยู่ที่บ้านหลังนี้จนถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ ต่อมารัฐบาลสมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม ซื้อไว้เป็นบ้านรับรองแขกเมือง เปลี่ยนชื่อว่าบ้านพิบูลธรรมจน พ.ศ. ๒๕๐๑ จึงมอบให้เป็นที่ทำการของการพลังงานแห่งชาติดังกล่าวแล้วในข้างต้น

ปัจจุบัน ภายในบ้านพิบูลธรรมมีอาคารเก่าแต่แรกสร้างซึ่งมีความงดงามทั้งด้านสถาปัตยกรรมและ ศิลปกรรมอยู่ ๒ หลัง และศาลาไม้อีกหลังหนึ่ง คือ อาคารสำนักงานเลขานุการกรมซึ่งอยู่หลังหน้า และอาคาร   กองควบคุมและส่งเสริมพลังงานตั้งเยื้องไปด้านหลัง ส่วนศาลาไม้อยู่ด้านขวาของอาคารสำนักเลขานุการกรมและด้านหน้าของอาคารกองควบคุมและส่งเสริมพลังงาน

อาคารทั้งสองหลังสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรปที่นิยมในยุคนั้น ลักษณะเหมือนปราสาท เป็นอาคาร ๒ ชั้น รูปทรงตามปีกอาคารสองข้าง และมีส่วนโค้งส่วนหักมุมและเฉลียงต่างกันแต่ได้สัดส่วนกลมกลืน ประดับลายปูนปั้นตามผนังตอนบน หัวเสา ขอบหน้าต่าง และลูกกรงระเบียง ประตูหน้าต่างไม้สลักลาย มีรูปประติมากรรมหน้าวัวหรือพระโคนนทีติดอยู่ที่เหนือประตู เฉลียงที่มุมขวาของตึกหน้า และที่ผนังข้างประตูหน้าและเหนือประตูเฉลียงข้างของตึกหลังมีสะพานคอนกรีตเชื่อมชั้น ๒ ของอาคารทั้ง ๒ หลัง

อาคารทั้งสองหลังตกแต่งภายในอย่างวิจิตรด้วยลายไม้แกะสลักตามเพดานและผนังห้อง ประตู และหน้าต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาคารในซึ่งตอนหน้าส่วนกลางก่อเป็นห้องชั้นที่ ๓ อีกห้องหนึ่งนั้น ด้านหลังเป็นอาคารชั้นเดียว จัดเป็นห้องโถงเอกของบ้าน โดยโถงหน้าเป็นทางเชื่อมจากส่วนหน้าของอาคารสู่โถงในซึ่งมีปีกเป็นรูปโค้งมน รูปทรงของห้องโถงนี้จึงเหมือนตัว T แต่มุมหักมน นับเป็นความงามเยี่ยมทางสถาปัตยกรรม ภายในห้องโถงนี้กึ่งกลางเพดานประดับภาพจิตรกรรมแบบตะวันตกเรื่องรามเกียรติ์ โถงนอกรูปรามสูรเมขลา โถงในรูปทศกัณฐ์ลักนางสีดากำลังต่อสู้กับนกสดายุ เพดานรอบๆ ภาพเขียนประดับด้วยหูช้างไม้สลักเรียงรายตลอด ถัดลงมาเป็นภาพจิตรกรรมเถาไม้ดอกสีสดสวย ผนังจากระดับขอบประตูบนลงมาประดับไม้สลักลาย ตามขอบสลักลายเถาผลไม้ เสาไม้กลมตั้งบนฐานสี่เหลี่ยมสลักลาย พื้นปูหินอ่อน ห้องโถงนี้ปัจจุบันใช้เป็นห้องเลียงรับรอง ห้องด้านหน้าทางปีกซ้ายของอาคารหลังนี้ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นห้องทำงาน มีภาพจิตรกรรมแบบเดียวกันประดับที่ฝาผนังด้านขวา จับภาพตอนพระรามตามกวาง ส่าวนเพดานห้องเขียนรูปหมู่กามเทพเด็กแบบฝรั่ง

ศาลาไม้ เป็นศาลาทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าประดับไม้สลักตามพนักระเบียงเสา และหูช้างรับกับตัวอาคารทั้งสองหลัง พื้นปูนหินอ่อน หลังคามุงกระเบื้องว่าว

อาคารเหล่านี้ได้รับการซ่อมแซมเพียงเล็กน้อย และทาสีใหม่ สภาพอาคารหลังใหญ่ค่อนข้างชำรุดทรุดโทรม มีรอยร้าวในบางแห่งกรมศิลปากรได้ตรวจสภาพภาพจิตรกรรมแล้วขอให้สำนักงานพลังงานแห่งชาติซ่อมหลังคาแล้วทิ้งไว้ ๒-๓ ปีเพื่อให้ความชื้นภายในแห้งก่อนจึงจะดำเนินการซ่อมแซมภาพจิตรกรรม ซึ่งสำนักงานพลังงานแห่งชาติได้เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาเป็นกระเบื้องลอน และจะได้ดำเนินการของบประมาณซ่อมแซมภาพจิตรกรรมต่อไป

รออยู่ไม่เห็นคุณ siamese โพสรูปบ้านพิบูลธรรม  เลยไปหามาให้

ขออนุญาตนำข้อความของคุณ siamese ไปโพสในกระทู้ บ้านโบราณ ด้วยนะคะ

ส่งภาพมาประกอบคำบรรยายของ ท่านsiamese ค่ะ

เปิดหาอ่านพื้นที่แถวๆถนนพระราม1 ไปพบของเก่าเกือบร้อยปีแถว 3ย่าน มาครับ ตอนนี้ถูกทุบทิ้งไปแล้วใครมีประวัติหรือประสบการ์ณจากร้านนี้บ้างครับ จีฉ่อย 1ในตำนานคู่จุฬาครับ 7-11 เมื่อ 50 ปี ที่แล้ว บริการตลอด 24 ชั่วโมง

"จีฉ่อย" เป็นชื่อร้านในภาษากวางตุ้ง อ่านว่า "จี้ไฉ" ในภาษาจีนกลางและ "จี๊ไช้" ในภาษาแต้จิ๋ว แปลว่ามุ่งมั่นขยันขันแข็ง

ร้านเดิมของจีฉ่อยนั้นอยู่ด้านหลังของร้านในปัจจุบัน ต่อมาเมื่อมีการขยายถนน และทางจุฬาฯสร้างตึกแถวติดถนนพญาไทเมื่อกว่า ๔๐ ปีก่อน จึงได้ย้ายมาอยู่ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน
คนในร้านจีฉ่อยเป็นคนจีนเชื้อสายกวางตุ้ง ตั้งแต่รู้จักร้านนี้ผู้เป็นพ่อไม่อยู่แล้ว มีแต่ผู้เป็นแม่กับลูกสาว ๔ คนและลูกชาย ๑ คน

ร้านเน้นขายเครื่องเขียนและอุปกรณ์ทำการฝีมือ ซึ่งผมเองก็เคยไปใช้บริการเช่นกัน ร้านจีฉ่อย ขึ้นชื่อในการให้บริการที่เน้นว่า "จัดให้ได้ทุกอย่าง" แต่ต้องขอเวลาสักหน่อย เนื่องจากในร้านมีของอยู่จำนวนมาก มากเสียจนเหลือทางเดินเพียงเอี้ยวตัวเท่านั้น ผมเคยสัมภาษณ์ลูกสาวเจ้าของร้าน ที่เข้ามาช่วยขายของเมื่อวันหยุดราชการว่า "ลูกค้าส่วนมากเป็นเด็กจุฬาเป็นส่วนใหญ่ พวกเด็กสถาปัตย์ฯ มาซื้อเสมอๆ เพราะสามารถสั่งของได้ตามที่ต้องการ บางครั้งก็หาของไม่เจอ แต่เจ้าของร้านบอกว่า "มี" แต่ขอเวลาค้นหา บางครั้งเด็กๆก็แสบ อยากลองดีกับร้านจีฉ่อย ก็สั่งซื้อ ชุดครุยรับปริญญา เจ้าของร้านก็ตอบว่า "เดี๋ยวอีกสามวัน มารับของได้เลย" เจ้าของร้านก็หัวเราะไปคุยไป ผมก็ถามว่า มีด้วยหรือ เขาก็ตอบกลับว่า "ก็โทรสั่งซิคะ ง่ายจะตายไป"

คลาสสิคัล  จีฉ่อย


โมเดิร์น จีฉ่อย

ภาพนี้น่าจะถ่ายช่วงปลายปี๒๕๗๒ไม่เกินต้นปี๒๔๗๔
คุณnatadol มีรูปบริเวณนี้อีกหรือไม่ครับ รบกวนด้วยนะครับ

ดึงกระทู้นี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเชิญแก๊งค์ลูกน้ำมาช่วยกันแกะรอยรูปเก่ารูปนี้    จากกระทู้กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4248.0;attach=17541;image)

ดิฉันอ่านอะไรไม่ได้มาก    ยังสงสัยว่าเป็นภาพในกรุงเทพ หรือหัวเมือง  เพราะการแต่งกายของทหารที่เข้ากระบงนแห่ เหมือนทางภาคเหนือมากกว่าเมืองหลวง

อยากเสนอแนะสิ่งสังเกตบางข้อครับ ;D

เครื่องประกอบอิศริยยศในภาพนี้นอกจากธงสามชายแล้ว
ยังมีฉัตรเจ็ดชั้นด้วย (หลังช้าง)

ท่าทางคงเป็นภาพจากหัวเมืองเหนือประเทศราชอย่างอาจารย์เทาชมพูว่าครับ
เพราะผมเคยเห็นชฎา (ไม่น่าจะเป็นมงกุฎ) ที่ผู้นั่งคอช้างสวมใส่อยู่
เหมือนกับชฎาของพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดช พระเจ้าน่าน

เหล่าทวยหาญเดินแซงสองข้างถือดาบเขน ใส่เสื้อขาว โพกผ้าขาว
ให้เดาคงเป็นงานศพ ???

ไม่ใช่งานศพหรอกคุณ Art47 งานศพอะไรเอาช้างมาแห่  :P

ผมว่าเป็นกระบวนเฉลิมฉลองแต่งประดับขบวนช้าง ขบวนม้า แต่งตัวช้างทรง ช้างศึก ช้างเอราวัณ และช้างอย่างหัวเมืองเข้าทำการฉลองอำนวยพร เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ ๒ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

รถราง

ดูจากลักษณะการแต่งตัวของผู้ที่นั่งที่คอช้าง  ประกอบกับผ้าโพกศีรษะของผู้ร่วมกระบวนแห่แล้ว  น่าจะเป็นกระบวนแห่เจ้าประเทศราชในหัวเมืองประเทศราชล้านนา  ที่ลงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานสถาปนาเป็นเจ้าประเทศราชแล้ว  เมื่อกลับถึงบ้านเมืองก็จะจัดกระบวนแห่เป็นกระบวนอิสริยยศเข้าเมืองเป็นการประกาศว่า ได้รับสถาปนาเป็นเจ้าครองนครโดยสมบูรณ์แล้ว

มีรูปเก่ามาเพิ่มเรตติ้งอีกครั้ง   ลองทายดูว่าเจ้านายพระองค์ใด

เจ้าฟ้าอัษฏางค์เดชาวุธฯ หรือเปล่าครับ  ???

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชายปรียชาติสุขุมพันธุ์
ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต
พ.ศ. ๒๔๖๓-๒๔๖๕

ที่มาจาก - จดหมายเหตุเรื่องทูตอเมริกันเข้ามาในรัชกาลที่ ๓ เมื่อปีจอ พ.ศ. ๒๓๙๓

ปรมมือหลายๆมือ ด้วยครับ

ไปเจอภาพเกี่ยวกับช้างอีก 2 ภาพค่ะ
ไม่มีคำบรรยายภาพ ค่ะ

^
ภาพสวยมากค่ะ  อยากรู้รายละเอียดว่าเป็นเหตุการณ์ใด

ภาพนี้น่าจะเป็นตอนที่รัชกาลที่ ๕ เสด็จสิงคโปร์   ในภาพมีสมเด็จพระพันปี และสตรีอีกคนน่าจะเป็นเจ้าจอมมารดาชุ่ม
ขอคำอธิบายเพิ่มเติมด้วย

ภาพชุดนี้อยู่ในหมวดภาพ "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ ๒ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า" ครับ ในหนังสือประชุมภาพพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๔-๙ มีภาพชุดนี้อยู่ด้วยครับ  ;D

ภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายพระรูปหมู่ ณ วังสุลต่านแห่งยะโฮร์ วันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๙
ใต้ภาพเป็นลายพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นรายละเอียดภาพครับ

 ชุ่ม  แอตคิตง  ซุลต่าน    เสาวภา           จุฬาลงกรณ์     ซุลตานา       ดำรง                                น้องสาวซุลต่าน
                             มหามนตรี        สรรพวิจิตร    หลวงรัฐไทร
                                       นายสุดจินดานพ         เสมอใจ                 (อ่านไม่ออก)               ดาริตะมนตรี
                                                                                          ๒๙
      รูปถ่ายที่บ้านซลต่านยะโฮ  ที่เมืองสิงคโปร์   วันที่ ๒ สิงหาคม รศ ๑๑๕                       

สวัสดีครับ.. ;D

ผมเองเพิ่งเปนสมาชิกใหม่ของบอร์ด ได้เข้ามาอ่านซักระยะหนึ่งแล้ว ขอชมและขอบคุณหลายๆท่านที่ได้ให้ความรู้ต่างมากมาย
ครั้งนี้เปนครั้งแรกของผม( ที่โพสลงกระทู้ ) อยากจะขอรบกวนถาม
เกี่ยวเนื่องกับความคิดเห็นที่ ๖๔๙ ของ คุณเพ็ญชมพู
คือ ผมกำลังค้นหาภาพของนาฬิกาเรือนหนึ่ง ซึ่งผมมีรูปที่เคยเก็บไว้ แต่ในรูปนั้น นาฬิกามีสภาพไม่สมบูรณ์ คือ ขาดเครื่อง,หน้าปัทม์และชิ้นส่วนประดับ ซึ่งเปนของที่ระลึกชิ้นหนึ่งในเสี้ยวประวัติศาสตร์ไทย เพื่อเติมเต็มความรู้ครับ

ขอขอบคุณอย่างสูงล่วงหน้าสำหรับคำตอบและความกรุณานะครับ.. ;D

รูปเพิ่ม.. ;D

นาฬิกาเรือนใหญ่มากนะครับนี่ ดูจากขาตั้งกว้างถึงหนังสือพิมพ์พับครึ่งได้  :o

ของชิ้นนี้ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน (ถ้าสมองไม่เลอะเลือนเพราะคำถามจากอีกกระทู้)
พิพิธภัณฑ์ที่วัดปรมัยฯ เยี่ยมหลายหน ก็ไม่น่าจะมี
คุณพี่ไซมิสว่าเยี่ยงไร เคยผ่านตามาบ้างหรือไม่ ???

นั่นซิครับ คุณอาร์ท เรือนใหญ่ขนาดนี้ จะมี ๑ เรือนเท่านั้นหรือ  ???

ดูจากขนาด (อันเท่าลังเบียร์) และคุณภาพ (ประดับพลอย) ของนาฬิกาเรือนนี้แล้ว
อาจจะสร้างเพื่อถวายเจ้านายองค์ใดหรือวัดใดโดยเฉพาะ
หรือของที่ระลึกในส่วนพระองค์

ไม่แน่ใจว่าเป็นสังเค็ด หรือของที่ระลึกเนื่องในงานพระราชพิธีกันแน่ :o

มีความเป็นไปได้ทั้งสองสถาน ???

ตามชมและอ่านอยู่เป็นระยะๆ........

ขอบคุณทุกท่านที่สรรสาระและภาพดีๆมาให้เห็นเป็นบุญตา

 ;) ;D :)

ขอบคุณครับ.... ;D

อ่านจากข้อสังเกต เลยลองเอาหนังสือพิมพ์มากะขนาดดู
ใหญ่ใกล้เคียงลังเบียร์จริงๆครับ
ที่สนใจ ก็เพราะแผ่นป้ายที่ติดบอกไว้
แต่ก็ยังค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้เลย

เข้าใจว่านาฬิกาคงจะชำรุด จึงมีสภาพเท่าที่เห็นในรูป
น่าเสียดายครับ. :(

 ;D

(http://uploadpic.org/storage/2011/qxFm5ONUp9neY7fuFosGVz0n.jpg)

เพิ่งสมัครสมาชิกใหม่ครับ และอยากเรียนถามเกี่ยวกับภาพถนนพญาไทในอดีต โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมพยายามหาภาพสมัยที่มีคูน้ำสองข้างถนน และมีต้นจามจุรี หรือต้นก้ามปูปลูกสองข้างถนน ไม่ทราบว่าจะหาดูได้จากแหล่งใดครับ ช่วยกรุณาให้ข้อมูลด้วยครับ

สวัสดีปีใหม่ไทยครับทุกๆท่าน... ;D

ขอให้  เจริญสุขสวัสดิ์


วันนี้ขอนำภาพถ่ายเก่าของบางกอกมาฝากครับ
เป็นรูปสเตอริโอวิว  ที่สะสมอยู่  ไม่ได้ระบุชื่อผู้ถ่ายรูปแลเวลาที่ถ่ายรูป
มีรถรางกำลังแล่นผ่านพอดี

ขออนุญาตเพิ่มเติมคำอธิบายเล็กน้อยครับ
รูปสเตอริโอวิว เป็นรูปที่ถ่ายจากกล้องโดยเฉพาะ
จะได้รูปถ่ายที่เยื้องกันเล็กน้อย
เมื่อนำมาดูด้วยกล้องสองตา ก็จะแลเห็นเป็นรูป ๓ มิติ

ถือเป็นสิ่งขอบคุณสำหรับคำตอบเกี่ยวกับนาฬิกาที่ยังรอคอยนะครับ ;D

ภาพนี้เขาบรรยายภาพว่า บริเวณศรีย่าน ค่ะ
อยู่ตรงไหนก็ไม่ทราบ
ปัจจุบันจะเปลี่ยนไปขนาดไหนหนอ...

หลังข่าวสงกรานต์อื้อฉาวที่สีลม เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆ  นำรูปสงกรานต์ในอดีตมาให้ดูค่ะ    ยังกะพ.ศ. ไม่ถูก คิดว่าราวๆทศวรรษ 2490s

อีกรูปหนึ่ง  ผู้ชายที่เล่นน้ำสงกรานต์กับผู้หญิง  อยู่ห่างเป็นวา 

ภาพด้านบนเป็นสงกรานต์ที่เชียงใหม่ค่ะ ประมาณเกือบๆ 60 ปีที่แล้วค่ะ
ภาพในคห.ที่ 1809 เป็นบริเวณหน้าวัดเกตุ อาคาร 2 ชั้นด้านซ้ายมือ ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ไว้แล้วค่ะ

อุปกรณ์ในการเล่นน้ำสงกรานต์สมัยนั้นดูแปลกๆ นะคะ
มีกาต้มน้ำ กับอีกภาพคล้ายกระป๋องสเปรย์... ;D

ไปค้นเรื่องโปรตุเกส เจอภาพเก่ามาค่ะ
 
ตอนแรกตั้งใจว่าจะตั้งคำถาม ว่า พิธีอะไร และที่ไหนในบางกอก ?

แต่ก็กลัวว่าจะไม่มีใครตอบ เพราะตอนนี้คณะย่อยหินและแก๊งช้อนลูกน้ำ ต่างก็มีภารกิจติดพันรัดมัดตัวกันทั่วถ้วน
ก็เลยเอาภาพมาฝากพร้อมเฉลย ซะเลยค่ะ... ;D

^
คณะย่อยหินและแก๊งช้อนลูกน้ำสามารถอยู่แล้ว  ;)

ภาพนี้ ปัจจุบันก็ไม่มีให้เห็นแล้วค่ะ... มันคืออะไร...ที่ไหนเอ่ย...

ที่เคยผ่านตาน่าจะเป็นหลุมหลบภัยหน้าหัวลำโพง 
สวยดีแต่คงเกะกะและไม่ได้ใช้ประโยชน์เขาเลยเอาออก

อยากเห็นจังเลยนะคะ ว่าข้างในเป็นอย่างไร..
ใครมีภาพภายในหลุมหลบภัย อนุเคราะห์ให้ชมบ้างนะคะ.. ;D

^
^
หลุมนี้รับได้เป็นพันคน

ที่เขาดินรับได้แค่ ๖๐ คน

(http://kpemfq.bay.livefilestore.com/y1plAo6h1jSiWCxrRi549nCZI3E1O0XL3Q3Xt0AiIkziPSi-0_W_02szR42hWY4TpTFOP3bmz77eNA9dlHruLF8oA/100_0190.jpg)

ข้างในคงคล้าย ๆ กัน

(http://www.vcharkarn.com/uploads/156/156228.jpg)

 ;D

เห็นคุณดีดี และคุณเพ็ญชมพู นำหลุมหลบภัยหน้าสถานีรถไฟกรุงเทพ มาให้ชมนั้น ผมอยากจะเล่าเกร็ดอะไรสักหน่อยให้ฟังเกี่ยวกับหลุมหลบภัย ณ แห่งนี้

หลุมหลบภัยนี้ถูกดัดแปลงจากอุทกธาร ที่ตั้งไว้หน้าสถานีรถไฟในสมัยรัชกาลที่ ๕ ให้ประชาชนได้มีน้ำไว้บริโภคดื่มกิน ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ เห็นว่าชุมชนหัวลำโพงนั้นยังขาดหลุมไว้สำหรับหลบภัยระเบิดที่ทิ้งจากเครื่องบิน และตรงนี้เป็นเป้าหมายหลักเป็นแหล่งเส้นทางการคมนาคม เป็นจุดที่ถูดโจมตีทิ้งระเบิดแน่นอน จึงได้ก่อปูนอย่างหนาสร้างคลุมอุทกธารไว้ ให้ประชาชนวิ่งเข้ามาหลบภัย

ลุงของผมก็เข้ามาใช้บริการที่หลุมหลบภัยนี้ทุกครั้งเมื่อหวอดัง ลุงเคยเล่าถึงการเฉียด และรอดตายมาได้อย่างปาฏิหารย์ คือ ในคืนหนึ่งเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรได้เข้าโจมตีพระนคร ทิ้งระเบิดสะพาน สถานีรถไฟ เรียกได้ว่าปูพรมกันเลย ลุงผมก็เข้าไปหลบในหลุมนี้ หน้าหัวลำโพง แต่ด้วยยังเด็กอยู่และบังเอิญมีมดคันไฟมากัดที่ตัว จึงได้ลุกหนีไปยังจุดใหม่ และมีอาแปะได้สวมเข้าที่ตรงนั้นแทน ปรากฎว่าทันใดนั้นระเบิดได้ร่วงลงมายังหลุมหลบภัยตรงจุดที่อาแปะอยู่พอดี

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีคนในหลุมหลบภัยเสียชีวิตหลายคน แต่ลุงรอดมาได้เพราะมดกัด  ;D

อุทกธาร เพื่อสาธารณะประโยชน์ให้ประชาชนมีน้ำดื่มที่สะอาดไว้ใช้ ภาพถ่ายสมัยรัชกาลที่ ๕

อดีต

(http://img689.imageshack.us/img689/5870/rft1.jpg)


ปัจจุบัน

(http://www.c-amulet.com/forum/img_ans/200911111959451.jpg)

(http://www.c-amulet.com/forum/img_ans/200911111959452.jpg)

สงสัยอยู่ ๒ ข้อ

๑. ระเบิดร่วงลงมาตรงหลุมหลบภัย แต่เหตุไฉนรูปปั้นช้างสามเศียรยังคงอยู่ไม่บุบสลาย

๒. รูปปั้นช้างสามเศียร เกี่ยวข้องอะไรกับสถานีรถไฟหัวลำโพง

 ???

สวัสดีค่ะ ทุก ๆ ท่าน คิดถึงและติดตามทุกวันแม้จะไม่ได้เข้ามาทักทายก็ตาม

อากาศร้อนมาก น้ำแล้ง แก๊งค์ลูกน้ำต้องไปช้อนไกลบ้านค่ะ

ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ ภาพใหม่ ๆ และขอบคุณสำหรับสาระความรู้ค่ะ

เมื่อไรพอจะว่าง  กลับมาช้อนลูกน้ำกันใหม่นะคะ

ตกลงค่ะอาจารย์ จะกลับมาช้อนลูกน้ำแน่ ๆ ไม่มีละเว้น

ขอแจ้งสมาชิกทุกท่านว่า สาระที่ช่วยกันเขียนในเรือนไทยทุกแง่มุมมีค่ามาก เป็นสาราณุกรมไทยไปในตัว

ช่วยกันสร้างสรรนะคะ อาจารย์เทาชมพูท่านจะนำไปต่อยอดให้เป็นสมบัติแผ่นดินค่ะ

อดไม่ได้ เห็นหัวหน้าแก๊งค์ลูกน้ำกลับมาเยี่ยม  เลยเอารูปเก่ามาฝาก  รูปนี้ถ่ายปี 1985  นึกออกไหมคะว่าแถวไหน
เชื่อว่าคุณร่วมฤดีเคยช้อนลูกน้ำแถวนี้

สี่แยกบางลำพู เห็นสพานข้ามคลองบางลำพู

ไม่น่าเลย....














ทายถูกอีกแระ   ;D

ขอแก้ตัวอีกครั้ง
ที่นี่  ที่ไหนคะ?

ดอนเมืองครับ

หยุดทายโดยไม่มีกำหนดค่ะ

ตาผมมั่ง

เป็นรัชสมัยใด  วันอะไรครับ

ท่านจอมยุทธไม่ออมมือ   ต้องขอตัวช่วยชื่อ Siamese

เหตุการณ์เดียวกับรูปนี้หรือเปล่า


 ;D

๑. เห็นธงพื้นอ่อนประดับครุฑ ตรงกลาง และธงชาติคู่กัน
๒. เห็นชุดตำรวจแบบเก่า ไม่น่าเลยสมัย ร.๗
๓. ต้นมะขามโตมากแล้ว

ขอเดาช่วงประมาณ พ.ศ. ๒๔๘๐ - ๒๔๙๐ ครับ  ;D

คิดถึงแก็งค์ลูกน้ำทุกๆท่านครับ ผมขอเจิมด้วยภาพนี้ครับ ที่ไหนเอ่ย  ???

รูปในความคิดเห็นที่ 1834 ขอเดาว่าเป็นถนนสาทรเหนือค่ะ 

คุณหนุ่มสยามเก่งจริงๆ นับถือ นับถือ
เอ้า...ว่าต่อให้จบครับ

ส่วนรูปที่เอามาทายก็สมกับที่จะเอามาปราบเซียน
นั่งเพ่งพิจารณาว่าที่ไหนหนอ คุ้นๆว่าเคยไปช้อนลูกน้ำแถวนั้นเหมือนกันแต่ไม่แน่ใจ ก็ก้มหน้าก้มตาดูน้ำครำซะเป็นส่วนใหญ่

Where where is a where where ?
ไหนๆก็ไหนไหน เข้ามาแล้วก็ต้องทาย
ไม่พหลโยธิน ก็พระรามสี่


ใช่ไหมน้อ ?

คงยังไม่ใช่ครับ หากถนนสาทรด้องมีคลอง คิคิ ;D

ภาพที่คุณพี่ Navarat.C นำมาให้ชมนี้  พิจารณารายละเอียดจาก
๑) จากแถวทหารที่ยืนแถวเรียงรายเต็มท้องสนามหลวง 
๒) ที่ป้อมเผด็จดัสกรมุมพระบรมมหาราชวังยังมีเสาธงและธงมหาไพชยนต์ธวัชอยู่ที่ยอดเสา
๓) นายทหารรักษาพระองค์ที่ยืนวันทยาหัต๔ที่ริมขอบสนามหลวงยังสวมหมวกเฮลเม็ตทรงสูง
๔) นายม้าต้นที่เดินข้างรถม้าสวมหมวกเฮลเฒ้๖ทรงสูง
๕) ธงช้างที่ต้นมะชาม

เนื่องจากหมวกเฮลเม็ตทรงสูงนั้นได้ใช้มาตั้งแต่รัชกาลที่ ๕  ต่อเนื่องมาถึงต้นรัชกาลที่ ๖  เสร็จงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชแล้วไม่นาน  ก็โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนมาใช้หมวดเฮลเม็ตทรงเตี้ย หรือหมวกกะโล่แทน  เมื่อตรวจสอบข้อมูลในจดหมายเหตุการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว  พบว่า ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชนั้นมีการประชุมพลทหารที่ท้องสนามหลวงเนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชรวม ๒ ครั้ง คือ ครั้งแรก  เป็นการเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่กรมกองทหารบก เมื่อวันที่  ๖  ธันวาคม  ๒๔๕๔  กับวันที่  ๗  ธันวาคม  เป็นการเสด็จออกตรวจพลสวนสนามทหาร  แต่การเสด็จออกตรวจพลในวันที่  ๗  ธันวาคมนั้น  ทรงม้าพระที่นั่งสยามพันธุ์  มีสมุหราชองรักษ์และนายทหารราชองครักษ์ขึ้นมาตามเสด็จ

แต่ในภาพดังกล่าวน่าจะเป็นการเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานธงไชยเฉลิมพลเมื่อวันที่  ๖  ธันวาคม  ซึ่งจดหมายเหตุการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้บันทึกไว้ว่า

"เวลาบ่าย ๓ โมง  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องเต็มยศขาวกรมทหารม้า  ทรงประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์  เสด็จออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท  ประทับรถพระที่นั่งเทียมม้า ๔  กองทหารม้าแห่นำแลตามเสด็จ  ออกประตูพิมานไชยศรีแลประตูวิเศษไชยศรีไปตามถนนหน้าพระลานแลถนนราชดำเนิรใน  เลี้ยวถนนราชินี  ประทับรถพระที่นั่งตรงเกยหลังพลับพลา"

ดูจากภาพถ่ายน่าจะประทับรถม้ามาพร้อมกับ นายพลโท พระยาสุรเสนา (กลิ่น  แสง - ชูโต) สมุหราชองครักษ์


                                                                                                                                     

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงม้าพระที่นั่งสยามพันธุ์ (ม้าดำ) ทรงตรวจพลสวนสนามทหารที่ท้องสนามหลวง  เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช  เมื่อวันที่  ๗  ธันวาคม  พ.ศ. ๒๔๕๔  มีนายพลเอก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนพิษณุโลกประชานาถ เสนาธิการทหารบก ผู้อำนวยการสวนสนาม (ทรงม้าขาว) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท  เจ้านายต่างประเทศที่มาร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชทรงม้าอยู่ด้านหลังที่ประทับ

ภาพนี้เป็นภาพกองพันทหารม้าที่ ๑ รักษาพระองค์  กรมทหารบกม้ารวมกรุงเทพฯ รักษาพระองค์  แห่นำกระบวนรถม้าพระที่นั่ง  แถวหน้าเป็นม้าพลแตร ๔ ม้า  ตามด้วยนายทหารเชิญธงไชยเฉลิมพลมีนายทหารกำกับธง ๒ ข้าง  ถัดไปเป็นม้าผู้บังคับกองพัน  มีม้านายทหารคนสนิทตาม  แล้วจึงกองร้อยทหารม้า  ในภาพขบวนเสด็จพระราชดำเนินเคลื่อจากพระบรมมหาราชวังมาทางถนนราชดำเนินใน  กระบวนทหารม้ากำลังผ่านสะพานผ่านพิภพลีลา  จึงน่าจะเป็นการเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานผ้าพระกฐิน หรือเสด็จกลับจากการถวายพระกฐิน  แต่ไม่ทราบว่าเป็นปีใด

คุณวีหมีที่รัก
สองรูปแรกที่คุณบรรยายก็คงใช่ เพราะคุณเป็นเอกะทัคคะในเรื่องของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ หาใครเปรียบยาก

^^^^^^^^^^
แต่รูปที่ผมเอามาทาย และคุณหนุ่มรัตนะคลำทางมาถูกแล้วนั้น
คำวิสัชนาของคุณ ยังไม่ใช่ครับ

ข้อมูลของคุณวีมีไม่ตรงกับในหนังสือ “ซุ้มรับเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง” ของ คุณยุวดี  ศิริ  (http://www.oknation.net/blog/panuwat838084/2010/04/06/entry-1)

 (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/120/47120/images/RS126/P4060559.JPG)

ทหารจากมณฑลต่าง ๆ ที่มารับเสด็จ ในภาพเป็นการสวนสนามในวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๐

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/120/47120/images/RS126/P4030590.JPG)

ไม่แน่ใจว่าข้อมูลไหนถูกต้อง

 ???

ถ้าคลำมาถูกทางแล้วก็จะขอคลำต่อ ... มีกระบวนนั้นปักธงพื้นครุฑ ต้องเป็นการเสด็จพระราชดำเนินแห่งองค์พระมหากษัตริย์ ดังนั้นน่าเป็นการใหญ่มาก จึงขอทายครั้งต่อมาว่า เป็นกระบวนแห่เสด็จในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทรงเสด็จพระราชดำเนินสถลมาครกระบวนใหญ่ครับ

^
เฉียดครับ เฉียด

เสด็จนิวัติกลับพระนคร หรือ เสด็จไปเรียนต่อที่สวิสเซอร์แลนด์

^
เก่งจริงๆ

ใกล้เข้าไปอีกแล้ว แต่ให้ออกแรงหน่อยว่าอันไหนใกล้

มาให้น้ำคุณ siamese  ขอให้ชกได้ต่อจนครบ ๑๐ ยก

ขอตอบอีกครั้งว่า "เสด็จนิวัติกลับพระนคร" เห็นประชาชนสวมชุดขาวกันเยอะ  ;D

Above: The caption to this photo reads: The 15th of November, 1938, will go down in the history of Siam as a day of great rejoicing, for it was the day His Majesty King Ananda Mahidol of Siam for the first time, since He became King, set foot on His own soil...

รูปที่เอามาให้ทายนี้ ผมเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน เพิ่งจะเข้าเวปไปเจอเข้าเมื่อเช้านี้เอง ฝรั่งเอามาลงไว้ เป็นฝีมือของช่างภาพอเมริกันสังกัดนิตยสารLIFE  ถ่ายเมื่อพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จพระราชดำเนินนิวัติพระนครในวันที่๑๕ พฤศจิกายน ๒๔๘๑ เป็นครั้งแรกหลังเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติแล้วทรงได้กลับมาเยี่ยมมาตุภูมิ

ถ้าเอารูปนี้มาให้ผมทาย ผมคงไม่มีทางทายให้ถูกได้ในไม่กี่คำถามเช่นคุณหนุ่มสยาม

ขอยกย่องในความสามารถอย่างจริงใจครับ

อีกภาพหนึ่งในชุดนี้ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลประทับรถม้าพระที่นั่ง โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ประทับเคียงพระองค์มาด้วย

ผมกำลังจะพาหลานออกไปเดินเที่ยววันหยุดทำหน้าที่
ขอฝากอีกภาพหนึ่งไว้ให้คุณหนุ่มลับสมองว่าตึกขวามือคือที่ไหน

ค่ำๆจะกลับมาเฉลยครับ

ที่ตัดภาพออกไปนั่น ด้านซ้ายมือคือ วัดเบญจมพิตร ใช่ไหม  ;D ;D  ;) ไม่ต้องเฉลยครับ รอปรบมือรัวๆ เป็นพอ  ;D ;D

ภาพที่ อ. NAVARAT.C นำมาให้ชมนั้นเป็นตึกองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งมีการเปิดตึกเมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๐๓ โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นประธานพิธีเปิดตึก เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทย และภาพที่ผมนำลงมาให้ชมเป็นภาพในวันดังกล่าว คือวันเปิดตึกครับ

สถานที่ตั้งก็ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดเบญจมพิตรดุสิตวนาราม

.

^
ทำอย่างงี้ได้ป่ะ

สะบายมาก จิ๊บๆ  ;D

ขำจริง ๆ นะ ให้ดิ้นตาย ลูกน้ำในกระป๋องหกหมดเชียว
ว่าง ๆ สอนมั่งนะคะ ทำอย่างไร วิธีไหน ถึงกระดิกนิ้ว กระดกมือได้แบบนี้

ภาพ1834 ของคุณ Siamese ทำให้ประสาทหลอน เพราะคุ้นมากกกกกก
แต่นึกไม่ออก สิ้นลายสิ้นฝีมือหลังจากเรื้อเวทีไปนาน

นิมนต์แก๊งค์ย่อยหินทำหน้าที่แทนค่ะ

จูงมาฝากคุณร่วมฤดีเอาไปเลี้ยง ๑ ตัวค่ะ

ขอกลับมาแก้มืออีกครั้งค่ะ
เชิญช้อนลูกน้ำ และย่อยหิน

ใคร ที่ไหน เมื่อไหร่

^
หมายถึงคนที่กำลังเข้ารับพระราชทานธงไชยเฉลิมพลใช่ไหมครับ ?

ทั้งหมดค่ะ 
ท่าน NAVARAT จำคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นแบคกราวน์ได้ไหมคะ  ดิฉันคุ้นๆหน้า

กองพันทหารราบที่ ๑ ศูนย์การทหารราบ (ศร.พัน.๑) ซึ่งเป็นกองพันที่ได้รับพระราชทานธงชัยเฉลิมพล จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล เมื่อวันที่ ๒๗ มิ.ย. ๒๔๗๙ จารึกพระปรมาภิไธย ย่อ " อปร " นามหน่วย ร.พัน ๔
ในภาพนี้เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑ หน่วยได้รับพระราชทานธงประจำหน่วยฝึกยุวชนทหารที่ ๔๙ (ลพบุรี) โดย พ.ต.หลวงราณปฏิเวช ผู้บังคับหน่วยเป็นผู้รับจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ณ ทุ่งพระเมรุ พระนคร เมื่อ ๙ มกราคม ๒๔๘๑
 
เมื่อดูวันที่แล้ว จะเห็นว่าขัดกับที่ผมบรรยายไว้ในภาพแรกว่าเสด็จนิวัติพระนครในวันที่๑๕ พฤศจิกายน ๒๔๘๑ ตามจากที่แปลมาจากวันที่ที่ฝรั่งระบุไว้เป็นคศ.
ความจริงคือ ประเทศไทยได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จาก๑ เดือนเมษายน มาเป็นวันที่ ๑ เดือนมกราคม เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๔ บันทึกของทหาร น่าจะเปลี่ยนเป็น ๙ มกราคม ๒๔๘๒ ตามที่ควรจะเป็น

ส่วนคนข้างหลังที่ว่าหน้าคุ้นๆ คือคุ้นกับบุคคลในภาพนี้ใช่ไหมครับ

ยอดเยี่ยมจริงๆ 

ส่วนบุคคลที่ยืนอยู่ด้านหลังนั้น  ดิฉันไม่แน่ใจจริงๆ    ว่าเป็นท่านไหนระหว่างคนที่ท่านนวรัตนทาย กับคนนี้   ก็เลยตั้งคำถามดูให้ท่านชี้ขาดให้

^
คือ...ผมไม่ทราบจริงๆครับ ถ้าไม่มีการบรรยายภาพไว้ก็ไม่กล้าเดา :-X
เชิญท่านอาจารย์เทาชมพูเฉลยทั้งหมดทุกท่านเลยครับ

อาาา..หรือจะรอท่านจอมยุทธหนุ่มสยาม แลคุณวีหมีผู้มากรู้ ให้ประลองฝีมือก่อน

ส่งบัตรคิวให้คุณหนุ่มสยามดีกว่าค่ะ
หรือคุณเพ็ญชมพู  และท่านอื่นๆจะมารับบัตรคิวด้วยก็ได้   ก็แล้วแต่

 ในหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างเปลี่ยนปีใหม่   คือพ.ศ. 2482   บุคคลทั้งสองที่ท่านนวรัตนและดิฉันทายมา   มีบทบาทสำคัญในคณะรัฐบาลหรือยัง    เพราะตำแหน่งที่ยืนใกล้พระเจ้าอยู่หัว น่าจะเป็นตำแหน่งคนสำคัญในรัฐบาล

การเมืองไทยช่วงที่เสด็จพระราชดำเนินกลับในครั้งแรกนั้น กำลังอยู่ในระหว่างจัดรัฐบาลใหม่เนื่องจากนายพันเอกพระยาพหลโยธินนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง นายพันโทหลวงพิบูลสงครามขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับแล้ว

รัฐมนตรีรักษาการที่ไม่มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการรับเสด็จ คงไม่ได้มาเฝ้า

รายชื่อคณะรัฐมนตรี

๑. นายพันเอก หลวงพิบูลสงคราม (แปลก พิบูลสงคราม)  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 
๒. พระยาไชยยศสมบัติ (เสริม กฤษณามระ)  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 
๓. ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์)  เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 
๔. หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์)  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 
๕. นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน)  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ 
๖. นายนาวาเอก หลวงสินธุสงครามชัย ร.น. (สินธุ์ กมลนาวิน)  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ 
๗. นายนาวาตรี หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ร.น. (ถวัลย์ ธารีสวัสดิ์)  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 
๘. เจ้าพระยามหิธร (ลออ ไกรฤกษ์)  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 
๙. นายพันเอก พระบริภัณฑ์ยุทธกิจ (เภา เพียรเลิศ)  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ 
๑๐.นายพันเอก หลวงชำนาญยุทธศิลป์ (เชย รมยะนันทน์)  เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ 
๑๑. หลวงนาถนิติธาดา (เคลือบ บุศยนาค)  เป็นรัฐมนตรี 
๑๒. นายนาวาเอก พระยาวิจารณจักรกิจ (บุญชัย หรือ บุญรอด สวาทะสุข)  เป็นรัฐมนตรี 
๑๓. หลวงวิจิตรวาทการ (วิจิตร วิจิตรวาทการ)  เป็นรัฐมนตรี 
๑๔. นายนาวาเอก พระเวชยันต์รังสฤษฎ์ (มุนี มหาสันทนะ)  เป็นรัฐมนตรี 
๑๕. พระยาศรีเสนา (ฮะ สมบัติศิริ)  เป็นรัฐมนตรี 
๑๖. นายนาวาโท หลวงศุภชลาศัย ร.น. (บุง ศุภชลาศัย)  เป็นรัฐมนตรี 
๑๗. พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ (ตุ้ย สมันตรัฐ หรือ บินอับดุลลาห์)  เป็นรัฐมนตรี 
๑๘. พระสารสาสน์ประพันธ์ (ชื้น จารุวัสตร์)  เป็นรัฐมนตรี 
๑๙. ขุนสุคนธวิทศึกษากร (สำอาง สุคนธวิท)  เป็นรัฐมนตรี 
๒๐. นายพันเอก พระยาอภัยสงคราม (จอน โชติดิลก)  เป็นรัฐมนตรี 

เอ  หรือว่าจะเป็นท่านนี้

แต่รู้จากรายชื่อที่ท่านนวรัตนนำมาลง ว่าไม่ใช่ท่านนี้แน่ๆ

ส่วนท่านที่ยืนถัดไปทางขวามือของท่านคนแรก   

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=19557;image)

อาจเป็นคนนี้ได้ไหม

หนักนะคะ หมัดเนี้ย

มาขออำไพ ;Dด้วยข้อมูลนี้ครับ

ในปี พ.ศ.๒๔๗๙ นายนาวาตรี หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ร.น. (ถวัลย์ ธารีสวัสดิ์) นายกสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ และเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลในสมัยนั้นได้ทำเรื่องขึ้น เพื่อกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ขอพระราชทานที่ดินติดถนนราชดำริให้เป็นที่ตั้งของสมาคมนักเรียนเก่า ซึ่งก็โปรดเกล้าฯพระราชทานให้ จากนั้นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ก็ได้ร่วมกันจัดหาทุนในการก่อสร้างสมาคมจนแล้วเสร็จ เมื่อเสด็จนิวัติพระนครครั้งแรกก็ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดในวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๘๐ และในฐานะที่ทรงเป็นนักเรียนเก่า ก็ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ ๓,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นทุนเริ่มแรกในการก่อสร้างสโมสรด้วย

ด้วยเหตุนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่หลวงธำรงฯ จะต้องถือว่าเป็นหน้าที่ ที่จะต้องเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทุกแห่งในระหว่างประทับอยู่ในประเทศไทย

เทียบรูปกันแล้ว ใช่ไหมละครับนั่น

^
ได้คำตอบแล้ว

ภาพบุคคลนั้นจะเป็น เจ้าพระยาศรีธรรมธิเบศ (จิต  ณ สงขลา) ซึ่งในเวลานั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือไม่
ครับ?

ที่ว่าน่าจะเป็นท่านเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ  ก็เพราะท่านผู้นี้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาลไปเข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ณ เมืองโลซาน เพื่ออัญเชิญให้เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นรัชกาลที่ 8 จึงไก้ยืนเฝ้าฯ ใกล้กับ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประธานคณะผู้สำเร้จราชการ (แต่งชุดทหารใกล้ที่ประทับ)

ลองดูภาพนะครับ

^

คุณวีหมี....นายแน่มาก

ย้อนกลับไปหารูปของออกหลวงหนุ่มสยาม  มาให้แก๊งค์ลูกน้ำช่วยกันดูค่ะ


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=19503;image)

สวัสดีค่ะ ทุกท่าน ขอร่วมทายด้วยคนนะคะ
รูปของคุณ siamese ข้างบนนั่น ดูจากขนาดและจำนวนรถ น่าจะเป็นถนนสุขุมวิท
แถว ๆ ห้องเอมโพเรียมปัจจุบัน ช่วงมองเข้าเมืองมาที่แยกอโศก จะเห็นเริ่มมีการก่อสร้างอาคารสูงขึ้นเยอะ
ตรงซ้ายมือตึกที่ 2 นั่น น่าจะเป็น โรงแรม landmark ส่วนตึกแรกที่สร้างคาอยู่ น่าจะเป็น ตึกทอง

ผิดหรือถูก เฉียด ๆ บ้างไหมคะ

สนใจตึกนี้ค่ะ    แก๊งค์ลูกน้ำช่วยมาช้อนลูกน้ำที่ตึกนี้หน่อยได้ไหม ว่าตึกอะไร

ผิดครับ  ;D ;D

ขายกระเบื้องคัมพานา ครับ

เห็นตึกสูงเป็นแบ็คกราวนด์ในภาพแล้ว  ไม่น่าใช่ถนนพหลโยธิน  แต่น่าจะเป็นถนนเพชรบุรีตัดใหม่  แถวๆ ปากซอยศูนย์วิจัย  ถูกหรือผิดครับ

บรรยากาศคล้ายกันมากกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แต่ไม่ใช่ครับ อ. V_mee รบกวนหลอนต่อครับ  :-[ :-[ :-[

ถนนในกรุงเทพสายยาวเหยียดที่ตัดตรงแหนวแบบนี้มีกี่สายกันนะ   สุขุมวิท   เพชรบุรีตัดใหม่  พหลโยธิน?

มองแล้วมองอีก ทั้งป้าย Campana และ ภัตตาคารอะไรสักอย่างนั่น มันเหมือนเห็นอยู่ทุกวันจริง ๆ นะ

ทายว่า..........................พระราม 4 บริเวณ กล้วยน้ำไท มองไปสุดถนน เห็น อาคารมโนรมย์ทางซ้าย และ ตึกทางขวา เป็นของ ช่อง 3 ค่ะ

เดา....เจ้าค่ะ...เดาจริง ๆ

คุณ siamese อย่าเพิ่งเฉลยนะคะ  ขอยืดเวลาไปก่อน
เพราะที่น่าเจ็บใจคือ คุณ siamese เฉลยเมื่อไร    ก็จะร้อง อ๋อ  แล้วก็   แล้วก็....

แก๊งค์ลูกน้ำคนสุดท้องมาแล้วครับ ขอตอบก่อนเลย ถนน พหลโยธินครับ รถที่แล่นเข้าเมืองอยู่แนวธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ ขาออกนอกเมืองมาจากทางซอยอารีย์ ครับ เฉียดมั้ยครับ

ถือหางฝ่ายคุณ natadol ดีมั้ยเนี่ย  หรือจะเชียร์คุณร่วมฤดี... ???

คุณหนุ่มสยามเฉลยเมื่อไร บอกปี พ.ศ.ที่ถ่ายภาพนี้ด้วยนะคะ

เนื่องจาก ตึกสูง มันไม่น่าจะมีใกล้ ๆ  Town House ที่เพิ่งสร้างเลย

แต่...ทำไมถึงคุ้นเหลือเกิ้นนนนน......

โอม เพี้ยงงง...ขอให้ทายถูกเถิด เจ้าข้่าเอ๋ย

อย่าบอกว่ารัชดาภิเษกนะคะ

ถนนรัชดาภิเษก เป็นวงแหวนรอบกรุงเทพฯ อาจารย์ตอบคลุมแห  ;D ;D รบกวนเอาเข็มหมุดปักเลยครับ  ;)

สวัสดีครับ ;D

ขอเดาจาก ถนนที่มีข้างละ ๓ เลน + รถติดมากๆ + เกาะกลางถนน + รถเมล์ ( เดาอีกว่าของบ.บุญผ่อง )

รวมๆแล้ว เลยเดาว่า ถนนสีลม ครับ ;D

ปล.เดาล้วนๆ... :-[

สีลมแน่นกว่านี้ครับผม จะต้องเห็นตึกเบียดกันแน่น  :o ยังไม่ถูกครับ ..รบกวนหลอนต่อครับ  8)

ท่านอาจารย์ใหญ่เปิดทางไว้ให้แล้ว  ขอเดาต่อเลยละกันครับ  โดยดูจากป้ายสัญลักษณ์กระเบื้องปพื้น  ว่าเป็นถนนรัชดาภิเษกช่วงแยกสุทธิสารที่ขายสุขภัณฑ์กันเยอะๆ

ถนนสายนี้ (ในขณะที่มีผู้ถ่ายรูปมา)มีลักษณะเป็นถนนตัดใหม่ไม่กี่สิบปีนี้เอง   ไม่ใช่ถนนเก่าแก่อย่างถนนสีลมหรือสุขุมวิท   ตึกแถวสองข้างถนนยังขนาดเตี้ยๆ  ไม่มีตึกสูง  ทั้งๆในแบคกราวน์มีตึกสูงเต็มไปหมดแล้ว
ริมถนนด้านขวายังมีที่ดินว่างๆ  ลึกเข้าไปทางซ้ายก็ยังมีที่ดินว่างผืนใหญ่ และทาวน์เฮาส์หน้าตาใหม่ๆ ปลูกสร้างอยู่
ก็เลยสงสัยว่าเป็นรัชดาภิเษก     ถ้ามีบริษัทใหญ่ขายกระเบื้องสุขภัณฑ์  น่าจะเป็นอย่างคุณ V_Mee ว่า ก็เป็นได้

ต้องช่วยกันดูว่าตึกสุดถนนนั่นคือ ตึกอะไร และ อาคารใหญ่ สร้างทึบ ไม่มีหน้าต่างทางซ้ายมือ คืออะไร

คุณหนุ่มสยามให้ปักหมุดแถวรัชดาภิเษกตอนใดตอนหนึ่งแน่ ๆ ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่สายนี้ จึงน่าคิด

รถเมล์ในรูป ไม่ใช่ ข.ส.ม.ก. แต่เป็นสีน้ำเงินคาดขาว พวกนี้ เป็นรถร่วมบริการ

รถแท๊กซี่ เป็น Gas  NGV สีส้มทั้งคัน สีชมพูทั้งคัน นี่คือรูปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ไม่เก่าเท่าไร

แต่หลอนนนนนน........จริงจริ๊งงงงงง :o :o :o

ยังไม่ถูกครับ อ.V_mee  ;D


อย่างที่ อ.เทาชมพูวิเคราะห์นั้นถูกต้องครับ หยิบหมุดปักเลยครับ  ;D


สวัสดีครับคุณร่วมฤดี เข้ามาทักทายตั้งแต่ก่อนลงภาพ รบกวนวิเคราะห์ตามที่เห็นได้เลยครับ งั้นแถมให้คุณร่วมฤดีนิดหน่อยครับว่า ปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปเยอะมากครับผม  ;D (จะช่วยได้ไหมเนี่ย..)

มาเสี่ยงกับตกม้าโค้งสุดท้าย
รัชดาภิเษก ช่วงที่มีโรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค

เฉียดไปเฉียดมา ตำรวจไม่ยอดปล่อยไฟเขียว  ;) เข้าไปดูการเรียกชื่อถนนนี้อย่างเป็นทางการ ไม่ใช้ชื่อตามไปรษณีย์ว่า "ถนนรัชดาภิเษก" แต่ถนนนี้ตั้งอยู่ในแนวเดียวกับถนนดังกล่าวเพื่อให้ครบเป็นวง ครับ

ใบ้เพิ่มเดี่ยวจะพากันล้า
๑. ถนนนี้ปัจจุบันมีทางด่วนขวางหน้าด้วย
๒. ตึกถูกเวนคืนไปหมดแล้ว (ข้างไหนเดาเอาเอง)
๓. ถนนจึงมีขนาดใหญ่โต แต่ด้านหน้าถนนแคบ จึงเกิดเป็นคอขวด รถติดทุกวันทุกคืน

นึกแล้วว่าตกม้า(นั่ง)
จากนี้ก็ฝากความหวังไว้ที่แก๊งค์ลูกน้ำ    ขอเอาใจช่วยให้เฉลยออกมาให้ได้นะคะ   
อย่าให้คุณ siamese นั่งตีขิมเพลง" เฉียดไปเฉียดมา" อยู่บนกำแพงได้นานนัก

ขอเดี่ยวขิมไปพลาง อีกทางจะขอขับไม้บัณเฑาว์บรรเลงด้วยภาพนี้ครับ

เห็นอยุ่ว่าเป็น ธนาคารเอเซีย ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ถูกควบกิจการไปแล้ว แต่ตึกนี้งามนัก เคยอยู่ที่ไหนกันหนอ  ???

เคยเห็นธนาคารเอเซีย สาขาจรัญสนิทวงศ์ หน้าตาแบบนี้ ใช่ ฤาไม่คะ

พระราม 4 ตรงกล้วยน้ำไทก็ไม่ใช่ จรัญสนิทวงศ์ก็ไม่มีทางด่วน
แหม...อยู่ใกล้แค่จมูกแต่หาไม่เจออ่ะ :-\ :-\

ไกลเกินไปครับ ขับเข้ามาฝั่งพระนครเลครับ ไม่ไกลแล้วทีนี้  ;D

ลูกน้ำ..สู้..สู้..

รู้จัก ฌองเอลิเซ่ ไหมครับ :P

เดาอีกแล้วครับ..
ธ.เอเชีย สาขา ๓ แยก ( จริงๆแล้วเป็น ๕ แยก ) ใกล้ๆโรงหนังเฉลิมบุรี
สุดสายรถเมล์ เบอร์ ๔๕ ( ปากน้ำ-สามแยก )

ติดใจตึกทึบ ๆ ไม่มีหน้าต่างทางซ้ายของภาพค่ะ น่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ประเภท The Mall งามวงศ์วาน

ถนนนี้ ที่ใกล้เคียงและเห็นมุมภาพได้แบบนี้ น่าจะเป็น "ถนนวงศ์สว่าง" ค่ะ แต่แหม ไม่มีเค้าอะไรเหลือเลย

เพื่อนใหม่มากแรง...........ถูกต้องคร้าบบบบบบบ

ตั้งอยู่สามแยกหมอมี ย่านเยาวราช ช่วงถนนเจริญกรุงครับ

กลับมาๆๆ อยู่ฝั่งกทม ละกันครับ

สับสนจริง ๆ นึกว่าตึกธนาคารกับภาพถนน เป็นเรื่องเดียวกัน

ขอแสดงความยินดีผู้ที่ทายถูก เก่งจริง ๆ ค่ะ

รูปจักแต่ตลาดบองมาเช่ ถนนประชานิเวศน์ค่ะ

ฌองเอลิเซ่นั่น เป็นราชดำเนินมิใช่หรือคะ

ขอบคุณครับ.. ;D

พอดีเมื่อตอนเด็กๆ นั่งรถสาย ๔๕ ไปทาน "หอยทอด " ที่ซอยโรงหนังเท็กซัส บ่อย เลยพอจำได้ครับ. ;D

นึกดีๆครับ คุณร่วมฤดี

บางทีอาจจะไม่คุ้นกับภาพสี หันมาย้อนอดีตสู่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เป็นการพักหน้าม่านไปพลางๆก่อน คิคิ

ลงมาหลอนตาอีกรอบ  8)

อย่างงั้นเดาใหม่ ว่า ถนนจากสายแยกอสมท.ไปดินแดง ( จามชื่อม่ายล่าย...อิอิ )

แหมกำลังจะใบ้ว่า "โค้งทรราชย์พอดี = แยก อสมท. แต่ไปดินแดงนี้ยังผิดอยู่ครับ

แก๊งลูกน้ำต้องต้อนรับน้องใหม่มาแรงท่านนี้เสียแล้ว  :-[

ขอบคุณครับ.. ;D

งั้นไปอโศกละกัน  เดาเยอะไปหน่อย...ขออภัยครับ :-[

มาเชียร์น้องใหม่ค่ะ แล้วรีบตะครุบตัวเข้าสังกัดแก๊งค์ลูกน้ำ(แก๊งค์ย่อยหินยังไม่ตื่นแน่ ๆ เลย)

และเดาต่อว่า ตรงนี้น่าจะเป็นมุมที่มองจาก ถนนรัชดาตรงแยก อ.ส.ม.ท. มองไปทางเพชรบุรี เห็นตึก Italthai ทางซ้าย ทางขวาเป็น Fortune ค่ะ
 

ถูกต้องครับ คุณร่วมฤดี และคุณ Takae เหนี่อยกันไหมเอ่ย

ถนนนี้คือ ถนนช่วงต่อจากถนนอโศก-แยกอสมท. เป็นถนนต่อจากถนนรัชดาภิเษก เพื่อให้ครบเป็นวง ตึกแถวฝั่งซ้ายภาพได้ถูกเวนคืนไปหมดแล้ว สำหรับทีว่างฝั่งขวามือเป็นที่ดินของการรถไฟ กลางภาพจะเห็นสะพานลอยอโศก ส่วนตึกขาวด้านขวามือคือ "โรงแรมสยาม" ครับ สำหรับตึกอิตัลไทยห่างไกลกว่านี้ครับ

ถนนสายนี้ แรกสร้าง จะโค้ง(ทรราชย์)เข้าถนนดินแดง จึงเรียกว่า ถนนอโศกดินแดง
แต่วันนี้ เป็นถนนรัชดาภิเษกไปแล้ว

ตรงเชิงสะพานลอยอโศก มีตึกไทยซัมมิตค่ะ นึกถึงตึกนี้ แต่ใส่ชื่อสับสน(เพราะชราภาพ..)

ไปที่ตึกนี้บ่อย เพราะเพื่อนทำงานตรงนั้น และ สูงพอที่จะเอาไว้ใช้ถามสภาพจราจรตรงแยกนั้น

ยื่นใบสมัครได้ที่ไหนครับ? ;D

เดาถูกเพราะคำใบ้ ฌองเอลิเซ่ แท้ๆ :-X 
เคยผ่าน ไม่เคยเข้า จิงจิงนะ ;D

ร่วมแก๊งค์ลูกน้ำบินกันชมตึกกำลังก่อสร้างใหม่นี้ด้วยเทอญ ตึกอะไร แถวไหนหรอครับ สุงดีจังเลย  ???

คืนนี้ ไม่หลอนแล้ว  ;D
ขอต้อนรับน้องใหม่ไฟแรงแห่งแก๊งค์ลูกน้ำ ค่ะ คุณตะเข้

ชนกลางอากาศกับคุณหนุ่มสยาม  เพิ่งเห็น # 1923
หลอนอีกแล้วละมัง คืนนี้

ขออภัย ดิฉันมาช้า กลับมาอีกทีเขาก็ทายถูกไปหมดแล้ว

ขอแก้ตัวด้วยภาพใหม่ ที่ 1923

ตึกก่อสร้างเจ้าปัญหา ชื่ออะไรไม่ทราบ แต่น่าจะอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ช่วงแยกประตูน้ำ
ข้างหลัง 5-6 ชั้นนั่น ตึก World Trade ฝั่ง Isetan
หลังตึกที่ก่อสร้าง คือ โรงแรมอโนมา

พอเฉียดแก้ตัวได้บ้างไหมคะ

ออกไปทำธุระนอกบ้านกลับมาอ่านอีกที่ เพิ่งจะทราบว่าน้องใหม่แห่งแก๊งค์ลูกน้ำชื่อ ตะเข้ ทีแรกนึกว่า ตาแก่??? 
ขออภัยหากออกเสียงภาษาอังกฤษไม่ตรงคำไทยค่ะ ;D ;D ;D

ภาพสุดท้ายมีชื่อตึก Isetan รับประกันคุณภาพว่า คุณ Poja ทายไม่ผิดหรอกค่ะ
ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า

แต่...อย่าเพิ่งไว้ใจ คุณหนุ่มสยามอาจจะถามต่อว่า ตึกชื่ออะไร คราวนี้ละก้อ ตัวใครตัวมัน

ฝากคุณ ตะเข้ เฝ้าทำหน้าที่ทายภาพต่อไปนะคะ ขอตัวไปช้อนลูกน้ำหาลำไพ่ก่อนเจ้าค่ะ

ดิฉันเคยอ่านทั้งสองอย่างค่ะ ตาแก่ กับ ตะเข้  แต่โยนหัวโยนก้อยแล้วคิดว่าเป็น ตะเข้
ต้องขอให้เจ้าตัวมาบอกเองว่าชื่ออะไรกันแน่

รูปล่าสุดที่คุณหนุ่มสยามยกมาบรรเลงเพลง เฉียดไปเฉียดมา   อยู่แถวถิ่นเดิมของคุณศรีสยามไม่ใช่หรือ   ถ้ามาสมทบกับแก๊งค์ลูกน้ำทันเวลา  ก็คงรู้ว่าตึกไหน

 :-[ :-[ :-[ :-[

ตอนมาสมัคร ก็ตั้งชื่อว่า ตาแก่ นั่นแหละครับจะได้เจียมตัว.. ;D
พอมาเจอชื่อ ตะเข้ นี่ ก็นึกขำกลิ้งเหมือนกัน
ถ้าเป็นตะโขง ยังพอทำเนา เพราะกัดไม่เข้า ได้แต่ขบ.. ;D
ขอเป็น ตาแก่ ละกันนะครับ

ส่วนรูปที่ทาย ดูไปดูมา เกิดอาการ กลัวความสูง ตาลาย วิงเวียน สมองอื้อ.
เลยเดาไม่ออกครับ... ;D

ขออำไพค่ะ คุณตาแก่  :-[
(จะว่าไป  ดิฉันชอบชื่อ ตะเข้ มากกว่านะคะ 
นึกถึงเครื่องดนตรีชนิดนี้ค่ะ   ชาวบ้านเขาเรียกตะเข้  ถ้าเป็นทางการถึงจะเป็นจะเข้)  

คลับคล้ายคลับคลา ว่าเปนตึก โรงแรม amari watergate ละเปล่าครับ ???

โดนพี่ เข้ ตอบตัดหน้าไปก่อน  :'( งั้นผมขอทายสถานที่ถ่ายแล้วกัน ตึกใบหยกครับ

ต้องปรบมือให้คุณ ตะเฆ่ อย่างมากครับที่ทายได้ถูกต้อง

คุณ POJA ช่างสักเกตุอย่างมากจับภาพ จัดทิศทางถนนได้ถูกต้อง

คุณ natadol สู้ๆต่อไปครับ

คุณร่วมฤดี สู้ๆต่อไปครับ

ตึกนี้คือ ภาพระหว่างการก่อสร้างอาคารอมารี วอเตอร์เกท ตั้งอยู่บนตลาดเก่าย่านประตูน้ำครับ สังเกตุตามที่คุณ POJA แม่นมากจากป้ายห้างอิเซตันครับ

เห็นทีคุณ takae จะไม่ได้ชื่อตาแก่อีกแล้วละค่ะ

มีรูปมาให้แก๊งค์ลูกน้ำ ทายอีกไหมคะ คุณหนุ่มสยาม

จัดให้เลยครับ อ.เทาชมพู

อย่าว่าโหดเกินไปนะครับ แต่ถ้าใครไม่รู้หรือคุ้นตา ก็คงยากเกินไปสำหรับภาพนี้ ที่ไหนครับผม

โหดจริงๆ  กระทรวงอะไรหนอ?

ยังตอบปัญหาภาพที่แล้วไม่ได้ คงต้องเดินทางไปตรวจสถานที่กันก่อน

ขอตอบภาพปัญหาใหม่ว่า โรงเรียนเพาะช่าง เจ้าค่ะ

สวัสดีครับ.
วันนี้ ผมมาสายบ้าง  ผลัดกันนะครับ.. ;D

ข้างๆติดกับโรงเรียนผมเลยครับ.. ;D

ดุเดือดจริงๆ ฟันฉับๆๆ ตรงเป๊ะ

ชะรอยจะเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบ  :o

ครับ ;D
ปล.รร.เสาวภา เค้าไม่รับ...อิอิ :-[

ดีใจ ดีใจ นาน ๆ จะถูกสักที  ;D

ภาพนี้งามนักในเชิงภาพถ่าย เป็นการก่อสร้างสิ่งหนึ่ง คือ..... ???   ที่ไหน...... ???

ภาพนี้ค่อนข้างดูยากสักหน่อย แต่ผมว่าแก๊งค์ลูกน้ำคงไม่ย่อท้อแน่นอน

ยกเครื่องดื่มเย็นๆมาเสิฟให้แก๊งค์ลูกน้ำ  รอคำตอบ

เห็นแม่น้ำ เป็นการก่อสร้างสะพานแน่นอนค่ะ
แต่สะพานที่ไหน ที่อยู่ปากคลองแบบนี้ นึกถึงสะพานพระปิ่นเกล้า ปากคลองบางกอกน้อย แต่ฝั่งตรงข้ามไม่คุ้นเลย
ถัดไปหน่อย เห็นอาคารทรงยุโรป หลังคาสีแดง ใช่ วังเทวะเวสม์ หรือไม่คะ แต่ดูแล้วไม่ค่อยเหมือน
ถ้าใช่ ก็น่าจะเป็น สะพานพระราม ๘  ค่ะ

ถ้าผิดก็ขออำไพท่านผู้มานะหารูปถ่ายมาให้ร่วมสนุกกัน เพราะข้าเจ้าเพิ่งตื่นนอน ยังต้องปรับจูนเครื่องก่อนสักพัก ;D

สิ่งที่เห็น
1. บ้านนรสิงห์ (ตอนบนของภาพ หลังคาแดง)
2. สะพานมัฆวานรังสรรค์ (กลางภาพ ทางขวา)

ดูจากมุมและสิ่งที่ควรจะเป็นแล้ว คิดว่าคำตอบคือ

"อาคารสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก"

ปล. สักนิด
รู้สึกรูปนี้จะกลับมุมกันนะคุณพี่ ขวาเป็นซ้าย ซ้ายเป็นขวา

คุณอาร์ท หนุ่มพลังม้า มาแรง ถูกต้องครับ

คุณ POJA ผมยังไม่เห็นแม่น้ำเลย  ??? คิคิ นั่นเป็นคลองรอบกรุงไว้หลอกตาครับ  8)

เป็นภาพการก่อสร้างอาคารสหประชาชาตหลังใหม่ ซึ่งก่อสร้างเริ่มในปี 2535 เสร็จปี 2536 ครับ ;D

แง แง มองอยู่ก่อนแล้วว่า ฐานรากอะไร โค้ง ๆ   :'(   :'(

งุ่นง่านหาภาพ เดินไปเดินมา พบกับอาคารแบบฝรั่ง ตึกอะไรหว่า  ??? ช่วยตอบกันเร็ว

ต้องให้นักศึกษาวิชาทหาร มาช่วยตอบครับ.. ;D

กรมการรักษาดินแดน สวนเจ้าเชตุ ครับ

รูปนี้หลังจากเซฟไว้แล้ว ก็หาไม่เจอว่าเอามาจากเว็บไหน   แต่จำได้ว่าหาคำตอบได้ไม่ยาก
อยากทราบว่าหอนาฬิกานี้อยู่ที่ไหน   
คุณ siamese อุบไว้ก่อน   ใครทายถูก ค่อยเป็นคนเฉลยนะคะ   

..ดีนะ ไม่ถามว่า คนที่นั่งชื่ออะไร  :-[

คุณเอนก  นาวิกมูล  บอกว่าหอนาฬิกานี้ตั้งอยู่หน้าหอคองคอเดีย (ศาลาสหทัยสมาคม  ตรงสนามหญ้าหน้าวัดพระแก้ว) อยู่ระหว่างทิมดาบกับโรงทอง  ข้างบนทำอย่างหลังคาตัด  มีลูกกรง

ในหนังสือประชุมพงศาวดารภาคที่ ๒๕ กล่าวว่า รัชกาลที่ ๔  โปรดเกล้าฯ ให้กรมขุนราชสีหวิกรม (ต้นสกุล ชุมสาย) คิดแบบ เป็นหอสูง ๑๐ วา มีนาฬิกาทั้ง ๔ ด้าน รื้อเสียเมื่อจะสร้างทิมดาบใหม่ในสมัยรัชกาลที่ ๕

ภาพจากหนังสือ  Ein  Welt-und Forschungsreisender  mit  der  Kamera 1844-1920 ภาษาเยอรมัน รวบรวมผลงานถ่ายภาพของ วิลเฮล์ม  เบอร์เกอร์ (Wilhelm  Burger)  ซึ่งเข้ามาเมืองไทยพร้อมคณะทูตเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๒

คำตอบได้มาจาก

สมุดภาพเมืองไทย โดย เอนก นาวิกมูล กระทู้โดยคุณปริยวาที
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/03/K4197259/K4197259.html

 ;D

นั่นคำถามที่สองค่ะ   
คนที่นั่งอยู่ในรูปชื่ออะไร  อายุเท่าไร   
คำถามที่สาม   
รูปนี้ถ่ายตอนกี่โมง  บอกเศษนาทีมาด้วย

คุณเอนก นาวิกมูลว่ายังงี้  แล้วคุณเพ็ญชมพูว่ายังไงคะ

สิ่งที่เห็นในภาพนี้เป็นหอนาฬิกา ที่คุณเพ็ญชมพูกล่าวไว้ถูกต้องแล้ว และจะเห็นเสาธงไม้ขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่หน้ากรงสกุณวัน และหอนาฬิกานี้มีการเปลี่ยนแปลงไปหลายแบบครับ

สำหรับเรื่องเวลาการถ่ายภาพ ถ้าดูจากภาพต้นฉบับก็ตอบได้ เบื้องต้นคงต้นเกินช่วง ๑๐ โมงเช้าไปแล้ว และผู้เป็นนายแบบคือ ชาวสยามท่านหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๕

คำตอบสุดท้าย...

เอาใหม่ๆ คุ้นๆกันไหมครับ แถวไหนเอ่ย ตึกอะไรสวยจังเลย

น่าจะแถว ๆ สุรวงศ์ - โรงแรมทรอคคาเดโร เป็นคำตอบที่ 1 ค่ะ
คำตอบที่ 2 เขียนไว้ เผื่อมาสายวันพรุ่งนี้  แถว ๆ โรงแรมโอเรียนเต็ล ค่ะ

ให้ใส่ หน้าดีใจ หรือ ร้องไห้ ดีคะ

มา หนับ_หนุน คุณ POJA ค่ะ Trocadero ที่สุริวงศ์แน่ ๆ

อย่าลืมรูป1914ของคุณหนุ่มสยามนะคะ ยังไม่มีใครทายกันเลยว่า
ที่ไหน ตึกอะไร ทำไมมีตราประจำพระองค์สมเด็จพระพันปีที่หน้าจั่ว(เรียกถูกไหมคะ) ระบุปีที่สร้างว่า รศ.135 เสียด้วย
บริเวณรอบ ๆ ก็คล้ายวังหรือไม่ก็วัด

ยกมรดกให้น้องใหม่แก๊งค์ลูกน้ำคุณ Takae ไปลับเขี้ยวเล็บดีกว่า

 :P

ขอเดาว่าเปน "โรงศิริราชแพทยากร " ครับ ;D

อืมๆๆ ปักหมุดเลย  ;D

ถูกต้องครับ ... แบบนี้ต้องยกระดับความยากดีไหมครับ  8)

ถึงเวลาเข้านอนแล้วครับ เดี๋ยวเสียสุขศึกษา ;D :-[ ;D :-[ ;D :-[ ;D :-[

ฝากแก๊งค์ลูกน้ำค่ะ   ภาพอะไร ที่ไหน

ถ้าคุณหนุ่มสยามกับคุณเพ็ญชมพูเข้ามาตอบ  มีคำถามพิเศษ  กลุ่มคนแถวซ้ายสุดเป็นพวกไหนคะ?

ภาพอะไร - ภาพพระราชพิธีเชิญพระโกศ เวียนรอบพระเมรุก่อนขึ้นพระจิตกาธาน พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ รัชกาลที่ ๘

ที่ไหน - ท้องพระเมรุ สนามหลวง

กลุ่มคนแถวซ้ายสุดเป็นพวกไหนคะ - กลุ่มผู้สำเร็จราชการ

แนบภาพสีให้ อ.เทาชมพู ครับ  ;D

ขออภัยที่เข้ามาสอดแทรกขัดจังหวะอีกครั้ง ;D

ผมว่านะครับคุณพี่ไซมีส
กลุ่มคนซ้ายสุดในภาพโจทย์อาจารย์เทาคือพวก "อินทร์ พรหม" มิใช่หรือ
ที่ถือพุ่มดอกไม้เงินทองอยู่นั่น
(อินทร์ - ข้าราชการในพระองค์เชิญพุ่มต้นไม้เงิน พรหม - ข้าราชการในพระองค์เชิญพุ่มต้นไม้ทอง) อย่างละจำนวน 8 คน

ส่วนถัดออกมาที่ใส่ชุดขาวข้าราชการแต่งเครื่องแบบเต็มยศ
น่าจะเป็น "คู่เคียง" ข้างพระบรมศพมากกว่านะครับ (ปลัดกระทรวงและอธิบดีชั้นสายสะพายกระทรวงต่างๆ) จำนวน 16 คน

ไม่น่าจะใช่ "กลุ่มผู้สำเร็จราชการ"
(ไม่มีรายชื่อผู้สำเร็จราชการในริ้วกระบวนแห่พระบรมศพครับ)

ขอเสริมนิดหน่อย

ทหารข้างหน้านั้น คือทหารปืนใหญ่ที่ฉุดชักราชรถปืนใหญ่ที่ไว้พระโกศทองใหญ่ทรงพระศพ เวียนพระเมรุมาศท้องสนามหลวง
มีจำนวน 40 คน

แล้วจะมาทายกลุ่มอินทร์-พรหม ทำมาย ??? ให้คุณอาร์ทเดาไปละกัน (หันหลังให้ด้วย)  :P

นอนไม่หลับ แอบมาเปิดแง้มดูนิดนึง.. ;D

คำตอบ (เดา) สำหรับ # ๑๙๔๙ นะครับ

พิจารณารูปอีกทีแล้ว ดูท่าคงไม่ใช่ "คู่เคียง"
เพราะเห็นถือกระบี่ มีสายเสธ. กัน
ต้องตอบใหม่ว่าเป็น "นายพลราชองครักษ์"
 ;D

สวัสดีครับ..

ขุดขึ้นมาคุย....
ค้นเอามาฝาก....
http://kuhistory.ku.ac.th/matter/?page=9&show=30

เอาโฆษณาเก่ามาลงให้ดู    ใครจะมาสมทบก็ได้นะคะ
ห้างที่ขายสินค้าพวกนี้   ปัจจุบันยังอยู่หรือว่าเปลี่ยนหน้าตาเป็นห้างร้านอื่นไปหมดแล้ว  ก็ไม่ทราบ

 :D

 :)

โฆษณาสิงโตไล่คนขี่จักรยาน  ดิฉันทันเห็นในหน้านิตยสาร   

พอดีมีป้ายโฆษณาตัวจริง มาประกอบฉากครับ.. :-[

^
งดงามมากครับ

ฝากด้วยยานัตถุ์หมอชิต ครับ

"ยานัตถ์หมอมีแก้ฝีแก้หิด  ยานัตถ์หมอชิต แก้หิตแก้ฝี"  ;D ;D จงพูด ๓ ครั้งติดกันอย่างรวดเร็ว

"น้ำส้ม สีทอง"

"คุณพี่คะ !! แหวนเพ็ชรยังไม่ต้องด่านซื้อให้ดิฉันนะคะ ดิฉันอยากได้จักรเย็บผ้า...."

สนใจคำว่า "ด่านซื้อ" ครับ เก่าดีจังครับ  ???

เชฟโลเร็ต ดูจากเบอร์โทรศัพท์ ๖๐๐ คาดว่าสมัย ร.๖-๗ ราคารถนั่ง คันละ ๒๐๕๕ บาท ส่วนรถเก๋ง ๒๖๑๕ บาท  ตกราว ๒๕ ชั่งกว่าๆ แพงนะเนี่ย  :o

น่าทึ่งมาก  กรุณาอธิบายรายละเอียดหน่อยได้ไหมคะ

มีโฆษณามาเพิ่มอีก 
เข้าใจว่ายังมีอยู่ค่ะ  แต่เปลี่ยนชื่อเป็นทิพย์นิยม 

โอวัลตินในภาพนี้ มีเอาไว้กิน หรือเอาไว้ผัดหน้า คะ? ???

FAB น่าจะเป็นผงซักฟอกยี่ห้อแรกที่คนไทยรู้จัก

มิน่าละครับ ถึงได้เรียกผงซักฟอกว่า "แฟ๊บ" เป็นที่ติดปากไม่ว่าจะยี่ห่อไหนๆ  :D

ขอลงภาพสถานที่ก่อสร้างแบบจีนดูบ้าง เผื่อสมาชิกจะได้จำได้  ???

ศาลเจ้าพ่อเสือ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๒

อีกภาพ ถ่ายวันเดียวกัน

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/903/5903/images/ChaoPhoSua_2.JPG)

เทียบกับปัจจุบัน

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/903/5903/images/ChaoPhoSua_Present.JPG)

 ;D

นึกถึงศาลเจ้าพ่อเสือเหมือนกันค่ะ

สวัสดีครับ ;D
เป็นป้ายโฆษณาใช้แขวน ทำด้วยไม้สัก หุ้มมุมด้วยเหล็ก ๔ มุม
รูปวาด น่าจะเป็นสีน้ำ มีร่องรอยลบเลือนไปบางส่วนแล้วครับ
ตรงกลางด้านบน เป็นโคมไฟห้อย หลอดเกลียว พร้อมขาทองเหลือง
เวลาใช้งาน คงจะใช้แขวนผนัง และเปิดไฟเพื่อความเด่นชัด ช่วงที่มีแสงสว่างน้อย
เป็นภาพโฆษณาที่คลาสสิคคุ้นตาครับ ;D

แถมด้วยของที่ระลึกชิ้นนึง เป็นกระจกเงารูปไข่ ด้านหลังภาพฟิลม์
เป็นชิ้นงานสวยคลาสสิค ของร้านนางเลิ้งอาร์ตครับ ;D

คุณเพ็ญชมพู เก่งมากครับ

ศาลเจ้าพ่อเสือที่ตั้งปัจจุบันนี้ผ่านกาลเวลานานตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ ๓ เดิมไม่ได้ตั้งอยู่ถนนตะนาว ซึ่งจากพงศาวดารกล่าวว่ามีการพบเสือในย่านนี้ ถ้าได้ดูภาพเก่าในปลายรัชกาลที่ ๔ ก็เห็นว่าจริงอยู่ บางกอกสมัยนั้นเต็มไปด้วยป่า ไม้ใหญ่ในกรุงเทพเยอะมากมาย

ศาลเจ้าพ่อเสือ ได้เคยถูกไฟไหม้ใหญ่ ๒ ครั้งและได้ทำการบูรณะก่อสร้างใหม่เรื่อยมา ในไฟไหม้ครั้งที่ ๒ นี้ก็สัก ๕-๖ ปีที่ผ่านมานี่เองครับ

ต้องเอาเครื่องโม่หินมาตั้งด้วยนะ สำหรับวัตถุชิ้นนี้  ;D ;D เอาให้หลอนไปเลยครับ

มันคืออะไรหรือนี่  ???

^
ส่งไม้ต่อให้ท่านอื่น   

พร้อมกับเอาภาพโฆษณาเก่ามาแถมอีกครั้ง

มาร่วมโฆษณา ด้วยค่ะ... ;D

ผงซักฟอกโอโม่  ที่ตามมาทีหลังแฟ้บ( สมัยนั้นสะกดว่า แฟ๊บ)

...อีกค่ะ...รับประทานกับหมาก... ;D

แชมพูค่ะ...นายแบบคุ้นๆ มั้ยคะ..

โฆษณา อะไรเอ่ย...

สำหรับผู้ต้องการประหยัดค่ะ  ;D

ลดแหลกแจกแถม มีมานานแล้ว... ;D

สินค้าที่ยั่งยืนพอๆกับกระทิงแดง

แซนฟอไรซ์ คงเป็นผ้าใยสังเคราะห์ละมั้ง   ถึงไม่หดไม่ยืดหลังซัก
นางแบบหน้าตาไม่แฮปปี้เลย คงกลัวหล่น

ผงซักฟอกค่ะ ยี่ห้อนี้หายไปแล้ว...

ชิ้นนี้ ใช้คำพูดง่ายๆ เข้าใจชัดดีค่ะ...

อ.เทาชมพู และเพื่อนสมาชิก เคยซื้อมาขูดๆๆๆๆ กันบ้างหรือเปล่าครับ สนุกนะ

หน้าตาสลากแบบนี้... ตึกนี้อยู่ไหนเอ่ย  ???

อยู่ที่ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ค่ะ  ;D

อาคารคุ้มเกล้า โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กองทัพอากาศ
ตรงข้ามกับสนามกีฬาจันทรุเบกษา

ครับผม  ;D

(สถานที่กำเนิดของกระผมเอง)

เกิดชั้นที่เท่าไรหรือ  ???

ไม่เคยค่ะ แต่จำได้ว่า
๑  ขูดกันทั้งบ้านทั้งเมือง 
๒  มีสาวน้อยหน้าหวาน ตาคมกลมแป๋ว  ตั้งชื่อว่า ธิดาคุ้มเกล้า เป็นนางแบบโฆษณาล็อตเตอรี่ชนิดนี้     ต่อมาเธอเข้าวงการเป็นดารา ในชื่ออาภาพร กรทิพย์   ตอนนี้เล่นละครทีวีเป็นบทแม่ แล้ว

มาขูดสลากคุ้มเกล้าด้วยคน.....ตื่นเต้นที่พบคนที่เกิดในอาคารนี้ที่นี่ด้วย

สงกะสัยว่าเราจะแก่งมากซะแล้ว เพราะเกิดทันขูดสลากนี่

ไหน ๆ จะคุยกันเรื่องโฆษณาแล้ว นึกถึงการห้ามโฆษณาเกินจริงจนต้องเปลี่ยนสโลแกน เช่น

ยาซ่อมปอดใหม่ = ยาซอมป่อยใหม่ หรืออะไรทำนองนี้

ยาทันใจ = ยาทัมใจ

สมัยเด็ก ๆ สนกมากกับการพยายามอ่านฉลากยา ตราสิงโตเหยียบโลก ก็มี สนุกจริง ๆ

 

มาดูช่วงเปลี่ยนผ่านแห่งนวตกรรมบ้าง จากโทรทัศน์ขาวดำ กลายเป็นโทรทัศน์สี

เมื่อก่อนนั้นดูจอขาวดำ ก็ไม่แปลกอะไร รู้ว่าการดูโทรทัศน์สีนั้น รู้สึกว่าเหมือนได้กินของนอก ทันสมัยล้ำยุค ตื่นเต้นมากมาย  :-[

ยาบวดหาย  ที่มาจาก ยาปวดหาย อีกยี่ห้อไงคะ
ยาหม่องตราลิงถือลูกท้อ ก็มีค่ะ

นางเอกโทรทัศน์สีคนนี้คือใครคะ?

วิทยุและโทรทัศน์ ธานินทร์ คุณภาพดี ทนทาน แต่แพ้ภัยโฆษณา และ ขาดการพัฒนารูปร่างหน้าตา เนื่องจากทุนจำกัด

เคยนั่งลงคุยกับท่านเจ้าของโรงงานแห่งนี้ เมื่อท่านต้องขายกิจการให้สหยูเนี่ยนแล้ว นับถือท่านมาก เพราะที่จริง

คนไทยเก่ง ๆ และ มีฝัน ที่จะทำอะไรดี ๆ ริเริ่มสิ่งดี ๆให้ประเทศเรามีมานานแล้ว แต่ไปไม่ได้ไกลด้วยสาเหตุหลายประการ

อาจารย์เทาชมพูว่องไวจริง ๆ มาถามตัดหน้าว่า นางเอกโทรทัศน์สีเป็นใคร

ใครรู้รีบตอบเลย ตอนนี้ ไปกินข้าวเที่ยงก่อนเจ้าค่ะ

 

เข้ามาทักทายคุณร่วมฤดี และสมาชิกด้วยคำถามนี้  ;D

โฆษณาชิ้นนี้พิมพ์ใน พ.ศ. 2497 ธนาคารแห่งนี้เดิมสำนักงานใหญ่ (ตามภาพ) อยู่ตรงไหนหนอ ?
ถือว่ายากพอสมควร อยู่ละแวกย่านชาวจีน ใบ้เบื้องต้นแค่นี้ดูก่อนครับ  ::)

คุณพิศสมัย วิลัยศักดิ์ ขอรับ

ส่งภาพ ยาแก้ปวดหัวสูง-บวดหาย มาให้ดูค่ะ
เด็กรุ่นเกิดที่อาคารคุ้มเกล้าอาจจะไม่เคยเห็น... ;D

ไม่น่าจะใช่นะคะ  คุณพิศมัย วิไลศักดิ์ตอนสาวๆ หน้าตาเป็นแบบนี้

เจอภาพในอดีตของสาวสวยหลายท่าน ค่ะ เลยมาให้ลองทายดูว่า คือใครค่ะ ?

๑. คุณอมรา อัศวนนท์

(http://statics.atcloud.com/files/comments/24/243659/images/1_display.jpg)

๒. คุณรัตนาภรณ์ อินทรกำแหง

(http://statics.atcloud.com/files/comments/24/243663/images/1_display.jpg)

๔. คุณอรัญญา นามวงศ์

(http://statics.atcloud.com/files/comments/24/243667/images/1_display.jpg)

 ;D

คุณเพ็ญชมพู เก่งจังเลยค่ะ  ;D

คุณวิไลวรรณ วัฒนพานิช

ตอบถูกกันอย่างรวดเร็วค่ะ..เยี่ยมจริงๆ

ท่านนี้ละ  ;D ;D

คุณกำธร สุวรรณปิยะศิริ ค่ะ

ขอวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนคนอื่นมาตอบ
เคยตามดูท่านเปาทุกตอน  ก็เพราะติดใจเสียงพากย์ของคุณกำธรนี่แหละค่ะ

ชนกลางอากาศกับคุณดีดีจนได้  :-\

คุณดีดี และ อ.เทาชมพู สุดยอดๆๆ

ท่านนี้ล่ะคะ ใครเอ่ย...

^
http://www.youtube.com/watch?v=j98wSa3VnvE

แล้วนี่ล่ะคะ  ใคร?
ขวานะคะ    ไม่ใช่ซ้าย

ได้ทั้งโฆษณาเก่า และดาราท่านใดเอ่ย  ???

ไม่รู้จริงๆ  :o

แม่ของหมิว ลลิตา ครับ

นางแบบลักษ์  คุณดวงใจ หทัยกาญจน์ ค่ะ

ท่านอาจารย์เทาชมพูตอบแล้วค่ะ ตอบด้วยเสียงเพลงจุฬาตรีคูณค่ะ

คุณมัณฑนา โมรากุล (30 มีนาคม พ.ศ. 2466 - )
ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) ประจำปีพุทธศักราช 2552
อดีตนักร้องหญิงคนแรกของวงดนตรีกรมโฆษณาการและนักร้องรุ่นแรกของวงสุนทราภรณ์ ค่ะ

แม่ของหมิว คุณจารุวรรณ ปัญโญภาส ค่ะ
ทายคนนี้บ้าง   ใครตอบถูกถือว่าความจำแม่นยำมาก

^
เกศริน ปัทมวรรณ

^
เธอเป็นนางเอกคนแรกของ "วนาลี"

อาจารย์เท่า ทิ้งร่องรอยไว้ในภาพ เลยตามได้ไม่ยากค่ะ

ชื่อในการประกวดนางสาวไทย

(http://statics.atcloud.com/files/comments/24/243673/images/1_display.jpg)

 ;D

แยกเบอร์ลินไม่มีนาฬิกาครับ แฟนผมทำงานที่นั่น ไปยืนรอแทบทุกวัน