แผนที่สังเขป แสดงการยกพลขึ้นบกของกองทัพที่ ๑๕ ของญี่ปุ่น
ขึ้นบกที่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช
การขึ้นบกที่ประจวบคีรีขันธ์ มีกำลัง ๑ กรมทหารราบ และ ๑ กองพันทหารช่าง โดยเรือลำเลียง Johoru Maru ไม่มีเรือคุ้มกัน
แบ่งกำลังเป็น ๓ ส่วน เข้ายึดที่หมายต่างๆ คือ
ส่วนที่ ๑ ใช้กำลัง ๑ กองร้อย (+) ยกพลขึ้นบกทางตอนเหนือ เข้ายึดศาลากลางจังหวัด และศูนย์การสื่อสาร และคมนาคมที่เข้าสู่ตัวเมือง
ส่วนที่ ๒ ใช้กำลัง ๑ กองร้อย (+) ยกพลขึ้นบกบริเวณอ่าวประจวบ ทางด้านเหนือของกองบินน้อยที่ ๕
ส่วนที่ ๓ ใช้กำลัง ๑ กองร้อย (+) ยกพลขึ้นบกบริเวณอ่าวมะนาว ทางด้านใต้ของกองบินน้อยที่ ๕
๓๓ ชั่วโมง แห่งการสู้รบ ฝ่ายไทยสูญเสียวีรชน ๓๒ คน ในขณะที่ฝ่ายผู้รุกรานสูญเสีย ๒๑๗ คน ...
"๗ นาฬิกาของวันที่ ๘ ธันวาคม จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีได้เดินทางถึงยังที่ประชุมและรับฟังรายงานเหตุการณ์จากทุกฝ่าย นายปรีดี พนมยงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เสนอให้พิจารณาทางได้ทางเสีย จึงได้ข้อสรุปว่าเราคงไม่มีทางต่อสู้แต่อย่างใด นายกรัฐมนตรีจึงประกาศว่า ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะต้าน หลังจากหารือรัฐบาลไทยจึงได้ลงนาม ในสัญญายินยอมให้ญี่ปุ่นผ่านแดน โดยตกลงรับเงื่อนไขที่กองทัพญี่ปุ่นเสนอ หนึ่งในสามข้อคือ ยินยอมให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทางผ่านประเทศไทย เพื่อไปโจมตีทหารอังกฤษในพม่าและมลายู"
๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ วันวีรไทย มีคนไทยกี่คนที่รู้ถึงความหมาย ...