คั่นรายการด้วยข่าวการสูญเสีย...
แม้ข่าวการสูญเสียจะอยู่ในแขนงทางดนตรี แต่คณะของเธอดังติดหูคนครึ่งค่อนโลกซึ่งรวมถึงบ้านเราจากเพลงที่ร้องในหนังซึ่งผมก็ได้ดูและได้บันทึกเอาไว้นานแล้วแต่ยังไม่ถึงคิวลง ดังนั้นจึงลัดคิวขึ้นมาเล่าเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ ดังนี้...
ถ้า Georgy Girl (1966) เป็นหนังสีผมจะสนุกสนานกับการชมเป็นอย่างมาก เพราะจะได้เห็นเมือง London (อีกหนึ่ง) เมืองโปรดของผมในยุคสมัยที่ผมยังเป็นเด็กเล็ก และเห็นวิวมาประปรายจากการดูหนังทีวี อย่าง ขวัญใจสายลับ สิงห์สำอาง พยัคฆ์ร้าย 707 ฯลฯ
ถ้าสามารถย้อนเวลาได้ นอกจากกรุงเทพฯ แล้วก็มี London ในยุค 60s นี่แหละที่ผมอยากกลับไปเดินชม โดยเฉพาะร้านขายรถเหล็กของโปรด
เนื้อเรื่องของหนังเกิดขึ้นในยุด Swinging London (คือ อังกฤษในยุค 60s ครึ่งหลัง) เล่าเรื่องของสาว Georgina หรือ Georgy ที่ยอมรับความเป็นธรรมชาติของตัวเองคือ อ้วน เฉิ่ม แล้วก็ไม่เคยมีหนุ่มที่เธอหมายปองเหลียวแล แต่ไม่ใช่ว่าเธอขาดเสน่ห์ ไม่งั้นคงไม่เจอประสบการณ์ชายอายุแก่คราวพ่อ (James Mason) ที่เป็นนายจ้างเจ้าของสถานรับเลี้ยงเด็กที่ผู้ปกครองของเธอทำงานอยู่ ที่ย้อนไปเมื่อครั้งตอนเด็ก ๆ ช่างทำตัวน่ารักเหมือนพ่อคนที่สอง แต่พอเธอโตขึ้นกลับเปลี่ยนไปและพยายามล่อเธอมาเป็นเมียน้อย
Georgy พักอยู่กับเพื่อนร่วมห้องสาวสวยแต่สำส่อนและสมองกลวง (Charlotte Rampling - นักแสดงคนนี้ต่อมาดังติดหูผมจากการอ่านใน SP เมื่อไม่กี่ปีมานี้เธอก็ได้เคยเข้าชิง oscar)
เพื่อนคนนี้ปฏิบัติตนกับเธอเหมือนนายจ้างกับคนใช้ สิ่งที่ทำให้เธอทนอยู่ร่วมได้เพราะเพื่อนมีแฟนรูปหล่อที่เธอหลงใหล (Alan Bates) วันหนึ่งเพื่อนก็ท้อง (ครั้งที่เท่าไหร่กับใครบ้างหนังไม่ได้บอก) ทั้ง 2 เลยต้องแต่งงาน เมื่อชายที่ตัวเองแอบหลงใหลย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน แล้ววันหนึ่งพ่อหนุ่มก็มองเห็นรูปทองที่ซ่อนอยู่ภายในของ Georgy ความรักก็เกิดขึ้น
0.41 – I’ll tell you what this little episode’s taught me. It’s taught me what it feels like to look like the back end of a bus and sit around every night with nothing to do.
You bitch! We’re not crying are we?
1.12 – No, she’s right Jos. I’m like the back of a bus. My face is too fat. My hair’s like grass. I’m just a mess.
ความสามารถที่ Georgy ยอมรับว่า ‘เป็นเลิศ’ และจุดประกายให้นายจ้างเฒ่าหัวงูหลงไหล
เล่าได้คร่าว ๆ เพราะไม่มีใครย่อย clip ของหนังเรื่องนี้มาสนับสนุนการเล่าเลย ยังดีที่มี clip ตอนจบของหนัง
ในท้ายที่สุดเมื่อ roommate สาวสมองกลวงออกลูกแล้วตัดสินใจไม่เลี้ยง แล้วแยกตัวไป Georgy กับแฟนที่เคยเป็นผัวของ roommate ก็รับเลี้ยงเด็กแทน แต่แล้วแฟนเฮงซวยก็เบื่อหน้าที่พ่อแล้วหนีไปอีกคน Georgy เลยต้องกลับไปยอมแต่งงานกับเฒ่าหัวงูที่ตอนนี้กลายป็นพ่อหม้าย เพื่อที่จะสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตตัวเองและเด็กน้อยที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนแต่กลับรักเหมือนลูกตัวเอง
ตัวอย่างหนัง
หนังน่ารักเรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งในอังกฤษและอเมริกา การแสดงของ Lynn Redgrave ซึ่งเป็นน้องสาวของ Vanessa Redgrave เด่นจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar ต่อมาเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอีกครั้งจากหนัง Gods and Monsters ในปี 1998 จากบทบาทแม่บ้านขวานผ่าซากอันเป็นบทบาทตรงข้ามกับบทบาทในเรื่องนี้
นี่คือแรงผลักดันให้ผมนั่งดูหนังขาวดำ (ที่พล่ามแล้วพล่ามอีกว่าไม่ช้อบไม่ชอบ) เรื่องนี้
ผมรู้จักเพลง Georgy Girl มาตั้งแต่จำความได้และติดหูมาตลอด แสดงว่าในสมัยนั้นเพลงต้องดังมาก สถานีวิทยุถึงเปิดบ่อยจนซึมเข้าไปในหัวเด็กอย่างผม
พอโตขึ้นมาหน่อยก็รู้ว่าเป็นเสียงร้องของวง The Seekers มาถึงยุคซีดี ผมก็ออกตามหาแผ่นของวงนี้ เพลงของพวกเขามีทำนองน่ารักทั้งนั้นเลย ยกตัวอย่างเช่น
3 เพลงนี้เป็นเพลงของวงจาก Australia ที่ข้ามมาดังที่เกาะอังกฤษก่อนจะเหินฟ้าไปฝั่งอเมริกา
ผมชอบเพลงนี้ที่สุด
หลังจากยุบวง สมาชิกคนหนึ่งก็ form วงขึ้นมาใหม่ที่เกาะอังกฤษแล้วตั้งชื่อว่า The New Seekers เจ้าของเพลงดังเพลงนี้ที่นักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุคบ้านเราจักดีทุกคน
ความดังของเพลงนี้ถึงขนาด บ. น้ำอัดลม ยี่ห้อหนึ่งซื้อลิชสิทธิ์มาดัดแปลงทำ spot โฆษณา spot นี้มาฉายในบ้านเราด้วย (ตอนนั้น ทีวี เป็นขาวดำ)
(0.41 - ที่ขวดเขียนว่า โคคา-โคลา รึเปล่านะ)
โดยส่วนตัว เพลงของวงนี้คือ เพลงแห่งความหลังของผม ทุกเพลงให้บรรยากาศสมัยเด็ก ๆ ฟังแล้วรำลึกถึงอย่างเป็นสุข