เรือนไทย

General Category => วิเสทนิยม => ข้อความที่เริ่มโดย: Wandee ที่ 26 ก.ย. 11, 15:57



กระทู้: กินกะเขียง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 26 ก.ย. 11, 15:57


       ไปกินอาหารที่ร้านใกล้บ้าน  เพราะไม่กล้าไปไหนรถติด     มีขนมเบื้องเม็กซิกันจานหนึ่ง

กับซอสเปรี้ยว     อีกจานที่สั่งมา  วางมาบนเขียงไม้ขนาดยักษ์(แต่ไม่หนาจึงไม่หนัก)

มีแฮมหลายชิ้น   มีไส้กรอกหมูสับที่เรียกว่า นูนเบอร์เกอร์(ใส่ใบเสจที่ลอรา ชอบกิน)หลายชิ้นเล็ก  และมีชิ้นใหญ่ หนึ่งชิ้น

และมีขนมปังฝรั่งเศสหลายชิ้น  ทาหน้าด้วยตับหมูบด  และไส้กรอกเปรี้ยว(เหมือนแหนมเปี๊ยบ)

บนหน้าเหล่านี้  ดูเหมือน แซนวิชเปิดหน้า   โรยด้วยมะเขือเทศหั่นเล็กและใบหอมหั่นบาง

มีสลัดผักใส่ข้าวโพดแกะเม็ดมาด้วย


       ยื่นมือถือซ่อมข้ามโต๊ะไปจิ้มมาหลายชิ้น  เพลินใจดี


       นึกถึงนักประพันธ์ที่รักและนับถือ     'รงค์   วงษ์สวรรค์     เมื่อแรกขึ้นไปสร้างบ้านที่เชียงใหม่  ต้องหาน้ำและ

ปลูกต้นไม้     ตอนนั้นสวนติดกับเขาและป่า  ใครๆก็ผ่านมาผ่านไป  และเครื่องมือทำสวนก็หายไป   คุณ'รงค์ก็ออกไปลาดตระเวณ

เพราะเป็นนักเดินป่าเก่าตาม ม.ล.ตุ้ย  ชุมสายไปทั่วทิศ     ไปเจอชายพเนจรแต่ไม่มีม้านะคะ  ผ่านมา  ประมาณว่าจะพักอยู่ในบริเวณ

ทั้งหมดนี้เล่าจากความจำค่ะ


       ก็ถามแบบคนไทยคุยกันว่า  ทำไรกิน      เพราะเห็นเขียงไม้และผักป่าที่เก็บมาวางอยู่        ชายผู้นั้นก็ตอบว่า  "กินกะเขียง"

คุณ'รงค์ผ่านไปอีกทีก็เอาเครื่องกระป๋องสองสามกระป๋องไปทิ้งไว้ที่เขียงอันว่างเปล่านั้นแหละ     แล้วจอบที่หายไปก็เดินกลับมาพิงอยู่ที่หลังบ้าน

หรืออะไรทำนองนี้     ท่านที่อ่านมาแล้ว  กรุณาไม่รบกวนให้นำทั้งเรื่องมาลง  เพราะอยากจะบอกว่า  ชอบวลีที่ว่า "กินกับเขียง"  จังเลย


      ที่บ้านมีเขียงหลายอัน  ที่มีหัวและหางเป็นหมูเป็นไก่ก็มี

      สมาชิกชมรมมาที่บ้านคงจะเจออาหารจานนี้ไปอีกนาน  เพราะทำง่าย

      รู้สึกว่านานแสนนานแล้วที่ได้คุยกับคุณรงค์เรื่อง  มอนตาเรย์ และโรงงานทำปลากระป๋อง




กระทู้: กินกะเขียง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 26 ก.ย. 11, 19:05
 ;D


กระทู้: กินกะเขียง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 26 ก.ย. 11, 20:56

       
       ขอบคุณคุณดีดีมากค่ะ      ที่จริงเขียงที่เห็นมาจ่ำม่ำมากเลยค่ะ

ท่านที่เคารพติดต่อมาว่า  เพื่อน ๆที่สอนหนังสือ รู้จัก  กินกะเขียง  กันเป็นส่วนมาก



       มีอาหารอีกอย่างที่สหายนักอ่านเจอแล้ว   ฝีมือแม่ครัวนักอ่านทำเป็นเสบียง  คือ เรือดำน้ำค่ะ  ซับมารีน

ไปประชุมกันที่หอจดหมายเหตุบ่อย ๆ     มีร้านอาหารอร่อย  แต่พวกเรากินกันจนเมนูซ้ำไปมา

สหายที่ค้นเรื่องต่างๆก็ตามกันมาเป็นแถว  แย่งกันคุย  พิมพ์ข้อมูลทีเด็ดมาแจกกันบ้าง


       วิธีทำคือหาขนมปังฝรั่งเศสท่อนกลาง  ยาวประมาณข้อมือถึงศอก(ศอกผู้ใหญ่)   ควักขนมปังออกไปเล็กน้อย

หลังจากเจาะช่องเป็นท้องเรือโดยหั่นฝาบนออก         ทาเนยที่หอมที่สุดเท่าที่จะหาได้  เพื่อไม่ให้เนื้อขนมปังดูดน้ำไงคะ

ทีนี้ผู้โดยสารหรือเสบียงที่จะใส่ก็คงมี แฮม  ถ้าเป็นเวอร์จิเนียก็จะหอมและหวานนิดๆ   โรสบีฟสักสองชิ้น

หมูและเนื้อสับอบ  กลิ่นต่างๆเช่น  พิซซ่า    ใส่มะเขือเทศที่แกะไส้ออกแล้ว   ใส่ผักสลัด(ต้นละ ๓๐ บาทแล้วราคาวันนี้เองค่ะ)       

ทีนี้ชีสที่โรย  ใช้ มอสซาเรลซ่าของไทยที่ขูดแล้วราคาประมาณ ๓๕ บาท        จะมีไข่ต้มหั่นเสี้ยวประดับไปแบบผลุบโผล่ก็ได้


    กรุณาอย่าใช้บาโลน่าพริกนะคะ   รสไม่เจ้ากัน


       ปิดฝา  พันด้วยกระดาษแก้ว

ได้รับแจกเอกสารที่ค้นคว้าใหม่ๆมาหลายเรื่องเลยค่ะ   เพราะคนที่กินแล้วอารมณ์ดีทุกคน   มองกันเป็นมิตรไปหมด



กระทู้: กินกะเขียง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 ก.ย. 11, 09:17
submarine sandwich ค่ะ  ;D


กระทู้: กินกะเขียง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 27 ก.ย. 11, 09:57


อิอิอ่ะอ่ะ      แบบนี้น่าจะเป็นรถด่วนนะคะ

ที่จริงจะออกปากอ่าวไปกินกะกระทะ  หรือกินกะครกก็ได้

นึกถึงคนสัญจรที่เก็บผักในป่าสารพัดจะกินได้




กระทู้: กินกะเขียง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 ก.ย. 11, 10:04
ชอบขนมปังฝรั่งเศสมาก ต้องกรอบด้านในนุ่ม ผิวนอกให้แตกลายงานิด ๆ หอมเตาไฟ ต่อให้เคี้ยวจนฟันปลอมหลุดออกมา ก็จะขอกิน  ;D


กระทู้: กินกะเขียง
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 27 ก.ย. 11, 13:04
เรือดำน้ำ สูตรคุณวันดี  เมื่อรับประทาน ๑ ลำ
จะอิ่มเอิบไปได้นานแรมเดือน     :-\


กระทู้: กินกะเขียง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 27 ก.ย. 11, 13:49
      ที่บันไดหอสมุดแห่งชาติด้านเหนือไม่นานมานี้     คณะพรรคได้ไปประชุมกินเรือดำน้ำกันค่ะ

ตอนกลางวัน   และคอยหลบท่านผู้ใหญ่ที่ผ่านไปประชุมที่หอจดหมายเหตุ

เจ้าของสำนักพิมพ์ก็แวะมาบอกข่าวว่ายกหนังสือสำคัญให้หอจดหมายเหตุไปแล้ว  และการ

ถ่ายเอกสารก็เรียบร้อยเสร็จสิ้น    โอ้โฮ!  เพื่อน ๆ ดีใจกันมาก    เราซึ้งใจในน้ำใจของ

นักเล่นหนังสือเก่าหลายคนที่แบ่งปันสมบัติตนให้กับอนุชนและโบราณ กับชราชนคนอื่น ๆ

เมื่อเรามีความนับถือซึ่งกันและกัน  และเจรจากันโดยสุจริตไม่มีอะไรแอบแฝง

แหะ ๆ   ได้เรื่องใหม่ ๆ ที่อ้างอิงครบ  มาเพียบเลยค่ะ

       ได้เรียนรู้การค้นหาหลักฐานของหลายท่าน       บางกอกไตมส์นั้นมีแต่วันเดือนปี

ถ้าไม่มีคณะพรรคคอยกระตุ้นให้ค้น  เลิกทำงานไปนานแล้ว

นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยดังของโลก   เดินวนเวียนหาบางกอกไตม์ไม่เจอ   พอเจอรายการที่อยู่ในแฟ้ม

ก็งงงัน     พวกเราก็ถามไถ่และเสนอคำแนะนำอันค่อนข้างจะแตกแยก     โชคดีที่มีคนเก่งอยู่แถวนั้นเยอะ

ไม่อย่างนั้นฝรั่งต้องเป็นฝรั่งดองไปแล้ว

      
       จบเรื่องถ้อยคำอันกินใจของนักประพันธ์เพียงแค่นี้