เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: Wandee ที่ 02 ต.ค. 07, 12:25



กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 02 ต.ค. 07, 12:25
ประสูติในรัชกาลที่ ๔ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม  พ.ศ. ๒๔๑๑
รัชกาลที่ ๕ ทรงสถาปนาเป็นกรมขุนสุพรรณภาควดี ในปี ๒๔๔๖

พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า  ในพระราชพิธีทวีธาภิเษกสมโภชสิริราชสมบัติ  การทั้งปวงได้จัดเป็นคู่ๆกัน  มาได้พระราชทานพระเกียรติยศพระธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์หนึ่งแล้ว
ควรพระราชทานพระเกียรติยศแก่พระเจ้าลูกเธอพระองค์หนึ่งให้เป็นคู่กัน  ตามพระราชประเพณีแต่ก่อนก็เคยมีมาเป็นตัวอย่าง
จึงทรงพระราชดำริว่า พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี
เป็นพระเจ้าลูกเธอคู่ทุกข์คู่ยากมาแต่เดิม
ได้ทรงพระกรุณายกย่องพระเกียรติยศไว้ยิ่งกว่าพระเจ้าลูกเธอพระองค์อื่น  มีการโสกันต์ใหญ่เขาไกรลาสเป็นต้น
ทรงพระปรีชา มีพระอัธยาศรัยอันดี อารีรักทั่วไปในพระเจ้าลูกเธอที่อ่อนพระชนมพรรษากว่า
เป็นที่พำนักและเป็นที่นับถือทุกพระองค์
ควรจะดำรงพระเกียรติยศเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายใน เฉลิมพระเกียรติยศในครั้งนี้ได้


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 02 ต.ค. 07, 13:15
เป็นที่ ๑ ในเจ้าคุณจอมมารดาแพ  ธิดาเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์(วร  บุนนาค)และท่านผู้หญิงอิ่ม

สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๗

(ราชสกุลพระบรมราชวงศ์จักรี  บรรเจิด  อินทุจันทร์ยง   คุรุสภา ๒๕๓๙  หน้า ๕๖๕ - ๕๖๙)



งานโสกันต์
(ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕ นำเบอร์ ๓๒๙ วันอาทิตย์ เดือน๒ แรม ๑๒ ค่ำ ปีขาน สัมฤทธิษก ๑๒๔๐  แผ่นที่ ๔๒)

ขอคัดลอกเฉพาะเครื่องจักรกล  ที่มีในเขาไกรลาศ  ๓๔ ห้อง   สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ  เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์ทรงขอแรงบันดาพระบรมวงษานุวงษ์ ซึ่งเต็มพระทัยฉลองพระเดชพระคุณ


ห้องที่ ๑  พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค   ทรงทำเรื่องอิเหนาเมื่อวิหยาสะกำตามกวาง
ห้องที่ ๒  พระเจ้าราชวงษ์เธอ กรมขุนบดินทรไพศาลโสภณ  ทรงทำเรื่องอุณรุศเมื่อสมพาศกินนร
ห้องที่ ๓  เรื่องนารายน์ปราบอสูรกัณฑกะ
ห้องที่ ๔  เทพยาดาจับระบำ
ห้องที่ ๕  นารายน์ปราบเอกทันต์
ห้องที่ ๖  นารายน์ปางเมื่อนนทุกข์ไปอยู่ที่บันไดเขาไกรลาศ  เทวดาตบศีรษะนนทุกข์  นนทุกข์ไปขอพรพระอิศวรประสาทพรให้  นารายน์จำแลงเป็นนางนารายน์มาปราบนนทุกข์
ห้องที่ ๗  นนทุกข์ถือขันทองอยู่ที่เชิงบันใดที่จะขึ้นไปบนพระวิมาน

ว่ามาทั้งนี้อยู่บนเขาไกรลาศทั้งสิ้น


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 02 ต.ค. 07, 13:42
เมื่ออ่าน ราชกิจจานุเบกษา มาถึงตอนนี้  นึกถึง แม่พลอยในสี่แผ่นดินขึ้นมาทันที

     "พอตกค่ำถึงเวลาเริ่มจุดไฟทั้งพลอยและช้อยก็ไม่มีตาสำหรับจะดูที่อื่นนอกจากที่เขาไกรลาศ.............
เพราะเวลากลางคืนแสงไฟที่ประดับประดาไว้  ได้เปลี่ยนสภาพเขาไกรลาศที่ทำด้วยไม้ไผ่และดีบุก  ให้กลายเป็นเขาไกรลาศ
ในเทพนิยายไปจริงๆ  ต้นไม้ต่างๆที่ปลูกไว้บนเขาดูระยิบระยับไปด้วยดอกไม้ที่ถูกแสงไฟและลูกแก้วสีต่างๆที่แขวนไว้  รูปภาพต่างๆถูกแสงไฟก็กลับมีชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นรูปเทวดาหรือรูปสัตว์ที่เรียงรายอยู่ทั่วไป    ตามเชิงเขาไกรลาศนั้นทำเป็นคูหา   แต่ละคูหาก็ตั้งตุ๊กตาไขกลกระดิกตัวเคลื่อนไหวได้เหมือนคนจริงๆ 
แต่ละคูหาก็แสดงเรื่องต่างๆ มีรามเกียรติ์บ้าง  อิเหนาบ้าง  สังข์ทองบ้าง   จับเอาตอนใดตอนหนึ่งมาแสดง  ซึ่งแสดงเป็นภาพด้วยตุ๊กตากลซ้ำไม่รู้จบ
.................................................................
พอเสร็จงานแล้ว  เสด็จถึงกับทรงทักว่า "นังพลอยเที่ยวงานเสียผอม"


ห้องที่ ๘   เรื่องพิราปป่า  พระรามนางษีดาพระลักษณ์เดินชมสวน    (รักษาตัวสะกดเดิม)
ห้องที่ ๙   ทำโฮเต็ล  ฝรั่งเดินออกจากตึกปลไปตึกได้
ห้องที่ ๑๐  เรื่องท้างกระบิลมหาพรหมแลนางทั้ง๗  แต่งตัวสีต่างๆทรงพาหนะแลถือสาตราวุธต่างๆกัน  มีฤๅษีแลเทวดาแห่ห้อมล้อมมา
ห้องที่ ๑๑  เรื่องอิเหนา เมื่ออุณากรรณไปบวชเป็นดาบศนี  ประสันตาไปพบ
ห้องที่ ๑๒  เรื่องอิเหนา  เมื่ออิเหนารับแอหนังขึ้นรถมาไว้ในเมืองกาหลัง
ห้องที่ ๑๓  เรื่องพระอภัยมณี ตอนเกษราชมสวน  ศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์ไปคอยอยู่ที่ในสวน
ห้องที่ ๑๔  รามเกียรติ  เมื่อไวยราบสะกดทัพพระราม  หนุมานจำแลงเป็นวานรใหญ่ล้อมพลับพลาไว้
ห้องที่ ๑๕  ไชยเชฐ  เมื่อนางสุวินชาเดินไปกลางทางกับวิลา  กระโดดลงในแม่น้ำให้จรเข้กิน  เกิดเป็นบัวกรดผุดขึ้นรับนางสุวินชาไว้


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 02 ต.ค. 07, 14:17
ที่ ๑๖   รามเกียรติ  หนุมานองคต  จำแลงเป็นสุนัขเน่ากับกาจิกสุนัขเข้าไปให้กุมภกรรณเห็น   (รักษาตัวสะกดเดิม)
ที่ ๑๗   อิเหนา   บุษบาอยู่ในถ้ำ  บุษบาชมสตาหมัน  ปะตารกาหราให้ลมหอบรถบุษบากับพี่เลี้ยงทั้งสองลอยไปในอากาศ
ที่ ๑๘   ขุนช้างขุนแผน เมื่อขุนช้างดำน้ำ
ที่ ๑๙   รามเกียรติ  หนุมานไปนอนในศาลาแล้วเนรมิตตัวคับศาลา
ที่ ๒๐   อิเหนา  ชนไก่ที่วังปันจรากัน  อิเหนากับอุนากรรณนั่งดู

ที่ ๒๑   พระอภัยมณี  ศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์เนรมิตรฟางเป็นเรือสำเภายนต์ข้ามไปรมจักร
ที่ ๒๒   รามเกียรติ  ทหารในสุวรรณพลับพลามาลองฤทธิกัน  สุกะสานปลอมเข้ามา
ที่ ๒๓   อิเหนา   ปันหยีเล่นหนังให้แอหนังดู
ที่ ๒๔  รามเกียรติ  ประไลยกันลองแรงกับมหิงษา
ที่ ๒๕  รามเกียรติ หณุมาณลงตามก้านบัว  ด้านช้างด่านเขากระทบกันทุกทีที่รบ  ด่านยุงเท่าแม่ไก่  ยุงบินขึ้นได้  หณุมาณหายไปต่อหน้ามัจฉานุ


ที่ ๒๖  อินทรชิตทำพิธีโลทันติเรียกฝูงนาค
ที่ ๒๗ ท้าวดาหาใช้บล  มีกระบวนทหารและตำรวจ  กลองชนะแตรสังข์เครื่องสูง อภิรุมชุมสายดอกไม้เงินดอกไม้ทอง  รถท้่วดาหากับมเหษีทั้งห้า  รถบุษบากับสียะตรา
        สียะตราแหวกม่านออกมาได้  ม้าของอิเหนาก็เดินได้  นกกางเขนร้องได้เป็นเพลงต่างๆ  หมีอ้าปากได้  ท่านทำเป็นของเหมือนจริงทุกสิ่ง
ที่ ๒๘ กุมภกรรณทดน้ำ  หนุมาณจำแลงเป็นลิงใหญ่ไปรบ
ที่ ๒๙  ระเด่นมนตรีไปอาบน้ำเล่นน้ำพุที่ลำธาร  น้ำไหลมาได้จริงๆ  ครว่ายน้ำได้ในลำธาร
ที่ ๓๐  ย่าหรันตามบุหรง


ที่ ๓๑  วิรุณจำบังตีลิงไปถึงหน้ารถพระราม
ที่ ๓๒  พระลอไปจับไก่   ไก่นั้นคลอดฟองออกมาได้และเดินได้น่าดูจริงๆ  เป็นของอัศจรรย์ประหลาด
ที่ ๓๓  พระปิ่นทองเมื่อนางแก้วหน้าม้าพาบุตรมาส่งให้
ที่ ๓๔  สุครีพพาองคตลงท่าลงไปได้ในน้ำ  ปูนั้นอ้าก้ามได้คอยจะหนีบองคตที่ลอยอยู่  ในน้ำมีท่าตำหนักแพ


เรื่องรายละเอียดของดูหาก็มีดั่งนี้แลท่านผู้เจริญ  ฟังดูสนุกสนานยิ่งนัก


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 07, 15:05
อ้างถึง
สียะตราแหวกม่านออกมาได้  ม้าของอิเหนาก็เดินได้  นกกางเขนร้องได้เป็นเพลงต่างๆ  หมีอ้าปากได้  ท่านทำเป็นของเหมือนจริงทุกสิ่ง
ระเด่นมนตรีไปอาบน้ำเล่นน้ำพุที่ลำธาร  น้ำไหลมาได้จริงๆ  คนว่ายน้ำได้ในลำธาร
พระลอไปจับไก่   ไก่นั้นคลอดฟองออกมาได้และเดินได้น่าดูจริงๆ  เป็นของอัศจรรย์ประหลาด

อยากเห็นตุ๊กตากลพวกนี้จริงๆค่ะ คงน่ารักมาก


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 02 ต.ค. 07, 19:00
เคยเห็นแต่ตุ๊กตาประดับงานพระเมรุทำเป็นรูปรามเกียรติ์ตอนต่างๆ เช่น ตอนมังกรกัณฑ์ ภาพจับ รูปนางกินรีและลูก คาดว่าเป็นกะไหล่เงิน สูงสักคืบ แต่กระดุกกระดิกไม่ได้

อยากเห็นตุ๊กตากลเหมือนกันครับ รู้สึกจะมีการสืบทอดมาบ้างที่วัดไทร เพชรบุรี มีการทำเครื่องตั้งประดับเมรุติดตั้งกลไกต่างๆน่าดูมาก


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 07, 19:06
ตุ๊กตากลพวกนี้ ทำด้วยวัสดุอะไรคะ  ไม้? ดินปั้น?  หรือเป็นกระดาษปิดหลายๆชั้น  แบบหุ่นกระบอก
เมื่อเคลื่อนไหวได้ แสดงว่ามีการต่อหัว คอ แขน เป็นท่อนๆ  แบบหุ่นกระบอก

เคยเห็นตู้กระจกใส่ตุ๊กตากล  พอหยอดเหรียญลงไปในช่อง  จะมีเสียงเพลง ตุ๊กตาก็เคลื่อนไหวได้จากลวดที่ดึงแขนขาให้ขยับเป็นจังหวะ
ใช้หลักการเดียวกันหรือเปล่าคะ


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 02 ต.ค. 07, 20:38
ปลื้มมากค่ะที่คุณเทาชมพูสนใจ

ขอเล่าต่อเรื่องการโสกันตพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ที่บรรยายเรื่องการประดับตกแต่ง

เขาไกรลาศนั้นสูงสี่วาเศษ บุด้วยดีบุกแล้วด้วยสีเงินทองและนาก
ที่เชิงเขาไกรลาศด้านประจิมทิศ  มีที่สรงน้ำพุออกจากปากราชสีห ๑  ปากโค ๑  ปากอัศดร ๑  ปากคชสารหรึ่ง  มีพระแท่นบัวกลุ่มปิดทองคำเปลวสองชั้น
ที่พระองค์เจ้าจะได้เสด็จขึ้นสรงน้ำบนนั้น

ด้านใต้มีพลับพลาทรงเครื่ององค์หนึ่ง  ปักฉัตรเงินทองนากเจ็ดชั้นล้อมเขา ๑๘ คัน   ราชวัตรทรงเครื่องล้อมเขาทั้งสี่ทิศ

บนวิมานยอดไกรลาศนั้นบุทองอังกฤษย่น  มีม่านหักทองขวางทั้งสี่ทิศ ล้อมบุษบกใหญ่มีราชวัตรทอง แลพระทวารยอดจรนำีมีม่านทองแผ่ลวดปิดทั้งสี่
พระทวารหลังราชวัตรทอง  ปักเครื่องสูงเจ็ดชั้น ๑๒ คันทั้ง ๔ ทิศ


ที่เขาไกรลาศนั้น  มีต้ันไม้ต่างๆประดับด้วยดอกไม้จีน  ผลนั้นแล้วด้วยแก้ว  มีนกต่างๆ
หม่อมเจ้าสัตบันในพระเจ้าบรมวงษเธอพระองค์เจ้าเรณู  แลหม่อมเจ้านิลวรรณในพระเจ้าราชวงษเธอกรมหมื่นอุดมลักษณะสมบัติ ทำถวาย สิบอย่าง
จมื่นวิไชยยุธเดชาคนี ทำรูปนารีแขวนต้นไม้
พระวรวงษเธอพระองค์เจ้าประดิษฐวรการ  พระเทพรจนา  หลวงกัลยาไมยพิจิตร  ปันช้างสิบตระกูล  ช้างนั้นสีต่างๆกัน
ม้าอาชาไนย  ม้่าวลาหก  คชสีห ไกรสรราชสีห  บัณฑุราชสีห  พยัคฆ  หมูหมีแลเลียงผา กินนร  พระอิทร์ทรงช้างเอราวัณ  วิชาธรแลฤๅษี

กรมหมื่นภูมินทรภักดีทำวานรแลชะนีถวาย
หม่อมเจ้าวัชรินทร์ในพระเจ้าราชวงษเธอ กรมขุนบดินทรไพศาลโสภณทำกระรอกแลกระแตถวาย

หม่อมเจ้ายินดีในพระเจ้าบรมวงษเธอกรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ ๑   หม่อมเจ้าสวัสดิ์ในพระเจ้าบรมวงษเธอ กรมพระพิทักษเทเวศ ๑   
หม่อมเจ้าทั่งในพระเจ้าราชวงษเธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี ๑  ทั้งสามนี้ทำงูถวาย

.........................................
........................................
ที่ยอดเขาไกรลาศสี่มุมนั้น มีบุษบกประดับด้วยทองอังกฤษ มีรูปท้่วโลกบาลยินอยู่ในบุษบกที้งสี่
บุษบกด้านอุดรทิศเชิญพระอิศวรพระอุมา   พระมหาวิฆเนศวรู่อยู่ในบุษบกทักษิณทิศ  พระนารายน์พระลักษมีพระมเหศวรีอยู่ในบุษบก

พระเพลิงทรงแรดองค์หนึ่ง  นารายน์ทรงครุฑองค์หนึ่ง  พระไพสบทรงโคองค์หนึ่ง   พระโสมทรงม้าองค์หนึ่ง  ยืนประจำอยู่สี่ทิศ 
หน้าบุศบกนั้นมีเครื่องนมัสการประจำทุกแห่ง

ที่บนเขาไกรลาศและเนินเขานั้น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ  ทรงทำรถพระอาทิตย์แลรถพระจันทร์  มีดวงจักรกลมหมุนไปได้  จักรเมฆขลารามสูรไล่ตามกัน  แลสุครีพพาลี 


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 07, 09:42
อ้างถึง
เขาไกรลาศนั้นสูงสี่วาเศษ บุด้วยดีบุกแล้วด้วยสีเงินทองและนาก
ที่เชิงเขาไกรลาศด้านประจิมทิศ  มีที่สรงน้ำพุออกจากปากราชสีห ๑  ปากโค ๑  ปากอัศดร ๑  ปากคชสารหนึ่ง  มีพระแท่นบัวกลุ่มปิดทองคำเปลวสองชั้น
ที่พระองค์เจ้าจะได้เสด็จขึ้นสรงน้ำบนนั้น

ดิฉันเคยเห็นรูปเขาไกรลาศแบบที่มีน้ำพุจากปากสัตว์ ค่ะ  แต่หาไม่เจอ  คุณพิพัฒน์น่าจะมี


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 03 ต.ค. 07, 10:18
เคยเห็นในจิตรกรรมฝาผนังครับ บริเวณที่เขียนโลกสัณฐาน (เรื่องราวเกี่ยวกับโลกและจักรวาล) แถบสะกัดหลังพระประธาน ส่วนที่เขาไกรลาสจำลองคิดว่าน่าจะเป็นการจำลองสร้างสระอโนดาตที่มีน้ำไหลออกมาจากปากช้าง ม้า สิงห์ โค เช่นเดียวกัน ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าเคยเห็นมีการทำน้ำพุเช่นนี้ประดับตามวัดบางแห่ง (ไม่แน่ใจว่าที่วัดสามปลื้มหรือเปล่า รบกวนอาจารย์พิพัฒน์ด้วยครับ)


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ต.ค. 07, 12:55
ขอบคุณคุณเทาชมพูและคุณ Kurukula

ขออนุญาตเล่าต่อในเรื่องกระบวนแห่ฝ่ายหน้าที่เห็นว่าเป็นความที่หาอ่านได้ยาก
(ราชกิจจานุเบกษา  เล่มที่ ๕ นำเบอร์ ๓๖๙  วันอาทิตย เดือน ๔ ขึ้น ๓ ค่ำ  ปีขาน สัมฤทธิศก ๑๒๔๐  แผ่นที่ ๔๗  หน้า ๓๗๕)

โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงษเธอ เจ้าฟ้ามหามาลา  กรมพระบำราบปรปักษ์  พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นนเรศวรฤทธิ  ทรงกะเกณฑ์แลจัดกระบวนคู่แห่หน้าหลังแลยืนกลาบาตประจำริ้ว

ฝ่ายหน้าทั้งสิ้นได้ทรงจัดกระบวน  มีทหารญี่ปุ่น ๙   ทหารอย่างฝรั่งเศส ๒๕  ทหารแตร ๓๐  ทหารนา ๒๐๐  รวม ๒๖๔ คน  กระบวนหน้าตั้งริ้วนอกประตูราชสำราญ

กระบวนหน้า ๑๘๐ คนตั้งริ้วพระราชวังข้างใน(ขอข้ามรายละเอียด/วันดี)



คู่แห่บุตรข้าราชการ   จีนแต่งตัวอย่างจีน ๒๐   อาสาจามแต่งตัวอย่างมาลายู ๒๐  กรมท่าขวาแต่งตัวอย่างแขกเทศ ๒๐  บุตรข้าราชการศีรษะจุก ๘๐  รวม ๑๔๐  กระบวนนำตั้งริ้วในพระราชวังข้างใน
ต้นเชือกเด็กศีรษะจุก  หลวงรัตนา ๑  หลวงมหามณเฑียร ๑    รวม ๒ คน
ปลายเชือกเด็กศีรษะจุก  หลวงวิเชียรไพชยนต์ ๑   หลวงสกลพิมาน ๑  รวม ๒ คน

กระบวนแตรงอน  ๑๐  สารวัตร ๑  รวม ๑๑
ขุนหมื่นเชิญเครื่องสูง  รวม ๒๒ สารวัตร ๒  รวม ๒๔
มหาดเล็กเชิญพระแสงหว่างเครื่อง ๑๐

ขออนุญาตข้าม เจ็ดบรรทัด/วันดี

ขุนหมื่นหามพระราชยานกง ๑๖ สารวัตรกำกับพระราชยาน ๑  รวม ๑๗

คู่เคียง ๑๒ คน(ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งสิ้น)
กระบวนทหารเดินต่อท้ายข้าหลวง รวม ๒๘๒

กรมอาสาญี่ปุ่น  แต่งตัวอย่างจีนถือขวานจีน  ๖๐
กรมอาสาจาม  แต่งอย่างมาลายูถือหอกคู่  ๖๐
กรมอาสาใหม่ กรมท่าแต่งตัวอย่างแขกเทศถือเสโลเขนหนังดิบ ๖๐
กรมเกณฑ์หัดอย่างฝรั่งสรวมเสื้อเสนากุฏถือพร้าประกัก(รักษาตัวสะกดเดิม) ๖๐  รวม ๒๔๐

กระบวนแต่งตัวถืออาวุธยืนกลาบาตรายทาง .................


(อ้างอิง พจนานุกรมมติชน ๒๕๔๗)
เสื้อเสนากุฏ เสื้อทหารสมัยโบราณ  พิมพ์เป็นลายสีรูปสิงห์ขบสำหรับแต่งเข้ากระบวนแห่ของหลวง
เสโล  เครื่องกันอาวุธ โล่ เช่นถือเสโลโล่ดั้งหอกดาบ  โตมรกำซาบปืนผา(รามเกียรติ์ ร.๒)
เขน  เครื่องป้องกันอาวุธรูปกลมนูนคล้ายกระดองเต่า ทำด้วยโลหะ หนัง หรือหวายถัก  ด้านหลังมีห่วงสำหรับคล้องแขนและมือจับ
พร้า   มีดขนาดใหญ่  เครื่องมือตัดฟัน  มีหลายชนิดเช่นพร้อขอ  พร้ากลาย
       
(อ้างอิง อักขราภิทานศรับท์  บลัดเล ๒๔๑๖ ฉบับอาจารย์แม้นมาศ ชวลิตพิมพ์ถอดแบบ ๒๕๑๔   หน้า ๔๗๑)
พร้า  มีด  คือเครื่องเหล็กใช้สำหรับสับฟันเป็นต้น  มีด้ามทำด้วยไม้  มีคมข้างเดียว  เช่นพร้าโต้คือพร้าหน้าไก่  พร้ากราย  พร้าหวด  หร้าหัวเสียม)

คำถาม
๑. พร้าประกัก  คือ พร้าปะตัก  เป็นไปได้หรือไม่
๒. อาสาจามถือหอกคู่  อาจจะเป็นหอกสั้นได้หรือไม่


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 07, 12:59
รูปที่ดิฉันเห็น เป็นรูปถ่ายค่ะ คุณ Kurukula
คำถามของคุณ Wandee ไม่มีความรู้จะตอบค่ะ  ต้องรอท่านอื่น


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: หนอนบุ้ง ที่ 03 ต.ค. 07, 16:03
ดิฉันเคยเห็นรูปเขาไกรลาศแบบที่มีน้ำพุจากปากสัตว์ ค่ะ  แต่หาไม่เจอ  คุณพิพัฒน์น่าจะมี

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1824.0

นี่ค่ะ ลิ้งค์เขาไกรลาศแบบที่มีน้ำพุจากปากสัตว์ คคห 13


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: หนอนบุ้ง ที่ 03 ต.ค. 07, 16:04
เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ กับพระธิดาทั้ง 3 พระองค์ (จากซ้าย) พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์
เจ้าคุณพระประยูรวงศ์อุ้มพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าบัณฑรวรรณวโรภาส
และพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสุวพักตร์วิไลยพรรณ


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: หนอนบุ้ง ที่ 03 ต.ค. 07, 17:55
พระสนมเอกที่ ร. 5 ทรงรักมาก
เจ้าคุณเจ้าจอมมารดาแพ เจ้าคุณพระประยูรวงศ์


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: หนอนบุ้ง ที่ 03 ต.ค. 07, 21:18
กำเนิดพระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์
สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงนิพนธ์ว่า

…เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ออกไป อยู่พระตำหนักสวนกุหลาบได้สามเดือนเริ่มทรงครรภ์
ต้องคิดหาที่สำนักซึ่งจะคลอดพระหน่อเพราะจะคลอดในพระราชวังไม่ได้ ด้วยผิดพระราชประเพณีดังกล่าวมาแล้ว วังใหม่ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าก็ยังไม่ได้สร้าง

แต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานวัง อันทรงสร้างเป็นที่ประพาส ณ สวนนันทอุทยานที่ริมคลองมอญทางฝั่งธนบุรี แก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯไว้แต่ก่อน จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตึกซึ่งสร้างเป็นพระราชมณเทียรในสวนนั้นเป็นที่สำนัก

เมื่อถึงเวลาที่เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ต้องไปอยู่ที่สวนนันทอุทยาน กรมสมเด็จพระสุดารัตน์ก็เสด็จไปอยู่ด้วย

ส่วนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯนั้นทรงมีหน้าที่รับราชการมาก ต่อเมื่อเสร็จการปฏิบัติสมเด็จพระบรมชนกนาถแล้วจึงเสด็จลงเรือข้ามฟากไปในเวลาค่ำ

เคยตรัสเล่าว่าบางคืนน้ำในคลองแห้ง ต้องเสด็จขึ้นบกทรงพระดำเนินไต่สะพานยาวไปตามริมคลองก็มีบ่อยๆ ไปถึงได้บรรทมต่อเมื่อจวนดึก


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: หนอนบุ้ง ที่ 03 ต.ค. 07, 21:20
พอเช้าก็ต้องเสด็จข้ามกลับมารับราชการทุกวัน

เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ ทรงครรภ์ครั้งแรก
พอได้ ๗ เดือนก็ประสูติ (กรมขุนสุพรรณภาควดี) เมื่อวันศุกร์ เดือน ๙ ขึ้น ๕ ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๔๑๑

เมื่อคลอดพระองค์ยังอยู่ในกระเพาะ หมอและพยาบาลพากันเข้าใจว่าสิ้นพระชนม์เสียแล้วแต่ในครรภ์
ให้หาหม้อขนันจะใส่เอาไปถ่วงน้ำตามประเพณี

หากเจ้าคุณตาพระยาสุรวงศ์ไวยวัธน์อยากรู้ว่าจะเป็นพระองค์ชายหรือพระองค์หญิง
ให้ฉีกกระเพาะดู เห็นยังหายพระทัยจึงรู้ว่ามีพระชนม์ชีพอยู่ ก็ช่วยประคบประหงมเลี้ยงมาจนรอดได้

เมื่อพระหน่อประสูติแล้วได้ ๑๕ วัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ก็ต้องตามเสด็จสมเด็จพระบรมชนกนาถ
ไปทอดพระเนตรสุริยปราคาหมดดวงที่ตำบลหว้ากอ แขวงเมืองประจวบคีรีขันธ์
ทรงมอบเจ้าคุณพระประยูรวงศ์กับพระหน่อให้พระยาสุรวงศ์ฯ กับท่านผู้หญิงอิ่ม
เป็นผู้พิทักษ์รักษาอยู่ทางนี้

เสด็จไป ๑๙ วัน กลับมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ เดือน ๑๐ ขึ้น ๔ ค่ำ ก็พาเจ้าคุณพระประยูรวงศ์กับพระหน่อย้ายเข้ามาอยู่พระตำหนักสวนกุหลาบตามเดิม


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 04 ต.ค. 07, 17:52
ขอบคุณคุณหนอนบุ้งสำหรับลิ้งค์ในความคิดเห็นที่ ๑๒  เป็นการเปิดหูเปิดตาอย่างแท้จริง


เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้รับราชสมบัตินั้น  พระชนม์ ๑๕ ปี  ๑๐ วัน

ในพระบรมราโชวาท ฉบับที่ ๑  วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๑๒ ถึงสมเด็จพระบรมโอสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิส สยามมงกุฎราชกุมาร   ทรงเล่าว่า
เหมือนตะเกียงริบหรี่จวนจะดับ

ในพระบรมราโชวาท ฉบับที่ ๒  วันที่ ๘ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๑๒  ทรงเล่าว่า
...ญาติฝ่ายมารดามิได้ตั้งอยู่ในตำแหน่งราชการอันใดเป็นหลักฐาน   

กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. ๒๓๘๒  เมื่อพระชันษา ๒๘  พระโอรสสองพระองค์คือ พระองค์เจ้าฉายเฉิด และพระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ ก็มิได้มีตำแหน่งทางราชการที่สำคัญใดๆ


เรื่องที่กำลังคุยอยู่นี้คือเรื่องพระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์
ขรัวตาของท่านคือ เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์(วร บุนนาค)  คนทั้งหลายเรียกว่าเจ้าคุณทหาร 
เป็นบุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงค์(ช่วง)กับท่านผู้หญิงกลิ่น
อำนาจวาสนาของสกุล บุนนาคในเวลานั้นก็แทบจะเปรียบว่าเป็นดวงสุริยาในเวลาวันและดวงจันทร์ในยามราตรี

พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์  มีพระขนิษฐา ๒ พระองค์คือ
พระองค์เจ้าหญิงสุวพักตร์พิไลยพรรณ  ประสูติ ๒๔๑๖  สิ้นพระชนม์ ๒๔๗๓  พระชันษา ๕๗ ปี
พระองค์เจ้าหญิงบัณฑวรรณวโรภาส    ประสูติ ๒๔๑๘  สิ้นพระชนม์ ๒๔๓๔  พระชันษา ๑๗ ปี


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 05 ต.ค. 07, 12:26
พระญาติฝ่ายเจ้าจอมมารดา เจ้าคุณพระประยูรวงศ์(แพ)
(อ้างอิง สาแหรกสกุลบุนนาค  หน้า ๑๘ - ๑๙ )

เจ้าจอมมารดา เป็นธิดา เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์(วร) และท่านผู้หญิงอิ่ม(น้องท่านผู้หญิงอ่วม)

บุตรธิดาของท่านเจ้าคุณทหารกับท่านผู้หญิงอ่วม คือ
๑.  คุณหญิงเล็ก  สมรสกับพระยาศรีสรรราชภักดี(หนูเล็ก  โกมารกุล)
๒.  ฉาง
๓.  เจ้าคุณพระประยูรวงศ์(แพ)
๔.  หลวงจักรยานานุพิจารณ์(เหมา)
๕. จ่ายวดยศสถิต(หมิว)
๖.  เจ้าจอมมารดาโหมด ในรัชกาลที่ ๕
     พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ต้นราชสกุลอาภากร
     พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงอรองค์อรรคยุพา
     พล.ร.เอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุริยงประยูรพันธ์ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส ต้นราชสกุลสุริยง
๗.  หม่อมแม้น ในจอมพลสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช  ต้นราชสกุลภาณุพันธุ์
     พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้านิพันธ์ภานุพงศ์ กรมหมื่นภาณุพงศ์พิริยเดช
     พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศิริวงศ์วัฒนเดช
     พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตรมงคล  ในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศวร์  ต้นราชสกุลยุคล
     (พระมารดา
       พล.ต.พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภานุพันธุ์ยุคล
       พล.ต.พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร
       พล.ต.พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ)       
๘.  เมี้ยน
๙.  มิด


บุตรชายของท่านผู้หญิงอ่วม ผู้เป็นคุณป้าของเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ เป็นพระยาทั้งสามคน

น้องสาวต่างมารดา ท่านผู้หญิงเลี่ยม สมรสกับ จอมพล เ้จ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี(เจิม แสงชูโต)

น้องชายต่างมารดาอีก ๗ คน เป็นพระยา  น้องเขย ๕ คนเป็นพระยา  น้องเขยอีกหนึ่งคนเป็นเจ้าพระยา  คือเจ้าพระยาวรพงษ์พิพัฒน์(ม.ร.ว. เย็น อิศรเสนา)


(อ้างอิง สกุลบุนนาค  หน้า ๑๒๔)
เจ้าคุณทหารมีบุตรธิดา จำนวน ๖๕ คน
ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑  อายุ ๖๐ ปี


เมื่อได้อ่าน สี่แผ่นดินนั้น  จำได้ว่า แม่พลอยเป็นข้าหลวงคนโปรดของเสด็จ มีหน้าที่อัญเชิญหีบหมากเสวยตามเสด็จ  ที่ที่เป็นที่ยอดเยี่ยมในวัง ก็คือที่บนอันเป็นที่ประทับของพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พร้อมทั้งทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าอีกบางพระองค์   แม่พลอยนั้นได้รู้จักคุณพนักงานบางคนที่เป็นญาติ  แม้กระทั่งเจ้าจอมบางคนก็ได้รู้จักในฐานเป็นญาติ  จึงได้เห็นความเป็นไปของที่บนอย่างใกล้ชิด

คำว่า สกุลมหาศาลนั้น  ก็เพิ่งจะเข้าใจได้ถ่องแท้เมื่อมาอ่านประวัติและสายสกุลชองบุคคลสำคัญ


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 06 ต.ค. 07, 08:05
บรรทัดที่ ๔ ในความเห็นที่ ๑๘ ชื่อที่ถูกต้องคือท่านผู้หญิงอิ่มค่ะ


อ้างอิง สี่แผ่นดิน เพราะเห็นว่าเหมาะสมเป็นที่สุด
เสด็จรับสั่งกับพลอยว่า   "....อย่างพลอยนี่  มีคนเขาพูดกับข้าหลายคนแล้วว่าหน้าตาดีๆ  ทำไมข้าไม่ถวายเป็นพนักงานเสีย 
ข้าก็หัวเราะทำเฉยๆเสียอย่างนั้น   เรื่องหาบุญวาสนาใส่ตัวนั้นมันทำไม่ยากดอก พลอยเอ๋ย
ใครมีลูกหลานพวกพ้องก็หนุนๆกันเข้าไป  พอเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาแล้ว  ใครเป็นเจ้าเข้าเจ้าของก็พลอยเบิกบาน มีบุญวาสนาตาม
อย่างพลอย ใครๆก็ทักว่าสวย นิสับใจคอสกุลรุนชาติของเจ้าก็ไม่ด้อยกว่าใคร  ถ้าข้ายกขึ้นไป  ป่านนี้จะมีบุญไปแล้วก็ไม่รู้...."



(อ้างอิง หนังสือพระบรมราชินีและเจ้าจอมมารดา ของ คุณ ส. พลายน้อย  รามสาส์น พิมพ์ครั้งที่สอง ๒๕๓๐  หน้า ๒๕๒ - ๒๖๕)

นอกเหนือไปจากเจ้าจอมมารดาโหมดน้องสาวของเจ้าคุณพระประยูรวงศ์แล้ว กุลสตรีในสกุลบุนนาคที่ได้เป็นเจ้าจอมและเจ้าจอมมารดาในร. ๕ นั้นมีดังต่อไปนี้

เจ้าจอมก๊ก อ ผู้เป็นธิดาของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธ(เทศ)และท่านผู้หญิงอ่อน
เจ้าจอมมารดาอ่อน มีพระองค์เจ้าคือ พระองค์เจ้าหญิงอรประพันธ์รำไพ  ต่อมาได้สถาปนาเป็น พระเจ้าพี่นางเธอ พระองค์เจ้าอรประพันธ์รำไพ
และ พระองค์เจ้าหญิงอดิสัยสุริยาภา  ต่อมาได้สถาปนาเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงอดิสัยสุริยาภา

เจ้าจอมเอี่ยม  เจ้าจอมเอิบ   เจ้าจอมอาบ  เจ้าจอมเอื้อน
เจ้าจอมแก้ว  ธิดาเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธ(เทศ)และ ท่านพวง
เจ้าจอมแส  ธิดาเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธ์(เทศ)และ ท่านทรัพย์
เจ้าจอมแถม  ธิดาพระสัจจาภิรมย์(แถบ) ซึ่งเป็นบุตรเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธ์

เจ้าจอมมารดาพิศว์ ธิดาเจ้าพระยาภาสกรวงศ์(พร)และท่านผู้หญิงเปลี่ยน

เจ้าจอมเรียม  ธิดาเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์(โต)และท่านผู้หญิงตลับ

เจ้าจอมเนื่อง  ธิดาพระยาสีหราชฤทธิไกร(แย้ม)และคุณหญิงกลาง ธิดาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ 


ใน สาแหรกสกุลบุนนาค หน้า ๒๐ มีชื่อ
เจ้าจอมอบ  ธิดาพระยาประภากรวงศ์วรวุฒภักดี(ชาย) และท่านเปรม
ไม่มีรายละเอียด


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: หนอนบุ้ง ที่ 06 ต.ค. 07, 20:58
ขอเรียนถามคุณวันดีหน่อยค่ะ
ตกลงว่ามีนามสกุลบุนนาคกี่คน ที่ได้เป็นเจ้าจอมคะ


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 06 ต.ค. 07, 21:44
เท่าที่นับมาคุณหนอนบุ้งพอจะนับทันนี่คะ
ยื่นมือขวาออกมาข้างหน้า
ยื่นมือซ้ายออกมาข้างหน้า
ฮัมทำนองเด็กอนุบาล put your little foot out there ด้วยนะคะ
หักนิ้วก้อยเก็บซะนิ้วหนึ่ง

อ้อ  อิฉันให้ยืมมือข้างซ้าย 

นับค่ะนับ

๑๔ ค่ะ  ในรัชกาลที่ ๕ นะคะ
ถ้าตัวเลขนี้ไม่ตรงกับท่านที่เคารพ  อิฉันไปนับใหม่ก็ได้


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: หนอนบุ้ง ที่ 06 ต.ค. 07, 22:53
^
^
^
ขอบคุณค่ะ คุณวันดี
 
แหม ยอมให้ยืมอุปกรณ์มานับเสียด้วย มากจริงๆ หนูอ่านพอสมควร แต่ไม่เคยนับจริงๆ เสียที

คราวนี้ได้กระจ่างเพราะนับนิ้วนั่นเอง อิ อิ  ;D


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ต.ค. 07, 17:18
ชาววังทั่วไปออกพระนามกรมขุนสุพรรณภาควดี ว่า " พระองค์ใหญ่"  แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงเรียกพระราชธิดาว่า "เจ้าหนู" 
พระเจ้าลูกเธอพระองค์อื่นๆที่ประสูติภายหลังจึงทรงเรียกว่า "เจ้าพี่หนู "กันทุกพระองค์

กรมขุนสุพรรณฯ ทรงวางพระองค์เป็นพี่พระเจ้าลูกเธอพระองค์อื่นๆ  ทรงทำหน้าที่ดูแล และเป็นที่เคารพนับถือโดยทั่วกัน
เป็นพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้า(หญิง)พระองค์เดียวที่ได้ทรงกรม  เมื่อพ.ศ. ๒๔๔๖  แต่เพียงปีเดียวก็สิ้นพระชนม์

งานพระเมรุ โปรดเกล้าฯให้จัดที่บางปะอิน    มีรายละเอียดอยู่ใน"สี่แผ่นดิน" ตอนแผ่นดินที่ ๑   ในเรื่อง แม่พลอยเพิ่งแต่งงานกับคุณเปรมไม่นาน   ได้ตามเสด็จไปงานนี้ด้วย


กระทู้: พระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 24 ต.ค. 07, 06:44

(อ้างอิง  วิมลพรรณ ปิตธวัชชัย  "สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ" หน้า ๑๑๒)

"ความในบันทึกของจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี(เจิม แสงชูโต)ดังนี้

....กรมพระราชวังบวรฯ มิสเตอร์น๊อกซ์ กงศุลอังกฤษ  คิดจะเอาพระราชโอรสพระองค์ใหญ่มีพระนามว่าพระองค์เจ้าวิลัยส่งไปประเทศอังกฤษ 
เพื่อมิสเตอร์น๊อกซ์จะเปิดเผยที่เมืองอังกฤษว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่มีพระบรมราชโอรสมีแต่พระธิดาพระองค์ใหญ่คือกรมขุนสุพรรณฯ
ส่วนกรมพระราชวังบวรฯ มีพระโอรส  พระโอรสนี้จะเป็นรัชทายาทต่อไป

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงทราบดังนี้แล้ว จึงทรงพระวิตก  คิดจะให้สมเด็จวังบูรภากำชับให้กรมขุนสุพรรณฯออกไปเรียนวิชาที่ประเทศอังกฤษ

ความที่ทรงหวังในเวลานั้นจะโปรดเกล้าให้กรมขุนสุพรรณฯเป็นควีนวิคตอเรีย  สมเด็จวังบูรภาเป็นปรินซอารเบิด

เวลานั้นได้จัดผู้ที่จะตามเสด็จไปประเทศยุโรปไว้พร้อมถึงกับได้กำหนดวันที่จะเสด็จออกจากกรุงเทพฯ

เวลานี้ข้าราชการทั่วไปพากันตื่นเต้นเข้าไปเฝ้าอยู่ทั่ั่วทุกชั้น   เวลานั้นจะมีอุปสรรคอันใดเกิดขึ้นจึงได้ระงับเหตุดังกล่าวนี้
ในเวลาไม่กี่เดือนก็รับทราบเกล้าว่าสมเด็จพระพรรวะษามาตุจฉาเจ้าทรงพระครรภ์ 
ในไม่ช้าก็ประสูติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ  พระราชดำริดังกล่าวนี้จึงเป็นอันระงับไป....................."



พระองค์เจ้าชายวิไลยวรวิลาศ  พระโอรสในกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ(วังหน้า รัชกาลที่ ๕)
ประสูติเมื่ออุปราชาภิเษกแล้ว

ประสูติเมื่อ  วันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๑๑
สิ้นพระชนม์เมื่อ  วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๒
พระชันษา ๖๑ ปี
ทรงเป็นต้นสกุล วิไลยวงศ์
จอมมารดาเข็ม
(ราชสกุลพระบรมราชวงศ์จักรี  บรรเจิด  อินทุจันทร์ยง  คุรุสภา ๒๕๓๙  หน้า ๘๗๙)


สมเด็จเจ้าฟ้าชายมหาวชิรุณหิส  ประสูติเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๑