จากข้อมูลที่รวบรวมมาจากแหล่งต่าง ๆ พบว่าที่อเมริกาในสมัยก่อน เจ้าหน้าที่ที่เป็นเลสเบี้ยน เกย์ และไบเซ็กชวลที่ทำงานอยู่ในสถาบันทางการเมืองและการทหารที่กระทำการใดนอกเหนือไปจากเรื่องปกติทั่วไปที่ทำ ๆ กันอยู่ (บนฐานของศีลธรรม) ของเพศหญิงและชายเมื่อถูกค้นพบจะถูกขัดขวางและเล่นงานโดยเหล่าผู้นำทางสถาบัน โดยเฉพาะทางการทหาร จะตั้งข้อหาบุคลากรเหล่านี้ว่า "creating an unacceptable risk to the high standards of morale, good order and discipline, and unit cohesion that are the essence of military capability"
ในปี 1993 ประธานาธิบดี Bill Clinton ประกาศที่จะยุติการกดขี่ข่มเหงนี้ นโยบาย 'Don’t ask, don’t tell (DADT)’ ถูกประกาศใช้ในเวลาต่อมา แต่แนวของนโยบายยังคงที่จะกำหนดกลาย ๆ ให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นเลสเบี้ยน เกย์ และไบเซ็กชวล คงต้องซ่อนรสนิยมทางเพศต่อไปเพื่อแลกกับเสรีภาพในการทำงานโดยไม่ถูกคุกคามหรือไล่ล่า
นโยบายดังกล่าวที่ยังคงถูกละเลยโดยผู้บัญชาการระดับสูง การไล่ล่าส่งผลให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นเลสเบี้ยน เกย์ และไบเซ็กชวลที่มีคุณสมบัติและความสามารถสูงมากกว่า 14,000 คนจำต้องจบอาชีพการงานของตนอย่างไม่ยุติธรรม
แม้ในปี 2011 ประธานาธิบดีโอบามาได้ตอกย้ำนโยบายดังกล่าวให้หนักแน่นขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ที่เป็นเลสเบี้ยน เกย์ และไบเซ็กชวลมากกว่าหนึ่งล้านคนยังคงทำงานอยู่ด้วยความหวั่นกลัวต่อการเลือกปฏิบัติ พวกเขายังคงเลือกที่จะปิดบังรสนิยมทางเพศของตนต่อไป (deny everything) เพื่อแลกกับความก้าวหน้าในอาชีพการงาน
หนัง Burning Blue (2013) สร้างจากบทละครดังที่มาจากงานเขียนปี 1992 ของนายทหารตำแหน่ง U.S. Navy Aviator ที่รวบรวมประสบการณ์ที่ได้รู้ได้เห็นนำมาเขียนเป็นนิยาย
เรื่องราวเล่าความเหลื่อมล้ำต่ำสูงของทหารนักบินที่เป็นเกย์ที่ได้รับการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรม ตัวละครเอกคือหนุ่มนักบินสังกัดกองทัพเรือที่มีอนาคตรุ่งโรจน์ 2 นาย คนหนึ่งแต่งงานแล้วในขณะที่อีกคนหนึ่งมีคู่หมั้น ทั้ง 2 มาคลุกคลีกันในครั้งหนึ่งที่การฝึกซ้อมมาหยุดพักที่อ่าวใน New York
เจ้าหน้าที่ในกะต่างนัดเจอกันในบาร์เพื่อร่วมกินเหล้าในตอนกลางคืน แต่ในขณะนั้นยังเป็นตอนกลางวัน ต่างคนจึงออกท่องเที่ยวหาความสนุก D เลือกที่จะไปชมตึก Empire State แต่เขาไม่ใช่คนในท้องที่จึงต้องงมหาทางไปในแผนที่ M เพิ่งทะเลาะกับแฟน เดินมาพบเข้าก็พูดคุยกันแล้วลงเอยที่ M ผู้คุ้นเคยถิ่นอาสาพา D ไปชมตึก
หลังจากนั้นทั้งสองพักผ่อนด้วยการหาเหล้ากินค่าเวลาและได้พบผู้หญิงหากินซึ่งพาหนุ่มทั้ง 2 ไปร่วมสนุกในบาร์ พอเมาได้ที่ก็ไปหาห้องเช่าเพื่อ ‘ปฏิบัติกิจ’ จาก 2 คู่ชู้ชื่นมาจบที่ 4 คนอลเวง
จากคืนอลเวงนั้น D ผู้มีแนวโน้มมากกว่า M ยอมรับความรสนิยมทางเพศของตัวเอง แต่ M ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองฝักไฝ่ในทางไหน อย่างไรก็ตาม กาลเวลาต่อมาก็ทำให้ M ยอมรับรสนิยมของตัวเองในที่สุด
D เลิกกับคู่หมั้น ในขณะที่ M ขอหย่าเมีย หนุ่มทั้ง 2 เตรียมพร้อมที่จะสานความสัมพันธ์กัน แต่แล้วในชั่วโมงฝึกบินที่มาถึงเกิดอุบัติเหตุ M ถึงแต่ความตาย
อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้หน่วยงาน NCIS เข้ามาสอบสวนถึงสาเหตุ พวกเขาพบว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุ M ทะเลาะกับเมีย ในขณะเดียวกันก็มีสายสืบยื่นหลักฐานเป็นรูป D กับ M อยู่ด้วยกันในที่รโหฐาน แม้รูปจะไม่แสดงความผิดปกติแต่อย่างใด แต่จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ก็ได้เค้าว่าทั้ง 2 มีความพึงพอใจต่อกันเป็นพื้นอยู่แล้ว
ในเมื่อ M ตายไปแล้ว จึงเหลือแต่ D ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของการขูดรีดหาความผิดในข้อหา ‘เสี่ยงต่อภาพพจน์อันดีงามของสถาบัน’
ฉากที่ตึก Empire State
งานปาร์ตี้ที่คนอื่น ๆ เริ่มระแคะระคาย
ความเห็นที่ต่างกัน
กลับมาพ้องต้องกันในที่สุด
งานศพ M
หลังจาก M ตาย ก็เหลือ D และคนใกล้ชิดที่เหลือที่เกี่ยวข้องที่ตกเป็นเหยื่อของการไล่ล่า
การเลือกปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรมลงเอยที่สถาบันต้องสูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถไป (อีก) คนหนึ่ง
ตัวอย่างหนัง