เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 15:51



กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 15:51
/สมาชิกขาจร  เคยแต่เข้ามาอ่าน  ได้รับความรู้กลับไปมากมาย  วันนี้ขอทดลองตั้งกระทู้ดูบ้าง  ระบบดูซับซ้อน  ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ก็น้อยนิด  ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ

เมื่อครั้งที่ละครรอยไหมกำลังฮิต  ดิฉันได้ลองเข้าไปค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอ่านประกอบ  ได้พบรูปและเรื่องที่ประทับใจมาก  โดยเฉพาะรูปเจ้านางของเชียงตุง  เซฟเก็บเอาไว้เยอะ  เอามาแบ่งกันดูนะคะ  

อนึ่ง เนื่องจากดิฉันเก็บไว้แต่รูปของเหล่าเจ้านางที่ประทับใจในความงดงามและข้อมูลประกอบเพียงเล็กน้อย  ดังนั้นถ้าท่านผู้ใดมีรายละเอียดเพิ่มเติมขอความกรุณาช่วยเสริมด้วยค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอเรียนว่าเมื่อครั้งเริ่มลองค้นหาข้อมูล  ได้ไปเจอกระทู้เก่าพันทิปของคุณเงาอดีต คือ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/03/K7586131/K7586131.html  ได้ความรู้มากและเป็นแรงบันดาลใจให้ศึกษาหาข้อมูลต่อ  ภาพหลายๆ ภาพก็มาจากกระทู้นั้น  ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 15:55
เริ่มจากเหล่าเจ้านางที่เป็นราชธิดาเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง  เจ้าฟ้าผู้ครองเชียงตุงระหว่างปี 2439 – 2478  เจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง มีชายา 6 พระองค์ มีโอรส-ธิดารวม 19 พระองค์ ได้แก่

เจ้าแม่ปทุมมามหาเทวี ราชธิดาเจ้าเมืองสิงห์ เป็นมหาเทวี (มเหสีเอก) มีราชธิดา 1 องค์ และราชบุตร 1 องค์ คือ
1.1   เจ้านางทิพย์เกษร
1.2   เจ้าพรหมลือ
เจ้านางจามฟอง มี 6 องค์ คือ
2.1   เจ้าฟ้ากองไท (ได้เป็นเจ้าฟ้าเชียงตุงต่อจากเจ้าพ่อ)
2.2   เจ้าอินทรา (ได้เป็นบุตรบุญธรรมเจ้าฟ้าเมืองสีป้อ)
2.3   เจ้าปราบเมือง (หรือเจ้าขุนเมือง)
2.4   เจ้าขุนศึกสุวรรณสงคราม (ต้นสกุล ขุนศึกเม็งราย)
2.5   เจ้านางบัวสวรรค์
2.6   เจ้านางฟองแก้ว
เจ้านางบัวทิพย์หลวง มี 5 องค์ ได้แก่
3.1   เจ้านางแว่นแก้ว
3.2   เจ้านางสุคันธา
3.3   เจ้านางแว่นทิพย์
3.4   เจ้าสิงห์ไชย
3.5   เจ้าแก้วมาเมือง
เจ้านางแดงหลวง (เจ้านางแหลง) มี 2 องค์ ได้แก่
4.1   เจ้าสายเมือง
4.2   เจ้านางจันทร์ฟอง
เจ้านางบุญยวง มี 2 องค์ ได้แก่
5.1   เจ้านางฟองนวล
5.2   เจ้าบุญวาทย์วงศา
เจ้านางบัวทิพย์น้อย ได้แก่
6.1   เจ้านางบัวนวล
6.2   เจ้ายอดเมือง


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 15:57
รูปเจ้าแม่สุวรรณา  พระมารดาของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง  ถ่ายรูปกับมหาเทวี ชายา และเจ้านางราชธิดาของเจ้าฟ้า  ภาพนี้ได้จากกระทู้ของคุณเงาอดีต  ตัวเลขที่กำกับลำดับเป็นไปตามลำดับชายาและราชธิดาในชายานั้นๆ

มี 2 องค์ที่ไม่ได้ใส่เลขไว้  แต่คุณเงาอดีตเสริมไว้ว่า ที่ไม่ทราบแน่ 2 องค์ข้างเจ้านางฟองนวล (5.1) คือ เจ้าทิพย์สวรรค์ กับ เจ้าฟองไหล  ลองเทียบดูกับรูปที่เจ้าพรหมลือนำครอบครัวมาเฝ้าสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพที่วังวรดิศ  น่าเชื่อได้ว่าคือเจ้านางทิพย์เกษร ราชธิดาที่ประสูติจากมหาเทวีนั่นเอง


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 16:00
รูปนี้จึงจะมีตัวเลขกำกับ  แก้ไขรูปกันตรงไหนคะ?


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 16:05
รูปเจ้าพรหมลือพาชายาและเจ้าพี่เจ้าน้องมาเฝ้าสมเด็จกรมดำรงฯ  แถวล่าง เจ้านางทิพวรรณ เจ้านางทิพย์เกสร สมเด็จกรมดำรงฯ เจ้านางบัวสวรรค์ เจ้านางสุคันธา

ขอใช้เลขกำกับตามคุณเงาอดีต  1.1 เจ้านางทิพย์เกษรสมรสกับเจ้าหองคำ  มีโอรสธิดาคือเจ้านางฟองไหลกับเจ้าสีหะ  


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 16:18
2.5 เจ้านางบัวสวรรค์  ราชธิดาที่ประสูติจากเจ้านางจามฟอง  เมื่อเจ้านางจามฟอง เจ้าแม่สิ้นพระชนม์  จ้าแม่สุวรรณาซึ่งเป็นเจ้าย่า ได้รับเจ้านางบัวสวรรค์เป็นบุตรบุญธรรม  เจ้านางบัวสวรรค์เป็นที่โปรดปรานของเจ้าย่า เจ้าพ่อ  เพราะมีทั้งความงดงามและความสามารถ  อีกทั้งยังเป็นที่รักเคารพของเจ้าพี่เจ้าน้อง  เจ้านางบัวสวรรค์ยังได้ชื่อว่า เจ้านางเศรษฐี  เพราะนอกจากจะได้รับมรดกของเจ้าย่าแล้ว  ยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลการเงินส่วนพระองค์ของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลงรวมทั้งถือกุญแจท้องพระคลังอีกด้วย


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 16:23
2.6 เจ้านางฟองแก้ว  ประสูติจากเจ้านางจามฟอง 


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 16:28
3.1 เจ้านางแว่นแก้ว  ประสูติจากเจ้านางบัวทิพย์หลวง  เจ้านางแว่นแก้วได้อภิเษกเป็นมหาเทวีของขุนส่า เจ้าฟ้าเมืองล๊อกจ๊อก  มีธิดาคือ เจ้านางยุ้นท์จี (มหาเทวีแห่งเมืองไหย) เจ้านางหอมนวล (สมรสกับเจ้าเส็งอ่อง โอรสเจ้าฟ้าฉ่วยไต้แห่งยองห้วย)  เจ้านางนวลอู๋ และเจ้านางจามเขียว  เจ้านางนวลอู๋ (Nel Hsa หรือ Nel Adams) เป็นผู้แต่งหนังสือ My Vanished World หรือโลกสลาย – เรื่องจริงของเจ้าหญิงฉาน


/สงสัยรูปจะใหญ่เกิน  เดี๋ยวหาทางย่อรูปก่อนนะคะ


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 16:41
เจ้านางแว่นแก้วกับเจ้าขุนส่า เจ้าฟ้าเมืองล๊อกจ๊อก


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 16:57
3.2 เจ้านางสุคันธา  ประสูติจากเจ้านางบัวทิพย์หลวง  เจ้านางสุคันธาสมรสกับเจ้าอินทนนท์  ราชบุตรเจ้าแก้วนวรัฐแห่งเชียงใหม่ 


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 17:01
อภิเษกสองแผ่นดิน ระหว่าง เจ้าอินทนนท์ ราชบุตรเจ้านครเชียงใหม่ และเจ้านางสุคันธา ราชธิดาเจ้าฟ้าเชียงตุง


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 17:09
3.3 เจ้านางแว่นทิพย์  ประสูติจากเจ้านางบัวทิพย์หลวง  เจ้านางมีความงามทั้งรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ และความสามารถโดดเด่นเป็นที่เลื่องลือ  ปรากฏในบันทึกร่วมสมัยหลายๆ แห่ง  เจ้านางอภิเษกเป็นมหาเทวีของเจ้าห่มฟ้าแห่งแสนหวีตั้งแต่อายุ 16 ปี  การสมรสตามหน้าที่ที่มีต่อบ้านเมืองนี้สิ้นสุดลงด้วยการหย่าร้าง


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 15 พ.ค. 13, 19:11
ร่วมด้วยช่วยเสริม

เจ้านางเมืองเชียงตุง

http://www.youtube.com/watch?v=ZnzDhqEbMxg&feature=related

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 19:52
ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูมากค่ะ  เชียงตุงในอดีตดูสงบร่มเย็นมากค่ะ

/เฉไฉนิดหนึ่ง  สมัยก่อนเหล่าราชบุตรราชธิดามีหน้าที่ต่อบ้านเมืองประการหนึ่ง  คือต้องเสกสมรสเพื่อผูกพันสัมพันธไมตรีระหว่างนครต่างๆ  เจ้านางแว่นทิพย์เองก็ต้องเสกสมรสกับเจ้าห่มฟ้าแม้จะทราบดีว่าเจ้าห่มฟ้าเคยมีมหาเทวีและหย่าร้างมาก่อนแล้ว

ภาพเจ้าห่มฟ้าครั้งเสกสมรสกับเจ้านางสิริมาลา ราชธิดาแห่งสีป้อ


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 15 พ.ค. 13, 20:02
เจ้าฟ้าเมืองสีป้อในภาพข้างบนน่าจะเป็นเจ้าขุนแสง

เจ้าขุนแสงและมหาเทวี

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5490.0;attach=38676;image)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:05
4.2 เจ้านางจันทร์ฟอง (ขวาสุด) ประสูติจากเจ้านางแดงหลวง  ถ่ายรูปกับเจ้านางบัวสวรรค์ (กลาง) และเจ้านางฟองแก้ว (ยืนซ้ายมือของเจ้านางบัวสวรรค์)


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:12
น่าจะใช่ค่ะคุณเพ็ญชมพู  มหาเทวีเจ้าฟ้าสีป้อก็งดงามมาก  เจ้าฟ้าสีป้อมีราชธิดาล้วนแล้วแต่งดงาม  เดี๋ยวจะมีเจ้านางจ่ายุนท์และเจ้านางอ่องยุ้นท์ที่จะมาเสกสมรสกับเจ้าราชบุตรเชียงตุง  ก็เป็นราชธิดาสีป้อเหมือนกัน


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:16
5.1 เจ้านางฟองนวล  ประสูติจากเจ้านางบุญยวง  ถ่ายรูปคู่กับพระมารดาและเจ้าบุญวาทย์วงศา อนุชาร่วมพระมารดา


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:18
6.1 เจ้านางบัวนวล  ประสูติจากเจ้านางบัวทิพย์น้อย 


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:30
ต่อไปเป็นรูปเหล่าเจ้านางที่เป็นชายาของราชบุตร

เจ้าทิพวรรณ ณ เชียงตุง เป็นธิดาของเจ้าไชยสงคราม (น้อยเบี้ย ณ ลำปาง) กับเจ้าฝนห่าแก้ว ณ ลำปาง ซึ่งเป็นราชธิดาในมหาอำมาตย์โท พลตรีเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย กับแม่เจ้าเมืองชื่นราชเทวี  เจ้าทิพวรรณเสกสมรสกับเจ้าพรหมลือ (1.2) ราชบุตรที่ประสูติจากเจ้าแม่ปทุมมา มหาเทวีเชียงตุง


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:33
เจ้านางจ่ายุ้นท์  ราชธิดาของเจ้าฟ้าแห่งสีป้อ  สมรสกับเจ้ากองไท (2.1)  เมื่อเจ้ากองไทขึ้นเป็นเจ้าฟ้าหอหลวงเชียงตุงต่อจากเจ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง  เจ้านางจ่ายุ้นท์ได้รับแต่งตั้งเป็นมหาเทวีแห่งเชียงตุง  เจ้าฟ้ากองไทถูกลอบสังหารภายหลังจากครองราชย์ได้เพียงเดือนเศษ  ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าฟ้ากองไท  เจ้านางจ่ายุ้นท์เดินทางไปพำนักที่เมืองตองจีจนสิ้นพระชนม์


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:35
เจ้านางจ่ายุ้นท์


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:37
เจ้าอินทรา (2.2)  สมรสกับนางยุ้นท์


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:41
เจ้านางอ่องยุ้นท์  เจ้าน้องของเจ้านางจ่ายุ้นท์  สมรสกับเจ้าขุนเมือง (หรือเจ้าปราบเมือง – 2.3) 
เจ้านางอ่องยุ้นท์มีความงามคมเป็นที่เลื่องลือ  เมื่อครั้งติดตามเจ้าฟ้าแห่งสีป้อไปกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษขณะอายุ 19 ปี  ได้เป็นแบบให้ Sir Gerald Kelly จิตรกรหลวง  วาดภาพที่งดงามนี้ไว้ 


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 15 พ.ค. 13, 20:42
ภาพเจ้านางอ่องยุ้นท์และเจ้านางเขมวดีผู้เป็นธิดา  เจ้านางเขมวดีก็งดงามเช่นเดียวกับเจ้าแม่


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 พ.ค. 13, 20:55
งามจริงๆค่ะ
สังเกตว่าชื่อของเจ้านายทั้งหลายในกระทู้นี้   ผิดแผกกันมาก  บางท่านก็ชื่อภาษากลาง(ไทยปนบาลี)เหมือนชาวกรุงเทพ  เช่นชื่อเขมวดี  ทิพเกสร  ทิพวรรณ  สิริมาลา
บางท่านก็เป็นไทยเหนือ  เช่นเจ้าห่มฟ้า   เจ้าฝนห่าแก้ว
บางท่านก็มีชื่อเหมือนภาษาถิ่นดั้งเดิม(ไทยใหญ่?) เช่น เจ้านางอ่องยุ้นท์   เจ้านางจ่ายุ้นท์


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 15 พ.ค. 13, 23:27
น่าสนใจครับ มีรุ่นพี่ที่สำนักงานนามสกุลขุนศึกเม็งราย ชื่อขึ้นต้นด้วย เขม มียศเป็น เจ้านาง


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 พ.ค. 13, 08:02
คงเป็น แพทย์หญิงเจ้านางเขมรัสมี ขุนศึกเม็งราย ที่ปรึกษาอาวุโส สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปาง  และเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับคุณเทาชมพู

มีเจ้าไทยใหญ่ อีกหลายนามสกุลค่ะ


มีนักเรียนเก่าโรงเรียนเดียวกับดิฉันอยู่คนหนึ่ง

ชื่อและนามสกุลไพเราะเข้ากันมาก อ่านชื่อแล้วราวกับนางเอกนวนิยาย

เธอชื่อเจ้าเขมรัศมี ขุนศึก

สืบเชื้อสายจากเจ้าฟ้าขุนศึกเม็งราย


ต้นสกุลขุนศึกเม็งราย (http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=219773.0) คือ เจ้าฟ้าขุนศึกสุวรรณสงคราม โอรสของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลงกับเจ้าแม่จามฟอง ท่านเป็นผู้สำเร็จราชการแทนเจ้าจายหลวง เจ้าฟ้าองค์สุดท้ายของเชียงตุง ในระหว่างที่เจ้าจายหลวงศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลีย  ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองเจ้าฟ้าขุนศึกฯ ท่านรับราชการทหารกับกองทัพอังกฤษ และเป็นกงสุลอังกฤษประจำเชียงใหม่ท่านแรกจนก่อนที่พม่าจะเกิดการปฏิวัติล้มระบอบเจ้าฟ้า ท่านอยู่ในประเทศไทยรัฐบาลพม่าประกาศให้ท่านเป็นบุคคลต้องห้าม ท่านจึงพำนักอยู่ในเมืองไทยและขอรับสัญชาติไทยจนถึงวาระสุดท้าย เจ้าฟ้าขุนศึกฯ สมรสกับ หม่อมธาดา ขุนศึกเม็งราย มีโอรสและธิดาคือ

๑. แพทย์หญิงเจ้านางเขมรัสมี ขุนศึกเม็งราย
๒. เจ้านางเขมวดี ขุนศึกเม็งราย
๓. เจ้าชายเขมรัฐ ขุนศึกเม็งราย

แพทย์หญิงเจ้านางเขมรัสมี ยืนอยู่ทางซ้ายสุดของภาพ  ;D



กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 09:26
เจ้าขุนศึกเม็งราย (2.4)  สมรสกับหม่อมธาดา (ธิดาของนายดาบแดง และแม่บัวจันทร์  พัฒนถาบุตร คหบดีแห่งบ้านวัวลาย  จังหวัดเชียงใหม่)  ข้อมูลเป็นไปตามที่คุณเพ็ญชมพูเล่าค่ะ  ดิฉันเคยเซฟภาพหม่อมธาดาสมัยยังสาวๆ ไว้  เมื่อคืนพยายามหา  หาไม่เจอเสียแล้ว  ค้นในอินทรเนตรก็ไมม่เจอ  เสียดายมาก  เพราะรูปนั้นท่านสวยมาก


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 09:39
เจ้าสิงห์ไชยและเจ้าแก้วมาเมือง (3.4 และ 3.5)  โอรสที่ประสูติจากเจ้านางบัวทิพย์หลวง  เจ้าสิงห์ไชยสมรสกับนางทิน ทิน เมี๊ยะ (ธิดาพ่อค้าอัญมณี)  มีโอรสธิดา รวม 6 องค์  ส่วนเจ้าแก้วมาเมืองสมรสกับเจ้าแสนเมี๊ยะ (Sao Sein Mya) ธิดาเจ้าเมืองไลค่า  มีโอรสธิดารวม 5 องค์

ภาพเจ้านางบัวทิพย์หลวง กับโอรส ธิดา และสะใภ้  ขาดเจ้านางแว่นแก้วไปท่านเดียว


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 พ.ค. 13, 09:49
(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/03/K7586131/K7586131-67.jpg)

จากซ้ายมือ - นางทิน ทิน เมียะ ชายาเจ้าสิงห์ไชย บุตรสาวพ่อค้าอัญมณีชาวพม่า, เจ้าสิงห์ไชย, เจ้านางสุคันธา, เจ้านางบัวทิพย์หลวง (บุตรสาวพญาแขกเชียงตุง), เจ้าแว่นทิพย์, เจ้าแก้วเมืองมา และเจ้าแสนเมียะ ชายาเจ้าแก้วเมืองมา ธิดาเจ้าเมืองไลค่า

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 09:51
4.1 เจ้าสายเมือง สมรสกับ มิ มิ เคียง (Mi Mi Khaing) นักเขียนชาวพม่า


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 09:56
ขอบคุณมากเลยค่ะ  คุณเพ็ญชมพู  ดิฉันไม่ได้จดรายละเอียดตรงนี้ไว้

5.2 เจ้าบุญวาทย์วงศา สมรสครั้งแรกกับนางบัวไหล  มีธิดาคือเจ้านางนุต  สมรสครั้งที่สองกับนางหลาวเฮิง  มีโอรส 4 องค์

ชายาคนที่สองคือนางหลาวเฮิง (Lao Herng) สวยงามมากค่ะ


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 10:02
นางหลาวเฮิง  ชายาเจ้าบุญวาทย์วงศา อีกรูปค่ะ

ส่วนเจ้ายอดเมือง (6.2) ราชบุตรที่เกิดจากเจ้านางบัวทิพย์น้อย  ทราบแต่ว่าสมรสกับนางคำเหล็ง  มีบุตร 4 คน คือ เจ้าศรีรัตน์, เจ้าเขมวงศ์, เจ้าเดช และ เจ้าวรรณไว อินทลักษณ์  แต่ไม่มีรูปค่ะ


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 พ.ค. 13, 10:26
อีกภาพหนึ่ง เจ้าบุญวาทย์วงศาและนางหลาวเฮิงชายา  ;D


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 16 พ.ค. 13, 11:25
2.5 เจ้านางบัวสวรรค์  ราชธิดาที่ประสูติจากเจ้านางจามฟอง  เมื่อเจ้านางจามฟอง เจ้าแม่สิ้นพระชนม์  จ้าแม่สุวรรณาซึ่งเป็นเจ้าย่า ได้รับเจ้านางบัวสวรรค์เป็นบุตรบุญธรรม  เจ้านางบัวสวรรค์เป็นที่โปรดปรานของเจ้าย่า เจ้าพ่อ  เพราะมีทั้งความงดงามและความสามารถ  อีกทั้งยังเป็นที่รักเคารพของเจ้าพี่เจ้าน้อง  เจ้านางบัวสวรรค์ยังได้ชื่อว่า เจ้านางเศรษฐี  เพราะนอกจากจะได้รับมรดกของเจ้าย่าแล้ว  ยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลการเงินส่วนพระองค์ของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลงรวมทั้งถือกุญแจท้องพระคลังอีกด้วย

บรรดาเจ้าจอมของเจ้าฟ้านครเชียงตุงจะเรียกกันว่านางฟ้าค่ะ

สำหรับเจ้านางบัวสวรรค์ท่านนี้นั้นมีประวัติที่น่าสนใจมาก ว่ากันว่าท่านได้รับการถ่ายทอดเวทย์มนต์คาถาอาคมมาจากเจ้าฟ้าก้อนแก้ว ท่านจึงครององค์เป็นโสด ไม่สมรสและถือพรหมจรรย์เพื่อรักษาอาคมไว้กับตัว ว่ากันว่าเมื่อเจ้าฟ้าจายหลวงเจ้าฟ้าองค์สุดท้ายของเชียงตุงถูกพม่าจับตัวไปขังไว้นั้นเจ้านางให้หาเด็กสาวที่ขวัญอ่อนที่สุดในคุ้มมา ให้หันหน้าไปทางเมืองย่างกุ้ง แล้วเจ้านางนั่งกำกับอยู่ข้างหลังใช้อาคมให้เด็กสาวมองดูว่าเจ้าฟ้าเป็นอย่างไรบ้าง เด็กสาวก็ตอบไปว่าเจ้าฟ้าถูกจับตัวไว้แต่ไม่เป็นอะไร แล้วเจ้านางก็เตรียมทำพิธีให้เจ้าฟ้าได้รับการปล่อยตัวออกมา


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 11:27
คุณเพ็ญชมพูต้องมีรูปอีกเยอะแน่ๆ  ขอดูบ้างสิคะ Pleasee!!

อจ. เทาชมพูคะ เรื่องชื่อเจ้านายนั้น  ดิฉันสังเกตดู  ถ้าเป็นทางเชียงตุง  เจ้านางมักชื่อคล้ายมาทางฝ่ายเหนือของเรา  เป็นคำไทยเกลี้ยงๆ  เช่น ฟอง (ฟองแก้ว ฟองนวล ฟองไหล) หอมนวล นี่ก็ซ้ำกันหลายท่านมาก  อย่างเช่นธิดาเจ้าสิงห์ไชย ก็มีทั้ง เจ้าหอมนวล เจ้านวลหอม เจ้าหอม (เฉยๆ)  หรือ “บัว” ก็มีทั้ง บัวทิพย์ บัวสวรรค์ บัวนวล บัวไหล ฯลฯ

รูปการสะกดคำที่มาเหมือนไทย  เข้าใจว่าทางเราอาจฟังเสียงของเขาหรืออ่านจากตัวสะกดอังกฤษ  แล้วเขียนให้ตรงกับภาษาไทย  การออกเสียงของเขาอาจไม่ตรงกับไทยเสียทีเดียว  แต่ความหมายน่าจะใกล้กัน

เคยอ่านข้อมูลว่าเจ้านางแว่นทิพย์บอกกับนักเขียนต่างชาติคนหนึ่งที่มาเข้าเฝ้า ว่าชื่อของท่านแปลว่า “กระจกวิเศษ”  ซึ่งก็น่าจะตรงกับ “แว่น”  เข้าใจว่าข้อมูลคงมีการสอบคำกันมาบ้างแล้ว  ทางเราจึงเรียกว่า “แว่น” มิใช่ “แหวน”

ดิฉับเก็บรูปไว้ดูเสียเป็นส่วนใหญ่  ข้อมูลอ่านเฉยๆ  คือความที่อ่านจากอินเตอร์เน็ต  ข้อมูลยังไม่อาจแน่ใจได้ว่าจริงเท็จเท่าใด  ส่วนหนังสือที่มีการตีพิมพ์เป็นหลักฐานส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ  เท่าที่มีการอ้างถึงบ่อยๆ ก็เช่น
The Moon Princess : Memory of the Shan States เขียนโดยเจ้านางเมียะจันดา (Sao Sanda)  ธิดาเจ้าส่วยไต้  เจ้าฟ้ายองห้วยกับเจ้านางจันดา  ชายาองค์ที่สอง  
My Vanished World – โลกสลาย ความจริงของเจ้าหญิงฉาน  เขียนโดยเจ้านางนวลอู๋ ธิดาเจ้านางแว่นแก้ว  มหาเทวีแห่งล๊อกจ๊อก
Twilight Over Burma : My Life as a Shan Princess – สิ้นแสงฉาน ของ มหาเทวีศุสันติ (Inge Eberhard Sargent) แห่งสีป้อ
The White Umbrella ของ มหาเทวีเฮินคำ แห่งยองห้วย
The Shan of Burma ของ เจ้าเสือเหลินฟ้า (เจ้าช้าง) โอรสเจ้าฟ้ายองห้วย


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 11:31
คุณนางมารน้อยคะ  อยากทราบรายละเอียดมากเลยค่ะ  เล่าต่ออีกเถิดคะ


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 พ.ค. 13, 11:44
คุณเพ็ญชมพูต้องมีรูปอีกเยอะแน่ๆ  ขอดูบ้างสิคะ Pleasee!!

ใช้อินทรเนตรส่องหาเอาตามเว็บนั่นแหละ   ;)

The Moon Princess : Memory of the Shan States เขียนโดยเจ้านางเมียะจันดา (Sao Sanda)  ธิดาเจ้าส่วยไต้  เจ้าฟ้ายองห้วยกับเจ้านางจันดา  ชายาองค์ที่สอง 

ดูจากชื่อหนังสือ Sanda - จันดา น่าจะหมายถึง ดวงจันทร์ คือ จันทรา นั่นเอง   ;D


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 16 พ.ค. 13, 12:04
คำว่า "แว่น" ปัจจุบันทางล้านนายังใช้อยู่ แปลว่ากระจก "แยงแว่น" คือ ส่องกระจกค่ะ

เรื่องเจ้านางบัวสวรรค์ต้องกลับไปค้นในบทความที่เพื่อนเอาลงในเฟสอีกทีจึงจะได้ความอย่างละเอียด

หลังจากที่ค้นมาแล้วคนที่ถูกจับแล้วเจ้านางช่วยไว้คือ เจ้าขุนศึก ไม่ใช่เจ้าฟ้าจายหลวงซึ่งเป็นเจ้าฟ้า ตอนนั้นเจ้าฟ้าจายหลวงยังเด็กทรงไปศึกษาต่อที่ต้างประเทศ(น่าจะเป็นที่ออสเตรีย) มีเจ้าอาขุนศึกสำเร็จราชการแทน เจ้าขุนศึกได้รับโทรเลขจากย่างกุ้งให้ไปประชุม เจ้าก็ออกไปทันทีเมื่อเครื่องบินถึงย่างกุ้งเจ้าถูกทหารพม่าจับกุมตัว แต่โชคดีมีพ่อค้าชาวเชียงตุงทราบข่าวจึงแอบส่งโทรเลขมาแจ้งเจ้านางบัวสวรรค์ เจ้านางจึงให้หาเด็กสาวที่ขวัญอ่อนที่สุด นั่งข้างหลังท่องคาถากำกับให้หันไปทางย่างกุ้งพอเด็กเห็นย่างกุ้งก็สั่งให้หาว่าเจ้าขุนศึกอยู่ที่ไหนก็พบเจ้าขุนศึกถูกจับกุมตัวไว้ พอรุ่งขึ้นเจ้านางก็บินไปย่างกุ้งทันที แต่สั่งให้หม่อมธาดาทำพิธีตามที่เจ้านางสอน 11 วันอยู่ที่หอคำหลวง เจ้าขุนศึกจึงจะได้รับการปล่อยตัว วันสุดท้ายเจ้าขุนศึกก็ได้กลับมาพร้อมเจ้านางบัวสวรรค์แล้วเจ้าขุนศึกก็ย้ายมาเมืองไทย และอยู่ที่ไทยจนสิ้นชีวิตเพราะทางการพม่าประกาศว่าท่านเป็นบุคคลอันตรายห้ามเข้าประเทศ

(ขอบคุณคุณมนตรี ปัญญาฟู เรียบเรียงมาจากเฟสบุ๊คเธอค่ะ)

บั้นปลายชีวิตเจ้านางประทับอยู่ที่หอใหม่ ซึ่งเจ้าฟ้าก้อนแก้วสร้างถวายมารดา(เจ้าย่าของเจ้านาง) เจ้านางเป็นผู้รับมรดกของเจ้าย่าจึงได้รับหอใหม่นี้มาด้วย


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 16 พ.ค. 13, 12:09


Twilight Over Burma : My Life as a Shan Princess – สิ้นแสงฉาน ของ มหาเทวีศุสันติ (Inge Eberhard Sargent) แห่งสีป้อ


มหาเทวีองค์สุดท้ายแห่งสีป้อ เท่าที่อ่านคนไทยแปลจะแปลว่า สุจันทรี ทางพม่าจะใช้ตัว S แทนการออกเสียงเป็น จ.จานค่ะ เช่นคำว่าเจ้านาง เขาจะสะกดเป็น Sao Nang


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 พ.ค. 13, 12:11
หลังจากที่ค้นมาแล้วคนที่ถูกจับแล้วเจ้านางช่วยไว้คือ เจ้าขุนศึก ไม่ใช่เจ้าฟ้าจายหลวงซึ่งเป็นเจ้าฟ้า ตอนนั้นเจ้าฟ้าจายหลวงยังเด็กทรงไปศึกษาต่อที่ต้างประเทศ(น่าจะเป็นที่ออสเตรีย)

ออสเตรเลียกระมัง   ;)

ต้นสกุลขุนศึกเม็งราย (http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=219773.0) คือ เจ้าฟ้าขุนศึกสุวรรณสงคราม โอรสของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลงกับเจ้าแม่จามฟอง ท่านเป็นผู้สำเร็จราชการแทนเจ้าจายหลวง เจ้าฟ้าองค์สุดท้ายของเชียงตุง ในระหว่างที่เจ้าจายหลวงศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลีย   

ชื่อสองประเทศนี้ ออสเตรีย - ออสเตรเลีย ทำให้คนสับสนเป็นประจำ   ;D



กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 12:46


Twilight Over Burma : My Life as a Shan Princess – สิ้นแสงฉาน ของ มหาเทวีศุสันติ (Inge Eberhard Sargent) แห่งสีป้อ


มหาเทวีองค์สุดท้ายแห่งสีป้อ เท่าที่อ่านคนไทยแปลจะแปลว่า สุจันทรี ทางพม่าจะใช้ตัว S แทนการออกเสียงเป็น จ.จานค่ะ เช่นคำว่าเจ้านาง เขาจะสะกดเป็น Sao Nang

คงจะใช่ตามที่คุณนางมารน้อยว่าค่ะ  เหมือนที่คุณเพ็ญชมพูว่า Sao Santa คือเจ้าจันทรา  (Moon Princess)  อันที่จริงตอนจะเขียนดิฉันก็คลับคล้ายว่าเคยเห็นภาษาไทยเขียน "สุจันทรี"  แต่คิดว่าเข้าใจสับสนเอง

เรื่องของเจ้านางบัวสวรรค์น่าทึ่งมากค่ะ  ทราบว่าท่านมีความสามมารถแต่ไม่ทราบมาก่อนว่ามีความสามารถด้านนี้ด้วย


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 12:51
เจ้านางสุจันทรี มหาเทวีของเจ้าฟ้าจ่าแสงแห่งสีป้อ


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 12:54
เจ้าฟ้าจ่าแสงกับมหาเทวีสุจันทรี


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 12:55
เจ้าฟ้าจ่าแสง มหาเทวีสุจันทรี และราชธิดา - เจ้านางมายรีและเจ้านางเกนรี


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 13:15
เจ้านางเฮินคำ  เจ้าน้องของเจ้าห่มฟ้าแห่งแสนหวี  เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเจ้านางแว่นทิพย์  อภิเษกเป็นมหาเทวีของเจ้าฟ้าส่วยไต้แห่งยองห้วย  ภายหลังการลงนามในสนธิสัญญาปางหลวง  เจ้าฟ้าส่วยไต้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหภาพพม่า  เมื่อคณะทหารยึดอำนาจการปกครอง  เจ้าฟ้าส่วยไต้ถูกจับกุมคุมขังและเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ  มหาเทวีเฮินคำและโอรสธิดาถูกกักบริเวณ  ในท้ายที่สุดมหาเทวีต้องลอบพาโอรสธิดาหลบหนีถึงขั้นต้องว่ายน้ำข้ามมาฝั่งไทย


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 13:18
เจ้าฟ้าส่วยไต้กับเจ้านางเฮินคำในวันอภิเษก


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 พ.ค. 13, 13:20
เจอรูปเจ้านางเมียะจันตาและเจ้าพี่เจ้าน้องในกระทู้ของคุณเงาอดีตค่ะ


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 พ.ค. 13, 13:32
รูปบนหน้าปกหนังสืองามนัก ;D


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ก.ค. 16, 15:16
เจ้าฟ้าจ่าแสงกับมหาเทวีสุจันทรี

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5617.0;attach=40187;image)

ชีวิตของทั้งสองท่านได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เรียบร้อยแล้ว แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ถูกห้ามฉายทั้งในพม่าและไทย  :'(

http://www.youtube.com/watch?v=9SMobIKmpC8#ws (http://www.youtube.com/watch?v=9SMobIKmpC8#ws)


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ก.ค. 16, 13:49
เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว (พ.ศ. ๒๕๕๘)  มหาวิทยาลัยเหมืองแร่โคโลราโด (The Colorado School of Mines) ได้มอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับเจ้าฟ้าจ่าแสงแห่งสีป้อที่หายสาบสูญ ในฐานะที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพและเป็นศิษย์เก่าของสถาบันแห่งนี้ หลังเรียนจบได้นำความรู้จากสหรัฐอเมริกาไปพัฒนาในด้านเหมืองแร่และด้านเกษตรกรรมให้กับประชาชนชาวเมืองสีป้อ  อิงเง เซอร์เจนท์ (Inge Sargent) หรืออดีตมหาเทวีสุจันทรีแห่งสี่ป้อพร้อมธิดาทั้งสอง คือเจ้าเกนนารี (Sao Kennari) และเจ้ามายารี (Sao Mayari) เป็นผู้รับรางวัลแทนเจ้าฟ้าจ่าแสงในพิธีมอบรางวัลซึ่งมีแขกมาร่วมงานกว่า ๓๐๐คน

อิงเง เซอร์เจนท์ กล่าวระหว่างขึ้นรับรางวัลว่า เจ้าฟ้าจ่าแสงวางแผนที่จะพัฒนาเหมืองแร่ในเมืองสีป้อ แต่เป็นไปในทางที่รับผิดชอบและปลอดภัยต่อสังคม โดยหวังให้ชาวไทใหญ่ได้ผลประโยชน์จากโครงการเหล่านี้  ขณะที่อุปกรณ์เครื่องมือบางส่วนจากต่างประเทศเพิ่งมาถึง น่าเสียดายที่เกิดรัฐประหารขึ้นเสียก่อน ชาวไทใหญ่ทุกคนที่เชื่อมั่นในการศึกษาจะภูมิใจในตัวเจ้าฟ้าจ่าแสง เจ้าฟ้าองค์สุดท้ายของสีป้อ

แม้จะเวลาจะล่วงเลยมา ๕๔ ปี นับตั้งแต่เนวินยึดอำนาจและเจ้าฟ้าจ่าแสงถูกจับตัวไป แต่ในทุก ๆ ปี อดีตมหาเทวีแห่งสีป้อและธิดาทั้งสองยังคงเขียนจดหมายถึงรัฐบาลพม่า เพื่อทวงถามชะตากรรมของเจ้าฟ้าจ่าแสง แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ

ภาพและเรื่องจาก  ภาษาไทย : http://transbordernews.in.th/home/?p=10069 (http://transbordernews.in.th/home/?p=10069)   ภาษาอังกฤษ :  http://www.bnionline.net/feature/item/911-former-prince-of-hsipaw-honored-in-colorado.html (http://www.bnionline.net/feature/item/911-former-prince-of-hsipaw-honored-in-colorado.html)

บนเวที จากซ้ายไปขวา เจ้าเกนนารี เจ้ามายารี และอดีตมหาเทวีสุจันทรี


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 13 ก.ค. 16, 14:18
อ่านสิ้นแสงฉานแล้วก็สงสารสุจันทรีมหาเทวีมากๆค่ะ


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ก.พ. 23, 09:35
สิ้นแล้ว เจ้านางสุจันทรี มหาเทวีองค์สุดท้ายแห่งสีป้อ

สำนักข่าว Shan News (https://shannews.org/archives/39838) รายงานว่า เช้าวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เจ้านางสุจันทรีมหาเทวีของเจ้าฟ้าจ่าแสง เจ้าฟ้าหลวงองค์สุดท้ายแห่งเมืองสีป้อ รัฐฉาน ได้เสียชีวิตลงแล้วจากโรคชรา ด้วยวัย ๙๑ ปี ที่บ้านพักในสหรัฐอเมริกา

เจ้านางสุจันทรี หรือ Inge Sargent ชาวออสเตรีย ซึ่งได้พบรักกับเจ้าฟ้าจ่าแสง สมัยที่ทั้งคู่ไปเรียนหนังสืออยู่ในรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา กระทั่งทั้งคู่ได้แต่งงานกันในอเมริกาเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๔๙๖ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าสถานะที่แท้จริงของเจ้าฟ้าจ่าแสงในรัฐฉานนั้นเป็นใคร จนได้มารับรู้เมื่อทั้งคู่เรียนจบและเดินทางกลับมายังรัฐฉานในภายหลัง

ตลอดเวลา ๑๒ ปีที่เจ้านางสุจันทรีอยู่ในรัฐฉานในฐานะมหาเทวี เจ้านางได้เป็นแรงสนับสนุนสำคัญของเจ้าฟ้าจ่าแสงในการบริหารกิจการบ้านเมือง จนเป็นที่รักของชาวเมืองสีป้อ กระทั่งในปี ๒๕๐๕ เมื่อนายพลเนวินทำรัฐประหารในพม่าและเข้ามาครอบครองรัฐฉาน ล้างระบอบเจ้าฟ้าลงทั้งหมด เจ้าฟ้าจ่าแสงถูกทหารพม่าจับกุมตัวไปคุมขัง และไม่ได้กลับไปยังเมืองสีป้ออีกเลย

เจ้านางสุจันทรีได้พาลูกสาว ๒ คน คือเจ้ามายารี และเจ้าเกนนารี กลับไปอยู่ออสเตรีย และต่อมาได้ย้ายไปพำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกา จนเพิ่งเสียชีวิตลงเมื่อวานซืนนี้

ในอเมริกา เจ้านางสุจันทรีได้เขียนหนังสือเรื่อง "Twilight Over Burma - My Life as a Shan Princess" ได้รับการตีพิมพ์ในปี ๒๕๓๗ เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมมากเล่มหนึ่ง จนต่อมามีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ มีการตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า "สิ้นแสงฉาน" เมื่อปี ๒๕๕๙ แต่ปรากฏว่าถูกสั่งห้ามฉายในประเทศไทย

ในปี ๒๕๕๑ ด้วยความผูกพันกับรัฐฉาน เจ้านางสุจันทรีได้ตั้งกองทุนขึ้นเพื่อสนับสนุนเยาวชนที่ทำคุณประโยชน์แก่รัฐฉาน โดยมอบทุนที่ใช้ชื่อว่า "Sao Thusandi Leadership Award" ให้ปีละ ๑ ทุน คนละ ๔,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ และมีการมอบทุนให้ทุกปีอย่างต่อเนื่อง จนถึงปีที่แล้ว (๒๕๖๕) มีเยาวชนไตในรัฐฉานได้รับทุน Sao Thusandi Leadership Award ไปแล้วรวม ๑๔ คน

ในวันเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ที่จะถึงนี้ เวลา ๙.๓๐ น. ชาวไตที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จะร่วมกันจัดทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้านางสุจันทรีที่วัดป่าเป้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

จากเฟซบุ๊กของ คุณปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์ (https://www.facebook.com/100001555861767/posts/pfbid0VrJeQBETTarqp1FAHKN2LwgBeyqiDE25hSPNNk2QCk8fALsEr17J4vYgHL4tYA9Ul/?mibextid=cr9u03)


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: Rattananuch ที่ 08 ก.พ. 23, 10:30
ตอนเด็กๆเคยอ่านเรื่องเกนรี มายรีของโสภาค สุวรรณ แล้วต่อมาได้ทราบว่าเป็นเค้าโครงเรื่องจากเรื่องสิ้นแสงฉาน แต่ในนิยายเปลี่ยนเป็นสุภาพสตรีไทยแทน แล้วมายรีก็เสียชีวิตตั้งแต่เด็กเพราะจมน้ำตายเพราะความใจดำของญาติชาวไทยเหลือแต่นางเอกเกนรี


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ก.พ. 23, 10:35
สิ้นแสงฉาน หรือ Twilight Over Burma

https://www.facebook.com/100066565535605/videos/686104475304601/


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ก.พ. 23, 11:35
ไยฉานจึงสิ้นแสง …….

https://youtu.be/HX_ImsoqrMY


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 23, 11:16
สิ้น "อิงเง่ ซาร์เจนท์" มหาเทวีองค์สุดท้ายแห่งสีป่อ เจ้าของผลงาน "สิ้นแสงฉาน"
..
"อิงเง่ ซาร์เจนท์" หรือนามสกุลเดิม อีเบอร์ฮาร์ด เป็นชาวออสเตรีย เกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ปี 1932 (พ.ศ. 2475) เธอพบ "เจ้าจาแสง" ครั้งแรก ที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ขณะทั้งคู่ศึกษาในมหาวิทยาลัยช่วงต้นทศวรรษ 1950 ระหว่างคบหากัน อิงเง่ไม่เคยรู้เลยว่าชายคนรักเป็นเจ้าฟ้าหลวงแห่งสีป่อ และเมื่อความรักสุกงอม ทั้งคู่ก็แต่งงานกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ปี 1953 ที่เมืองเดนเวอร์
..
ความจริงมาเปิดเผยเอาเมื่อเจ้าจาแสงซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมเหมืองแร่ พาอิงเง่เดินทางกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองสีป่อ เมื่อเรือเข้าเทียบท่าที่พม่า อิงเง่สงสัยว่าทำไมถึงมีผู้คนมาต้อนรับมากมายขนาดนั้น เจ้าจาแสงจึงบอกว่าพระองค์คือผู้ปกครองนครรัฐสีป่อในรัฐฉาน
..
แม้ตกใจ แต่ด้วยความรักก็ทำให้ในระยะเวลาไม่นาน อิงเง่สามารถเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสังคมไทใหญ่ได้อย่างกลมกลืน เธอได้รับชื่อใหม่ว่า "สุจันทรี" และได้รับการแต่งตั้งเป็นมหาเทวีแห่งสีป่ออย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 1957
..
เจ้าจาแสงและมหาเทวีแห่งสีป่อ ได้ชื่อว่าเป็นคู่รักราชนิกุลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบรรดานครรัฐไทใหญ่ 30 กว่าแห่ง ส่วนหนึ่งอาจเพราะเจ้าจาแสงเรียนจบจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศ และมุ่งมั่นนำความรู้กลับมาพัฒนาสีป่อ อีกส่วนอาจเป็นเพราะมหาเทวีเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งชาวสีป่อและชาวไทใหญ่ในนครรัฐอื่น ๆ ไม่คุ้นตานัก
..
“ทีแรกนั้นชาวบ้านตื่นตระหนกกับการมีเจ้านายฝ่ายหญิงเป็นสตรีชาวยุโรป ในช่วงแรก ๆ หลายคนถึงกับตั้งแง่ แต่แล้วไม่นานกำแพงดังกล่าวก็ถูกทลายลง ทุกวันนี้มหาเทวีเป็นที่รักและชื่นชมของคนทั้งสีป่อซึ่งยอมรับเธอเป็นพวกเดียวกับพวกเขา” โอกู ครารุพ-นีลเซน นักเขียนชาวเดนมาร์กผู้เคยไปเยือนสีป่อช่วงปลายทศวรรษ 1950 บอกไว้ในหนังสือของเขาชื่อ "The Land of the Golden Pagodas"
..
เจ้าจาแสงและสุจันทรีร่วมกันพัฒนานครรัฐสีป่อ ทั้งด้านการเกษตรกรรม สาธารณสุข การศึกษา เพื่อให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่แล้วทุกอย่างก็หยุดชะงัก เพราะในวันที่ 2 มีนาคม ปี 1962 นายพลเนวินนำกำลังทหารยึดอำนาจของรัฐบาลอูนุที่มาจากการเลือกตั้ง ล้มล้างรัฐธรรมนูญ
..
หนึ่งวันก่อนนายพลเนวินทำรัฐประหาร เจ้าจาแสงทรงเดินทางด้วยเครื่องบินไปเข้าประชุมรัฐสภาที่กรุงย่างกุ้ง จากนั้นกลับไปที่ตองจี เพื่อเยี่ยมไข้พระพี่นางซึ่งประชวรหนัก เจ้าจาแสงจึงยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น และเสด็จออกตั้งแต่เช้า เพื่อขึ้นเครื่องบินไปยังสนามบินล่าเสี้ยวประจำสีป่อ
..
แต่เมื่อมาถึงประตูเมืองตองจีบนทางหลวงสู่เมืองเฮโฮ ทหารที่ตั้งด่านอยู่ก่อนแล้วก็เรียกให้รถยนต์พระที่นั่งของเจ้าจาแสงจอด มีคนพบเห็นพระองค์เป็นครั้งสุดท้ายว่าถูกทหารอาวุธครบมือควบคุมตัวไป
..
สุจันทรีซึ่งอยู่ที่สีป่อ พยายามสืบหาว่านายพลเนวินนำตัวเจ้าจาแสงไปไว้ที่ไหน แต่ก็ถูกทหารจับตามองแทบไม่คลาดสายตา ทั้งยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดว่าตกลงแล้วเจ้าจาแสงยังทรงมีพระชนมชีพอยู่หรือจากไปแล้ว จนวันหนึ่ง สุจันทรีตัดสินใจพาพระธิดาคือมายรีและเกนรีเดินทางเข้าไปพำนักที่กรุงย่างกุ้ง เพื่อจะได้สืบข่าวอย่างละเอียดได้มากขึ้น
..
แม้สุจันทรีจะพยายามทวงถามความยุติธรรมถึงชีวิตของเจ้าจาแสงจากนายพลเนวินเท่าใด แต่นายพลเนวินและบรรดาทหารก็ไม่เคยให้คำตอบที่มากไปกว่า "เจ้าจาแสงสบายดี" และถูกกักตัวไว้ในที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ทหารระดับใหญ่โตบางรายกลับบอกว่า "เจ้าจาแสงไม่เคยถูกควบคุมตัว" ด้วยซ้ำ ส่วน "โบเสตจะ" อดีตนักการเมืองพม่า เล่าให้สุจันทรีทราบถึงข่าวร้ายว่า เจ้าจาแสงถูกทหารปลงพระชนม์แล้ว ที่ค่ายทหารบาตูเมี้ยวทางเหนือของตองจี ไม่นานหลังถูกควบคุมตัว
..
เมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ เลวร้ายลงเรื่อย ๆ ท้ายสุด สุจันทรีจึงต้องพามายรีและเกนรีออกจากพม่ากลับไปยังออสเตรีย จากนั้นทำงานที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย อยู่สักพัก ระหว่างนั้น "อิงเง่" ได้รู้จักและคุ้นเคยกับครอบครัวของ โสภาค สุวรรณ นักเขียนชื่อดังของไทย เนื่องจากบิดาของโสภาครับราชการในสถานเอกอัครราชทูตที่นั่น เป็นที่มาของนวนิยายเรื่อง "เกนรี มายรี" ของโสภาค
..
ปี 1966 อิงเง่และทายาททั้งสอง เดินทางไปตั้งรกรากที่สหรัฐอเมริกา เธอแต่งงานกับ โฮวาร์ด "แทด" ซาร์เจนท์ ในปี 1968 แม้ชีวิตที่นครรัฐสีป่อจะจบลง แต่อิงเง่ยังคงผูกพันกับชาวสีป่อ เธอเขียนหนังสือ "Twilight Over Burma: My Life as a Shan Princess" (แปลเป็นภาษาไทยในชื่อ "สิ้นแสงฉาน") บอกเล่าชีวิตของเธอและเจ้าจาแสง ควบคู่กับการตีแผ่ความโหดร้ายของเผด็จการทหารยุคนายพลเนวิน
..
อิงเง่ ซาร์เจนท์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ในวัย 91 ปี ทิ้งเรื่องราวยุครุ่งเรืองของนครรัฐสีป่อแห่งรัฐฉาน ไว้ให้ผู้คนทั่วโลกได้จดจำและนึกถึง

สิ้น "อิงเง่ ซาร์เจนท์" มหาเทวีองค์สุดท้ายแห่งสีป่อ เจ้าของผลงาน "สิ้นแสงฉาน"
..
เรื่อง: สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์
จากเพจ Silpawattanatham - ศิลปวัฒนธรรม


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 23, 11:22
 :)


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ก.พ. 23, 14:35
R.I.P. Sao Nang Thusandi, The Mahadevi of Hsipaw (1932 – 2023)

ภาพลงสี โดย คุณหนุ่มสยาม


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ก.พ. 23, 18:35
สิ้นแสงฉานอย่างแท้จริง


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 23, 20:03
เจ้านางยังมีธิดาอีก 2 คนคือเจ้าเกนรี และเจ้ามายรี   ทั้งคู่อยู่ในอเมริกากับมารดา    แต่ยังหารายละเอียดเพิ่มเติมไม่ได้ว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.พ. 23, 11:35
เจ้ามายารี (Sao Mayari Sargent Pritzker) สำเร็จการศึกษาปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (Master of Business Administration - MBA) จาก George Washington University และปริญญาเอก Ph.D industrial/organizational psychology จาก Illinois Institute of Technology (IIT) สมรสกับ Robert Alan  Pritzker (https://en.m.wikipedia.org/wiki/Robert_Pritzker) นักธุรกิจชาวอเมริกันผู้มั่งคั่ง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๗ ปัจจุบันเป็นประธาน Robert and Mayari Pritzker Family Foundation

เจ้าเกนนารี (Sao Kennari Sargent) สำเร็จการศึกษาปริญญาโทด้าน Clinical Social Work จาก The Catholic University of America ทำงานเป็น นักจิตบำบัด (psychotherapist)

ข้อมูลจาก

https://www.chicagotribune.com/news/ct-xpm-1998-03-01-9803010467-story.html
https://www.worldwildlife.org/leaders/mayari-pritzker
https://www.linkedin.com/in/kennari-sargent-9993788

ภาพธิดาทั้งสองของเจ้านางสุจันทรี  ซ้ายจาก พันทิป (https://m.pantip.com/topic/35076521?)  ขวาจาก bnionline (https://www.bnionline.net/en/feature/item/911-former-prince-of-hsipaw-honored-in-colorado.html)


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 ก.พ. 23, 12:35
พิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ เจ้านางสุจันทรี มหาเทวีในเจ้าฟ้าจ่าแสงแห่งสีป้อ ณ วัดป่าเป้า ตำบลศรีภูมิ จังหวัดเชียงใหม่ วันเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๓๐ น.

https://www.facebook.com/unseencnx/videos/1648410632280038/


กระทู้: เจ้านางเชียงตุง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 ก.พ. 23, 17:35
……