"เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ "
ดนัย ดีนา เด็ก3ขวบชาวกัมพูชา
ผู้รอดตายจากทุ่งสังหาร
ดนัยและแม่หนีตายจากประเทศบ้านเกิดเมืองนอน จนข้ามมาฝั่งไทยได้ และด้วยพระบารมีและพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่มีต่อเขา เมื่อคราวเสด็จมายังที่ศูนย์ผู้อพยพเขาล้าน ที่จังหวัดตราด ได้ทรงรับอุปการะทางด้านการศึกษาให้กับตัวเขาพร้อมกับเพื่อนๆ เยาวชนในศูนย์ดังกล่าว รวม 195 คน และนี่คือเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตสำหรับเขา
"วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2522 สมเด็จพระราชินีเสด็จไปเยี่ยมพวกเราชาวกัมพูชาที่ศูนย์ฯ ซึ่งสภาพผมในตอนนั้น อยู่ในขั้นหนังหุ้มกระดูก พระองค์ท่านก็จับผมเอาวิตามินและนมมาป้อน หลังจากนั้นก็อาการดีขึ้น พระองค์ทรงค้างที่นั่น 3 คืน ท่านลงไปสอนวิชาชีพให้กับคนในศูนย์อพยพ และก็สอนวิธีการชงนมให้กับเด็ก และนั่นคือความประทับใจแรกที่มีต่อพระองค์"
"ถึงตอนนี้ เมื่อคิดย้อนกลับไปเห็นในสภาพนั้น พระองค์เอาใจใส่มากเลย ไปสัมผัส ไปดูแลอย่างใกล้ชิดเลย เหมือนกับแพทย์น่ะครับ ไปดูผู้ป่วย คือ ณ ตอนนั้น ผู้ป่วยแทบจะไม่ได้อาบน้ำเป็นปีเลย เพราะว่าสบู่ไม่มี แล้วแผลก็เน่าเป็นเดือนมีหนอนด้วย เพราะฉะนั้น มันทั้งเน่าทั้งเหม็น ทุกอย่างเดินเข้าใกล้ไม่ได้ แต่พระองค์เสด็จไปแตะไปจับแบบไม่กลัวเลย ท่านไม่ทรงรังเกียจเลย แล้วตอนนั้น ระเบิดก็ลงบ่อยๆ ด้วย ผมคิดว่า ถ้าเป็นคนทั่วไป หากต้องไปในสถานการณ์ตอนนั้น ก็คงไม่มีใครคิดอยากจะไป เพราะเสี่ยงมากกับระเบิดที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา"
"ผมซาบซึ้งน้ำพระทัยของพระองค์ ที่ทรงดูแลโดยไม่นับว่าเป็นเชื้อชาติไหน สถานะใด คือท่านดูแลทั้งหมด เป็นแบบฮีโร่ที่หาไม่ได้ในตอนนั้น คือเป็นเหมือนมารดาบังเกิดเกล้า ต่อจากแม่ที่แท้จริงของผมเลย เพราะแม่ของผมปกป้องทุกวิถีทาง ทั้งป้องกันกระสุน หลบระเบิด และหาอาหารให้ และยิ่งมาพบกับสมเด็จพระราชินี เป็นแม่คนที่สอง ที่ช่วยจากระเบิดและอาหารการกิน คือหลังจากนั้น ผมพูดได้เลยว่า เรารอดตายแล้ว มีความหวังว่าจะไม่ถูกฆ่าอีกแล้ว"
"หลังจากเหตุการณ์สงบ ผมก็ยังอยู่ที่ศูนย์เขาล้าน ก็มีเจ้าหน้าที่จากทางสำนักพระราชวังมาดูแลอย่างดี อาหารการกิน การเรียน ครู ผู้ดูแล แพทย์ มีพร้อม รวมถึงครูด้านการเกษตร ครูด้านภาษาอังกฤษ ก็มีพร้อมอย่างดี และต่อมา หลังจากศูนย์พักพิงที่เขาล้านได้ปิดตัวลง พระองค์ได้ส่งผมและชาวกัมพูชารวม 195 คน ให้ไปศึกษาที่ต่างประเทศ ให้มีโอกาสไปเรียนรู้ศึกษาและแสวงหาชีวิตที่ดีที่เมืองนอกน่ะครับ ซึ่งก่อนไป พระองค์ท่านมีรับสั่งอย่างเดียว คือขอให้ย้อนกลับมาหาท่านแล้วบอกว่าอยู่ที่นั่นแล้วชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง เป็นคำที่พระองค์ทรงรับสั่งกับผม ฉะนั้น ชาวกัมพูชา 195 คนที่พระองค์ส่งไป ยังจำคำนี้ได้ คือพระองค์ทรงบอกว่าไม่ได้ให้มาพัฒนาประเทศไทย แต่ให้กลับไปพัฒนาประเทศตัวเอง พระองค์ทรงช่วยโดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทน คือท่านทรงหมายถึงคำนั้นจริงๆ"
จากบทสัมภาษณ์ของ
ดนัย ดีนา คมคาย เคือน นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ชาวกัมพูชาที่ประสบความสำเร็จสู่จุดสูงสุดของชีวิตอันเป็นผลมาจากพระมหากรุณาธิคุณของ “สมเด็จพระบรมราชินีนาถ”
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9580000023854ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
วชิรภัทร อินทุภูติ
ประชาชนของพระองค์