Anna
|
ความคิดเห็นที่ 360 เมื่อ 02 ต.ค. 23, 11:45
|
|
สื่ออังกฤษก็ตาเหลือกไปตามๆกัน ว่านางพญานอกบัลลังก็จะย่างเท้าเข้าสู่ทำเนียบขาวเชียวรึ
บัคกิ้งแฮม นางยังเคยเข้าไปย่ำจนพรมเป็นรอยเลอะเทอะมาแล้ว นี่แค่ทำเนียบขาว..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 361 เมื่อ 02 ต.ค. 23, 15:04
|
|
ล่าสุด เมแกนเป็นข่าวให้บรรดาผู้ไม่ชอบหน้านางได้เม้าท์กระจายกันอีกครั้ง เมื่อนางกับเจ้าชายไปร่วมงานกุศลชื่อ One805 Live charity event จัดโดยดาราดังเควิน คอสเนอร์ มีดาราดังไปร่วมงานเพียบ ในฐานะหนึ่งในผู้บริจาค ทั้งสองได้รับเชิญให้ขึ้นไปยืนบนเวทีด้วย รอคิวมอบของ มีอยู่ช่วงหนึ่งพิธีกรสาวใหญ่ถือไมค์เดินเฉียดมา เมแกนนึกว่าพิธีกรคงจะมาส่งไมค์ให้นางได้กล่าวปราศรัยอะไรสักอย่างในฐานะคนดัง ก็เลยคว้าไมค์ไว้ในมือ แต่..เปล๊า..พิธีกรไม่ได้คิดจะส่งไมค์ให้สักหน่อย จึงยึดไมค์ไม่ปล่อยแล้วเดินต่อไป เมแกนก็เลยเก้อไป (นาทีที่ 2.21) เป็นอาการเก้อชั่ววินาที แต่เห็นกันทั่วโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 362 เมื่อ 03 ต.ค. 23, 09:19
|
|
ล่าสุด เก้าอี้วุฒิสมาชิกก็ลอยลับไปสู่มือคนอื่น ไม่ใช่เมแกนอย่างที่เป็นข่าว
กาวิน นิวซัม(Gavin Newsom) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียตกลงเลือกนาง (นางสาว?)ลาฟอนซา บัตเลอร์ ( Laphonza Butler)นักยุทธศาสตร์ของพรรคเดโมแครต มานั่งเก้าอี้ในวุฒิสภาสหรัฐฯ แทนไดแอนน์ ไฟน์สไตน์ ในช่วง 13 เดือนที่เหลือ บัตเลอร์มีประสบการณ์มากพอตัว เคยเป็นที่ปรึกษาในการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของ นางกมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ในปี 2020 ที่เรียกไม่ถูกว่านาง หรือนางสาว เพราะยังไม่ได้ไปค้นว่า ผู้หญิงที่มีคู่สมรสเป็นผู้หญิงด้วยกันและมีลูก 1 คน ควรใช้คำนำหน้าชื่อว่าอะไร ในภาษาไทย ในอเมริกาน่าจะใช้ Ms. ไม่มีปัญหา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 363 เมื่อ 06 ธ.ค. 23, 19:31
|
|
ล่าสุด นางพญาก็เขย่าบัลลังก์อังกฤษอีกครั้งจนได้ ในรูปของหนังสือชื่อ Endgame: Inside the Royal Family and the Monarchy’s Fight for Survival เขียนนักเขียนโนเนมชาวอังกฤษชื่อโอมิด สกูบี (Omid Scobie) นายคนนี้มีอาชีพเป็นผู้สื่อข่าวค่ายเชียร์ซัสเซกซ์
เนื้อหาในหนังสือออกมาเป็นทำนองเดียวกับสื่อประเภทแทบลอยด์ คือเต็มไปด้วยเรื่องซุบซิบนินทา เขาว่า..ยังงั้น เขาว่า..ยังงี้ ขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของพระราชวงศ์ โดยเฉพาะพระเจ้าชาร์ลส์ และเจ้าชายกับเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เอามาปรักปรำด้วยข้อหาต่างๆ ล้วนแล้วแต่สรุปได้ว่า แต่ละองค์ล้วนทำอะไรร้ายกาจใส่เจ้าชายแฮรี่และเมแกน แบบร้ายแล้วก็ร้ายได้อีก ราวกับถอดวิญญาณผู้ร้ายในหนังเงียบของฮอลลีวู้ดออกมา คือโผล่ออกจอก็ร้ายตั้งแต่ต้นจนอวสาน
ความจริง เรื่องที่นายคนนี้บรรยายมาไม่มีอะไรใหม่ ล้วนเอาของเก่ามาฉายซ้ำ ว่าด้วยเจ้าชายแฮรี่ถูกข่มเหงจากพ่อที่ไม่ยุติธรรม และถูกกลั่นแกล้งจากพี่ชายจอมโหด ส่วนที่เกี่ยวกับเมแกน ประเด็นก็ชูธงผืนเดิมคือนางถูกเหยียดผิวสุดๆ ไม่ว่าจะทำอะไรแม้แต่หายใจออกมาสัก 1 เฮือก ก็โดนเหยียดแล้ว ถ้าใครอ่านประวัติของเมแกนคงจำได้ว่า นางเอาอคติเรื่องสีผิวเป็นจุดขายของนางมาตลอด เข้าวงการดาราลำบากเลือดตาแทบกระเด็นกว่าดาราสาวอื่นๆก็เพราะฉันไม่ใช่คนผิวขาว อยู่ในราชสำนักของสามีไม่ได้ก็เพราะคนในนั้นรังเกียจสีผิวของฉัน ฉันเป็นนักรณรงค์ความเสมอภาคระหว่างชาติพันธุ์ เพราะฉันถูกรังเกียจเรื่องเป็นลูกครึ่งผิวสี ฯลฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 364 เมื่อ 06 ธ.ค. 23, 19:36
|
|
เมื่อย้ายมาอยู่อเมริกาใหม่ๆ ผู้คนกำลังฮือฮา เมแกนเคยไปให้สัมภาษณ์ในรายการของเจ้าแม่พิธีกรระดับโลก โอปราห์ วินฟรีย์ นางก็หยิบยี่ห้อ "เหยียดผิว" ขึ้นมาชูธง เล่าว่าตอนที่นางใกล้คลอดอาร์ชี ลูกคนแรก มี "เจ้านาย" ในพระราชวังพูดเป็นทำนองว่า...กังวลจัง ว่าลูกนางจะออกมาเป็นผิวดำ บอกครึ่งๆกลางๆแล้วทิ้งท้ายไว้ เมแกนไม่ยอมเปิดเผยชื่อจนแล้วจนรอดว่า เจ้านายองค์ไหนพูดเหยียดผิวกันขนาดนั้น จึงมีการคาดเดากันไปทั่วโลกว่าคนที่พูดน่าจะเป็นเสด็จปู่ของเด็กคือพระเจ้าชาร์ลส์ เพราะถ้าเป็นเจ้านายไกลตัวกว่านั้น ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนอะไรว่าเด็กคนนี้ผิวจะขาวหรือดำ และคาดเดากันว่าพระเจ้าชาร์ลส์คงไม่ได้พูดดังๆกับลมกับแล้งอยู่องค์เดียว ต้องปรารภกับใครสักคนแน่นอน กระแสก็เลยพุ่งเป้าไปที่ควีนคามิลล่า ที่น่าจะเป็นคู่สนทนามากกว่าคนอื่น จนแล้วจนรอด เมแกนอมพะนำไม่ยอมบอกว่าใครเป็นเจ้าของคำพูด จนกระทั่งหนังสือ Endgame ของนายโอมิด สกูบี วางตลาด ได้รับการแปลจากอังกฤษเป็นภาษาอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือภาษาดัทช์ เพื่อวางขายในเนเธอร์แลนด์ ความลับก็แตกโพละออกมาในภาษาดัทช์นี่เอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 365 เมื่อ 06 ธ.ค. 23, 19:42
|
|
ใน Endgame ฉบับที่แปลเป็นภาษาดัทช์ ดันระบุชื่อผู้พูดถ้อยคำร้ายแรงนี้ ออกมาอย่างชัดเจนว่า คือพระเจ้าชาร์ลส์กับเคท เจ้าหญิงแห่งเวลส์ สะใภ้ใหญ่ ขณะที่ฉบับภาษาอังกฤษของนายสกูบีเขียนอึมครึม เล่าเหตุการณ์แต่เว้นชื่อผู้พูดเอาไว้ ในหนังสือยังอ้างด้วยว่า ข้อหานี้อยู่ในจดหมายที่เมแกนส่งจากสหรัฐอเมริกาไปต่อว่าพ่อผัว ในปี 2021 และทรงมีจดหมายตอบปฏิเสธกลับมาว่าไม่มีเจตนาอย่างนั้น
พอประชาชนชาวดัทช์ได้อ่าน ไฟก็ลุกฮือลามทุ่งไปทั่วประเทศ ข้ามเขตแดนมาถึงหูประชาชนชาวอังกฤษ เป็นข่าวครึกโครมรู้กันทั้งเมือง แม้ว่าสื่ออังกฤษไม่กล้าระบุชื่อเจ้านายไว้ในข่าว แต่ทุกสื่อก็รู้ว่าบุคคลในหนังสือเล่มนี้เป็นใคร ของพรรค์นี้มันปิดกันได้ที่ไหนเล่า เรื่องจริงไม่จริงยกไว้ก่อน ที่แน่ๆคือเรื่องนี้เป็นการกล่าวหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรด้วยข้อหาร้ายแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน มากพอที่ผู้เผยแพร่มีสิทธิ์จะถูกลากตัวขึ้นศาล ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมหาศาล จนสิ้นเนื้อประดาตัว สำนักพิมพ์อเมริกันผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสือ Endgame ก็ขนหัวลุก รีบบอกสำนักพิมพ์ดัตช์ให้ยุติการจำหน่ายโดยด่วน เพื่อเช็ดล้างปัญหาให้หมดจดเสียก่อนจะพังไปตามๆกันเหมือนตัวโดมิโน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 366 เมื่อ 06 ธ.ค. 23, 20:27
|
|
ในอังกฤษมีพิธีกรดังอยู่คนหนึ่งขื่อนายเพียร์ส มอร์แกน ถ้าใครเคยดูรายการ Britain Got Talent ที่เป็นรายการประเภทค้นฟ้าคว้าดาว หามือสมัครเล่นที่มีพรสวรรค์ในศิลปะด้านต่างๆ คงจำได้ว่าเขาเคยเป็นหนึ่งในกรรมการตัดสิน ต่อมาก็มีรายการวิเคราะห์ข่าวของตัวเอง เพียร์ส ชังน้ำหน้าเมแกนเข้ากระดูกดำ เบื้องหลังข่าวปิดกันให้แซดว่าก่อนหน้าเมแกนจะพบเจ้าชายแฮรี่ นางเป็นดาราพยายามไต่ระดับทางสื่อมวลชน ด้วยการอ่อยเพียร์ส มอแกน แต่ความสัมพันธ์ยังไม่ทันเร่ิ่มก็เจอแฮรี่เข้าเสียก่อน นางก็เลยทิ้งเพียร์สโครมใหญ่ แบบตัดขาดไปดื้อๆ ไม่พบ ไม่พูด ไม่ติดต่อ หายตัวไปเลยนับแต่นั้น เพียร์สก็เลยเป็นปรปักษ์กับเมแกนอย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะวิเคราะห์ข่าวเกี่ยวกับนางทีไร เป็นแสดงความไม่เชื่อถือ ไม่นับถือ ไม่เห็นด้วย ตลอดมา พอข่าวหนังสือฉบับดัทช์ของนาย โอมิด สกูบี มาถึงมือของนายเพียร์ส ก็เข้าทางพอดี เขาก็ทำตัวเป็นแนวหน้ากล้าตาย ใช้สิทธิเสรีภาพของสื่อ ประกาศกลางรายการ “Piers Morgan Uncensored” อย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม แฉว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหาในหนังสือ คือพระเจ้าชาร์ลส์ กับเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เพียร์สแถลงอย่างอาจหาญว่า " ผมจะบอกพระนามเจ้านาย 2 องค์ที่ระบุไว้ในหนังสือ Endgame ฉบับแปลเป็นภาษาดัตช์ ด้วยเหตุผลว่าในเมื่อชาวดัตช์เดินเข้าร้านหนังสือ หยิบขึ้นมาเปิดอ่านพระนามได้อย่างเปิดเผย แล้วทำไมพวกเราชาวอังกฤษจะรู้ไม่ได้ พวกเรามีสิทธิ์ที่จะได้รู้เรื่องเช่นกัน เราจะได้นำมาอภิปรายกันอย่างกว้างขวางถึงข้อเท็จจริงในหนังสือนี้ ส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าจะมีเจ้านายองค์ใดของเรามีคำพูดในทางเหยียดผิวออกมา ตราบใดยังไม่มีหลักฐานยืนยันพิสูจน์ได้ ผมไม่มีวันเชื่อข้อกล่าวหานี้”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 367 เมื่อ 07 ธ.ค. 23, 09:49
|
|
เท่านั้นยังไม่พอ เพียร์สทิ้งระเบิดส่งท้ายว่า “ เรามาตั้งกระบวนการค้นคว้าหาความจริงกันดีกว่า ว่าพระเจ้าชาร์ลส์และเจ้าหญิงแห่งเวลส์เคยตรัสไว้อย่างนั้นจริงหรือไม่ เนื้อหาแท้ๆที่ตรัสคืออะไร เป็นคำที่สะท้อนทัศนะเหยียดผิวจริงหรือไม่ ส่วนผมก็ดังที่กล่าวแล้ว ผมไม่เชื่อว่าจะมีจริง"
พอเพียร์สเปิดจุกขวดให้ยักษ์หลุดผลัวะออกมาได้ สื่อยักษ์อเมริกันเจ้าเก่าคือ นิวยอร์กโพสต์ ก็ขานรับทันควัน รีบนำคำเฉลยของเพียร์ส มอร์แกน มาตีพิมพ์ขึ้นเว็บไซต์ข่าว อ้างอิงข่าวจากปากของพิธีกรชาวอังกฤษอีกที ในเมื่อเพียร์สให้เหตุผลว่า ตอนนี้ผู้คนในเนเธอร์แลนด์รู้กันหมดแล้ว จะมาปิดคนอังกฤษไว้หาอะไร คนอังกฤษที่เป็นประชากรของพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษก็สมควรจะรู้ว่าพระเจ้าแผ่นดินของเขาถูกกล่าวหาร้ายแรงว่ายังไงบ้าง เข้าไปดูได้ที่นี่ค่ะ https://nypost.com/2023/11/29/entertainment/piers-morgan-names-king-charles-and-kate-middleton-as-royals-who-asked-troubling-questions-about-archies-skin-color/
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 368 เมื่อ 07 ธ.ค. 23, 10:01
|
|
พอยักษ์หลุดออกไปเพ่นพ่านทั่วโลก พระเจ้าชาร์ลส์ก็จำต้องขีดเส้นจบให้นโยบายหุบปากเงียบที่เรียกว่า Never complain, never explain ที่พระราชวงศ์ใช้เป็นวิธีตอบโต้ข่าวลือทั้งหลายมาโดยตลอด เพราะตอนนี้มันไม่ใช่แค่คนโน้นกระซิบว่างั้น คนนี้กระซิบว่างี้ กันอีกแล้ว แต่เป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรที่ยืนยันพระนามของพระองค์และพระสุณิสา ในข้อหาร้ายแรงว่าเหยียดผิว ซึ่งเป็นข้อหาผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม ที่สำคัญไม่เคยมีพระเจ้าแผ่นดินองค์ไหนโดนข้อหานี้มาก่อน มีข่าวออกมาว่าพระเจ้าชาร์ลส์ทรงเรียกหารือเจ้าฟ้าชายวิลเลียมแลคณะที่ปรึกษาชั้นผู้ใหญ่ เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการ เพราะสาธารณชนอังกฤษเริ่มเโวยวายโกรธแค้นกันแล้ว สส. พรรคอนุรักษ์นิยม ก็โดดออกมาเสนอร่างกฎหมายถอดถอนเจ้าชายแฮรีและเมแกนให้จากตำแหน่งดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ด้วยข้อหาเป็นภัยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 369 เมื่อ 07 ธ.ค. 23, 10:35
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 370 เมื่อ 08 ธ.ค. 23, 12:30
|
|
ในเมื่อหนังสือที่กะว่าจะโกยเงินเข้ากระเป๋าตามรอยหนังสือ Spare กลับกลายเป็นว่าจะต้องโกยเงินออกไปจ่ายราชสำนักข้อหาหม่ิ่นประมาท นายโอมิด สกูบีก็วิ่งพล่านหาทางออก อย่างแรกที่ทำคือวิ่งแจ้นไปออกรายการนิวส์ไนท์ของบีบีซี ที่กระหายคำตอบอยู่แล้ว ในรายการที่ออกอากาศคืนพฤหัสบดี 30 พฤศจิกายน 2023 สกูบีใช้วิชา "กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้ "คือบอกว่าเขาเองคือผู้เสียหาย ต่างหาก (ไม่ยักใช่จำเลย) เขาแสนจะเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจกับข่าวที่กระพือกันใหญ่โต แล้วยังเคลือบแคลงใจกับความไม่ชอบมาพากลหลายๆอย่างที่มากระทบตัว นายสกูบีปากแข็งไม่ยอมกล่าวขอพระราชทานอภัยพระราชวงศ์ เพราะถ้าหากว่าพูดออกไปก็เท่ากับยอมรับว่าตัวเองเป็นคนผิด จึงต้องยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่า เขาไม่อาจขออภัย เพราะเขาเองก็งุนงง ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น เรื่องราวจึงกลับตาลปัตรไปขนาดนี้ เขาร่ายยาวต่อไปว่า หนังสือทุกสำนวนที่เขาเขียน ไม่ว่าต้นฉบับ ฉบับที่ตรวจแก้แล้ว กับฉบับที่พิมพ์เสร็จเป็นเล่ม เขาไม่ได้ระบุชื่อเจ้านายองค์ไหนออกไปทั้งสิ้น มันเกิดปัญหาขึ้นมาเมื่อแปลเป็นภาษาดัทช์ต่างหาก ฉบับที่แปลเป็นภาษาดัทช์ออกสู่ท้องตลาดมีชื่อเจ้านายโผล่ออกมาได้ยังไงเขาก็ไม่รู้ไม่เห็น ต้องไปถามคนแปลเอาเองว่าเติมชื่อเข้าไปโดยพลการหรือเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 371 เมื่อ 08 ธ.ค. 23, 12:40
|
|
อ้าว กลายเป็นว่าอุนจิในมือนายสกูบีถูกโยนโครมไปให้นักแปล ซึ่งมีอยู่ 2 คนด้วยกัน เธอก็นั่งไม่ติดน่ะซี อยู่ๆของโสโครกหล่นลงมาเต็มตัก คนหนึ่ง( ชื่อ Saskia Peeters ) ออกมาแถลงกับสื่อทันทีว่า ต้นฉบับเล่มภาษาอังกฤษที่ได้รับมา มีพระนามของพระเจ้าชาร์ลส์และเจ้าหญิงเคทหราอยู่ในนั้นเรียบร้อยแล้ว เธอให้สัมภาษณ์แก่เดลิเมลออนไลน์เมื่อวันพฤหัสบดี 30 พฤศจิกายน 2023 ว่า “ในฐานะผู้แปล ดิฉันแปลสิ่งที่ได้รับมอบมา ต้นฉบับเป็นอย่างไรก็แปลไปตามนั้น ไม่ได้ตัดไม่ได้เติม ดิฉันทำงานตามหน้าที่ที่สนพ.ว่าจ้าง คือแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาดัตช์" ส่วนผู้แปลอีกคนที่ทำงานร่วมกัน ก็ออกมาแถลงกับเดอะซัน ทำนองเดียวกันว่า “เราเป็นนักแปลอาชีพ มีประสบการณ์การทำงานมาหลายปี ไม่ยุติธรรมที่จะถูกโทษว่าความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นเพราะเรา เราไม่ได้ทำเกินจากต้นฉบับ"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 372 เมื่อ 09 ธ.ค. 23, 19:20
|
|
ในเมื่อป้ายสีนักแปลไม่ได้ผล ฝา่ยนั้นยืนยันว่าแปลตามต้นฉบับตรงเป๊ะๆ บริษัทยูไนเต็ดทาเลนท์เอเยนซี ซึ่งเป็นตัวแทนจัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือของนายสกูบี ก็นั่งเฉยอยู่ไม่ได้ จำต้องเปิดม่านออกมาแก้ตัวแบบไม่เต็มปากว่า "ต้นฉบับที่นักเขียนส่งมาให้พิมพ์นั้น บริษัทก็ส่งต่อไปให้สำนักพิมพ์ในเนเธอร์แลนด์ดำเนินการ ต้นฉบับมีย่อหน้าที่ระบุชื่อพระเจ้าชาร์ลส์และเจ้าหญิงเคท ตะ..แต่...แต่..เอ่อ...บริษัททำผิดขั้นตอนนิดหน่อยคือไม่ได้ส่งให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบให้เรียบร้อยเสียก่อน จนฝ่ายกฎหมายท้วงขึ้นมาถึงได้ถอดข้อความตรงนั้นออกไป แต่ต้นฉบับแรกนั้นหลุดไปถึงมือผู้แปลแล้ว ก็เป็นได้ว่าผู้แปลแปลจากฉบับร่างแรก สนพ.แถลงกับเดอะไทมส์แบบนั้น"
ทั้งๆแก้ตัวสุดความสามารถ ก็ยังไม่วายสรุปคนละทางกับนักเขียน คือ "มีการระบุพระนาม แต่ไม่ได้ตั้งใจจะเผยแพร่ออกไป" ประชาชนฟังแล้วก็หันไปบอกกันว่า "มันก็ฟังไม่ค่อยจะขึ้นอยู่ดีนะยู อย่างแรก ทำไมสำนักพิมพ์ระดับข้ามชาตินี้ถึงได้สะเพร่าสุดขีดขนาดนั้น ทำงานกันเหมือนเด็กหัดเล่น ไม่ใช่มืออาชีพ และข้อสองก็คือ ยังแก้ข้อหาไม่ตกอยู่ดีเรื่องนายสกูบีระบุหรือไม่ระบุชื่อเจ้านายกันแน่ เพราะสำนักพิมพ์ยืนยันว่าระบุ แต่เผลอหลุดไป ต้องขออภัยที่เซนเซอร์ไม่ทัน"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 373 เมื่อ 09 ธ.ค. 23, 19:23
|
|
เมื่อสนพ.ต้นน้ำออกมาชี้แจงแบบนี้ สำนักพิมพ์ปลายน้ำคือสำนักพิมพ์แซนเดอร์ในเนเธอร์แลนด์ที่รับผิดชอบเรื่องตีพิมพ์ฉบับภาษาดัทช์ ก็อยู่นิ่งไม่ได้อีกคน ต้องออกมาแถลงยืนยันว่า ต้นฉบับภาษาอังกฤษที่สำนักพิมพ์แซนเดอร์ได้รับมานั้น มีพระนามเจ้านายอยู่ในนั้นจริงๆ เขาก็ส่งให้นักแปลไปตามระเบียบขั้นตอน ส่วนที่อ้างว่า สนพ.ต้นน้ำรีบส่งต้นฉบับแก้ไขมาให้ทีหลังนั้น อยู่ไหน ส่งมาจริงหรือไม่ สนพ.ปลายน้ำไม่ได้ไขปริศนาข้อนี้ จึงยังอึมครึมอยู่ จะว่าไป เรื่องนี้ไม่ได้ก่อความยุ่งยากทางกฎหมายเท่าใดนัก เพราะถึงแก้ตัวพัลวันยังไง สนพ.สองแห่งก็ยอมรับตรวกันว่า ต้นฉบับที่ระบุพระนาม มีจริง ถูกส่งไปให้แปลและตีพิมพ์จริงๆ นักแปลไม่ได้ต่อเติมกันเองโดยพลการ ดังนั้นบูมเมอแรงก็ตีกลับมาที่นายสกูบี หนีความรับผิดชอบไปไม่พ้น ว่าเขาได้กระทำลงไปจริงๆ คือระบุพระนามเจ้านายในเรื่องที่ก่อความเสียหายร้ายแรงแก่เจ้านายสององค์นั้น เดาตามรูปการณ์ว่า นายสกูบีน่าจะเอาตัวรอดด้วยการซัดทอดไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นพยาน ไม่ใช้จำเลยในศาล และผู้อยู่เบื้องหลัง ก็ไม่ต้องเสียเวลาเดาให้ยากว่าเป็นใคร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 374 เมื่อ 11 ธ.ค. 23, 09:25
|
|
เมื่อเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา นายสกูบีออกมายืนยันคอเป็นเอ็นว่าเขาไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับเมแกนเป็นส่วนตัวเลยสักนิด แม้ว่าโชว์ตัวเชียร์ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ออกหน้าออกตามาก่อนหน้านี้ จนสื่อตั้งฉายาให้ว่า Cheerleader-in-Chief of Meghan หรือประธานเชียร์ลีดเดอร์ของเมแกนก็ตาม แต่นายสคูบีเป็นไก่อ่อน จึงหลุดพิรุธออกมาในหนังสือ คืออ้างอิงที่มาเรื่องเหยียดผิวอาร์ชี ว่าเขาไม่ได้นั่งเทียนเขียนข่าว แต่มีที่มาจากจดหมายที่โต้ตอบกันระหว่างเมแกนกับพระเจ้าชาร์ลส์ กล่าวคือเมื่อเมแกนโบกมืออำลาราชสำนักมาอยู่มอนเตชิโตใหม่ๆ นางเขียนจดหมายไปหาพ่อผัว ต่อว่าต่อขานว่าพระเจ้าชาร์ลส์ว่าทรงกล่าวถึงหลานปู่ที่ยังอยู่ในท้องลูกสะใภ้ในทำนองแบ่งแยกผิวขาว(ทางฝั่งแฮรี่) กับผิวดำ (ทางฝายนาง) พระเจ้าชาร์ลส์ก็เชียนตอบมาว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอย่างใด จดหมายนี่แหละที่นายสคูบีใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่ามีการเหยียดผิวจริงๆ ไม่ใช่ข่าวประเภท "เขาว่า" อย่างที่คนเข้าใจ ปัญหาที่นายสคูบีน่าจะนึกไม่ถึง คือในเมื่อตัวเองอ้างว่าไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับเมแกน แล้วรู้เรื่องจดหมายส่วนตัวของสองคนนี้ได้อย่างไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|